สำหรับสายคอนโซลเครื่อง Play Station 4 เกมมาแรงเป็นพลุแตกในตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น Final Fantasy VII Remake ภาครีเมคของเกมระดับตำนานอย่าง Final Fantasy VII แห่งค่าย Square Enix นันเอง
ว่าด้วยเรื่องราวของ Cloud Strife อดีตทหารยอดฝีมือแห่ง Shinra ผู้ได้ผันตัวกลายมาเป็นทหารรับจ้าง และทำให้ได้เข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ซึ่งจะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล ภายในเกมเพื่อนๆ จะสามารถเล่นเป็นตัวละครทั้ง 4 คือ Cloud,Barrett,TifaและAerith นอกจากนี้ตัวละครทั้งหลายยังสามารถปรับเปลี่ยนอาวุธที่ใช้ได้ โดยจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 24 ชิ้น (อาวุธ 6 ชิ้นต่อ 1 ตัวละครนั่นเอง) ส่วนอาวุธแต่ละชิ้นนั้นสามารถหาจากไหนได้บ้างเพื่อนๆ ก็สามารถอ่านจากข้อมูลด้านล่างนี่ได้เลย
อาวุธประเภทดาบประจำตัวละคร Cloud Stife
Buster Sword
ดาบเล่มนี้เพื่อนๆ ไม่จำเป็นต้องตามหาแต่อย่างใดเพราะจะเป็นดาบติดตัว Cloud มาตั้งแต่เริ่มเกมเลย เป็นดาบซึ่งได้รับช่วงต่อมาจาก Zack Fair เพื่อนสนิทของ Cloud นั่นเอง โดยจุดเด่นของดาบเล่มนี้คือความสมดุลทั้งการโจมตีกายภาพและเวทย์มนต์ แถมในภายหลังเรายังสามารถอัพเกรดใช้ไปได้ยันจบเกมเลยทีเดียว
Iron Blade
สำหรับ Iron Blade จะมีการปลดมาให้ในช่วง Chapter 3 – Home Sweet Slum จากเควสย่อยที่ชื่อ Scrap Boulevard จุดเด่นของดาบนี้อยู่กับการโจมตีผ่านทางเวทย์มนต์พร้อมสกิล Triple Slash ไว้ใช้โจมตีศัตรู 3 ตัวได้อย่างรวดเร็วภายในพริบตา
Nail Bat
อันนี้คงเรียกว่าดาบไม่ได้ล่ะนะเพราะมันคือไม้เบสบอลยังไงล่ะ!! โดยสามารถปลดล็อคได้จาก Chapter 8 – Budding Bodyguard ผ่านทางเควสย่อย Kids on Patrol ซึ่งมีจุดเด่นในด้านการโจมตีคริติคอล พร้อมการเพิ่มค่าสเตตัสต่างๆ ให้กับ Cloud ด้วยเช่นกัน
Hardedge
ดาบเล่มนี้เพื่อนๆ สามารถทำการซื้อได้จากร้านค้าภายใน Wall Market ในช่วง Chapter 9 – The Town That Never Sleeps จุดเด่นของดาบเล่มนี้คือพลังโจมตีทางกายภาพและพลังป้องกัน โดยแลกมากับพลังเวทย์ที่ลดลงไปรวมไปถึงจำนวนช่องลูกแก้ว Materia น้อยลง
Mythril Saber
วิธีการตามหาจะเหมือนอย่างเดียวกับ Hardedge เพียงแต่จะโผล่มาให้ซื้อได้ในช่วง Chapter 14 – In Search of Hope แทน จุดเด่นของดาบเล่มนี้คือการโจมตีเวทย์มนต์อันรุนแรงพร้อมช่องลูกแก้ว Materia จำนวนมาก
Twin Stinger
ในส่วนของดาบเล่มนี้เพื่อนๆ สามารถตามหาได้ในช่วงของ Chapter 17 – Deliverance from Chaos โดยจะสามารถพบได้ภายในกล่องสีม่วงบริเวณข้างทางเดิน หลังจากที่เราได้กำจัด M.O.T.H. Unit ไปแล้ว จุดเด่นของดาบคือความสมดุลพร้อมด้วยการเพิ่มพลังโจมตีจากธาตุและช่อง Materia จำนวนมากเช่นกัน
อาวุธจำพวกปืนติดแขนประจำตัวละคร Barrett
Gatling Gun
ปืนกลติดแขนของ Barrett ซึ่งอาวุธชิ้นนี้ก็ไม่ต้องไปตามหาอะไรจากไหน เพราะมันติดมากับแขนของพี่แกตั้งแต่เริ่มเกมอยู่แล้ว จุดเด่นอยู่กับการเพิ่ม HP ให้กับตัวละครพร้อมกับสกิล Focused Shot สกิลโจมตีศํตรูด้วยกระสุนอันรุนแรง
Light Machine Gun
สำหรับปืนติดแขนกระบอกนี้ทาง Biggs จะมอบให้เราอัตโนมัติหลังจากจบเนื้อเรื่องใน Chapter 6 – Light the Way จุดเด่นของอาวุธชิ้นนี้คือความสมดุลพร้อมกับสกิล Life Saver ไว้คอยรับดาเมจแทนสมาชิกภายในทีม เป็นอาวูอีกชิ้นหนึ่งที่ไม่ต้องยุ่งยากอะไรมากมายในการตามหา
Big Bertha
หลังจากได้กลับไปยัง Collapsed Expressway บริเวณ Sector 6 – Slums ภายใน Chapter 13 – A Broken World แล้ว เพื่อนๆ ก็สามารถทำการวิ่งไปหา NPC ร้านขายอาวุธซึ่งจะมี Big Bertha วางชายอยู่ โดยมีจุดเด่นคือการโจมตีที่รุนแรงพร้อม Maximum Fury การระดมยิงห่ากระสุนใส่ศัตรูอย่างบ้าคลั่ง
Steel Pincers
เป็นอาวุธของ Barrett ซึ่งมาในรูปแบบของการโจมตีระยะประชิด สามารถหาซื้อ Steel Pincers ได้จาก Moogle Emporium ภายใน Chapter 14 – In Search of Hope ในราคา 7 เหรียญ Moogle จุดเด่นคือเน้นการโจมตีแบบธาตุและบัฟสำหรับเวทย์มนต์ธาตุต่างๆ พร้อมสกิล Charging Uppercut พุ่งไปเสยยอดหน้าศัตรู
Wrecking Ball
อาวุธระยะประชิดอีกชิ้นนึงของ Barrett โดยอาวุธชิ้นนี้จะสามารถรับได้จาก Chapter 14 – In Search of Hope ผ่านทางเควสย่อย Subterranean Menace ซึ่งสามารถรับเควสดังกล่าวได้จาก Wymer แต่บอกก่อนว่าเควสนี้โหดมากเลยนะ โดยจุดเด่นก็จะอยู่กับการโจมตีกายภาพสูงพร้อมด้วยช่อง Materia จำนวนมาก
EKG Cannon
สำหรับอาวุธชิ้นสุดท้ายนี้จะสามารถรับในช่วงระหว่าง Chapter 16 – The Belly of the Beast โดยการจ่ายเงินจำนวน 10,000 Gil ให้กับ Hart ผู้ช่วยของเทศมนตรี Domino จุดเด่นคึอการโจมตีแบบคริติคอลและช่อง Materia หลายช่อง ถึงแม้ราคาอาจจะหนักสักหน่อยแต่มันก็คุ้มกับราคามากทีเดียว
อาวุธจำพวกถุงมือประจำตัวละคร Tifa
Leather Gloves
อีกหนึ่งอาวุธที่ไม่ต้องออกไปตามหาเพราะเป็นอาวุธติดตัวของ Tifa มาตั้งแต่เริ่มต้น สำหรับจุดเด่นก็คือการเพิ่มพลังโจมตีกายภาพอย่างมากมากับสกิล Divekick ที่จะโดดขึ้นไปบนฟ้าแล้วถีบลงมาด้วยพลังรุนแรงมหาศาล ไรเดอร์คิก!!!
Metal Knuckles
ถุงมือชิ้นนี้เพื่อนๆ สามารถรับได้หลังจากเอาชนะเจ้า Crab Warden ใน Chapter 5 – Dogged Persuit ถึงแม้ตัวของถุงมือชิ้นนี้จะมีช่อง Materia ค่อนข้างจะน้อย แต่พลังโจมตีที่ได้กลับมานั้นต้องบอกว่าสูงมากเลยล่ะ เป็นอีกหนึ่งอาวุธไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ในการหาเพียงแค่เล่นเนื้อเรื่องไปจนถึงก็จะได้รับอัตโนมัติเอง
Sonic Strikers
สำหรับอาวุธชิ้นนี้จะแอบซ่อนอยู่ในกล่องสมบัติสีม่วงบริเวณมุมซ้ายของห้องภายใน Chapter 7 – A Trap is Sprung ระหว่างช่วงภารกิจ Sentenced to Death มีจุดเด่นในการโจมตีแบบธาตุพร้อมกับการใช้เวทย์มนต์ แถมยังมีสกิล Focused Strike แถมมาให้ใช้ด้วยเช่นกัน
Feathered Gloves
ในการตามหาอาวุธชิ้นนี้จะมีความคล้ายคลึงกับ Sonic Strikers สามารถหาได้จากกล่องสีม่วงเพียงแต่จะไปพบใน Chapter 10 – Rough Waters ช่วงลงไปในท่อนํ้า ในห้องซึ่งต้องเปิดให้นํ้าออกไปหมดเสียก่อนโดยจะอยู่แถบบริเวณด้านล่างข้างใต้ประตู โดยมีจุดเด่นทางด้านการเพิ่มพลังโจมตีและความเร็ว พร้อมความสามารถในการโจมตีจากด้านหลังที่รุนแรง
Mythril Claws
ได้จากการชนะบอส Failed Experiment ช่วง Chapter 13 – A Broken World เป็นอาวุธอีกชิ้นซึ่งสามารถรับได้จากการเคลียเนื้อเรื่อง จุดเด่นคือการโจมตีด้วยเวทย์มนต์พร้อมสกิล Chi Trap กับดักระเบิดพลัง Chi เมื่อศัตรูเดินมาโดนก็จะเกิดการระเบิดและทำดาเมจใส่ศัตรูอย่างรุนแรง
Purple Pain
ในเนื้อเรื่องช่วง Chapter 16 – The Belly of the Beast ช่วงตอนอยู่ในลอบบี้ของหอคอยชินระ หลังจาก Tifa ได้รับคีย์การ์ดเรียบร้อยแล้วจะมีจังหวะที่หล่นลงไปด้านล่าง อย่าพึ่งทำการปีนบันไดกลับขึ้นมาแต่ให้ปีนรั้วไปยังอีกฝั่งจะพบเจอกับกล่องซึ่งมี Purple Pain อยู่ด้านใน จุดเด่นคือการโจมตีแบบคริติคอลและช่อง Materia จำนวนมาก
อาวุธจำพวกไม้คฑาประจำตัวละคร Aerith
Guard Stick
ไม่จำเป็นต้องออกตามหาเพราะเป็นอาวุธเริ่มต้นของ Aerith จุดเด่นคือการเพิ่มค่า MP พร้อมด้วยพลังโจมตีเวทย์มนต์อย่างมากมายและสกิล Arane Ward ทำการร่ายวงเวทย์ไว้บนพื้น ทุกคาถาเวทย์มนต์จะทำการร่ายซํ้าโดยอัตโมัติอีกครั้งเมื่อใช้ในวงเวทย์ดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งสกิลที่หลายๆ คนบอกกันว่าโกงมากเลยล่ะ
Silver Staff
เพื่อนๆ สามารถหาซื้อ Silver Staff ได้จาก Moogle Emporium ในช่วงเนื้อเรื่อง Chapter 8 – Budding Bodyguard ราคาเพียง 2 เหรียญ Moogle จุดเด่นของอาวุธคือความสมดุลพร้อมด้วยการเพิ่มพลังโจมตีเวทย์และการเพิ่มค่า HP ขึ้นมาในระดับนึง
Arcane Scepter
ช่วงระหว่างเนื้อเรื่อง Chapter 9 – The Town That Never Sleeps จากการทำเควสย่อย Dynamite Bodies เพื่อนๆ จะต้องเข้าไปต่อสู้ภายใน Colosseum เมื่อชนะแล้วก็จะได้ Arcane Scepter เป็นของรางวัลตอบแทนกลับมา จุดเด่นคือการเพิ่มพลังโจมตีจากธาตุและจำนวนช่อง Materia
Mythril Rod
ช่วงเริ่มต้นของ Chapter 11 – Haunted ระหว่างการผจญภัยใน Train Graveyard ให้เพื่อนๆ ทำการเดินสำรวจโดยรอบและจะได้พบกับกล่องสมบัติแอบซ่อนอยู่หลังตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อนๆ ก็จะสามารถหา Mythril Rod ได้จากกล่องดังกล่าว มีจุดเด่นคือการเสริมพลังในด้านเวทย์มนต์
Bladed Staff
เป็นอาวุธที่หลายๆ คนบอกว่าหาง่ายสุดในเกมแล้วก็ว่าได้ ระหว่างก่อนการสู้กับบอส Eligor ใน Chapter 11 – Haunted ให้เพื่อนๆ ใส่สกิล Steal ไปด้วยทำการกดใช้กับบอสตัวดังกล่าวก็จะสามารถทำการรับ Bladed Staff มาใช้ได้แบบง่ายๆ งงๆ จุดเด่นของอาวุธคือการเสริมพลังให้กับการโจมตีคริติคอล
Reinforced Staff
ในช่วงเริ่มต้นของ Chapter 17 – Deliverance from Chaos เพื่อนๆ จะสามารถพบกับกล่องสมบัติซึ่งแอบซ่อนอยู่ในห้องของ Aerith เมื่อไปค้นก็จะพบกับ Reinforced Staff นั่นเอง จุดเด่นของอาวุธชิ้นนี้คือการเสริมพลังป้องกัน
ก็ถือว่าจบไปเรียบร้อยแล้วนะครับกับอาวุธทั้ง 24 ชิ้นภายในเกม Final Fantasy VII Remake ซึ่งแต่ละชิ้นก็มีเงื่อนไขในการได้รับแต่งต่างกัน แถมแต่ละอันยังมีความโดดเด่นไม่ซํ้ากันเลย ส่วนเพื่อนๆ จะใช้อาวุธชิ้นไหนก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่นของตัวเองแล้วล่ะ ผมก็ขอจบบทความไว้เพียงเท่านี้ก็แล้วกันนะครับ เพื่อนๆ คนไหนทำตามบทความนี้แล้วสะสมอาวุธกันครบอะไรยังไงก็มาคอมเมนต์บอกกันบ้างก็ได้นะ