ขึ้นชื่อว่า วีดีโอเกม ไม่ว่าจะในปัจจุบันหรือย้อนกลับไปเมื่อสมัยก่อน ก็จะมีรูปแบบและประเภทของเกมต่างๆ มากมายให้ได้เลือกเล่นตามความชอบของผู้เล่นแต่ละคน และหนึ่งในนั้นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยก็คือเกมประเภท CO-OP (Co Operative) เกมที่มาในรูปแบบของการช่วยเหลือกันระหว่างผู้เล่นเพื่อบรรลุยเป้าหมาย หรือช่วยกันฝ่าฟันจนชนะได้ โดยในบทความนี้นั้นจะมาแนะนำ “10 เกม CO OP ยอดเยี่ยมที่ควรได้เล่นสักครั้ง“
10. Resident Evil 5
ถ้าพูดถึงซี่รี่ส์เกมแนวซอมบี้ เกมแรกที่หลายๆ คนนึกถึงก็คงจะไม่พ้น “ Resident Evil “ เป็นเกมที่ได้รับความนิยมมาตลอดไม่ว่าจะออกมากี่ภาคต่อกี่ภาค แฟนๆ ก็ยังให้การสนับสนุนพร้อมเสียงตอบรับดีมาอย่างเสมอ ในส่วนของ “Resident Evil 5“ ที่ตัวเกมได้มีการนำระบบ CO-OP เข้ามาใช้งานสามารถเล่นพร้อมกันได้ถึง 2 คน จึงทำให้เกิดความแตกต่าง จากที่ซีรี่ส์นี้ดั้งเดิมเป็นเกมแนว Single Player เล่นเพียงคนเดียว ด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้ตัวเกมในภาคนี้ ค่อนข้างจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและเป็นจุดเปลี่ยนในซีรี่ส์นี้ก็ว่าได้ การันตีในด้านเนื้อเรื่องของซีรี่ส์ได้เลย พอทำออกมาให้เล่นได้ 2 คน จึงทำให้ตัวเกมได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไป และก็ส่งผลให้ในภาค 6 ก็ยังมีการใช้ระบบ CO-OP อยู่เช่นกัน
9. Secret of Mana
ตัวเกมนั้นได้วางจำหน่ายให้กับเครื่องซูเปอร์แฟมิคอม (SNES) ในปี 1993 และได้การยอมรับจากแฟนๆ เป็นอย่างมากรวมทั้งยกย่องให้เป็นหนึ่งในตำนานของเกม RPG เลยก็ว่าได้ Secret of Mana นั้นแตกต่างออกไปด้วยการนำระบบ CO-OP เข้ามา ถือว่าเป็นความแปลกใหม่ของตัวเกมในยุคนั้น ที่เกม JRPG ส่วนใหญ่จะเป็นแนวออกผจญภัยและเป็นแบบ Single Player เลยทำให้ตัวเกมได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายเลยก็ว่าได้ จนกระทั่งในปี 2018 ความดังก็ยังไม่หายไปไหน และได้ถูกทางค่ายนำกลับมาทำใหม่ในเวอร์ชั่นรีเมค ให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงและได้กลับมาสัมผัสถึงตำนานนี้อีกครั้ง
8. Spelunky
เกมผจญภัยไปในเหมือง ร่วมผจญภัยไปกับเหล่าเพื่อนฝูงเพื่อมองหาสมบัติพร้อมหาทางไปต่อ ภายในเกมนั้นจะสามารถเล่นด้วยกันได้สูงสุดถึง 4 คนเลยทีเดียว แถมยังมีตัวละครมากมายให้ได้เลือกเล่นกัน และถึงแม้ว่าตัวเกมจะทำออกมาให้ดูน่ารัก แต่ตัวเกมไม่ได้เล่นง่ายเหมือนอย่างที่คิดเลย ค่อนข้างจะยากในระดับนึงจึงจำเป็นต้องใช้ความร่วมมือของเพื่อนเพื่อช่วยกับฝ่าฟันต่อไปให้ได้ ตัวเกมได้มีแรงบันดาลใจจากตัวเกมในยุค 80 อย่างเกม Spelunker ที่ได้วางจำหน่ายในปี 1983 ซึ่งแฟนเกมในยุคนั้นพอได้มาเห็นเกมนี้ก็อาจจะรู้สึกคุ้นๆ และอาจจะทำให้คิดถึงวันเก่าๆ ได้ด้วยเช่นกัน
7. Teenage Mutant Ninja Turtles: Turtles in Time
เกมที่สร้างจาก Comic ชื่อดังอย่าง นินจาเต่า ซึ่งภาคนี้นั้นก็มาในชื่อว่า Teenage Mutant Ninja Turtles: Turtles in Time ลงให้กับตัวเครื่อง Arcade ในปี 1991 ภายในเกมผู้เล่นจะสามารถเลือกเล่นเป็น เหล่านินจาเต่าทั้งหลายได้ ตัวเกมมาพร้อมรูปแบบการเล่นได้ถึง 4 คนด้วยกัน ช่วยกันฝ่าฟันตลุยด่าน ไล่ปราบเหล่าร้าย พร้อมคอยปกป้องเมือง จึงทำให้ในสมัยนั้นตัวเกมค่อนข้างจะได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงเลยทีเดียว
https://youtu.be/yvROmVBclqE
6. Donkey Kong Country: Tropical Freeze
ทางค่ายเกม Retro Studios ผู้สร้างผลงานอันลือลั่นอย่างซีรี่ส์ของ Metroid แต่ถึงแม้ตัวเกมดังกล่าวจะสร้างชื่อเสียงให้กับทางค่ายเป็นอย่างมาก แต่แฟนเกมจำนวนหนึ่งกลับไม่ได้มองอย่างนั้น พวกเขาบอกว่าผลงานชิ้นโบว์แดงของค่ายจริงๆ แล้วนั้นอยู่กับตัวเกม Donkey Kong Country: Tropical Freeze เสียมากกว่า ซึ่งตัวเกมดังกล่าวนั้นได้ลงไว้ให้กับเครื่อง Wii – U ในปี 2014 และตอนนี้ก็ได้มีการลงให้กับ Switch แล้วด้วย ส่วนจะสนุกสมคำลํ่าลือของเหล่าแฟนเกมไหม เพื่อนๆ ก็คงต้องไปลองสัมผัสกันดูแล้วล่ะ
5. Overcooked 2
เป็นอีกเกมที่เป็นกระแสอยู่ช่วงนึงเหมือนกัน ด้วยรูปแบบการเล่นได้สูงสุดถึง 4 คน ในรูปแบบเกมทำอาหาร Overcooked 2 ภายในเกมผู้เล่นต้องคอยแบ่งหน้าที่กัน ไม่ว่าจะ เตรียมวัตถุดิบ, ล้างจาน, ปรุงอาหาร และอื่นๆ ซึ่งต้องใช้ความร่วมมือกันอย่างสูงทีเดียว แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเกมที่สามารถทำให้หัวร้อนได้ด้วยเช่นกัน เพราะความยุ่งเหยิงของแต่ละคนหากไม่แบ่งหน้าที่กันให้ดี ก็นับว่าเป็นเกมที่เรียกเสียงฮาได้ไม่น้อย และน่าหามาลองเล่นกันให้ได้สักครั้งนึง
4. Lovers in a Dangerous Spacetime
ถ้าหากพูดถึง เกมอินดี้ ในสมัยนี้ก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทุกวันนี้เกมประเภทดังกล่าวก็ได้มีออกมาให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าจะให้พูดถึงหนึ่งในเกมอินดี้ที่ดีที่สุดก็คงต้องยกให้กับ Lovers in a Dangerous Spacetime ของค่าย Asteroid Base ที่สามารถเล่นกันได้สูงสุดถึง 4 คน ช่วยกันควบคุมยานอวกาศ ตะลุยไปบนดาวต่างๆ ทั้งควบคุมป้อมปืนโจมตีศัตรูที่เข้ามาบุกรุก หรือแม้แต่คอยบังคับเส้นทางของตัวยานเองก็ตาม รวมทั้งยังมีหน้าที่อีกหลายๆ อย่างต้องแบ่งกันทำด้วย
3. Keep Talking and Nobody Explodes
หนึ่งเดียวในลิสต์ก็ว่าได้สำหรับเกมจากเครื่อง VR กับเกม Keep Talking and Nobody Explodes ที่มาในรูปแบบไม่เหมือนใคร โดยจะมีการแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายเก็บกู้ระเบิด และ ฝ่ายสนับสนุน สำหรับฝ่ายเก็บกู้จะต้องคอยอธิบายสิ่งที่ตัวเองเห็นให้กับอีกฝ่าย โดยในขณะเดียวกับทางผู้เล่นฝ่ายสนับสนุน จะไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเกมเลย ทางตัวเกมจะมีไฟล์ Pdf ออกมาให้ได้อ่านคู่มือกัน แล้วคอยทำการบอกว่าจะต้องทำอะไรยังไงต่อไป นับว่าเป็นรูปแบบการเล่นที่แปลกและแนวดีก็ว่าได้ และก็ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตัวเกมนั้นก็ได้คว้ารางวัลไปหลายรายการเลยทีเดียว
2. Left 4 Dead 2
อีกหนึ่งเกมที่เมื่อพูดถึง ซอมบี้ แล้วต้องนึกถึงกันก็คือ Left 4 Dead ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ได้มีออกมาแล้วด้วยกันถึง 2 ภาค โดยในช่วงแรกตอนที่มีการประกาศว่าจะมีการทำ Left 4 Dead 2 นั้น ทำให้แฟนเกมที่ชื่นชอบในภาคแรก ออกมาวิพากย์วิจารณ์กันอยู่ช่วงนึงว่า “ทำไมถึงไม่เน้นเป็นการทำเนื้อหาเพิ่มเติม แต่ทำเป็นภาคใหม่เลยแล้วมันจะดีเหมือนภาคแรกไหม” แต่เมื่อตัวเกมวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยข้อติติงต่างๆ ก็ได้หายไปหมดสิ้น เพราะในภาค 2 นี้นั้น ตัวเกมได้มีการปรับสมดุลหลายๆ อย่างให้ดีขึ้นกว่าในภาคแรก แถมยังมีการเพิ่มสิ่งใหม่ๆ เข้ามา จนทุกวันนี้ Left 4 Dead 2 นั้นก็ได้ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเกม CO-OP ที่ดีที่สุดในทุกปัจจุบันด้วยเช่นกัน
1. Portal 2
หลังจากทำมาทั้งหมด 10 เกมแล้ว รู้สึกว่าทางค่าย Valve นั้นจะเก่งในเรื่องการทำเกมแนว CO-Op นะเนี่ย ซึ่งเกมนี้ก็ได้การยอมรับจากแฟนทั่วโลกเลยว่าเป็นเกม CO-OP ที่ดีที่สุดตอลดกาลเลย กับเกม Portal 2 เหตุผลหนึ่งคงเป็นเพราะว่าตัวเกมภาคต่อนี้นั้นทำออกมาในระบบ CO-OP ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเลยกับภาคแรก ที่ทำออกมาค่อนข้างจะมั่วซั่วในระดับนึงไม่สมกับตัวคอนเซ็ปของเกมเลย ซึ่งส่งผลทำให้เกม Portal 2 นั้นไม่เพียงจะเป็นหนึ่งในเกมที่ดีกว่าตัวต้นตำหรับ แต่ยังเป็นภาคต่อที่พาตัวเกมไปสู่อีกขั้นนึงเลย