เกมแนวลอบเร้นหรือแนว Stealth เกมที่ต้องใช้ความระมัดระวังและสมาธิในการเล่นระดับนึงเลย ซึ่งมันก็เหมือนจะดูเล่นยากกว่าเกมทั่วไปพอสมควรแต่ถึงอย่างนั้นเกมแนวนี้ก็กลับได้รับความนิยมสูงอย่างมาก ด้วยว่าเกมมีความท้าทายกว่าปกติทั่วไปก็ว่าได้
แน่นอนว่าหนึ่งในแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังพอสมควรก็ได้แก่ Assassin’s Creed แต่ในวันนี้เราจะไม่ได้มาพูดถึงลัทธิมือสังหารกลุ่มนี้ แต่จะมาแนะนำถึง 10 สุดยอดเกมลอบเร้นที่เหมาะสำหรับสาย Stealth ไม่แตก และไม่ได้มาจากแฟรนไชส์ดังกล่าว ส่วนจะมีเกมไหนบ้างเรามาไล่ดูกันเลยดีกว่า
Among Us
เกมของเหล่าน้อนตัวเตี้ยขาสั้นกับการติดยานและภารกิจการหาทางกลับบ้าน พร้อมต้องคอยระวังคนรอบตัวว่าอาจจะกลายเป็นฆาตกรได้ตลอดเวลา เป็นเกมซึ่งกำลังได้รับความนิยมสูงมากขณะนี้ ด้วยการปรับแต่งอะไรได้หลายอย่างจึงทำให้มีโหมดการเล่นแปลกๆ ผุดขึ้นมาเต็มไปหมด แต่ถ้าหากเราตัดไอเจ้าโหมดพิลึกพืลั่นนี้ไป ตัวเกมจริงๆ มันก็เน้นความลอบเร้นพอสมควรเลยนะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นเหล่าฆาตกรหรือ Impostor เองด้วยแล้ว ในการจะฆ่าหรือปาดแปร้ดใครสักคน คุณจำเป็นต้องสังเกตรอบตัวว่ามีใครดูอยู่รึเปล่า ต้องอย่าเดินหายไปใครสองคนแบบน่าสงสัย หรือแม้แต่คอยระวังเรื่องกล้องวงจรปิด และอื่นๆ อีกค่อนข้างจะหลายอย่าง ซึ่งถ้าคุณไม่ใช่นักฆ่าระดืบมือพระกาฬก็อาจทำให้ Stealth แตกได้ง่ายๆ เลยล่ะ ทำให้นี่เป็นอีกเกมแนวลอบเร้นที่ทั้งสนุกและเล่นยากไปในตัวด้วยเลยก็ว่าได้
Alien Isolation
จากแฟรนไชส์ภาพยนตร์ชื่อดังของ ริดลีย์ สก็อตต์ กับการหยิบมาดัดแปลงสู่เกมแนวลอบเร้น สยองขวัญ ในการหาทางเอาตัวรอดออกจากยานอวกาศ ซึ่งถูกรุกรานโดยเหล่าเอเลี่ยนสุดสยอง Xenomorph โดยหนทางเดียวที่จะทำให้เรารอดออกไปจากยานแห่งนี้ได้นั้นก็มีแค่เพียง “อย่าให้พวกมันจับได้” ถึงแม้ภาพรวมของตัวเกมอาจจะไม่ได้ดูโดดเด่นอะไรมากนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่า Alien Isolation นั้นถูกจัดให้เป็นเกมแนวสยองขวัญรอบเล้นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว
ซึ่งภายในเกมก็ไม่ได้มีแค่เจ้าเอเลี่ยนพวกนี้เพียงอย่างเดียว มีทั้งเหล่าคนเสียสติ หรือแม้แต่เหล่าแอนดรอยคลั่งเองก็ตามที แถมเรายังไม่สามารถฆ่าไอเจ้าพวกนี้ได้ด้วย อย่างมากก็ได้เพียงไล่มันไปหรือทำให้หยุดทำงานก็เท่านั้น ทำให้ตัวเลือกดีที่สุดคือการแอบย่องไปอย่างเงียบๆ อย่าให้มันรู้ตัว เพราะถ้าหากเผลอทำให้พวกมันเห็นขึ้นมาแล้วล่ะก็นอกจาก Stealth แตกแล้ว เรายังจะตัวแตกตามไปด้วยเนี่ยสิ
Thief II
แฟรนไชส์เกมของเหล่าหัวขโมยนักย่องเบาที่ได้มีการทำเวอร์ชั่น Reboot ไปเมื่อปี 2014 ซึ่งก็ค่อนข้างจะโดนด่าและประนามพอสมควรเลย แต่ตัวเกมที่จะมาพูดถึงนั้นคือ Thief II จากเมื่อปี 2000 โดยในภาคนี้มีคนยกย่องให้เป็นหนึ่งในเกมแนวลอบเร้นควรค่าแก่การลองเล่นให้ได้สักครั้งในชีวิตเลยทีเดียว
ด้วยรูปแบบการเล่นอันเป็นเอกลักษณ์แม้จะผ่านไปกี่ปีก็ยังไม่ถือว่าตกยุค ทั้งการนำอุปกรณ์ต่างๆ เข้ามาประยุคต์ใช้ทำให้ตัวเกมมีลูกเล่นหลายอย่าง ซึ่งเกมแนวเดียวกันในยุคสมัยนั้นไม่มี หรือแม้แต่การใช้แสงเงาแบบสมจริง พื้นที่ตรงไหนสว่างพอให้เรามองเห็นศัตรูก็จะสามารถมองเห็นเรา แต่ถ้าตรงไหนมืดมิดจนยากจะมองเห็นศัตรูก็จะตรวจจับเราได้ยากเช่นเดียวกัน เป็นเกมซึ่งทั้งสนุกและเพลิดเพลินเป็นอย่างมาก แถมยังมีความท้าทายในระดับนึงเลยทีเดียว จึงไม่แปลกใจที่แฟนเกมจะมีการพูดถึงอยู่เสมอมา
Mark of Ninja
นินจา สัญลักษณ์แห่งความเงียบสงัดและการลอบเร้น เหล่ามือสังหารจากเงามืดอันถูกกล่าวขานไปทั่วโลก โดยพวกเขาก็มักจะมีการปรากฏในเกมโน้นเกมนี้เต็มไปหมด ทั้งแบบคุ้นตาไปจนถึงแนวฉีกแหวกแนวออกไปตามแต่ละเกม แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า Mark of Ninja ผลงานเกมอินดี้จาก Klei Entertainment นั้นเป็นหนึ่งในเกมที่สามารถถ่ายทอดความเป็นนินจาออกมาได้เป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว
ด้วยรูปแบบการเล่นที่ต้องกลมกลืนไปเงา การโผล่ไปรับแสงแม้แต่เพียงน้อยนิดก็สามารถเปิดเผยตำแหน่งให้กับศัตรูได้ จึงทำให้ภายในเกมมีความรู้สึกเหมือนการได้เป็น “นินจา” จริงๆ รวมไปถึงการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในการหลอกล่อดึงดูดความสนใจศัตรู ไปจนถึงการลอบสังหารในแบบมือสังหาร ซึ่งตัวเกมถ่ายทอดออกมาได้ดีทีเดียว และส่งผลทำให้ตัวเกมถูกยกย่องเป็นอีกหนึ่งในสุดยอดเกมรอบเล้นแห่งยุคแล้วด้วย
Dishonored / Dishonored II
ซีรี่ส์เกมที่ขณะเปิดตัวซึ่งสามารถสร้างเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว กับความแหวกแนวผ่านสไตล์การเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ ในภารกิจการลอบสังหารเป้าหมายที่มาพร้อมตัวเลือกหลากหลายวิธี ตั้งแต่หนทางการเข้าถึง ไปจนรูปแบบวิธีการฆ่า และไม่เพียงทำภารกิจเสร็จแล้วทุกอย่างจะจบ เรายังต้องหาวิธีการหนีออกมาให้ได้อีกด้วย
ลูกเล่นอันหลากหลายภายในเกมมีให้ได้เลือกใช้ ทั้งอาวุธประเภทต่างๆ กับดักตามจุดแต่ละแผนที่ ไปจนถึงพลังวิเศษมากมาย ซึ่งเราอาจจะวิ่งโทงๆ บุกไปฆ่าเป้าหมายให้จบเลยก็ได้ แต่ประเด็นมันอยู่ตรงเหล่าศัตรูภายในเกมนี้นั้นโหดเกินคำบรรยาย โดนตีสองสามทีก็ลงไปคุยกับรากมะม่วงแล้ว ต่อให้สังหารเป้าหมายได้แต่หนีออกมาไม่ได้ก็ไม่ผ่านด่านอยู่ดีนะ ดังนั้นการ Stealth จึงเป็นทางเลือกดีที่สุดในการทำภารกิจนั้นเอง และด้วยทางเลือกมากมายให้ได้เลือกเล่น Dishonored จึงเป็นอีกหนึ่งเกมเหมาะสำหรับสายนี้มากเลยทีเดียว
Metal Gear Solid V
ขึ้นชื่อว่า Metal Gear Solid น้อยคนนักจะไม่รู้จักกับแฟรนไชส์ชื่อดังนี้จากทาง Konami กับการเดินทางมาถึงภาคที่ 5 กันแล้วกับ The Phantom Pain ซึ่งถึงแม้จะมีการเปลี่ยนรูปแบบการเล่นมาเป็นสไตล์ Open World เต็มรูปแบบ แต่ตัวเกมก็ยังคงระบบการเล่นอันเป็นเอกลักษณ์แบบลอบเร้นหรือ Stealth ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง
ถึงแม้ตัวของลุง Snake แกจะผ่านภารกิจการกอบกู้โลกมากี่ครั้งก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นลุงแกก็ยังถือว่าเป็นมนุษย์ปกติทั่วไปอยู่ดี จะให้วิ่งฝ่าดงกระสุนเข้าไปบู๊แหลกก็ใช่กระไรอยู่ ทำให้การ Stealth นี่ล่ะจะช่วยให้ลุงแกรอดและสามารถเข้าไปเจื๋อนพวกผู้ร้ายได้ทีละตัวเลย แถมเนื้อเรื่องภายในเกมก็เรียกได้ว่าขั้นสุดมาก เป็นเกมที่แนะนำทั้งเรื่องระบบการเล่นแบบรอบเล้น และสำหรับแฟนเกมผู้ชื่นชอบการเสพเนื้อเรื่องอีกด้วย
Invisible Inc.
หากจะพูดถึงเกมแนว Turn Base แล้วละก็ คงไม่มีใครคิดหรอกว่าจะสามารถเอามารวมกับเกมแนว Stealth กันได้ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วแถมยังทำออกมาได้ดีมากเลยด้วยกับ Invisible Inc. อีกหนึ่งผลงานจากทางค่าย Klei Entertainment ค่ายผู้ให้กำเนิดเดียวกับ Mark of Ninja ที่เราได้พูดถึงกันไปก่อนหน้านี้นั่นเอง
ว่าถึงเรื่องราวของกลุ่มแฮกเกอร์กับเวลา 72 ชั่วโมง ในการปกป้ององค์กรของตน โดยแลกกับหน้าที่ในการเข้าไปล้วงข้อมูลลับ รวมถึงการขโมยอาวุธร้ายแรงจากกลุ่มมหาอำนาจต่างๆ ด้วยการผสมผสานการเล่นสองสไตล์เข้าไว้ด้วยกัน การจะเลือกจะเดินในแต่ละก้าวเราจึงต้องไตร่ตรองคิดให้รอบขึ้นก่อน เพราะถ้าเกิดเดินทะเล่อทะล่าไม่ดูขึ้นมาจะทำให้เราถูกจับได้และทำให้ภารกิจล้มเหลวนั่นเอง
The Last of Us / The Last of US II
ณ วินาทีนี้ผมว่าคงไม่มีแฟนเกมคนไหนจะไม่รู้จักกับซีรี่ส์ของ The Last of Us หรอกจริงไหม ทั้งด้วยชื่อเสียงมากมายทั้งด้านดี(และไม่ดี) เนื้อเรื่องเข้มข้นชวนติดตาม ความดราม่าปวดตับยัดมาตลอดทั้งเกม และตัวเกมในภาคสองนั้นก็พึ่งจะได้คว้ารางวัลไปอย่างท่วมท้นภายในงาน Game Award ประจำปี 2020 ที่ผ่านมาอีกด้วย
ภายในเกมจะว่าถึงเรื่องราวหลังโลกล่มสลาย ทั่งทั้วโลกเต็มไปด้วยเหล่าผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์คล้ายกับซอมบี้ก็ไม่ปาน ทำให้การวิ่งทะเล่อทะล่าเข้าไปอาจจะทำให้เราตกเป็นอาหารของพวกมันก็ว่าได้ แถมยังมีเหล่าพวกคนเลวอยู่ทั่วไปหมด หนทางที่จะพาให้ตัวของเรารอดจากความโหดร้ายภายนอกเหล่านี้ไปได้ คือการเดินทางให้เงียบและอย่าให้พวกมันรู้ตัว นี่คืออีกหนึ่งซีรี่ส์ควรค่าแก่การเล่นให้ได้สักครั้งนึงในชีวิต
Hitman I – II – III
ตำนานมือสังหารระดับพระกาฬ ผู้มาพร้อมกับบาร์โค้ดหลังศีรษะและโค๊ดเนมว่า Agent 47 ซึ่งแฟรนไชส์นี้ก็มีการทำออกมาหลายภาคเลยทีเดียว ภาคแรกก็ตั้งแต่เมื่อปี 2000 โน่นเลยล่ะ แต่ภาคที่เราจะพูดถึงในคราวนี้ไม่ได้มาจากตัวเกมดั้งเดิมนะ แต่จะเป็นตัวเกมภาครีเมคจากเมื่อปี 2016 – 2018 รวมถึงภาคล่าสุดที่พึ่งจะวางจำหน่ายไปเมื่อเดือนมกราคมนี้เอง
ความน่าสนใจของตัวเกมคือทางเลือกอันหลากหลาย ในภารกิจการสังหารเป้าหมายแต่ละคนตัวเกมจะเปิดตัวเลือกให้เรามากมาย ตั้งแต่วิธ๊การสังหารทั้งการเดินเข้าไปยิงตรงๆ จนถึงทำให้เหมือนกับเป็นอุบัติเหตุก็ได้ด้วยเช่นกัน หรือแม้แต่ระบบการปลอมตัวที่เราสามารถปลอมเป็นใครก็ได้เพียงแค่ตีหัวให้สลบแล้วขโมยชุดมาใส่ ทำให้เกมรีเมคทั้งสองภาคนี้เป็นเกมแนวรอบเล้นทั้งสนุกและเพลินมากเลยล่ะ ใครยังไม่เคยได้ลองก็ขอแนะนำเรียนเชิญเลยครับ
Splinter Cell : Chaos Theory
ผลงานอันเลื่องชื่อจากชุด Tom Clancy กับเกมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมซีรี่ส์ Thief โดยเปลี่ยนจากแนวจอมโจรมาเป็นแนวสายลับมือพระกาฬ ซึ่งตัวเกมก็ได้มีการสร้างเอกลักษณ์เป็นของตัวเองและคอยพัฒนาให้ดีขึ้นในแต่ละภาค จนสุดท้ายผลลัพธ์ได้กลายออกมาเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงกับภาค Chaos Theory นั่นเอง
ด้วยระบบเกมเพลย์พร้อมลูกเล่นอันโดดเด่นซึ่งแม้จะผ่านไปกี่ปีตัวเกมก็ไม่เคยตกยุคเลยแม้แต่นิด ไม่ว่าจะการเอามีดจี้คอเพื่อรีดข้อมูลจากศัตรู การดึงตัวศัตรูเข้าไปฆ่าในมุมมืด ห้อยหัวศัตรูไว้กับบนเพดานเพื่อซ่อนศพ ไปจนถึงเทคนิคอื่นๆ ที่ใส่ไว้ในเกมมากมาย พร้อมด้วยอุปกรณ์สุดไฮเทคอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นแว่นมองกลางคืน หรืออุปกรณ์สุดไฮเทคของ Sam Fisher เองก็ตามที ทั้งหมดนี้มันได้ส่งผลให้ตัวเกมมีความสนุกในแบบของตัวเอง และสามารถเล่นกันได้เพลินๆ แบบลืมเวลาเลยทีเดียว
อย่างได้บอกไปตอนต้นนะครับว่าทั้ง 10 เกมนี้จะไม่มีการหยิบเอามาจากแฟรนไชส์ของ Assassin’s Creed เลย และเป็นอันดับที่แฟนเกมส่วนนึงช่วยกันโหวตนั่นเอง แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดว่ามีเกมไหนน่าเล่นหรือแบบว่านี่ละ เดอะเบสท์ของเกมแนว Stealth ก็สามารถแนะนำไว้ได้นะ