หลาย ๆ อย่างล้วนมีจุเริ่มต้นขอมันกันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นการเดินครั้งแรกสมันเรายังเด็ก เกมแรกที่เราได้เล่นหรือแม้กระทั้งเกมแรกของโลก แต่ในวันนี้ผมจะพูดถึงเกมสยองขวัญ 3 มิติเกมแรกของโลกที่ได้รับรองจาก Guinness World Records นั่นก็คือเกม Alone In The Dark
เกมนี้ถูกวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1992 ในแพลตฟอร์มของ PC และมีการวางจำหน่ายตามมาอีกหลายภาคด้วยกันจนถึงปี ค.ศ. 2008 เกมนี้เป็นเกมจากค่าย Infogrames ซึ่งปัจจุบันใช้ชื่อว่า Atari ในเกมนี้ทุก ๆ ภาคผู้เล่นจะได้รับบทเป็นนักสืบเรื่องพลังเหนือธรรมชาติ เอ็ดเวิร์ด คาร์นบี้ ที่ต้องออกผจญภัยในสถานที่ที่เต็มไปด้วยวิญญาณแล้วและหาทางไขคดีโดยให้ชีวิตของตนยังปลอดภัย ซึ่งซีรี่ย์เกม Alone In The Dark นี้ เป็นต้นแบบเกมสยองขวัญในปัจจุบันอย่าง Resident Evil
เนื้อเรื่องของเกมนี้เกี่ยวกับ Jerame Hartwood เจ้าของแมนชั่นนาม Dercreto ในรัฐหลุยเซียน่า ได้ผูกคอตายในห้องใต้หลังคา โดยเราจะได้รับบทเป็นนักสืบซึ่งมีให้เราได้เล่น 2 คนด้วยกันคือ Edward Carnby เป็นนักสืบที่ถูกจ้างวานมา และ Emily Hartwood ที่เป็นหลานสาวของ Jerame และเธอนั้นไม่เชื่อว่าปู่ของเธอจะฆ่าตัวตายจากความเศร้าและความเจ็บปวดทางจิตใจตามรายงานของตำรวจจึงได้จ้าง Edward เข้ามาช่วยในการสืบคดีนี้ซึ่งคดีนี้เต็มไปด้วยความประหลาดไม่ว่าจะเป็นไฟที่เปิดปิดเองในตอนกลางคืนทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นจากพลังของปิศาจที่สิงอยู่ในที่แมนชั่นแห่งนี้
รูปแบบเกมเพลย์ เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของเกม Resident Evil ซึ่งในยุคนั้นเกมอื่น ๆ ยังเป็นภาพแบบ Pixel และ 2D อยู่แต่เกมนี้มาในรุแบบ 3D นับว่าเป็นความท้าทายอย่างมากที่เกม 1 เกมมีภาพเป็นสามมิติรวมถึงยังมีดนตรีประกอบฉากซึ่งทำให้บรรยากาศในเกมกดดันมากขึ้น รวมถึงมุมกล้องที่เหมือนกับกล้องวงจรปิดสำหรับเกมในยุคนั้นเรียกว่าเป็นแนวที่แปลกใหม่และทำให้ได้รับการกล่าวถึงอย่างมากในหมู่คนที่ชอบเล่นเกมแนวสยองขวัญ ตัวเกมทำยอดขายถึง 600,000 ชุดและเพิ่มจนถึง 2.5 ล้านชุดในช่วงปี 2000 อีกทั้งได้รับคำชมจากสื่อต่าง ๆ มากมาย
เกมนี้ได้แรงบัลดาลใจมาจากนิยายของ H.P Lovecraft เป็นนักเขียนนิยายแนวสยองขวัญที่โด่งดังในเรื่องของการนำเสนอเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่เจ้าตัวได้มาจากฝันของตัวเอง ทางทีมงานจึงได้เอามาดัดแปลงออกมาเป็นเกมนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยการไขปริศนาและอันตรายมากมายแต่ตัวเกมก็ไม่ได้ถูกทำออกมาเพื่อให้ผู้เล่นเอาแต่วิ่งหนีเนื่องจากในตัวเกมเรามีอาวุธไว้ใช้พอที่จะต่อกรกับปีศาจได้อีกด้วย
แต่เดิมเอนจินของเกมนี้ถูกสร้างโดย Frédérick Raynal ซึ่งเป็นโครงการเล็ก ๆ ในขณะเขาทำงานอยู่ที่ Infogrames โดยได้รับความช่วยเหลือจาก Didier Chanfray สร้างโมเดล 3 มิติ พวกเขาจึงสามารถสร้างห้องใต้หลังคาซึ่งเป็นห้องแรกของเกมเป็นผลสำเร็จ โดยได้ Yaël Barroz มาช่วยทำงานศิลป์เพิ่มเติม จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็เสนอโครงการนี้ต่อบริษัทโดย Frédérick Raynal เป็นผู้ดูแลโคงการ ในภายหลังจากภาคแรกวางจำหน่ายได้ไม่นานก็เกิดการโต้แย้งกันระหว่างทีมงานกับหัวหน้าของ Infogrames ชื่อ Bruno Bonnell ในภายหลังได้มาขึ้นแท่นผู้ดูแลเกมภาคต่อแทน ส่วนทีมดั้งเดิมทั้งหมดจึงลาออกไปตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Adeline Software International
ในปัจจุบันนี้ชื่อของ Alone in The Dark ได้ถูกซื้อโดยค่ายเกม THQ Nordic ซึ่งแฟนเกมหลาย ๆ คนก็ได้คาดหวังว่าตัวเกมจะกลับมาผงาดในวงการเกมสยองขวัญได้เหมือนอย่างที่ Resident Evil ทำได้ในช่วงหลัง แต่จะเป็นอย่างที่เราคาดไว้หรือไม่ก็ต้องมาติดตามดูกันอีกทีว่าผลจะเป็นอย่างไร