การที่จะทำให้เกมนึงประสบความสำเร็จได้มันก็มีมากมายหลายปัจจัยมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกมนั้นเป็นเกมภาคต่อแล้วด้วยการจะทำให้ประสบความสำเร็จกว่าภาคก่อนยิ่งเป็นงานที่ยากมาก บ้างก็มีการเพิ่มระบบหลายๆ อย่างเข้ามา เพิ่มฟีเจอร์นู้นนี้ ไปจนถึงการเปลี่ยน “สไตล์ภาพ” ไปเลยก็มีจากแนว 2D เรียบๆ ก็กลายมาเป็นแบบสามมิติ 3D เพื่อให้ทันสมัยกันนั่นเอง
แต่ใช่ว่าการเปลี่ยนแปลงทดลองอะไรใหม่ๆ มันจะดีเสมอไปล่ะนะ ในวันนี้ผมเลยจะมาพูดถึง “9 อันดับแฟรนไชส์เกมที่ดูดีกว่าเมื่อเป็น 2D” เมื่อการทำให้ภาพสวยขึ้นดูดีขึ้นไม่ใช่คำตอบ แล้วจุดเด่นของแฟรนไชส์นั้นๆ อยู่ที่ตรงไหนกันล่ะ? เอาเป็นว่าเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
Phantasy Star
หนึ่งในผลงานเกมสุดคลาสสิคสไตล์ JRPG จากค่ายเกมฟอร์มยักษ์ SEGA ซึ่งยังคงมีภาคต่อออกมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนี้
โดยเริ่มแรกเดิมทีแฟรนไชส์ดังกล่าวนั้นจะมาในสไตล์ภาพ 2D 8bit สไตล์ RPG นิยมในยุคบุกเบิกนั่นแล่ะ ก่อนในราวช่วงต้นปี 2000 ทางแฟรนไชส์จะได้มีการเปลี่ยนมาเป็นแนว 3D เต็มรูปแบบกันในเกม Phantasy Star Online แถมยังมาในรูปแบบเกมออนไลน์ MMORPG ซะด้วย ซึ่งเอาจริงแล้วตัวเกมก็ไม่ได้ถือว่าแย่นะเรียกว่าทำออกมาได้ค่อนข้างจะดีซะด้วยซํ้าไป แต่ถึงอย่างนั้นแฟนเกมรุ่นบุกเบิกของแฟรนไชส์ก็กลับบอกว่ามันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ขาดหายไปไม่เหมือนเกมภาคแรกๆ ก็คงต้องรอดูต่อไปละครับว่าภาคต่อในลำดับถัดไปอย่าง Phantasy Star V จะสามารถถึงเอาสเน่ห์แบบดั้งเดิมกลับมาได้รึไม่ล่ะนะ
RollerCoaster Tycoon
อีกหนึ่งเกมสุดคลาสสิคที่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ฝั่ง PC จากยุค 90 ก็คงจะต้องผ่านกันมาบ้างนั่นล่ะนะ แถมนี่ยังเป็นเกมที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผลงานชั้นยอดแห่งยุคเลยอีกด้วยนั่นเอง
สำหรับแฟรนไชส์ RollerCoaster Tycoon นี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงก็ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ภาค 3 ที่ตัวเกมหันมาเป็นแนว 3D เต็มตัว แต่นอกเหนือจากเรื่องคุณภาพกราฟฟิคที่เพิ่มขึ้นมาแล้วนั้น ทางด้านส่วนอื่นนั้นตัวเกมทำออกมาได้เละเทะตุ๊มเป๊ะมากเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์หลายๆ อย่างถูกตัดออกไป ระบบการปรับแต่งที่มีเนื้อหาเยอะเกินควรจนน่ารำคาญ ไปจนถึงอะไรอีกหลายอย่างตามมาอีกเพียบ มันเลยทำให้เสียงวิพากย์วิจารณ์ในภาคนี้ค่อนข้างยับพอสมควรและเทียบไม่ได้เลยกับสองภาคแรกที่เป็นสไตล์ภาพ 2D นั่นเองครับ
Command & Conquer
ผลงานชั้นเลิศระดับแนวหน้าของเกมแนว RTS เลยก็ว่าได้กับแฟรนไชส์ของ Command & Conquer ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีกี่ยุคสมัย เหล่าเกมเมอร์ก็จะยังคงรู้จักกับชื่อนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย
แต่ถ้าใครที่ตามแฟรนไชส์นี้มาจริงๆ จะรู้สึกได้เหมือนกันว่าในภายหลังที่ทำออกมานี้แต่ละภาคมันรู้สึกแปลกๆ ชอบกลว่าไหมล่ะ ไม่ว่าจะเป็นระบบบางอย่างที่ไม่รู้ใส่เข้ามาทำไม ฟีเจอร์บางตัวที่ขาดหายไป และอะไรอีกหลายอย่าง ซึ่งตรงนี้เราอาจโทษตัวเกมไม่ได้นักเพราะไอเดียต่างๆ เหล่านี้ก็ล้วนมาจากทางผู้พัฒนาทั้งนั้นนั่นแล่ะ ในขณะเดียวกันพอเราลองมองย้อนกลับไปในช่วงภาคแรกๆ ตัวเกมกลับมีสเน่ห์ดึงดูดอย่างมากแถมยังเล่นสนุกอีกต่างหาก จึงไม่น่าแปลกใจนักพอพูดถึงเกมแนว 2D และ 3D แฟรนไชส์ Command & Conquer นี้จึงถูกเลือกมาเป็นรายชื่อแรกๆ เลยนั่นเอง
Metroid
หากพูดถึง Nintendo แฟรนไชส์อันดับแรกๆ ที่หลายคนมักนึกถึงก็คงไม่พ้น Mario, The Legend of Zelda, Kerby, Pokemon จริงไหมล่ะ โดยแฟรนไชส์ทีเราจะมาพูดถึงในคราวนี้ก็คือ Metroid การผจญภัยในห้วงอวกาศของ Samus Aran นั่นเอง
เหมือนกับเกมอื่นๆ นั่นล่ะครับที่เมื่อวันเวลาเปลี่ยน ยุคสมัยเปลี่ยน ตัวเกมก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย เช่นเดียวกันกับแฟรนไชส์ของ Metroid ที่ในปัจจุบันได้มีการผสมผสานสไตล์ 3D เข้ามาใช้ซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเอาจริงๆ ในภาคหลังที่ออกมานี้มันก็ไม่ได้แย่นะ แต่อาจด้วยเพราะการเน้นด้านกราฟฟิคหรือลูกเล่นอะไรบางอย่างมากเกินไปรึเปล่า มันเลยทำให้ภาคหลังๆ มานี้เหมือนขาดอะไรบางอย่างไป และทำให้แฟนเกมส่วนใหญ่บอกว่าเทียบชั้นไม่ได้เลยกับตัวเกมในภาคแรกๆ นั่นเอง เอาเป็นว่าจะ 2D หรือ 3D มันก็มีดีกันไปคนละแบบนั่นล่ะนะ
Contra
ย้อนกลับไปเมื่อราวช่วงปี 1980 จะมีอยู่หนึ่งแฟรนไชส์ที่ได้เปิดตัวออกมาในปีดังกล่าว และถึงแม้จะผ่านมากว่า 40 ปีแล้วก็ตามแต่ความโด่งดังของแฟรนไชส์นี้ก็ไม่เคยลดลงเลยกับ Contra นั่นเอง
Contra คือหนึ่งในผลงานเกมสุดคลาสสิคจากปี 80 ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากจนมีภาคต่ออออกมาอีกหลายภาค ไปจนถึงการถูกดัดแปลงไปสร้างเป็นทั้งการ์ตูน, ของเล่น, ภาพยนตร์คนแสดง และอื่นๆ อีกมากมายเลยทีเดียว ถึงแม้ในทุกวันนี้เราอาจจะยังได้เห็นแฟรนไชส์ดังกล่าวออกมาโลดแล่นอยู่บ้าง แต่ก็คงปฏิเสธิไม่ได้จริงๆ ว่าไม่มีภาคไหนทำออกมาดีเท่าภาคแรกอีกแล้ว คงจะโทษภาคใหม่ไม่ได้ล่ะนะก็ภาคแรกทำไว้ดีซะขนาดนั้นนิ
Mortal Kombat
มาสู่แนวต่อยตีในสไตล์เกมไฟท์ติ้งกันบ้างกับแฟรนไชส์ของ Mortal Kombat อีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่เคยได้มีการดัดแปลงไปเป็นแบบ 3D เต็มตัวมาช่วงนึง แต่ก็เหมือนจะไปไม่รอดจนต้องกลับมาสไตล์ดั้งเดิมนั่นแล่ะนะ
เดิมทีตัวเกมก็เป็นแนวต่อสู้ด้านข้าง 2D ธรรมดานั่นล่ะครับและยังคงจุดเด่นแบบนั้นไปเรื่อยๆ เช่นกัน จนกระทั่งดำเนินมาถึง Mortal Kombat 4 และ Mortal Kombat : Shaolin Monks ที่ตัวเกมได้มีการลองเปลี่ยนมาเป็นสไตล์ 3D ดู โดยจะมีการเพิ่มลูกเล่นให้เราเดินออกด้านข้างได้ด้วย จากที่เดิมมีเพียงเดินหน้าถอยหลังเท่านั้นเอง ซึ่งมองทีแรกมันก็น่าสนใจดีนะแต่พอเอาเข้าจริงๆ ตัวเกมโดนด่าค่อนข้างยับมากเลยล่ะครับ ลูกเล่นที่เปลี่ยนไปมันทำให้เกมไม่สนุกเหมือนก่อนแถมเล่นยากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเลยด้วย
หลังจากนั้นทางแฟรนไชส์จึงได้กลับมาสไตล์ดั้งเดิมในภาคถัดมาและคงไว้อย่างนั้นไม่เปลี่ยนไปอีกเลย เรียกได้ว่าการเปลี่ยนไปให้ทันสมัยขึ้นก็ใช่ว่าจะดีเสมอไปล่ะนะ
Mega Man
หากพูดถึงเรื่องราวของพ่อหนุ่มหุ่นยนต์ตัวสีฟ้าที่สามารถยิงบลัสเตอร์ออกจากแขนได้เพื่อนๆ จะนึกถึงเกมไหนกันล่ะ? ใช่แล้วแฟรนไชส์ที่ว่านั่นก็คือ Mega Man นั่นเองครับ อีกหนึ่งความคลาสสิคที่ยังคงส่งต่อมาถึงปัจจุบันนั่นเอง
โดยแฟรนไชส์ดังกล่าวก็ยังคงมีการส่งต่อมาจนถึงทุกวันนี้ แถมยังมีการแยกย่อยออกไปหลากหลายสาขาเลย ตั้งแต่เกมคอนโซลและ PC ไปจนถึงเวอร์ชั่นก็สมาร์ทโฟนก็ตามที เพียงแต่ในภายหลังตลอดมานี้เราจะเห็นเพียงก็แต่ตัวเกมในเวอร์ชั่น 3D ล้วนแล้วทั้งสิ้นเลย ซึ่งมันก็ทำออกมาสนุกอยู่น่ะแล่ะเพียงแต่เหมือนในภาคหลังมานี้ตัวเกมจะเน้นใส่ฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาซะเยอะ มันเลยทำให้ความคลาสสิคแบบภาคต้นตำหรับไม่ค่อยหลงเหลืออยู่เท่าไหร่นัก ทำให้แฟนเกมที่ยังคงตราตรึงกับความโหดจัดฮาร์ดคอร์ในภาคแรกๆ ยังลืมไม่ลงและบอกว่า Mega Man ที่จริงควรจะเป็นแบบนั้นเสียมากกว่านั่นเอง
Sonic the Hedgehog
อีกหนึ่งผลงานจากค่าย SEGA เช่นกัน กับแฟรนไชส์ของเจ้าเม่นสีฟ้าของเรากับ Sonic the Hedgehog กับเรื่องราวอันยาวนานกว่าจะมาถึงทุกวันนี้เลยนั่นเอง
ถ้าเอาจริงๆ แล้วแฟรนไชส์ของ Sonic the Hedgehog นี้จะเรียกว่าแบบไหนแบบหนึ่งดีไปเลยซะทีเดียวคงไม่ได้ล่ะนะ เพราะแฟรนไชส์นี้ก็ทำออกมาหลายภาคจนนับแทบไม่หวาดไม่ไหวเลย แถมยังมีทั้ง 2D + 3D ปะปนผสมกันไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่แฟนๆ ยังคงจดจำได้ไม่ลืมเลือนเลยก็คือเรื่องราวจากในภาค 1 – 4 นั่นเอง ถึงแม้ในภาคหลังที่ออกมามันจะยังสนุกแต่ถึงอย่างนั้นหลายคนยังคงบอกว่ามันสู้ความคลาสสิคจากสมัยนั้นไม่ได้เลยเนี่ยสิ และกลายมาเป็นว่าพอเราพูดถึง Sonic เราก็จะนึกถึงเจ้าเม่นสีฟ้านี้ในสไตล์ 2D มาก่อนเป็นอันดับแรกเลยก็ว่าได้ล่ะนะ
Castlevania
ตำนานของนักล่าแวมไพร์ที่ยังคงเป็นตำนานแห่งวงการเกมมาจนถึงทุกวันนี้ แถมยังโด่งดังซะจนมีการนำไปสร้างเป็นอนิเมะชั่นมาแล้วอีกด้วย ผลงานจากค่าย Konami กับแฟรนไชส์ของ Castlevania นั่นเอง
จะเรียกว่าเป็นการเปลี่ยนสไตล์ภาพอย่างเดียวก็คงไม่ได้ล่ะนะ เพราะ Castlevania ที่เราเห็นในทุกวันนี้แทบจะไม่มีอะไรเหมือนกันสมัยก่อนเลย กับแนวเกมที่เปลี่ยนไปเน้นออกไปทางแนวบู๊แหลกแอ็คชั่นซะเป็นหลัก เทียบกับเมื่อก่อนแนว 2D Side Scrolling เดินบู๊ด้านข้าง มันเลยทำให้ตัวเกมจากทั้งสองยุคสมัยแทบจะเป็นคนละเกมกันเลย
แต่สิ่งที่เราคงปฏิเสธิไม่ได้นั่นคือ Castlevania ได้สร้างผลงานไว้อย่างดีเยี่ยมทีเดียว จนถึงกับหลายๆ เกมเลือกจะเอาแฟรนไชส์ดังกล่าวมาเป็นต้นแบบให้กับเกมของตนเลยก็มีเช่นกัน และไม่น่าแปลกใจนักว่าทำไมแฟรนไชส์ดังกล่าวจะกลายมาเป็นหนึ่งในตำนานที่ยังครองใจแฟนๆ ตราบจนถึงทุกวันนี้นั่นเองครับ