หนึ่งในซีรี่ย์เกมที่มีแนวทางการนำเสนอเนื้อหาได้แนวจนเป็นที่เฝ้ารอของหลายๆ คนเสมอมานั้น คงปฎิเสธไม่ได้ว่า Far Cry ออริจินอลซีรี่ย์ของทาง Ubisoft ก็อยู่ในนั้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยตัว Far Cry 6 นั้นก็ได้เปิดตัว Trailer มาได้อย่างน่าสนใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับระบบการเล่นที่ทำให้หลายคนรู้สึกคาดหวังเป็นอย่างมาก ซึ่งในวันนี้เราก็จะมาพูดถึงตัวเกมนี้กัน กับ Far Cry 6 รีวิว ที่จะพาเพื่อนๆ เข้าสู่โลกแห่งความรุนแรง กระสุนปืน และเขม่าควันใน Yara
Far Cry 6 Review
ตัวเกม Far Cry 6 นั้นก็เป็นยังคงความเป็นซีรี่ย์ Far Cry เอาไว้อย่างเพรียมพร้อม ในภาคนี้นั้น ตัวเกมได้พยายามเน้นไปที่เนื้อเรื่องของตัวเกมให้มากขึ้น โดยเฉพาะตัวเอกที่มีบทพูดเป็นของตัวเองแล้ว ยิ่งทำให้สามารถเข้าใจได้ถึงความรู้สึกนึกคิดของตัวเอกได้ชัดเจน ผ่านทางน้ำเสียงมากขึ้นไปอีก และที่ต้องชมเป็นพิเศษเลยคือบทการแปลเป็นภาษาไทยของทีมงาน ที่จัดหนักจัดเต็มไม่มีกั๊ก แปลได้สะใจตรงกับความดิบเถื่อนของเนื้อหาตัวเกมได้มาก ชนิดที่ปล่อยฟักก็มาเป็นฟักจริงๆ ไม่มีการเนียนๆ กลัวรุนแรงเป็นเป็นดั๊กแต่อย่างใด และนั่นก็ทำให้การเล่นแบบภาษาไทยนั้นอินได้ไม่ต่างกับการเล่นภาษาอังกฤษ และน่าจะอินกว่าด้วยเอ้า
ระบบหลายๆ อย่างก็เรียกได้ว่ามีความแนว ความเจ๋งมากขึ้นเป็นเงาตามตัวสำหรับในภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็นแง่เกมเพลย์ กันเพลย์ มินิเกม (รู้นะว่าทุกคนพูดถึงการตีไก่น่ะ) หรือแม้แต่งานภาพ ทำให้โดยรวมแล้วคะแนนของตัวเกมออกไปในจุดที่เรียกว่า “ไม่ผิดหวังเลย” ก็ว่าได้เลยทีเดียว
เนื้อเรื่อง
ตัวเนื้อเรื่องของ Far Cry 6 นั้นถ้าเอาแบบสั้นๆ จบในประโยคเดียว “ประชาชนทนความเผด็จการไม่ได้เลยลุยขึ้นปฎิวัติจนสำเร็จ” ใช่แล้ว มันคือพล๊อตธรรมดาๆ ที่พื้นๆ พบได้ทั่วไปและเป็นโจทย์ที่ผู้แต่งเรื่องต้องหาทางนำเสนอให้ได้น่าสนใจให้ได้ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องบอกเลยว่าทีมงานทำได้ดีเลยทีเดียวผ่านการเล่าสไตล์ Far Cry ที่มีสลับไปมาทั้งบททีเล่นทีจริงและบทเข้มข้นกดดัน การนำเสนอให้ตัวร้ายดูมีความโหดร้าย แต่ก็แน่วแน่และเชื่อมั่นว่าในสังคมแบบนี้ มันคือทางที่ถูกต้อง กับมุมมองของประชาชนที่มองว่ายังไงมันก็ไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่ดีกว่าไปนำเสนอได้
Far Cry 6 ดำเนินเรื่องราวผ่านตัวเอกของเรา Dani Rojas ผู้เกิดในประเทศหมู่เกาะสมมุติที่ชื่อว่า Yara (อ้างอิงจากประเทศคิวบา) ซึ่งปกครองโดยจอมเผด็จการ Antón Castillo ผู้ที่ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จในการปกครอง ใช้กำลังทหารในการสั่งให้ประชาชนทำตามใจอย่างแท้จริง Dani นั้นมีความตั้งใจที่จะหลบหนีออกไปจาก Yara มุ่งสู่อเมริกา ดินแดนแห่งเสรีภาพและไปใช้ชีวิตใหม่ที่นั่น ในขณะที่กำลังหลบหนีก็พบว่าเรือที่จะพาพวกเขาไปจาก Yara มีลูกชายของ Castillo แอบขึ้นเรือหนีจากพ่อของตัวเองมาด้วยทำให้ถูกไล่ล่าและพบเจอจนถูกสังหารหมู่ยกลำ
Dani รอดตายมาบนชายหาดก่อนจะทำตามคำสั่งเสียของเพื่อนรักในการไปเจอกับกองกำลังปลดแอกที่พยายามจะล้มล้างเผด็จการ Castillo ที่ยื่นข้อเสนอให้กับ Dani ว่า ถ้าช่วยงานแรกกับพวกเขาก่อน แล้วจะให้เรือสำหรับเดินทางออกจาก Yara ให้ ตัว Dani ที่ไม่มีทางเลือกจึงได้ร่วมมือกับพวกเขา ก่อนจะได้รับเรือตามสัญญา แต่ว่าการต่อสู้ที่แท้จริงพึ่งจะเริ่มเท่านั้น พวกเขายังต้องรวบรวมกองกำลังเข้าด้วยกัน ตัดกำลังของ Castillo จนกว่าจะสามารถโค่นล้มจอมเผด็จการคนนี้ลงได้…
รีวิว เกมเพลย์
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า แม้ Far Cry 6 จะมีอะไรใหม่ๆ เดิ้ลๆ มากมาย แต่โดยพื้นฐานแล้ว มันก็ยังคงเป็นหนึ่งในเกมซีรี่ย์ Far Cry แบบเดิมๆ การออกไล่ยิงลูทของทำภารกิจหลักบ้างย่อยบ้างบนโลก Open World ในดินแดนที่ห่างไกลแบบเดิม ถ้าใครอยากเจอไกลตะโกนที่ไม่ใช่ไกลตะโกน (ห๊ะ? ยังไง?) แล้ว ตัวเกมภาคนี้ก็อาจจะยังไม่ตอบโจทย์นัก
สิ่งที่ทำให้เกมเพลย์ในภาคนี้มีความสนุกมากขึ้นก็คงต้องยกให้พวกศัตรูนี่ล่ะ พวกมันมีความหลากหลายมากขึ้น บางตัวก็ใส่เกราะเบา บางตัวก็มาด้วยเกราะหนัก มีแยกทักษะออกมาแตกต่างกัน บ้างก็ชุบเพื่อนได้เพราะเป็นแพทย์ บ้างก็วิ่งชาร์จเข้าใส่เรา ทำให้เพื่อนๆ สามารถเลือกได้ว่าจะบันไซชาร์จเข้าใส่เลยก็ได้ หรือจะเล่นแบบมีแบบแผน สำรวจพื้นที่ใช้กล้องตรวจว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนก่อนแล้วค่อยเตรียมตัวให้พร้อมบวก ก็ย่อมได้เช่นเดียวกัน จุดนี้ทำให้เกมเพลย์นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามใจคนเล่นในโลกแบบเดียวกันและน่าสนใจมากเลยทีเดียว
พวกอาวุธต่างๆ ก็ทำมาได้ดี และบ้าบอยิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งปืนที่เอาขวดพลาสติกมาทำที่เก็บเสียงจนถึงเครื่องยิงแผ่น CD หรือกระเป๋าสะพายหลังยิงจรวดที่ทำให้เราได้แต่เกาหัวแล้วก็พยักหน้าหงึกๆ โอเคๆ ได้แหละๆ ในด้านของสกิลก็ถูกลดทอนลงให้กลายเป็นชุดสวมใส่ที่จะมีความสามารถติดตัวแทน เช่นชุดบางอย่างจะกันพิษได้ ชุดบางอย่างจะกันไฟได้ ก็อาจจะเป็นจุดที่ดีและเสียในจุดเดียวกัน (เช่น หลายคนอาจจะชอบความเป็นสกิลที่ชัดเจนกว่า) ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสีสรรกันไป นอกจากนี้ระบบเลเวลก็ไม่มีแล้ว Rank ของผู้เล่นแค่เป็นตัวระบุว่าศัตรูมันยากระดับไหนแค่นั้นเอง
ในด้าน Co-op เองนั้น ตัวเกมก็ทำได้ดี สามารถเข้ามาร่วมแจมหรือกดออกได้ตลอดเวลา โดยทางฝั่งคนที่สร้างเกมจะเป็นคนที่ได้รับในเรื่องของการดำเนินเควสต่างๆ ในขณะที่คนที่ร่วมแจมจะได้รับพวกทรัพยากรต่างๆ กลับไป แต่ด้วยสภาพของตัวเกมก็ทำได้สามารถเล่นกันได้เพียง 2 คนเท่านั้น (ก็พอเข้าใจได้ ถ้ามี Dani 10 คนวิ่งในเกม สงสัยว่าต้องเปลี่ยนไปเป็น Battle Field)
► มีอะไรให้ทำมากมาย
ในขณะที่แผนที่ของภาคนี้นั้นกว้างเป็นอย่างมาก ตัวเกมก็ได้เพิ่มพาหนะสำหรับเดินทางมามากมายตั้งแต่รถไปจนถึงม้า ที่เราก็สามารถปรับแต่ง ตกแต่งให้มีเอกลักษณ์ของตัวเองได้อีก รวมถึงก็ไม่ได้มีแค่อย่างเดียว แต่สามารถปลดล๊อคออกมาได้หลายแบบอีกด้วย ทำให้ผู้เล่นสายสะสมก็มีอะไรให้ทำเยอะ ส่วนผู้เล่นสายเอาการใช้งานก็มีตัวเลือกให้เปรียบเทียบได้อีก ….. และก็มีพวกสัตว์เลี้ยงหลายแบบไว้สำหรับช่วยในการต่อสู้อีกด้วย แหม ไม่เหงาแน่นอน
ขาดไม่ได้เลยก็คือตีไก่ เอ้ย มินิเกม ในภาคนี้นั้นมีมินิเกมมากมายให้เพื่อนๆ ได้เล่นเปลี่ยนบรรยากาศจากตัวเกมหลักที่เต็มไปด้วยการเดินยิง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งรถ การตีไก่ที่ขึ้นชื่อลือชาเยี่ยงเกมต่อสู้ การขนระเบิด การวางแผนออกปล้น ถ้ารวมกับการบุกถล่มป้อมปราการต่างๆ ที่เป็นตัวเกมหลักด้วยแล้ว ก็ทำให้ในเกมภาคนี้มีอะไรให้เราทำนอกเหนือไปจากการเล่นในเนื้อเรื่องค่อนข้างมากเลยทีเดียวล่ะ
รูปรสกลิ่นเสียง / กราฟฟิค
แน่นอนว่าตัว Far Cry 6 นั้นไม่ได้พัฒนางานภาพไปเป็นระดับ Next Generation แต่อย่างใด ถึงกระนั้น ก็เรียกได้ว่าเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ดี พื้นที่ที่ดูเป็นธรรมชาติก็สมจริง จนถึงจุดที่เรียกได้ว่า ป่ามันจะรกไปไหนเฮ้ย พุ่มไม้อะไรก็มีความเกะกะได้สะใจมาก ในภาคนี้ยังได้นำเสนอสภาพภูมิประเทศแบบผสมกันทั้งตัวเมืองและป่าไปพร้อมกัน ทำให้ไม่ได้มีความจำเจที่อะไรอย่างใดอย่างหนึ่งนานๆ เหมือนกับภาคก่อนอีกด้วย ซึ่งก็ถือว่าเป็นการพัฒนาที่เรียกว่าดีเลยทีเดียว ตัวเพลงหรือบทพูดนั้นก็ให้ความรู้สึกที่ดี ลื่นไหล ให้อารมณ์ของตัวละครที่ชัดเจนไม่รู้สึกติดขัด
ตัวเลือกการปรับแต่งก็มีหลายอย่างและสามารถปรับแต่งได้เยอะ เรียกว่าใครไม่แรงก็ปรับให้ลงมาได้ ส่วนใครปรับแรงเอา Ultrawide อะไรก็จัดหนักจัดเต็มได้เต็มที่ รวมไปถึงการตั้งค่าสำหรับคนตาบอดสี (อันนี้หลายคนอาจจะคิดว่าไม่มีผลมาก แต่มันมีผลเยอะจริงๆ นะ) ก็น่ายินดีที่ทางทีมงานเอาใจใส่ในจุดนี้ด้วย
แต่จุดที่ต้องระวังคือ เกมนี้สำหรับคนที่แพ้เกมแนวมุมมองบุคคลที่หนึ่งหรือเป็น Motion Sickness แล้ว อาจจะเล่นไม่ไหวอย่างแรง เนื่องจากจังหวะหลายๆ ครั้งจะมีการเหวี่ยงของกล้องที่แรง (เช่น การลอบฆ่า, การปีนป่าย, การขี่ม้าหันไปมาไวๆ) และเท่าที่ทราบในตอนนี้ยังไม่มีวิธีที่จะช่วยปรับหรือลดความเหวี่ยงของกล้องได้ ซึ่งก็ออะจะน่าเสียดายพอสมควรอยู่
สรุป Far Cry 6 Review
โดยรวมแล้วก็บอกได้เลยว่า Far Cry 6 นั้นเป็นการเปิดตัวภาคใหม่ของซีรี่ย์ Far Cry 6 ได้อย่างสมภาคภูมิเลยทีเดียว แม้ว่าจะไม่ได้ถึงกับว้าว นี่มันนวัตกรรมใหม่ของเกมนี้เลย แต่ก็เรียกว่าเป็นข้าวที่ปรุงใหม่ได้อย่างอร่อยและลงตัว จะเล่นคนเดียวก็ดี จะเล่น co-op ก็สนุก ตัวเกมมีการพัฒนาเป็นอย่างมากจากภาคก่อนๆ รวมไปถึงยังมีเนื้อหารอการอัพเดทหลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นพวก Season Pass ต่างๆ ที่จ่อคิวรอมาให้คนที่เล่นจบแล้วยังมีอะไรได้ทำกันอีกนานๆ
เรียกได้ว่าถ้าใครเป็นแฟนเกมแนว FPS หรือซีรี่ย์ Far Cry อยู่แล้ว ภาคนี้ค่อนข้างที่จะการันตีได้ว่า หยิบมาแล้วจะไม่รู้สึกผิดหวังแน่นอน ยกเว้นอย่างเดียวคือคุณอยากเห็น Far Cry ที่มันแตกต่างไปจากเดิมแบบคนละอย่างจากเดิมชัดๆ นั่นล่ะ!
▲ จุดเด่น
- แปลไทยงานดีมาก แนะนำอย่างแรง!
- การพัฒนาที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก เกมเพลย์ที่ดี กันเพลย์ที่สนุก
- มีอะไรมากมายให้ทำทั้งระหว่างการเล่นเนื้อเรื่อง และอัพเดทที่จะมาในอีกภายหลัง
▼ จุดด้อย
- ยังคงมีความเป็น Far Cry แบบเดิมๆ
- การเหวี่ยงของมุมกล้องที่รุนแรงในบางการกระทำที่ทำให้ Motion Sickness ได้ง่ายมาก
- บางครั้งการที่ต้องมาพยายามปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ให้เข้ากับการต่อสู้ก็ทำให้ขัดใจได้เช่นกัน