การเลือก Hypers (ฮีโร่)
การเลือก Hypers คงปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นหลักอย่างหนึ่งในการเล่น Hyper Universe เลย ซึ่งการจะเลือกนั้นก็ขึ้นกับปัจจัยหลายๆ อย่าง แต่ก่อนจะพูดถึงปัจจัยเหล่านี้นั้น ก็อยากให้ทุกคนได้ลองใช้งาน Hypers ให้ครบทุกสายเสียก่อน ไม่ต้องถึงขนาดเชี่ยวชาญก็ได้ แต่การที่เข้าใจว่าสายไหนทำอะไรได้และใครเป็นอย่างไร นอกจากจะทำให้เข้าใจว่าสายนั้นๆ เป็นยังไงแล้ว ยังช่วยให้การเลือกนั้นง่ายและเข้ากับบทบาทที่ต้องการมากขึ้นด้วย
Hyper นั้นหลักๆ จะขึ้นกับว่าเป็นคนเลือกตำแหน่งหลักหรือรอง ในการเลือกตำแหน่งหลักนั้น จะเป็นการเลือกคนที่นำการเล่นและคนอื่นๆ ในทีมก็จะเป็นตำแหน่งรองในการเลือกตัวที่เข้ากันมา ซึ่งปกติแล้ว Strikers, Specialists หรือ Assassins จะเป็นตัวตำแหน่งหลัก ในขณะที่ Tanks, Bruisers, Supports จะเป็นตัวเลือกรองที่นำมาเสริมให้ตัวเลือกหลักดังกล่าว
แต่การจะเลือกใครมานั้นก็เป็นอะไรที่วุ่นวายเสมอ เพราะงั้นในการเลือกตัวหลักนั้นจึงมักจะเป็นการเลือกตัวที่คิดว่ามั่นใจและเข้ามือมากที่สุดนั่นเอง ในขณะที่ตัวเลือกรองจะเริ่มวุ่นวายมากกว่าแล้ว สิ่งที่ควรดูคือการเลือกตัวที่มีสกิลที่ช่วยเหลือทีมได้ หรือเป็นสิ่งที่ทีมกำลังขาดเพื่อนำมากลบช่องว่าง แน่นอนว่าทีมศัตรูก็เช่นกัน หากอีกฝั่งไม่มีสกิลหยุดมากนัก การเลือก Tank หรือ Bruiser มาย่อมป่วนได้ดีกว่าแน่นอน
บทบาทของ Hypers แต่ละสาย
การเลือก Hyper นั้นนอกจากจะต้องดูการเข้ากันแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องเลี่ยงคือการเลือก Hyper สายเดียวกันมาเยอะๆ ซึ่งจะทำให้เกิดจุดอ่อนที่อีกฝ่ายเล่นงานได้ง่ายจนถึงขั้นพังเละเทะได้ ลองมาดูกันว่าสายไหนเป็นอย่างไรและมีจุดอ่อนอย่างไรกันดีกว่า
• Specialists เป็น Hypers กลุ่มที่มีความสามารถในการควบคุมพื้นที่และสร้างความเสียหายฉับพลัน (burst damage) ได้ดี ฟังแล้วก็คุ้นๆ เหมือน Mage ในเกมอื่นนั่นเอง กลุ่มนี้จะมีข้อด้อยที่จุดเด่นของตัวเองนั่นคือหากศัตรูไม่เป๋เพราะการ Burst แล้ว พวกเขาจะอยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกพอสมควร
• Bruiser เป็นกลุ่มที่เน้นการเข้าปะทะและนัวเนียกับศัตรูอย่างต่อเนื่องแบบหมัดต่อหมัด กลุ่มนี้มักจะเป็นตัวเลือกที่ง่ายสำหรับผู้เล่นใหม่ เนื่องจากสามารถสร้างความเสียหายได้ดีและรับความเสียหายได้ในระดับที่มาก การเล่น Hyper กลุ่มนี้ก็มักจะเป็นการเลือกระหว่างเป็นควายธนูจอมอึดที่คอยขัดแข้งขัดขาศัตรู หรือเป็นแรดแอฟริกาที่ตายยากต่อยหนัก จุดอ่อนของพวกเขาคือการที่เป็นเป็ด(ไหนว่าเป็นควายกับแรด?)ที่สามารถทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่เชี่ยวชาญซักด้านนั่นเอง
• Tanks เป็น Hyper กลุ่มที่มีลักษณะง่ายๆ นั่นคือโยนมันไปกลางวงศัตรูแล้วก็คอยน้วยพันแข้งพันขาอีกฝ่ายให้เป็นบ้า พวกเขาอาจจะไม่ใช่คนที่ทำความเสียหายได้ดีนัก แต่มักจะมีสกิลในการเอาตัวรอดในระดับที่โคตรสูง บางครั้งมันอาจจะไม่ได้มาในรูปของการป้องกัน แต่เป็นการกวนอีกฝ่าย เช่นการจับไว้กับที่ การถีบให้ไปอยู่ในจุดที่อีกฝ่ายไม่ต้องการ หรือช่วยป้องกันคนอื่นแทนตัวเอง แน่นอนว่าจุดอ่อนก็อยู่ที่ทีมจะต้องพึ่งพาเขาในการเอาตัวรอดมาก หากควบคุมตัวละครได้ไม่ดีแล้ว อาจจะกลายเป็นพาความบรรลัยมาสู่ทีมได้ง่ายๆ
• Strikers เป็นกลุ่มที่เน้นสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องหรือ Damage Dealer (DD) / Carry นั่นเอง พวกเขาเป็น Hyper ที่ชำนาญการสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล(ถ้าปล่อยให้ทำ)แบบที่คนอื่นทำตามไม่ได้ แน่นอนว่าจุดอ่อนก็ย่อมเป็นการที่บางเป็นทิชชู่ ที่แม้ว่าจะมีท่าหลบให้พริ้ว แต่ถ้ามีอะไรลอยเข้าหัวแล้วนั้นก็ย่อมขาดได้โดยละม่อม
• Support เป็น Hypers ลูกเมียน้อยในสายตาของหลายๆ คน พวกเขาจะเป็นคนที่คอยคุมเกมให้เป็นไปตามที่ทีมตัวเองต้องการด้วยการรักษาเพื่อนร่วมทีมบ้าง กางโล่ช่วยบ้าง ไม่ก็ถ่วงแข้งถ่วงขาอีกฝ่ายบ้าง เป้าหมายของกลุ่มนี้คือการทำไงก็ได้ให้ทีมของตัวเองไม่ตายและอีกฝ่ายเสียเปรียบให้ได้ ในขณะที่จุดแข็งของพวกเขาคือการทำให้ทีมตัวเองได้เปรียบเป็นอย่างมาก แต่จุดอ่อนคือการที่ต้องอ่านสภาพเกมให้ได้ว่าควรทำอะไรยังไง การเข้าใจว่า Hypers คนไหนทำอะไรได้จึงสำคัญมาก แน่นอนว่าหมายถึงทีมศัตรูก็เช่นกัน
• Assassins เป็นกลุ่มที่เน้นการเชือดศัตรูให้ตายเป็นรายคนไป พวกเขาเป็นกลุ่มที่เชี่ยวชาญมากในการต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 และมักจะชนะเวลาไปจะเอ๋กับคู่ต่อสู้ที่หลงฝูงมา ทำให้หน้าที่ของเขามักจะวนเวียนอยู่ในป่า หาช่องตุ๋ยหรือกินนิ่มทีเผลอได้ แต่พลังที่ยิ่งแรงย่อมแลกมาด้วยความที่ยิ่งบาง สกิลของพวกเขามักจะต้องเลือกระหว่างใช้เพื่อสังหารเหยื่อ หรือเอาตัวรอด และหากใช้ทำอะไร อีกอย่างก็ไม่เหลือให้ทำ นั่นหมายถึงพลาดคือ ต-า-ย
การเคลื่อนที่เบื้องต้น
การควบคุมใน Hyper Universe นั้นก็ค่อนข้างที่จะเรียบง่าย บน ล่าง ซ้าย ขวาเหมือนเกม Action 2D ธรรมดา แต่เพื่อให้มีลูกเล่นมากกว่านั้น ในเกมก็จะมีจุดเสริมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นจุดที่ใช้เดินทางผ่านพื้นแต่ละชั้นอย่างรวดเร็วหรือพื้นที่ที่ช่วยให้เคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น
• Ladders ก็ตามชื่อเลย มันคือบันไดลิงสำหรับปีนขึ้นลงชั้นต่างๆ เพราะงั้นมันก็ต้องใช้เวลาหน่อย และการโดนโจมตีระหว่างนี้จะทำให้ผู้เล่นร่วงลงมา เป็นจุดให้ใช้ประโยชน์ในการถ่วงเวลาหรือป่วนได้ดี การกระโดดจะช่วยย่นเวลาปีนบันไดได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
• Springs สปริงเหล่านี้จะช่วยดีดตัวให้ขึ้นที่สูงได้ดีมาก แต่ก็จำเป็นจะต้องรอเวลาหลังการใช้งานและปกติจะใช้ได้สองครั้งต่อเนื่องกัน นั่นหมายถึงมันเหมาะกับการเดินทางเป็นคู่หรือหลบหลีก เนื่องจากหากโดนรุม ศัตรูจะสามารถตามผู้เล่นมาได้เพียงคนเดียวเท่านั้น และก็เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการเคลื่อนที่ขึ้นชั้นบนด้วย
• Holo Tiles สปริงเป็นยังไง พื้นที่ก็แค่ตรงข้ามกันเท่านั้น แต่ต่างกันตรงที่ไม่จำกัดจำนวนใช้ และอะไรก็สามารถทะลุผ่านมาได้เกือบหมด ทำให้มันเหมาะในการใช้โจมตีทีเผลอ หรือลงไปชั้นล่างไวๆ ได้ดี
ต่อมาเป็นเรื่องของความเร็วการเคลื่อนที่ ความเร็วการเคลื่อนที่เป็นอะไรที่สำคัญมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้เดินทางได้ไวขึ้นแล้ว มันยังช่วยให้รุกไล่หรือเผ่นได้ไวขึ้นอีกด้วย ซึ่งถ้าว่าเป็นวิชาการ มันก็คือระยะทางที่ตัวละครเดินทางได้ภายในหนึ่งวินาที โดย Hypers แต่ละคนจะมีค่านี้เริ่มต้นที่ 550 และสูงสุดที่ 750 (ไม่รวมไอเท็ม) ซึ่งถ้าเทียบแล้ว ก็จะใช้รองเท้าคู่หนึ่งกับการเพิ่มความเร็วประมาณ 15-20% หรือใช้แค่การเพิ่มความเร็ว 35-40% ในการทำให้มันตัน Hypers บางคนก็จะมีสกิลเพิ่มความเร็วเป็นของตัวเองบ้างอะไรบ้าง เพราะงั้นก็ควรคิดถึงจุดนี้เล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เสียช่องไอเท็มหรือสกิลไปเปล่าๆ เพราะความเร็วมันตันไม่เพิ่มมากกว่านั้น
การต่อสู้
การตีกันใน Hyper Universe นั้นเป็นการโจมตีด้วยสกิลเป็นหลักควบคู่กับการกดโจมตีธรรมดาๆ โดยแต่ละสกิลก็จะมีผลแตกต่างกันไป บ้างก็เป็น Passive ไม่ต้องกดใช้ก็แสดงผล บ้างก็ต้องกดใช้ บ้างก็เป็นท่าไม้ตาย
สกิลต่างๆ ก็จะมีค่า Mana อยู่ซึ่งบางสกิลก็ฟรีเลย บางสกิลก็เผามันสิ้น ซึ่งค่า Mana นี้จะค่อยๆ ฟื้นอย่างช้าๆ และการโจมตีธรรมดาจะช่วยเพิ่มค่า Mana ให้เช่นกัน ดังนั้นอย่ามองข้ามการโจมตีธรรมดาเชียว
► Effect / Debuff
นอกจากนี้แล้ว สกิลต่างๆ นั้นไม่ใช่แค่ว่าจะสร้างความเสียหายได้ ปกติสกิลมักจะมาด้วยความสามารถอื่นๆ ตามแต่หน้าที่ของสายนั้นๆ อีกด้วย
Crowed Control (CC) เป็นคุณสมบัติที่ทำให้เป้าหมายขยับหรือเคลื่อนไหวลำบาก ทำอะไรไม่สะดวก
- Stun, Freeze จะทำให้เป้าหมายขยับหรือโจมตีไม่ได้ชั่วคราว
- Knock Up ทำให้เป้าหมายลอยขึ้นไป โจมตีหรือขยับไม่ได้
- Knock Down ทำให้เป้าหมายล้มลง โจมตีหรือขยับไม่ได้
- Push ทำให้เป้าหมายขยับไปยังทิศที่กำหนด
- Pull ทำให้เป้าหมายขยับมายังทิศทางที่กำหนด
- Bind ทำให้เป้าหมายขยับไม่ได้ แต่ยังโจมตีได้
- Blind ทำให้การโจมตีพลาดเป้า
- Frostbite, Slow ทำให้ความเร็วการเคลื่อนที่ลดลงตามที่กำหนด
- Grapple ท่าพิเศษที่ทำให้เป้าหมายหนีไม่ได้ ขยับหรือโจมตีไม่ได้
- Hit Stun ผลพิเศษที่ไม่ได้นับว่าเป็น stun แต่ใกล้เคียงกันและระยะเวลาสั้นกว่ามาก
► Effect อื่นๆ
- Burn, Poison, Bleed ทำความเสียหายต่อเนื่องในช่วงเวลาที่กำหนด
- Evade หลบหลีก ทำให้การโจมตีที่เข้ามานั้นพลาดเป้า รวมถึงสกิลที่ต้องโดนถึงจะส่งผลก็จะไม่เกิดผล ยกเว้นสกิลที่ใช้บนพื้นที่อย่าง Slow
- Lifesteal การโจมตีจะดูดเลือดมาเพิ่มให้ตัวเองตามที่กำหนด
- Heal ฟื้นฟูพลังชีวิตทันที
- Regeneration ฟื้นฟูพลังชีวิตอย่างต่อเนื่อง
การคุมพื้นที่
การคุมพื้นที่เป็นอีกอย่างหนึ่งในหลักการเล่น Hyper Universe และแต่ละคนก็จะมีความสามารถในการคุมพื้นที่ต่างกัน
► คุมพื้นที่เลน
สายโจมตีระยะไกล : เน้นกำจัดศัตรูจากระยะไกล จำกัดการเคลื่อนที่ของอีกฝ่ายไม่ให้รุกล้ำเข้ามาเกินไป
สายโจมตีระยะใกล้ : รวบศัตรูเข้าด้วยกันเพื่อกำจัดอย่างรวดเร็ว หรือดันมายังฝั่งตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายใช้เป็นโล่ป้องกัน ไม่ก็หลอกล่อให้อีกฝ่ายรุกล้ำเข้ามาในเขตที่ตัวเองสามารถเล่นงานได้ หรือแลกหมัดกับคู่ต่อสู้เพื่อเปิดช่องว่างหรือดันให้ล่าถอย
สายซุ่ม : ย่องไปด้านหลังทีมศัตรูหรือบุกจากด้านหน้าในจุดที่คาดไม่ถึง ใช้สกิลเพื่อกดดันให้อีกฝ่ายรวน
► คุมป้อมปราการ
สายโจมตีระยะไกล : หลอกล่อให้ศัตรูเข้ามาในระยะทำการของป้อมเพื่ออาศัยป้อมเป็นตัวช่วย ในทางเดียวกันก็ต้องป้องกันไม่ให้ถูกดึงออกไปจากระยะป้อมเช่นกัน หรือโจมตีป้อมศัตรูจากระยะไกลเพื่อให้มีจังหวะล่าถอย
สายโจมตีระยะใกล้ : ดึงหรือผลักให้ศัตรูเข้ามาหรือออกไปจากระยะของป้อมตามสถานการณ์ การจับศัตรูไว้ในระยะของป้อมนั้นจะเป็นอะไรที่ยอดเยีย่มมาก เนื่องจากหากไม่บาดเจ็บหนักก็มักจะถึงตายได้เลย
สายซุ่ม : อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายเผลอในการแทรกเข้าระหว่างกลาง กดดันให้อีกฝ่ายต้องหนีกลับหรือลอบโจมตีป้อมทีเผลอ, ช่วยเสริมการโจมตีของเพื่อนร่วมทีมที่กำลังบุกหรือถอย
► การคุมป่า
สายโจมตีระยะไกล : อยู่บริเวณขอบๆของมุมที่มองไม่เห็นเผื่อปิดช่องทางหรือโจมตีจากนอกระยะสายตา
สายโจมตีระยะใกล้ : กดดันอีกฝ่ายไม่ให้ฟาร์มในป่าได้สะดวก หรือทำการแย่งมอนออกมาให้เพื่อนร่วมทีมไม่ก็ปล้นมันซะเอง
สายซุ่ม : ใช้ที่ซ่อนให้เป็นประโยชน์ ปิดช่องทางหนีหรือตัดกำลังเสริม ลอบโจมตีจุดอื่นหรือตัดกำลังคนที่กำลังไล่ล่าทีมตัวเอง
การเอาชนะ
หลักๆ จะมีอยู่ 3 อย่างที่ทำให้ชนะได้เมื่อทั้งสองทีมสูสีกัน
ป่า! : การคุมป่าได้นั้นจะเป็นจุดที่ใช้คุมเกมได้ดีมาก เนื่องจากทรัพยากรที่มีจำกัด เวลาในช่วงต้นเกมที่มีค่ามากๆ สำหรับคนที่ธุดงในป่านั้น หากโดนแย่งหรือถูกฆ่า แทบจะทำให้เป็นรองไปยาวๆ ส่งผลมากต่อเวลาปะทะกันเป็นอย่างยิ่ง
บอส : บอสนั้นหากกำจัดได้สำเร็จจะเพิ่มบัพที่ส่งผลช่วยเหลือได้ดีมาก โดยเฉพาะในสภาพที่รุกก็ไม่ขึ้น รับก็ไม่เกิดอะไรกันทั้งสองฝ่าย การมีอะไรมาเสริมนั้นจะช่วยให้กระแสของเกมเปลี่ยนได้ในทันที แต่ก็นั่นแหละ ถ้าการสู้บอสแล้วเสียหายมากกว่าได้ก็ไม่ได้ช่วยอะไร
ชนะในการต่อสู้ : แน่นอนว่าย่อมเป็นอะไรที่โคตรพื้นฐานเลย ในเกมที่สูสีกันนั้น การแพ้ชนะเล็กๆ ก็อาจจะส่งผลต่อรูปเกมทั้งหมดได้ ไม่ต้องพูดถึงการฟาดกันยับยกทีมแล้วบุกเป็นน้ำหลากจนป้อมกระจุยหรอก การชนะในการต่อสู้ย่อยๆ จะทำให้มีเงินนำอีกฝั่งได้ แม้จะเล็กน้อยแต่เมื่อสะสมมากเข้าย่อมทำให้ไอเท็มนำอีกฝ่ายได้มาก และในช่วงท้ายเกมนั้น การพลาดตายในการต่อสู้ย่อยๆ นั่นหมายถึงกำลังรบที่ขาดไปช่วงระยะเวลาหนึ่งเต็มๆ ส่งผลให้การถูกบีบให้ปะทะกันเป็นอะไรที่ลำบากมากขึ้นอีกด้วย