Assassin คลาสสายทำดาเมจสุดเท่ สกิลอลังการ ความพริ้วที่เหนือกว่าทุกคลาสในเกม เชื่อว่าเมื่อพูดถึง Assassin หลายคนอาจจะติดภาพคลาสลอบสังหารในลุคการโจมตีกายภาพ คริหนักๆ ใช้มีดสั้นเป็นอาวุธ แต่ไม่ใช่ในเกมนี้ เพราะคลาสนี้คือเมจมือสังหารนั่นเองครับ
Assassin (DPS)
ตำแหน่งหน้าที่: ตัวทำดาเมจ
ระยะโจมตี: ใกล้/ไกล
ค่าสถานะที่จำเป็น: CON, INT, DEX
สกิล
ด้วยสกิลของ Assassin จะทำให้สามารถสลับโหมด โจมตีได้ทั้งระยะไกลและใกล้ ชุดสกิลของคลาสนี้จะแบ่งออกเป็นสองชุดครับ
Hunt – โจมตีระยะไกล
- Prelude Dawn – ทำดาเมจเวทย์แก่ศัตรูสูงสุด 5 ตัว
- Dark Rhapsody – โยนวงเวทย์ slow อีกฝ่าย 30% เป็นเวลา 12 วิ
- Nocturne Luna – โยนกรงจักรเวทย์มนต์ใส่ตำแหน่งของศัตรู 4 วินาที ทำดาเมจเวทย์ต่อเนื่องสูงสุด 5 ตัว หลังจาก 4 วินาที จะระเบิดออกและสร้างดาเมจเวทย์มหาศาล เมื่อกดใช้สกิลนี้ หากกดใช้สกิล Moon Shadow จะเป็นการเทเลพอร์ตไปหาเป้าหมาย
- Moon Shadow – เมื่อกดใช้ Nocturne Luna จะระเบิดทันที สร้างความเสียหายเวทย์ แก่ศัตรูสูงสุด 5 ตัว
- Crystal Coffin – ใช้คริสตัลสร้างเกราะป้องกันทุกด้านเมจและทุกเอฟเฟค แต่จะไม่สามารถเคลื่อนที่และใช้สกิลได้เป็นเวลา 8 วินาที หรือสามารถกดยกเลิกได้
- Dark Hunt – สลับไปโหมด Dark Shadow เมื่อกดใช้งานจะทำการล่องหน ไม่โดนสกิลควบคุม และเพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ 30% เป็นเวลา 5 วินาที
Dark Shadow – โจมตีระยะใกล้
- Soul Fissure – สร้างความเสียหายเวยท์แก่ศัตรูสูงสุด 5 ตัวด้านหน้า พร้อมทั้ง slow 30% เป็นเวลา 3 วินาที
- Shadow Dart – ปาลูกดอก 3 อันเพื่อทำดาเมจเวทย์แก่ศัตรูและทำให้ติด Nether Mark เป็นเวลา 10 วิ เมื่อโจมตีแบบธรรมดา จะทำให้คูลดาวน์สกิลนี้ลดลงครั้งละ 0.3 วินาที
- Shadow Strike – พุ่งเข้าหาศัตรูพร้อมทำดาเมจเวทย์แก่ศัตรูสูงสุด 5 ตัว หากศัตรูติด Nether Mark จะทำให้คูลดาวน์สกิลนี้ถูก reset (พูดง่ายๆ ว่าถ้าศัตรูติด Nether Mark จะทำให้สกิลนี้กดได้สองครั้งติด)
- Obsidian Edge – สร้างผลึกหินโจมตีใส่ศัตรู ทำดาเมจเวทย์เป็นวงกว้าง หากศัตรูติด Nether Mark จะทำให้สกิลนี้แรงขึ้น 50% และติดดีเลย์ 2 วินาที
- Void Storm – สลับไปโหมด Hunt การเพิ่มดาเมจการโจมตีปกติ และเปลี่ยนเป็นการโจมตีระยะไกล
Talent
C – Level
- Triple Variation – เมื่อ Multistrike: Earthquake ติด เพิ่มดาเมจเอฟเฟค
- Heroic Sonata – ทุกๆ 10% ของ HP ที่เหลืออยู่ เพิ่มดาเมจ 1% และ ทุกๆ 10% ของ HP ที่หายไป ลดดาเมจ 1%
- Triple Variation – เมื่อทำดาเมจใส่ศัตรูที่ติด Hunt Mark คูลดาวน์ของทุกสกิลในโหมด Dark Shadow ลดลง 1 วินาที เอฟเฟคนี้เกิดขึ้นทุก 0.5 วินาที
B – Level
- Crystal Sonata – สกิล Dark Rhapsody จะเสกคริสตัลที่ระเบิดเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ทำดาเมจเวทย์แรงขึ้นและติดดีเลย์ 1.2 วิ
- Moon Serenade – หาก Moon Shadow โจมตีโดนศัตรู ลดคูลดาวน์สกิล Moonlight 5 วินาที และเพิ่มดาเมจสกิล Moonlight 40% เป็นเวลา 20 วินาที
- Dissonance – ทุกครั้งที่ติด Multistrike: Earthquake มีโอากส 20% ที่จะทำให้ศัตรูติด Nether Mark
A – Level
- Echo of Soul – Dawn และ Soul Fissure จะทำให้โอกาสติด Multistrike: Earthquake เกิดเป็น 2 เท่า
- Requiem – Crystal Coffin จะรีเซ็ตคูลดาวน์ของ Moonlight
- Funeral Bells – Dark Hunt และผลของการล่องหนจะอยู่นานขึ้น 3 วินาที และเมื่อเลิกล่องหน การใช้ Soul Fissure ครั้งต่อไปจะลดเกราะเวทย์ของอีกฝ่าย 30% เป็นเวลา 5 วินาที และทำให้ติดดีเลย์ 2 วินาที
S – Level
- Nibelungen Song – เมื่ออยู่ในโหมด Dark Shadow, Multistrike: Earthquake จะสร้างโล่ช่วยรับดาเมจให้กับตัวเรา และเมื่ออยู่ในโหมด Hunt Multistrike: Earthquake จะมีโอกาส 20% ทำดาเมจเวทย์แก่ศัตรู
- Death Aria – Obsidian Edge เพิ่มความเสียหายเวทย์ที่อีกฝ่ายได้รับ 25% เป็นเวลา 5 วินาที หากศัตรูติด Nether Mark สกิลจะไม่ถอด Mark ออก และรีเซ็ต Nether Mark ให้เหลือ 10 วิ แทน
- Last Waltz – เมื่ออยู่ในโหมด Dark Shadow ทำดาเมจเพิ่มเติม 25% ใส่เป้าหมายที่มีเลือดต่ำกว่าหรือเท่ากับ 20%
แนวทางการเลือกใช้ Talent
ปัจจุบันเซ็ตที่ผมใช้อยู่เป็นตามนี้เลยครับ
C – Level: Heroic Sonata จากที่ลองมารู้สึกว่าโกงนิดๆ เพราะถ้าเลือดเต็มหลอด ก็ตีแรงกว่าปกติ 10% หรือถ้าเลือดต่ำกว่าครึ่งหลอด ก็โดนดาเมจน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ถ้าโดนพวกที่มานั่งเกาช่วงเลือดครึ่งหลอดเลือดก็ลดลงช้ากว่าเดิมเยอะมากเลยครับ
B – Level: Crystal Sonata อันนี้แรงดีเฉยๆ เลยเลือกมาครับ
A – Level: Requiem ส่วนตัวชอบสกิล Crystal Coffin มากๆ ในช่วงชุลมุนนี่กดทิ้งไว้รอคนอื่นสาดสกิลกันจนเสร็จ ค่อยไล่ฆ่าคนอื่นต่อ พอเค้าคูลดาวน์เสร็จเราก็กดใช้ใหม่ได้เลย โกงดี
S – Level: Death Aria อันนี้เห็นได้ชัดเลยว่าทำให้เราสแปม Obsidian Edge ใส่ศัตรูได้ จริงๆ อีกตัวเลือกนึงที่น่าสนใจคือ Last Waltz ครับ ข้อเสียของ Death Aria คือมันเป็นการจำกัดว่าเราต้องใช้แต่สกิลเดิม แต่แลกกับสแปมสกิลได้ก็คุ้มนิดนึง
ส่วนตัวผมไม่เล่นสาย Multistrike: Earthquake เลยนะครับ รู้สึกมันไม่ได้เหมาะกับสู้กับคนขนาดนั้น เหมาะกับเคลียมอนมากกว่า แต่ทั้งนี้เป็นเพียงความชอบของผมเองนะครับ สามารถนำไปปรับใช้ตามความชอบกันได้เลย
แนวทางการเล่น Assassin
ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าความยืดหยุ่นของ Assassin นั้นมีสูงมาก จะสู้ระยะใกล้ก็ได้ ใกล้ก็ได้ และดาเมจยังสูงมากอีกด้วย ทำให้เมื่อเทียบกับ Gunslinger แล้ว ดาเมจถือว่าจัดจ้านพอๆ กันเลยครับ แต่ส่วนตัวผมยังรู้สึกว่าการโจมตีระยะไกลของ Assassin ก็ไม่ได้ไกลขนาดนั้น ทำให้การโดน Blade Master พุ่งมาจับตัวนั้นเป็นเรื่องที่ปกติมากครับ หรือในบางครั้งการล่าบอสที่ต้องอาศัยระยะในการโจมตี ไม่สามารถประชิดตัวได้ ก็แอบๆ เสียจังหวะการโจมตีไปพอสมควรเลยครับ
สำหรับการ PvE
อย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้ครับ หากเราแค่พาไปลงดันธรรมดา แน่นอนว่าการปล่อยออโต้ไว้ ไม่ทำให้ผิดหวังอีกเช่นเคย แต่หากไปล่าบอสหรือลง Doom บอกเลยว่ายากกว่า Gunslinger ซะอีกครับ เราจะต้องเล่นมือทั้งหมด เพราะหากเราปล่อยออโต้ไว้ เมื่อตัวละครเราสาดสกิลระยะไกลจนหมด มันจะเปลี่ยนไปประชิดตัวศัตรูโดยอัตโนมัติ และทำให้เราตัวต้องยืนรับดาเมจเต็มๆ และร่วงง่ายมากครับ
สำหรับการ PvP หรือ GvG
การ PvP แน่นอนว่าตัวที่แพ้ทางคงไม่พ้น Blade Master เพราะด้วยเลือดที่บางเป็นกระดาษ ดาเมจต่อครั้งที่โดนนักดาบหนานรกพุ่งมาจับตัวนั้นไม่เบาเลย จึงไม่แปลกที่เราจะพยายามเลี่ยงการปะทะกับ Blade Master ครับ เนื่องจากดาเมจที่จัดจ้าน สกิลที่อำนวยต่อการล้วง และความยืดหยุ่นในเรื่องระยะการโจมตี ทำให้เป้าหมายในการปะทะของเรา ส่วนใหญ่แล้วจะเป็น Gunslinger ครับ เรียกว่าชนะทางแบบขาดลอยเลยก็ว่าได้ ส่วน Soul Dancer ส่วนตัวผมคิดว่าก็มีโอกาสชนะอยู่บ้าง แต่อาจจะเข้าถึงตัวยากมาก เพราะสกิลของ Soul Dancer นั้นปกป้องตัวเองได้ในระยะใกล้-กลาง ซึ่งเป็นระยะโจมตีของตัวเรา อาจจะวัดกันที่สเตปเลยครับ สำหรับการปะทะกันของสองคลาสนี้
Gear/ของสวมใส่
ค่าสถานะที่เราจะให้ความสำคัญเป็นหลักในคลาสนี้คือพลังโจมตีเวทย์ และ Multistrike ครับ ส่วนพวกค่าสถานะอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความเก่งเหมือนกันได้แก่ CON เพิ่มเลือด INT เพิ่มพลังโจมตีเวทย์ DEX เพิ่มพลังโจมตีเวทย์และ Multistrike INS เพิ่มพลังโจมตีเวทย์ และลดคูลดาวน์
สรุปแล้วการอัพ INT/DEX เป็นอะไรที่จะช่วยให้ตัวเราโหดขึ้นอย่างมหาศาลเลยครับ แต่อย่าลืมลงเลือดด้วย ไม่อย่างนั้นรับรองว่าแรงจริงแต่โดนทีเดียวหน้าโยกเช่นกันครับ
Core
สำหรับการใส่อัญมณี คล้ายกันกับ Soul Dancer ผมจะเน้นไปไปที่พลังโจมตีเวทย์เป็นหลักเลยครับ และหินที่ให้พลังโจมตีเวทย์สูงสุดคือสีแดงนั่นเอง รองลงมาเป็นสีเขียว และสุดท้ายห้อยเลือดไว้ให้ได้ยืนนานขึ้น
9 ไฟ/แดง | 5 ลม/เขียว | 2 ดิน/เหลือง
ผมคิดว่าสีฟ้าหรือการลดคูลดาวน์ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นสำหรับคลาสนี้เพราะ Talent และสกิลค่อนข้างอำนวยในเรื่องนี้อยู่แล้ว จึงโถมมาที่ดาเมจเวทย์เป็นหลักครับ