Back 4 Blood กลับมาต่อกันกับเกมซอมบี้ตัวใหม่ยอดนิยมกันเลยดีกว่า หลังจากก่อนหน้านี้ผมได้แนะนำถึงตัวเกมไปคร่าวๆ แล้ว ซึ่งหลายคนอาจตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะซื้อเกมดีหรือไม่ล่ะนะ ในคราวนี้ผมเลยจะมาแนะนำกันต่อในส่วนของวิธ๊การเอาตัวรอดนั่นเอง
โดยจะมาในบทความของ “เทคนิคเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้” เราต้องทำยังไงถึงสามารถเอาตัวรอดจากเหล่าผีดิบพวกนี้ได้ หรือต้องทำยังไงถึงจะฝ่าฟันไปจนถึงเป้าหมายได้ทัน เอาเป็นว่าเรามาเริ่มกันเลย
Back 4 Blood เทคนิค เพื่อเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้
ทีมเวิร์คและการสื่อสารคือสิ่งสำคัญ
หากใครไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนอาจสงสัยว่า “มันก็แค่เกมยิงผีไม่ใช่หรอ? ทำไมมันต้องใช้ทีมเวิร์คอะไรขนาดนั้นเลยรึไง?” แต่ถ้าหากใครได้เข้ามาลองกับ Back 4 Blood แล้วล่ะก็จะรู้ได้เลยว่าเกมนี้เล่นค่อนข้างยาก และต้องใช้ความร่วมมือหรือทีมเวิร์คในระดับนึงเลยทีเดียว
อย่างแรกเลยที่ต้องระวังคือ “การทำดาเมจใส่เพื่อน” หรือ “Friendly – Fire” ซึ่งภายในเกมนี้มีการปรับดาเมจค่อนข้างสูง บางทีเผลอๆ ลั่นกระสุนเข้าหัวเพื่อนไม่ตั้งใจเพียงนัดเดียวก็สามารถทำให้พวกเขาลงไปนอนคุยกับพื้นได้แล้ว ทำให้ในตรงส่วนนี้เราต้องใช้ความระวังอย่างมาก รวมทั้งยังต้องอาศัยการสื่อสารซึ่งกันและกันอีก เช่นบอกให้คนนำหน้าคอยกดนั่งไว้ด้านหลังจะได้ไม่ยิงโดนหัวเป็นต้น
อย่างที่สองคือเรื่องของ “กระสุน” ใน Back 4 Blood นี้กระสุนจะไม่รวมเป็นประเภทเดียวกันเหมือนเกมอื่นๆ นะ แต่จะมีการแบ่งหมวดหมู่ออกเป็นกระสุน Assault Rile, Sub – Machine Gun, Shotgun และ Sniper แถมจำนวนยังค่อนข้างมีจำกัดเลยด้วยบางทียิงๆ อยู่ไม่ระวังรู้ตัวอีกทีกระสุนก็ไม่พอใช้แล้ว ซึ่งในตรงนี้เราสามารถบอกให้เพื่อนช่วยโยนกระสุนมาให้เรา ในขณะเดียวกันเพื่อนก็ขอให้เราแบ่งให้ได้ด้วยเช่นกัน เมื่อกระสุนเหลืออยู่ทีนี้เราก็ลุยกันต่อได้ยาวๆ เลยล่ะ
นอกจากนี้บางด่านเองยังมีภารกิจให้ทำที่โหดหินมากต้องแบ่งหน้าที่กันไปทำในแต่ละจุด ทำให้ในส่วนของ “ทีมเวิร์ค” และ “การสื่อสาร” จึงนับว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับเกมนี้เลยล่ะ
คอยระวังตัวอยู่เสมอ
หนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้เราและทีมสามารถตายได้ง่ายๆ เลยคือ “ความประมาท” นั่นเองครับ ซึ่งนี่เองก็นับว่าเป็นสาเหตุหลักอันดับต้นๆ เลยที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนฝ่าไปไม่ถึงเส้นชัยนั่นเอง
ด้วยว่าภายใน Back 4 Blood นี้ เวลาเริ่มด่านใหม่แต่ละทีตัวเกมมักเริ่มด้วยอะไรง่ายๆ มีเพียงเหล่าซอมบี้กระจอกๆ วิ่งมาให้เรายิงเล่นแค่นั้น ซึ่งบางครั้งมันก็ทำให้เรารู้สึกว่า “ง่ายเกินไปรึเปล่านะ?” ทำให้หลายๆ คนไม่ค่อยได้ระวังตัวและประมาทขึ้นมา ก่อนตัวเกมจะค่อยเพิ่มระดับความยากแบบก้าวกระโดดทำให้หลายคนตั้งตัวไม่ทัน
โดยถ้าใครที่เล่นแบบไม่ระวังพอถึงเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นกระสุน ยา หรือระเบิด รู้ตัวอีกทีคือไม่มีอะไรเหลือแล้ว ทำให้พอพวกซอมบี้พิเศษโผล่มาเราจะสู้ไม่ได้เลยสุดท้ายก็คือได้แต่ลงไปหมอบกับพื้นแล้วคุยกับรากมะม่วงแทน ดังนั้นทางที่ดีเราควรแบบระวังตัวอยู่เสมอนั่นเองครับ
ระวังเรื่องการเลือกตัวละคร
จากบทความก่อนหน้านี้ผมเคยแนะนำเรื่อง “ตัวละคร” พวกเขาแต่ละคนจะมีสกิลแตกต่างกันไป โดยสกิลเหล่านี้นี่ล่ะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่กำหนดความเป็นตายของเราและทีมได้เลยล่ะนะ
ยกตัวอย่างให้เห็นชัดง่ายๆ เลยก็ตัวละครของ Back 4 Blood อย่าง คุณแม่ Mom – ชุบเพื่อนขึ้นมาได้ทันที, คุณหมอ Cleaner – ฮีลเพื่อนที่เลือดน้อยโดยไม่ต้องใช้ของ หรืออย่าง ป๋า Hoffman – เพิ่มจำนวนกระสุนที่ทีมแบกได้ โดยแต่ละคนจะสกิลและข้อดีแตกต่างกันไป การเลือกตัวละครให้ซัพพอร์ตซึ่งกันและกันได้จะช่วยทำให้เรารับมือกับพวกซอมบี้ตัวพิเศษง่ายมากเลยล่ะ
ดังนั้นเวลาเข้าหน้าเลือกตัวอย่าพึ่งรีบเลือกแต่อย่างใด ให้ลองดูก่อนว่าทีมเล่นตัวไหนบ้าง แล้วเราค่อยเลือกตำแหน่งที่ขาดจะเกิดประโยชน์ได้มากกว่า
เลือกการ์ดให้ดีให้เหมาะสม
“ระบบการ์ด” หรือ “Card System” ใน Back 4 Blood นั้นเปรียบเสมือนฟีเจอร์แกนกลางสำคัญของตัวเกมเลยก็ว่าได้ ซึ่งการ์ดเหล่านี้เราเลือกมาใช้สำหรับการเพิ่มความสามารถและสกิลให้กับตัวละครของเราเอง ดังนั้นการเลือดการ์ดให้ดีจะช่วยทำให้เราไปได้ไกลมากเช่นกัน
ยกตัวอย่างถ้าเพื่อนๆ ต้องการเล่นพวกตัวละครสาย “ซัพพอร์ต” หรือ “หมอ” การเลือกการ์ดประเภทเพิ่มช่องเก็บของก็จะช่วยให้เราขนยาได้มากขึ้นรักษาเพื่อนได้บ่อยขึ้น หรือใครเล่นสาย “บู๊แหลก” จัดเต็ม หาการ์ดเพิ่มจำนวนกระสุนหรือลดเวลารีโหลดก็จะช่วยให้เรายิงได้ต่อเนื่องไม่ขัดจังหวะอีกด้วย
ซึ่งการเลือกการ์ดนี่มีความสำคัญไม่น้อยหน้าตัวละครของเราเลย ดังนั้นควรคิดให้ดีก่อนเลือกการ์ดเสมอ รวมทั้งต้องคอยระวังการ์ด Corruption ที่โผล่ออกมาในแต่ละรอบด้วยเสมอนะ
คอยพก Toolkit ไว้เสมอ
เวลาเราแวะร้านขายของเพื่อนๆ จะเลือกซื้อระเบิด เติมกระสุน ซื้อปืนใหม่ หรือของแต่งปืนก็ได้ตามใจชอบเลยครับ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้พกเอาไว้เสมอเลยนั่นก็คือ “Toolkit” นั่นเอง
แล้วไอเจ้า Toolkit นี่มันมีประโยชน์ยังไงล่ะ? ด้วยว่าเวลาเล่นภายในเกม Back 4 Blood นี้ ตามด่านต่างๆ มักมี “ห้องลับ” ซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งอยู่เสมอ ซึ่งเราสามารถเข้าไปยังด้านในห้องนี้ได้ต้องอาศัยเจ้าเครื่องมือดังกล่าวนั่นเอง โดยภายในห้องนี้จะเหมือนกับขุมทรัพย์เลยก็ว่าได้
ภายในห้องนั้นเพื่อนๆ ผมจะพบได้ทั้งกระสุนจำนวนมาก ของใช้และยารักษาต่างๆ การ์ดความสามารถ ไปจนถึงบางครั้งยังมีพวกปืนหายากๆ โผล่ออกมาให้เราเก็บกันอีกด้วย ซึ่งมันสามารถช่วยให้เราฝ่าฝูงซอมบี้ได้ง่ายขึ้นแบบสุดๆ ไปเลยล่ะ ดังนั้นควรพวก Toolkit ไว้เสมอ ไม่จำเป็นต้องมีทุกคนหรอกแค่อย่างน้อยสักคนในทีมมีไว้ก็พอแล้วล่ะ
เล็งเป้าหมายที่ควรกำจัดก่อนเสมอ
อีกหนึ่งเทคนิคการเอาตัวรอดแนะนำเลยคือ “เลือกกำจัดเป้าหมายที่ควรกำจัดก่อนเสมอ” ซึ่งเป้าหมายในที่นี้หมายถึงพวกซอมบี้ชนิดพิเศษพวกตัวร้ายที่ทำให้เราตายได้ง่ายๆ เจ้าพวกนั้นนั่นแล่ะ
ไม่ว่าพวกมันจะเป็น Tallboys, Stingers, Reeker หรือตัวไหนก็ตามแต่ ถ้ามันไม่ใช่พวกซอมบี้ลูกกระจ๊อก ให้เรารีบยิงมันพวกมันก่อนเป็นอันดับแรกเลยครับ ด้วยว่าซอมบี้เหล่านี้แต่ละตัวจะมีความสามารถพิเศษแตกต่างกันไป บ้างก็โจมตีระยะไกลได้ บางตัวสามารถยกเราให้ลอยพร้อมให้ซอมบี้ตัวอื่นตบซํ้าอีก ไปจนถึงบางตัวทุบเราเพียงครั้งเดียวร่วงลงไปนอนกับพื้นเลยก็มี
ถ้าหากว่าเราปล่อยให้ซอมบี้เหล่านี้ไว้นานๆ พวกมันอาจไล่เก็บทีมเราไปทีละคน จนสุดท้ายก็จะไม่มีใครเหลือรอดและทำให้เราเกมโอเวอร์นั่นเอง
Back 4 Blood เทคนิค ทั้งหมดนี้ใช้ในการเอาตัวรอดพื้นฐานคร่าวๆ ถ้าหากเพื่อนๆ อยากเล่นให้รอดถึงตอนจบจริงอาจจำเป็นต้องใช้ฝีมือและความพยายามมาร่วมด้วยล่ะครับ เอาเป็นว่าถ้าเกิดใครมีทริคหรือเทคนิคการเอาตัวรอดดีๆ แนะนำก็สามารถคอมเมนต์ไว้ได้เช่นเคยนะ แล้วไว้เราค่อยกลับมาพบกันอีกครั้งกันในเกม Back 4 Blood นั่นเองครับ