ก่อนที่ตัวเกม Birdie Crush จะทำการอัปเดตแพทช์ใหม่เข้ามานั้น ตัวละครทุกตัวภายในเกมมีค่าสเตตัสเท่ากันและมีเพียงแค่ 3 ค่าสเตตัสเท่านั้น ซึ่งในแพทช์ปัจจุบันปรับเพิ่มค่าสเตตัสเป็น 5 อย่าง และทุกตัวละครภายในเกมยังมีค่าสเตตัสไม่เท่ากันอีกด้วย แล้วแต่ละตัวละครควรควรเน้นไปค่าสเตตัสไหนดี วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปหาคำตอบกันครับ ไปลุยกันเลย!
ค่าสเตตัส
ก่อนที่จะไปในส่วนอื่นๆ ผมอยากแนะนำให้รู้จักก่อนว่าตอนนี้ตัวเกมมีทั้งหมดกี่ค่าสเตตัสรวมถึงความหมายของแต่ละอันด้วย
ภาพ | ชื่อ | คำอธิบาย |
Driving Distance | ระยะของการตีลูก ยิ่งเยอะยิ่งตีได้ไกล | |
Accuracy | ค่าความแม่นยำมีมากเท่าไหร่ก็ตีลูกได้ลงจุดได้ตามใจต้องการ | |
Swing Zone | ค่าความกว้างของเกจบาร์ ยิ่งอัพเยอะแถบเกจจะยิ่งกว้างขึ้นทำให้ตีได้ง่าย | |
Mentality | ยิ่งหัวใจเยอะเส้นตอนตีในพื้นอื่นๆ จะวิ่งช้าลงทำให้ตีได้ง่ายขึ้น | |
Putt | บอกเส้นระยะตอนตีลูกพัตต์ ยิ่งมีเยอะก็ยิ่งเห็นเส้นได้ไกลขึ้น |
จุดเด่น / ด้อย ของตัวละคร
Erin G. Bridd: มึค่า Swing Zone สูง แต่ค่า Mentality จะค่อนข้างต่ำ ทำให้เกจบาร์เคลื่อนที่เร็วตีได้ยากเมื่อตกพื้นที่นอก Fair way
Kris Lowell: ค่าสเตตัสจะข่อนข้างดีไม่มีอันไหนต่ำและสูงเกินไป จัดว่าเป็นตัวค่อนข้างสมดุล แต่เกจบาร์จะเคลื่อนที่เร็ว รวมถึงเส้นไกด์ตอนพัตต์ค่อนข้างสั้นทำให้กะระยะได้ยาก
Lucie de Bei: ค่าความแม่นยำสูงจนมิดหลอด แต่ค่าสเตตัสอื่นๆ จะค่อนข้างต่ำ ทำให้ตีไม่ค่อยไกล โอกาศตีติดเพอร์เฟคน้อย
Martina Glow: มีค่า Driving Distance และค่า Mentality สูง แต่ไม่ค่อยแม่นยำและตีติดเพอร์เฟคได้ยาก
สังเกตุได้ว่าแต่ละตัวละครนั้นถึงแม้ว่าจะมีค่าสเตตัสที่โดดเด่นแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถละเลยในการเพิ่มสเตตัสส่วนอื่นๆ ได้
อัพค่าไหนดี
โดยหลักๆ แล้วจะให้เน้นไปตรงค่าที่ตัวละครเรามีน้อยสุดก่อน เพื่อให้เล่นได้ง่ายขึ้น หลังจานั้นตามด้วยค่าอื่นๆ
- Erin G. Bridd:ควรจะหาอุปกรณ์เพิ่มค่า Mentality เป็นหลักแล้วค่อยตามด้วย Putt และ Driving Distance
- Kris Lowell: ควรจะหาอุปกรณ์เพิ่มค่า Mentality และ Putt เป็นหลัก เพื่อให้ตีได้ง่ายขึ้นและเส้นพัตต์ที่ชัดเจน
- Lucie de Bei: หาอุปกรณ์เน้นไปทาง 4 ค่าที่เหลือ Driving Distance , Swing Zone , Putt และ Driving Distance จะทำให้เล่นได้ง่ายขึ้น
- Martina Glow: หาอุปกรณ์ที่จะเพิ่ม Accuracy และ Swing Zone เป็นอันดับแรกก่อนค่อยไปเสริมในส่วนของค่า Putt
Character Upgrade
โดยแบ่งออกเป็น 2 หัวขอด้วยกันคือ Train และ Trait
Train
ในการอัพสกิลในส่วนนี้แต่ละตัวละครมีลำดับการจัดเรียงในรูปแบบ Skill Tree คล้ายๆ กับกิ่งไม้ ทุกตัวละครมีการให้อัพเกรดในหน้าตาที่คล้ายกันแต่การจัดเรียงอันดับต่างกัน ซึ่งมีให้เลือกในการอัพว่าเราจะต้องการอัพเกรดค่าไหนก่อน แนวทางการอัพเกรดจะเหมือนกับหัวข้อ อัพค่าไหนดี
Trait
ในส่วนนี้จะปลดล็อคเมื่อเลเวลตัวละครถึง 20 และได้มาทุกๆ 5 เลเวล เช่น เมื่อถึงเลเวล 20 จะได้มา 1 แต้ม หลังจากนั้นเมื่อเลเวล 25 ก็ได้มาอีก 1 แต้ม และไม่สามารถทำการเลือกเพื่ออัพเกรดได้ แต่เป็นการสุ่มแทน มีทั้งหมด 9 อันให้อัพ
นอกจากทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว ในเลเวล 10 , 30 และ 50 เราจะปลดล็อคสกิลประจำตัวของตัวละครนั้นๆ และเพื่อนๆ สามารถเช็คค่าสเตตัสของตัวเองแบบละเอียดได้ในหัวข้อ Character
จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Birdie Crush TH