Playpost
  • Home
  • PC News
  • Console News
  • Mobile Guide
  • PC Guide
  • Console Guide
  • เล่นเกม
  • ไทย
No Result
View All Result
  • Home
  • PC News
  • Console News
  • Mobile Guide
  • PC Guide
  • Console Guide
  • เล่นเกม
  • ไทย
No Result
View All Result
Playpost
No Result
View All Result

Home » Blade and Soul : PvP มีแบบไหนบ้างและมีอะไรที่เราควรรู้

Blade and Soul : PvP มีแบบไหนบ้างและมีอะไรที่เราควรรู้

by Nimblentfox
1 พฤษภาคม 2017

[vc_row full_width=”stretch_row_content”][vc_column][vc_message]ข้อมูลในบทความอ้างอิงจากเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับของไทยในภายหลังหากชอบใจบทความสามารถมาเป็นกำลังใจและกดถูกใจให้ได้ที่เพจของทีมงานได้ที่ StepPlay[/vc_message][vc_column_text]ใน Blade & Soul นั้นจะมีการแบ่งการต่อสู้ระหว่างผู้เล่น (PvP) ออกเป็นสองแบบคือ World PvP ที่เป็นการต่อสู้กันระหว่างฝ่าย และ Arena PvP ที่เป็นการต่อสู้แบบ 1:1 หรือ 3:3

World PvP (ตีกันในเมือง,ในแผนที่)

ส่วนของ World PvP นั้นจะขึ้นกับความสมัครใจของผู้เล่นโดยตรง และรองรับด้วยระบบการใส่ชุดประจำฝ่ายของตัวเองเพื่อเปิดการ PvP เช่นชุดของ ฝ่ายแดง หรือ ฝ่ายฟ้า

เมื่อทำการใส่ชุดแล้ว ชื่อของผู้เล่นจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและชื่อของผู้เล่นที่ใส่ชุดของอีกฝ่ายก็จะเปลี่ยนด้วยเช่นกัน ผู้เล่นที่ทำการใส่ชุดประจำฝ่ายและจะสามารถทำการ PvP กับผู้ที่ใส่ชุดของอีกฝ่ายได้อย่างอิสระ ตราบใดที่คู่ต่อสู้ใส่ชุดของฝ่ายอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเอง

ผู้เล่นจะไม่สามารถเปลี่ยนชุดได้ระหว่างที่กำลังทำการต่อสู้อยู่ การเปลี่ยนชุดกลับมาเป็นชุดอื่นจะใช่เวลาประมาณ 5 วินาที ในขณะที่การเปลี่ยนชุดเป็นชุดประจำฝ่ายนั้นสามารถเปลี่ยนได้ทันที

ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า World PvP นั้นไม่มีกฎอะไรตายตัว ไม่เสียหรือติดบทลงโทษใดๆเมื่อฆ่าผู้เล่นอีกฝ่ายได้ และการสวมชุดประจำฝายจะทำให้ใช้ Windstride ไปยังที่หมายประจำฝ่ายหรือทำเควสของฝ่ายได้

ค่าตอบแทน

เมื่อเอาชนะ NPC คู่ต่อสู้ต่างฝ่ายในช่วงเลเวลของตัวเอง (ไม่ห่างกันเกิน 3 เลเวล) แล้ว ผู้เล่นจะได้รับแต้ม “คะแนนเกียรติยศ” ซึ่งเป็นแต้มชั่วคราวติดตัวมา แต้มนี้สามารถถูกขโมยได้จากผู้เล่นที่เอาชนะผู้เล่นคนอื่นที่สะสมแต้มนี้ติดตัวไว้อยู่ได้ แต่จะไม่ได้รับจากผู้เล่นที่ไม่มีแต้มนี้อยู่ และแต้มนี้จะหายไปเมื่อทำการถอดชุดออก, ออกจากเกม, เปลี่ยนชาแนล, หรือตาย

แต้ม “คะแนนเกียรติยศ” จะสามารถเปลี่ยนเป็นแต้ม Contribution Points ของฝ่ายตัวเองได้ ซึ่งใช้ในการเลี่ยนยศของผู้เล่นในฝ่ายตัวเอง ผู้เล่นเมื่อเข้าร่วมฝ่ายจะมีระดับ Rank อยู่ที่ 10 และจะค่อยๆเลื่อนมาจนสุดที่ Rank 1 จำนวนแต้ม “คะแนนเกียรติยศ” ที่สะสมได้นั้นจะขึ้นกับระดับยศของผู้เล่นในฝ่าย

*ผู้เล่นสามารถย้ายฝ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะเสียแต้มทั้งหมดและเริ่มต้นที่ Rank 10 ใหม่อีกครั้ง*

ยศของฝ่าย

การทำเควสของแต่ละฝ่ายนั้นจะทำให้ผู้เล่นสะสมแต้มเพื่อเลื่อนยศของตัวเองได้ เควสที่มีเลเวลสูงก็จะใช้ยศที่สูงตามไปด้วย ซึ่งยศก็จะมีตามนี้

ยศฝ่าย Crimson     ยศฝ่าย Cerulean     แต้ม Contribution     แต้ม Prestige ที่สะสมได้     แต้ม Contribution ทั้งหมดที่ต้องใช้

ยศฝ่าย Crimsonยศฝ่าย Cerulean แต้ม Contribution แต้ม Prestige ที่สะสมได้ แต้ม Contribution ทั้งหมดที่ต้องใช้
ผู้เข้าร่วมใหม่ผู้เข้าร่วมใหม่0250
ขั้น 9ขั้น 955025550
ขั้น 8ขั้น 8700251250
ขั้น 7ขั้น 71200503350
ขั้น 6ขั้น 62000505350
ขั้น 5ขั้น 53000508350
ขั้น 4ขั้น 4884010017190
ขั้น 3ขั้น 33696025054150
ขั้น 2ขั้น 246200500100350
ขั้น 1ขั้น 105000
WarbringerMajor05000
ChampionLieutenant
Colonel
05000
ConquerorColonel05000
Titan Lieutenant General05000
SovereignLieutenant General05000

หมายเหตุ : ชื่อยศอ้างอิงจากเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศจะมีการแก้ไขให้ตรงกับไทยภายหลัง


Arena PvP

การต่อสู้ในแบบ 1:1 หรือ 3:3 นั้น ผู้เล่นจะได้รับค่าตอบแทนเป็น “ถั่วเซียน” ซึ่งใช้ในการซื้อของที่เกี่ยวกับการ PvP เป็นหลัก รวมถึง Skillbooks และ Soulstones อีกด้วย การเข้าร่วม Arena PvP นั้นสามารถเข้าร่วมผ่านทาง “แมตช์อารีน่า” กด F8 และจะมีข้อจำกัดต่างๆดังนี้
– ใช้ไอเท็มไม่ได้ และผลบัฟสเตตัสทุกอย่างจาก VIP ก็ไม่มีผลเช่นกัน
– ค่าสเตตัสจะถูกปรับให้เท่ากันหมด รวมถึงค่าสเตตัสต่างๆ จากอุปกรณ์สวมใส่ทุกชนิดด้วย
– ผู้เล่นจะได้รับ ถั่วเซียน ต่อให้แพ้ก็ตาม และจะได้มากขึ้นหากชนะ ขึ้นกับ Rank ที่ทำได้
– ผู้เล่นที่ติดอันดับสูงสุด 300 คนจะได้รับรางวัลตามแต่ช่วงฤดูกาล ส่วนผู้เล่นที่อยู่ในกลุ่ม 30 คนสูงสุดจะได้รับชุดพิเศษเพิ่มเติมด้วย
– จำกัดระยะเวลาการต่อสู้
นอกจากนี้เควส Arena นั้นยังเป็นแหล่งหา ถั่วเซียน ที่ดีอีกด้วย

เงื่อนไขการแพ้ชนะ

การต่อสู้แบบ Arena PvP นั้นจะต่างกับ World PvP ตรงที่มีเงื่อนไขการแพ้ชนะอย่างเป็นหลักการ ไม่มั่วซั่วจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเลิกราขนาดนั้น ซึ่งเงื่อนไขก็ง่ายๆนั่นคือ
– เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ : สำหรับ 1:1 นั้น ใครชนะครบสองครั้งก่อนจะเป็นผู้ชนะ ส่วนใน 3:3 นั้น ทีมที่กำจัดอีกฝ่ายได้หมดก่อนจะเป็นผู้ชนะ
– หมดเวลา : เมื่อหมดเวลา ผู้เล่นหรือทีมที่ทำความเสียหายให้กับอีกฝ่ายได้มากกว่าจะเป็นผู้ชนะ

หมายเหตุ : ระบบการใช้ความเสียหายมาคิดการเอาชนะนั้นเพื่อกระตุ้นให้ผู้เล่นต่อสู้มากกว่าพยายามหลบหนีหรือป้องกันอย่างเดียว*

ADVERTISEMENT

Rating และ Rank

ใน Arena PvP นั้นจะมีการจัดระดับ Rank ไว้อยู่ที่ 5 ระดับขึ้นกับความสามารถของผู้เล่นที่ทำได้ จำนวนของผู้เล่นในแต่ละ Rank นั้นจะขึ้นกับจำนวนผู้เข้าร่วมใน arena ทั้งหมดของ server นั้นๆ ของรางวัลนั้นก็จะแตกต่างกันไปตามระดับ Rank ของผู้เล่นด้วยเช่นกัน ผู้เล่นระดับ Gold ขึ้นไปจะมีระดับ Rank ของตัวเองแสดงอยู่ด้วยข้างชื่อในช่องแชท การต่อสู้แบบ 3:3 นั้นถึงจะได้รางวัลมากกว่าแบบ 1:1 แต่ก็จะใช้เวลานานกว่า

ปัญหาที่พบเจอได้บ่อยใน Arena

– การแลคเป็นช่วงๆแม้จะมีค่า Ping ที่ต่ำ
– การจัดการทรัพยากรของเกมไม่ดี ส่งผลให้ค่า Frame Rate ต่ำลงเรื่อยๆจนถึงจุดที่เล่นไม่ได้อีก แก้ได้โดยการออกจาก Arena lobby และเข้ามาใหม่
– ปัญหาเรื่อง Bot โดยเฉพาะอาชีพ Destroyer, Kung Fu Master และ Summoner ที่พบได้เยอะมาก (Bot จะรู้ตำแหน่งของผู้เล่นตลอดเวลาแม้จะล่องหนอยู่ และยังหมุนตัวไปมาได้แม้จะ Stun อยู่ก็ตาม)
– มีการใช้งาน Script และ Hack เพื่อโกงเกม ตั้งแต่การโกง Cooldown, ยกเลิก animation แบบผิดปกติหรือลอยตัวอยู่ตลอดเวลา


เทคนิคกลวิธีใน Arena

การต่อสู้ใน Arena ของ Blade & Soul นั้นก็จะคล้ายคลึงกับการต่อสู้ในเกมต่อสู้ทั่วๆไปที่มีจังหวะหรือเทคนิครวมๆใกล้เคียงกัน อันเนื่องมาจากกฎการแพ้ชนะและเงื่อนไขยามหมดเวลาเป็นตัวกำหนดขอบเขตต่างๆ

ช่วงเวลา

มีไกด์มากมายที่อธิบายถึงจังหวะช่วงเวลาต่างๆ ในการต่อสู้ ซึ่งจุดนี้มักจะหมายถึงการต่อสู้แบบ 1:1 มากกว่า 3:3 เพราะมีความวุ่นวายและตัวแปรอื่นน้อยกว่า

– ช่วงเปิด : เป็นช่วงที่สำคัญมาก บางครั้งจะกำหนดความเป็นไปที่เหลือทั้งหมดเลยก็เป็นได้ การทำแต้มช่วงเปิดได้ดีจะเป็นการดึงความได้เปรียบในช่วงที่เหลือเป็นอย่างมาก ในขณะที่การพลาดแบบเห่ยๆอาจจะทำให้เสียสมาธิจนพังทั้งเกมได้
– ช่วงรอ : เป็นช่วงที่ผู้เล่นแต่ละฝ่ายดูเชิงกัน ในช่วงนี้ผู้เล่นจะทำการเตรียมตัวเพื่อให้ฝ่ายตัวเองได้เปรียบมากขึ้น
– ช่วงบุก : เป็นช่วงที่ผู้เล่นทำการบุกเข้าโจมตีอีกฝ่ายหรือตั้งรับ เป็นการทำทุกทางให้เกิดข้อได้เปรียบแก่อีกฝ่ายหรือพลิกแพ้ชนะกันเลย
– ช่วงจบเกม : เป็นช่วงที่เวลากำลังจะหมดหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพลังชีวิตกำลังจะหมด เป็นจังหวะที่ความตึงเครียดจะสูงมาก การคอมโบพลาดครั้งเดียวอาจจะพลิกจากชนะเป็นแพ้ได้

การ Combo และใช้ Tab หลบหนี

การ Combo นั้นมีทั้งการตอดลดพลังชีวิต หรือการโจมตีสร้างจังหวะ และการใช้คอมโบเพื่อปิดฉากเอาชนะ โดยปกติคอมโบปิดฉากนั้นจะใช้ต่อเมื่อมั่นใจว่าอีกฝ่ายใช้ท่าหนีทั้งหมดหรือติด Cooldown อยู่แน่นอนเพื่อให้มั่นใจว่าการเท Skill ต่างๆไปนั้นได้ผลเต็มที่ ในขณะที่บางคอมโบเป็นการบีบคั้นให้อีกฝ่ายใช้ท่าหนีเท่าที่ทำได้ก่อนที่จะโดนอะไรหนักกว่านั้น ดังนั้นผู้เล่นจึงควรอ่านจังหวะและรูปเกมอยู่เสมอ

จังหวะ

ท่าหนีส่วนใหญ่นั้นมักจะมี Cooldown ใกล้เคียงหรือเท่ากัน ในขณะที่ท่าแรงๆนั้นจะมีระยะเวลาที่นานกว่ามาก ตรงจุดนี้ก่อให้เกิดจังหวะหรือช่วงเวลาที่ท่าต่างๆ จะถูกใช้ในการต่อสู้เมื่อมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

เพราะความที่ผู้เล่นจะรู้ Cooldown ของท่าตัวเองแต่ไม่รู้ท่าของคู่ต่อสู้ การจดจำหรือสังเกตุท่าหนีของศัตรูหรือท่าใหญ่ๆ ที่ถูกใช้ไป จะทำให้ผู้เล่นจับจังหวะหรือสไตล์การใช้ท่า หรือคอมโบของอีกฝ่ายเพื่อกะจังหวะการสวนกลับ หลบหนีหรือเข้าปะทะได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น ถ้าไม่โดนโกง มันเป็นไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะกด Tab หนีได้เกิน 1 ครั้งทุกๆ 36 วินาที

ระยะที่เหมาะสม

สำคัญมาก พยายามจำว่าแต่ละ Skill ของตัวเองนั้นมีระยะและมีรัศมีการใช้งานที่เท่าไหร่ แม้ว่าตัว Skill ต่างๆจะมีจุดสังเกตุหรือตัวบอกว่าอยู่ในระยะหรือพร้อมใช้งานไหม แต่ในระหว่างการต่อสู้โดยเฉพาะช่วงที่กำลังนัวเนียนั้น การจะมาเสียเวลามองอาจจะพลิกแพ้ชนะได้ นอกจากนั้นการพยายามรักษาระยะของตัวเองให้ใช้ท่าต่างๆ ได้แต่อยู่ห่างจากระยะท่าหวังผลของศัตรูนั้นก็สำคัญเป็นอย่างมาก

ระยะนี้เรียกว่า Maai ซึ่งเป็นเทคนิคหนึ่งในวิชาเคนโด้ แต่ก็เป็นเทคนิคที่ปรากฎในวิชาการต่อสู้ทุกแขนง ถ้าให้เปรียบก็เหมือนกับถ้าเรามีมีด การอยู่ห่างจากคนใช้ปืนมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย แต่ในขณะเดียวกันถ้าเป็นการต่อสู้ระยะประชิด การอยู่ห่างพอที่จะโดนปลายของไม้เบสบอลนั้นก็เฮงซวยกว่าการอยู่ในระยะที่จะโดนแค่ตรงกลางไม้หรือด้ามจับ

ย้อนกลับมาที่ Blade & Soul นั้น ท่าระยะไกลส่วนมากจะมีระยะอยู่ที่ 16 เมตร และท่าที่แรงๆมักจะมีระยะสั้นกว่ามาก หรือผู้เล่นควรจะอยู่ในระยะประมาณ 18 เมตรแต่ไม่เกิน 20 เมตร นี่จะทำให้เกิดระยะที่ผู้เล่นมีเวลาถอยหนีเมื่ออีกฝ่ายพยายามเข้าหา หรือกำหนดจังหวะต่อสู้เองด้วยการเข้าไปในระยะ (เหมือนการเต้นฟุตเวิร์ค)

สำหรับสายระยะประชิดแล้ว ระยะกลางๆประมาณ 6 – 16 เมตรนั้นเป็นระยะที่แย่ที่สุดที่จะไปยืนเสนอหน้าในการต่อสู้ เนื่องจากท่าต่างๆที่รุนแรงของผู้เล่นจะไม่ได้ไกลเพียงพอในระยะนี้ และในทางกลับกัน ผู้เล่นสายโจมตีไกลที่รักษาระยะอยู่ในจุดที่สั้นเกินไปเช่น ต่ำกว่า 5 เมตรก็เป็นการเอาคอไปพาดเขียงชัดๆ

มุมในการโจมตี

มุมกล้องเป็นจุดที่สำคัญมากใน Blade & Soul เนื่องจาก Skill ต่างๆนั้นจำเป็นจะต้องอาศัยมุมกล้องในการช่วยเล็งเป้า รวมถึงรัศมีการทำงานของ Skill ต่างๆก็จะอ้างอิงจากมุมกล้องของผู้เล่น และมันก็มีได้หลากหลายรูปแบบตั้งแต่วงกลม สี่เหลี่ยม ทรงกรวย การหันมุมกล้องผิดทิศนั้นจะทำให้การโจมตีที่ควรจะเข้าเป้ากลายเป็นวืดไปเปล่าๆได้

นั่นทำให้บางครั้งผู้เล่นอาจจะเจอศัตรูที่หันไปโจมตีด้านหลัง เผื่อหวังจะโดนคนที่ทำการล่องหนอยู่เช่นกัน ซึ่งมันก็โคตรได้ผลเลยถ้าอีกฝ่ายเป็นพวกที่ชอบวิ่งเข้าข้างหลังทื่อๆ แทนที่จะเขยิบไปข้างๆซักหน่อย

หลอกล่อ

อีกหนึ่งเทคนึงที่ใช้กันในวิชาต่อสู้ทั่วไป การหลอกล่อนั้นมีเป้าหมายเพื่อยั่วยุหรือบีบให้คู่ต่อสู้โต้ตอบในรูปแบบที่เราต้องการ ใน Blade & Soul นั้นมักจะเป็นการยั่วหรือหลอกให้ผู้เล่นทำการใช้ท่าหนีเช่น Tab ไปโดยเสียเปล่าหรือไม่จำเป็น เนื่องจากผลของการกด Tab นั้นมันจะทำให้รูปแบบการต่อสู้เปลี่ยนกลับไปเป็นเสียเปรียบ

การแก้ทางจึงมักจะเป็นการใช้ช่วงเวลาอมตะของ Skill ต่างๆในจังหวะนั้นเพื่อป้องกันตัวเองในเวลาเดียวกันและทำให้ Tab ครั้งนั้นส่งผลได้น้อยลงหรือไม่ได้ช่วยอะไรเป้าหมายมากนัก ซึ่งช่วงเวลาอมตะนั้นก็จะมีแตกต่างกันตามแต่ละอาชีพ และจังหวะการกดใช้ก็จะต้องอาศัยการคาดเดาและอ่านใจคู่ต่อสู้อยู่ไม่น้อย

แผนการต่อสู้

ในขณะที่มีวิธีการต่อสู้มากมาย แต่ว่าแต่ละวิธีนั้นก็จะขึ้นกับอาชีพและการจัด Skill ของผู้เล่นให้เอื้ออำนวยต่อแผนการต่อสู้นั้นๆ เช่น บางอาชีพอาจจะเน้นการโจมตีแบบบ้าคลั่ง ในขณะที่บางอาชีพต้องอาศัยการรอจังหวะ หรือกระทั่งความหนาบางของตัวอาชีพ หรือจำนวนท่าหลบหนี ก็จะส่งผลต่อแผนการต่อสู้ทั้งหมด ในจุดนี้จะเป็นการอธิบายถึงแผนการต่อสู้แบบกว้างๆเพื่อนำไปปรับใช้กับตัวผู้เล่นแต่ละคนมากกว่า
► สายบุกแหลก
หรือเรียกว่าสายบ้าคลั่ง เป้าหมายคือการบุกเข้าไปโจมตีให้อีกฝ่ายบาดเจ็บให้มากที่สุดในเวลาสั้นๆ แผนการนี้จึงเหมาะกับอาชีพที่สร้างความเสียหายได้รวดเร็วและต่อเนื่อง ท่าหมุนต่างๆมักจะถูกนำมาใช้ควบคู่กับวิธีนี้เนื่องจากสามารถใช้ป้องกันตัวเองจากสถานะผิดปกติต่างๆส่วนมากได้ด้วย

วิธีนี้เหมาะสำหรับการแก้ทางสายถ่วงเวลา เนื่องจากสามารถทำความเสียหายได้มากกว่าที่อีกฝ่ายจะเตะถ่วงได้ อย่างไรก็ตามมันก็แพ้ทางสายตอดเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาจะรอจังหวะที่ท่าของเราถูกใช้ไปและสวนกลับอย่างชิวๆ

► สายถ่วงเวลา
สายนี้จะเน้นการถ่วงเวลาด้วยการฟื้นพลังตัวเองไปเรื่อยๆ จุดสำคัญคือการสร้างความเสียหายให้กับศัตรูเป็นระยะๆ ในขณะที่พยายามป้องกันไม่ให้ตัวเองรับความเสียหายมากเกินไปและอาศัยการฟื้นพลังช่วย ซึ่งจุดนี้สาย Summoners นั้นจะกินขาด ตามด้วย Force Masters อันที่จริง Blade Dancers และ Destroyers นั้นก็สามารถฟื้นพลังตัวเองได้ดี แต่การที่เป็นสายประชิดทำให้อาชีพเหล่านั้นเหมาะกับการสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง มากกว่าการฟื้นพลังตัวเองอย่างต่อเนื่อง

วิธีจะเหมาะเป็นอย่างมากกับสายตอด เนื่องจากการที่ผู้เล่นสามารถฟื้นพลังตัวเองกลับมาได้เรื่อยๆ และสร้างความเสียหายกับอีกฝ่ายเรื่อยๆ เช่นกัน แต่ก็จะแพ้ทางพวกสายบุกที่เน้นทำความเสียหายจนไม่สามารถฟื้นพลังได้ทัน

► สายตอด
เป็นสายที่เน้นการรอจังหวะมากกว่า แน่นอนว่าคงไม่พ้น Assassin ที่เด่นมากในจุดนี้จากความที่สามารถหายตัวและรอจังหวะคู่ต่อสู้ได้สบายๆ และก็เป็นอีกจุดที่ทำให้ชาว Destroyer มือใหม่นั้นบ่นเป็นหมีกินผึ้งเนื่องจากปั่นไม่เคยจะสำเร็จ แต่ก็ทำให้ถูกเรียกว่าเป็นพวกขี้ขลาด ปอดแหกไม่กล้าสู้อยู่เช่นกัน เพราะว่าต้องอาศัยการรอจังหวะที่อีกฝ่ายพลาด เรียกว่าเน้นความปลอดภัยกันแบบสุดโต่งเลยทีเดียว วิธีนี้ไม่ได้จำกัดแค่ Assassin เท่านั้น แต่รวมไปถึงการรักษาระยะหรือมุมที่ทำให้อีกฝ่ายเสียเปรียบสุดๆของอาชีพต่างๆได้ด้วย

เทคนิคนี้จะต่อสู้กับสายบุกแหลกได้ดีมาก เนื่องจากการบุกแหลกนั้นต้องเสียค่า Focus ไปกับท่าต่างๆมาก เปิดโอกาสให้สวนกลับได้ง่าย แต่ขณะเดียวกันก็จะแพ้ทางสายถ่วงเวลาเป็นอย่างมาก เนื่องจากระหว่างที่รอจังหวะ อีกฝ่ายก็จะฟื้นพลังไปเรื่อยๆโดยไม่เสียอะไรมาก ทำให้ฝ่ายรอตอดต้องกลายมาโดนบังคับให้บุกแทน ไม่งั้นก็โดนสายถ่วงเคาะไปเรื่อยๆจนตาย ไม่ก็แพ้เพราะพลังน้อยกว่าตอนหมดเวลา[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]

Tags: Blade & SoulBlade & Soul GuideBlade & Soul ไกด์Blade and SoulBlade and Soul GuideBlade and Soul ไกด์เบลด แอนด์ โซล
Previous Post

Blade & Soul : รู้จักกับสถานะผิดปกติต่างๆ CC คืออะไร??

Next Post

Ashe of Creation ลง Kickstarter พร้อมให้สนับสนุนแล้วจ้า

Nimblentfox

Nimblentfox

Related Posts

Mobile

กระหน่ำยิงปืนใหญ่ให้สะใจไปกับอาชีพใหม่ ‘อาร์ทิลเลอรี เอซ’ ได้แล้วใน Blade & Soul Revolution อัปเดตล่าสุด !

12 ธันวาคม 2022
PC News

ร่วมต้อนรับ ‘อาร์ทิลเลอรี เอซ’ อาชีพใหม่แห่ง Blade & Soul Revolution ในอัปเดตล่าสุด !

5 ธันวาคม 2022
PR

ร่วมพิสูจน์ความแกร่งไปกับ 3 อาชีพใหม่ ดูอัลเบลด, วอร์ริเออร์, และ โซลไฟท์เตอร์ พร้อมประลองศิลปะการต่อสู้ฮงมุนได้ในอัปเดตใหญ่ Blade & Soul Revolution!

13 พฤศจิกายน 2022
Next Post
Ashes of Creation cover

Ashe of Creation ลง Kickstarter พร้อมให้สนับสนุนแล้วจ้า

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Guide

Summoners War Chronicles ไกด์ระบบรูน ระบบที่หลายาคนสงสัย!

30 มีนาคม 2023
Guide

Valiant Force II รีวิว/ไกด์ Hinata (ฮินาตะ)

30 มีนาคม 2023
Guide

Valiant Force II รีวิว/ไกด์ Verdans (เวอร์ดันส์)

30 มีนาคม 2023
ADVERTISEMENT

About Us

Playpost เว็บไซต์ข้อมูลเกมของคนรักเกม เราพร้อมเสิร์ฟเนื้อหาใหม่ๆ ให้คุณทุกวันน

No Result
View All Result
  • Home
  • PC News
  • Console News
  • Mobile Guide
  • PC Guide
  • Console Guide
  • เล่นเกม
  • ไทย

© 2023 Playpost Company Limited

This website uses cookies. By continuing to use this website you are giving consent to cookies being used. Visit our Privacy and Cookie Policy

ตั้งค่า ไม่ยอมรับ ยอมรับ
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

This website uses cookies. By continuing to use this website you are giving consent to cookies being used. Visit our Privacy and Cookie Policy

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว