[vc_row full_width=”stretch_row_content”][vc_column][vc_message color=”info”]ข้อมูลในบทความอ้างอิงจากเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับของไทยในภายหลัง ซึ่งหากชอบใจบทความสามารถมาเป็นกำลังใจและกดถูกใจให้ได้ที่เพจของทีมงานได้ที่ StepPlay[/vc_message][vc_column_text]
▃ ▅ ▆ Assassin #3 ▆ ▅ ▃
มาถึงเจาะลึกข้อมูลอาชีพ Assassin บทความที่ 3 แล้วนะครับ คาดว่าบทความ 1 และ 2 เพื่อนๆก็คงได้รับความรู้ไปไม่มากก็น้อยเลย.. แต่! มันยังไม่พอหรอกนะครับ TT สมองแตกกันพอดี ฮ่าๆ ครับก็บทความนี้เราก็จะพูดถึงเรื่อง Combo ของอาชีพนี้และข้อมูลอื่นๆจิปาถะเพิ่มเติม เอ้า!เริ่ม!~
►Combo ต่างๆ~
มี combo มากมายเลยที่ให้ Assassin ได้ใช้ และก็ควรจะเรียนรู้ไว้ก่อนจะลองท่ายาก ซึ่งอันที่จริงตัวเกมก็มีพวก tutorial ให้ในส่วนนี้ และทาง web หลักก็มีสอนอยู่บ้างเหมือนกัน
ส่วนที่จะพูดถึงต่อไปนี้จะเป็นลักษณะของ combo ที่แสดงให้เห็นภาพว่าในแต่ละจังหวะควรจะเป็นอย่างไร เพราะถ้าทำจริงก็คงทำไม่ได้เท่าไหร่จากการตอบโต้ของอีกฝ่าย ไม่งั้นก็คงรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งไปแล้วล่ะนะ โดยปกติ combo ส่วนมากนั้นจะใช้งานได้ดีต่อเมื่อคู่ต่อสู้ไม่สามารถใช้ท่าหนีด้วยปุ่ม Tab ได้ (ติด cooldown หรืออะไรก็ว่ากันไป) เพราะงั้น Assassin จึงควรรู้ว่าแต่ละอาชีพมีท่า Tab หนีอย่างไรบ้าง ไม่งั้นก็เจอ counter หน้าหงายได้เหมือนกัน
☛ท่างัดพื้นฐาน (PvP) (ต้องมีสกิล Webbing*ใยแมงมุม)
Turning Leaf (กด Tab) -> Shadow Dash (กด 1) -> Spinal Tap (กด 1) -> Animation Cancel (กดเม้าส์ ขวาและซ้าย *RMB+LMB) -> Sweeping Gale (กด Tab) -> Webbing (กด Tab)*
เป็นท่าเปิดพื้นฐานของชาว Assassin อันเนื่องจากอีกฝ่ายต้องมีช่วงเวลาอมตะถึงจะหลบได้ แน่นอนว่าผู้เล่นส่วนมากน่ะกะไม่ถูกหรอก เพราะงั้นมันพึ่งพาได้พอสมควรเลย ยกเว้นแต่ว่าอีกฝ่ายมีท่าที่กันสถานะผิดปกติได้อย่างเช่นปั่นชาแดง Typhoon ของ Destoryer
– ใช้ Shadow Dash ในการเข้าสู่ stealth stance (ในการตีมอนอาจจะกด combo คลิ๊กขวา+F ได้ แต่กับคนไม่แนะนำยกเว้นค่า ping จะต่ำจริงๆ) เราต้องการสถานะ stun จริงๆเพราะแม้ว่าตัว Turning Leaf จะมีสถานะแถมอยู่แต่มันก็ไม่ใช่ stun และสามารถแก้ทางได้ง่าย
– ยกเลิก animation ในขณะที่เราสามารถปั่นโจมตีได้ถึง 3 ครั้ง แต่มันก็ปลอดภัยกว่าเยอะที่ 2 ครั้ง ยกเว้นว่าค่า ping จะน้อยจริงๆนะ ย้ำว่ามันจะน้อยจริงๆ
– Sweeping Gale จะงัดศัตรูขึ้นไปก่อนจะตามด้วย Volley เพื่อทำความเสียหายเพิ่มเติม ในจังหวะนี้นั้นท่า Venom Swarm จะสามารถใช้ก่อนหรือหลัง Volley ก็ได้ และหลังจากนี้จะเป็นการจบ combo ด้วยท่า Thunderstruck แต่ถ้ามี Focus และ cooldown พร้อม… จะรีบจบไปไยเนอะ
– ถ้าจะต่อ combo นั้น เราจะทำการใช้ Webbing ซึ่งต้องกะจังหวะหน่อยก่อนที่เป้าหมายจะตกกระแทกพื้น เพื่อให้เกมมันคิดว่าเป้าหมายของเราอยู่ในกลางอากาศและบนพื้นพร้อมกัน (โกงงงง) นั่นคือ ศัตรูจะไม่สามารถกด F หนีได้ในขณะที่คุณยังใช้พวกท่าที่ใช้ได้เฉพาะเป้าหมายอยู่บนพื้นได้ด้วย
– หลังจากอีกฝ่ายติด web แล้ว ก็จะมีเวลาประมาณ 3-4 วินาที เพื่อจัดตำแหน่งของตัวเราให้อยู่ด้านหลังของเป้าหมายให้ทัน จากนั้นก็ทำการใช้ท่า Lotus of Escape, Smoke Screen และ Mine เพิ่มทำ combo ต่อ
– Shadow Dash เพื่อเริ่มต้นใหม่
สำหรับการ PvE นั้นจะง่ายกว่าตรงที่ศัตรูค่อนข้างจะยืนเป็นกระสอบให้เราทุบและไม่ค่อยจะแก้ทางเราเท่าไหร่นัก ทำให้จริงๆแล้วการ combo ก็ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่นัก แต่สำหรับ PvP มันก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ควรจะต้องจำเอาไว้อยู่ดี และก็พยายามอย่าคิดว่าจะกด combo ได้ง่ายๆเวลาเจอกับคนเลย เขาแก้ทางเราได้เรื่อยๆ ไม่เหมือนมอนหรอก
☛Stunlock 101 (PvP)
เข้าโหมดหายตัว -> Spinal Tap -> Animation Cancel x2 -> Choke Bomb -> Close Shave -> Throw Dagger -> Lightning Rend (Stun) -> Animation Cancel x3 -> Close Shave -> Hook Kick -> Time Bomb -> Cyclone Sweep -> Backstep -> Turning Leaf -> Shadow Dash -> ทำซ้ำ
อันนี้เป็นตัวอย่างของการ combo ด้วยการเน้นไปทางด้าน stun, knockdown เพื่อวนซ้ำเรื่อยๆได้
– บางครั้งอีกฝ่ายก็อาจจะหนีหรือใช้พวกท่า Tab หนีเอา ก็จะต้องตามกันไปเล็กน้อยเพื่อเปิด combo ใหม่
– ท่า stun นั้นมีอยู่ค่อนข้างหลายแบบ หากชอบท่าไหนหรืออยากเอามาเพิ่มก็สามารถนำมาใช้ได้ ขึ้นกับการบริหาร cooldown ของแต่ละท่านั่นเอง
►Build ที่น่าสนใจ
– Stealth ถาวร (PvE)
อันนี้เป็น build ที่สามารถทำให้ assassin อยู่ในช่วงเวลา stealth ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งมันก็ดีสำหรับการผ่านดันเจี้ยนโดยไม่ต้องเสียเวลาไล่หวดมอนทุกตัวที่ขวางทางได้ ถึงแม้ว่า build นี้จะดีในการสู้กับบอสด้วยก็ตาม แต่ต้องระวังว่าในช่วงหลังๆบอสเองก็จะมีสถานะ true sight ที่ทำให้มองเห็นตัวละครที่ stealth อยู่ มันไม่ได้เห็นถาวรก็จริงแต่ถ้ามันเห็นที มันคงไม่รอให้หมดเวลาก่อนแน่ๆ
*ย้ำอีกครั้งว่าการอยู่ใน stealth stance จะเพิ่มค่าการหลบหลีก 50% เพราะงั้นมันก็เป็นไปได้ที่จะทำให้มันถึง 100% ได้อยู่ถ้ามีค่าการหลบหลีกเดิมสูงพอนะ*
– Skill ที่สำคัญ
- Shadow Drain (Cyclone Sweep F3 ขั้นสอง) – รีเซ็ทเวลา stealth กลับไป 6 วินาทีอีกครั้งเมื่อโจมตีศัตรูที่ติดพิษอยู่ นั่นคือคุณจะใช้ท่านี้ตอนที่ stealth กำลังจะหมดเวลาเพื่อผลสูงสุดนั่นเองการใช้แต่เนิ่นๆเราก็จะเสียเวลาเปล่าๆไปส่วนหนึ่งอย่างไรก็ตาม ควรกะเผื่อค่า ping ของคุณด้วย
- Shadow Dash (F1 ขั้นสามขึ้นไป) – ที่ต้องใช้ขั้นสามเพราะมันมี cool down สั้นพอ (จาก 9 เหลือ 6 วินาที) อาจจะไปถึงขั้น 4 เลยก็ได้ถ้ารู้สึกว่าค่า focus ไม่พอกิน กับรู้สึกว่าแต้มมันเหลือพอ
- Smoke Screen (F3 ขั้นสาม) – ทำการเข้าสู่ stealth stance ใหม่โดยไม่ต้องมีอะไรจุกจิก ไม่มีอะไรมากสำหรับท่านี้ แต่ก็ใช้เป็นทางหนีฉุกเฉินได้ถ้ามันจวนตัวขึ้นมา ข้อควรระวังคือ Assassin ที่ติดสถานะ Conspicuous อยู่นั้นจะไม่สามารถ stealth ได้ใน Smoke Screen
เจ้าสถานะนี้ก็จะเกิดขึ้นได้จาก skill ของคนอื่นในปาร์ตี้เราเช่น Enchanced Seed Shroud ของ Summoner, Decoy (F2 ขั้นสามขึ้นไป) ของ Assassin, Smoke Screen (F2 ขั้นสองขึ้นไปหรือ F3 ขั้นสาม) ของ Assassin คนอื่นในระยะ 3 เมตร - Shadowless Step (F1 ขั้นสอง) – อีก skill ที่ช่วยยืดระยะเวลา stealth ได้ การ up ไปถึงขั้นสามอาจจะไม่ค่อนจำเป็นนักใน PvE เนื่องจากผล blinding/deafening ไม่ค่อยช่วยอะไรมากนัก
Lightning Rend (F3 ขั้นสาม) – ลด cooldown เหลือ 6 วินาทีกับได้ focus เพิ่มมา 3หน่วย นั้นแหละ ค่า focus คุณไม่ค่อยจะพอหรอก - Lightning Pierce (Dark Strike F3 ขั้นสอง) – ทำงานเมื่อใช้ Heart Stab ติดคริระหว่างที่อยู่ใน stealth stance ทำความเสียหายได้ระดับหนึ่งแต่ช่วยลด cooldown ของ Lighting Rend ได้ 3วินาที (หรือ 5วินาทีถ้าเป้าหมายติดพิษครบ 5 stack)
**หลักๆเลยก็คือการเข้า stealth stance เสียก่อน จะด้วยการใช้ Blink Step, Shadow Dash หรืออะไรก็ได้ หลังจากนั้นก็ใช้
– Heart Stab (คลิ๊กขวา) และ Lighting Pierce/Crash (F) ปั่นมันเข้าไป ใช้ Lighting Rend เมื่อมีโอกาสเพื่อรักษาระดับค่า focus
– ใช้ Throwing Dagger (X) และ Shadow Drain (1) ตอนที่ stealth กำลังจะหมดเวลา
– ปั่นคลิ๊กขวากับ F ตามเคยพร้อมกับ Lighting Rend
– Shadowless Step (3) เพื่อยืดระยะเวลาไปอีกหน่อย
– ก่อนจะหมดเวลา (ซัก 2 วินาทีก่อนหมด) ให้โดดออกมาจากศัตรูก่อนจะหันกลับไปหาเป้าหมายและเริ่มใช้ Shadow Dash (1) ใหม่อีกครั้งตอนที่เราออกจาก stealth stance
*ไม่แนะนำให้กด 1 รัวๆเพราะอาจจะไปใช้ Shadow Drain แทนได้เนื่องจาก cooldown ปกติจะวนมาทันหลัง stealth เราหมดพอดี*
– ทำซ้ำตามสะดวก
**ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา ก็มีหลายวิธีในการเข้าสู่ stealth stance ได้ ดังนั้นอย่างที่กล่าว Assassin ต้องเล่นด้วยใจเย็นดั่งหมีขั้วโลก อย่าแตกตื่น
– ทำให้ศัตรูติดพิษซะ แล้วก็ใช้ Hook Kick
– ใช้ Shadow Dance หลบการโจมตี
– ใช้ Decoy หลบการโจมตี
– Shadow Dash ใส่มอนตัวอื่นที่หันหลังให้เราอยู่ ไม่ก็ตัวที่เราสามารถกด Turning Leaf ใส่ได้แล้วค่อย Shadow Dash ใส่มัน
– ถ้าไอ้ที่ว่ามาแป๊กหมด Smoke Screen (F3 ขั้นสาม) ไปละกัน อย่าทะลึ่งกดตอนที่กำลังเจอท่าโจมตีเป็นหมู่หรือพวกท่าล๊อคเป้าก็พอ
build นี้ค่อนข้างใช้ได้ในทุกๆสถานการณ์อยู่ แม้ว่าจะเล่นเป็นปาร์ตี้ก็ตาม สำหรับการลงดันเจี้ยนคนเดียวนั้นก็ต้องทำตัวตามสมัย up อุปกรณ์สวมใส่ให้พอเหมาะซักหน่อย และก็ระวังพวกกระสุนทั้งหลายที่อาจจะบินมาเข้าหัวจนหลุดจาก stealth เอา ส่วนพวกดันเจี้ยนท้ายเกมอย่าง Four Blue Dungeon พวกนี้ก็โซโล่ได้นะ แต่ต้องอาศัยของที่ดีหน่อยและก็ความอดทนที่สูงกว่า จะมียกเว้นก็พวกบอสที่มีเวลากำหนดนั่นล่ะ
►Skill Hongmoon
มี skill หลายท่าที่ต้องผ่านเงื่อนไข “Hongmoon training(ห้องฝึกซ้อมใช้สกิล)” เพื่อปลดล๊อคขั้นสุดท้าย ก็มีตั้งแต่เคลียร์ quest จาก skill book จนถึงกับทำ achievement ที่กำหนดให้ผ่านให้ได้
Mist Slash – ทั้งสองสายจะปลดล๊อคเมื่อใช้ item ที่กำหนดคือ Ocean Life Force, Deep Sea Kelp, Golden Honey, FogMushroom, EvilSpirit Root กับ Hongmoon Pellet ของพวกนี้ก็จะหาได้จากมอนรอบๆ Gran Harvest Square หรือรอบๆ Soulstone plains จะซื้อจาก daily challenge store, achievement vendor หรือ PvP vendor ก็ได้ สำหรับเจ้า Hongmoon Pellet นั้นสามารถคราฟผ่าน workshop ใน clan ได้ด้วยเช่นกัน
Shadowslash – F2 ขั้นห้า นั้นปลดล๊อคผ่านการ PvP โดยทำการซื้อ Royal Zen Bean สำหรับสาย 1, 3, 4 นั้นจะปลดล๊อคด้วยการผ่าน quest Skill book: Shadow Slash ที่ได้จาก Achievement Merchart หรือ lucky drop บริเวณ Bloodshare Harbor โดยตอนจบของ quest นั้นจำเป็นจะต้องมีหนังสือเล่มนี้ติดตัวและใช้ Shadow Slash โจมตีบอสเหล่านี้ตัวละ 10 ครั้ง ได้แก่ Steel Giant ที่ดันเจี้ยน Talus, Angler Teti ที่ Avalanche Den กับ Heavenpiercer ที่ Sundered Nexus
Decoy – F1 หรือ F2 ขั้นห้า สามารถเรียนรู้ได้ด้วยการใช้หนังสือ Reclaimed HongMoon Skill Book 2 ที่ได้จากการเอาไอเท็ม Lost HongMoon Book Part 1 กับ Part 2 มารวมกัน สำหรับ Part 1 จะได้เป็นแรร์ดรอปจากบอสตัวสุดท้ายใน Avalanche Den (แบบ 4 คน) ส่วน Part 2 ก็เป็นแรร์ดรอปเช่นกันจากในดันเจี้ยน Awakened Necropolis สำหรับ F3 ขั้นห้านั้นจะวุ่นวายกว่า และต้องซื้อเอาจาก Archievement Merchant ด้วย 300 Reclaimed Pages เท่านั้น
Heart Stab – F1 ขั้นห้าจะต้องทำการใช้ Chilling Falme Elixir ที่ได้จากการเอา Asura Ember (แรร์ดรอปจากบอสตัวสุดท้ายของ Sogun’s Lament แบบ 4 คน) กับ Fronzen Snow Jade (ซื้อได้จาก Achievement Merchant หรือแลกที่ Cold Storage vendor ด้วย 120 Frozen Orb)
Bombard – F2 ขั้นห้า ได้จากการใช้ skill book Reclaimed Hongmoon Skill Book 3
• • • • • • • • • • • • • • • • • •
? อ่านเจาะลึก Assassin เบื้องต้น #1
? อ่านเจาะลึก Assassin กับ PVP #2
? อ่านเจาะลึก Assassin กับ Combo #3
[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]