Playpost
  • Home
  • PC News
  • Console News
  • Mobile Guide
  • PC Guide
  • Console Guide
  • เล่นเกม
  • ไทย
No Result
View All Result
  • Home
  • PC News
  • Console News
  • Mobile Guide
  • PC Guide
  • Console Guide
  • เล่นเกม
  • ไทย
No Result
View All Result
Playpost
No Result
View All Result

Home » Blade & Soul : แนวทางการเล่น Force Master ฉบับติวเข้ม

Blade & Soul : แนวทางการเล่น Force Master ฉบับติวเข้ม

by rexe
3 มิถุนายน 2017

[vc_row full_width=”stretch_row_content”][vc_column][vc_message color=”info”]หากถูกใจสามารถเข้าไปกด Like ที่เพจของนักเขียนได้ที่นี่ >>Click<<[/vc_message][vc_column_text]สวัสดีเพื่อนๆ ชาว Blade & Soul ทุกท่านครับ สำหรับหลายๆ คนที่กำลังที่จะตัดสินใจ และกำลังคิดอยู่ว่าจะมาเล่นสายอาชีพ Force Master(FM) ดีหรือเปล่า ในไกด์ฉบับกบจะมาวิเคราะห์และแนะนำแนวทางการเล่นในเบื้องต้นและสกิลจำเป็นต่างๆ ให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันครับซึ่งจะเป็นยังไงบ้างเราไปชมกันเลย

*ในบทความนี้เป็นแนวทางการเล่นและบทวิเคราะห์ส่วนบุคคล หากคิดว่าตรงไหนไม่ดีสามารถแจ้งได้เลยจ้า


ข้อดีและข้อเสียของ Force Master

ก่อนที่จะไปถึงหัวข้ออื่น ผมอยากจะมาแนะนำข้อดีและข้อเสียของสายอาชีพนี้ให้เพื่อนๆ ได้ชมกันเสียหน่อย  ซึ่งคิดว่าน่าจะทำให้เพื่อนๆ ได้ทราบถึงข้อจำกัดของอาชีพนี้มากขึ้นครับ

►ข้อดี►ข้อเสีย
พลังโจมตีสูงมาก สามารถทำดาเมจได้สูงสกิลการเอาตัวรอดและท่าหนีค่อนข้างน้อย
มีสกิลสร้างสถานะผิดปกติหลายรูปแบบสกิล CC หนักๆ ไว้ขัดบอสอย่างน็อคดาวน์ หรือสตั๊นมีน้อย
มีท่าที่สตั๊นและน็อคดาวน์เป้าหมายได้ในทีเดียวท่าบล็อคใช้งานได้ยาก และข้อจำกัดเยอะ
มีสกิลป้องกันตัวอยู่พอสมควรเช่นแช่ตัวเอง ฯลฯด้วยความที่สกิลมีเยอะและหลากหลายทำให้เลือกใช้ยาก
และต้องใช้เวลาเรียนรู้
มีสกิลหลากหลาย

CC ย่อมาจาก crowd control หรือสกิลที่เอาไว้ขัดขวางหรือทำให้ศัตรูมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นล้ม,สตั๊น ฯลฯ


ศาสตร์การต่อสู้ไฟและน้ำแข็ง

สำหรับผู้ที่เล่นอาชีพ Force Master สิ่งที่จะต้องรู้ก่อนเลยก็คือความสามารถต่างๆ และข้อดีข้อเสียของศาสตร์ที่เราจะใช้นั่นเองครับ ซึ่งในช่วงแรกเราจะใช้ได้เพียงแค่ศาสตร์แห่งไฟ และเมื่อเราทำเควสเนื้อเรื่องไปได้สักพักนึงแล้วจึงจะสามารถที่จะเปลี่ยนไปใช้ธาตุน้ำแข็งได้ ซึ่งเจ้าสองธาตุนี้ก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป รวมถึงรายละเอียดการใช้งานของสกิลบางตัวก็จะต่างกันไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสกิลส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากมายครับแค่จะต่างกันที่สกิลหลักบางสกิลและคอมโบเล็กน้อยจ้า

การใช้สกิลธาตุต่างๆ : จริงอยู่ว่า FM นั้นมีอยู่สองศาสตร์ด้วยกันครับ คือไฟกับน้ำแข็ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะใช้สกิลของอีกสายนึงไม่ได้ เพียงแค่จะใช้ท่าบางท่าไม่ได้เท่านั้นเอง ซึ่งสายของสกิลที่เราจะใช้ได้นั้นจะอยู่กับการโจมตีของเราว่าเราใช้สายไหนก่อนหน้า เช่นหากผมโจมตีด้วยฝ่ามือพลังไฟ(คลิกซ้่าย) สกิลอื่นๆ ที่ไม่ใช้สกิลพื้นฐานจะถูกเปลี่ยนเป็นสกิลสายไฟทั้งหมดครับ แต่หากผมใช้สกิลน้ำแข็งอย่างฝ่ามือน้ำแข็ง(คลิกขวา) สกิลอื่นๆ นอกจากสกิลพื้นฐานของผมก็จะถูกเปลี่ยนเป็นสกิลสายน้ำแข็งครับ

เปลี่ยนธาตุ Force Master*Note เราอาจจะใช้สกิลก้าวเผาผลาญและก้าวน้ำแข็งในการเปลี่ยนสายสกิลอย่างฉับไวได้ อีกทั้งยังป้องกันการโจมตีของเป้าหมายได้ด้วย

สายไฟ : สายนี้จะมีสกิลที่เน้นการเผาไหม้เพื่อสร้างดาเมจกับเป้าหมายเพิ่มเติม โดยสกิลการโจมตีหลักคือลำแสงเพลิง ที่เอาไว้ใช้จัดการกับมอนเสตอร์ได้ดีมากๆ โดยส่วนตัวกบว่าสายนี้ค่อนข้างที่จะเหมาะกับการเล่นไปเรื่อยๆ เดินไปตามทางแล้วเก็บเควสตีมอนครับเพราะเราไม่ต้องพึ่งสกิลต่อเนื่องเยอะมากทำให้เดินเก็บมอนสเตอร์ได้ เอะอะเจอหน้ามอนก็ยิงลำแสงเพลิง(กด 2) แล้วตีซ้ำอีกหน่อย ผิดกับน้ำแข็ง ที่หากจะให้ดาเมจสูงล่ะก็จะต้องใช้สกิลต่อเนื่องที่มีคูลดาวน์ค่อนข้างนานครับ แต่หลักๆ คือสายไฟจะเก็บมอนตามทางได้ไวมากๆ แต่การ PVP โดยส่วนตัวแล้วผมว่าไฟไม่เหมาะเท่าไหร่(ผมเขียนสาเหตุที่ทำให้สายนี้ไม่เหมาะกับการ PVP เอาไว้ในหัวข้อ PVP ครับ)

สกิลเด่นๆ ที่มีเฉพาะสายไฟ

ภาพชื่อคำอธิบาย
ลำแสงเพลิง(2)ท่าหากินหลักในการไล่เก็บมอนสเตอร์ตามด่าน สามารถใช้คู่กับคลื่นกระแทก(คอมโบ) ได้
คลื่นกระแทก(1)
(คอมโบ)
สกิลต่อเนื่องที่จะทำให้ศัตรูที่ติดสแตคไฟติดสถานะไฟไหม้ ทำให้โดนดาเมจเพิ่มเติม
เพลิงสแตค(4)ท่าที่จะต้องใช้หลุมดำเปิดก่อนแล้วจึงจะใช้ได้ เหมาะกับการฟาร์มมอเป็นจำนวนมากสุดๆ แต่กว่าจะได้มาก็ปาไปเลเวล 45 ทำให้แรกๆ ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ครับ

*วงเล็บด้านหลังคือปุ่มกด

สายน้ำแข็ง : สายน้ำแข็งนั้นก็จะมีสกิลที่แตกต่างไปกับสายไฟนิดหน่อย โดยหลักๆ แล้วจะมีคอมโบที่เพิ่มขึ้นมาคือการใช้ ลูกเห็นหนาวเหน้บ+ลำแสงเกล็ดแข็ง ทำให้เก็บศัตรูเป็นจำนวนมากได้ดี และยังมีท่าโจมตีที่มีดาเมจค่อนข้างสูงและไม่ใช้ค่าโฟกัสอย่างหิมะคลั่งอยู่ด้วย ทำให้สายลุยได้ทั้ง PVP และ PVE เลยครับ เพียงแต่อาจต้องปรับสกิลให้เหมาะกับวัตถุประสงค์นิดหน่อย

สกิลเด่นๆ ที่มีเฉพาะสายน้ำแข็ง

ภาพชื่อคำอธิบาย
Force Master หิมะคลั่งหิมะคลั่ง
(คลิกขวา)
สกิลที่เปลี่ยนการโจมตีด้วยน้ำแข็งบ้านๆ เป็นการยิงศรน้ำแข็งออกไป 3 ดอก สร้างความเสียหายได้ดีมากๆ ครับถึงแม้ว่าจะไม่ทำให้ศัตรูติดสถานะอะไรก็ตาม
Force Master ลำแสงเกล็ดแข็งลำแสงเกล็ดแข็ง(2)สกิลหากินของสายน้ำแข็งเลยทีเดียว ด้วยระยะที่ค่อนข้างไกลและยังโจมตีศัตรูเป็นหมู่ได้ด้วย ซึ่งหลักๆ แล้วเราจะใช้คอมโบกับลูกเห็บเหน็บหนาวครับ
Force Master กระสุนมังกรน้ำแข็งกระสุนมังกรน้ำแข็ง(2)สกิลที่เหมาะกับการเอาไว้ PVP ในบางสาย ท่านี้เอาไว้ขัดความสุขของศัตรูได้ดีมาก เพราะมีผลทำให้ล้มด้วย เพียงแต่มันอาจจะใช้ยากไปนิดนึงและค่อนข้างเปลืองโฟกัสครับ
(ผลล้มจะมีระยะเวลานึงก่อนจะทำให้ล้มได้อีกครั้ง)
ลูกเห็บเหน็บหนาว(2)สกิลหากินอีกสกิลนึงของสายน้ำแข็ง ที่เมื่อเราใช้แล้วจะคอมโบกับลำแสงเกล็ดแข็งได้ดีมาก เพราะจำทำให้สกิลนั้นไม่มีคูลดาวน์และร่ายได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังช่วยฟื้นโฟกัสให้เราเรื่อยๆ ด้วยผลของสกิลนี้ ทำให้ยิงได้รัวๆ เลยจ้า
บอลมหาเวทย์(4)ท่วงท่าสุดอลังการราวกับโงกุลชาร์มบอลเก็งกิ แต่ไม่ค่อยน่าใช้จริงเท่าไหร่ ด้วยการชาร์ทที่นานเกินไป เทียบกับดาเมจที่ได้ ดังนั้นเก็บมันเอาไว้ในกรุจะดีที่สุดครับ

*วงเล็บด้านหลังคือปุ่มกด

รู้จักกับสถานะผิดปกติ : ในการโจมตีด้วยสกิลไฟส่วนใหญ่จะสร้างสถานะผิดปกติที่ชื่อว่าดวงไฟ ซึ่งถ้าหากสะสมครบ 5 และเราใช้คลื่นกระแทกไปซ้ำจะทำให้ติดสถานะเผาไหม้ทำให้โดนสกิลต่างๆ ในสายไฟแรงขึ้น  ส่วนการโจมตีด้วยสกิลน้ำแข็งหลายๆ ท่าก็จะทำให้เป้าหมายติดสถานะเยือกแข้ง ทำให้ความเร็วการเคลื่อนที่ลดลง และหากติดเยือกแข็ง 3 ครั้งจะกลายเป็นฟรีซซึ่งจะทำให้เดินไม่ได้และไม่สามารถใช้หลายๆ สิกลได้ครับ


การเล่นเบื้องต้น

ในการเล่น FM นั้นทางที่ดีเราควรจะพยายามมสลับสกิลสายต่างๆ ให้ชินครับไม่ว่าจะเล่นธาตุไหนก็ตาม โดยให้ใช้สกิลต่างๆ สลับกันไปเรื่อยๆ ซึ่งมันจะง่ายกว่าในการบริหารโซล เพราะว่ามีอยู่หลายท่าเลยทีเดียวที่เมื่อเราใช้แล้วจะได้โซลกลับคืนมาครับ ซึ่งผมจะอธิบายแนวทางการเล่นคร่าวๆ ในสายต่างๆ ดังนี้

กรณีที่เล่นสายไฟ : โดยพื้นฐานแล้วผมคิดว่ามันเหมาะมากๆ เวลาทำเควสที่ให้ล่ามอนสเตอร์ต่างๆ ตามทางโดยสกิลที่ขาดไม่ได้เลยคือลำแสงเพลิง(2) เพราะมันสามารถเก็บมอนตามทางได้ค่อนข้างไวกว่าในแบบเป้าหมายเดียว หากเทียบกับสายน้ำแข็ง และเงื่อนไขการใช้งานก็ไม่ยุ่งยากมากด้วยครับ

ในกรณีที่เราเริ่มเจอมอนสเตอร์ที่อึดเราอาจจะเพิ่มคอมโบที่ซับซ้อนขึ้น(กรณีเล่นไฟ) นั่นก็คือการใช้ลำแสงเพลิง(2) คู่กับคลื่นกระแทก(3)(คอมโบ) เพราะเมื่อเราเก็บเชื้อไฟได้ครบ 5 แล้วใช้คลื่นกระแทกต่อ จะทำให้ศัตรูติดสถานะไฟไหม้ ทำให้เราใช้สกิลเพลิงอเวจี(ร่ายเพิ่มเติม)(x) ได้เลยโดยไม่ต้องร่าย ทั้งยังทำให้สกิลอื่นๆ โดยเฉพาะลำแสงเพลิงแรงขึ้นด้วย  ที่สำคัญหากเจอตัวหนาๆ อย่าลืมใช้จุดระเบิด(C)คู่ไปด้วยเพื่อเพิ่มโซลเรื่อยๆ ครับ

ในช่วงท้ายเกมหรือ 45 เราจะได้สกิล เพลิงสแคต(4)มาเพิ่มเติม ซึ่งต้องใช้คู่กับท่าหลุมดำ(4) โดยมันจะเหมาะกับกาที่เราลากมอนมาเยอะๆ แล้วจัดการทีเดียวครับ เพราะมันแรงน่าดูเลย ถึงแม้จะใช้ยากไปหน่อยก็ตามครับ

กรณีที่เล่นสายน้ำแข็ง : ส่วนตัวแล้วผมว่าน้ำแข็งเหมาะมากๆ กับการลงดันเจี้ยนครับ โดยเฉพาะเมื่อเพื่อนเราช่วยลากหรือรวบให้เรา แล้วใช้สกิลลำแสงเกล็ดแข็ง(2) เพื่อโจมตีศัตรูเป็นวงกว้าง หรือจะใช้คอมโบสุดโหดอย่างลูกเห็บเหน็บหนาว แล้วต่อด้วยลำแสงเกล็ดแข็ง(2) ก็ได้ครับ

ในส่วนของการเล่นนอกดัน สายน้ำแข็งไม่ใช่ว่าจะไม่ดีครับ เพราะสายนี้ยังมีสกิลอย่างหิมะคลั่ง(คลิกขวา) เอาไว้ช่วยทำดาเมจได้ค่อนข้างสูงพอสมควร โดยคอมโบที่เหมาะมากๆ เลยคือคลิกซ้ายสลับกับขวาครับ และหากมอนไม่ตายก็ซ้ำด้วย คลื่นกระแทก(1)(สกิลพื้นฐาน)

การใช้สกิลเอาตัวรอดในดงมอนสเตอร์ : ในการต่อสู้สิ่งสำคัญเลยคือการเอาตัวรอดให้ได้ครับ ซึ่ง FM นั้นสกิลหนีหรือเอาตัวรอดของเราถึงแม้ว่าจะไม่ได้เยอะมากมายแต่ก็ไม่ได้น้อยเท่าไหร่ ซึ่งสายของเรานั้นจะมีสกิลหนีที่เอาไว้หากิน นอกจากสกิล SS ที่มีทุกสายอาชีพแล้วเรายังมี สกิล E และ Q ที่แทบจะป้องกันท่าต่างๆ ได้ระหว่างใช้ด้วย

ข้อควรทราบ :

  • ไม่ว่าคุณจะเล่นสายไฟหรือน้ำแข็งก็ตาม อย่าลืมว่าเรายังมีสกิลเพลิงมังกร(F) และหิมะมังกร(F) อยู่ด้วย ซึ่งจะใช้ได้เมื่อทำการเปลี่ยนธาตุตอนโจมตี โดยมันแรงน่าดูชมเลยล่ะครับ อีกทั้งยังได้โฟกัสคืนตอนใช้ด้วย ถึงแม้จะมีคูลดาวน์อยู่บ้างก็ตาม และท่าที่แรงมากๆ อย่างมังกรคู่(F)เองที่เราได้มาช่วงหลังๆ หากมีโอกาสก็ใช้บ่อยๆ เพราะมันดาเมจแรงมากกกกก
  • สกิลมังกรคู่(F) จะสามารถกดได้เมื่อเราเปลี่ยนธาตุในการโจมตีไปมา โดยเราจะได้รับมาเมื่อเลเวล 32 โดยการโจมตีของสกิลนี้จะเป็นเส้นตรงและเล็งไม่ค่อยได้ ดังนั้นหันหน้าไปทางที่ต้องการก่อนยิงด้วยนะ
  • สถานะฟริซจะติดโดยอัตโนมัติเมื่อเราใช้สกิลที่มีผลเยือกแข็งโดน 3 สแต็ก แต่สถานะไฟไหม้จะต้องใช้สกิลคลื่นกระแทก(1)(สกิลพื้นฐานหรือคอมโบ) ช่วย

 

คอมโบ PVE (ตีมอนและลงดัน)เบื้องต้น

1.คอมโบมาตรฐานของสายไฟ ที่เราจะใช้สกิลลำแสงเพลิง(2) สลับกับการโจมตีธรรมดา(คลิกซ้าย)จนแสคตของดวงไฟเต็ม 5 ดวงแล้วทำดาเมจด้วยคลื่นกระแทก(1)(สกิลพื้นฐาน/คอมโบ) ครับ และถ้าหากเราใช้คอมโบ เราจะสามารถยิงสกิลเพลิงอเวจีต่อได้เลยด้วย(X)(ร่ายเพิ่มเติม) อีกทั้งเมื่อเป้าหมายติดสถานะไฟไหม้แล้วจะทำให้เราใช้สกิลไฟ หลายๆ ท่าแรงขึ้นด้วย โดยเฉพาะลำแสงเพลิงที่จะแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ

FM คอมโบ 1

2.คอมโบช่วงเลทเกมของสายไฟที่จะใช้ได้เมื่อเลเวล 45 แล้ว โดยเราจะสามารถลากมอนมารวมๆ กันได้ด้วยสกิล หลุมดำ(4) จากนั้นก็ต่อด้วยเพลิงสแตค(4) ที่เป็นท่าต่อเนื่องครับ ซึ่งมันใช้เก็บพวกลูกกะจ็อกในดันได้ดีมากๆ

3.คอมโบพื้นฐานที่ใช้ได้ทั้งสายไฟและน้ำแข็ง แต่สกิลที่ใช้อาจจะต้องเปลี่ยนเล็กน้อยตามสาย โดยจากในภาพผมจะใช้การโจมตีธรรมดา(คลิกซ้าย) สลับกับยิงสกิลน้ำแข็ง(คลิกขวา) สับกันไปเรื่อยๆ แล้วยิงด้วยไฟต่ออีกหน่อย เพื่อสะสมสแตคไฟให้ครบ 5 ดวง แล้วปิดด้วย คลื่นกระแทกครับ แต่จริงๆ เราไม่ต้องใส่ใจกับการโจมตีให้สแตคเต็มมากก็ได้ ในภาพผมเพีงยกตัวอย่างเฉยๆ จริงๆ แค่ใช้สับกันก็แรงแล้วนะFm คอมโบ 5

4.คอมระดับสูงขึ้นมาอีกหน่อย นั่นคือการใช้สกิล F เพิ่มเข้ามาในคอมโบด้วย โดยเมื่อเราโจมตีปกติในธาตุไฟหรือน้ำแข้งจนติดสถานะฝ่ามือน้ำแข็งหรือวงแหวนไฟ(บางทีก็แล้วแต่ดวง) จะทำให้กด F ได้ครับ และถ้าติดทั้งสองสถานะแล้วจะใช้มังกรคู่ได้ ซึ่งบอกเลยว่ามันแรงมากๆ

5.คอมโบสามัญของสายน้ำแข็ง ที่มีพลังทำลายสูงและรัวมากๆ โดยการใช้ลูกเห็บเหน็บหนาว(z)เปิดใส่ศัตรูและตามด้วยการรัวสกิลลำแสงเกล็ดแข็งใส่เป้าหมาย(2) ที่ระยะเวลาคูลดาวน์หลังการใช้จะกลายเป็น 0 หากใช้คู่กับลูกเห็บเหน็บหนาว ทำให้เราแทบจะยิงรัวเป็นปืนกลเลยล่ะครับ

FM คอมโบ 6


เล่นยังไงให้มีประโยชน์กับปาร์ตี้

การเล่น Force Master ให้เป็นประโยชน์กับปาร์ตี้ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ เนื่องจากตัว FM นั้นมีสกิล CC ที่เอาไว้ก่อนกวนบอสได้ ถึงแม้จะไม่มาก แต่ก็มีข้อดีคือใช้ทีเดียวแล้วติดเลย อีกทั้งยังมีสกิลบาเรียหรือโล่ที่เอาไว้ใช้กับเพื่อนได้ด้วยครับ

การ CC บอส : การใช้ CC ใส่บอสหรือหยุดไม่ให้บอสโจมตีหรือใช้สกิลนั้นเราจะมีสกิลที่ใช้ได้หลักๆ ด้วยกัน 2 สกิลครับคือคลื่นความร้อน(z) ที่จะต้องเลือกเป็นน็อคดาวน์ และระเบิดพลัง(3) ที่เมื่อใช้แล้วเราจะสตั๊นเป้าหมายได้เลย (ถ้าแถบใต้เลือดบอสไม่เป็นสีเทานะ)

Force Master cc

สกิลที่มีประโยชน์กับปาร์ตี้

Force Master โล่น้ำแข็งสกิลโล่น้ำแข็ง(V) สามารถช่วยปกป้องเพื่อนจากสกิลของบอสได้ดีมากๆ อีกทั้งยังใช้ถ่วงเวลาในสถานการณ์ต่างๆ ได้อีกด้วย ดังนั้นหากเล่นเป็นแบบปาร์ตี้ แนะนำว่าให้พกท่านี้มาด้วยจะดีมากๆ ครับโดยเฉพาะในดันใหญ่ๆ รับรองว่ามีประโยชน์มากๆ แน่นอน โดยเฉพาะการใช้หลบท่าใหญ่ของบอสอย่างเช่นดันลิงไฟ(36) หรือโพฮวารัน(45) ครับ

Force Master สกิลป้องกันตัวเองสกิลป้องกันตัวเอง(C) หรือที่เราเรียกกันบาเรียนั้นสามารถกันการโจมตีของมอนสเตอร์และบอสได้หลายท่า โดยเฉพาะท่าที่เป็นการโจมตีระยะไกล แน่นอนว่าเราสามารถใช้มันชวยป้องกันให้กับเพื่อนได้ครับ ถึงแม้จะไม่ทุกสกิลแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีล่ะนะ และที่สำคัญสกิลนี้ยังฟื้นเลือดให้เราเรื่อยๆ ด้วยถึงแม้จะไม่ค่อยเยอะก็ตามครับ

Force Master พายุเพลิงสกิลพายุเพลิง(Tap) สกิลนี้จัดว่าเป็นสกิลปัดป้อง ทำให้เราสมารถใช้สวนและหยุดสกิลของบอสบางตัวอย่างเช่นบัลบาล่าในดันเจี้ยนมิกุ( ดัน 45) ได้ครับในขณะที่มันพุ่งมา

 

สกิลหลุมดำ(4) ท่านี้จะช่วยให้เราสามารถรวบมอนสเตอร์มาไว้เป็นกองได้ ทำให้เพื่อนสามารถจัดการกับมอนเหล่านั้นได้ง่ายขึ้นมากๆ อีกทั้งตัวเรายังมีสกิลที่ใช้ต่อจากการรวบได้ด้วย ซึ่งมีประโยชน์ในดันที่มีมอนเยอะๆ ครับ

พลังดึงดูด (4) สกิลนี้ส่วนใหญ่เราอาจจะไม่ได้ใช้เท่าไหร่ แต่ในบางดันเราอาจจะให้เพื่อนเปลี่ยนเป็นชุดฝ่ายต่างๆ เช่นโจรสลัดกับหมู่บ้านไม่ไผ่ แล้วใช้สกิลนี้ยกเพื่อนขึ้นมาในตำแหน่งที่ต้องการได้ครับ (เช่นดันปู่กรณีที่เพื่อนไม่มีไต่กำแพง)


 

ทำไมไฟถึงไม่ค่อยเหมาะกับการ PVP

ก่อนที่จะไปยังหัวข้อถัดไปเกี่ยวกับ PVP แบบเต็มรูปแบบผมจะมาขอบอกถึงเหตุผลว่าทำไมผมถึงคิดว่าศาสตร์สายไฟไม่ค่อยเหมาะกับการ PVP โดยมีเหตุผลดังนี้ครับ

  • สกิลของสายไฟนั้นดาเมจหลักๆ เลยจะมาจากลำแสงเพลิง แต่ในการ PVP เราอาจจะต้องการท่า CC เพิ่มอย่างเช่นท่าล้มของเพลิงเผาพลาญในปุ่มดียวกัน ทำให้ต้องเลือกว่าจะเอาอันไหน ซึ่งหากเราใช้ท่าล้มก็จะทำให้ดาเมจของเราหายไปเยอะพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากเทียบกับสายน้ำแข็งที่มีท่าโจมตีที่ต่อเนื่องอยู่แล้วอย่างหิมะคลั่ง(คลิกขวา) ต่อให้เราไม่ได้ใช้ท่าดาเมจยอดนิยมอย่างลำแสงเกล็ดแข็ง(2)ก็ยังมีดาเมจที่สูงอยู่ครับ
  • การ PVP แบบทีมเราต้องการทำความเสียหายในเวลาที่สั้นที่สุด ซึ่งสกิลของสายน้ำแข็งส่วนตัวแล้วผมมองว่าค่อนข้างจะตอบโจมย์กว่าสายไฟ ซึ่งการจะแสดงผลให้เต็มประสิทธิภาพจะต้องพึ่งแสตคและเวลา ทำให้เวลาอันมีค่าในการลงไปช่วยเพื่อนสู้ 5 วินั้นไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่

*ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวจ้าอาจจะมีเพื่อนๆ เห็นต่างสามารถมาพูดคุยและแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ครับ


แนวทางการเล่น PVP เบื้องต้น

สำหรับการเล่น Force Master นั้นจะมีแนวทางการเล่นอยู่หลายแนวด้วยกันครับ ซึ่งกบจะขอทำการแนะนำการอัพสกิลและสายแบบที่กบเล่นเป็นประจำให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันนะครับ รวมไปถึงวิธีการรับมือกับอาชีพอื่นๆ แบบคร่าวๆ ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอบอกเอาไว้ก่อนว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของกบนะครับ อาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด โดยกบเองก็ไม่ได้เก่งระดับเทพอะไรมากมาย เอาไว้ให้เพื่อนๆ เป็นแนวทางคร่าวๆ แล้วกันครับ แต่ก่อนอื่นผมจะขอบอกว่าทำไมผมถึงคิดว่าสายไฟไม่ค่อยเหมาะกับการเอาไปใช้ PVP ดังหัวข้อด้านล่างครับ

สายที่ 1 เน้นทำดาเมจให้ไวที่สุด

คอมโบของสกิลสายนี้คือ ลูกเห็บเหน็บหนาว(Z)และลำแสงเกล็ดแข็ง(2) ข้อดีของสายนี้ข้อดีคือดาเมจของเราจะสูงมากๆ  เพียงแต่ว่าจะแลกมาด้วยความคล่องตัวที่ลดน้อยและถดถอยลง อีกทั้งคูลดาวน์ยังนานมากอีกต่างหาก ถ้าพลาดขึ้นมาล่ะก็กู้สถานการณ์ยากพอดูเลย สายนี้เหมาะกับการเล่นแบบทีม 3VS3 มาก เพราะเราสามารถกดออกมาโจมตีด้วยท่าใหญ่ได้และถ้าโดนใช้เวลาเพียงไม่นานก็ฆ่าเป้าหมายได้แล้ว โดยเฉพาะหากว่าเพื่อนมีพวกท่าจับ แต่การเล่นแบบ 1VS1 ก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ เพียงแต่ไม่ควรจะเอาไปใช้กับพวกที่มีท่าเข้าประชิดเยอะๆ หรือท่าหนีมากๆ เพราะจะทำให้คอมโบของเราเป็นหมันเอาได้ง่ายๆ ครับ

อีกนิดนึงคือสายนี้แบบ 1VS1 จะเหมาะกับการเอามาใช้สู้กับนักเวทย์ด้วยกันเอง และซัมมอนเนอร์มากเป็นพิเศษ แต่จะไม่ค่อยเหมาะกับพวกตัวเคลื่อนที่ไปมาได้ไวๆ อย่างนินจาครับ เพราะท่าเปลี่ยนที่ของแอสซาซินและท่าหายตัวทำให้เราเล่นลำบากสุดๆ เลยครับ อีกนิดคือหากเราเจอซัมมอนเนอร์อาจจะไม่ใช้ฝ่ามือน้ำแข็งแต่เปลี่ยนเป็นท่าหิมะคลั่งแทนก็ได้ครับ(คลิกซ้าย) แล้วก็ท่าคลื่นกระแทกหากเจอ 1vs1กับพวกประชิดแนะนำว่าเปลี่ยนเป็นสกิลพื้นฐานจะดีกว่าจ้า

สายที่ 2 เน้นความคล่องตัว

Skill build 2 force master

ในสายนี้เราจะเอาสกิลดาเมจหลักอย่างลูกเห็บเหน็บหนาว(z) และเกล็ดน้ำแข็ง(2) ออก แต่จะเอาสกิลที่ใช้งานได้ง่ายและคล่องตัวกว่ามาใช้แทน โดยดาเมจหลักของเราจะกลายมาเป็นท่าหิมะคลั่ง(คลิกขวา) ส่วนกระสุนมังกรน้ำแข็ง(2) จะเอาไว้ใช้ขัดคอมโบของศัตรูและทำให้ล้มครับ  (แต่หากเราไม่ชอบจะใช้เป็นเกล็ดน้ำแข็งเหมือนเดิมก็ได้นะ ระยะมันไกลกว่า) และในส่วนของมังกรหนาวเหน็บเราจะเอาไว้ใช้ในการโจมตีลงพื้นจากระยะไกลซึ่งแทบจะไม่มีทางกันได้ครับ เอาไว้ใช้ก่อกวนได้ดีมากๆ

ADVERTISEMENT

สกิลต่างๆ ที่จำเป็นในการ PVP

เพลิงมังกร/หิมะมังกร/มังกรคู่ (F)

จะว่าเป็นสกิลหากินของ Force Master ก็ไม่ผิดนักครับ การจะใช้สกิล 3 ท่านี้ได้เราจะต้องเปลี่ยนศาสตร์ไปมา ซึ่งดาเมจของท่าพวกนี้ก็ไม่น้อยเลยล่ะครับ โดยการใช้ท่า 3 ท่านี้จะฟื้นโซลให้เราทุกท่า ดังนั้นควรหาจังหวะใช้ให้ดีๆ ครับ โดยท่าที่แรงที่สุดจะเป็นมังกรคู่ เพียงแต่ก็ใช้ยากที่สุดด้วยเช่นกันเพราะว่ามันจะไม่เล็งเป้าอัตโนมัติแบบอีกสองท่าครับ และเราอาจจะต้องเปลี่ยนแผงสกิลไปมาระหว่างไฟกับน้ำแข็งจึงจะสามารถใช้มันได้ ด้วยทำให้แอบใช้ยากนิดหน่อย แต่ก็คุ้มกับความแรงนะ

คลื่นกระแทก (1) สกิลคลื่นกระแทกนั้นเราสามารถปรับเปลี่ยความสามารถได้ถึง 3 แบบด้วยกัน โดยในสกิลแต่ละสายจะมีความแตกต่างกันนิดหน่อย โดยของสายไฟท่าคลื่นกระแทกจะเป็นคอมโบและสกิลพื้นฐาน ที่ทำให้เราสามารถทำให้เป้าหมายติดสถานะเผาไหม้ได้ ส่วนของสายน้ำแข็งจะเป็นลดการใช้ใหม่ ซึ่งทำให้คูลดาวน์ของ บอลหิมะหรือพายุน้ำแข็งลดลง

การใช้งานคลื่นกระแทกนั้นอาจจะปรับไปมาระหว่างบล็อคหรือสกิลพื้นฐานตามสถานการณ์ครับ โดยหากเราเจอพวกสายโจมตีระยะไกลอาจจะเอาบล็อคมาไว้ใช้ แต่หากเจอพวก Melee และคิดว่าอาจจะไม่ได้ใช้ก็ให้เอาสกิลพื้นฐานมาแทนครับ (แต่อาจจะพกบล็อคมากันบางสกิลได้นะ แต่ส่วนตัวแล้วกบว่าใช้ค่อนข้างลำบาก)

 

ฝ่ามือน้ำแข็ง/หิมะคลั่ง (คลิกขวา)

สองสกิลนี้มีประโยชน์แตกต่างกันออกไปครับ โดบฝ่ามือน้ำแข็งจะทำให้เราสร้างสถานะผิดปกติกับเป้าหมายได้ด้วยการเยือกแข็งเป็นเวลาถึง 10 วินาที แต่ข้อเสียของมันคือการจะยิงเราต้องใช้โซลด้วยครับ  กลับกันหิมะคลั่งจะได้เปรียบในเรื่องนี้มากๆ เพราะไม่ใช้โซลแถมยังทำดาเมจได้ดีกว่าด้วย ซึ่งเราก็ต้องเลือกเอาล่ะครับว่าต้องการผลของอะไร

ในการใช้งาน โดยส่วนตัวผมแล้ว หากผมทำการเลือกสกิล กระสุนมังกรน้ำแข็งมาแทนที่ลำแสงเกล็ดแข็ง(2) ผมจะเลือกเอาหิมะคลั่งมาด้วยเสมอ เพราะดาเมจของผมจะหายไปค่อนข้างเยอะ และต้องพึ่งดาเมจจากท่าพายุคลั่งแทน แต่หากว่าผมมีท่าลำแสงเกล็ดแข็งอยู่แล้ว(2) ผมมักจะไม่ค่อยเอาพายุคลั่งไปครับ (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่ความถนัดเราแหล่ะนะ)

ระเบิดพลัง(3)

สุดยอดสกิลที่จำเป็นมากๆ ของจอมเวทอย่างเราๆ เพราะสกิลนี้จะทำให้เป้าหมายที่โดนติดสถานะสตั๊นทันที ซึ่งหากเราใช้ถูกจังหวะจะหยุดคอมโบของอีกฝ่ายนึงได้ชะงัดมากๆ ครับ เพียงแต่ระยะคูลดาวน์นานมาก หากจะใช้ล่ะก็คิดให้ดีๆ ก่อนนะ

พลังดึงดูด(4)

สกิลนี้เป็นท่าที่ค่อนข้างจะจำเป็นมากๆ ครับเวลาที่เราเจอกับพวกสายเวทย์ด้วยกัน เพราะส่วนใหญ่ในการต่อสู้ด้วยกันระหว่าง Force Master มักจะมีการกางบาเรีย(C) กันเอาไว้เสมอ ดังนั้นสกิลนี้จึงจำเป็นมากในการลากคอ FM ของอีกฝั่งนึงออกมานอกบาเรียครับ และนอกจากการใช้ลากคอเป้าหมาอยอกมาจากบาเรียได้แล้ว เรายังใช้ท่านี้ในการยื้อเวลาไม่ให้เป้าหมายใช้สกิลได้สะดวกได้อีกด้วย

หลังจากที่เราดึงเป้าหมายขึ้นมาแล้ว จะทำให้มีสกิลที่ใช้ได้ตอนเป้าหมายอยู่กลางอากาศด้วยครับ ซึ่งหลักๆ แล้วสกิลที่ผมมักจะใช้คือท่าเวทย์ผลักไส(2) เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งของศัตรูและซื้อเวลาให้เราเพิ่มขึ้นครับ หรือสกิลดูดมานา(4) ครับ

พายุน้ำแข็ง (x)

Force Master พายุน้ำแข็งสกิลหากินที่เอาไว้ใช้เพิ่มโซลและยกเลิกการป้องกันของศัตรู ถึงแม้ว่าจะเจาะท่าบล็อกของหลายตัวไม่ได้ แต่ก็เป็นท่าที่ดีในการก่อกวนเลยล่ะครับ อย่างน้อยๆ แค่เอาไว้ฟื้นโซลสัก 3 ก็ค่อนข้างจะคุ้มแล้ว

คลื่นความร้อน(z)

Force Master คลื่นความร้อนสกิลที่เอาไว้ใช้งานในการต่อสู้แบบทีมได้ดีมาก โดยเฉพาะตอนเพื่อนเรากำลังเสียเปรียบ เพราะสกิลนี้จะทำให้ช่วยยื้อเวลาได้มาอีกหน่อย โดยศัตรูที่โดนจะทำการติดสถานะน็อคดาวน์ และด้วยการที่เป็นสกิลลงพื้นทำให้แทบจะไม่มีทางป้องกันได้เลยครับ

หนี(ss)

Bns หนีสำหรับท่าหนีนี้ผมอยากจะแนะนำให้ใช้เป็นต้านทาน 1 หรือต้านทาน 2 จะดีกว่าครับ ซึ่งแล้วแต่เราจะถนัดว่าจะใช้อันไหน เพราะความต่างของมันก็คือระยะในการหนีครับ ส่วนหนีที่เป็นอันที่ 3 นั้นผมไม่แนะนำเท่าไหร่ แต่ไม่ใช่มันไม่ดีนะ มันดีมากเลยครับ เพราะในตอนที่เราหนีศัตรูรอบๆ จะติดสถานะฟรีซด้วย แต่ว่าหากเราใช้พลาดขึ้นมาการเลือกความสามารถหนีจะต้องรอคูลดาวน์ถึง 36 วินาทีเลยทีเดียว ทำให้มีโอกาสพลาดเยอะ หากจะใช้ก็ควรจะมั่นใจว่าจะฆ่าอีกฝ่ายได้แน่ๆ ครับ ผมเลยไม่แนะนำเท่าไหร่

ฟรอสโนวา/โล่น้ำแข็ง  (V)

Force Master สกิลแช่สำหรับปุ่ม V ผมขอแนะนำแค่ 2 สกิลนี้ครับ คือโล่น้ำแข็งซึ่งจุดประสงค์หลักแล้วคือไม่ได้เอาไว้ใช้คุ้มครองปาร์ตี้ครับ แต่เราจะเอาไว้ใช้ในการถ่วงเวลาซะมากกว่า ส่วนฟรอสโนวานั้นเอาไว้ใช้ต่อกับสกิลที่ทำให้เป้าหมายติดฟรีชไปเรียบร้อยแล้ว จะได้ผลชงัดดีมาก

เกราะน้ำแข็ง(Tab)

Force Master เกราะน้ำแข็งงท่านี้เราจะเอาไว้ใช้ในการถ่วงเวลาเพื่อรอสกิล และฟื้นฟูโซลเป็นส่วนใหญ่ โดยขอบอกไว้เลยว่ามีประโยชน์มากๆ อย่างเช่นหากเราเห็น Blade Master กำลังใช้สกิลปล่อยดาบออกมา(ที่มีดาบรอบตัว) เราอาจจะทำการใช้ท่านี้เพื่อถ่วงเวลารอท่าหมด หรือเมื่อเจอกับสกิลพายุเหน็บหนาวของ FM ด้วยกันก็เอาไว้ถ่วงเวลาจนกว่าผลของสกิลจะหมด เป็นต้น

สำหรับเกราะน้ำแข็งผมแนะนำว่าที่ให้เลือกอยู่ 2 แบบคือดูดพลังชีวิต หรือฟรีซ อย่่างหนึ่ง ส่วนฟื้นฟูพลังชีวิตผมไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่เพราะ CD มันนานมากกกกกกกกก โอกาศได้ใช้เกิน 1 รอบแทบไม่มีเลยครับ โดยฟื้นฟูพลังชีวิตหากอีกฝ่ายเผลอมาโจมตีระหว่างที่เราใช้สกิลเราจะได้เลือดเพิ่มด้วย ส่วนฟรีซเมื่อยกเลิกสกิลแล้วเราจะถอยหลังพร้อมเยือกแข็งเป้าหมาย 6 วิครับ โดยส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างชอบฟรีซมากกว่า โดยเฉพาะเวลาเจอกับพวกสายระยะใกล้อย่างแอสหรือพวกกังฟู

ก้าวเผาผลาญ(Q)/ก้าวเยือกแข็ง(E)

สกิลเอาตัวรอดสำคัญของ FM ซึ่งเจ้าสองสกิลนี้หากเราใช้ถูกจังหวะจะสามารถป้องกันการโจมตีของศัตรูได้ อีกทั้งขณะที่เราโดนล็อคด้วยท่าต่างๆ อยู่ก็สามารถสกัดให้หลุดได้ด้วยสองสกิลนี้เช่นกัน อีกทั้งธาตุในการโจมตีของเรายังเปลี่ยนไปตามสกิลที่กดด้วยครับ ดังนั้นจึงเปรียบได้เลยว่าเจ้าสองสกิลนี้เป็นอาวุธลับที่ต้องใช้งานให้ดีๆ ครับ ที่สำคัญหากเราใช้พุ่งใส่เป้าหมายเราจะสามารถแดชไปข้างหลังศัตรูได้ด้วย ทำให้มีประโยชนืมากเวลาเจอพวกที่ชอบบล็อกสกิลด้านหน้าอย่างเช่น Blade Master และ Kungfu Master ครับ

คำแนะนำในการสู้กับอาชีพต่างๆ แบบคร่าวๆ 

Summonner(Sm) : ถ้าเจอกับสายอาชีพนี้น่าจะเป็นสายที่เราสู้ได้ค่อนข้างง่ายที่สุด เว้นแต่อีกฝ่ายจะค่อนข้างเก่งโปร จุดสำคัญของการปะทะกับ Summonner คือกางใช้สกิล C เพื่อป้องกันการโจมตีของพวกเค้า จะทำให้เราซื้อเวลาได้พอสมควร จะทำให้เรามีเวลาเลือกได้ว่าจะจัดการตัวซัมมอนเนอร์หรือตัวแมวของครับ ถ้าหากว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใช้สกิลป้องกันแมวเอาไว้ เราอาจจะทำการฆ่าแมวทิ้งก่อนเลยก็ได้

จุดสำคัญคือให้ระวังท่าที่ SM กำลังกางฝุ่นสีใสๆ รอบๆ ตัวเพราะเมื่อเราตีไปเค้าจะได้เลือดฟื้นคืนมาด้วย นอกจากนี้ ให้เราระวังท่าหายตัวของอาชีพนี้ให้ดี ถ้าหากอีกฝ่ายยกมือขึ้นแล้วถือดอกไม้ แล้วเราโจมตีไประหว่างนั้น SM จะสามารถหายตัวได้ครับ

Force Master(FM) : กรณีที่เจอกับอาชีพเดียวกัน อาจจะต้องอาศัยการชิงไหวชิงพริบกันพอสมควรครับ โดยใครที่ใช้สกิลหนีหมดก่อน ส่วนมากจะเป็นฝ่ายแพ้ไป ซึ่งการต่อสู้นั่นเราควรจะต้องบริหารการใช้สกิลและโฟกัสให้ดีๆ ครับ โดยเฉพาะสกิล ป้องกันตัวเอง(C) นั้นสำคัญมาก เพราะหากกะจังหวะใช้ดีๆ ให้ศัตรูตีมาช่วงที่ใช้เท่ากับเราจะได้เลือดฟรีจำนวนมากเลยล่ะครับ

ถ้าหากเราเห็นอีกฝ่ายกำลังใช้ C อยู่วิธีการแก้จะมีอยู่ 2 อย่างคือรอให้โล่หมด และใช้สกิลลงพื้นตอดๆ ไปก่อนเช่น มังกรหนาวเหน็บ(x) หรือคลื่นความร้อน(z) เป็นต้น อีกทางนึงคือดึงมันออกมาด้วยสกิลพลังดึงดูด (4) และหากจะให้ดีใช้ท่าดูดซับซ้ำเพื่อเพิ่มโซลให้ตัวเองด้วยครับ

Assassin (AS): โดยส่วนตัวแล้วอาชีพนี้ผมไม่ค่อยอยากจะเจอเท่าไหร่ ด้วยสกิลหายตัวที่ค่อนข้างนาน และท่าต้านทานอีกสารพัด ทำให้การรับมือกับ AS เป็นไปได้ค่อนข้างยาก ถ้าหากเราเจอกับ AS ล่ะก็คำแนะนำของผมคือเราต้องใจเย็นๆ ครับอย่ารีบใช้ท่าหนีจนหมด และหากมีเวลาพักช่วงหายใจ เราอาจจะใช้ท่าป้องกันตัวเอง(C) เพื่อฟื้นเลือด เท่าที่พอจะทำได้ และหากคิดว่าจะโดนคอมโบหนักๆ ให้เราใช้ท่าเกราะน้ำแข็ง(Tab) เพื่อป้องกันตัวเองเอาไว้ครับ  หรืออาจจะใช้ตอนโดนท่าระเบิดแสงก็ได้เพราะอย่างน้อยก็ป้องกันตัวเองได้ในช่วงนั้น (แต่ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงการใช้ดีกว่า เพราะมันจะฟื้นฟูโซลให้เราได้ด้วย เก็บไว้ใช้ตอนที่ลำบากจริงๆ )

หากมีโอกาสล่ะก็พยายามมใช้สกิลดึงใส่ As ให้ได้และดูดโซลด้วยท่าดูดซับ(4) เพราะการที่ลูกแก้วของเค้าไม่ค่อยมีจะทำให้สกิลที่เราจะโดนน้อยลงไปเยอะครับ  และในการต่อสู้แบบ PVP การที่เรามีโซลเยอะกว่าก็ทำให้ออกสกิลได้ง่ายกว่าด้วย

Blade Dance (BD) : อีกสายอาชีพนึงที่สู้ด้วยค่อนข้างยาก เพราะมันบล็อกสกิลเราได้ หากเจอให้ระวังอย่ายิงสกิลส่งเดช และคอยนับโฟกัสของอีกฝ่ายเอาไว้ เพราะว่าหากอีกฝ่ายหมุนพลาดและบล็อคสกิลอะไรไม่ได้เลย จะเสียโฟกัสไปฟรีๆ 2 และเป็นคราวของเราครับ  และคอยรักษาระยะห่างเอาไว้ เพราะในระยะประชิดสายอาชีพนี้ค่อนข้างน่ากลัวมากเลยทีเดียว

Blade Master(BM) : สำหรับการเจอกับ BM นั้นเป็นงานที่ค่อนข้างยากเช่นกัน เพราะอาชีพนี้มีสกิลบล็อกที่ถี่มากๆทำให้เราเจาะเข้าไปยาก ซึ่งเราอาจจะต้องหาทางเข้าข้างหลังให้ได้ หรือคอยโจมตีสวนขณะที่พวกเค้าโจมตีพลาดครับ ซึ่งสกิลที่ช่วยแช่แข็งจะช่วยทำให้เราสู้กับพวกเค้าได้ง่ายขึ้นมาก เพราะหากเค้านิ่งอยู่กับที่จะทำให้เรามีเวลาอ้อมไปโจมตีจากด้านหลัง และพวกเค้าไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลยครับ

ระวังท่าที่ BM เรียกดาบขึ้นมเอาไว้ให้ดีๆ เพราะดาเมจของพวกเค้าจะสูงขึ้นมาก หากเห็นว่าพวกเค้าใช้ท่านี้ล่ะก็ ผมแนะนำว่าเราควรจะแช่แข็งตัวเองเอาไว้ด้วยสกิล เกราะน้ำแข็ง(Tab) ก่อนแล้วค่อยออกมาสู้ทีหลังจะดีกว่าครับ

Destroyer(DT) : สายอาชีพที่น่ารำคาญมากๆ และไม่ค่อยอยากเจอเท่าไหร เพราะคนที่เล่นสายนี้เก่งๆ สำหรับอาชีพเราแล้วน่ากลัวมากครับ โดยหลักๆ แล้วหากเจอสายนี้สิ่งที่เราควรทำคือการทิ้งระยะ และคอยโจมตีอยู่ห่างๆ
โดยพยายามใช้ท่าฟรีซเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ทำอะไรตามใจชอบ และสโลว์เอาไว้จะช่วยเราได้ค่อนข้างมากครับ แน่นอนว่าหากเจอกับสายนี้การหวังสกิลอย่างลูกเห็บเหน็บหนาว(z) จะเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ผมเลยแนะนำว่าให้เอาสกิลที่ใช้แล้วเห็นผลทันทีอย่างมังกรหนาวเหน็บ(z) มาจะช่วยได้เยอะกว่าครับ

Kung Fu Master (KF) : สายอาชีพที่มีท่าเข้าเยอะมากๆ ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ของสายอาชีพ Force Master ตัวบางๆ อย่างเรามากเลยทีเดียวล่ะครับ ซึ่งหากเราเจอกับสายอาชีพนี้ให้ระวังท่าเข้าสารพัดท่าของพวกเค้าเอาไว้ให้ดีๆ ซึ่งการใช้งานสกิลป้องกันตัวและฟรีซตัวเองจะช่วยคุณได้เยอะมากๆ และถ้าหากว่าอีกฝ่ายกดบล็อครัวๆ ล่ะก็ลองเอาระเบิดลงพื้นยัดให้ติดน็อค หรือพยามหาจังหวะโจมตีจากด้านหลัง จะช่วยทำให้เราสร้างความเสียหายให้กับพวกเค้าได้เยอะครับ และข้อสำคัญอีกอย่างคือพยามหลีกเลี่ยงการสู้ระยะประชิดกับสายอาชีพนี้ให้มากที่สุดครับ เพราะเราอาจจะโดนคอมโบรัวๆ และตายเอาแบบยังไม่ได้กดอะไรเลย ดังนั้นท่าหนีอย่างการกด Tap จึงสำคัญมากๆ อย่าใช้พร่ำเพรื่อเด็ดขาด


[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]

Tags: Blade and SoulForce MasterForce Master PVPForce Master อัพสกิลยังไงดีคู่มือ Blade and Soulคู่มือเบลดแอนด์โซลวิธีเล่น Force Masterเบลดแอนด์โซล
Previous Post

Overwatch Rate This Match ไปซะแร้ว

Next Post

Empire of Angels อาณาจักรนางฟ้ารับสมัครผู้กล้าจำนวนมาก

rexe

rexe

Related Posts

PR2021 Blade and Soul Dual Blade cover playpost
PC News

พบกับอัปเดตใหม่ล่าสุด เบลดแอนด์โซล อาชีพใหม่ล่าสุด Dual Blade (ดูอัลเบลด)

29 พฤศจิกายน 2021
PR2021 Blade & Soul Sky Seer Cover playpost
Mobile

Blade & Soul Thailand เปิดตัวอาชีพใหม่ “สกายเซียร์” อัปเดตพร้อมกัน 24 มีนาคม 2564

23 มีนาคม 2021
PR2021 Blade and Soul Grim Blade n Bubble Soul Cover playpost
Mobile

Blade and Soul Thailand เปิดตัวสายสกิลใหม่ล่าสุดของซัมมอนเนอร์ และ เบลดแดนเซอร์

25 กุมภาพันธ์ 2021
Next Post
empire of angels Cover

Empire of Angels อาณาจักรนางฟ้ารับสมัครผู้กล้าจำนวนมาก

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปกไกด์ งบ 1000 เติมแพ็กไหนคุ้ม SYNCED
Guide

SYNCED – งบ 1000 เติมแพ็กไหนคุ้ม ?

16 กันยายน 2023
Guide

Dragon Nest 2: Evolution – ระบบ Guild

16 กันยายน 2023
Guide

Dragon Nest 2: Evolution – รวมธาตุยอดนิยมสำหรับทุก Class!!

15 กันยายน 2023

About Us

Playpost เว็บไซต์ข้อมูลเกมของคนรักเกม เราพร้อมเสิร์ฟเนื้อหาใหม่ๆ ให้คุณทุกวันน

No Result
View All Result
  • Home
  • PC News
  • Console News
  • Mobile Guide
  • PC Guide
  • Console Guide
  • เล่นเกม
  • ไทย

© 2023 Playpost Company Limited

This website uses cookies. By continuing to use this website you are giving consent to cookies being used. Visit our Privacy and Cookie Policy

ตั้งค่า ไม่ยอมรับ ยอมรับ
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

This website uses cookies. By continuing to use this website you are giving consent to cookies being used. Visit our Privacy and Cookie Policy

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว