Console Guide

Pokemon Unite Machamp เป็นตัวละครสาย All-Rounder โดดเด่นเรื่องการต้านทาน Hindrance พวกสกิลหยุด สกิลขัดขวาง (ผลักออก ทำให้ลอย ฯลฯ) ทำให้เดินหน้าไล่ฆ่าเป้าหมายได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะโดนขัดขวาง แถมตัวมันยังเดินเร็ว Damage แรง จึงเป็นอีกหนึ่งตัวโหดช่วงท้ายเกม Pokemon Unite Machamp วิธีเล่น Machamp มีความสมดุลทั้ง Damage และความถึก เอามาเล่นเป็นตำแหน่ง Off Tank ให้กับทีมจะเหมาะมาก จังหวะบวกกับฝ่ายตรงข้ามค่อนข้างได้เปรียบพวกตัวบาง Damage แรง หากตัวดาเมจอีกทีมหลุดตำแหน่ง เราก็สามารถจัดการตัวนั้นได้ไม่ยาก Submission+Cross Chop = จับตายเป้าหมาย คริรุนแรง การเปิดด้วย Submission ทำให้ศัตรูหนีเราไม่ได้ จากนั้นเมื่อเราใช้ Cross Chop ศัตรูจะโดนอย่างแรงแถมถ้าคริก็อาจกลับบอลได้เลย เหมาะกับผู้เล่นสายไล่ฆ่าด้วยตัวเองเป็นอย่างมาก Dynamic Punch+Close Combat = ดาเมจแรง ไม่เน้นคริ ต้องพึ่งเพื่อน สำหรับคนเชื่อเพื่อนมากกว่าเชื่อดวง สองท่านี้ไม่เน้นคริเน้นดาเมจดิบๆไปเลย Close Combat ดาเมจแรงมากแต่ใช้แล้วเดินไม่ได้ จึงต้องอาศัยเพื่อนจับศัตรูให้ หากศัตรูยังรอดเราสามารถพุ่งใส่ด้วย Dynamic Punch เพื่อไล่เป้าหมายได้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อนร่วมทีมที่เหมาะกับ Machamp คือ Pokemon ที่มีสกิลหยุด สกิลจับฝายตรงข้าม เพื่อบีบให้อีกฝ่ายต้องปะทะกับเราหนีไปไหนไม่ได้ หรือจะใช้ Machamp เป็นแนวหน้าเพื่อปกป้องตัว Damage แนวหลังก็ใช้ได้ดีเช่นกัน Held Item และ Battle Item Buddy Barrier เพิ่ม HP ทำให้ถึก สามารถกาง Shield ช่วยเพื่อนได้ในยามฉุกเฉิน, Focus Band เพิ่ม DEF+30  Sp.DEF +30 เลือดน้อยมีฟื้นฟู HP ให้ตัวเอง และ Muscle Band เพิ่ม ATK สูงสุด +15 หน่วย เพิ่ม Attack Speed สูงสุด +7.5% Bettle Item แนะนำ Eject Button เอาไว้ชดเชยสกิลพุ่งที่เราไม่ค่อยมี ช่วงแรกใช้ Eject Button โดดหนี ช่วงท้ายเกมเอามาโดดใส่ Pokemon Unite Machamp แปลสกิล Basic Attack(โจมตีปกติ) โจมตีระยะใกล้(Melee) เมื่อโจมตีครั้งที่ 3 (Boost Attack) ทำ Damage เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งลด Movement Speed ของ pokemon ฝั่งตรงข้ามที่โดนลงชั่วขณะหนึ่ง Passive(สกิลติดตัว) Gut - เมื่อ Pokemon ตัวนี้ติดสถานะผิดปกติ  Attack จะเพิ่มขึ้น Level 1-3 Bulk Up (Buff) - Cooldown 9 วินาที หลังจากใช้ Move นี้ ตัวของ Machamp จะต้านทาน Hindrance ชั่วขณะหนึ่ง เพิ่ม Attack, Attack Speed และ Movement Speed ให้ตัวเอง พร้อมทั้งเปลี่ยนการโจมตีปกติครั้งต่อไปให้เป็น Boost Attack *Level 5 สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Dynamic Punch หรือ Submission Karate Chop(Melee) - Cooldown 6 วินาที ใช้สันมือทำดาเมจใส่ Pokemon ฝ่ายตรงข้าม *Level 7 สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Close Combat หรือ Cross Chop Level 5 (Evo ครั้งที่ 1) Dynamic Punch (Dash) - Cooldown 8 วินาที Machamp กระโดดไปยังพื้นที่เป้าหมาย ทำ Damage ใส่ Pokemon ศัตรูที่อยู่ในรัศมีของ Move นี้และทำให้ติด Stun หลังจากใช้ท่านี้ ตัวของ Machamp จะต้านทาน Hindrance ชั่วขณะหนึ่ง เพิ่ม Basic Attack Speed และ Movement Speed ให้ตัวเอง พร้อมทั้งเปลี่ยนการโจมตีปกติครั้งต่อไปให้เป็น Boost Attack *Level 11 สามารถอัพเกรดเป็น Dynamic Punch+ เพิ่ม Attack และ Movement Speed มากขึ้น Submission (Hindrance) - Cooldown 11 วินาที เพิ่ม Movement Speed ให้กับตัวเองและต้านทาน Hindrance ชั่วขณะหนึ่ง เมื่อการโจมตีปกติครั้งต่อไปของ Machamp โดนเป้าหมาย การโจมตีครั้งนั้นจะทำ Damage เพิ่มขึ้นและทุ่มศัตรูลงกับพื้น ทำให้ศัตรูติด Stun หลังใช้ Move นี้จบ จะทำการเพิ่ม เพิ่มโอกาสติด Critical-hit และ Movement Speed ให้ตัวเองชั่วขณะหนึ่ง *Level 11 สามารถอัพเกรดเป็น Submission+  เพิ่มโอกาสติด Critical-hit และ Basic Attack Speed ให้มากขึ้น Level 7 Close Combat (Melee) - Cooldown...

Aloy ตัวละครโคลาโบจาก Horizon Zero Dawn เข้าสู่เกม Genshin Impact สำหรับแพตฟอร์ม PS4 กับ PS5 เรียบร้อยแล้วในแพทช์ 2.1 ตัวเอกจากต่างโลกใช้ธนูตามแบบฉบับเกมของเธอเป็นหลัก มีวิชั่นเป็นธาตุน้ำแข็ง เธอเป็นสายใช้สกิลเพื่อสเตคให้การยิงธนูปกติเป็นธาตุน้ำแข็งแทนในระยะนึง แถมยังมีท่าไม้ตายที่ใช้งานได้ง่ายไม่ยุ่งยากอีกด้วย ส่วนฝั่งแพตฟอร์มอื่นไม่ต้องเสียใจไปในแพทช์ 2.2 มีให้ทุกคนแน่นอน! ข้อมูลตัวละคร ชื่อ : Aloy เกิด : วันที่ 4 เมษายน อยู่ฝ่าย : ฮีโร่พเนจร วิชั่นที่ครอบครอง : ธาตุน้ำแข็ง กลุ่มดาว : Nora Fortis Aloy ผู้ถูกขับไล่ตั้งแต่กำเนิด เติบโตขึ้นมาในถิ่นทุรกันดารบนภูเขาอันโหดร้าย เธอได้รับการเลี้ยงดูจากนักล่าที่เชี่ยวชาญ ฝึกฝนการล่ามาอย่างสง่างามและแม่นยำราวกับแมว แต่มีสิ่งนึงที่อยากรุ้มาตลอดว่าเกิดมาจากไหน ทำไมคนในชนเผ่าถึงได้เกลียดเธอ เธอได้ออกเดินทางหาคำตอบในโลกกว้างจนได้พบคำตอบความเป็นมาของตนเอง และเรื่องของอำนาจร้ายจากอารยธรรมปัญญาประดิษฐ์โบราณ เธอคือคีย์หลักสำคัญในการช่วยโลกเอาไว้ ไม่นานเธอได้ค้นพบดินแดน Teyvat จึงได้เริ่มออกเดินทางครั้งใหม่! วิธีการได้รับตัวละคร : "แจกฟรี" สำหรับ PS4 กับ PS5 ได้ตั้งแต่แพทช์ 2.1 ส่วนแพตฟอร์มอื่นๆ จะได้ในแพทช์ 2.2 Skill ภาพ สกิล รายละเอียด Rapid Fire การโจมตีปกติ : โจมตีต่อเนื่องสูงสุด 4 ครั้ง ท่าชาร์จโจมตี : กดปุ่มโจมตีค้าง หรือปุ่มพิเศษ เพื่อชาร์จศรเป็นธาตุน้ำแข็ง เมื่อกดปล่อยปุ่ม หรือกดโจมตีอีกครั้ง จะยิงศรออกไป https://youtu.be/KlFhgjgJEPk https://youtu.be/_IIHsJpeCbY Frozen Wilds สกิลธาตุปาระเบิดน้ำแข็งออกไปใส่ศัตรูทำดาเมจน้ำแข็ง ก่อนจะแตกกระจายออกเป็นลูกเล็ก 6 ลูก บนพื้น เมื่อศัตรูเหยียบหรือผ่านไประยะนึงจะระเบิดทำดาเมจธาตุน้ำแข็ง เมื่อระเบิดจากสกิลโดนศัตรูจะลดพลังโจมตีศัตรูลง เมื่อระเบิดจากสกิลโดนศัตรู 1 ครั้ง จะได้รับสแตค 1 ขั้น หลังระเบิดโดนศัตรู 4 ครั้ง จะได้รับบัพสแตค 4 ขั้น ทำให้การโจมตีปกติเปลี่ยนเป็นดาเมจธาตุน้ำแข็งแทน https://youtu.be/HtFSNuEeN9A Prophecies of Dawn ท่าไม้ตายยิงระเบิดน้ำแข็งกลางอากาศทำดาเมจธาตุน้ำแข็งเป็นวงกว้างอย่างรุนแรง https://youtu.be/E5CwXzOfdN0 Combat Override เอฟเฟกต์จากบัพสแตคของสกิลธาตุจะเพิ่มพลังโจมตี 16% และเพิ่มพลังโจมตีให้ตัวละครอื่นๆ ในระยะ 8% นาน 10 วิ Strong Strike หลังจากได้บัพสแตค 4 ชั้น เปลี่ยนการโจมตีปกติเป็นธาตุน้ำแข็ง ทุก 1 วิ โบนัสดาเมจธาตุน้ำแข็งเพิ่มขึ้น 3.5% โดยจะได้รับสูงสุด 35% Easy Does It เมื่อ Aloy อยู่ในทีม สิ่งมีชีวิตประเภทที่อาหารประเภท น่องไก่, เนื้อสด, เนื้อแช่แข็ง จะหนียากขึ้น กลุ่มดาว : Nora Fortis ไม่มีกลุ่มดาว จุดเด่น-จุดด้อย จุดเด่น จุดด้อย สกิลจะปาระเบิดน้ำแข็งออกไป เมื่อศัตรุเหยียบครบ 4 ครั้ง จะทำให้การโจมตีปกติกลายเป็นดาเมจธาตุน้ำแข็งระยะนึง เก็บสแตคครบ 4 ได้อยาก หากเจอศัตรูมีขนาดตัวเล็ก และมาเพียบ 1 เช่นพวกฟาทุย หรือบอสที่เคลื่อนไหวไม่อยู่กับที่ ท่าไม้ตายเป็นการยิงศรน้ำแข็ง 1 ฮิตอย่างรุนแรงใช้งานง่าย ต้องใช้สกิลให้โดนศัตรูเพื่อให้ระเบิดที่เหลือโดนได้สเตคครบ ไม่มีกลุ่มดาว และเป็นตัวละครฟรี! แนะนำอาวุธ Aloy เป็นสายดาเมจจากการเก็บสแตคระเบิดเพื่อเปลี่ยนการโจมตีปกติเป็นธาตุน้ำแข็ง แนะนำให้หาอาวุธเพิ่มโจมตีปกติเป็นหลัก หรือเพิ่มคริ คริดาเมจ ทำให้ยิ่งโจมตีได้แรงขึ้น โดยอาวุธแนะนำมีดังนี้ แนะนำอาร์ติแฟกต์ สำหรับ Aloy จะเน้นใช้สกิลธาตุระเบิดเก็บให้ครบ 4 สเตคเพื่อเปลี่ยนการโจมตีปกติเป็นธาตุน้ำแข็ง และใช้ท่าไม้ตายเพื่อโจมตีอย่างหนักหน่วง แนะนำให้ใส่ออฟหลัก 3 ช่องหลังเป็น โจมตี% | เพิ่มดาเมจธาตุน้ำแข็ง | คริดาเมจ หรือ คริติคอล 1.เซ็ต Blizzard Strayer 4 ชิ้น ใส่ 2 ชิ้น เพิ่มดาเมจธาตน้ำแข็ง 15% และแบบ 4 ชิ้น โจมตีใส่ศัตรูที่ติดธาตุน้ำแข็งจะเพิ่มคริให้ตัวละคร 20% หากโจมตีใส่ตัวติดแช่แข็งจะได้เพิ่มอีก 20% เน้นยืนชนทำดาเมจอย่างต่อเนื่องไม่เน้นทำปฏิกิริยาธาตุจะทำให้ได้โอกาสคริเพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง ทำดาเมจแบบติดคริได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด 2.เซ็ต Icebreaker 2 ชิ้น กับ Gladiator’s Finale 2 ชิ้น เอาเพิ่มดาเมจธาตุน้ำแข็ง 15% และเพิ่มพลังโจมตี 18% เน้นทำดาเมจได้หลากหลายทั้งแบบลุยเดี่ยว หรือเล่นแนวปฏิกิริยาธาตุคู่กับไฟก็แรงแบบสุดๆ 3.เซ็ต Noblesse Oblige 2 ชิ้น กับ เซ็ต Icebreaker 2 ชิ้น เพื่อเอาเพิ่มดาเมจท่าไม้ตาย 20% และเพิ่มดาเมจธาตุน้ำแข็ง 15% เน้นเล่นสายธาตุไม้ตายแบบแรงๆ จุใจ ตารางของอัปขั้นเลเวลตัวละคร ปลดระดับขั้น เลเวล Elemental Material Crystalline Bloom Crystal Marrow Husk 1 20-40 20,000 *1 - *3 *3 2 40-50 40,000 *3 *2 *10 *15 3 50-60 60,000 *6 *4 *20 *12 4 60-70 80,000 *3 *8 *30 *18 5 70-80 100,000 *6 *12 *45 *12 6 80-90 120,000 *6 *20 *60 *24 เลเวลทาเรนสกิล (พรสวรรค์)...

หลัง Genshin Impact อัปเดตแพทช์ 2.1 พร้อมแมพใหม่ 2 จุดเข้ามาก็มีพัซเซิลใหม่ (Inazuma Puzzle) ให้ทำกันเพียบ อยู่ที่ว่าจะหาเจอหรือไม่และจะแก้ไขปริศนานั้นได้รึเปล่า ซึ่งในบทความจะมาพูดถึงพัซเซิลปริศนาแท่นหิน 9 ช่องกัน ต้องแก้อย่างไรแล้วมีวิธีคิดแบบไหนจึงได้คำตอบออกมาแบบนี้ไปดู! ปริศนาแท่นหิน 9 ช่อง เมื่อมาถึงเกาะ Watatshumi ตรงวาร์ปขวาล่างของเกาะจะมีปริศนาแท่นหินเรียงกันถึง 9 ช่องให้แก้ปริศนากัน แต่เกมไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น เพราะมาพร้อมกับบันทึกของนักวิชาการจากเมือง Sumeru ได้วิเคราะห์ถึงตัวปริศนานี้เอาไว้เป็นแบบเรียงตัวเลข ซึ่งตัวเกมมันคือ ซูโดกุ ดีๆ นี้เอง! โดยทิศทางของหินแต่ละช่องจะเรียงหมายเลขก็คือ ทิศเหนือ (บน) = 1 ทิศตะวันออก (ขวา) = 2 ทิศใต้ (ล่าง) = 3 ทิศตะวันตก (ซ้าย) = 4 หินที่มีจุกวางข้างบน = +4 ช่องที่หายไป = 9 สำหรับจุดที่หมุนไม่ได้จะเป็นหินแตก 1 ฝั่ง โดยให้เพื่อนๆ หันตัวละครให้ตรงกับทิศบนมินิแมพเป็นทิศเหนือ (N) ก่อนเพื่อไม่ให้สับสนทิศทาง จากนั้นก็มาดูช่องที่มีตราสีม่วงกันว่าอยู่ฝั่งไหนก็จะได้ออกมาเป็น X 3 8 9 X (+4) 1 2 X (+4) X (+4) ต่อไปมาดูกันว่าทำไมถึงได้เลขแบบนี้มา? หินอันกลางบนมีตราสีม่วงหันไปด้านล่าง มันคือทิศใต้ที่มีค่าเท่ากับ 3 หินซ้ายกลางเป็นจุดที่หายไปตามในบันทึกให้แทนเป็นเลข 9 ได้เลย หินซ้ายล่างตราสีม่วงหันไปทางขวา มันคือทิศตะวันออกที่มีค่าเท่ากับ 2 หินขวาบนหันไปทางซ้ายคือทิศตะวันตกเท่ากับ 4 และมีจุกอยู่ข้างบนด้วยก็ให้ +4 ก็จะกลายเป็น 4 + 4 = 8 นั่นเอง หินขวากลางหันตราสีม่วงขึ้นด้านบน มันคือทิศเหนือเท่ากับ 1 X คือหินที่สามารถหมุนได้ และ X (+4) คือหินที่หมุนได้มีจุกอยู่ข้างบน (หันทางไหนก็บวกเลขเพิ่มเข้าไป) หากใครเคยเล่นเรียงเลขใน ซุโดกุ มาก่อนก็จะเข้าใจวิธีเล่นในทันที เพราะมันคือการเรียงเลขให้ไม่ซ้ำกันแต่ต้องได้เลขรวมเท่ากันทุกแถว เลขที่เหลืออยู่ที่สามารถใส่ลงไปได้จะมี 4 / 5 / 6 / 7 เลขรวมแต่ละแถว เมื่อมาดูเลขรวมในแต่ละอัน แถวบนแนว 3 + 8 = 11 | แถวซ้ายแนวตั้ง 9 + 2 = 11 | แถวขวาแนวตั้ง 8 + 1 = 9 | แถวกลางแนวนอน 9 + 1 = 10 | แถวแนวทแยงขวา 2 + 8 = 10 | แถวแนวนอนล่าง 2 แถวแนวตั้งซ้ายกับแนวนอนบนมีเลขรวมเท่ากันคือ 11 และแถวขวาแนวตั้ง, แถวกลางแนวนอน กับ แถวทแยงขวามีเลขรวมเท่ากันคือ 10 คำนวณหาเลขที่เหลืออยู่ เริ่มมาให้หาเลขตรงกลางของ 9 ช่อง ก่อนเพราะจะทำให้อีก 3 แถวรวมเลขเท่ากันเลยก็คือเลข 5 (โดยการหมุนฝั่งมีตราม่วงไปด่านบน (ทิศเหนือ) คือเลข 1 รวมกับจุกบนหัว +4 จะได้เท่ากับ 5) รวมจะรวมเป็น 15 นั่นเอง ทีนี้พอรู้เลขรวมแล้วก็มาดูช่องซ้ายบนบ้างเพราะเป็นจุดที่ขาดเพียง 1 ช่อง เท่านั้น ซึ่งค่ารวมเริ่มคือ 11 ให้หมุนตราบนหินไปทางซ้าย (ทิศตะวันตก) จะได้เลข 4 มา เท่านี้แถวแนวตั้งทางซ้ายกับแนวนอนแถวบนก็จะกลายเป็น 15 พอดี ตารางปัจจุบันคือ 4 3 8 9 5 1 2 X (+4) X (+4) ต่อไปมาดูเลขในแถวแนวทแยงที่เพิ่มมาใหม่รวมเป็น 4 + 5 = 9 จากนั้นก็หาเลขมาบวกเพิ่มให้ได้ 15 หรือนำ 15 - 9 = 6 ให้หมุนหินด้านตราม่วงไปทางขวา (ทิศตะวันออก) คือเลข 2 รวมกับจุดบนหัว +4 เท่ากับ 2 + 4 = 6 สำหรับในตอนนี้เลขที่ใช้ไปแล้วคือ 4 , 5 , 6 ช่องสุดท้ายก็หมุนเป็น 7 ได้เลย ด้วยการหมุนไปด้านล่าง (ทิศใต้) จะได้เลข 3 แล้วบวกกับ 4 จากจุกบนหัวก็จะกลายเป็น 3 + 4 = 7 เป็นอันจบเควสรับกล่องสมบัติได้เลย! ตารางเลขทั้งหมดก็คือ 4 3 8 9 5 1 2 7 6 ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นเพราะหลังจากทำในเสร็จแบบแรกไปแล้ว เมื่อระยะเวลาผ่านไปช่วงนึงให้กลับมาที่นี้อีกครั้งจะมีแบบต่อไปปรากฏขึ้นมาให้ทำ มีทั้งหมด 3 บททดสอบ! ตารางแบบที่ 2 4 9 2 3 5 7 8 1 6 ตารางแบบที่ 3 (อันสุดท้าย) 2 7 6 9 5 1 4 3 8 จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin...

  หลังจากก่อนหน้านี้ ผมเคยพูดถึงตัวละครฝ่ายมนุษย์ที่จะถูกหยิบมาใช้ใน Home Sweet Home : Survive Tournament กันไปแล้ว บทความนี้เราจะมากันที่ฝั่งผีกันบ้างดีกว่าครับ เนื่องจากผีนั้นเล่นได้เพียงเกมละตัว จึงไม่ต้องมากังวลเรื่อง Perk ซ้ำจึงสามารถพลิกแพลงได้อย่างเต็มที่ มาดูกันว่าตัวไหนจะถูกหยิบยกมาใช้งานบ่อยสุดกัน 1.เบล (Belle) แม้เป็นตัวละครแรกเริ่มที่มีกันอยู่ทุกคน แต่ก็ใช่ว่า เบลจะไม่เก่งนะครับ เพราะความสามารถในการวาร์ปหาผู้เล่นได้โดยตรงบวกกับสกิลเสริมอย่าง Bloodseek ช่วยให้เบลสามารถวิ่งไล่ฆ่าได้อย่างต่อเนื่องและเป็นตัวละครที่ทำความเข้าใจและเล่นง่าย จึงไม่แปลกหากเราจะพบเบลเยอะที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ เนื่องจากเบลเป็นตัวละครที่สามารถพลิกแพลงได้ตลอดเวลา จึงเป็นไปได้ ถ้าจะเห็น Perk หลายๆ อย่างจากตัวละครนี้ แต่หากจะให้เลือก Perk ที่นิยมมากสุดและใช้งานได้ดีกับเบล คงไม่พ้น ศาสตร์มืด ซึ่งเอาไว้ช่วยลดคูลดาวน์สกิลวาร์ปของเบลนั่นเองครับ 2.พรายน้ำ (Nymph) พรายน้ำคือตัวละครผีที่โจมตีได้ไกลสุดในเกมตอนนี้ แถมผู้เล่นหลายๆ คนยังยกให้เป็นผีสุดโกงในตอนนี้ด้วย และด้วยระยะการโจมตีไกล แถมยังสามารถปรับเปลี่ยนการโจมตีเป็นระยะใกล้ได้ พรายน้ำจึงเป็นตัวละครผีอีกตัวที่จะมีคนหยิบมาเล่นเยอะเช่นกัน มากันที่ Perk ที่คาดว่าหลายคนจะหยิบมาใช้งานกับ พรายน้ำ นั่นคือ ศาสตร์มืด ซึ่งช่วยลดคูลดาวน์ในการเปลี่ยนฟอร์มโจมตี และ แผลติดเชื้อ ซึ่งส่งผลให้ฝุ่งมนุษย์ใช้งานไอเทมไม่ได้ชั่วขณะ 3.คนคุก (Pisoner) สำหรับตัวละคร คนคุก ส่วนตัวผมมองว่าเล่นค่อนข้างยาก และจำเป็นต้องมีความชำนาญเอามากๆ ถึงจะใช้งานได้คล่อง เพราะความที่คนคุกนั้นเดินค่อนข้างช้า และไม่สามารถฮุกในตอนหายตัวได้แล้ว จึงทำให้คนคุกน่าจะเป็นตัวละครฝั่งผีที่ถูกหยิบมาใช้งานน้อยสุดจากตัวละครทั้งหมดนั่นเอง มาถึง Perk ที่เหมาะสมกับทางคนคุกกันบ้าง แน่นอนว่า ศาสตร์มืด ยังคงเป็นตัวเลือกแรกเสมอสำหรับผี เพราะยิ่งคนคุกฮุกฝ่ายตรงข้ามได้บ่อยเท่าไหร่ จะถือว่าลดจุดด้อยของตัวละครลงไปเท่านั้น ส่วนอีก Perk คงเป็น จั้มพ์ สแกร์ เพื่อลดระยะเวลาเข้า-ออกโหมดล่องหนทำให้สามารถล่าได้แบบต่อเนื่องนั่นเอง ก็จบกันไปแล้วนะครับ สำหรับบทวิเคราะห์เรื่อง ตัวละครฝั่งผี ซึ่งคาดว่าจะถูกนำมาเล่นเยอะสุดในทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้ หากเพื่อนๆต้องการพูดคุยเกี่ยวกับเกม Home Sweet Home : Survive สามารถเข้าร่วมกลุ่มได้ที่  Home​ Sweet​ Home ​: Survive (Official Group)

ประกาศเปิดรับสมัครกันไปแล้วสำหรับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกของเกม Home Sweet Home : Survive ซึ่งมีรางวัลรวมมากกว่า 5 แสนบาทกันเลยทีเดียว วันนี้ผมเลยจะมาวิเคราะห์กันดูก่อนถึงการแข่งกันว่า จะมีตัวละครไหนที่ถูกหยิบมาเล่นกันมากที่สุดใน ทัวร์นาเมนต์นี้  ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่า ข้อมูลในส่วนนี้เป็นการวิเคราะห์จากตัวผมเองโดยอิงจากข้อมูลของตัวละครในเกมที่มี หากผิดพลาดประการใด ก็กราบขออภัยมาไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า กฎกติกา ของการแข่งขัน ทัวร์นาเมนต์ในครั้งนี้ คือใน 1 ทีมที่ใช้ลงแข่ง ห้ามใช้ตัวละครและ Perk ซ้ำกันโดยเด็ดขาด มิฉะนั้นจะถูกปรับแพ้กันเลยทีเดียว ดังนั้นในการลงแข่งแต่ละรอบ จำเป็นต้องมีการวางแผนและวางตำแหน่งในการเล่นกันเป็นอย่างดี และนี่คือตัวละครที่จะถูกหยิบยกมาเล่นมากที่สุดครับ 1.ยูริ (YURI) สาวน้อยญี่ปุ่นขวัญใจแฟนเกม ผู้มีความสามารถในการยิงแฟลชเพื่อทำให้ผีติดสถานะ “ตาบอด” ถือเป็นตัวละครที่สร้างความน่ารำคาญ และปั่นประสาททีมผีได้มากที่สุด บวกกับสเตตัสของยูริ ที่ไม่ได้ต่ำจนเกินไป สามารถนำมาเล่นเป็นตำแหน่ง จู๊ค ให้ทีมได้เป็นอย่างดี  สำหรับ Perk ที่จะถูกนำมาใช้กับยูริ  คงหนีไม่พ้น ปรมาจารย์สาส์น เพื่อใช้ลดคูลดาวน์ของสกิลลั่นแฟลช ทำให้ยูริสามารถยิงแฟลชได้แบบรัวๆ กันเลยทีเดียว 2.ปิ๊ง (Ping) ตัวละครใหม่ล่าสุดของเกม ผู้สามารถถือไอเทมได้ทีละ 2ชิ้น และยังสามารถสลับมาใช้งานได้เรื่อยๆ ทำให้ปิ๊งสามารถนำมาใช้เป็นตัวละครซัพพอร์ตทีมได้ดี ใช้สำหรับหาไอเทมเพื่อเตรียมทำพิธี หรือเอาไว้จัดการผีได้ด้วย สำหรับ Perk ที่คาดว่าจะถูกยกมาใช้กับปิ๊งมากที่สุดน่าจะเป็น “นักล่าสมบัติ” ที่ซัพพอร์ตกับตัวละครมากที่สุด เพราะช่วยให้เปิดหาไอเทมได้เร็วขึ้น ทำให้ปิ๊งสามารถรวมรวมไอเทมที่ต้องการ และคอยซัพเพื่อนได้ดีทีเดียว 3.นิภา (Nipa) แม้จะเป็นตัวละครที่บอบบาง และเหนื่อยไว แต่นิภาคือตัวละครที่ใครหลายๆ คนหยิบยกมาใช้งานบ่อยถึงบ่อยมากที่สุดตัวนึง เพราะตัวละครนิภานั้นมีจุดเด่นอยู่ที่ความน่ารักสดใส และยังสามารถสวดมนต์ทำพิธีได้ไวกว่าคนอื่น นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นผีในเวลาหายตัวทำให้สามารถหลบหลีกหรือแจ้งเพื่อนร่วมทีมได้ สำหรับ Perk ที่ถูกหยิบมาใช้กับนิภานั้น คงเป็น คอมโบ สมาธิ+ตาเหยี่ยว เพื่อเพิ่มจุดเด่นในการสวดทำพิธีให้เร็วขึ้นไปอีก หรืออาจจะมีหลายคนนำ Perk อะดรีนาลีน มาเพื่อลดจุดด้อยของนิภาลง ก็เป็นไปได้เช่นกันครับ 4.เจน (Jane)  สำหรับเจน ผมยกให้เป็นหนึ่งตัวละครที่ครบเครื่องที่สุดตัวนึงเลยทีเดียว เพราะตัวละครเจนนั้นมีสเตตัสที่ค่อนข้างดีในเรื่องพลังกาย นำมาใช้เป็นตัวจู๊คได้ดี และที่เด่นๆ เลยคือความสามารถในการฟื้นคืนชีพจากความตายได้ ไม่ต้องเสียเวลาเพื่อนไปชุบ ตัวละคร เจน นั้นเป็นตัวละครที่สามารถพลิกแพลงได้หลายบทบาท ดังนั้นการใส่ Perk ของเจนนั้นจึงสามารถพลิกไปเล่นหลายสายได้ ทั้งตั่วจู๊ค ใส่ อะดรีนาลีน+ท่าลงซุปเปอร์ฮีโร่ หรือสายสวดอย่าง สมาธิ+ตาเหยี่ยว ก็มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น 5.น้าเป้ (Uncle Pea) น้าเป้นับเป็นสายซัพพอร์ตที่ดีตัวนึงในเกมเลยก็ว่าได้ ด้วยความสามารถในการมองเห็นออร่าผู้รอดชีวิตทั้งหมด ของน้าเป้ ทำให้สามารถระบุตำแหน่งได้ว่า เพื่อนแต่ละคนอยู่ที่ไหน และใครกำลังโดนไล่ตามอยู่ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นน้าเป้ในการแข่งขันนี้บ้าง ส่วน Perk ที่คาดว่าคนที่เป็นเมน น้าเป้ จะหยิบยกมาเล่นน่าจะเป็น Perk ใหม่ล่าสุดอย่าง The Watcher ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายๆ ความสามารถหลักของน้าเป้ นั่นคือมองเห็นออร่าไอเทม ที่อยู่ตามแผนที่ ทำให้น้าเป้สามารถ หาและแจ้งตำแหน่งของยาให้กับเพื่อนร่วมทีมได้นั่นเอง 6.ติม (TIM) ติมคือตัวละครหลัก 1 ใน 4 ตัวละครแรกเริ่มของเกม ผู้มีความสามารถในการปามีดระยะไกลเพื่อสตั๊นเป้าหมาย คล้ายๆ ยูริ แต่ด้วยความที่มีดนั้นหลบและสังเกตุได้ค่อนข้างง่าย และสเตตัสที่ค่อนข้างกลางๆ จึงมีคนหยิบมาใช้ค่อนข้างน้อย ส่วน Perk ที่ผมมองว่าเหมาะกับติมก็คือ ปรมาจารย์สาส์น เพื่อใช้ลดคูลดาวน์ของสกิลปามีด ที่ต้องใช้งานบ่อยๆ เหมือนของยูรินั่นเอง 7.อ๋อง (Ong) เด็กแว๊นสะพานพุทธ ผู้มีความสามารถในการปราบผี และพลังชีวิตที่มีเยอะกว่าคนอื่น ทำให้อ๋องเอง ก็มีสิทธิ์ถูกหยิบมาใช้งานบ้างเช่นกัน ด้วยความที่สกิลติดตัวของอ๋องนั้นใช้งานยาก เพราะต้องรับดาเมจ ให้เลือดเหลือน้อยก่อน พลังโจมตีถึงจะเพิ่มขึ้น จึงมีความเป็นไปได้ที่อ๋องจะถูกนำมาใช้น้อยครั้งในการแข่งขันนี้ Perk ของอ๋องส่วนใหญ่ นิยมใช้ Perk ที่ลดจุดด้อยของอ๋องลง นั่นคือการใช้ อะดรีนาลีน เพื่อให้อ๋องสามารถจู๊คเพื่อนได้นานขึ้นนั่นเอง 8.อ๊อฟ (Aof) คนหล่อเท่ ตัวละครที่หลายๆ คนหลงลืมไป ด้วยความที่อ๊อฟเป็นตัวละครที่ใช้งานยากไม่ต่างจากอ๋อง และสกิลวงแคปมากเมื่อนำมาใช้รับมือกับสายโจมตีไกลอย่าง พรายน้ำและคนคุก ทำให้อ๊อฟที่แม้ทีมงานจะบัพความสามารถมากเท่าไหร่ ก็ยังมีความนิยมที่จะนำมาเล่นน้อยอยู่ดีครับ ในส่วนของ Perk ที่ผู้เล่นหลายคนมักจะนำมาใช้กับอ๊อฟ ก็คือ ปรมาจารย์สาส์น ทำให้ต่อยผีได้บ่อยขึ้น หรืออาจจะแหวกไปใช้งานเป็นสายสวดเหมือนนิภาไปเลยก็มีเหมือนกันครับ สุดท้ายแล้วการจะหยิบยกเอาตัวละครไหนขึ้นมาเล่น และนำมาใช้แข่งใน ทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้ คงอยู่ที่แต่ละทีมจะมีเทคนิคกันยังไงบ้างแล้วละครับ เพราะอย่างที่ผมกล่าวไว้ข้างต้นว่า บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์จากตัวผมเอง หลังจากที่ได้เล่นเกมนี้มาก็เท่านั้นครับ และในบทความถัดไป เราจะมาวิเคราะห์กับเรื่องของ “ตัวละครฝั่งผี”กันบ้าง ว่ามีตัวไหนที่น่าจะ ฮอตฮิต ในทัวร์นาเมนต์นี้กันบ้าง หากเพื่อนๆ สนใจตัวเกมก็สามารถเข้าร่วมกลุ่มพูดคุยกันได้ที่ Home​ Sweet​ Home ​: Survive (Official Group)

Tribes of Midgard Hunter เป็น Class ที่ต้องทำการปลดล็อค ด้วยการเปิดใช้งาน Shrine หรือเทวสถานทุกอันใน map เสียก่อนถึงจะเอามาเล่นได้ จัดเป็นตัวสำคัญในการเล่น Party เพราะมีความสามารถในการเปิด map และเก็บเกี่ยววัตถุดิบได้เก่งสุดในเกม Tribes of Midgard Hunter วิธีการเล่น Solo - สกิลของ Hunter ไม่ได้โดดเด่นในการรบเสียเท่าไหร่ เราเด้นด้านการเปิด map หาวัตถุดิบ หาของเสียมากกว่า การเล่น Hunter ตัวคนเดียวในโหมด Solo นฃสำคัญตรงเราหาวัตถุดิบจำเป็นได้เร็วแค่ไหน เพราะเราต้องเอามันมาทำอาวุธ ชุดเกราะระดับสูง เพื่อใช้ในการปราบบอสต่อไป เริ่มเกมมาให้วิ่งหาวัตถุดิบเพื่อทำ Flint Lumbeaxe เอามาตัดต้นไม้, Flint Pickaxe เอาขุดแร่ หลังจากได้ 2 อย่างนี้แล้วให้วิ่งเปิดแผนที่ให้ไกลเข้าไว้ เก็บทรัพยากรสำคัญอย่างเห็ดสายฟ้า Mushroom Moon Bolts, แร่ Silver ฯลฯ แล้วค่อยกลับไปทำของดีๆ ในภายหลัง ถ้าเจอทะเลทรายหรือหิมะให้จำเอาไว้ แต่ยังไม่ต้องรีบเข้าไป พอเราทำน้ำยากันร้อน กันหนาวได้ค่อยกลับไปสำรวจ พยายามวิ่งหาจนเจอร้านค้าริมทะเล ร้านพ่อมด อยากได้อะไรเอา Soul ซื้อเอาเลยจะช่วยให้เราได้ของจำเป็นสำหรับการสร้างสิ่งต่างๆ ง่ายขึ้น เอาเข้าจริงการเล่น Hunter แบบ Solo นั้นไม่ค่อยเหมาะนัก เพราะ Class นี้เป็นเหมือนคนคอยหาวัตถุดิบให้ทีมเสียมากกว่า ถ้าใจรัก หรือ อยากลองก็ว่ากันไป แต่ถ้าอยากได้ Class ที่มีประสิทธิภาพในการ Solo จบไวๆ อาชีพ Hunter จะตอบโจทย์นั้นได้ไม่ดีนัก Party - ใน Tribes of Midgard ทุกคนล้วนยินดีที่มีคนเปิด Map ให้อย่างรวดเร็ว Hunter เป็นตัววิ่งไล่หาสะพาน,เทวสถาน,ร้านค้า,พ่อมด ได้ดีอย่างไม่มีใครเหมือน ใน Party 10 คน หากมี Hunter 1-2 คนร่วมทีม Map จะเปิดกว้าง เล่นง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก สกิล Bountiful Grasp ช่วยเพิ่มปริมาณของวัตถุดิบจากการเก็บเกี่ยวเป็น 2 เท่า การมี Hunter ช่วยวิ่งหาวัตถุดิบจะทำให้ Party สร้างอาวุธชุดเกราะระดับสูงได้เร็วขึ้น เวลาเจอของดีอย่าเก็บเองให้เรียก Hunter มาเป็นคนเก็บ เพียงเท่านี้ Party ของเราก็จะไม่มีปัญหาขาดแคลนทรัพยากรให้เห็น หลังจากวิ่งไล่หาทรัพยาช่วงต้น-กลางเกม เสร็จแล้ว หากวันที่ 9 หรือ 13 พร้อมจะซัดกับ Fenrir ก็ให้สร้างอาวุธตามต้องการได้เลย Hunter มี Skill ซัพพอร์ทอาวุธประเภท Axe และ Bow ถ้าอยากทำดาเมจได้ต่อเนื่องเวลาซัดกับบอสหมา การใช้ Bow ยิงจากระยะไกลจะเหมาะกว่า เพราะเสียจังหวะในการกลิ้งหลบน้อยกว่าสายตีประชิด ส่วนใครไม่ได้โฟกัสกับน้องหมามากนัก ชอบวิ่งเปิดแผนที่ตีมอนตามทาง สาย Axe+โล่ จัดว่าเล่นสนุก เดินลุยศัตรูตาม Map ได้ง่าย โดนรุมแล้วไม่เสียจังหวะเหมือนการเล่นธนู Tribes of Midgard Hunter แนวทางการอัพสกิล Skaði's Spirit สร้างตัวล่อเวลากลิ้ง หวังผลได้ไม่มากเท่าไหร่ แต่ต้องอัพเพราะเป็นสกิลบังคับ จากนั้นให้อัพ Bountiful Grasp ต่อทันทีเพื่อช่วยให้เก็บวัตถุดิบได้ 2 เท่า ตามมาด้วย Foreshadow เพื่อช่วยบอกทิศทาง ว่าเราควรวิ่งไปทางไหน ช่วยเจอจุดสำคัญเช่น เทวสถาน,ร้านค้า ฯลฯ ในแผนที่ได้ง่ายขึ้น สกิลสายเปิดแผนที่,เก็บวัตถุดิบ หลักๆ เราใช้ 3 สกิลด้านบนแน่ๆ ส่วน Sharp Eyes I และ II ช่วยให้เราเปิดหมอกได้กว้างขึ้น เปิด Map ได้เร็วขึ้น (อาจอัพแค่ 1 ก็พอ), Durable Tool I และ II เพิ่มความทนทานให้ Lumbeaxe, Pickaxe แต่เรากลับบ้านบ่อยอยู่แล้ว จึงไม่ค่อยน่าอัพเท่าไหร่ Recall Totem สร้างจุดเกิดส่วนตัว เอาไว้เกิดใหม่เมื่อตาย จัดเป็นสกิลบังคับอัพเป็นทางผ่านของฮันเตอร์ใน Tribes of Midgard ถ้าชอบเล่นธนูให้ลงสายล่างอัพ Trap Stacker เพิ่ม Stack สูงสุดของ Trap และ Bow Mastery เพิ่มดาเมจของธนู +10% ใครเล่น Axe ให้ขึ้นสายบน อัพ Pushing Limits เวลาใช้ขวานทำ Combo จะผลักศัตรูได้ไกลขึ้น, Axe Mastery เพิ่ม Damage เมื่อใช้ขวาน +10%, สำหรับ Fire Embrace กับ Dark Embrace นั้นเลือกอัพตามธาตุของอุปกรณ์สวมใส่ได้เลย สุดท้าย Sneak Activation ลดเวลาที่ใช้ในการเปิดหีบ เปิดใช้งานเทวสถาน อัพหรือไม่อัพก็ได้ตามใจชอบ ซื้อ Tribes of Midgard ผ่าน Steam คลิก!! อ่านข่าวเกมอื่นๆได้ที่นี่

Tribes of Midgard Guardian อาชีพนี้เลือกเล่นทันทีไม่ได้ แต่ปลดล็อคได้อย่างง่ายดาย ด้วยการฆ่า Jotun ให้ครบ 3 ตัวในเกมเดียวกัน ส่วนใหญ่แล้วถ้าเล่นถึงวันที่ 10 น่าจะปลดล็อคได้ทุกคน การ์เดี้ยนเด่นเรื่องการป้องกัน การใช้โล่ เอามาเป็นตัวแทงค์ให้กับ Party ได้เป็นอย่างดี Tribes of Midgard Guardian วิธีการเล่น Solo - ในโหมดการเล่นคนเดียว มือใหม่สามารถเล่น Guardian ได้อย่างสบาย อาชีพนี้ตายค่อนข้างยาก เอาไปลุยได้หลากหลายสถานการณ์ สู้มอนจำนวนมาก ลุย Jotun ได้หมด ในด้าน Damage อาจทำได้ไม่เยอะล้นเหมือน Class สายทำ Damage โดยตรง แต่แรงเพียงพอสำหรับการผ่านไปวันหลังๆ อย่างแน่นอน โล่คือหัวใจของ Guardian ใน Tribes of Midgard อาชีพนี้มีสกิลเสริมให้ใช้โล่ป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในโหมด Solo เราเล่นเองคนเดียวไม่ต้องแทงค์ให้ใครก็จริง แต่ถ้าใช้โล่ Block ได้ดี เราจะเสียเลือดน้อยลง เสี่ยงตายน้อยลง การเล่นอาชีพนี้จึงควรพกโล่ติดตัวเอาไว้เสมอ การ์เดี้ยนสามารถเล่นได้ทุกอาวุธไม่ว่าจะเป็น Sword หรือ Axe ต้นเกมใช้อาวุธอะไรก็ได้ พอเข้าช่วงท้ายเกมควรมองไปที่อาวุธธาตุ Ice หรือ Fire เป็นหลัก เพราะเรามีสกิลเสริมพลังให้กับสองธาตุนี้ สำหรับสาย Ice ให้หาชุด Fornjót's Set มาใส่ สาย Fire ให้ใช้เป็น Gullveig's Set Party - โหมดเล่นหลายคน Guardian สามารถรับบทเป็นแทงค์เต็มตัวให้กับปาร์ตี้ได้เลย การอัพสกิลอาจไม่ต้องห่วงเรื่องของ Dagmage มากนัก เพราะมีเพื่อนช่วยทำดาเมจอยู่แล้ว ให้เดิน Skill สายป้องกันเต็มตัวเพื่อให้ตายยากเข้าไว้ จะได้ดึงความสนใจจาก Monster แล้วแทงค์ให้ Party ได้นานๆ ในกรณีมีเพื่อนวิ่งตามกันไป การเลือกสร้างโล่ดีๆ ก่อนอาวุธขั้นสูงไม่ใช่เรื่องเสียหาย ใส่เกราะ ใส่โล่ระดับสูงๆ เพิ่มความอึดให้ตัวเองไว้ พอตกกลางคืนเวลากันบ้านก็คอยล่อมอนมาให้เพื่อนยิง โดยเฉพาะถ้า Party มีตัวยิงไกลอย่าง Ranger อยู่ด้วย การมี Guardian ยืนชนให้จะทำให้ Ranger ยิงฟรีได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเล่นแบบ Speed Run เพื่อจบหมา Fenrir หรือ เล่น 100 วันเพื่อปลดล็อคความสำเร็จ อาชีพ Guardian เป็นแนวหน้าที่ช่วยปกป้องแถวหลังได้เป็นอย่างดี มีอิสระในการเลือกอัพสกิลสูง เน้นหนักทางป้องกันเต็มตัว หรือ อัพ Skill เสริม Damage ก็สามารถเล่นได้ทั้งสองทาง ยิ่งถ้าเราเจอ Player เล่นเป็นอยู่ในปาร์ตี้ เราสามารถอัพ Skill สาย Damage ก่อนได้เลย เริ่มมาให้วิ่งแยกกับเพื่อน หา Material ดีๆ มาอัพ Weapon, Armor ระดับสูง ท้ายเกมสู้กับ Fenrir เปลี่ยนอาวุธมาถือธนู ยืนยิงจากวงนอกก็จะช่วยให้จบบอสได้เร็วขึ้น Tribes of Midgard Guardian แนวทางการอัพสกิล Forseti's Taunt เป็นสกิลบังคับอัพของ Guardian ใช้ดึงดูดศัตรูให้สนใจโจมตีเรามากขึ้น, Durable Shields I เพิ่มความทนทานของโล่ +25% สกิลทางผ่านแต่เหมาะกับการ์เดี้ยนมาก เพราะอาชีพเราต้องใช้โล่อยู่เสมอ สกิลนี้ช่วยเพิ่ม Durability ของโล่ทำให้โล่พังช้าลง Laws of Attraction ดึงดูดศัตรูเข้ามาหา Guradian เมื่อถือโล่ ในโหมด Solo ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ แต่มีประโยชน์มากในโหมด Party เพราะใช้ดีงศัตรูให้หันมาโจมตีเราแทนเพื่อนได้, Defensive Pillar เมื่อถือโล่จะ Block ได้ทุกทิศทาง ช่วยให้เล่นง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องถือโล่ป้องกัน ให้ตรงทิศของศัตรูตลอดเวลา ใน Tribes of Midgard นั้น Guardian ต้องอัพ 4 สกิลข้างต้นเป็นหลัก พวกมันเป็นสกิลบังคับอัพ แถมใช้งานได้ดี ส่วนสกิลหลังจากนี้ให้เลือกอัพตามสไตล์การเล่นและสถานการณ์ได้เลย สายป้องกันเต็มตัวให้อัพ Pain Release สะสมดาเมจที่ได้รับ เมื่อถึงกำหนด จะระเบิดออกมา Stun ศัตรูรอบตัว,Durable Shields II เพิ่มควาทนทานให้โล่ +50%, Ironclad I และ II เพิ่ม HP สูงสุด +40% ช่วยให้ถึกมากขึ้น Last Stand ทำให้เมื่อรับ Damage ถึงตาย จะไม่ตาย แล้วเลือดเหลือ 1 แทน ทำให้เรามีเวลากินยาหรือฮีลเพื่อเซฟชีวิตได้ Last Stand ถือเป็นสกิลระดับโกงเลยก็ว่าได้ เวลาไปตีหมา Fenrir พลาดแล้วแทนที่จะตายก็ไม่ตาย เลือด 1 ถอยออกมาปั๊มยา ลุยต่อได้ แถม Skill ไม่มี Cooldown ปั๊มยาแล้วโดนตีอีก ก็เหลือ 1 อีก ถ้าไม่ตีเพลิน ลืมดู HP ตัวเองจริงๆ ยากมากที่ Guardian จะตาย สายกึ่งทำดาเมจให้อัพ Sword Mastery - Axe Master ตามอาวุธระดับสูงที่ได้ทำได้ Fire Embrace - Ice Embrace เลือกอัพตามธาตุของชุดเกราะ โล่ และอาวุธที่ใช้ โดยปกติแล้ว Skill Point เราจะไม่พออัพหมดทั้ง 4 สกิล ให้เลือกอัพตามของที่ Craft ได้เป็นหลัก สกิลแถวบนจะมีอีกสองสกิลช่วยเรื่องของ Mana คือ Passed Judgement เมื่อโดนโจมตีจะได้รับ Mana เพิ่มขึ้น กับ Refused Judgement ได้รับมานาเมื่อใช้โล่บล็อค หากใครประสบปัญหา...

เมื่อพูดถึง Diablo 2 ของทาง Blizzard แล้ว สำหรับหลายคนก็ต้องนึกถึงอาชีพทั้ง 7 ของเหล่าผู้กล้าที่จะมาล่าเจ้าอสูรกัน ซึ่งใน Diablo 2 Resurrected อาชีพ ทั้ง 7 ก็ยังคงอยู่กับครบครันไม่ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้แตกต่างไปแต่อย่างใด วันนี้ก็จะมาเล่าถึงแต่ละอาชีพกันว่ามีจุดเด่นอะไรยังไง แล้วเราควรจะเลือกเล่นตัวไหนให้เข้ากับตัวเองดีจ้า Diablo 2 Resurrected อาชีพ ทั้ง 7 ใน Diablo 2 นั้น ตัวอาชีพจะเลือกตั้งแต่ตอนเริ่มเกม และไม่สามารถเปลี่ยนอาชีพได้อีก อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ สามารถที่จะรีเซ็ทค่าสกิลหรือสเตตัสได้อยู่ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องว่า เล่นไปแล้วบิ้วจะพัง ลุยต่อไม่ไหว ควรต้องทนลำบากจัดๆ ในตอนแรกเพื่อยัดสกิลเลเวลสูงๆ ทีหลังไหมได้เลย นอกจากนี้แม้ตัวสกิลเลเวลสูงจะมีคุณสมบัติที่ดีกว่า แต่ก็มีระบบ Synergy ที่ช่วยให้สกิลเลเวลต่ำมีผลในการทำให้สกิลที่เลเวลสูงกว่ามีความรุนแรงหรือผลของสกิลที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน แต่นั่นก็แอบหมายถึงถ้าเราอยากได้ความแรงสุด ก็ต้องเน้นสายเดียว พอเจอมอนที่ต้านทานสายที่เราเล่นก็มีแอบหนาวได้เหมือนกันล่ะนะ   Paladin เหล่า Paladin นั้นเคยเป็นนักรบแห่งศรัทธาของ Zakarum ผู้คอยปกป้องเหล่าสาวกจากโลกอันโหดร้ายและออกหาผู้ที่สามารถเข้าร่วมกับ Zakarum ได้ แต่เมื่อเหล่าเจ้าอสูรได้คืนชีพขึ้นมา โบสถ์นั้นก็ได้แตกออกเป็นหลายกลุ่ม ก่อนที่เหล่านักรบจะแยกตัวออกมาจากผู้นำ Kurast ที่ถูกความชั่วร้ายครอบงำไป อาชีพ Paladin เป็นอาชีพที่เน้นการโจมตีระยะประชิด มีจุดเด่นของอาชีพคือ Aura ที่ส่งผลต่อศัตรูหรือเพื่อนร่วมทีมเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าใน Diablo 2 Resurrected ตัว Paladin จะไม่สามารถใช้ออร่าได้หลายแบบพร้อมกัน ต้องเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ถ้าเลือกให้ถูกสถานการณ์แล้วก็จัดได้ว่าเป็นสกิลที่ทรงพลังมาก ในด้านสกิลโจมตีเองก็มีหลายสกิลให้ได้เลือกใช้ แต่ละสกิลก็มีความแตกต่างกันไป เลือกบิ้วได้หลายแบบ ซึ่งตัวสกิลเปล่าๆ ก็ว่าน่ากลัวแล้ว เมื่อรวมกับออร่าเข้าไปอีกก็เรียกได้ว่า อสูรตัวไหนที่กล้ามาขวางนักรบแห่งศรัทธา ต้องโง่เขลาเต็มที่เลยล่ะ ► จุดเด่น มีสกิลออร่าที่ช่วยสนับสนุนตัวเอง คนในปาร์ตี้ หรือส่งผลเสียกับศัตรูอย่างรุนแรงมากได้ สกิลโจมตีรุนแรง ทรงพลัง สกิลโล่ช่วยเพิ่มการป้องกัน และโจมตีโดนเป้าหมายได้แน่นอน หนึ่งในอาชีพที่สามารถบิ้วมาฆ่าบอสได้ชิวที่สุดในเกม ► จุดด้อย ใช้ออร่าได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อตัวละครในปาร์ตี้ใช้ออร่าชนิดเดียวกัน ออร่าที่มีเลเวลสูงที่สุดจะแสดงผลเพียงอันเดียวเท่านั้น   Amazon เหล่าสตรีที่แข็งแกร่งกลุ่มนี้รวมตัวกันอยู่บริเวณทุ่งราบของ South Sea ซึ่งการเดินทางไปมาของพวกเธอมักจะนำมาซึ่งความขัดแย้งต่างๆ กับคนกลุ่มอื่น จึงมีการฝึกฝนเพื่อปกป้องตัวเธอเอง ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตแบบนี้ทำให้พวกเธอพึ่งพาตัวเองและรับมือกับความยากลำบากหลายอย่างได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเธอเชี่ยวชาญการใช้ธนูและหลาวในการโจมตีจากระยะใกล้ รวมถึงการต่อสู้ประชิดตัวด้วยเช่นกัน ทำให้หลายครั้งก็มี Amazon ที่เป็นนักรบรับจ้างที่น่าไว้ใจเป็นอย่างยิ่ง นักรบหญิงแห่ง Amazon นั้นมีจุดเด่นในด้านการโจมตีจากระยะไกลด้วยธนู, หลาวรูปแบบต่างๆ โดยเธอมีสกิลสายธนูที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสาดลูกธนูจำนวนมากเป็นแผงใส่ศัตรู, การระดมยิงทุกทิศทางรอบตัว หรืออาบพลังเวทย์ลงในลูกธนูเพื่อยิงออกไปเป็นธนูระเบิดธาตุไฟหรือน้ำแข็ง แม้แต่ลูกธนูที่ไม่มีวันหลบได้ก็มี ในด้านการใช้หลาว เธอจะมุ่งเน้นไปด้านการใช้พลังธาตุสายฟ้าอัดลงไปในหลาวของเธอ และปามันออกไปดั่งสายฟ้า และบอกได้เลยว่าเมื่อรวมกับสกิล Passive เสริมความสามารถสกิลอื่นๆ แล้ว เป็นเจ้าสกิลปาหลาวของเธอนี่ล่ะ จะเป็นสกิลที่มีการเคลียร์ศัตรูได้ไวที่สุดในเกมก็ว่าได้ตราบใดที่ศัตรูไม่ต้านทานธาตุสายฟ้า ► จุดเด่น มีการโจมตีระยะไกลมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นธนูหรือการปาหลาวสายฟ้าใส่ศัตรู มีท่ายิงที่การันตีโดนเป้าหมายอย่างแน่นอน รวมถึงท่ายิงธนูมากมายที่ใช้สังหารศัตรูจากระยะไกลได้ สามารถเรียก Valkyrie มาช่วยสนับสนุนการต่อสู้ได้ และมีร่างปลอมไว้หลอกศัตรู ► จุดด้อย พึ่งพาไอเทมเป็นอย่างมาก ต้องคอยเติมลูกธนู, ลูกศรและหลาวอยู่เสมอ (ยกเว้นมี Unique Item ช่วยเหลือ)   Barbarian เหล่า Barbarian เป็นสมาชิกของชนเผ่าหลายๆ เผ่าที่อาศัยอยู่บนภูเขาอันเยือกเย็น พวกเขาพยายามฝึกฝนตัวให้หลุดพ้นจากความอ่อนแอ ก่อให้เกิดนักรบที่มีรูปร่างที่ทรงพลังและแข็งแรงเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าหลายคนจะคิดว่าพวกเขาเป็นพวกบ้าพลังเฉยๆ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เละ และศัตรูที่คิดว่าพวกเขาเป็นแค่ไอ้พวกบ้าพลังล่ะก็จะใช้เวลาไม่นานที่จะได้เรียกรู้ว่าพวกเขาคิดผิด ถ้าพวกเขายังมีลมหายใจถึงตอนนั้น เหล่า Barbarian นั้นเป็นอาชีพที่โดดเด่นในการพลังโจมตีที่สูงแบบดุเดือดมากใน Diablo 2 Resurrected จากการที่สามารถถืออาวุธสองมือได้สองอย่างพร้อมกัน การโจมตีของพวกเขาเรียบง่ายและตรงไปตรงมา ถ้าศัตรูตัวไหนวุ่นวายก็มีสกิลในการกระโดดเข้าหา หรือโดดออกเพื่อตัดปัญหาได้ รวมถึงมีการบัพจากสกิล Warcry ที่ทรงพลังไม่ได้แพ้อาชีพอื่นๆ เลยทีเดียว ในด้านสกิลเสริมอย่าง Passive นั้นก็ช่วยเหลือทั้งในด้านการโจมตีและการป้องกันได้พร้อมกัน ทำให้พวกเขาเป็นอาชีพที่มีความครบเครื่องในด้านการโจมตีระยะประชิดเป็นอย่างมาก และหลายคนจะรู้สึกได้ว่าเล่นง่ายกว่าที่คิดเสียด้วยซ้ำ ► จุดเด่น เป็นอาชีพเดียวที่ถืออาวุธสองมือพร้อมกันสองชิ้นได้ สามารถพุ่งเข้าปะทะกับศัตรู หรือหนีออกจากการต่อสู้ได้ง่าย มีท่าโจมตีที่รุนแรงและดุเดือด มีสกิลช่วยบัพหรือข่มขวัญศัตรูได้ด้วยเสียงกู่ร้องแห่งสงครามของพวกเขา สกิลสาย Passive ช่วยเพิ่มความสามารถทั้งด้านการต่อสู้และป้องกันได้ ► จุดด้อย มีสกิลกำจัดศัตรูจำนวนมากในครั้งเดียวแค่สกิลเดียวเท่านั้น การเลือกใช้สกิลใช้งานนั้นค่อนข้างที่จะจำกัดไปที่ตัวอาวุธมากกว่าตัวสกิล (เลือกสายได้น้อย)   Necromancer หลายคนอาจจะได้เห็นกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในเงามืดของบึงทางใต้ ตามชื่อของพวกเขา Necromancer นั้นเป็นหนึ่งในนักเวทย์ที่มีชื่อเสียงในด้านการปลุกชีพเหล่าผู้ที่จากโลกใบนี้ไปแล้ว รวมถึงปลุกเสกชีวิตขึ้นมาจากสิ่งต่างๆ ได้ ซึ่งแม้ว่าเป้าหมายของเขาต่างจากเหล่าผู้ที่ดำรงอยู่ในแสงสว่าง แต่ทุกคนต่างก็ยอมรับกันว่าความสามารถของพวกเขานั้นเป็นของจริงอย่างแน่แท้ พวกเขานั้นเข้าใจถึงสมดุลย์แห่งความเป็นและความตาย และยินดีที่จะอุทิศชีวิตเพื่อปกป้องสิ่งนั้น Necromancer เป็นอาชีพสายซัมมอน(เรียกลูกสมุน)ใน Diablo 2 Resurrected ที่มาพร้อมกับกองทัพกระดูกมากมายที่พร้อมจะไล่สังหารเหล่าอสูรจากนรกอย่างเกรี้ยวกราด ในขณะที่ตัวเขาเองนั้นให้การสนับสนุนด้วยการร่ายคำสาปที่ส่งผลอย่างร้ายแรงกับเหล่าศัตรูไม่ว่าจะทำให้พวกมันอ่อนแรงลง ได้รับความเสียหายมากขึ้น หรือแม้กระทั่งหมดแรงจะขยับตัว หากไม่ต้องการจะพึ่งพาเหล่ากองทัพกระดูกแล้วนั้น เขาเองก็ยังมีสกิลที่ใช้พลังเวทย์ตรงๆ โจมตีใส่ศัตรูในรูปแบบของกระดูกและวิญญาณ รวมไปถึงสกิลสายพิษที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก แม้จะต้องรอเลเวลสูงหน่อยก็ตามที ทำให้พวกเขาเป็นอาชีพหนึ่งที่มีความหลากหลายในการเล่นที่สูงมากๆ แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการเติบโตซักหน่อย ► จุดเด่น มีคำสาปหลายอย่างให้ใช้ ซึ่งส่งผลกับศัตรูได้รุนแรงมาก สามารถเรียกอสูรรับใช้จำนวนมากมาช่วยสู้แทนได้ มีสกิลโจมตีที่ไม่ได้เป็นธาตุใดๆ (Magic Damage) และสกิลสายพิษที่ดีมาก ► จุดด้อย AI ใน Diablo 2 Resurrected ของอสูรรับใช้บางทีก็ติงต๊อง และเจอทางแคบๆ พวกมันจะแย่มาก อสูรรับใช้ได้รับความเสียหายจากบอส 4 เท่า พวกมันจะแตกกันไวมาก ความแรงของสกิลขึ้นกับเลเวลสกิล ทำให้อุปกรณ์ที่ใส่มักจะล๊อคที่คุณสมบัติเพิ่มเลเวลสกิล สกิลโจมตีเปลืองค่า Mana มาก   Sorceress บุตรีของเหล่านักเวทย์แห่ง Zann Esu นั้นเป็นหนึ่งในชนเผ่าที่เก่าแก่ที่สุดก็ว่าได้ โลกภายนอกนั้นมีข้อมูลบันทึกเกี่ยวกับพวกเธอน้อยมาก ว่ากันว่าเมื่อหลายร้อยปีก่อน มีการรวมตัวกันของเหล่าแม่มดที่ทรงพลังที่สุดแห่ง Esu 14 คนเป็นครั้งแรก ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าพวกเธอรวมตัวกันเพื่ออะไร ก่อนที่พวกเธอจะละทิ้งวิถีชีวิตเดิมไปและหายตัวเข้าไปในป่าทางตะวันออก Sorceress นั้นเป็นอาชีพที่นิยมเป็นอย่างมากของหลายๆ คน ชนิดว่าต้องมีติดไว้ในการเล่นแต่ละครั้งเสมอ ด้วยสกิล Teleport ที่ไปไหนมาไหนได้รวดเร็ว และสกิลที่เหยียบบอสให้ร่วงอย่างรวดเร็วได้ (แม้จะไม่ไวเท่าบางอาชีพที่บิ้วมาเพื่อฆ่าบอสโดยเฉพาะ) ทำให้เธอเป็นอาชีพที่ใช้ฟาร์มของจากบอสได้ไวมากๆ Sorceress นั้นมีสกิลธาตุที่โดดเด่นและใช้เคลียร์ศัตรูหมู่มากได้ดี สกิลบัพเพื่อนอย่าง Enchant ก็ยังทำให้เธอเป็นหนึ่งในอาชีพที่สร้างมาเป็นตัวรองเพื่อซัพเพื่อนร่วมทีมใน Diablo 2 Resurrected โดยเฉพาะก็ยังได้เลยด้วยซ้ำ และในขณะที่ตัวละครสายเวทย์อื่นๆ มักมีปัญหาเรื่องค่า Mana แต่ตัวเธอก็มีสกิลสนับสนุนที่มาช่วยด้านนี้โดยเฉพาะ ทำให้มีปัญหาเรื่อง Mana น้อยกว่าคนอื่นอย่างชัดเจนเลยทีเดียว ► จุดเด่น มี Teleport ที่เดินทางไปไหนมาไหนดีที่สุดในโลก มีสกิล Static...

Pokemon Unite Slowbro เป็น Pokemon สาย Defender อึด ถึก ทน เป็นกระสอบทรายชั้นดี ยืนรับ Damage ให้เพื่อนในทีมไฟท์ได้ดีมาก คำแนะนำเวลาเจอ Slowbro ทีมตรงข้ามคือให้ฆ่ามันเป็นตัวสุดท้าย เพราะมันถึกเกิน ถ้าทีมเราลงท่าใส่มันหมด จะไม่เหลือท่าไปยิงตัวอื่นเลยแหละ Pokemon Unite Slowbro วิธีเล่น ยืนยั่วฝ่ายตรงข้าม ให้กด Move ใส่เราให้มากเข้าไว้ Slowbro มี Passive ที่ยื้อเวลาของ Damage ได้ ทำให้เราตายช้าลงมาก ถ้าเราดึงความสนใจของอีกฝ่ายให้ลงท่าใส่เราได้ เพื่อนของเราก็จะโดนดาเมจน้อยลง พยายามเดินไปยั่วให้อีกฝ่ายนวดเราบ่อยๆ นั่นคืองานของเรา ช่วง Level 1-3 ให้อัพ Water Gun เอาไปไล่ยิงอีกทีม ถ้าเราไม่มี Damage เลย ฝั่งตรงข้ามจะมองข้ามเราไป พยายามทำ Damage กดให้อีกฝ่ายต้องหันมาโจมตีเราให้ได้ พอ Level 4 ให้อัพ Surf เพื่อช่วยพุ่งเข้าหาศัตรูและทำการลด Movement Speed รวมทั้ง Throwing พวกมัน พอ Level 6 ให้อัพ Telekinesis แม้สกิลนี้จะทำ Damage ไม่ได้ แต่สามารถหยุดตัวโหดๆ ของทีมศัตรู รวมทั้งดึงมันเข้ามาหาตัวเราได้ จึงควรอัพเอาไว้ หรือถ้าอีกฝ่ายหมั่นไส้เรามาก เจอทีไรตีตลอด อาจเปลี่ยนเป็น Amnesia ก็ได้เช่นกัน การเล่น Slowbro นอกจากต้องคอยยั่วมือยั่วเท้า ดึงความสนใจอีกฝ่ายแล้ว การป่วนตัว Damage แนวหลังของอีกทีมก็สำคัญเช่นกัน ด้วยความถึกระดับโลก เราสามารถเดินดุ่ยๆ ไปหาแผงหลังอีกทีมได้เลย ถ้าฝั่งตรงข้ามยังไม่ยอมสนใจเราอีก แนวหลังของพวกเค้าก็เตรียมโดนป่วนยับได้เลย Held Item และ Battle Item Shell Bell  เอาไว้ฟื้นฟู HP เวลากดใช้ท่าต่างๆ ที่สำคัญ item ชิ้นนี้ใช้งานได้หลายตัว, Focus Band เพิ่ม DEF+30 Sp.DEF +30 มีฟื้นเลือดตอนใกล้ตายทำให้อึดขึ้น และ Wise Glasses เพิ่ม Sp.ATK ให้ Slowbro จะได้มี Damage ไม่ได้เป็นกระสอบทรายอย่างเดียว ในส่วนของ Battle item เจ้า Eject button ช่วยให้โดดไล่ศัตรูได้ดี เอาไว้หนีตอนใกล้ตายได้ แต่ถ้าใครไม่คิดจะโดด อยากยืนไฟท์ให้นานที่สุด สามารถใช้ Potion แทนได้ ขึ้นอยู่กับว่า ถนัดการเล่นแบบไหนมากกว่ากัน Pokemon Unite Slowbro แปลสกิล Basic Attack(โจมตีปกติ) โจมตีระยะใกล้(Melee) เมื่อโจมตีครั้งที่ 3 (Boost Attack) โดน Pokemon เป้าหมายจะทำ Damage ใส่ Pokemon ศัตรูรอบข้างด้วย พร้อมกับลด Movement Speed ของพวกมันลงชั่วขณะหนึ่ง Passive (สกิลติดตัว) Oblivion - เมื่อ Slowbro โดน Damage ค่า HP จะค่อยๆ ลดลงจนครบ Damage ที่โดน, เมื่อ Pokemon ตัวนี้ทำ Damage ใส่ Pokemon ฝ่ายตรงข้ามด้วย Move ต่างๆ จะล้าง Damage ที่ค้างอยู่ออกไป รวมถึงลด Sp.DEF ของศัตรูลงชั่วขณะหนึ่ง Level 1-3 Watergun (Ranged) - Cooldown 5 วินาที ยิงกระสุนน้ำ ทำ Damage ใส่ Pokemon ศัตรู ลด  Movement Speed ของศัตรูลงชั่วขณะหนึ่ง หากกดค้างก่อนยิงจะเพิ่มรัศมีการทำ Damage ของ Move นี้ *Level 4 สามารถอัพเกรดเป็น Scald หรือ Surf Slack Off (Recovery) - Cooldown 11 วินาที Slowbro เข้าสู่โหมดพักผ่อน ฟื้นฟู HP อย่างต่อเนื่องชั่วขณะหนึ่ง หากถูกขัดขวางระหว่างใช้ Move นี้ การฟื้นฟู HP จะลดลง (ควรหลบไปใช้ในพุ่มหญ้า จะได้ฟื้น HP ได้เต็มๆ) *Level 6 สามารถอัพเกรดเป็น Amnesia หรือ Telekinesis Level 4(Evo ร่าง2) Scald (Melee) - Cooldown 5 วินาที พ่นกระแสน้ำร้อน ทำ Damage ใส่ Pokemon ฝ่ายตรงข้าม และสร้างไอน้ำในบริเวณที่ Move นี้โดนเป้าหมาย หากศัตรูอยู่ในพื้นที่ไอน้ำ จะติด Burn และ ถูกลด Movement Speed ลงชั่วขณะหนึ่ง *Level 11 สามารถอัพเกรดเป็น Scald+ เพิ่มรัศมีของพื้นที่ไอน้ำให้กว้างขึ้น Surf (Dash) - Cooldown 9 วินาที สร้างคลื่นน้ำและโต้คลื่นไปข้างหน้า ทำ Damage และ Throwing (โยน) Pokemon ฝ่ายตรงข้ามขึ้นไปบนฟ้า หลังจากกดใช้ Move นี้ไปแล้วจะมีคลื่นตามมาอีก 2 ลูก ทำ Damage ศัตรูทุกตัวที่โดนและลด  Movement...

Pokemon Unite Zeraora เป็น Pokemon สาย Speedster โดดเด่นเรื่องการเข้าไป Burst Damage เวลามีทีมไฟท์อย่างรวดเร็วและถอยฉากออกมา สามารถเอามาเล่นเป็นสายไล่ฆ่า Pokemon ฝ่ายตรงข้ามได้ดี มี Move สำหรับตามล่าอีกทีมเยอะ ทำให้มีคนเลือกเอามาเล่นค่อนข้างบ่อย Pokemon Unite Zeraora วิธีเล่น ถึงแม้ Zeraora จะมีความสามารถในการทำ Damage ไล่ล่าฝ่ายตรงข้ามได้ดี แต่เพื่อความปลอดภัยควรจะมีเพื่อนร่วมทีมสาย Support ตามประกบไปด้วยจะดีกว่า ถ้าเจออีกฝ่ายมาเดี่ยวๆ รุมได้เลย หรือถ้าเค้ามา 2 คนให้เลือกพุ่งใส่ตัวดาเมจของอีกทีมก่อนเป็นหลัก ต้นเกม Level 1-3 อัพ Slash ก่อนเพื่อทำดาเมจและ Throwing ศัตรู พอ Level 6 อัพท่า Voltswitch เพื่อพุ่งหาเป้าหมายและเอาไว้หนีเวลาผิดแผน  Level 8 อัพ Discharge ท่าเดียวได้ทั้ง Damage, สร้าง Shield และดึงศัตรูติด Paralyze กลับมาหาตัวเรา ทั้งนี้ช่วงเลเวล 8 ถ้าใครอยากได้ Damage ที่รุนแรงยิ่งขึ้น อาจเลือกอัพเป็น Wildcharge ได้ สิ่งสำคัญของการกด Wildcharge คือต้องเลือกเวลาพุ่งใส่ให้ดี เพราะท่านี้ไม่ได้ทำดาเมจเสร็จในครั้งเดียว มันต้องโจมตีต่อเนื่อง หากฝ่ายตรงข้ามยัดท่าแรงๆ สวนเราตอนกดท่านี้ อาจเป็นเราที่ตายแทน การเล่น Zeraora ต้องเลือกเหยื่อให้เป็นและกะจังหวะกดท่าใส่ให้แม่น หากโผล่ออกมาแล้วฆ่าได้ตลอด รับรองฝ่ายตรงข้ามมีหลอนแน่ ในสถานการณ์ที่ทีมเราได้เปรียบยิ่งง่ายกับ Zeraora เข้าไปใหญ่ เพราะการไล่ตามเหยื่อใกล้ตาย เป็นความถนัดของของ Pokemon ตัวนี้อยู่แล้ว Held Item และ Battle Item Buddy Barrier ถือเป็นของสามัญอัพเต็มไว้ใช้ได้ทุกตัวทำให้ Zeraora ตายยากขึ้น, Focus Band เพิ่ม DEF+30 Sp.DEF +30 มีฟื้นฟูเลือด เอาไว้เซฟจังหวะบวกแล้วพลาด และ Muscle Band เพิ่ม ATK สูงสุด +15 หน่วย เพิ่ม Attack Speed สูงสุด +7.5% แถมทำ Damage เพิ่มตามเลือดที่เหลือของศัตรูช่วยให้เราปราบแทงค์ได้ง่ายขึ้น ในส่วนของ Battle Item มีอยู่สองอย่างยอดนิยมคือ Eject button ใช้เพื่อโดดไล่ หรือ โดดหนีฝ่ายตรงข้าม, Fluffy tail ทำให้ศัตรูติด Paralyze และโดน Damage แรงขึ้น ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายไล่ Fluffy tail จะช่วยให้เรากำจัดศัตรูได้ง่ายดายยิ่งขึ้น Pokemon Unite Zeraora แปลสกิล Basic Attack(โจมตีปกติ) โจมตีระยะใกล้(Melee) เมื่อโจมตีครั้งที่ 3 (Boost Attack) ทำ Damage เพิ่มขึ้น มอบสถานะ Paralyze ใส่ Pokemon ศัตรูชั่วขณะหนึ่ง และ ฟื้นฟู HP ของ Zeraora เล็กน้อย Passive(สกิลติดตัว) Volt Absorb - เมื่อโดนทำ Damage ใส่จะได้รับ Electric Charge และ Pokemon ตัวนี้จะนำพลังของ Electric Charge มาเพิ่ม Damage ให้กับการโจมตีของตัวเอง Level 1-3 Agility(Dash) - Cooldown 6 วินาที พุ่ง Dash ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เพิ่ม Attack Speed ให้กับ Zeraora ชั่วขณะหนึ่ง *Level 6 สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Voltswitch หรือ Spark Slash(Melee) - Cooldown 8 วินาที โจมตี Pokemon ศัตรูอย่างต่อเนื่องด้วยกรงเล็บแหลมคม การโจมตีครั้งสุดท้ายของ Move นี้ จะทำการ Throwing โยน Pokemon ศัตรูขึ้นฟ้าด้วย *Level 8 สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Discharge หรือ Wild  Charge Level 6  Voltswitch(Dash) - Cooldown 8 วินาที Dash เป็นเส้นตรงไปข้างหน้า ทำ Damage ใส่ Pokemon ศัตรูที่อยู่ในเส้นทางการพุ่ง เพิ่ม Attack Speed ให้กับ Zeraora ชั่วขณะหนึ่ง, หากกดใช้ท่า Voltswitch อีกครั้งในระยะเวลาที่ Move ยังแสดงผลอยู่ ตัวเราจะพุ่งกลับไปยังจุดที่กดใช้ท่านี้ทันที *Level 12 สามารถอัพเกรดเป็น Voltswitch+ เพิ่ม Damage ให้กับ Move นี้รวมถึงขยายระยะเวลาของบัฟเพิ่ม Attack Speed ให้นานขึ้น Spark(Dash) - Cooldown 10 วินาที ชาร์จไฟฟ้าแล้วกระโดดใส่ Pokemon ฝ่ายตรงข้าม ถ้า Zeraora กดโจมตีปกติก่อนโดดถึงเป้าหมาย จะเปลี่ยนทิศทางโดดไปยัง Pokemon ศัตรูที่อยู่ใกล้สุดแทน Move นี้สามารถกดใช้ได้ 3 ครั่งก่อนจะเข้าสู่ช่วง Cooldown *Level 12 สามารถอัพเกรดเป็น Spark+ ฟื้นฟู HP ของตัวเองเมื่อกดโจมตีปกติ ก่อนโดดถึง Pokemon เป้าหมาย Level 8 Discharge(Melee) - Cooldown...