Console Guide

Console Guide - สำหรับส่วนนี้จะเป็นการรวบรวม guide ต่างๆของเครื่อง console ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเป่าตลับ เช็ดแผ่นหรือวิธีชุบตัวละครลับที่โดนไม้แขวนเสื้อตีตาย

Back 4 Blood จากก่อนหน้านี้ผมเคยได้แนะนำไปในส่วนของ “วิธีเอาตัวรอด” คร่าวๆ กันไปแล้ว ในคราวนี้ผมเลยจะมาแนะนำถึงฟีเจอร์หลักอีกอย่างของตัวเกมต่อเลยก็แล้วกัน ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ “ระบบการ์ด” หรือ “Card System” นั่นเองครับ โดยในบทความนี้ผมจะพาไปแนะนำถึงระบบดังกล่าวว่าคือระบบอะไร มีความสำคัญยังไง และมีการ์ดกี่ใบอะไรยังไงบ้าง เอาเป็นว่าเรามาดูกันเลยดีกว่า Back 4 Blood Card สำคัญยังไง? มีกี่แบบและต่างกันยังไงบ้าง? สำหรับ Back 4 Blood นั้น “ระบบการ์ด” หรือ “Card System” นั้นคือฟีเจอร์หลักอีกหนึ่งอย่างประจำเกมที่มาในรูปแบบของ “การ์ด” ซึ่งการ์ดแต่ละใบนี้จะมีเอฟเฟ็คเพิ่มความสามารถและสกิลต่างๆ รวมไปถึงการ์ดบางประเภทก็จะมีเอฟเฟ็คเพิ่มเติมที่ส่งผลกับระบบเกมเพลย์โดยตรงด้วยเช่นกัน ซึ่งการ์ดเหล่านี้เราสามารถเลือกได้จากตอนเริ่มด่านหรือไล่เก็บระหว่างทางก็ได้ด้วยเช่นกัน แล้วระบบการ์ดมีกี่ประเภทกันล่ะ? สำหรับตัวการ์ดนั้นหลักๆ จะมีการแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ Corruption Card และ Active Card ซึ่งสองอย่างนี้จะมีบทบาทแตกต่างกันไปเลย โดยผมจะอธิบายความแตกต่างของทั้งสองประเภทนี้ พร้อมรายละเอียดการ์ดแต่ละใบไว้ที่ด้านล่างแล้วกันนะครับ เพื่อนๆ สามารถตามไล่อ่านและใช้เวลาเข้าใจเอฟเฟ็คของการ์ดแต่ละใบได้นะ กลุ่มการ์ดประเภทแรก - Corruption Corruption Card นั้นจะเป็นกลุ่มการ์ดที่ทางตัวเกมหรือ Director เป็นผู้ทำการสุ่มหยิบมาให้ก่อนเริ่มเล่นในแต่ละด่าน ซึ่งการ์ดกลุ่มนี้จะส่งผลโดยตรงกับการเล่นในด่านนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นปริศนา, ระบบสภาพอากาศ, เหล่าศัตรู รวมไปถึงเอฟเฟ็คอื่นๆ ด้วยเช่นกัน  โดยกลุ่มการ์ดประเภทนี้มีหน้าที่เพื่อ “เพิ่มความยาก” ให้กับฝั่งของผู้เล่นนั่นเอง ซึ่งความยากจะเพิ่มมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู๋กับการ์ด Corrupt ที่ถูกหยิบออกมาด้วย รายการการ์ด Corruption Shambling Ridden Swarm เพิ่มซอมบี้ประเภท Swarm Ridden เพิ่มซอมบี้ประเภท Ridden Runners เพิ่มซอมบี้ประเภท Runners Sprinters เพิ่มซอมบี้ประเภท Sprinters Jogger Swarm เพิ่มซอมบี้ประเภท Jogger Swarm Bruisers เพิ่มซอมบี้ประเภท Bruisers ที่สามารถเข้าสู่โหมด Frenzy ได้ Retches เพิ่มซอมบี้ประเภท Retches ที่สามารถพ่นกรดพิษใส่ได้ Hockers เพิ่มซอมบี้ประเภท Hockers ที่สามารถตรึงผู้เล่นไว้กับที่ได้ Ogre เพิ่มซอมบี้ประเภท Ogre ซอมบี้ขนาดยักษ์สุดอันตราย Gloom ทำให้เกิดหมอกขึ้นภายในด่าน ส่งผลให้การมองเห็นยากขึ้น   โดยรายการ Corruption Cards ด้านบนนี้เป็นการ์ดที่ทางตัวเกมเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหลายใบเลยที่ถูกทยอยเพิ่มเข้ามาในช่วง Beta Test นี้  ซึ่งส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของเอฟเฟ็คพิเศษหรือไม่ก็เป็นชาเลนจ์ท้าทายให้ได้ทำกัน จึงทำให้รายละเอียดๆ ของการ์ดเหล่านี้ยังไม่สามารถยืนยันหรือมีข้อมูลที่แน่นอนนัก ผมเลยไม่สามารถนำมาลงให้ได้นั่นเองครับ กลุ่มการ์ดประเภทที่สอง - Active Active Cards นั้นจะเป็นกลุ่มการ์ดประเภทที่เพิ่มความสามารถและสกิลต่างๆ ให้กับผู้รอดชีวิต โดยมีการแบ่งแยกย่อยออกเป็น 4 ประเภทด้วยกันคือ Reflex (สีฟ้า), Discipline (สีแดง), Brawn (สีเขียว) และ Fortune (สีเหลือง) ซึ่งปัจจุบันนี้มีการ์ดที่สามารถยืนยันได้ทั้งหมด 61 ใบด้วยกัน การ์ดเหล่านี้จะถูกสุ่มออกมาให้เลือกจาก Card Deck ที่ทางฝั่งผู้รอดชีวิตได้จัดเอาไว้ โดยปกติแล้วทางฝั่งผู้รอดชีวิตจะสามารถเลือกการ์ด Active Card ได้ทุกครั้งหลังจากที่ตัวเกมสุ่มหยิบ Corruption Card ออกมาแล้วนั่นเอง Back 4 Blood รายการการ์ด Reflex (สีฟ้า) Cross Trainers เพิ่มสเตมิน่า 10% Rhythmic Breathing เพิ่มสเตมิน่า 30% ความต้านทาน Slow ลดลง 20% Reload Drills รีโหลดไวขึ้น 10% Mag Coupler รีโหลดไว้ขึ้น 30% ทำให้ไม่สามารถขึ้นลำกล้องปืนได้ Meth Head เพิ่มความเร็วโจมตีระยะประชิด 60% สูญเสียสเตมิน่าจากการโจมตีประชิดน้อยลง 60% ความต้านทาน Trauma ลดลง 30% Ridden Slayer โจมตีเข้าจุดอ่อนแรงขึ้น 10% Reckless Strategy โจมตีเข้าจุดอ่อนแรงขึ้น 20% พลังป้องกันลดลง 5% Shooting Gloves สลับอาวุธไวขึ้น 10% Smelling Salts ชุบเพื่อนไวขึ้น 25% Dash เคลื่อนที่ไวขึ้น 5% Superior Cardio ทำให้การวิ่ง Sprint ไวขึ้น 15% Breakout ทำให้หลุดจากการจับได้ 1 ครั้งต่อเลเวล Combat Knife เปลี่ยนการ Bash เป็นการใช้มีดแทงแทน Dance All Day เคลื่อนที่ไวขึ้น 10% ไม่ลดความเร็วเคลื่อนที่ขณะยิงอีกต่อไป ไม่สามารถวิ่งหรือ Sprint ได้ Team Stamina เพิ่มสเตมิน่า 10% ให้ทั้งทีม Uzi เริ่มเกมมาด้วยปืน Uzi Pep in Your Step การฆ่าโดยการยิงเข้าที่หัวจะทำให้เคลื่อนที่ไวขึ้น 10% นาน 4 วินาที Utility Scavenger สามารถรับรู้ถึงตำแหน่งไอเทม Utility ที่อยู่รอบตัวได้ ไอเทมประเภท Utility จะมีการสุ่มเกิดบ่อยขึ้น   Back 4 Blood รายการการ์ด Discipline (สีแดง) Ammo Pouch เพิ่มจำนวนกระสุนที่พกได้ 10% Front Sight Focus เพิ่มความแม่นยำ 10% Quick Kill เพิ่มความแม่นยำ 30% ทำให้ไม่สามารถขึ้นลำกล้องปืนได้ Antibiotic Ointment เพิ่มผลการรักษามากขึ้น 15% EMT Bag เพิ่มผลการรักษามากขึ้น 30% เสียสเตมิน่าเยอะขึ้น 10% Blood...

Read more

Genshin Impact ขอเสนอ Sayu เจ้าหนูนินจาทานูกิเป็นสายฮิลเลอร์คนใหม่ที่เข้ามาภายในแพทช์ 2.0 มีวิชั่นเป็นธาตุลมใช้ดาบใหญ่เป็นอาวุธ มีสกิลธาตุสามารถกลิ้งไปได้ไกลแถมยังรวดเร็วถึง 10 วินาที พร้อมท่าไม้ตายเรียกตุ๊กตาทานูกิออกมช่วยฮิลและยังทำดาเมจช่วยได้ด้วย! ข้อมูลตัวละคร ชื่อ : Sayu เกิด : วันที่ 19 ตุลาคม อยู่ฝ่าย : Shuumatsuban วิชั่นที่ครอบครอง : ธาตุลม กลุ่มดาว : Nyctereutes Minor Sayu นินจาแห่ง Shiyuumatsu-Ban เพราะรูปร่างจิ๋วๆ จึงมีความคล่องแคล่วสูงมาก เธอคิดว่าการนอนให้เพียงพอจะทำให้ตัวเธอสูงขึ้น จึงพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะขี้เกียจให้ได้มากที่สุด จึงฝึกฝนวิชานินจาจนสมบูรณ์แบบทั้งหลบหนี, ซ่อนตัว, แปลงกาย... วิธีการได้รับตัวละคร : ได้จากการเปิดกาชาตู้ "ทะเลดาวแห่งเปลวเพลิง" Skill ภาพ สกิล รายละเอียด Shuumatsuban Ninja Blade การโจมตีปกติ : โจมตีต่อเนื่องสูงสุด 4 ครั้ง ท่าชาร์จโจมตี : กดโจมตีค้างจะควงดาบหมุนวนรอบตัวจนกว่าจะหยุด, สตามิน่าจะหมด หรือหมดระยะของสกิล https://youtu.be/JZgYVZnbFAM https://youtu.be/a2lxBGd6E0M Yoohoo Art: Fuuin Dash สร้างคลื่นลมรอบตัวแล้วกลิ้งชนศัตรูก่อนจะฟาดด้วยหางจบท้ายด้วยดาเมจธาตุลม กด 1 ครั้ง จะหมุนกลิ้งระยะสั้นๆ แล้วฟาดด้วยหางจบท้าย กดค้างจะหมุนกลิ้งเป็นทางยาวได้ถึง 10 วิ สามารถกดปุ่มสกิลอีกครั้งเพื่อหยุดการกลิ้งได้  หากสกิลทำปฏิกิริยากระจายกับธาตุอื่น (น้ำ / ไฟ / ไฟฟ้า / น้ำแข็ง) คลื่นสมรอบตัวจะเปลี่ยนเป็นธาตุแรกที่กระจาย https://youtu.be/RMJcdRbZtm8 Yoohoo Art: Mujina Flurry ท่าไม้ตายเรียกตุ๊กตาทานูกิ Muji-Muji ออกมาสร้างอาณาเขตขนาดใหญ่ทำดาเมจธาตุลมแก่ศัตรู พร้อมฮิลให้ตัวละครทั้งหมดในอาณาเขต (การฮิลจะแรงขึ้นอยู่กับพลังโจมตีของ Sayu) หากมีตัวละครในบริเวณเลือดมากกว่า 70% Muji-Muji จะช่วยโจมตีทำดาเมจธาตุลม (หากต่ำกว่า 70% จะไม่โจมตี) หากมีตัวละครเลือดต่ำกว่า 70% จะฮิลเลือดให้ แต่ถ้าหากมีหลายคนเลือดต่ำกว่า 70% จะเลือกฮิลคนเลือดน้อยที่สุดก่อน https://youtu.be/d0qjNiIW4Jc Someone More Capable เมื่อโจมตีให้เกิดปฏิกิริยาธาตุกระจายจะฟื้นเลือด 300 หน่วยให้ตัวละครทั้งหมดในทีม และตัวละครเพื่อนใน Co-op ค่าชำนาญธาตุแต่ละหน่วยของเธอจะฟื้นเลือดเพิ่มอีก 1.2 หน่วย (เอฟเฟกต์เกิดขึ้นได้ทุก 2 วิ) No Work Today! Muji-Muji จากท่าไม้ตายจะได้เอฟเฟกต์เพิ่มขึ้น เมื่อฟื้นเลือดให้ตัวละคร จะฟื้นเลือดให้กับตัวละครคนอื่นที่อยู่ใกล้ด้วย 20% เมื่อ Muji-Muji โจมตีศัตรูจะขยายพื้นที่สร้างดาเมจ Yoohoo Art: Silencer's Secret เมื่อมี Sayu อยู่ในทีมจะทำให้เหล่าสัตว์สิ่งมีชีวิตไม่ตกใจหนีหายไป จะคงอยู่กับที่เช่น ปู, ปลา, ผีเสื้อ, Crystalfly, หมู เป็นต้น https://youtu.be/SSli6PonTGQ กลุ่มดาว : Nyctereutes Minor หมายเหตุ : ต้องใช้ดวงดาวแห่งชีวิตของ Sayu ในการอัพดาวแต่ละดวง สามารถหาได้จากการเปิดกาชาได้ตัวละคร Sayu ซ้ำเท่านั้น กลุ่มดาว สกิล รายละเอียด Lv. 1 Multi-Task no Jutsu Muji-Muji จากท่าไม้ตายจะสามารถฮิลพร้อมทำดาเมจได้ทันทีไม่ต้องรอให้เลือดของตัวละครมากกว่า 70% Lv. 2 Egress Prep เมื่อใช้สกิลธาตุกลิ้งชนศัตรูแบบกด 1 ครั้ง จะทำดาเมจเพิ่มขึ้น 3.3% และแบบกดค้างทุก 0.5 วิ ดาเมจจากการกลิ้งชนจะทำให้ดาเมจการฟาดหางครั้งสุดท้ายทำดาเมจ 3.3% สามารถทำดาเมจได้สูงสุดถึง 66% Lv. 3 Eh, the Bunshin Can Handle It เพิ่มเลเวลของสกิลธาตุ +3 เลเวล (สูงสุด 15 เลเวล) Lv. 4 Skiving: New and Improved เมื่อทำให้เกิดปฏิกิริยากระจายจะฟื้นเกจ 1.2 หน่วย (เอฟเฟกต์นี้เกิดได้ทุก 2 วิ) Lv. 5 Speed Comes First เพิ่มเลเวลของท่าไม้ตาย +3 เลเวล (สูงสุด 15 เลเวล) Lv. 6 Sleep O'Clock การโจมตีกับการฮิลของ Muji-Muji จากท่าไม้ตายจะทำให้ได้รับผลชำนาญธาตุด้วย การโจมตีของ Muji-Muji จะทำดาเมจเพิ่มเติม 0.2% ของพลังโจมตี ทำดาเมจเพิ่มเติมได้สูงสุด 400% เพิ่มการฮิลของ Muji-Muji ขึ้น 3 หน่วย สามารถเพิ่มได้สูงสุด 6000 หน่วย จุดเด่น-จุดด้อย จุดเด่น จุดด้อย สกิลธาตุนอกจากจะทำดาเมจได้แล้วยังสามารถใช้กลิ้งไปในระยะไกลได้อย่างรวดเร็วถึง 10 วิ ควรอัปอย่างน้อย C1 เพื่อให้ Muji-Muji ของท่าไม้ตายฮิลพร้อมทำดาเมจได้พร้อมกันโดยไม่มีเงื่อนไขต้องมีเลเวล 70% ขึ้นไป ท่าไม้ตายฮิลให้กับเพื่อนในทีมและยังทำดาเมจใส่ศัตรูในอาณาเขตได้ด้วย เป็นตัวละครใช้ดาบใหญ่ทำให้การโจมตีค่อนข้างช้า ทำให้เหล่าสัตว์สิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่หนีหายไปจะอยู่ในบริเวณให้สามารถจับได้ทั้งหมด แนะนำอาวุธ Sayu เป็นตัวละครสายฮิลเลอร์คนใหม่ที่ช่วยทำดาเมจช่วยทีมด้วยด้วย การฮิลของน้องจะขึ้นอยู่กับพลังโจมตีของน้องด้วย ยิ่งพลังโจมตีเยอะยิ่งฮิลได้แรงขึ้น แนะนำให้หาอาวุธที่เพิ่มพลังโจมตีให้กับเธอ อาวุธที่แนะนำมีดังนี้ แนะนำอาร์ติแฟกต์ สำหรับ Sayu จะเน้นใช้ท่าไม้ตายฟื้นฟูเลือดให้กับเพื่อนทั้งทีมและเพื่อนใน Co-op แถมยังสามารถช่วยโจมตีศัตรูได้ด้วยหากอยู่ในบริเวณอาณาเขตท่าไม้ตาย แนะนำให้ใส่ออฟหลัก 3 ช่องหลังเป็น โจมตี% หรือ ฟื้นฟูพลังงาน | โจมตี% | โบนัสการรักษา 1.เซ็ต Maiden Beloved 2 ชิ้น กับเซ็ต Gladiator’s Finale 2 ชิ้น เพื่อเอาเพิ่มผลการฮิล 20% และเพิ่มพลังโจมตี 18% 2.เซ็ต Noblesse Oblige เมื่อใส่ครบสองชิ้นดาเมจของท่าไม้ตาย 20% แบบใส่ครบ 4 ชิ้น หลังจากใช้ท่าไม้ตายในทีมทั้งหมดจะเพิ่มพลังโจมตี 20%...

Read more

Genshin Impact ขอเสนอ Yoimiya เจ้าของร้านพลุดอกไม้ไฟ Naganohara มีวิชั่นประจำตัวเป็นธาตุไฟ ถนัดใช้อาวุธประเภทธนูโจมตีเป็นกายภาพ หากกดใช้สกิลจะทำให้ลูกดอกกลายเป็นพลุยิงใส่ศัตรูเป็นธาตุไฟได้อย่างต่อเนื่อง ยังมีท่าไม้ตายระเบิดพลุดอกไม้ไฟโจมตีใส่ศัตรูเป็นวงกว้างทำให้ติดตรารูปปลาทอง ถ้าเพื่อนในทีมที่ไม่ใช่เธอเป็นคนโจมตีใส่จะเกิดพลุระเบิดทำศัตรูรอบๆ ตัวเป้าหมายอีกด้วย! ข้อมูลตัวละคร ชื่อ : Yoimiya เกิด : วันที่ 21 มิถุนายน อยู่ฝ่าย : ร้านดอกไม้ไฟ Naganohara วิชั่นที่ครอบครอง : ธาตุไฟ กลุ่มดาว : Carassius Auratus ช่างทำดอกไม้ไฟคนเก่ง เจ้าของ "ร้านดอกไม้ไฟ Naganohara" ที่เป็นที่รู้จักกันในนาม "ราชินีแห่งเทศกาลฤดูร้อน" ของคนใน Inazuma การเฉลิมฉลองต่างๆ ที่จัดขึ้นทุกปีในเมือง Inazuma จะใช้ดอกไม้ไฟที่ประดิษฐ์ขึ้นโดย Yoimiya เธอมีความคิดสร้างสรรค์เหมือนดอกไม้ไฟที่สามารถทำให้ผู้คนประหลาดใจได้เสมอ เธอมีจิตใจที่เหมือนเด็ก และมักจะเล่นเกมง่ายๆ สนุกสนานกับพวกเด็กๆ หรือพาพวกเขาไปหาของที่วาววับ ความบริสุทธิ์ของเด็กน้อยทำให้เธอรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง วิธีการได้รับตัวละคร : ได้จากการเปิดกาชาตู้ "ทะเลดาวแห่งเปลวเพลิง" Skill ภาพ สกิล รายละเอียด Firework Flare-Up การโจมตีปกติ : โจมตีต่อเนื่องสูงสุด 5 ครั้ง ท่าชาร์จโจมตี : ชาร์จยิงอย่างแม่นยำ มีสองระดับตามออร่าที่ตัวลูกธนู ระดับที่ 1 : ยิงออกไปเป็นลูกธนูธาตุไฟ ระดับที่ 2 : ชาร์จพลุสูงสุดได้ 3 ลูก โจมตีออกไปพร้อมศรใส่ศัตรู หากมีศัตรูอยู่ใกล้ๆ พลุจะพุ่งไปโจมตีศัตรูใกล้ๆ เป้าหมาย https://youtu.be/f6585rCGD-w https://youtu.be/0IfgUQfcdsU Niwabi Fire-Dance เมื่อกดสกิลจะบัพพลุเปลี่ยนลูกดอกธนูเป็นธาตุไฟ การโจมตีปกติทำดาเมจไฟได้ต่อเนื่อง 10 วินาที (คูลดาวน์ 18 วิ) https://youtu.be/54OleEs_PmQ Ryuukin Saxifrage ท่าไม้ตายยิงพลุใส่ศัตรูบริเวณด้านหน้าเป็นวงกว้างสร้างตรารูปปลาทองเอาไว้ที่ศัตรู 1 ตัว อยู่นาน 10 วิ ตัวละครคนอื่นในทีม (ยกเว้น Yoimiya) โจมตีใส่ศัตรูที่ติดตราจะทำให้เกิดพลุทำดาเมจใส่เป้าหมาย และบริเวณรอบเป็นดาเมจธาตุไฟ ทำดาเมจทุก 2 วิ หากสามารถกำจัดเป้าหมายที่ติดตราในระยะเวลาได้จะย้ายตราไปตัวต่อไปในระยะใกล้ๆ แทน (เวลาคงอยู่ของตราไม่รีเซ็ตใหม่ จะนับเวลาที่เหลืออยู่) https://youtu.be/yip7S7PMDCg https://youtu.be/C4maUCGamOc Tricks of the Trouble-Maker หลังกดสกิลธาตุ Niwabi Fire-Dance เมื่อโจมตีปกติจะมอบโบนัสดาเมจไฟ 2% เอฟเฟกต์อยู่ต่อเนื่อง 3 วิ ซ้อนทับได้สูงสุด 10 ครั้ง Summer Night's Dawn หลังใช้ท่าไม้ตายใน 15 วิ ตัวละครในทีม (ยกเว้น Yoimiya) ที่อยู่ใกล้ตราบนตัวศัตรูพลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น 10% และหากสลับตัวเมื่อมีบัฟของพาสซีพสกิล Tricks of the Trouble-Maker จะเพิ่มพลังโจมตี 1 ขั้น 1% ตามบัฟสเตคที่มีอยู่ก่อนสลับตัว Blazing Match เมื่อสร้างเฟอร์นิเจอร์ในบ้านกาน้ำชาจะได้วัสดุที่สร้างบางส่วนคืน 100% กลุ่มดาว : Carassius Auratus หมายเหตุ : ต้องใช้ดวงดาวแห่งชีวิตของ Yoimiya ในการอัพดาวแต่ละดวง สามารถหาได้จากการเปิดกาชาได้ตัวละคร Yoimiya ซ้ำเท่านั้น กลุ่มดาว สกิล รายละเอียด Lv. 1 Agate Ryuukin ตราปลาทองจากท่าไม้ตายเพิ่มขึ้น 4 วิ (จากเดิม 10 วิ เป็น 14 วิ) หากเธอกำจัดศัตรูที่ติดตราได้จะได้บัฟพลังโจมตี 20% นาน 20 วิ Lv. 2 A Procession of Bonfires หากโจมตีด้วยดาเมจไฟติดคริติคอลจะได้โบนัสดาเมจธาตุไฟ 25% (เอฟเฟกต์นี้เกิดขึ้นได้แม้เธอไม่ได้อยู่บนสนาม) Lv. 3 Trickster's Flare เพิ่มเลเวลของสกิลธาตุ +3 เลเวล (สูงสุด 15 เลเวล) Lv. 4 Pyrotechnic Professional เมื่อตราปลาทองเกิดระเบิด คูลดาวน์สกิลธาตุจะลดลง 1.2 วิ Lv. 5 A Summer Festival's Eve เพิ่มเลเวลของท่าไม้ตาย +3 เลเวล (สูงสุด 15 เลเวล) Lv. 6 Naganohara Meteor Swarm ระยะเวลาบัพจากสกิลธาตุเมื่อโจมตีปกติมีโอกาส 50% จะยิงพลุดอกไม้ไฟ 1 ดอก ทำดาเมจ 60% (ดาเมจนับตามดาเมจการโจมตีปกติ) จุดเด่น-จุดด้อย จุดเด่น จุดด้อย สกิลธาตุเปลี่ยนการโจมตีเป็นธาตุไฟอยู่ได้ต่อเนื่อง 10 วิ การชาร์จยิงใช้ระยะพอสมควรให้พลุเต็ม 3 ลูก ท่าไม้ตายทำให้ศัตรูติดตราปลาทอง ทำให้เพื่อนในทีมโจมตีเกิดพลุระเบิดรอบตัวทุก 2 วิ หากไม่มีศัตรูอยู่ใกล้พลุจากการชาร์จจะไม่พุ่งไปหาตัวอื่นๆ ผลจากท่าไม้ตายเน้นเสริมการโจมตีให้กับเพื่อนในทีม สกิลธาตุต้องรอใหม่ 8 วิ จึงจะสามารถทำดาเมจได้ต่อเนื่อง การชาร์จโจมตีขั้นสองจะทำให้เกิดพลุ 3 ดอก โจมตีใส่ศัตรูระยะใกล้ได้ แนะนำอาวุธ Yoimiya เป็นได้ทั้ง DPS และซัพธาตุ ที่มีการโจมตีทั้งหมดเป็นธาตุไฟจากบัฟของสกิลธาตุ แถมยังเน้นโจมตีปกติเป็นหลักในการทำดาเมจ แนะนำให้หาอาวุธที่เพิ่มพลังโจมตี คริติคอล หรือคริดาเมจให้กับเธอ อาวุธที่แนะนำมีดังนี้ แนะนำอาร์ติแฟกต์ สำหรับ Yoimiya จะเน้นทำดาเมจเป็นธาตุไฟอย่างต่อเนื่อง และสามารถเล่นไปในทางสายซัพธาตุกับทีมได้ด้วย แนะนำให้ใส่ออฟหลัก 3 ช่องหลังเป็น โจมตี% | เพิ่มดาเมจธาตุไฟ | คริดาเมจ หรือ คริติคอล 1.เซ็ต Crimson Witch of Flames ใส่แบบสองชิ้นเพิ่มดาเมจธาตุไฟ 15% แบบครบ 4 ชิ้น จะทำให้ดาเมจจากปฏิกิริยาธาตุ...

Read more

Back 4 Blood กลับมาต่อกันกับเกมซอมบี้ตัวใหม่ยอดนิยมกันเลยดีกว่า หลังจากก่อนหน้านี้ผมได้แนะนำถึงตัวเกมไปคร่าวๆ แล้ว ซึ่งหลายคนอาจตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะซื้อเกมดีหรือไม่ล่ะนะ ในคราวนี้ผมเลยจะมาแนะนำกันต่อในส่วนของวิธ๊การเอาตัวรอดนั่นเอง โดยจะมาในบทความของ “เทคนิคเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้” เราต้องทำยังไงถึงสามารถเอาตัวรอดจากเหล่าผีดิบพวกนี้ได้ หรือต้องทำยังไงถึงจะฝ่าฟันไปจนถึงเป้าหมายได้ทัน เอาเป็นว่าเรามาเริ่มกันเลย Back 4 Blood เทคนิค เพื่อเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้ ทีมเวิร์คและการสื่อสารคือสิ่งสำคัญ หากใครไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนอาจสงสัยว่า “มันก็แค่เกมยิงผีไม่ใช่หรอ? ทำไมมันต้องใช้ทีมเวิร์คอะไรขนาดนั้นเลยรึไง?” แต่ถ้าหากใครได้เข้ามาลองกับ Back 4 Blood แล้วล่ะก็จะรู้ได้เลยว่าเกมนี้เล่นค่อนข้างยาก และต้องใช้ความร่วมมือหรือทีมเวิร์คในระดับนึงเลยทีเดียว อย่างแรกเลยที่ต้องระวังคือ “การทำดาเมจใส่เพื่อน” หรือ “Friendly - Fire” ซึ่งภายในเกมนี้มีการปรับดาเมจค่อนข้างสูง บางทีเผลอๆ ลั่นกระสุนเข้าหัวเพื่อนไม่ตั้งใจเพียงนัดเดียวก็สามารถทำให้พวกเขาลงไปนอนคุยกับพื้นได้แล้ว ทำให้ในตรงส่วนนี้เราต้องใช้ความระวังอย่างมาก รวมทั้งยังต้องอาศัยการสื่อสารซึ่งกันและกันอีก เช่นบอกให้คนนำหน้าคอยกดนั่งไว้ด้านหลังจะได้ไม่ยิงโดนหัวเป็นต้น อย่างที่สองคือเรื่องของ “กระสุน” ใน Back 4 Blood นี้กระสุนจะไม่รวมเป็นประเภทเดียวกันเหมือนเกมอื่นๆ นะ แต่จะมีการแบ่งหมวดหมู่ออกเป็นกระสุน Assault Rile, Sub - Machine Gun, Shotgun และ Sniper แถมจำนวนยังค่อนข้างมีจำกัดเลยด้วยบางทียิงๆ อยู่ไม่ระวังรู้ตัวอีกทีกระสุนก็ไม่พอใช้แล้ว ซึ่งในตรงนี้เราสามารถบอกให้เพื่อนช่วยโยนกระสุนมาให้เรา ในขณะเดียวกันเพื่อนก็ขอให้เราแบ่งให้ได้ด้วยเช่นกัน เมื่อกระสุนเหลืออยู่ทีนี้เราก็ลุยกันต่อได้ยาวๆ เลยล่ะ นอกจากนี้บางด่านเองยังมีภารกิจให้ทำที่โหดหินมากต้องแบ่งหน้าที่กันไปทำในแต่ละจุด ทำให้ในส่วนของ “ทีมเวิร์ค” และ “การสื่อสาร” จึงนับว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับเกมนี้เลยล่ะ คอยระวังตัวอยู่เสมอ หนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้เราและทีมสามารถตายได้ง่ายๆ เลยคือ “ความประมาท” นั่นเองครับ ซึ่งนี่เองก็นับว่าเป็นสาเหตุหลักอันดับต้นๆ เลยที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนฝ่าไปไม่ถึงเส้นชัยนั่นเอง ด้วยว่าภายใน Back 4 Blood นี้ เวลาเริ่มด่านใหม่แต่ละทีตัวเกมมักเริ่มด้วยอะไรง่ายๆ มีเพียงเหล่าซอมบี้กระจอกๆ วิ่งมาให้เรายิงเล่นแค่นั้น ซึ่งบางครั้งมันก็ทำให้เรารู้สึกว่า “ง่ายเกินไปรึเปล่านะ?” ทำให้หลายๆ คนไม่ค่อยได้ระวังตัวและประมาทขึ้นมา ก่อนตัวเกมจะค่อยเพิ่มระดับความยากแบบก้าวกระโดดทำให้หลายคนตั้งตัวไม่ทัน โดยถ้าใครที่เล่นแบบไม่ระวังพอถึงเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นกระสุน ยา หรือระเบิด รู้ตัวอีกทีคือไม่มีอะไรเหลือแล้ว ทำให้พอพวกซอมบี้พิเศษโผล่มาเราจะสู้ไม่ได้เลยสุดท้ายก็คือได้แต่ลงไปหมอบกับพื้นแล้วคุยกับรากมะม่วงแทน ดังนั้นทางที่ดีเราควรแบบระวังตัวอยู่เสมอนั่นเองครับ ระวังเรื่องการเลือกตัวละคร จากบทความก่อนหน้านี้ผมเคยแนะนำเรื่อง “ตัวละคร” พวกเขาแต่ละคนจะมีสกิลแตกต่างกันไป โดยสกิลเหล่านี้นี่ล่ะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่กำหนดความเป็นตายของเราและทีมได้เลยล่ะนะ ยกตัวอย่างให้เห็นชัดง่ายๆ เลยก็ตัวละครของ Back 4 Blood อย่าง คุณแม่ Mom - ชุบเพื่อนขึ้นมาได้ทันที, คุณหมอ Cleaner - ฮีลเพื่อนที่เลือดน้อยโดยไม่ต้องใช้ของ หรืออย่าง ป๋า Hoffman - เพิ่มจำนวนกระสุนที่ทีมแบกได้ โดยแต่ละคนจะสกิลและข้อดีแตกต่างกันไป การเลือกตัวละครให้ซัพพอร์ตซึ่งกันและกันได้จะช่วยทำให้เรารับมือกับพวกซอมบี้ตัวพิเศษง่ายมากเลยล่ะ  ดังนั้นเวลาเข้าหน้าเลือกตัวอย่าพึ่งรีบเลือกแต่อย่างใด ให้ลองดูก่อนว่าทีมเล่นตัวไหนบ้าง แล้วเราค่อยเลือกตำแหน่งที่ขาดจะเกิดประโยชน์ได้มากกว่า เลือกการ์ดให้ดีให้เหมาะสม “ระบบการ์ด” หรือ “Card System” ใน Back 4 Blood นั้นเปรียบเสมือนฟีเจอร์แกนกลางสำคัญของตัวเกมเลยก็ว่าได้ ซึ่งการ์ดเหล่านี้เราเลือกมาใช้สำหรับการเพิ่มความสามารถและสกิลให้กับตัวละครของเราเอง ดังนั้นการเลือดการ์ดให้ดีจะช่วยทำให้เราไปได้ไกลมากเช่นกัน ยกตัวอย่างถ้าเพื่อนๆ ต้องการเล่นพวกตัวละครสาย “ซัพพอร์ต” หรือ “หมอ” การเลือกการ์ดประเภทเพิ่มช่องเก็บของก็จะช่วยให้เราขนยาได้มากขึ้นรักษาเพื่อนได้บ่อยขึ้น หรือใครเล่นสาย “บู๊แหลก” จัดเต็ม หาการ์ดเพิ่มจำนวนกระสุนหรือลดเวลารีโหลดก็จะช่วยให้เรายิงได้ต่อเนื่องไม่ขัดจังหวะอีกด้วย ซึ่งการเลือกการ์ดนี่มีความสำคัญไม่น้อยหน้าตัวละครของเราเลย ดังนั้นควรคิดให้ดีก่อนเลือกการ์ดเสมอ รวมทั้งต้องคอยระวังการ์ด Corruption ที่โผล่ออกมาในแต่ละรอบด้วยเสมอนะ คอยพก Toolkit ไว้เสมอ เวลาเราแวะร้านขายของเพื่อนๆ จะเลือกซื้อระเบิด เติมกระสุน ซื้อปืนใหม่ หรือของแต่งปืนก็ได้ตามใจชอบเลยครับ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้พกเอาไว้เสมอเลยนั่นก็คือ “Toolkit” นั่นเอง แล้วไอเจ้า Toolkit นี่มันมีประโยชน์ยังไงล่ะ? ด้วยว่าเวลาเล่นภายในเกม Back 4 Blood นี้ ตามด่านต่างๆ มักมี “ห้องลับ” ซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งอยู่เสมอ ซึ่งเราสามารถเข้าไปยังด้านในห้องนี้ได้ต้องอาศัยเจ้าเครื่องมือดังกล่าวนั่นเอง โดยภายในห้องนี้จะเหมือนกับขุมทรัพย์เลยก็ว่าได้ ภายในห้องนั้นเพื่อนๆ ผมจะพบได้ทั้งกระสุนจำนวนมาก ของใช้และยารักษาต่างๆ การ์ดความสามารถ ไปจนถึงบางครั้งยังมีพวกปืนหายากๆ โผล่ออกมาให้เราเก็บกันอีกด้วย ซึ่งมันสามารถช่วยให้เราฝ่าฝูงซอมบี้ได้ง่ายขึ้นแบบสุดๆ ไปเลยล่ะ ดังนั้นควรพวก Toolkit ไว้เสมอ ไม่จำเป็นต้องมีทุกคนหรอกแค่อย่างน้อยสักคนในทีมมีไว้ก็พอแล้วล่ะ เล็งเป้าหมายที่ควรกำจัดก่อนเสมอ อีกหนึ่งเทคนิคการเอาตัวรอดแนะนำเลยคือ “เลือกกำจัดเป้าหมายที่ควรกำจัดก่อนเสมอ” ซึ่งเป้าหมายในที่นี้หมายถึงพวกซอมบี้ชนิดพิเศษพวกตัวร้ายที่ทำให้เราตายได้ง่ายๆ เจ้าพวกนั้นนั่นแล่ะ ไม่ว่าพวกมันจะเป็น Tallboys, Stingers, Reeker หรือตัวไหนก็ตามแต่ ถ้ามันไม่ใช่พวกซอมบี้ลูกกระจ๊อก ให้เรารีบยิงมันพวกมันก่อนเป็นอันดับแรกเลยครับ ด้วยว่าซอมบี้เหล่านี้แต่ละตัวจะมีความสามารถพิเศษแตกต่างกันไป บ้างก็โจมตีระยะไกลได้ บางตัวสามารถยกเราให้ลอยพร้อมให้ซอมบี้ตัวอื่นตบซํ้าอีก ไปจนถึงบางตัวทุบเราเพียงครั้งเดียวร่วงลงไปนอนกับพื้นเลยก็มี ถ้าหากว่าเราปล่อยให้ซอมบี้เหล่านี้ไว้นานๆ พวกมันอาจไล่เก็บทีมเราไปทีละคน จนสุดท้ายก็จะไม่มีใครเหลือรอดและทำให้เราเกมโอเวอร์นั่นเอง Back 4 Blood เทคนิค ทั้งหมดนี้ใช้ในการเอาตัวรอดพื้นฐานคร่าวๆ ถ้าหากเพื่อนๆ อยากเล่นให้รอดถึงตอนจบจริงอาจจำเป็นต้องใช้ฝีมือและความพยายามมาร่วมด้วยล่ะครับ เอาเป็นว่าถ้าเกิดใครมีทริคหรือเทคนิคการเอาตัวรอดดีๆ แนะนำก็สามารถคอมเมนต์ไว้ได้เช่นเคยนะ แล้วไว้เราค่อยกลับมาพบกันอีกครั้งกันในเกม Back 4 Blood นั่นเองครับ รวมข่าวสารของเกม Back 4 Blood สั่งซื้อเกมบน Steam ได้ที่นี่

Read more

Pokemon Unite Talonflame เป็น Pokemon สาย Speedster มีความคล่องตัวสูง สามารถพุ่งเข้าทำ Damage ฝ่ายศัตรูได้แบบไม่ทันตั้งตัว เหมาะกับ Player ที่ชอบเซอร์ไพรส์ ไล่ฆ่าศัตรูเป็นพิเศษ แต่ต้องระวังด้วยเพราะ Move เราดาเมจแรงก็จริง แต่ตัว Talonflame เองก็บางมากเช่นกัน Pokemon Unite Talonflame วิธีเล่น หาเหยื่อให้เจอ แล้วพุ่งเข้าไปจัดการอย่างรวดเร็ว คือสไตล์การเล่นของ Talonflame ท่า Move ต่างๆ ของ Pokemon ตัวนี้มีความแรงสูง สามารถ Burst Damage ฆ่าศัตรูได้ในพริบตา แถมยังเป็นการพุ่งเข้าใส่ศัตรูทำให้ยากที่อีกฝ่ายจะรอดกรงเล็บของเราไปได้ ช่วง Level 1-3 ให้อัพ Acrobatics ก่อนเพื่อบินเข้า บินออก ตอด HP ของ Pokemon ฝ่ายตรงข้ามไปเรื่อยๆ หากอีกฝ่าย HP ต่ำมากๆ แล้วเราเลเวลอัพพอดีก็สามารถใช้ Peck เพื่อช่วยทำดาเมจปิดเกมได้เลย พอ Level 5 ให้อัพเกรดเป็น Aerial Ace หากเทียบดาเมจของ Move เพียงอย่างเดียว Aerial Ace เสียเปรียบ Flame Charge เล็กน้อย แต่เมื่อ Aerial Ace ใส่เป้าหมายสำเร็จการโจมตีครั้งต่อไปจะเป็น Boost Attack แน่นอน ทำให้ดาเมจรวมคอมโบของ Aerial Ace ทำได้เยอะกว่า Level 7 อัพ Brave Bird เพื่อทำ Damage อย่างรุนแรงได้เลย, ท่า Fly เหมาะกับเอาไว้หนี หรือ ลอบโจมตีเสียมากกว่า หากต้องการ Burst Damage อีกฝ่ายให้ตายเร็วที่สุด แนะนำให้อัพ Brave Bird ซึ่งจุดหนึ่งที่ต้องระวังคือเวลาใช้ท่านี้เราจะเสียเลือดจากดาเมจสะท้อนกลับ Recoil ด้วย  Held Item และ Battle Item Held Item ของ Talonflame ต้องช่วยเพิ่ม Damage ให้มากที่สุด Attack Weight เพิ่ม Attack หลังจากทำสกอร์ได้, Float Stone เพิ่ม Movement Speed นอกการต่อสู้สำหรับเอาไว้เดินหาเหยื่อ และ Muscle Band เพิ่ม ATK สูงสุด +15 หน่วย เพิ่ม Attack Speed สูงสุด +7.5% พร้อมมีความสามารถทำ Damage เพิ่มขึ้นตาม HP ของศัตรูที่เหลืออยู่ Eject Botton ใช้พุ่งเข้าหาศัตรูเพื่อให้เข้าระยะของท่าโจมตี หรือ ใช้หนีออกมา หลังจากฆ่าศัตรูเสร็จแล้วเพื่อนเค้าเตรียมวิ่งมารุมยำก็ได้ Pokemon Unite Talonflame แปลสกิล Basic Attack(โจมตีปกติ) โจมตีระยะใกล้(Melee) เมื่อโจมตีครั้งที่ 3 (Boost Attack) สร้างลมพายุทำ Damage เป็นวงกว้าง (AOE) ทำ Damage ศัตรูทั้งหมดในรัศมี Passive(สกิลติดตัว) Gale Wings - เพิ่ม Movement Speed ให้ Talonflame เมื่อพลังชีวิตเต็มหรือเกือบเต็ม Level 1-3 Peck (Melee) - Cooldown 5 วินาที บินใส่ศัตรูและจิกโจมตี 3 ครั้ง *Level 5 สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Flame Charge หรือ Aerial Ace Acrobatics (Dash) - Cooldown 8 วินาที พุ่งไปยังพื้นที่เป้าหมาย โจมตีศัตรูต่อเนื่อง สามารถเลือกทิศทางพุ่งออกได้หลังโจมตีเสร็จ *Level 7 สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Fly หรือ Brave Bird Level 5 (Evo ครั้งที่ 1) Flame Charge (Dash) - Cooldown 6.5 วินาที เคลือบตัวเองด้วยเปลวไฟ บินไปยังพื้นที่เป้าหมาย โจมตี Pokemon ศัตรูที่อยู่ในเส้นทางการบิน พร้อมทั้งเพิ่ม Movement Speed ให้ Talonflame ชั่วขณะหนึ่ง *Level 11 สามารถอัพเกรดเป็น Flame Charge+ หลังจาก Move นี้โจมตีโดนเป้าหมาย การโจมตีของ Talonflame จะไม่สนใจ DEF ของ Pokemon ฝ่ายตรงข้ามชั่วขณะหนึ่ง  Aerial Ace (Dash) - Cooldown 6 วินาที บินกระแทกทำ Damage ใส่ Pokemon ของฝ่ายตรงข้าม, การโจมตีครั้งถัดไปหลังใช้ Move นี้ จะเป็น Boost Attack *Level 11 สามารถอัพเกรดเป็น Aerial Ace+ เพิ่ม Damage ของ Move นี้ Level 7 (Evo ครั้งที่ 2) Fly (Dash) - Cooldown 11 วินาที Talonflame บินขึ้นไปบนฟ้า ถ้ากดใช้อีกครั้งจะพุ่งลงมาโจมตีพื้นที่เป้าหมาย ทำ Damage ใส่ Pokemon ฝ่ายตรงข้ามทุกตัวในรัศมีของ Move นี้, การโจมตีครั้งถัดไปหลังใช้ Move นี้...

Read more

Pokemon Unite Gardevoir เป็น Pokemon สาย Attacker ที่ออกแบบมาให้ทำ Damage ได้รุนแรงมาก แต่เปราะบางอย่างที่สุด หากโดนเข้าประชิดตัว, โดนเปิดก่อน แทบจะเอาตัวรอดไม่ได้ กลับกัน ถ้าได้เปิดไฟท์รัว Move ใส่ Pokemon อีกฝ่ายก่อนก็ยากที่ศัตรูจะรอดไปได้ Pokemon Unite Gardevoir วิธีเล่น แนะนำให้ยืนเลนบนเป็นหลัก เลนล่างเวลาอีกฝ่ายเดินมาเก็บเต่า เราอาจตกเป็นของหวานได้ การยืนเลนบนทำให้เราฟาร์ม Level ได้อย่างไม่ยากเย็นเกินไป ช่วงต้นเกม Damage ของเรายังไม่โหด พยายามหลีกเลี่ยงการปะทะ กับ Pokemon ของอีกฝ่ายไปก่อน Psyshock+Psychic = Damage บริเวณกว้างอย่างรุนแรง ทั้งสองท่า ทำ Damage เป็นวงกว้าง มีความรุนแรงสูง เหมาะกับจังหวะทีมไฟท์มีฝ่ายตรงข้าม 2-3 คนขึ้นไป เอาไปเล่นคนเดียวไม่สนุกเท่าไหร่ เพราะฆ่าอีกฝ่ายไม่เด็ดขาดเหมือนอีกสาย Future Sight + Moonblast = Burst Damage เน้นเก็บเป้าหมายเดี่ยว สายการเล่นยอดฮิต กด 2 ท่า ฆ่า 1 ตัวของ Gardevoir นิยมเอาไว้ไล่เก็บฝ่ายตรงข้ามทีละตัว ใครเป็นคนเล่นเกมสไตล์เน้นคนอีสปอร์ต แนะนำสายนี้เลย สำคัญที่สุด การเล่นตัวนี้ต้องอ่าน Map ให้คล่อง ถ้าอีกฝ่ายหายไป ต้องถอย เวลา Gardevoir โดนเปิดไฟท์ก่อนก็ว่าแย่แล้ว ถ้าโดนรุมแบบไม่มีเพื่อนช่วยคือกลับบ้านแทบจะ 100% ท่องไว้เสมอว่า เราต้องยืนกดท่าใส่ฝั่งศัตรูจากจุดที่ปลอดภัยเท่านั้น อย่ายืนในจุดเสี่ยงหวังยืนแลกวัดดวงเด็ดขาด Held Item และ Battle Item Shell Bell กับ  Wise Glassedคือสอง Held Item สำคัญที่ควรมีติดตัวไว้ เพราะเพิ่มค่า Sp.ATK ได้โดยตรง ยิ่งเราเป็นตัว Attacker การทำดาเมจสูงๆ ฆ่าศัตรูได้ในพริบตาจะช่วยกดดันอีกฝ่ายได้ดีมาก หรือถ้าไม่เล่น Gardevoir ก็เอาไปใช้กับสาย Sp.ATK ตัวอื่นได้อีก ชิ้นที่สาม เลือกเป็น Energy Amplifier ช่วยเพิ่ม Damage ของเราได้อย่างมากหลังจากใช้ Unite Move Eject Botton เป็น Battle Item เพื่อการเอาชีวิตรอดตั้งแต่ต้นเกมยันท้ายเกม พกติดตัวไว้เสมอ ถ้าอีกฝ่ายเปิดไฟท์ตอนเราไม่พร้อม ให้พุ่งหนีทันทีอย่ารีรอ Pokemon Unite Gardevoir แปลสกิล Basic Attack(โจมตีปกติ) โจมตีระยะไกล(Ranged) เมื่อโจมตีครั้งที่ 3 (Boost Attack) ทำ Damage เป็นวงกว้าง (AOE) ลด Sp.Def ของ pokemon ฝั่งตรงข้ามที่โดนลงชั่วขณะหนึ่ง Passive(สกิลติดตัว) Synchronize  - เมื่อ Pokemon ฝ่ายตรงข้ามสร้างสถานะลด Movement Speed, ทำความเสียหายต่อเนื่อง(Damage Over Time) ใส่ Gardevoir ตัว Pokemon ของฝ่ายตรงข้ามจะได้รับสถานะแบบเดียวกัน (มี Cooldown หลังจากแสดงผล) Level 1-3 Teleport(Dash) - Cooldown 11 วินาที เมื่อ Gardevoir เรียนรู้ท่านี้ การโจมตีปกติจะแรงขึ้นจนกระทั่งจบเกม วาร์ปไปยังจุดที่เลือกในระยะของสกิล เพิ่ม Damage ของการโจมตีปกติครั้งแรก หลังจากวาร์ปสำเร็จ *Level 6 สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Psyshock หรือ Future Sight Confusion (Ranged) - Cooldown 4.5 วินาที ปล่อยพลังจิตโจมตีเป็นเส้นตรง *Level 8 สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Psychic หรือ Moonblast Level 6(Evo ครั้งที่ 1)  Psyshock(Area) - Cooldown 10 วินาที ปล่อยพลังจิตทำ Damage ใส่พื้นที่ที่เลือก 3 ครั้ง Cooldown ของ Move นี้จะลดลงตามจำนวนครั้งที่  Psyshock ทำ Damage โดน Pokemon ของฝั่งตรงข้าม *Level 12 สามารถอัพเกรดเป็น Psyshock+ เพื่อเพิ่ม Damage ของ Move นี้ Future Sight(Area) - Cooldown 9 วินาที Gardevoir สร้างระเบิดพลังจิตบนพื้นที่ที่เลือก Move นี้จะหน่วงเวลาเล็กน้อย ก่อนพลังจิตจะระเบิดทำ Damge ใส่ Pokemon ของศัตรูพร้อมทั้งลด Movement Speed ของพวกมันลงชั่วขณะหนึ่ง *Level 12 สามารถอัพเกรดเป็น Future Sight+ ทำการ Reset Cooldown ของ Move นี้เมื่อ Future Sight+ ระเบิดแล้วทำ Damage ใส่ Pokemon ทีมตรงข้ามได้   Level 8 Psychic (Ranged) - Cooldown 7 วินาที เมื่อ Move นี้ทำดาเมจ Pokemon ฝ่ายตรงข้ามหรือพุ่งไปจนสุดระยะ จะทำ Damage Over Time ใส่ Pokemon ศัตรูเป็นวงกว้างพร้อทั้งลด Movement Speed ของพวกมันลงชั่วขณะหนึ่ง *Level 14 สามารถอัพเกรดเป็น Psychic+ ลด Cooldown ของ...

Read more

กิจกรรมสมบัติที่สาบสูญ (Lost Riches) การกลับมาของกิจต้าวน้อล Mini Seelie ในเกม Genshin Impact ที่จะให้เพื่อนๆ ได้ออกเดินทางตามหาสมบัติไปพร้อมกับก้อนน้องอีกครั้ง นอกจากจะต้องตามหาสมบัติแล้วจะมีจุดสมบัติลับรอให้ไปเจอกันอีกด้วย ซึ่งในรอบนี้เองเมื่อตามหาสมบัติจนถึงจุดสุดท้ายก้จะสามารถแลกรับน้องไปได้ 1 ตัว แถมในรอบนี้ยังเพิ่มสีใหม่มาเป็นสีม่วงอีกด้วยนะ! กิจกรรมสมบัติที่สาบสูญ (Lost Riches) ในช่วงเวลากิจกรรม ตามหาสมบัติไปพร้อมกับ "Treasure-Seeking Seelie" เพื่อแลกรับไอเทมของที่ระลึกประจำกิจกรรมในร้านค้ากิจกรรม Mini Seelie - Viola, "Mini Seelie - Dayflower, Mini Seelie - Rosé, หรือ Mini Seelie - Curcuma ! และยังสามารถรับ Primogem, Hero's Wit, Mystic Enhancement Ore, Mora และรางวัลอื่น ๆ! 〓 ช่วงเวลากิจกรรม 〓 เวลาเปิดกิจกรรม: 06/08/2021 09:00 ~ 16/08/2021 02:59 เวลาแลกของรางวัลในร้านค้า: 06/08/2021 09:00 ~ 20/08/2021 02:59 〓 เงื่อนไขการเข้าร่วม 〓 แรงก์ผจญภัย ≥ Lv.30 และทำเควสต์เทพเจ้า "แผนหลบหนีออกจากRitou" สำเร็จ เริ่มแรกให้ไปหานักล่าสมบัติ Ulman ก่อนเพื่อให้ได้รับ Treasure-Seeking Seelie มาร่วมเดินทางตามหาสมบัติในแต่ละชุด สำหรับวิธีการติดตั้ง กดเข้าหน้ากระเป๋า >> ไอเทมขนาดเล็ก >> กดติดตั้งน้อง เพียงเท่านี้ก็พร้อมจะตามล่าสมบัติกันแล้ว ในแต่ละจุดจะปรากฏให้เห็นบนหน้ากิจกรรมสมบัติที่สาบสูญ (Lost Riches) จะมีคพใบ้เป็นแผนที่ให้ว่าอยู่ในบริเวณไหน เมื่อไปถึงบริเวณดังกล่าวจะสามารถกดเพื่อเรียกน้อง Seelie ออกมาตามหาสมบัติในบริเวณพื้นที่ทั้งหมดได้ วิธีใช้งานตัวน้อง หากเดินไปทิศทางไหนแล้วแสงสีขาวตรงกลางตัวน้องค่อยๆ ขยายขึ้นมาจนมีแสงประกายแสดงว่าอยู่ใกล้บริเวณที่มีสมบัติ แต่ถ้าเดินแล้วแสงสีขาวค่อยๆ เล็กลง หรือดับไปแสดงว่าในจุดนั้นไม่มีสมบัติอยู่ ให้เดินย้อนกลับแล้วไปอีกทางแทน หากน้องเจอสมบัติแล้วจะรีบพุ่งไปยืนตรงจุดนั้นให้เพื่อนๆ กดขุดเพื่อเก็บเหรียญ Iron Coin (ใช้แลกของในร้านค้ากิจกรรม) จากนั้นน้องจะกลับมาอยู่ข้างตัวอีกครั้งเพื่อหาสมบัติในจุดต่อไป ในแผนที่บางจุดเพื่อนๆ อาจจะได้เจอด่านชาเลนจ์ให้กดท้าทายตามเวลาจำกัดด้วยหากกำจัดได้ก็จะได้รับของรางวัล ซึ่งชาเลนจ์นี้สามารถลงแบบ Co-op เพื่อให้เราหรือคนอื่นเข้าไปทำชาเลนจ์เก็บพร้อมกันได้ด้วย แต่จะลงเก็บได้สูงสุด 3 ครั้ง เท่านั้นนะ ขุนทรัพย์จุดแรก Araumi ในแต่ละพื้นที่จะได้รับชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์มาด้วยที่ละ 2 ชิ้น หลังเก็บครบ 4 จุดก็จะเผยภาพเต็มให้ว่าขุมทรัพย์นั่นอยู่ตรงไหนนั่นเอง เมื่อมาถึงในบริเวณแล้วให้กดใช้น้อง Seelie ตามหาให้เจอ พอกดสำรวจจะมีกลไกปรากฏขึ้นมา การดูคำใบ้: ให้ขึ้นไปเหยียบกระดานหินก่อนจากนั้นกดดูคำใบ้ ตรงรูปปักหมุดคือจุดแรกที่เพื่อนๆ อยู่ สีฟ้าคือจุดที่ต้องเดินให้ขึ้นเป็นสีฟ้าครบตามคำใบ้ (สามารถเดินทับช่องเดิมให้แสงฟ้าดับได้) เริ่มแรกหันให้ตรงกับคำใบ้ >> เดินขึ้น 2 ช่อง >> เดินซ้าย 1 ช่อง >> เดินลง 1 ช่อง >> เดินซ้าย 1 ช่อง >> เดินขวากลับมา 1 ช่อง (จะกลับมาตรงกลาง) >> เดินลง 1 ช่อง ขุนทรัพย์จุดสอง Fort Mumei เริ่มแรกหันจอให้ตัวละครอยู่ทางขวาล่างของแผ่นกระดานหิน >> เดินซ้าย 1 ช่อง >> เดินขึ้น 1 ช่อง >> เดินขวา 1 ช่อง >> เดินขึ้น 1 ช่อง >> เดินลง 2 ช่อง จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

Read more

Pokemon Unite Charizard เป็น Pokemon สาย All-Rounder โดดเด่นเรื่องการทำ Damage ใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง, มี Move สำหรับผลัก, ลด Movement Speed ของศัตรู เล่นสนุกและเป็นขวัญใจของเหล่าเทรนเนอร์ ยิ่งท้ายเกมจะยิ่งแสดงความเก่งให้เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น Pokemon Unite Charizard วิธีเล่น ในแพทซ์ 1.1.1.4 ที่ผ่านมา ได้มีการบัฟหลาย Move ของ Charizard ให้มี Cooldown ลดลง รวมถึงเพิ่มความแรงของสถานะไฟไหม้ด้วย ทำให้ Pokemon ตัวนี้ สามารถเล่นได้ง่ายขึ้นกว่าแพทก่อนหน้า (สมเป็นลูกรักจริงๆ) Flamethrower+Fire Blast = ดาเมจต่อเนื่องจากระยะไกล ความเก่งของ Charizard ที่ไม่เหมือน All-Rounder ตัวอื่นๆ คือมันสามารถทำ Damage กดดันอีกฝ่ายจากระยะไกลได้ หากได้ตอดเลือดซัก 1-2 ชุด อีกฝ่ายก็ยากจะยืนเลนสู้กับเราแล้ว หากไม่กลับบ้านเติมเลือด เราสามารถโถมใส่เพื่อปิดฉากได้เลย Fire Punch+Flare Blitz = สายโถม เน้นฆ่ารวดเร็ว ทั้งสองท่าเอาไว้พุ่งใส่อีกฝ่ายได้ เหมาะกับจังหวะมั่นใจว่าฆ่าไหว อาจอ้อมหลังศัตรูใช้ Fire Punch ผลักกลับมา แล้วค่อยใช้ Flare Blitz พุ่งไล่ โย่นมันขึ้นฟ้า จัดตำแหน่งไว้พ่นไฟใส่อีกครั้งจนกว่าจะตาย หากเทียบกับสายแรกแล้ว สายนี้ฆ่าไวกว่า แต่เสี่ยงชีวิตมากกว่า Held Item และ Battle Item Held Item ชิ้นแรกใช้เป็น Buddy Barrier เอาไว้เสริม Shield ให้ตัวเองและเพื่อนเวลากด Unite Move, Scope Lens ช่วยเพิ่มโอกาสติดคริและทำให้คริติคอลดาเมจแรงขึ้น อีกชิ้นเลือกเป็น Muscle Band ช่วยเสริม Damage และ Attack Speed Eject Botton แทบจะเป็น Battle Item บังคับ ช่วยให้ Charizard เอาชีวิตรอดต้นเกมได้ง่ายขึ้น ส่วนช่วงท้ายเกมก็ใช้พุ่งเข้าหาเพื่อฆ่าศัตรูได้เช่นกัน Pokemon Unite Charizard แปลสกิล Basic Attack(โจมตีปกติ) โจมตีระยะไกล (Range) ทำ Damage ต่อเนื่อง หาก Pokemon ศัตรูติดสถานะ Burn จะทำ Damage แรงขึ้น หลังจาก Evolves (พัฒนาร่าง) ระยะยิงจะไกลขึ้น Passive(สกิลติดตัว) Blaze - เมื่อ Charizard มี HP ต่ำกว่า 50% โอกาสโจมตี Critical เพิ่มขึ้น Level 1-3 Flame Burst (Ranged) - Cooldown 6 วินาที พ่นไฟไปข้างหน้า เมื่อโดน Pokemon ศัตรูจะทำ Damage เป็นวงกว้าง พร้อมทำให้ศัตรูติดสถานะ Burn และเพิ่ม Movement Speed ความเร็วเคลื่อนที่ของเราชั่วขณะหนึ่ง *Level 5 สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Flamethrower หรือ Fire Punch Fire Spin (Area) - Cooldown 10 วินาที Charizard สร้างวังวนไฟลงบนพื้นที่ที่เลือก หากโดน Pokemon ฝ่ายตรงข้าม จะทำดาเมจอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งลด Movement Speed ของศัตรู ชั่วขณะหนึ่ง *Level 7 สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Fire Blast หรือ Flare Blitz Level 5 (Evo ครั้งที่ 1) Flamethrower (Ranged) - Cooldown 5.5 วินาที Charizard พ่นไฟอย่างรุนแรง Pokemon ฝ่ายตรงข้ามที่โดน Move นี้จะโดน Damage พร้อมทั้งติดสถานะ Burn , เพิ่ม Movement Speed ความเร็วเคลื่อนที่ของเราชั่วขณะหนึ่ง *Level 11  สามารถอัพเกรดเป็น Flamethrower+ เพิ่ม Damage ของ Move นี้ รวมถึง Damage จากสถานะ Burn ด้วย Fire Punch (Dash) - Cooldown 6 วินาที พุ่งเข้าต่อยศัตรู ทำ Damage ผลักศัตรูออกไป พร้อมทั้งทำให้ Pokemon ศัตรูติดสถานะ Burn *Level 11  สามารถอัพเกรดเป็น Fire Punch+ ทุกการโจมตีปกติที่โจมตีโดน Pokemon ฝ่ายตรงข้าม จะลด Cooldown ของ Move นี้ลง Level 7 Fire Blast (Area) - Cooldown 8 วินาที Charizard พ่นไฟอย่างรุนแรงใส่พื้นที่เป้าหมาย ทำดาเมจใส่ Pokemon ฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง (Damage Over Time) ตราบเท่าที่ไฟยังเผาไหม้บริเวณนั้นอยู่ พร้อมทั้งลด Movement Speed ของ Pokemon ศัตรู ชั่วขณะหนึ่ง *Level 13 สามารถอัพเกรดเป็น Fire Blast+ เพิ่มดาเมจของ Move ให้แรงขึ้น...

Read more

Pokemon Unite Eldegoss เป็นโปเกมอนสาย Supporter ที่เลือกได้หลังผ่านโหมดฝึกสอนตอนต้นเกม แม้จะโดนปรับความสามารถลงในแพทซ์ 1.1.1.4 แต่ยังคงความเป็นตัวซัพระดับท๊อปเหมือนเดิม โดดเด่นในด้านการฟื้นฟู HP และ สร้างโล่ป้องกันดาเมจให้ทีม Pokemon Unite Eldegoss วิธีเล่น Support ทีมอย่างเต็มตัวเป็นบทบาทเหมาะกับ Eldegoss ที่สุด ตัวซัพพอร์ทต้องทำให้ทีมเดิมเกมง่าย ไม่ต้องกลับบ้านเติมเลือดบ่อย เซฟชีวิตเพื่อนตอนเข้าปะทะได้ ซึ่งในช่วงแพทก่อน Eldegoss ทำสิ่งเหล่านี้ได้ดีเกินไปหน่อยเลยโดนเนิฟความสามารถในการฟื้นฟู HP ให้เพื่อนในแพทถัดมา ช่วง Level 1-3 สามารถอัพ Leafage หรือ Systhesis ก่อนก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าอยากช่วยทำ Damage หรือ ฮีลเพื่อนมากกว่ากัน สำคัญตอน Level 4 ให้อัพ Pollen Puff เป็นหลัก สามารถใช้ทำดาเมจศัตรูตอนทีมไฟท์ หรือ เอามาฮีลเพื่อนตอนจบไฟท์ก็ได้ตามสถานการณ์ Level 6 นิยมอัพ Cotton Guard เอาไว้กางบาเรียช่วยดูดซับ Damage และฟื้นฟู HP ให้เพื่อน จังหวะไฟท์แม้เราจะไม่ได้สร้างความเสียหายด้วยตัวเองมากนัก แต่การที่เราเซฟชีวิตตัว Attacker ให้ยืนโจมตีได้นานๆ จะส่งผลต่อ Damage รวมที่ทีมเราได้ ช่วยให้ทีมเราชนะไฟท์มากขึ้น Eldegoss ฉีกสายไปเล่นอะไรแผลงๆ ไม่ได้มากเท่าไหร่ เพราะ Move ส่วนใหญ่เป็น Support ทีม เวลาลงแรงค์ลองฝึกเล่นตัวนี้เอาไว้บ้างก็น่าสนใจ เพราะตำแหน่งซัพคนไม่ค่อยเล่นกัน หากเราเล่นซัพเป็นแล้ว Attacker ไม่เล่นแย่เกินไป การซัพของเราจะมีผลต่อชัยชนะเพิ่มขึ้นเยอะเลย   Held Item และ Battle Item Held Item ชิ้นแรกแนะนำ EXP Share เวลาไปฟาร์มกับตัว Attacker เราจะได้ไม่แย่ง EXP เค้า ทำให้ตัว Attacker ของฝั่งเราเวลเร็วโตไว, Buddy Barrier เวลากดท่า Unite Move เราและเพื่อนร่วมทีมที่เลือดน้อยที่สุดจะได้รับโล่รับ Damage ตาม Max HP ของเรา ชิ้นสุดท้ายเลือกใช้เป็น Focus Band เพื่อเซฟชีวิตเรา จะได้ยืนในไฟท์คอยฮีลให้เพื่อนได้นานๆ สุดท้าย Battle Item อย่าง Eject Botton ยังคงน่าใช้แม้จะเป็น Support ก็ตาม หากใครอยากเล่นอะไรแผลงๆ Slow Smoke เอาไว้ป่วนอีกฝ่ายให้เดินช้าลง ก็น่าหามาลองใช้ดู Pokemon Unite Eldegoss แปลสกิล Basic Attack(โจมตีปกติ) โจมตีระยะไกล (Range) เมื่อโจมตีครั้งที่ 3 (Boost Attack) จะติดสถานะ Cotton Fluff ใส่ศัตรู หาก Eldegoss โจมตีใส่ศัตรูที่ติด Cotton Fluf จะทำ Damage เพิ่มขึ้นและลด Movement Speed ความเร็วเคลื่อนที่ของ Pokemon ศัตรูลงชั่วขณะหนึ่ง Passive(สกิลติดตัว) Cotton Down - เมื่อ Eldegoss ได้รับ Damage ถึงจุดหนึ่ง สกิลติดตัวนี้จะทำดาเมจและลด Movement Speed ของ Pokemon ศัตรูลงชั่วขณะหนึ่ง พร้อมทั้งฟื้นฟู HP และเพิ่ม Movement Speed ให้ Eldegoss ชั่วขณะหนึ่งด้วย  Level 1-3 Leafage (Ranged) - Cooldown 4.5 วินาที สาดใบไม้จำนวนมากใส่ Pokemon ฝ่ายตรงข้าม ลด Movement Speed ของ Pokemon ศัตรูที่โดนลงชั่วขณะหนึ่ง *Level 4 สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Pollen Puff หรือ Leaf Tornado Systhesis (Recovery) - Cooldown 8 วินาที ฟื้นฟู HP ของ Eldegoss และ Pokemon ของเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้เคียง *Level 6 สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Cotton Guard หรือ Cotton Spore  Level 4 (Evo เป็นร่าง 2) Pollen Puff (Ranged) - Cooldown 6 วินาที ปาละอองเรณู Pollen Puff ไปติดไว้กับ Pokemon ตัวอื่น หากใช้กับ Pokemon ทีมเดียวกันจะทำการฟื้นฟู HP หากใช้กับ Pokemon ทีมศัตรูจะเป็นการทำดาเมจ *Level 11 สามารถอัพเกรดเป็น Pollen Puff+ เมื่อใช้ใส่ Pokemon ศัตรูจะทำ Damage ต่อเนื่อง, เมื่อใช้ใส่ Pokemom ทีมเดียวกันจะช่วยลดดาเมจที่ได้รับลงด้วย Leaf Tornado (Ranged) - Cooldown 9 วินาที โจมตีศัตรูด้วยพายุใบไม้ที่แหลมคม Leaf Tornado จะสร้างเส้นทางพิเศษในจุดที่มันพัดผ่าน หาก Pokemon ทีมเดียวกันเดินในเส้นทางนี้ จะได้รับ Movement Speed เพิ่มชั่วขณะหนึ่ง *Level 11 สามารถอัพเกรดเป็น Leaf Tornado+ เมื่อใช้โดน Pokemon ศัตรู จะลด Accuracy (ความแม่นยำ) ลง ชั่วขณะหนึ่ง Level 6 Cotton Guard (ฺBuff)  -...

Read more

Pokemon Unite Snorlax เป็นโปเกมอนสาย Defender สามารถเลือกรับหลังจากผ่านโหมดฝึกสอนตอนต้นเกมได้ อึด ถึก ตายยาก ป่วนเกมได้ดี เล่นง่ายเหมาะกับผู้เล่นใหม่ ถ้ามีเพื่อนร่วมทีมเล่นตัว Damage เยอะแล้ว การเลือกรับ Snorlax มาแทงค์ให้เพื่อนคือดีมาก Pokemon Unite Snorlax วิธีเล่น บทบาทหลักของตัวนี้ที่คนนิยมเล่นกันคือแทงค์แบบเต็มตัว Level 1 แทบจะบังคับอัพ Tackle เลย เพราะมีประโยชน์มาก ทั้งจังหวะเข้าไปฆ่าศัตรู หรือ ป้องกันไม่ให้ศัตรูเข้าถึงตัวเพื่อน น้อยครั้งมากที่จะอัพ Rest ก่อน เว้นแต่ว่าจะเล่นแผนแปลกพิสดารจริงๆ เมื่อ Level 6 Move ที่นิยมอัพกันในช่วงนี้คือ Heavy Slam (อัพเกรดจาก Tackle) ใช้งานได้ดีในการหยุดศัตรูที่เดินกันมาเป็นกลุ่ม รวมถึงทำ Damage เป็น AOE ด้วย, Flail สามารถเล่นได้ ถ้าชอบโจมตีปกติแรงๆ อยู่ที่คนเล่นว่า ยอมเสีย Heavy Slam ซึ่งเป็น Move สำหรับหยุดศัตรูไปหรือเปล่า Block เป็น Move ที่ Snorlax ใช้บ่อยมากหลัง Level 8 กำแพงของท่านี้บังเส้นทางการเดินของศัตรูได้ดี ไม่ว่าจะบังไม่ให้บุกเข้าใส่แนวหลังของเรา หรือเอาไปยืนขวางศัตรูไม่ให้หนีก็ได้ทั้งนั้น มีบางเกมที่ Yawn ทำศัตรูหลับช่วยหยุดตัวโหดๆได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วการอัพ Block จะค่อนข้างคุ้มค่ากว่า Snorlax เป็น Pokemon ที่มีร่างเดียว เล่นง่าย การกะจังหวะกด Move เพื่อหยุดฝ่ายตรงข้าม, กางกำแพง Block ไม่ให้เดิน เป็นเรื่องของการฝึกฝนเพื่อหาจังหวะใช้ Move ให้คุ้มค่าที่สุด ในช่วงแรงค์ต้นๆ อาจยังไม่เห็นผลมากนัก แต่ในแรงค์สูงๆ การ Block ถูกจังหวะครั้งเดียวอาจเปลี่ยนกระแสเกม จนเราพลิกกลับมาชนะเลยก็ได้ Held Item และ Battle Item ความถึกคือสิ่งสำคัญของ Snorlax กำแพงที่ดีคือกำแพงที่ไม่ตาย Held Item ที่ควรถือจึงเน้นไปทางเพิ่มความถึกทน ให้ตายยากมากที่สุด เลือกใช้งานเป็น Buddy Barrier, Score Shield และ Focus Band Eject Button เป็น Battle Item ที่ควรรีบ Level 11 เพื่อหามาใช้งาน ใช้โดดเข้าหาศัตรูเพื่อไล่ตาม หรือ เอาไว้โดดหนีศัตรู ต่างก็ดีทั้งสองสถานการณ์เลย Pokemon Unite Snorlax แปลสกิล Basic Attack(โจมตีปกติ) โจมตีระยะใกล้(Melee) เมื่อโจมตีครั้งที่ 3 (Boost Attack)ทำ Damage เป็นวงกว้าง (AOE) พร้อมทั้งลด Movement Speed ของศัตรูที่โดนโจมตีทั้งหมด ชั่วขณะหนึ่ง Passive(สกิลติดตัว) Gluttony - เมื่อกิน Berry ได้รับเอฟเฟคของ Berry เพิ่มขึ้น Level 1-3 Tackle (Dash) - Cooldown 6 วินาที พุ่งไปด้านหน้า เมื่อพุงกระแทกโดนศัตรู จะทำ Damage พร้อมกับผลักศัตรูตัวแรกออก หลังกดใช้งานท่า Tackle การโจมตีปกติครั้งต่อไป จะเป็น Boost Attack ทันที *Level 6 สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Heavy Slam หรือ Flail Rest (Recovery) - Cooldown 10 วินาที เข้าสู่สภาวะ Sleep(หลับ) และ ฟื้นฟู HP ของตัวเอง Block เส้นทางที่นอนอยู่ ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่าน Snorlax ได้ระหว่างที่สกิลนี้แสดงผล *Level 8 สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Block หรือ Yawn Level 6 Heavy Slam(Dash) - Cooldown 7 วินาที กระโดด ทิ้งตัวลงพื้น ทำดาเมจศัตรูทั้งหมดในรัศมีสกิล (AOE) พร้อมทั้งกระแทกศัตรูขึ้นฟ้า *Level 12 สามารถอัพเกรดเป็น Heavy Slam+ เพื่อเพื่ม Damage Flail (Buff) - Cooldown 6.5 วินาที บัฟตัวเอง เพิ่ม Damage ของการโจมตีปกติตามค่า HP ยิ่ง HP น้อยเท่าไหร่ ยิ่งโจมตีปกติได้แรงเท่านั้น *Level 12 สามารถอัพเกรดเป็น Flail+ เพื่อเพื่ม Damage, หาก Snorlax เหลือ HP น้อยระหว่างใช้งาน Move นี้ จะฟื้นฟู HP ของตนเมื่อทำการโจมตีปกติใส่ศัตรู Level 8 Block (Hidrance) - Cooldown 11 วินาที กางแขนออก สร้างกำแพงป้องกันไม่ให้ Pokemon ฝ่ายตรงข้ามทะลุผ่านเข้ามาได้ และ ทำการผลักศัตรูออก เมื่อเดินเข้ามาชนกำแพงนี้ Level 14 สามารถอัพเกรดเป็น Block+ ลด Damage ที่ Snorlax ได้รับ ระหว่างที่ Move นี้แสดงผลลง Yawn (Hidrance) - Cooldown 12 วินาที Snorlax หาวใส่ศัตรู ทำให้ศัตรูติดสถานะ Sleep Level 14 สามารถอัพเกรดเป็น Yawn+...

Read more
Page 13 of 53 1 12 13 14 53