Console Guide

หนึ่งในของเล่นใหม่ประจำภาคของ Monster Hunter World : Iceborne นั้นก็คงไม่พ้นสิ่งที่เรียกว่า Clutch Claw หรือกรงเล็บเกาะมอนที่มาเพิ่มทั้งลีลาเร้าใจ และความสามารถในการต่อกรกับมอนสเตอร์ที่ดุร้ายขึ้นเป็นอย่างมากได้ ในบทความนี้ก็จะพูดถึงส่วนของ Tip ในการใช้เจ้า Clutch Claw กันซะหน่อยจ้า Clutch Claw คืออะไร ตัว Clutch Claw นั้นเป็นของเล่นใหม่ที่มาเสริมให้กับเหล่านักล่าได้มีอะไรมากกว่าวิ่งไล่ตีมอน(?) กันในภาค Iceborne นี้ ลักษณะของอุปกรณ์ชิ้นนี้จะเป็นการยิงตะขอไปเกาะกับมอนสเตอร์เอาไว้ เพื่อใช้ในการคอมโบต่อ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนทิศทางของมอนสเตอร์ หรือถีบส่งไปยังสิ่งกีดขวางให้ล้มหน้าหงาย รวมถึงการสร้างบาดแผลให้โจมตีจุดนั้นได้แรงขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยความอเนกประสงค์เกาะได้ดังใจนี้ ทำให้ตัว Clutch Claw เองก็ต้องมีจุดอ่อนอยู่เหมือนกัน นั่นคือการเกาะด้วยตะขออันนี้จะไม่เหมือนการขี่ เพื่อนๆ ยังโดนโจมตีจนปลิวและได้รับบาดเจ็บตามปกติ หากตำแหน่งที่เกาะนั้นเป็นส่วนที่มี hitbox การโจมตีรวมอยู่ (เช่น เกาะหน้าแล้วมอนสเตอร์ใช้ท่ากัด หรือเกาะหางแล้วมันใช้ท่าฟาดหาง) รวมไปถึงการโดนเสียงคำรามอัดหู การที่จะเสียค่า Stamina เรื่อยๆ ตอนเกาะ และถ้ามอนสเตอร์กำลังโกรธอยู่ (ไอคอนที่แผนที่เป็นรูปตาสีแดง) ก็จะไม่สามารถบังคับทิศทางหรือยัดกระสุนให้กระเด็นแบบที่ควรจะทำได้อีกด้วย แต่ด้วยความเกาะได้ดังใจ ก็ทำให้เพื่อนๆ สามารถพลิกแพลงการใช้งานได้หลากหลาย และเป็นส่วนหนึ่งที่นักล่าที่เชี่ยวชาญแล้วนิยมไม่น้อยเลยล่ะจ้า   วิธีการใช้ Clutch Claw ในด้านของการใช้งานนั้น จริงๆ ตัวเกมจะมีการสอนพื้นฐานการใช้งานอยู่แล้วผ่านทางเควส Low Rank 1 ดาว Learning the Clutch ซึ่งจะมีเป้าหมายในเควสให้เพื่อนๆ ทำตามพื้นฐานการใช้งานให้ได้ ซึ่งขอแนะนำให้เพื่อนๆ ลองเล่นเควสนี้และฝึกหัดการใช้ จะเข้าใจพื้นฐานการใช้งานได้ดีขึ้นมากเลยทีเดียว การใช้งานตัว Clutch Claw โดยรวมก็จะมีการใช้งานประมาณนี้จ้า ปุ่มที่กดจะแตกต่างกันไปตามการตั้งค่าของแต่ละคน ให้ดูที่ Option -> Keyboard Setting จ้า ระหว่างที่กำลังเล็ง Slinger อยู่ ให้กด Special Attack / Claw เพื่อยิงตะขอออกไป ถ้าชักอาวุธอยู่ ให้กด Toggle Slinger Aim จะทำให้เล็ง Slinger ได้โดยไม่เก็บอาวุธ จากนั้นให้กด Special Attack / Claw  เพื่อยิงตะขอออกไป บางอาวุธอาจจะมีท่าพิเศษที่ทำให้ใช้ Claw Shot หลังจากใช้ท่าบางท่าด้วย อย่างไรก็ดี ระหว่างเกาะอยู่ก็จะมีการเสียค่า Stamina ด้วย (ต่างจากการขึ้นขี่มอนสเตอร์ที่เราจะเสียแค่ตอนมอนสะบัดเรา) ซึ่งถ้าเพื่อนๆ โดนอัดให้ตกมาหรือหลุดแล้ว Stamina หมด งานนี้ลำบากแน่นอน นอกจากนี้แล้วการจะเกาะเพื่อนๆ ควรคิดล่วงหน้าก่อนว่าเราจะเกาะเพื่อทำอะไร เพราะเพื่อนๆ ไม่สามารถเกาะตอนไหนก็ได้กี่ครั้งก็ได้ มันมีช่วงจังหวะอะไรอยู่ ตอนไหนจะอัดเข้ากำแพง ตอนไหนจะสร้างบาดแผล การวางแผนไว้จะช่วยให้การล่าและการใช้ Clutch Claw มีประสิทธิภาพมากขึ้น   ► Clutch Claw - Weapon Attacks การโจมตีด้วยอาวุธระหว่างที่เกาะอยู่นั้นจะเกิดผลสองแบบ อาวุธเบา การโจมตีครั้งแรกจะทำให้มอนสเตอร์ตัวนั้นดรอปกระสุน Slinger ลงมา เมื่อโจมตีจุดเดิมซ้ำอีกครั้งจึงจะเกิดบาดแผล (Wound) อาวุธหนัก จะทำให้เกิดบาดแผลในทันทีที่โจมตีครั้งแรก อาวุธเบา (สองครั้งถึงเกิดแผล) อาวุธหนัก Long Sword Great Sword Sword and Shield Hammer Dual Blade Hunting Horn Gunlance Lance Insect Glaive Charge Blade Light Bowgun Switch Axe Bow Heavy Bowgun เมื่อเกิดรอยแผลจะแสดงเป็นริ้วสีขาวขึ้นที่ส่วนนั้นๆ บาดแผลสำคัญอย่างไร? การสร้างบาดแผลจะทำให้ชิ้นส่วนนั้นอ่อนนุ่มลง จากที่โจมตีไม่เข้าหรือเบา จะทำความเสียหายได้มากขึ้นเหมือนสร้างจุดอ่อนเพิ่มขึ้นมา จุดที่โดนแรงอยู่แล้วก็จะแรงขึ้นอีก นอกจากนี้จุดที่มีบาดแผล จะทำให้สกิล Weakness Exploit แสดงผลเต็มจำนวน (เช่น Lv 3 จาก 30% -> 50% เท่ากันโดนปรับ nerf) บาดแผลนั้นจะอยู่ติดตัวมอนสเตอร์ไปซักพักก่อนจะหายไป อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ สามารถสร้างบาดแผลกี่ครั้งก็ได้ และในกรณีของอาวุธเบา ตัวเกมจะสะสมจำนวนครั้งที่ของการสร้างแผลไว้ไม่มีการลดลงเหมือนสถานะผิดปกติ ทำให้สามารถเก็บแต้มไว้ล่วงหน้า รอจังหวะเหมาะสมเพื่อสร้างบาดแผลทีหลังได้ TIP : ในส่วนของอาวุธเบา เพื่อนๆ สามารถใช้ Claw Attack ข่วนให้ครบสามครั้งและค่อยใช้ Weapon Attack เพื่อทำให้เกิดแผลในการเกาะหัวครั้งเดียวได้จ้า ทางซ้ายตัวเลขเมื่อโจมตีส่วนที่ไม่มีบาดแผล ทางขวาเมื่อโจมตีโดนบาดแผล เพื่อนๆ สามารถสังเกตุได้ว่าส่วนนั้นเกิดบาดแผลแล้วจากร่องรอยที่ตัวมอนสเตอร์ส่วนนั้นๆ ที่เป็นริ้วรอยสีขาว และตัวเลขเมื่อโจมตีไปยังส่วนนั้นจะมีขีดสี่มุมขึ้นมาให้ทราบ   ► Clutch Claw - Claw Attacks การโจมตีด้วยกรงเล็บนั้นมีประโยชน์ที่สุดในการบังคับทิศทางของมอนสเตอร์ ซึ่งจะทำได้เมื่อเกาะส่วนหัวของมอนสเตอร์อยู่เท่านั้น โดยมันจะเปลี่ยนทิศไปยังทิศตรงข้ามที่เพื่อนๆ เกาะไว้ เช่นเกาะที่หัวทางซ้าย การข่วนจะทำให้มอนสเตอร์สะบัดหน้าไปทางขวาและหันตัวไปทางนั้น 90 องศา การเกาะที่ส่วนอื่นและใช้ Claw Attack จะเป็นการเอากรงเล็บทิ่มเบาๆ เท่านั้น การใช้งาน Claw Attack จริงๆ จะอยู่ที่การเปลี่ยนทิศให้ไปยังจุดที่ต้องการ เช่นกับดัก หรือเอาไว้คอมโบกับ Flinch Shot นั่นเอง (ไม่มีผลตอนที่มอนสเตอร์โกรธอยู่)   เหลือง = ยังไม่โกรธ | แดง = เค้าโกรธแล้วนะ!!! ► Clutch Claw - Flinch Shot การใช้ Flinch Shot นั้นเป็นการโจมตีอย่างรุนแรง จะใช้ได้ต่อเมื่อมีกระสุนสลิงเกอร์ชนิดที่ทำความเสียหายติดตัวอยู่เท่านั้น ถ้าเราเกาะส่วนหัวของมอนสเตอร์อยู่ ท่านี้จะส่งผลพิเศษโดยบังคับให้มอนสเตอร์ถูกแรงอัดกระเด็นไปยังทิศที่มันหันไปอยู่ ซึ่งถ้ามันกระเด็นไปจูบผนัง ต้นไม้ หรืออะไรก็ได้ที่เป็นสิ่งกีดขวาง จะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงมาก และล้มลงในทันที ในกรณีมอนสเตอร์ที่ไม่ใช่ Elder Dragon ที่กำลังบินอยู่ เมื่อโดน Flinch Shot จะร่วงแอ๊กลงมาให้เพื่อนๆ รุมยำโดยละม่อม (ไม่มีผลตอนที่มอนสเตอร์โกรธอยู่) *กระสุนอย่าง Flash, Dung, Throwing Knives ไม่สามารถใช้กับ Flinch...

พูดถึง Eevee หรืออีวี่ใน Pokemon แล้วนั้นก็ไม่พ้นน้องหมาขนฟูตัวน้อยที่พัฒนาร่างไปตามธาตุต่างๆ ได้สุดๆ ซึ่งใน Pokemon Sword / Shield นั้นจะมีวิธีการพัฒนาร่างอย่างไรบ้างก็มีคำตอบมาให้เพื่อนๆ กันตรงนี้แล้วจ้า การพัฒนาร่างต่างๆ ทั้ง 8 ของน้องอีวี่ ก่อนอื่นขอแจ้งให้ทราบก่อนว่า อีวี่ที่เพื่อนๆ คนไหนได้รับมาจากเซฟไฟล์ของ Pokemon Let's Go Eevee นั้นจะเป็นอีวี่พิเศษที่มีร่าง Gigantamax ซึ่งไม่สามารถพัฒนาร่างได้จ้า (แต่ดูขนฟูๆ นั่นซิ!!!) -ภาพอีวุยกีกันติก- รูป ร่าง ธาตุ วิธีพัฒนา Sylveon Fairy สะสมค่า Friendship ของอีวี่ให้ได้ 3 ดาว (ถ้าไปเช็คที่ Hammerlocke เขาจะบอกว่า You two get along great! Together is always better--am I right?) ให้อีวี่เรียนรู้ท่าที่เป็นสาย Fairy Espeon Psychic สะสมค่า Friendship ของอีวี่ให้ได้ 3 ดาว (ถ้าไปเช็คที่ Hammerlocke เขาจะบอกว่า You two get along great! Together is always better--am I right?) ทำให้เลเวลอัพตอนช่วงเวลากลางวัน ห้ามให้อีวี่รู้จักท่าที่เป็นสาย Fairy ไม่งั้นจะกลายเป็น Sylveon แทน Umbreon Dark สะสมค่า Friendship ของอีวี่ให้ได้ 3 ดาว (ถ้าไปเช็คที่ Hammerlocke เขาจะบอกว่า You two get along great! Together is always better--am I right?) ทำให้เลเวลอัพตอนช่วงเวลากลางคืน ห้ามให้อีวี่รู้จักท่าที่เป็นสาย Fairy ไม่งั้นจะกลายเป็น Sylveon แทน Flareon Fire เอา Fire Stone ให้เป็นอันจบงาน* Vaporeon Water เอา Water Stone ให้เป็นอันจบงาน* Jolteon Thunder เอา Thunder Stone ให้เป็นอันจบงาน* Leafeon Grass เอา Leaf Stone ให้เป็นอันจบงาน* Glaceon Ice เอา Ice Stone ให้เป็นอันจบงาน*   เพื่อนๆ สามารถย่องกระดุ๊บแถวทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Wild Area บริเวณเนินเขาที่ Lake of Outrage จะมีวงหินอยู่ ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดที่เพื่อนๆ จะได้เจอเหล่าอีวี่ที่พัฒนาร่างแล้วตามแต่สภาพอากาศช่วงนั้น นอกจากนี้ในพื้นที่นี้เพื่อนๆ จะหาหินสำหรับอีโวร่างที่ต้องใช้หินได้จากที่นี่อีกด้วย หรือได้รับเป็นรางวัลจาก Digging Duo ก็ได้ ตัวอีวี่ร่างปกตินั้นจะพบเจอได้เป็นระยะๆ และจะพบเจอได้บ่อยบริเวณ Route 4 จ้า เรียกได้ว่าในภาคนี้การพัฒนาร่างของน้องอีวี่ก็ง่ายขึ้นเยอะมากเลยทีเดียว

ในเกม Pokemon  นั้นจะมีแต่เพียงแค่โปเกม่อนก็คงไม่ใช่ เพราะยังไงซะตัวเกมก็มีเรื่องของความเป็น RPG อยู่ด้วย และสิ่งที่ RPG จะขาดไม่ได้ก็คงไม่พ้นไอเทมนั่นเอง ซึ่งในโปเกม่อนเองก็มีมากมาย ก็จะขอหยิบยกมาให้เพื่อนๆ ดูกันว่าไอเทมไหนเป็นอะไรบ้างโดยแยกหมวดไว้ให้จ้า Battle Item Ability Urge เมื่อกดใช้งานจะทำให้ Ability ของโปเกม่อนเพื่อนข้างๆ แสดงผลออกมาด้วย Adamant Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Adamant nature Bold Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Bold nature Brave Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Brave nature Calm Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Calm nature Careful Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Careful nature Dire Hit เพิ่มค่าคริติคอลของโปเกม่อนในการต่อสู้พอประมาณ Dire Hit 2 เพิ่มค่าคริติคอลของโปเกม่อนในการต่อสู้ Dire Hit 3 เพิ่มค่าคริติคอลของโปเกม่อนในการต่อสู้เป็นอย่างมาก Gentle Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Gentle nature Guard Spec. ป้องกันค่าสเตตัสลดลงเป็นเวลา 5 เทิร์น Hasty Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Hasty nature Impish Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Impish nature Item Drop เมื่อใช้งานจะทำให้โปเกม่อนเพื่อนข้างๆ ทิ้งไอเทมที่ถืออยู่ Item Urge เมื่อใช้งานจะทำให้โปเกม่อนเพื่อนข้างๆ ใช้ไอเทมที่ถืออยู่ Jolly Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Jolly nature Lax Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Lax nature Lonely Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Lonely nature Mild Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Mild nature Modest Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Modest nature Naive Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Naive nature Naughty Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Naughty nature Quiet Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Quiet nature Rash Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Rash nature Relaxed Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Relaxed nature Reset Urge เมื่อใช้งานจะทำให้ผลการเปลี่ยนแปลงค่าสเตตัสของโปเกม่อนเพื่อนข้างๆ หายไป Roto Bargain ลดราคาของใน Poké Marts ลงครึ่งหนึ่ง Roto Boost เพิ่มค่าสเตตัสทุกค่าของโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่ Roto Catch เพิ่มโอกาสจับโปเกม่อนได้เป็นอย่างมาก Roto Encounter เพิ่มโอกาสเจอโปเกม่อนเลเวลสูงๆ ขึ้นเป็นอย่างมากชั่วขณะ Roto Exp. Points เพิ่มค่าประสบการณ์ที่ได้จากการต่อสู้เล็กน้อย Roto Friendship ทำให้โปเกม่อนในปาร์ตี้มีค่าความสนิทสนมเพิ่มขึ้นไวขึ้น Roto Hatch ทำให้ฟักไข่ได้เร็วขึ้น Roto HP Restore เพิ่มค่า HP ของโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่จนเต็ม Roto PP Restore เพิ่มค่า PP ของโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่จนเต็ม Roto Prize Money ได้รับเงินตอนจบการต่อสู้เป็นสามเท่า Roto Stealth ทำให้ไม่เจอโปเกม่อนป่าชั่วคราว Sassy Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Sassy nature Serious Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ neutral nature Timid Mint เปลี่ยนค่าสเตตัสของโปเกม่อนให้ตรงกับ Timid nature X Accuracy เพิ่มค่า Accuracy ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่ X Accuracy 2 เพิ่มค่า Accuracy ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่จำนวนมาก X Accuracy 3 เพิ่มค่า Accuracy ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่มากกว่าเดิม X Accuracy 6 เพิ่มค่า Accuracy ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่มหาศาล X Attack เพิ่มค่า Attack ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่ X Attack 2 เพิ่มค่า Attack ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่จำนวนมาก X Attack 3 เพิ่มค่า Attack ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่มากกว่าเดิม X Attack 6 เพิ่มค่า Attack ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่มหาศาล X Defense เพิ่มค่า Defense ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่ X Defense 2 เพิ่มค่า Defense ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่จำนวนมาก X Defense 3 เพิ่มค่า Defense ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่มากกว่าเดิม X Defense 6 เพิ่มค่า Defense ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่มหาศาล X Sp. Atk เพิ่มค่า Special Attack ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่ X Sp. Atk 2 เพิ่มค่า Special Attack ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่จำนวนมาก X Sp. Atk 3 เพิ่มค่า Special Attack ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่มากกว่าเดิม X Sp. Atk 6 เพิ่มค่า Special Attack ให้กับโปเกม่อนที่ใช้ต่อสู้อยู่มหาศาล X Sp....

สำหรับ Pokemon แล้วนั้น ท่าต่างๆ ก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นของโปเกม่อนแต่ละตัวเลยทีเดียว ซึ่งใน Pokemon Sword / Pokemon Shield นั้นก็มีโปเกม่อนและท่าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมารวมกับท่าเก่าๆ ที่คุ้นเคย ในบทความนี้เราจะมาแปลท่าต่างๆ ในแต่ละธาตุ/ชนิดกัน กำลังปรับปรุงเนื้อหา ให้ครบถ้วนหากพบจุดผิดพลาดสามารถแจ้งได้ภายในเพจครับ สาย Normal ชื่อท่า หมวด Power ความแม่น PP ผลของท่า โอกาสติด Acupressure — — 30 เพิ่มค่าสเตตัสแบบสุ่ม 1 อย่าง 2 ระดับ — After You — — 15 ทำให้เป้าหมายใช้ท่าต่อหลังจากที่โดนสกิลนี้เข้าไป (สามารถเลือกเป้าหมายได้) — Assist — — 20 ทำให้ใช้ท่าที่โปเกม่อนร่วมทีมรู้อยู่ได้แบบสุ่ม — Attract — 100 15 ถ้าคู่ต่อสู้เป็นเพศตรงข้าม จะมีโอกาสถูกโจมตีน้อยลง — Barrage 15 85 20 โจมตี 2-5 ครั้ง — Baton Pass — — 40 สลับผู้ใช้ออกและเพิ่มค่าสเตตัสให้กับโปเกม่อนที่สลับเข้ามา — Belly Drum — — 10 เสีย HP 50% ของค่าสูงสุด แต่เพิ่ม Attack อีก 6 ระดับ — Bestow — — 15 เอาไอเทมที่ถืออยู่ให้กับเป้าหมาย — Bide — — 10 ได้รับความเสียหาย 2 เทิร์น ก่อนจะโจมตีออกไปเป็นสองเท่า — Bind 15 85 20 ล๊อคคู่ต่อสู้ไว้ ทำความเสียหายเป็นเวลา 4-5 เทิร์น — Block — — 5 คู่ต่อสู้จะไม่สามารถสลับตัวออกหรือหนีได้ — Body Slam 85 100 15 มีโอกาส paralyze เป้าหมาย 30 Boomburst 140 100 10 การโจมตีจะโดนโปเกม่อนที่อยู่ข้างๆ ด้วย — Breakneck Blitz — — — 1 Z-Move ชนิด Normal Camouflage — — 20 เปลี่ยนชนิดของผู้ใช้ไปตามพื้นที่นั้นๆ — Captivate — 100 20 ลดค่า Special Attack ของคู่ต่อสู้ลงอย่างมากถ้าเป็นเพศตรงข้าม — Celebrate — — 40 ผู้ใช้จะร่วมยินดีและฉลองให้กับโอกาศพิเศษ แต่ไม่มีผลอะไรมากกว่านั้น — Chip Away 70 100 20 ทำให้การเพิ่มสเตตัสของคู่ต่อสู้ไร้ผล — Comet Punch 18 85 15 โจมตี 2-5 ครั้ง — Confide — — 20 ลดค่า Special Attack ของคู่ต่อสู้ลง — Constrict 10 100 35 มีโอกาสลด Speed ของคู่ต่อสู้ลง 1 ระดับ 10 Conversion — — 30 เปลี่ยนชนิดของผู้ใช้ให้เป็นแบบเดียวกับท่าที่ใช้ครั้งแรกสุด — Conversion 2 — — 30 เปลี่ยนชนิดของผู้ใช้ให้เป็นชนิดที่ทนต่อท่าของคู่ต่อสู้ที่ใช้มาล่าสุด — Copycat — — 20 ก๊อปปี้ท่าของคู่ต่อสู้ที่ใช้ไปล่าสุด — Court Change — 100 10 สลับผลของสภาพสนามของทั้งสองฝั่ง Covet 60 100 25 ขโมยไอเทมของคู่ต่อสู้มาให้กับผู้ใช้ — Crush Claw 75 95 10 มีโอกาสลดค่า Defense ของเป้าหมาย 50 Crush Grip — 100 5 พลังของท่าเพิ่มขึ้นตามค่า HP ของคู่ต่อสู้ — Cut 50 95 30 — Defense Curl — — 40 เพิ่มค่า Defense 1 ระดับ — Disable — 100 20 ทำให้เป้าหมายใช้ท่าที่ใช้ล่าสุดไปไม่ได้ชั่วขณะ — Dizzy Punch 70 100 10 มีโอกาสทำให้เป้าหมายติดสถานะ confuse 20 Double Hit 35 90 10 โจมตี 2 ครั้งในเทิร์นเดียว — Double Slap 15 85 10 โจมตี 2-5 ครั้ง — Double Team — —...

บทความนี้ทั้งหมดเขียนโดยคุณ : Kasidej Kittichaovanun Excadrill หรือ “โดริวซ์” โปเกม่อนใต้พิภพ ที่ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเริ่มรู้จักมันมากขึ้น ด้วยบทบาทในการต่อสู้ที่โดดเด่นในระบบจัดอันดับออนไลน์ กับการแข่งขันต่าง ๆ ในช่วงแรกของเกม Pokemon Sword and Shield เพราะมันมีพลังในการโจมตีที่รุนแรง ความสามารถดี ท่าโจมตีที่ครบเครื่องอีกทั้งยังสามารถเสริมพลังป้องกันของตัวเองและทีมเมื่อทำการ Dynamax จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโปเกม่อนตัวนี้จะกลับมาโดดเด่นและเป็นพระเอกในการต่อสู้ของเหล่าโปเกม่อนในช่วงปลายปีนี้ ไปจนถึงต้นปีหน้าอย่างแน่นอน เกร็ดความรู้เล็กน้อย Excadrill สามารถเหยียดตัวออกเป็นแนวตรง และใช้ใบมีดที่หัวและมือของมันเป็นเหมือนสว่านที่เจาะลงไปในชั้นหินใต้ดินได้ ปกติพวกมันจะสร้างรังเป็นอุโมงค์ที่ซับซ้อนลึกลงไปประมาณ 100 เมตรใต้ผิวดิน และมักถูกชาวเหมืองหรือเหล่าคนงานใช้เพื่อช่วยเหลือในเรื่องการขุดเจาะ ความสามารถของ Excadrill มีประโยชน์อย่างมาก แต่บางครั้งอุโมงค์ที่พวกมันขุดไว้ใต้ดินอาจก่อนให้เกิดแผ่นดินทรุดหรือดินถล่มได้เช่นกัน ข้อมูล Madibuzz Type Ground/Steel   Ability Sand Rush  ความเร็วเพิ่มเป็น 2 เท่าเมื่ออยู่ในสภาพอากาศพายุทรายความสามารถที่โดดเด่นที่สุดของ Excadrill ทำให้มันกลายเป็นสว่านที่เจาะทะลวงทีมอีกฝั่งได้อย่างโหดเหี้ยมเพราะความเร็วที่เสริมเข้ามา ทำให้มันเร็วกกว่าโปเกม่อนแทบทุกตัวในการต่อสู้ และได้ใช้การโจมตีที่หนักหน่วงจัดการอีกฝ่ายไปก่อน สำหรับเงื่อนไขที่จำเป็นต้องอยู่ในสภาพอากาศพายุทราย ก็สามารถให้เพื่อนร่วมทีมสร้างให้ได้ และด้วยการ Dynamax ทำให้มันก็สามารถสร้างสภาพอากาศนี้ได้เองด้วย Sand Force  พลังโจมตีของท่าโจมตีประเภท หิน ดิน และเหล็กเพิ่มขึ้น 33% เมื่ออยู่ในสภาพอากาศพายุทรายเนื่องจากเป็นโปเกม่อนที่มีพลังโจมตีรุนแรงมากอยู่แล้ว และไม่ได้อึดพอที่จะรับความเสียหายจำนวนมากหากโจมตีทีหลัง ทำให้ความสามารถนี้คุ้มค่าน้อยกว่าความสามารถ Sand Rush อย่างเห็นได้ชัด Mold Breaker (HA) ท่าโจมตีของโปเกม่อนนี้จะแสดงผลโดยไม่คำนึงถึงความสามารถของโปเกม่อนที่ได้รับท่าโจมตี อีกหนึ่งความสามารถที่เริ่มนิยม เพราะทำให้สามารถโจมตีและ OHKO โปเกม่อนอย่าง Rotom หรือ Mimikyu ที่ค่อนข้างนิยมในการแข่งขัน และมักจะถูกส่งมาเพื่อรับมือกับ Excadrill เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะคาดคะเนว่าความสามารถส่วนใหญ่ที่ Excadrill นิยมใช้ในตอนนี้เป็นความสามารถ Sand Rush การพัฒนาร่าง Drilbur > Excadrill (เลเวล 31) แนวทางการเล่น Single สำหรับการต่อสู้แบบเดี่ยวเจ้าตุ่นตัวนี้ของเราจะมีหน้าที่เป็นตัวโจมตีที่รุนแรง พยายามสร้างความเสียหาย กดดัน และจัดการโปเกม่อนของฝ่ายตรงข้ามให้ได้มากที่สุดด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นในพายุทรายที่เพื่อนร่วมทีมตัวอื่น หรือตัวมันเองสร้างขึ้น ดังนั้นก็ควรจะเน้นค่าพลังไปที่พลังโจมตีและความเร็วให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ท่าโจมตีทั้ง 4 ท่าของมันก็เน้นไปที่การโจมตีให้รุนแรงไว้ก่อน 2 ท่าแรก Earthquake และ Iron Head เป็นท่า STAB ที่รุนแรงที่สุด 2 ท่าที่มันสามารถเรียนได้ เมื่อ Dynamax จะสามารถทำให้ใช้ท่า Max Quake และ Max Steelspike ซึ่งมีผลเพิ่มพลังป้องกันหรือพลังป้องพิเศษของตัวมันเองเสริมความอึดขึ้นด้วย ท่าที่ 3 ที่ผมเลือกหรือ Swords Dance เป็นท่าที่เพิ่มค่าพลังโจมตีขึ้น 2 ระดับ (2 เท่า) จะคุ้มค่ามากเมื่อใช้ในจังหวะที่อีกฝ่ายเลือกจะเปลี่ยนตัว หรือใช้ท่า Protect เพื่อถ่วงเวลาของพายุทราย พลังโจมตีที่เพิ่มมานี้สามารถทำให้การโจมตีของมัน OHKO โปเกม่อนแทบทุกตัวที่อีกฝ่ายส่งออกมาได้ง่าย ๆ ส่วนท่าสุดท้ายก็สามารถนำไปปรับใช้ได้แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน Rock Slide ช่วยในการโจมตีใส่โปเกม่อนประเภทบิน และยังสามารถเปลี่ยนเป็น Max Rockfall เพื่อสร้างพายุทรายด้วยตัวเอง Rapid Spin ใช้ในการกำจัดกับดักเวลาเปลี่ยนตัวหรือ Leech Seed ที่อีกฝ่ายใช้ใส่เรา และยังเพิ่มความเร็วขึ้น 1 ระดับ (1.5 เท่า) ส่วนท่า Brick Break สำหรับกรณีที่เราเจอทีมที่ใช้ท่าป้องกันประเภท Reflect หรือ Light Screen บ่อย ๆ ครับ ในเรื่องของไอเทมที่นิยมกันก็จะเป็น Life Orb ที่เพิ่มพลังของท่าโจมตีขึ้นอีก 30% แต่ทุกครั้งที่โจมตีผู้ใช้ก็จะเสียเลือดประมาณ 10% ของตนเอง ซึ่งเหมาะมากสำหรับมัน เพราะพลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นมาอาจจะทำให้มันสามารถ OHKO อีกฝ่ายได้ง่าย ๆ จนไม่โดนโจมตีกลับเลยแม้แต่ครั้งเดียว เลือดที่ลดไปอาจจะแทบไม่มีผลการต่อสู้นั้นเลยก็ได้ ส่วนอีก 2 ชิ้นที่น่าสนใจได้แก่ Air Balloon เพื่อป้องกันการโจมตีธาตุดินที่โปเกม่อนหลายตัวใช้ได้และ Excadrill แพ้ทาง หรือ Focus Sash เพื่อป้องกันการโดน OHKO เสียเองก่อนจะได้ใช้ท่าโจมตีใส่ศัตรู Double Battle เลือกอะไรดี Adamant หรือ Jolly? สำหรับตัวโจมตีกายภาพอย่าง Excadrill นิสัยหลัก ๆ ที่นิยมใช้กันก็หนีไม่พ้น Adamant (+Attack, - Sp. Attack) หรือ Jolly (+Speed, -Sp. Attack) แต่อันไหนมีข้อดีกว่าอีกอันอย่างไรและควรจะเลือกใช้อะไร ผมจะเปรียบเทียบไว้ให้สำหรับสถานการณ์ที่อาจจะเจอบ่อย แล้วเพื่อน ๆ ก็ลองเลือกใช้กันเองตามชอบเลยนะครับ Adamant OHKO โปเกม่อนประเภทแฟรี่ที่เน้นการโจมตีทุกตัวที่ยังไม่ได้ Dynamax ได้ด้วย Iron Head OHKO Excadrill ด้วยกันเองที่ Dynamax แล้วด้วย Max Quake ได้แน่นอน มีโอกาส OHKO Arcanine ส่วนใหญ่ได้ด้วย Max Quake แม้จะโดนลดพลังโจมตีด้วยความสามารถ Intimidate ไปแล้ว เปิดโอกาสให้ถือไอเทมได้หลากหลาย ไม่จำเป็นต้องใช้ Life Orb เพื่อเพิ่มพลังโจมตี ถ้าถือ Life Orb จะสามารถ OHKO Dragapult ได้ด้วย Max Quake หรือ Max Steelspike ได้ Jolly เร็วกว่า Dragapult ที่ถือ Choice Scarf ในพายุทราย เร็วกว่า Braviary โดยส่วนใหญ่ที่ไม่ถือ Choice Scarf เร็วกว่า Rotom โดยส่วนใหญ่ที่ไม่ถือ Choice Scarf (ถ้าเราถือ Choice Scarf ก็จะเร็วกว่า Rotom ทุกแบบ) เหมาะมากสำหรับการใช้คู่กับความสามารถ Mold Breaker เร็วกว่า Excadrill ที่มีนิสัย...

บทความนี้ทั้งหมดเขียนโดยคุณ Maletix Mandibuzz ด้วยค่าพลังพื้นฐาน Hp 110 / Atk 65 / Def 105 / SpA 55 / SpD 95 / Spe 80 จะเห็นได้ว่า ค่าพลังเลือดและพลังป้องกันทั้ง 2 ค่อนข้างสูง ความเร็วอยู่ในระดับปานกลางค่อนไปทางสูง ค่าพลังโจมตีต่ำ ดังนั้นใน Format Single เหมาะจะ Build ในรูปแบบของการยื้อด้วย Roost และใช้ Toxic ในการกดดันฝ่ายตรงข้าม ส่วนใน Format Double ผมจะแนะนำ Build ในแนวทางสาย Support มีหน้าที่หลักคือการ ก่อกวนด้วย Taunt/Knock off/Snarl และ Support ทีมด้วยการเปิด Tailwind เพื่อเพิ่มความเร็วให้กับเพื่อนในทีม หรือแม้กระทั่งทำดาเมจได้ด้วย Foul Play ดังนั้นต้อง Build ให้มีความถึกและไม่โดน KO ง่ายๆ ด้วยความสามารถ Overcoat ที่ทำให้ไม่ได้รับความเสียหายจากสภาพอากาศ และไม่โดนผลของท่าผง (Powder) ทำให้เป็นตัวที่ยืนอยู่ในสนามได้อย่างไม่สะทกสะท้าน หรือจะเล่นความสามารถ Big Pecks เพื่อป้องกันการลดค่าพลังป้องกันกายภาพ ทำให้ยืนถึกทนทานได้อีกเช่นกัน สำหรับ Hidden Ability อย่าง Weak Armor ที่จะลดพลังป้องกันตัวเอง 1 ระดับและเพิ่มความเร็ว 2 ระดับนั้น กลับไม่ค่อยเป็นที่นิยมเนื่องจาก Madibuzz ต้องการความสามารถด้านป้องกันเพื่อยืนอยู่ในสนามให้นานที่สุด ข้อเสีย การแพ้ทาง ธาตุ หิน ไฟฟ้า และ แฟรี่ จากตัวยอดนิยมอย่าง Tyranitar Rotom และ Sylveon ค่อนข้างจะเป็นปัญหาพอสมควร เราสามารถลง EV หรือถือ Berry กันธาตุ ทำให้ Mandibuzz สามารถทนการโจมตีทีเดียวตายได้ พร้อมกับเปิด Tailwind สวนไป ทำให้การคุมเกมกลับมาอยู่กับเราได้ ข้อมูล Madibuzz Type Dark/Flying Ability Overcoat ไม่ได้รับผลจากสภาพอากาศพายุทราย(Sand Stream)และลูกเห็บ(Hail) และไม่โดนผลจากท่าไม้ตายประเภทผง (Powder) Big Pecks ไม่ได้รับผลของการลดพลังป้องกันกายภาพDef Weak Armor (Hidden Ability) ลดพลังป้องกัน 1 ระดับและเพิ่มความเร็ว 2 ระดับ เมื่อโดนโจมตีแบบสัมผัสตัว การพัฒนาร่าง Vullaby > Mandibuzz (เลเวล 54) Base Status Status Base Stats HP 110 Attack 65 Defense 105 Sp.Attack 55 Sp.Defense 95 Speed 80 สกิลที่ Overcoat สามารถกันได้ Sleep Powder ทำให้โปเกมอนติดสถานะ หลับใหล Poison Powder ทำให้โปเกมอนติดสถานะ พิษ Stun Spore ทำให้โปเกมอนติดสถานะ ชา Spore ทำให้โปเกมอนติดสถานะ หลับใหล Cotton Spore ลดความเร็วของเป้าหมาย 2 ระดับ Rage Powder เปลี่ยนเป้าหมายของมาที่ตัวเอง Single : Toxic + Roost การเล่นสายนี้จะเน้นไปที่การกดดันตัวแทงค์ของฝั่งตรงข้ามด้วย Toxic และยื้อด้วย Roost เป็นหลัก อาจจะทำดาเมจได้เองด้วย Foul Play ได้ หรือ Knock Off เพื่อตัด Item ฝั่งตรงข้าม ส่วนท่า Taunt ใส่มาเพื่อกันเวลาอีกฝั่งจะใช้ท่าพวกวางกับดัก หรือแม้กระทั่งอีกฝั่งวางกับดักแล้ว เรายังสามารถใช้ Defog ในการยกเลิกกับดัก รวมทั้งผลของ Terrains และท่าจำพวกบาเรียอย่าง Reflect ได้ ความยากของการเล่นสายนี้คือสกิล Roost ไม่สามารถเรียนได้จากการอัพเลเวลหรือ TM/TR ต้องหามาใช้ผ่าน Egg Move เท่านั้น แนวทางการเล่น Utility Support  สำหรับสายที่นิยมคือ Utility Support จะเป็นสายที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากยืดหยุ่นปรับเข้ากับทีมและสถาณการณ์ได้ดี สิ่งที่สำคัญคือการ Speed Control เกมให้กับทีมด้วย Tailwind ดังนั้นต้องกะจังหวะใช้ให้ดี ซึ่งการ Counter Tailwind ที่ดีมากๆคือการเปิด Trickroom ซึ่ง Mandibuzz จะมีท่า Taunt เพื่อกัน Trickroom จากอีกฝ่ายได้ และสามารถทำความเสียหายได้ด้วยท่า Foul Play อีกทั้งยังสามารถยื้อเกมได้ด้วย Roost ในการฟื้นเลือดตัวเอง 50% TIP กรณีถือ Wacan Berry ทำให้เราไม่โดนท่าไม้ตายธาตุไฟฟ้าแบบ OHKO  นั้น ทำให้เราลง EVs : 252 HP / 204 Def เพื่อสามารถรับการโจมตีจาก Tyranitar Adamant ที่เป็น Meta แล้วยังรอดอยู่ได้ Ex. 252Atk Tyranitar ใช้สกิล Max Rockfall (130 BP) vs. 252 HP / 204+ Def Mandibuzz: 182-216 (83.8 - 99.5%)  Mandibuzz สามารถทนได้ 2 ครั้ง...

Shiftry บทความนี้ทั้งหมดเขียนโดยคุณ RaverioN  Shiftry เป็นโปเกม่อนที่มี Base stats ด้าน atk และ Sp.Atk ใกล้เคียงกันมาก ทำให้มีความยืดหยุ่นในการจัด Move สูง สามารถจัดเป็น atk หรือ Sp.Atk ล้วน และยังสามารถเล่นสาย Hybrid ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีท่า STAB move ที่รุนแรงหลายท่า เช่น Sucker Punch, Leaf Storm, Seed Bomb ฯลฯ หากให้ Shftry ถือ Life Orb จะเป็นหนึ่งในโปเกม่อนที่สามารถปิดบัญชีอีกฝ่ายได้ค่อนข้างแน่นอน โปเกม่อนตัวนี้จะมีความโดดเด่นขึ้นทันทีเมื่อมี Ability Chlorophyll ที่สามารถเร่งความเร็วตัวเองเป็นเท่าตัวเมื่ออยู่ในแดด ทำให้ Shiftry สามารถจัดการโปเกม่อนที่เป็นปัญหากับทีมได้ด้วยความเร็วที่ถูกเพิ่มขึ้น และการที่ทีมสามารถกางแดดให้ Shiftry ได้โลดโผนอยู่ในสนามอย่างคล่องแคล่ว ทำให้กดดันอีกฝ่ายเปลี่ยนตัวเพื่อปรับสภาพอากาศให้กลับไปเป็นแบบที่ทีมตัวเองใช้ ทำให้อีกฝ่ายต้องเสียเทิร์นโจมตีของโปเกม่อน 1 ตัวเพื่อเปลี่ยนสภาพอากาศ ซึ่งเราสามารถวิเคราะห์เกมจากจุดนี้เพื่อเตรียมท่าโจมตีไปที่โปเกม่อนตัวที่คิดว่าจะถูกเปลี่ยนเป็นตัวที่ควบคุมสภาพอากาศเพื่อจัดการให้หมดสภาพและเรายังเป็นผู้ควบคุมอากาศต่อไป Shiftry มี Hidden Ability ที่ค่อนข้างแสบสำหรับอีกฝ่าย นั่นคือ Pickpocket ด้วยความสามารถโจมตีแบบสัมผัสตัวจะขโมยไอเท็มเป้าหมายมาใส่ตัวมันแทน ซึ่งสามารถขัดกลยุทธ์อีกฝ่ายได้อย่างเจ็บแสบ แต่ด้วยความหลากหลายของไอเท็มในแบทเทิล อาจจะคาดเดาไอเท็มที่ Shiftry ควรขโมยมาอีกเช่นกัน ต้องอาศัยการวิเคราะห์เกมนิดนึง Shiftry มีท่าที่เซอร์ไพร์สอีกฝ่ายเป็นอย่างมากนั่นคือ Explosion ซึ่งสามารถใส่ Focus Sash กัน 1HKO ได้ แล้วสวนกลับด้วยการระเบิดตัวเอง ข้อเสียของ Shiftry คือเรื่องแพ้ธาตุ ซึ่ง Shftry แพ้ธาตุทั่วๆ ไปที่แต่ละทีมต้องมีติดไว้บ้างเช่น ไฟ, บิน, น้ำแข็ง, พิษ และที่แพ้หนักที่สุดเลยคือ แมลง แต่แมลงจะไม่ค่อยนิยมใส่ในแบทเทิล แต่ธาตุข้างต้นก็ยังเป็นปัญหาอยู่ดี เพราะ Shiftry มี base stats ทั้ง def และ s.def ค่อนข้างน้อยที่ 60 หน่วย ทำให้การโจมตีครั้งเดียวอาจพา Shiftry บินกลับบอลได้เลย ยิ่งเล่นทีมที่เปิดแดดแล้วล่ะก็ หากโดนไฟสวนมา บอกลา Shiftry ได้เลย แต่ถ้ามั่นใจเรื่องความเร็วในแดดของ Shiftry และความแรงที่สามารถทำ 1HKO ได้ ก็ไม่ต้องกลัวอะไร ใส่ไปเต็มๆเลย หรือถ้ามีเพื่อนในทีมที่สามารถทำท่า Follow Me ได้ก็รู้สึกปลอดภัยขึ้นบ้างแล้ว แต่ที่ช้ำใจอีกหนึ่งจุดคือ ภาคนี้ไม่มี Move Tutor ท่า Knock Off ทำให้ Shiftry สูญเสียท่าสุดแสบที่พร้อมตบไอเท็มอีกฝ่ายหล่นหายตั้งแต่แรกเจอ จึงต้องปรับตัวนิดหน่อย ข้อมูล Shiftry Type Grass/Dark Ability Chlorophyll เมื่ออยู่ในสภาพอากาศ Sunny Day และไม่ได้ติดตั้งไอเทม Utility Umbrella โปเกม่อนจะมีความเร็ว *2 Early Bird ต้านทานการหลับ จากปกติจะหลับ 2 เทิร์นเหลือเพียงแค่ 1 เทิร์น Pickpocket หากโปเกม่อนไม่ได้ถือไอเทมจะขโมยไอเทมจากคู่ต่อสู้หากใช้ท่าที่สัมผัสตัว (กายภาพ) การพัฒนาร่าง Seedot > Nuzleaf >  Shiftry Base Status Status Base Stats HP 90 Attack 100 Defense 60 Sp.Attack 90 Sp.Defense 60 Speed 80 รูปแบบการเล่น Attacker สาย Attacker เน้นการโจมตีกายภาพทั้งหมด วิธีการเล่นคือในเทิร์นแรกที่ Shiftry ถูกส่งลงมาในสนาม ท่าที่ต้องกดนั่นคือท่า Fake Out ซึ่งมีความสามารถเมื่อใช้ตอนโปเกม่อนที่ใช้ลงสนาม จะทำให้เป้าหมายติดชะงัก 100 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับว่าเราจะสกัดการเล่นอีกฝ่ายฟรีๆไปเลย 1 ตัว !! แนะนำให้กดท่า Fake Out ไปที่ตัวที่เราแพ้ธาตุหรือตัวที่เราคิดว่ามี Move ที่เราแพ้ธาตุ แต่ถ้าหากไม่ได้ติดตั้งท่า Fake Out สามารถกดท่า Swords Dance เพื่อเพิ่ม Atk 2 ระดับก่อน ถ้าหาก Shftry ที่กดท่า Swords Dance ยังไม่หมดสภาพการต่อสู้และเร็วกว่าตัวอีกฝ่าย(ออกท่าก่อนอีกฝ่าย) เทิร์นหน้า Shftry สามารถจัดการโปเกม่อนได้ทุกตัวในทีมอีกฝ่ายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว !! และยังมีท่า STAB ที่แรงเอาเรื่องก็คือ Seed Bomb, Leaf Blade, Sucker Punch, Night Slash สามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบ หากเทิร์นแรกที่ลงมา เห็นว่าในสนามอีกฝ่ายมีตัวที่เปราะบาง ก็สามารถโจมตีได้ในทันที ในขณะที่ Shiftry กำลังจะหมดสภาพต่อสู้ ถ้าเราคิดว่าจะสละ Shftry แล้ว สามารถกดท่า Sucker Punch ทิ้งทวนใส่อีกฝ่ายได้ เพราะท่า Sucker Punch มีความสามารถในการออกท่าโจมตีก่อน ในกรณีที่โปเกม่อนเป้าหมายกดสั่งท่าโจมตีมาที่ Shiftry ซึ่งท่า Sucker Punch จะพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายก่อนทันที ดีไม่ดีอาจจะพลิกกลับมาล้มอีกฝ่ายได้ในหมัดนี้แหละ !! ส่วนท่า Defog เป็นท่าเฉพาะทาง สามารถเปลี่ยนออกเป็นท่าอื่นๆได้ ท่า Low Kick เป็นอีกท่านึงที่น่าสนใจเพราะเราสามารถพลิกแพลงในกรณีที่การแข่งนั้นสามารถใช้ Dynamax ได้ โดยท่า Low Kick จะกลายเป็นท่า Max Knuckle ที่ช่วยเพิ่มค่า Atk ให้กับเพื่อนร่วมทีมหลังการโจมตี และมีข้อดีคือเตะโปเกม่อนที่ตัวหนักๆ จะทำดาเมจได้เยอะมาก เพียงแค่ในร่างปกติจะใช้กับโปเกม่อน Dynamax ไม่ได้ *แนวทางนี้สามารถใช้ได้ทั้ง Solo และ Duo รูปแบบการเล่น Mixed Attacker สาย Mixed...

สำหรับโปเกม่อนแล้ว นอกจากการจับมากักขังไว้ในการครอบครองแล้ว(?) เพื่อนๆ ก็ยังมีอีกวิธีในการได้รับโปเกม่อนด้วย นั่นคือการฟักออกมาจากไข่ผ่านขั้นตอนการ Breeding นั่นเอง ในบทความนี้ก็จะมาพูดถึงด้านการ Breeding สำหรับ Pokemon Sword / Pokemon Shield กันจ้า การ Breeding คืออะไร? การ Bleeding นั้นก็จะเป็นการนำโปเกม่อนสองตัวมาผสมพันธุ์กันจนออกไข่ออกมา เพื่อให้เราได้รับโปเกม่อนที่มีค่าสเตตัสต่างๆ ดีขึ้นนั่นเอง เนื่องจากโปเกม่อนแต่ละตัวนั้นก็จะมีคุณสมบัติต่างๆ กันไป การนำโปเกม่อนที่เก่งๆ 2 ตัวมาผสมกันจนมีไข่ออกมาหลายฟอง จะทำให้เพื่อนๆ สามารถเลือกไข่ของโปเกม่อนที่มีคุณสมบัติและความเก่งอย่างที่ต้องการได้ในที่สุดนั่นเอง แม้ว่าในภาคนี้เพื่อนๆ จะสามารถปรับเปลี่ยนโปเกม่อนได้ง่ายขึ้นมาก แต่การ Breeding ก็ยังจำเป็นอยู่ไม่น้อย และถึงตัวระบบนี้จะทำให้ง่ายขึ้นไปด้วยก็ตาม มันก็ยังคงกินเวลาพอสมควรเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี ถ้าเพื่อนๆ สนใจที่จะเอาชนะในการต่อสู้ Rank Battle หรือต้องการโปเกม่อนที่เรียกว่าเก่งจริงๆ นั้น ก็ Breeding ก็ยังคงเป็นขั้นตอนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้   ► สามารถปรับค่า Nature ได้ด้วย Mint เป็นการปรับแบบง่ายๆ ก็จริงแต่ต้องใช้ Battle Points เยอะพอตัวอยู่ ดังนั้น Breeding เพื่อตัวโหดๆ เอามาฟาร์มก็เลยจำเป็นซะงั้น   ► ใช้ Hyper Training ปั่น IVs วิธีนี้จะใช้ Bottle Caps และต้องการ BP จำนวนมาก... รวมถึงโปเกม่อนเลเวล 100 ด้วยล่ะ   การเตรียมการก่อน Breeding ► ปลดล๊อคคำสั่ง Judge คำสั่งนี้จะทำให้เพื่อนๆ สามารถเช็คค่า IVs ของโปเกม่อนได้ การปลดล๊อคก็จะทำได้โดยการไปที่ Battle Tower และเก็บแรงค์ของ Poke Ball Tier วิธีการใช้งานคำสั่ง Judge เปิดเมนูและเลือกที่ Pokemon กด R เพื่อเปิดกล่อง เช็คค่า IVs โล้ด ► ไอเทมและ Ability ที่เกี่ยวข้องกับการ Breeding ไอเทม Destiny Knot ส่งต่อค่า IVs 5 ค่าแบบสุ่มจากพ่อแม่ Everstone ส่งต่อ Nature ของโปเกม่อนที่ถืออยู่ให้ตัวลูกได้ Mint เปลี่ยนค่า Nature ของโปเกม่อน Ability Synchronize Nature ของโปเกม่อนป่าที่เจอจะมีค่าเท่ากับ Pokemon ที่มี Synchronize อยู่ (ต้องอยู่หน้าสุดด้วยนะ) Flame Body ลดเวลาในการฟักไข่   ► จับ Ditto ที่มีค่า IVs สูงๆ เพราะการปล่อยให้โปเกม่อนอยู่กับ Ditto เพื่อนๆ จะมีโอกาสได้ไข่ของตัวที่ไม่ใช่ Ditto ตัวนั้นด้วยยังไงล่ะ... เพราะงั้นหา Ditto ที่มีค่า IVs สูงสุดไว้ด้วย 4-6 ค่าจะช่วยได้มากเลยล่ะ ► เลือกโปเกม่อนที่มีค่า Status สูงๆ เป็นพ่อแม่ พยายามเลือกโปเกม่อนที่มีค่าสเตตัสพื้นฐานสูง จะดีกว่าการเลือกตัวที่มีค่าต่ำแล้วมาปั่นให้สูง เริ่มต้นการ Breeding ► Ability นั้นมักจะตกทอดมาจากตัวเมีย Ability แบบธรรมดานั้น มีโอกาสที่จะได้รับจากตัวเมียมากถึง 70% และในกรณีของ Hidden Ability นั้น จะมีโอกาส 50% ที่จะได้รับมา (กรณีของการจับคู่กับ Ditto จะเป็นของตัวที่ไม่ใช่ Ditto เช่นกัน)   ► เลือกพ่อแม่ที่มี Nature ที่ต้องการ เมื่อมีพ่อแม่ที่มี Nature ที่ต้องการแล้ว ให้ทำการถือ Everstone เอาไว้เพื่อส่งต่อค่า Nature ให้กับตัวลูกที่จะเกิดมาด้วย ซึ่งจะเป็นตัวพ่อหรือตัวแม่ก็ได้ เกมจะเลือกตัวที่ถือ Everstone ไว้เป็นหลัก ดังนั้นก็ไม่ต้องถึงกับดัน Nature ทั้งสองตัว เอาแค่ตัวเดียวก็พอ ประหยัดเวลากว่าเยอะ   ► เลือก IVs ที่ดีที่สุด ตัวลูกปกติจะได้รับ IVs มาจากพ่อและแม่แบบสุ่มมา 3 ค่า แต่การใช้ Destiny Knot จะทำให้สามารถส่งต่อค่า IVs ได้ถึง 5 ค่าด้วยกันเลยทีเดียว นอกจากนี้การใช้ไอเทมอื่นๆ เพิ่มเติมก็จะส่งผลอีกเช่นกันดังนี้ Item Description Power Bracer ส่งต่อค่า Attack IV ของตัวที่ถือ Power Belt ส่งต่อค่า Defense IV ของตัวที่ถือ Power Lens ส่งต่อค่า Sp. Attack IV ของตัวที่ถือ Power Band ส่งต่อค่า Sp. Defense IV ของตัวที่ถือ Power Anklet ส่งต่อค่า Speed IV ของตัวที่ถือ Power Weight ส่งต่อค่า HP IV ของตัวที่ถือ ไข่ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันช่วยในการ Breed ได้สะดวกขึ้น ► โปเกม่อนที่มีไข่ในกลุ่มเดียวกันสามารถผสมกันได้ แม้ว่าจะไม่ใช่โปเกม่อนชนิดเดียวกันก็ตาม แต่ถ้าอยู่ในกลุ่มเดียวกันนั้นก็สามารถผสมกันได้ ซึ่งในกรณีนี้ ไข่ที่ออกมาจะเป็นโปเกม่อนชนิดเดียวกับตัวเมียเสมอ เช่นตัวอย่างนี้ Dubwool + Grookey พ่อ แม่  5 Max IV ♂ Dubwool  0 Max IV ♀ Grookey ลูก 5 Max IV Grookey Dubwool อยู่ในไข่กลุ่ม...

การเก็บค่า EVs หรือ Effort Values กับการเล่น Pokemon แลดูจะเป็นของที่ขาดจากกันไม่ได้สำหรับการเล่นแบบเจาะลึกและการฝึกฝนให้ Pokemon ของเราแกร่งขึ้นได้มากที่สุด ซึ่งใน Pokemon Sword / Pokemon Shield เองก็เช่นกันที่ยังคงมีระบบนี้อยู่ ค่า Effort Values คืออะไร? ค่านี้จะแตกต่างจากค่าพื้นฐาน (Individual Values - IVs) ที่ Pokemon มีติดตัวมาตรงที่เป็นค่าที่เพื่อนๆ จะได้รับจากการต่อสู้และการใช้ไอเทมต่างๆ (เช่น Vitamin, Wings) ซึ่ง EVs นี้จะเพิ่มไปในค่าสเตตัสทั้ง 6 ของโปเกม่อนและทำให้เหล่าโปเกม่อนแข็งแกร่งขึ้นได้นั่นเอง โปเกม่อนแต่ละตัวนั้นก็จะมีการให้ค่า EVs แตกต่างกันไปตามตัวที่เราสู้ชนะ เช่นหากสู้ชนะ Diglett ก็จะทำให้โปเกม่อนของเราได้ Speed EV มา 1 แต้ม และบางครั้งในร่างพัฒนาแล้วก็อาจจะให้ค่านี้มากกว่า 1 แต้มด้วย ซึ่งแต้ม 4 แต้มจะเพิ่มค่าสเตตัส 1 หน่วย อย่างไรก็ดี โปเกม่อนนั้นจะไม่สามารถเก็บค่า EV ไปเรื่อยๆ ได้ และจะจำกัดสูงสุดเพียง 510 EVs และแต่ละค่าสามารถรับค่า EVs ได้สูงสุดแค่ 252 แต้มเท่านั้น ดังนั้นเพื่อนๆ จะต้องเลือกให้ดีๆ ว่าอยากได้ค่าไหนบ้าง ค่าไหนควรดันให้เต็ม วิธีการเก็บค่า EVs เพื่อนๆ ก็สามารถแบ่งวิธีเก็บค่า EVs ได้หลายทางอยู่เช่นกัน หาโปเกม่อนที่มีค่าเริ่มต้น (IV) ดีๆ แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับ EVs โดยตรง แต่การหาโปเกม่อนที่มีค่า IVs ดีๆ จะทำให้เพื่อนๆ มั่นใจได้ว่าการที่ลงทุนลงแรงเก็บค่า EVs ไปนั้นจะคุ้มค่า แต่การหาโปเกม่อนดังกล่าวก็ไม่ง่ายเท่าไหร่นัก โดยปกติโปเกม่อนที่มีค่า IVs สูงและดี มักจะมีออร่าออกมาให้เห็นอยู่รอบตัว ซึ่งโปเกม่อนมีแสงเหล่านี้จะมีค่า IVs ที่ดีมาก และอาจจะมี Egg Move ซึ่งเป็นท่าหายากที่ได้จากการ Breed โปเกม่อนอีกต่างหาก ส่งโปเกม่อนผ่าน Poke Jobs ไปยัง Hammerlocke University Hammerlocke University จะเปิดให้เพื่อนๆ ส่งโปเกม่อนผ่าน Poke Job Board ได้หลังจากที่เพื่อนๆ ได้ตราของยิมที่ 4 มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในมหาลัยนี้จะสามารถรับโปเกม่อนได้สูงสุด 10 ตัวพร้อมกันโดยมีผลต่อค่า EVs แตกต่างกันไปดังนี้ Hammerlocke University EV Affect HP seminar HP Attack seminar Attack Defense seminar Defense Sp. Atk seminar Sp. Atk Sp. Def seminar Sp. Def Speed Speed   การส่งเหล่าโปเกม่อนไปยังมหาลัยก็จะเหมือนกับ Poke Jobs อื่นๆ ที่ยิ่งเพื่อนๆ ส่งไปนานเท่าไหร่ ก็จะได้รับผลตอบแทนกลับมามากขึ้นเท่านั้น อาจจะมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย แต่โดยการประเมินคร่าวๆ แล้ว เพื่อนๆ จะได้รับค่า EVs 4 แต้มต่อ 1 ชั่วโมงที่ทำการส่งโปเกม่อนไปจ้า ใช้ไอเทมเพิ่มค่า EVs การใช้ไอเทมโดยตรงนั้นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ค่อนข้างง่ายและสะดวกถ้าเพื่อนๆ มีไอเทมเหล่านี้อยู่ โดยไอเทมก็จะแบ่งเป็น Vitamin ที่เพิ่มทีละ 10 แต้ม และ Wing (หรือ Feather) ที่เพิ่มทีละ 1 แต้ม วิตามินสามารถซื้อได้จากเมืองสุดท้าย Wyndon ใน Pokemon Center ในเมือง ซึ่งข้อเสียของวิตามินนี้ก็ไม่มีอะไรมากนอกจากคำว่า แพง!!! อันละ 10,000 จ้า Vitamin EVs Affect (+10) HP Up HP Protein Attack Iron Defense Calcium Sp. Atk Zinc Sp. Def Carbos Speed   Wings นั้นก็จะมีหน้าตาเหมือนขนนก หรือจะเรียกขนนกก็ได้ สามารถหาได้จากจุดต่างๆ เช่นจุดที่มีประกายออกมาบนสะพานระหว่าง Route 5 <-> Hulbury หรือ Motostoke <-> Motostoke Outskirts ซึ่งจะเกิดใหม่ทุกๆ วัน Wings EVs Affect (+1) Health Wing HP Muscle Wing Attack Swift Wing Speed Clever Wing Sp. Defense Genius Wing Sp. Attack Resist Wing Defense ใช้ Berrie เพื่อนำค่า EVs ที่ไม่ต้องการออก เนื่องจากข้อจำกัดในการเก็บค่า EVs ได้สูงสุดที่ 510 แต้ม กรณีที่เพื่อนๆ ได้ค่าที่ไม่ต้องการ ก็สามารถใช้ไอเทมชนิด Berry ในการนำค่าที่ไม่ต้องการออกได้เช่นเดียวกัน Berry EV Affect Kelpsy Berry Attack **ลด 10 EVs เพิ่มค่า Happiness Pomeg Berry HP Hondew Berry Sp. Atk Qualot Berry Def. Grepa Berry Sp. Def Tamato...

บทสรุป Pokémon Sword & Pokémon Shield ฉบับนี้จะแสดงแนวทางการเล่นในเบื้องต้นครับ ซึ่งอาจจะไม่ได้ละเอียดยิบแบบเก็บทุกจุดแต่เชื่อว่าพอจะสามารถเป็นไกด์ไลน์ให้เพื่อนๆ ได้ไม่มากก็น้อยครับ ถ้าหากว่าอ่านแล้วเจอจุดผิดพลาดหรือมีจุดที่ทางผู้เขียนพลาดไปสามารถแจ้งมาให้ผู้เขียนทราบได้ผ่านแฟนเพจ Playpost หรือ Myplaypost ได้เลย อ่านก่อน 1.หากสงสัยว่าใน Pokémon Sword & Pokémon Shield มีความแตกต่างกันยังไงบ้างสามารถอ่านได้จากบทความนี้ก่อนครับ รวมข้อมูลระบบใหม่ๆ ที่เพื่อนๆ จะได้เจอใน Pokemon Sword / Pokemon Shield 2. ตัวเกมภาคนี้เนื้อเรื่องอาจจะไม่มีอะไรมากแต่ในช่วงที่เราเล่นจบมีสิ่งที่ให้ทำค่อนข้างเยอะครับ ทางผู้เขียนจะรวมไว้แยกอีกบทความนึงหากเขียนเสร็จแล้วจะมาอัพเดตให้อ่านกัน 3.สำหรับเพื่อนๆ ที่พึ่งเล่นตัวกบ(ผู้เขียน) ไม่แนะนำให้ซีเรียสเรื่อง IV หรือ EV มากนักเอาไว้เล่นจบแล้วค่อยมาดูตรงนั้นก็ได้ครับ 4. ภาคนี้เราสามารถเก็บเลเวลได้ไวกว่าภาคก่อนๆ มากเพราะเมื่อสู้จบทุกตัวในทีมจะได้เลเวลด้วย และมีการตีเสาที่สามารถเล่นกับเพื่อนหรือผ่านเน็ตได้ด้วยครับ 5. โปเกม่อนบางตัวจากภาคก่อนๆ จะหายไปดังนั้นหากไม่เจอบางตัวก็ไม่ต้องแปลกใจไปครับ คิดว่าน่าจะมีมาเพิ่มใน อนาคตแต่ไม่ทราบว่าจะมาในรูปแบบไหน Wedgehurst ตัวเกมจะเปิดมาด้วยการแข่งขันชิงแชมป์ของกภูมิภาค กาล่า หลังจากที่เราดูอินโทรของเกมจบแล้วภาพจะตัดมาที่ตัวเราในเมือง Wedgehurst ที่กำลังดูทีวีอยู่ที่บ้านและเพื่อนสนิทของเรา ฮ็อป (Hop) เดินเข้ามาหาซึ่งเค้าเป็นน้องชายของ Leon ที่เป็นแชมป์เปี้ยนคนที่เราพึ่งเห็นในทีวีนั่นเอง พอเราคุมตัวละครได้ให้เดินไปทางด้านขวาสุดของบ้านที่เป็นห้องของเรา จากนั้นให้กดหยิบกระเป๋าแล้วออกเดินทางออกมาข้างนอกเราจะเจอฮ็อปรออยู่ เดินตามฮ็อปไปถึงที่บ้านของฮ็อปที่เป็นอพาตเม้นต์หลังใหญ่ไป เข้าไปในบ้านและคุยกับคุณแม่ของฮ็อปพวกเราจะตัดสินใจไปเจออกับลี (ชื่อเล่นของลีออน) โดยให้เดินออกมาจากบ้านและเดินตรงขึ้นไปจะเจอฮ็อปรออยู่ เดินตามตรงไปผ่านถนนหมายเลข 1 เพื่อเข้าไปในเมืองจะเจอกับลีออนกำลังโชว์ตัวอยู่กับพวกชาวเมือง หลังเเจอกับลีออนแล้วพวกเราจะกลับมาที่บ้าน โดยลีออนจะให้โปเกม่อนเรากับฮ็อปซึ่งมีให้เลือกัดงนี้ โปเกม่อนธาตุไฟ Scorbunny , โปเกม่อนธาตุน้ำ Sobble , โปเกม่อนธาตุพืช Grookey เมื่อเลือกเรียบร้อยแล้วฮ็อปจะเลือกโปเกม่อนต่อจากเรา ซึ่งเค้าจะเลือกตัวที่แพ้ธาตุเราเสมอ เช่นถ้าเราเลือกธาตุไฟเค้าจะเลือกพืชเป็นต้นครับ ส่วนโปเกม่อนอีกตัวจะไปอยู่กับลีออน เมื่อพวกเราเลือกโปเกม่อนจบแล้วพวกแม่ๆ จะเข้ามาบอกให้เราไปกินข้าวและพักผ่อนกัน โดยในวันถัดไปลีออนจะนำให้นเราลองสู้กับฮ็อปดูถือเป็นการต่อสู้ครั้งแรก เค้าจะมี Wooloo และโปเกม่อนที่พึ่งเลือก เมื่อการต่อสู้จบเรากับฮ็อปจะตัดสินใจที่จะออกเดินทางเพื่อไปท้าทายยิมต่างๆ หลังจากคุยกันจบแล้วให้เดินออกมาจะเจอกับเหตุการ์ณ Wooloo พังคอกและหนีออกไป ซึ่งเรากับฮ็อปจะต้องออกไปตามหามันกลับมา ให้เดินออกมาจากทางรั้วที่พังและเดินตามทางไล่ไปเรื่อยๆ  ในระหว่างนี้จะมีโอกาสเจอโปเกม่อนป่าด้วย หากเลือดของเราลดสามารถไปขอให้ฮ็อปเติมพลังให้ได้ ให้เดินไปจนสุดทางเราจะเจอกับโปเกม่อนปริศนา ที่มีลักษณะเป็นหมา โดยขณะสู้หมอกจะหนาขึ้นจนเรามองอะไรไม่เห็นก่อนโปเกม่อนตัวนั้นจะหายไป พอสู้จบพวกเราจะสลบไปและลีออนตามมาสมทบด้วยความเป็นห่วงและเค้าได้บอกว่าเจอกับเจ้าแกะที่หายไปแล้ว โดยเราจะเล่าถึงประสบการ์ณแปลกประหลาดที่เจอกับโปเกม่อนปริศนาให้กับลีออนฟังก่อนจะแยกย้ายกลับบ้าน ซึ่งฮ็อปจะขอตัวไปบอกครอบครัวว่าตนเองจะออกเดินทาง Wedgehurst เมื่อแยกกับฮ็อปเรียยร้อยแล้วให้เดินเข้าบ้านมาพบกับแม่เพื่อแจ้งข่าวว่าเราจะออกเดินทางจาก Wedgehurst ไปผจญภัย แม่ของเราจะให้่เงินมานิดหน่อยในการเดินทาง พอคุยกับแม่จบให้เราเดินออกจากบ้านไล่มาตามทางเรื่อยๆ จนเจอฮ็อป เค้าจะบอกให้ไปที่ Pokémon Research Lab โดยเราจะไม่สามารถไปตรงๆ ได้ต้องเดินอ้อมผ่านพวกแกะไป ในระหว่างนี้อาจจะลองจับโปเกม่อนดูก่อนได้ ซึ่งในกระเป๋าของเราช่วงแรกจะมีบอลอยู่ห้าลูก และสามารถซื้อเพิ่มได้ภายหลัง (ต้องผ่านช่วงนี้ไปก่อน) พอเดินเล่นจนพอใจแล้วให้เดินไปที่ Pokemon Research Lab ในเมือง เราจะได้พบกับ Sonia ที่เป็นคู่แข่งของ Leon เค้าจะให้ Pokedex เรามาและบอกให้เราไปหาศาสตร์ตราจารย์ต่อ ถนนสายที่ 2 พอออกมาจากห้องแล็ปให้เดินขึ้นไปทางด้านบนของเมืองจะเจอกับฮ็อปรออยู่ เค้าจะแนะนำโปเกม่อนเซ็นเตอร์ให้เรา ซึ่งหลังจากนี้เราสามารถเข้ามาพักฟื้นโปเกม่อนและซื้อไอเทมต่างๆ ได้ โดยตัวไอเทมจะเพิ่มขึ้นเมื่อเราเล่นผ่านแต่ละช่วง พอออกไปให้เิดนตามทางไปด้านบนอีกจะเจอกับฮ็อปมาพูดคุยอีกนิดหน่อย หลังจบแล้วให้เดินออกจากเมืองไล่ผ่านไปทางถนนหมายเลข 2 ซึ่งทางตรงนี้จะเป็นทางตรงๆ เลย สามารถเดินไล่ไปได้เลย พอออกจากเมืองเราจะเจอกับลีออนเค้าจะให้ Poke Balls เรามา 20 ลูก ช่วงนี้เราสามารถลองเดินจับโปเกม่อนแถวนี้ก่อนค่อยไปต่อก็ได้ หลังจากเดินตรงไปจะเจอกับโปเกม่อนเทรนเนอร์คนอื่น ซึ่งหลังจากนี้เราจะต้องเจออีกตลอดเกมเลยครับ ถ้าชนะจะได้ทั้งเงินและประสบการณ์ แต่หากไม่อยากสู้ก็สามารถเดินหลบๆ ได้นะในบางจุด เมื่อเดินไปสุดสายเราจะเจอกับบ้านของ Professor Magnolia จะมีการพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนที่เราจะได้สู้กับฮ็อปอีกรอบ(ลีออนจะช่วยฮีลให้ก่อน) คราวนี้ฮ็อปจะมาพร้อมกับโปเกม่อน 3 ตัวด้วยกันคือ Wooloo/โปเกม่อนตัวหลัก/Rookidee หลังสู้จบจะได้ไอเทม Letter of Endorsement มาจากลีออน โดยมันเป็นจดหมายแนะนำที่ใช้ในการเข้าแข่งขันกับเหล่ายิมหลีดเดอร์ พอคุยจบลีออนกับเราจะเก็บ Wishing Star ได้ซึ่งมันเป็นไอเทมที่จะทำให้โปเกม่อนสามารถใช้ Dynamax Form ได้(ร่างที่ตัวใหญ่ๆ) พอคุยกันจบ Professor จะบอกให้พวกเราไปพักผ่อน และเค้าได้ทำเครื่องมือในการแปลงร่างไว้ให้เราใช้เรียบร้อยแล้ว และจุดหมายต่อไปของเราก็คือการไปท้าทายยิมต่างๆ นั่นเอง Note : หลังจากเราเล่นไปถึงช่วงหลังของเกมที่สามารถวิ่งบนน้ำได้แล้ว ทางด้านซ้ายเราสามารถวิ่งขึ้นไปบนเกาะเล็กๆ สองเกาะเพื่อเก็บไอเทมได้ โดยจะมี TM69 Psycho Cut และ Choice Band โปเกม่อนแนะนำ ในช่วงนี้มีโปเกม่อนที่จับแล้วสามารถใช้ได้ยาวๆ มาแนะนำ 3 ตัวดังนี้ครับ (จริงๆ ตัวอื่นก็ใช้ได้นะ เป็นความเห็นของผู้เขียนเฉยๆ คือ) Rookidee - นกตัวเล็กๆ ที่เมื่อพัฒนาร่างสุดท้ายแล้วจะเป็นธาตุบินและเหล็กสามารถใช้งานและมีท่าโจมตีหลากหลายมาก Chewtle - เต่าธาตุน้ำที่ถ้าหากว่าเราไม่ได้ใช้ Starter เป็นธาตุน้ำมันจะใช้ได้ยาวเลยครับ เพราะมันถึกมากกกกก แถมสกิลต่งๆ ก็ค่อนข้างครบถ้วน Magikarp  - โปเกม่อนอีกตัวที่น่าหามาใช้ครับ เราสามารถไปตกปลาข้างๆ บ้านของ Professor  เพื่อหาเจ้า Magikarp หรือคอยคิงมาใช้ได้ โดยร่างสองของมันคือเกียรยาดอสที่โหดมากๆ Train Station in Wedgehurst ให้กลับไปที่เมือง Wedgehurst เพื่อไปยังสถานีรถไฟที่เมืองตัวสถานีจะอยู่แถวบริเวณทางเข้าเมืองสังเกตุได้จากฮ็อปที่ยืนรออยู๋ทางด้านหน้า ให้เราเตรียมตัวให้พร้อมเสร็จแล้วเดินเข้าไปในสถานี จะเจอกับพวกแม่ๆ มาส่งเราพร้อมกับให้ไอเทม Set of Camping Gear ซึ่งทำให้เราสามารถตั้งเต็นท์บน Wild Area ได้ หลังจากที่เรานั่งรถไฟไปสักพัก ตัวรถไฟจะมาหยุดที่สถานีตรง Wild Area พอออกมาจากรถไฟให้คุยกับคนที่อยู่หน้าทางออกเพื่อรับ Poke Doll ก่อนเดินออกไป ซึ่งตรงนี้เราสามารถรับปิกาจูกับอีวุยได้ด้วยหากทำตามเงื่อนไขครบ วิธีรับปิกาจูและอีวุย (Pikachu / Eevee) เราสามารถรับ Pikachu และ Eevee ได้หากว่ามีเซฟของเกมทั้งสองภาคนี้มาก่อนครับ วิธ๊การก็เพียงแค่เดินไปคุยกับ เด็กหนุ่ม/เด็กสาวที่อยู่ที่สถานีรถไฟใน Wild Area หลังจากที่เราออกจากเมือง Wedgehurst เกี่ยวกับ Wild Area Wild Area ในเบื้องต้นคือพื้นที่เปิดที่เราสามารถเจอผู้เล่นคนอื่นได้ และจะมีเสาโปเกม่อน Dynamax ให้ไปท้าสู้และจับครับ หากเราชนะพวก โปเกม่อน Dynamax จะสามารถฟาร์มของได้เยอะมากไม่ว่าจะเป็นลุกอม Exp, สกิลแบบใช้ครั้งเดียว, ผลไม้ ฯลฯ ยิ่งถ้ามีเพื่อนเล่นจะสนุกมากครับเพราะสามารถเข้าตี้กันได้สูงสุด 4 คนเลย โดยเสาจะมีสีแดงและสีม่วง ซึ่งสีม่วงจะเก่งกว่าปกติ ส่วนจำนวนดาวของโปเกม่อนเราจะเจอโปเกม่อนดาวมากขึ้นได้เมื่อเล่นผ่านยิมในระดับที่สูงขึ้นครับ South Wild Area พอเดินออกมาจากสถานีรถไฟแล้วจะเป็นพื้นที่ Wild Area ให้ระวังพวกมอนสเตอร์ตัวใหญ่ๆ ที่เดินไปเดินมาให้ดี เพราะเราจะยังสู้พวกมันไม่ได้ตอนนี้...