Console Guide

Console Guide - สำหรับส่วนนี้จะเป็นการรวบรวม guide ต่างๆของเครื่อง console ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเป่าตลับ เช็ดแผ่นหรือวิธีชุบตัวละครลับที่โดนไม้แขวนเสื้อตีตาย

"ปัญญาพิสุทธิ์ดุจหอมหมื่นลี้งาม" ศิษย์ของจ้าวสำนักขับขานล่องนครา รุ่นน้องร่วมสำนักของ Xiangling ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยของ Ganyu

Read more

Final Fantasy 14 เป็นหนึ่งในเกม mmorpg ที่มาแรงสุดๆ ตอนนี้ และมีเนื้อหาเยอะโคตรๆ ผู้เล่นใหม่หลายๆ คนที่เริ่มหันมาสนใจอาจเกิดอาการท้อ ว่าเนื้อเรื่องและเลเวลมันไปไกลขนาดนี้แล้ว เมื่อไหร่จะทันเพื่อนๆ กันล่ะ… วันนี้เราก็เลยเอาไกด์เก็บเลเวลแบบรวดเร็วทันใจมาฝากเหล่า Warrior of Light มือใหม่ล่ะ!วิธีเก็บเลเวลใน ffxiv มีอยู่มากมายหลายรูปแบบ ซึ่งได้ทั้งค่าประสบการณ์และไอเทมของรางวัลที่จะเป็นประโยชน์กับผู้เล่นเริ่มต้นด้วย

Read more

สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผ่านด่านต่างในเกม Valiant Force 2 ได้ง่ายขึ้น นั่นก็คือการ Strengthening “เพิ่มความแข็งแกร่ง” ยังไงละ ยิ่งมีทีมที่พร้อมสู้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งไปได้ไกลมากเท่านั้น เพราะนอกจากการเปิดหาให้ได้ตัวละครระดับสูงๆ แล้วก็จำเป็นต้องเพิ่มความเก่งให้กับตัวในทีม และการเรียกวางตำแหน่งออร่าเองก็สำคัญไม่แพ้กัน มาดูกันว่าต้องทำอย่างไรให้เก่งไวไปได้ไกล! เลือกตัวละครหลัก 5 ตัว เพื่อ เพิ่มความแข็งแกร่ง (Strengthening) สิ่งแรกคือการเลือกตัวละครที่จะใช้เป็นทีมหลักก่อนเพื่อลองจัดทีมเพื่อเชื่อมลิ้งก์ออร่า และให้สกิลออร่าสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถอ่านวิธีการจัดทีมอย่างละเอียดได้ที่ลิ้งก์นี้ >> คลิ๊ก << อัปเกรดตัวละคร 5 ตัวหลักของทีม ต่อไปคือเรื่องของการอัปตัวละคร “ให้เลเวลเต็ม” อยู่เสมอ การอัปเลเวลจะเพิ่มสเตตัสต่างๆ ของตัวละครทำให้แข็งแกร่งขึ้น และหลังจากผ่านเนื้อเรื่องเพื่อปลดล็อกเลเวลของอาชีพแล้วจะทำให้สามารถปลดเลเวลตัวละครเพิ่มได้ครั้งละ 10 เลเวล  ยิ่งเลเวลสูงก็ยิ่งต้องใช้ของอัปเลเวลเพิ่มมากขึ้นด้วย ทำให้สมุด EXP มีใช้ไม่เพียงพอ จึงเป็นสาเหตุที่ให้เลือกอัปเพียง 5 ตัวหลักของทีมก่อนนั่นเอง ซึ่งสมุด EXP สามารถหาได้จากด่านประจำวัน “Daily Dungeons” ลงฟาร์มได้ 3 ครั้ง ทุกวัน อังคาร / พฤหัสบดี / เสาร์ / อาทิตย์ ตัวด่านจะปลดระดับได้ของสูงขึ้นตามการผ่านด่านเนื้อเรื่องที่กำหนด ใส่อุปกรณ์ให้ตรงเซ็ต นอกจากจะต้องอัปเลเวลให้ตัวละครแล้วการอุปกรณ์สวมใส่เองก็เช่นเดียวกันเป็นอีกสิ่งที่ทำให้ตัวละครเก่งขึ้นสู้กับศัตรูได้สูสีหรือได้เปรียบ แถมยังลุยด่านได้ง่ายขึ้นด้วย แต่พวกอุปกรณ์ก็มีเรื่องของค่าเซ็ตอยู่ ถ้าใส่ไม่ตรงก็อาจทำให้ตัวละครคนนั้นแสดงความสามารถออกมาไม่ได้เต็มที่ ยกตัวอย่างเช่น ตัวละครคลาส Guardian ที่จำเป็นต้องคอยรับดาเมจให้เพื่อนในทีมต้องมีเลือดที่เยอะจะได้ยืนไหวหรือมีพลังป้องกันสูงโดนดาเมจน้อยลง ก็ควรต้องใส่เซ็ตเพิ่ม HP (สัญลักษณ์หัวใจ) ให้ครบ 4 ชิ้น จะทำให้ได้ออฟเพิ่มเลือดมากขึ้น แต่กลับไปใส่เซ็ตเพิ่ม ATK (สัญลักษณ์ดาบ) แทนที่ไปเพิ่มพลังโจมตี ตีศัตรูแรงขึ้นแต่เลือดน้อยไม่สามารถยืนได้เลย หรือ Healer ที่ใช้ค่า HP ใส่การฮิลให้เพื่อนในทีม แต่กลับใส่เซ็ต ATK แทนซึ่งไม่ได้ช่วยให้การฮิลแรงขึ้นเลย แถมยังเป็นจุดอ่อนของทีมที่ฮิลไม่แรงแล้วยังตัวบางด้วย เพราะฉะนั้นต้องดูค่าเซ็ตให้ดี แล้วก็อย่าลืม “อัปเลเวล” อุปกรณ์ด้วยนะ การอัปเลเวลจะใช้ทองในการอัป แต่ระดับเริ่มต้นจะอัปได้ถึงเลเวล 10 แบบตัวละครเลย การจะอัปปลดเลเวลให้สูงขึ้นจะต้องผ่านด่านเนื้อเรื่องเพื่อปลดไอเทมสำหรับอัปเกรดถึงจะปลดให้เลเวลเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งในช่วงเลเวลหลังๆ จะใช้ทองในการอัปเลเวลจำนวนมาก  พยายามอัปอุปกรณ์ของตัวดาเมจของทีมเป็นหลักก่อนเพื่อทำให้ต่อสู้ในด่านง่ายขึ้น และไล่ไปที่ตัวแทงก์ต่อเพื่อนำมาช่วยยืนกันดาเมจให้ทีม แล้วค่อยๆ อัปตัวในทีมคนอื่นต่อเรื่อยๆ จนครบ อย่างน้อยในช่วงแรกให้อัปเลเวล 10 ให้ครบทุกชิ้นของทั้งทีมก่อนก็พอ ลงด่านประจำวัน โหมด Daily Dungeons ในแต่ละวันจะมีกำหนดเปิดวนอยู่สองอย่างคือ ดันฟาร์มทอง และดันฟาร์มสมุด EXP สำหรับอัปตัวละคร ใน 1 วันจะลงได้ 3 ครั้งเท่านั้น แนะนำให้ลงให้ครบทุกวันเพื่อเก็บสะสมเอาไว้ใช้สำหรับการอัปเกรดตัวละครกับอาวุธตอนที่สามารถปลดเพิ่มเลเวลได้ หรือต้องการเอาไว้ปั้นตัวเพิ่ม จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Valiant Force 2 สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่  Valiant Force 2 Thailand Community

Read more

กลับมาต่อกันในเกม Gundam Evolution เช่นเคยครับซึ่งวันนี้ก็จะยังคงมาในหัวข้อการแนะนำหุ่นเช่นเคย โดยหุ่นในวันนี้ที่จะมาพูดถึงก็คือ “กันดั้มยูนิคอร์น” อีกหนึ่งหุ่นยนต์ยอดนิยมประจำเกมที่หลายคนมักจะหยิบมาเล่นผิดตำแหน่งน่ะเอง  ข้อมูลพื้นฐานและความสามารถของหุ่น ค่าพลังชีวิต: 800 จำนวนครั้งในการพุ่ง: 2 ครั้ง ระยะการโจมตี: ระยะกลาง ระดับความยากในการเล่น: ★★ ท่าการโจมตีของกันดั้มยูนิคอร์น คลิกซ้าย - Beam Gatling Gun: ยิงปืนกลบีมออกไปอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับการโจมตีระยะกลาง คลิกขวา - Beam Gatling Gun: ขึ้นลำกล้องปืนเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการยิง Q - Beam Magnum: สลับไปใช้ Beam Magnum สามารถใช้ยิงทะลุได้ มีจำนวนกระสุนทั้งหมด 5 นัด F - Shield Funnel: ส่งโล่ฟันเนลออกไปโจมตีใส่ศัตรู ทำดาเมจและผลักเป้าหมายออกไป E - Psycho Field (Armor): สร้างเกราะป้องกันให้เพื่อนร่วมทีม Passive (ติดตัว) - Psycho Frame Resonance: ฟื้นพลังชีวิตอย่างต่อเนื่องให้ตัวเองและเพื่อนที่อยู่รอบตัว จุดเด่นของหุ่นตัวนี้ ตัวของกันดั้มยูนิคอร์นนั้นจะเป็น 1 ใน 5 หุ่นที่ผู้เล่นต้องทำการปลดล็อกก่อนจึงจะหยิบมาเล่นได้ครับ แถมยังเป็นหุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากทั้งห้าตัวอีกด้วย แถมไม่ใช่แค่เพียงคนแย่งเล่นกันเท่านั้นตัวยูนิคอร์นนี้เองก็เป็นที่ต้องการอย่างมากในการเล่นแบบทีมด้วยเช่นกันครับผม ซึ่งก่อนเราจะไปดูถึงแนวทางหรือสไตล์การเล่นของหุ่นตัวนี้เราก็ต้องมาดูถึงเรื่องจุดเด่นของหุ่นกันก่อนดีกว่าครับเราจะได้เข้าใจกันได้ง่ายขึ้นน่ะเอง สำหรับจุดเด่นของกันดั้มยูนิคอร์นนั้นก็จะประกอบไปด้วย:  1.อาวุธหลักกระสุนเยอะและยิงรัว - อาวุธหลักของยูนิคอร์นคือ Beam Gatling Gun ครับ ซึ่งเป็นปืนกลเลเซอร์ที่มีจำนวนกระสุนสูงถึง 50 นัดเลยทีเดียว แถมตัวปืนก็ยังยิงออกมาได้เร็วมากเลยด้วย 2.มีสกิลติดตัวไว้ฮีลได้ตลอดเวลา - หนึ่งในจุดเด่นทำให้ยูนิคอร์นเป็นที่ต้องการของทีมเลยคือสกิลติดตัว Psycho Frame Resonance คอยฟื้นฟูพลังชีวิตให้เพื่อนร่วมทีมที่อยู่รอบตัวตลอดเวลาน่ะเองครับ 3.มีสกิลเพิ่มเกราะให้ได้ทั้งทีม - อีกหนึ่งสกิลที่ทำให้ยูนิคอร์นดูน่าสนใจไม่แพ้เรื่องการฮีลเลยก็คือ Psycho Field ครับ เมื่อกดใช้จะช่วยเพิ่มเกราะให้เพื่อนในทีมรอบตัวทั้งหมด จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสกิลที่ดีมากในทีมไฟท์เลยแถมยังเป็นสกิลที่ใช้วัดผลแพ้ชนะในบางครั้งได้เลยด้วย แนวทางการเล่นกันดั้มยูนิคอร์น ก่อนอื่นเลยถ้าเพื่อนๆ คนไหนได้รู้จักกันดั้มยูนิคอร์นก่อนจะมาเล่นเกมนี้ไม่ว่าจะจากในตัวอนิเมะหรือในเกมอื่นมาก่อนก็ต้องให้ลบภาพพวกนั้นทิ้งไปได้เลยครับ เนื่องจากกันดั้มยูนิคอร์นภายในเกม Gundam Evolution นี้จะมาในฐานะ “สายซัพพอร์ต” แทน ต่างกับภาพพจน์ในเกมอื่นที่เป็นหุ่นสายบู๊เต็มรูปแบบน่ะเอง ขืนใครกำลังคิดจะเอาไปเล่นสไตล์นั้นก็เตรียมตัวโดนทีมด่าได้เลยล่ะ ตามที่บอกไปเลยครับยูนิคอร์นนั้นจัดเป็นหุ่นในสายซัพพอร์ตจึงทำให้หน้าที่หลักๆ ก็คือการ “สนับสนุนเพื่อนร่วมทีม” น่ะเอง ซึ่งวิธีที่จะเล่นให้ได้ผลดีสุดก็คือ “ไปกับเพื่อนในทีม” นั่นเองครับ เนื่องจากกันดั้มตัวนี้มีสกิล Psycho Frame Resonance หรือสกิลฮีลนั่นล่ะที่จะคอยเด้งเพื่อนรอบตัวเราตลอดเวลามันเลยพอจะทำให้ทีมเราพอยื้อได้นานขึ้นแถมยังฮีลได้ทีละหลายคนด้วย ต่างกับ Methuss ที่ถึงแม้จะมีสกิลเชื่อมสายฮีลที่แรงกว่าแต่ก็ทำได้ครั้งละตัวเท่านั้น ตรงนี้จึงทำให้เวลาไปเป็นทีมคนมักเลือกนิยมยูนิคอร์นมาติดทีมมากกว่าน่ะเอง อีกสกิลที่ใช้เป็นตัวพลิกเกมได้เลยก็คือ Psycho Field หรือสกิลเพิ่มเกราะนั่นล่ะครับ ซึ่งสกิลนี้นับว่ามีประโยชน์อย่างมากในจังหวะที่เราต้องโถมเข้ายึดจุดหรือเข้าไปทำภารกิจ ด้วยว่าจำนวนที่เกราะเพิ่มมาให้ก็ค่อนข้างเยอะเลยถึงแม้อาจจะเทียบไม่ได้กับเกราะของ DOM แต่ก็ยังนับว่าเยอะอยู่ดี แถมยังเพิ่มได้ทั้งทีมเลยด้วยล่ะนะ สรุปหลักๆ ก็คือคอยยืนอยู่กับเพื่อนไว้เสมอครับแต่ก็ต้องคอยดูจังหวะด้วยว่าถ้าเกิดเห็นเพื่อนไม่รอดจริงๆ ก็ให้ถอยอย่าเข้าไปตายตามเพื่อน ส่วนการยิงก็คอยโฟกัสไปทางตัวดาเมจหรือไม่ก็ตัวซัพพอร์ตอีกฝั่งเพื่อช่วยให้ทีมเราสู้ง่ายขึ้น สิ่งที่ต้องระวังในการเล่นกันดั้มยูนิคอร์น สำหรับมือใหม่ในการเล่นกันดั้มตัวนี้ที่อยากเตือนไว้ก็คือ “ตำแหน่งยืน” น่ะเองครับ เนื่องด้วยจากหลายๆ คนมักคุ้นเคยกับภาพยูนิคอร์นลุยเดี่ยวใส่กับทั้งกองทัพจึงทำให้มือใหม่หลายๆ คนมักจะหยิบหุ่นตัวนี้ไปเป็นตัว DPS เดินไล่ยิงบ่อยมาก (มือใหม่เจอแทบตลอด) ซึ่งพอเอาไปทำอย่างนั้นหุ่นนี้ก็จะหมดประโยชน์ไปทันทีเพราะสองสกิลสุดแสนประโยชน์จะไร้ความหมายไปทันที และถึงแม้ตัวปืน Beam Gatling จะยิงเร็วและกระสุนเยอะแต่ดาเมจต่อนัดก็ค่อนข้างน้อยมากเลยกว่าจะยิงให้ตายก็ต้องใช้เวลาพักนึงเลย ขืนไปวัด 1 - 1 กับตัวดาเมจจริงๆ ยังไงก็สู้ไม่ได้ครับตัวแตกก่อนแน่นอน ส่วนต่อมาที่ต้องระวังก็คือ “ระวังตัวล้วงของอีกฝ่าย” เพราะตามที่บอกไปว่ายูนิคอร์นนั้นเป็นหุ่นสายซัพที่ทีมต้องการมากและสกิลก็มีประโยชน์แบบสุดๆ ทำให้เวลาเล่นกันจริงๆ อีกฝ่ายมักจะเข้ามาล้วงหุ่นตัวนี้ก่อนเพื่อตัดกำลังน่ะเอง ตรงนี้เวลาอีกฝ่ายเข้ามาเราอาจใช้ท่า Shield Funnel เพื่อผลักอีกฝ่ายออกไปเพื่อเอาตัวรอดก็ได้ครับแล้วค่อยเรียกให้เพื่อนช่วยก็ได้ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่สิ่งที่สำคัญคือห้ามอยู่คนเดียวอย่างเด็ดขาดเลย หุ่นคู่หูที่แนะนำให้ไปยืนประกบคู่ด้วย หุ่นปู่ RX78-2 หุ่นที่แนะนำให้ยืนคู่ด้วยตัวแรกก็คือหุ่นปู่หรือกันดั้ม RX78-2 เลยครับ โดยเหตุผลนั้นเป็นเพราะหุ่นตัวนี้จะมีระยะการโจมตีเดียวกับยูนิคอร์นเลยทำให้สามารถทำดาเมจได้สูงสุดทั้งสองฝ่าย แถมตัวปู่ยังมีลูกตุ้มไว้ใช้สตันตัวล้วงที่เข้ามาใกล้ได้อีกด้วย บวกคู่กับท่าปล่อยโล่ยูนิคอร์นอีก พอเอามาช่วยเหลือกันมันก็จะทำให้ทั้งคู่เอาตัวรอดได้ดีพอตัวเลย Sazabi ตัวแทงค์หลักประจำเกมอย่าง Sazabi คืออีกหนึ่งตัวที่ควรประกบคู่ด้วยครับ เนื่องจากทุนเดิมของหุ่นตัวนี้มันก็หนาพออยู่แล้วเลือด 1,200 กับโล่อีก 1,400 ยิ่งได้ยูนิคอร์นมาคอยเด้งเลือดกับใส่เกราะให้จะยิ่งทำให้หุ่นตัวนี้เป็นเหมือนป้อมปราการเคลื่อนที่ ชนิดว่าบาบาทอสคอมโบเดียวเอาไม่ลงยังได้เลยล่ะ Zaku II (Melee) ตัวต่อมาคือ Zaku II (Melee) ครับอีกหนึ่งหุ่นแทงค์ที่น่ายืนคู่มาก ด้วยว่าหุ่นตัวนี้ค่อนข้างถึกแถมยังทำดาเมจได้ดีพอตัวเลย ถ้ายิ่งได้ยูนิคอร์นมาคอยบัฟจะทำให้ยืนได้นานขึ้นและชนให้เพื่อนสบายๆ เลยล่ะ  เพียงแต่การคู่กับหุ่นตัวนี้ต้องระวังด้วยเนื่องจากหุ่นตัวนี้เป็นตัวชนแนวหน้า ซึ่งมันก็ค่อนข้างเสี่ยงพอสมควรขืนเราเกิดเข้าไปประกบด้วยโดยไม่ดูรอบข้างก็อาจโดนยิงทิ้งได้ง่ายๆ เลย Methuss ตัวสุดท้ายที่อยากแนะนำก็คือ Methuss อีกหนึ่งหุ่นตัวซัพพอร์ตประจำเกมนั่นล่ะ ด้วยที่ว่าหุ่นตัวนี้จะมีสกิลฮีลที่ค่อนข้างแรงแต่ในขณะเดียวกันก็ฮีลได้ครั้งละตัวเท่านั้นแถมยังใช้ฮีลตัวเองไม่ได้อีกต่างหาก การได้ยูนิคอร์นมาช่วยตรงนี้ก็จะกลบข้อด้อยไปพอสมควรเลย ส่งผลให้ Methuss สามารถยืนนานขึ้นและโฟกัสกับการฮีลตัวสำคัญประจำทีมได้ดีขึ้นครับ

Read more

สำหรับตัวเกม Gundam Evolution นี้ถ้าเพื่อนๆ ได้เข้ามาเล่นกันแล้วก็จะรู้เลยว่ามันมีหุ่นอยู่ตัวนึงที่ผู้เล่นหยิบมาเล่นกันบ่อยมาก แถมตัวมันก็ยังจัดว่าทรงพลังสุดๆ เลยด้วยกับตัวของ “กันดั้มบาบาทอส” น่ะเองครับ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นหุ่นที่เล่นยากแบบสุดขีดด้วยล่ะนะ ในวันนี้ผมเลยจะมาพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับหุ่นตัวนี้มากขึ้นน่ะเองครับ ข้อมูลพื้นฐานและความสามารถของหุ่น ค่าพลังชีวิต: 1,000 จำนวนครั้งในการพุ่ง: 3 ครั้ง ระยะการโจมตี: ระยะใกล้ ระดับความยากในการเล่น: ★★★★ ท่าการโจมตีต่างๆ ของหุ่นตัวนี้ คลิกซ้าย - Mace (Sweep): โจมตีประชิดใส่ศัตรูด้านหน้าพร้อมทำให้กระเด็นออกไป คลิกขวา - Mace (Smash): สามารถกดค้างเพื่อชาร์จได้ เมื่อกดปล่อยจะทำดาเมจใส่ศัตรูพร้อมทำให้ติดสตัน Q - Alaya Vijnana System: เมื่อกดใช้สามารถโจมตีได้ 3 ครั้งด้วยการพุ่งไปฟันและสร้างดาเมจมหาศาล F - Long Sword: ฟาดอาวุธลงที่พื้นใต้เท้า ทำดาเมจใส่ศัตรูพร้อมสตัน ศัตรูที่ตายจากท่านี้จะถูกทำลายทันที E - Boost Jump: กระโดดพุ่งตัวไปด้านหน้า สกิลจะรีเซ็ตทันทีหากฆ่าศัตรูได้ จุดเด่นของหุ่นตัวนี้ สำหรับตัวกันดั้มบาบาทอสนี้จะเป็นหุ่นฟรีเพียงตัวเดียวที่มาการโจมตีแบบระยะประชิดครับผม และในขณะเดียวกันก็เป็นหุ่นเพียงตัวเดียวด้วยที่ไม่มีการโจมตีระยะไกลแม้แต่ท่าเดียว ซึ่งเทียบกับหุ่นตัวอื่นๆ ในเกมที่มีแต่การโจมตีไกลเป็นหลักมันเลยส่งผลให้การเล่นกันดั้มตัวนี้จะมีสไตล์ค่อนข้างต่างจากเพื่อนพอสมควรเลยล่ะ ส่วนข้องดีของกันดั้มตัวนี้หลักๆ ก็จะมีอยู่ด้วยกัน 2 อย่างคือ:  1.เป็นหุ่นที่มีความคล่องตัวสูงมาก - ตัวหุ่นสามารถใช้ท่าพุ่งหรือแดชได้สูงสุดถึง 3 ครั้งเลย แถมยังมีสกิล Boost Jump ที่ไว้สำหรับกระโดดพุ่งไปด้านหน้าได้เหมาะสำหรับการกระโดดเข้าสู้หรือไม่ก็ไว้ใช้สำหรับการหนีน่ะเอง 2.การโจมตีสร้างความเสียหายได้รุนแรงมาก - บาบาทอสนั้นจัดเป็นหุ่นที่ทำดาเมจได้สูงสุดในเกมตอนนี้เลย ด้วยการคอมโบเพียงสองครั้งก็ทำดาเมจสูงกว่า 1,500 หน่วยเลยทีเดียว ซึ่งสามารถใช้ทำลายหุ่นทุกตัวในเกมได้ด้วยคอมโบนี้น่ะเอง (ยกเว้น Sazabi ที่ได้รับเกราะมาจะไม่ตาย)  3.โจมตีได้โดยไม่สนโล่ของศัตรู - อีกหนึ่งจุดเด่นของบาบาทอสก็คือการโจมตีทั้งหมดจะทะลุโล่ครับ ไม่ว่าจะเป็นโล่ของ RX78-2, Sazabi หรือ GM ก็ตามแต่บาบาทอสสามารถฟาดทะลุได้หมด ด้วยจุดเด่นทั้ง 3 ข้อที่กล่าวไปด้านบนนี้น่ะเองมันเลยทำให้บาบาทอสจัดเป็นหนึ่งในหุ่นที่ทรงพลังมากๆ และผู้เล่นหลายคนก็ยังชอบที่จะหยิบมันมาเล่นด้วยน่ะเองครับ แนวทางการเล่นกันดั้มบาบาทอส สำหรับการเล่นกันดั้มบาบาทอสนั้นถ้าจะเล่นให้ได้ประสิทธิภาพจริงๆ เราก็ควรเล่นไปในสไตล์เดียวกับพวกตัวล้วงอย่าง Zaku ไม่ก็ Exia ครับ โดยอาศัยการลอบเข้าไปเก็บแนวหลังของฝ่ายตรงข้ามก่อนหรือไม่ก็เข้าไปหาศัตรูทีเผลอโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวน่ะเอง เหตุผลที่บาบาทอสควรเล่นในสไตล์นี้เป็นเพราะว่าหุ่นตัวนี้ไม่มีการโจมตีอาวุธระยะไกล ถึงแม้จะมีพลังโจมตีที่สูงสุดๆ หรือสกิลที่สามารถทำสตันได้แต่ทุกท่าก็ล้วนแล้วต้องเข้าไปแนบติดตัวฝ่ายตรงข้ามหมดเลย ซึ่งตรงนี้ถ้าเกิดเราเดินลุยไปตรงหน้ามันจะทำให้เราโดนกระสุนยิงตัวแตกได้ง่ายๆ หรือไม่ก็เล่นได้อีกบทบาทคือ “ตัวทำลายโล่” ครับ ในกรณีถ้าอีกทีมมี Sazabi หรือ GM ที่เป็นตัวปัญหากับทีมเรา เราอาจพุ่งไปกำจัดเจ้าสองตัวนี้ก่อนเพื่อให้ทีมสู้ง่ายขึ้น  โดยวิธีที่ผู้เล่นนิยมกันสุดก็คือ การคลิกขวาค้าง (Mace - Smash) ไว้จากนั้นก็วิ่งหลบตามหัวมุมกำแพงต่างๆ ไปจนใกล้กับศัตรูแล้วค่อย Shift - พุ่ง (Dash) เข้าใส่แล้วปล่อยเมาส์เพื่อฟาดลงศัตรู จากนั้นตามด้วยการฟาดลงพื้น F - Long Sword ซึ่งคอมโบนี้ก็ฆ่าได้เกือบทุกตัวแล้ว ถ้าเกิดไม่ตายก็อาจฟาดธรรมดาไปอีกสักครั้งนึงก่อนจะใช้ท่า E - Boost Jump ในการกระโดดหนีออกมา สิ่งที่ต้องระวังเลยสำหรับการเล่นคอมโบนี้คือห้ามใช้ Boost Jump ในการเปิดเพราะมันจะใช้คอมโบกับท่าชาร์จทุบไม่ได้แถมยังทำให้เราไม่มีสกิลไว้หนีอีกด้วย ส่วนอีกคอมโบก็คือการใช้ E - Boost Jump ในการกระโดดไปเหนือหัวศัตรูแล้วกดท่า F - Long Sword กลางอากาศเพราะเมื่อเราใช้ท่าดังกล่าวตอนอยู่บนฟ้าตัวบาบาทอสจะพุ่งลงมาฟาดที่พื้นทันทีเป็นเหมือนการแคนเซิลอนิเมชั่นอย่างนึง เมื่อสตันโดนศัตรูแล้วก็ค่อยตีธรรมดาอีกสัก 1 - 2 ครั้งก่อนแดชหนีออกมา เพียงแต่คอมโบนี้จะไม่ค่อยเวิร์คกับพวกตัวถึกๆ เลือด 1000+ แถมตอนกระโดดด้วยท่า Boost Jump ค่อนข้างเสียงดังถ้าอีกฝ่ายได้ยินก็หนีได้ง่ายๆ เลยล่ะ สิ่งที่ต้องระวังในการเล่นกันดั้มบาบาทอส ในการเล่นกันดั้มบาบาทอสนั้นสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังอย่างมากคือเรื่องท่าการโจมตี “คลิกขวาค้าง” หรือ Mace - Smash นั้นล่ะครับ ซึ่งถ้าเกิดใครได้ลองเข้าไปเล่นแล้วจะรู้เลยว่ามันใช้ยากมากทีเดียว ท่านี้จะตีออกไปด้านหน้าตรงๆ เท่านั้นไม่มีการทำดาเมจด้านข้างแม้แต่น้อยซึ่งถ้าอีกฝ่ายรู้จุดอ่อนนี้แค่พวกเขาแดชหลบหรือเดินหลบออกข้างนิดหน่อยถ้านี้ก็จะวืดได้ง่ายๆ เลยล่ะ  อีกสิ่งที่ต้องระวังคือ “อย่าห่วงฆ่าจนเกินไป” นี่คือหนึ่งในปัญหาที่มือใหม่บาบาทอสเป็นกันบ่อยมากคือการพุ่งไปฆ่าโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น ชั้นต้องฆ่าให้ได้ถึงตายก็ยอม ซึ่งเอาเข้าจริงมันเป็นอะไรที่ผิดมากเลยล่ะ ตรงนี้เพื่อนๆ ต้องคิดให้ดีเสมอว่าการเข้าไปสู้เนี่ยมันคุ้มไหม? เข้าไปแล้วตายรึเปล่า? จะหนีทันไหม? เพราะการที่เราเข้าไปตายแบบปิดสมองเพียงคนเดียวมันก็อาจทำให้อีกฝ่ายพลิกเกมกลับมาชนะได้ ซึ่งถ้าใครเป็นมือใหม่ก็ต้องระวังตรงนี้ให้มากเลยน่ะเองครับ หุ่นแก้ทางหรือหุ่นที่กันดั้มบาบาทอสควรระวัง Turn A Gundam ตัวแรกที่ต้องระวังคือ Turn A ครับเนื่องจากหุ่นตัวนี้จะมี ท่าจับทุ่ม (Overhead Throw) อยู่ เพราะระหว่างที่ใช้ท่านั้นเราไม่สามารถขับท่าของมันได้เลย แถมเมื่อโดนจับโยนไปแล้วตัวของเราจะถูกสตันอีกด้วย ซึ่งในจังหวะดังกล่าวอีกฝ่ายก็กระทืบให้เราระเบิดได้เลยล่ะ Marsai (UC) ตัวต่อมาคือ Marsai (UC) ครับ ซึ่งท่าที่เราต้องระวังจากหุ่นตัวนี้คือ Sea Snake (Ensnare) หรือที่เรียกกันติดปากว่าท่าฮุคนั่นล่ะ เมื่อเราโดนท่านี้เข้าไปตัวของเราจะถูกดึงเข้าไปหาศัตรูครับแถมยังติดสตันพ่วงมาอีกต่างหาก ซึ่งถ้าเจอคนที่คอมโบเป็น ดึง > ยิง > แทง > ยิง คอมโบเดียวบาบาทอสก็เป็นผงได้แล้วครับ อีกท่าที่ต้องระวังก็คืออัลติของหุ่นตัวนี้ครับเพราะถ้าโดนจะถูกช็อตอยู่กับที่ไปกว่า 2 - 3 วิเลยล่ะ Sazabi ตัดถัดมาคือ Sazabi ครับ ถึงแม้เจ้าหุ่นตัวนี้จะแก้ทางได้ง่ายๆ ด้วยบาบาทอสแต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นตัวแก้ทางที่น่าตัวอีกกลัวของบาบาทอสด้วยเช่นกัน โดยท่าที่เราต้องระวังก็คือ Beam Tomahawk หรือท่าปาขวานนั่นล่ะ เพราะเมื่อเราโดนจะติดสตันทันทีส่งผลให้อีกฝ่ายสามารถเอาปืนลูกซองมายิงจ่อหัวได้สบายเลย หุ่นปู่ Gundam RX78-2 ตัวที่ต้องระวังต่อไปคือปู่หรือกันดั้ม RX78-2 น่ะเองครับ ซึ่งถ้าที่ต้องระวังคือ Hyper Hammer หรือท่าเหวี่ยงลูกตุ้มนั่นละ เหมือนกับ 3 ตัวก่อนหน้านี้เลยเมื่อเราโดนลูกตุ้มเข้าหน้าก็จะติดสตันและถูกยิงระเบิดได้ในเวลาต่อมา GMตัวสุดท้ายที่ควรระวังคือ GM ครับกับท่า Shield Bash หรือโล่กระแทกนั่นละ ถึงแม้ท่านี้จะไม่ได้ทำดาเมจมากนักแต่เวลาเราโดนตัวเราจะกระเด็นถอยหลังกลับมาครับ ซึ่งไอช่วงที่กระเด็นกลับมานี้เราทำอะไรไม่ได้ด้วยคล้ายๆ โดนสตันก็ไม่ผิดนักแน่นอนว่ามันก็ทำให้เราตายได้ง่ายๆ ด้วยเช่นกันครับผม

Read more

กลับมาในเกม Gundam Evolution ต่อกันเลยครับ สำหรับเรื่องที่ผมจะมาแนะนำในวันนี้ก็คือ “โหมดการเล่นภายในเกม” น่ะเอง เนื่องจากเราจะพบผู้เล่นหลายคนเล่นเป็น TDM ไล่ยิงกันอย่างเดียวไม่สนภารกิจเนี่ยสิ ผมเลยคิดว่าเพื่อนๆ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าแต่ละโหมดต้องทำอะไรบ้าง จึงตัดสินใจหยิบหัวข้อนี้มาแนะนำกันน่ะเองครับผม โหมดหลักภายในเกมนี้มีทั้งหมดกี่แบบ? สำหรับโหมดหลักภายเกม Gundam Evolution นี้มีอยู่ด้วยกัน 3 โหมดใหญ่คือ Competitive, Practice และ Custom Match ครับ โดยในส่วนของสองโหมดหลังก็จะไม่มีรายละเอียดสำคัญมากเท่าไหร่นัก แต่กับใน Competitive นั้นด้านในจะมีการแยกย่อยออกไปเป็นอีก 2 ประเภทและ 3 โหมดย่อยด้วยกันซึ่งผมจะได้อธิบายเพื่อนๆ เข้าใจกันในลำดับถัดไปนี้น่ะเองครับ เอาล่ะเรามาเริ่มกันด้วยโหมดแรกของตัวเกมอย่าง “โหมดแข่งขัน” หรือ Competitive Mode กันก่อนเลย โหมดแข่งขัน Competitive Mode มาเริ่มกันด้วยโหมดหลักประจำเกมนี้กันเลยดีกว่ากับ Competitive Mode หรือ “โหมดการแข่งขัน” นั่นเองครับ โหมดที่ให้ผู้เล่นเข้าไปยิงกันเองนั่นแล่ะโดยจะมาในลักษณะของ 6vs6 ครับผม ซึ่งในโหมดแข่งขันนี้ก็จะมีการแบ่งแยกออกไปอีก 2 ประเภทย่อยด้วยกันคือ:  Casual Match - โหมดการเล่นทั่วไปซึ่งสามารถเข้าเล่นได้ทุกคนและทุกช่วงเลเวลครับ การแพ้ชนะในโหมดนี้จะไม่มีผลอะไร Rank Match - โหมดการลงแรงค์เพื่อไต่อันดับ โหมดนี้ผู้เล่นจะสามารถเข้ามาเล่นได้ก็ต่อเมื่อบัญชีมีเลเวล 20 ขึ้นไปแล้วเท่านั้น หากชนะก็จะได้แต้มแรงค์มาและถ้าหากแพ้แต้มก็จะลดแถมยังสามารถถูกลดระดับแรงค์ลงได้ด้วย โดยไม่ว่าจะเป็น Casual Match หรือ Rank Match ก็ตามแต่ ภายในทั้งสองประเภทนี้จะมีโหมดการเล่นและด่านที่เหมือนกันเลยครับ ซึ่งประกอบไปด้วยโหมดการเล่นย่อยอีก 3 แบบคือ Point Capture, Destruction และ Domination ครับผม ไม่ว่าจะเป็นตัวด่านหรือตัวโหมดก็ตามทีทางตัวเกมจะสุ่มมาให้เราหมดทั้งสิ้นครับ โหมดการเล่น Point Capture โหมดย่อยแรกที่เราจะมาพูดถึงกันคือ Point Capture หรือ “โหมดยึดจุด” ครับ ซึ่งเป้าหมายของโหมดการเล่นนี้ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย ฝ่ายโจมตีจะต้องเข้าไปยึดจุดที่กำหนดให้ได้ ในขณะที่ฝ่ายป้องกันก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามายึดจุดได้น่ะเองครับ ภายในโหมดนี้เมื่อเริ่มด่านจะมีตำแหน่ง A และ B กำหนดไว้อยู่ โดยที่ทางฝ่ายโจมตีต้องเข้ายึดจุด A ให้สำเร็จเสียก่อนจึงจะทำให้จุด B เปิดต่อ ซึ่งตัวเกมมีการแบ่งออกเป็น 2 รอบผลัดกันระหว่างทีมโจมตีและทีมป้องกันและวัดผลแพ้ชนะกันที่แต้มตอนท้ายเกม แต่ถ้าเกิดสมมุติเล่นจบทั้งสองรอบแล้วทั้งสองฝ่ายมีคะแนนเท่ากันตัวเกมจะเพิ่มโหมดต่อเวลาหรือ Overtime Match มาให้ตัดสินอีก 2 รอบครับ ฝั่งโจมตีจะสามารยึดจุดได้ไวขึ้นเมื่อมีคนเข้าไปยืนอยู่ในจุดมากขึ้นครับ โดยจะสามารถเร่งเวลาการยึดได้สูงสุดที่ x3 ซึ่งสังเกตได้จากหัวลูกศรตรงแถบด้านบนน่ะเอง ดังนั้นการโถมเข้าไปยึดทั้งทีม 6 คนก็ไม่ต่างอะไรกับการเข้าไปยึดแค่ 3 คนเลย นอกจากนี้ในการยึดจุดจะมีเส้นแบ่งเอาไว้ที่ 25, 50 และ 75% เมื่อแต้มการยึดไปถึงเส้นดังกล่าวมันจะค้างอยู่ที่เส้นนั้นไม่ลดน้อยลงไปกว่านี้ ทำให้เมื่อฝ่ายบุกเริ่มเข้าไปยึดอีกครั้งแต้มก็เริ่มจากเส้นดังกล่าวแทนไม่ต้องไปเริ่มจาก 0 แต่อย่างใดครับ โหมดการเล่น Destruction โหมดย่อยลำดับถัดมานั้นก็ได้แก่ Destruction หรือ “โหมดวางระเบิด” น่ะเอง หนึ่งในโหมดคลาสสิคที่เราพบได้ในเกม FPS ทั่วไป ซึ่งแน่นอนว่าสไตล์การเล่นก็ยังคงเช่นเดิมคือฝ่ายโจมตีต้องบุกเข้าไปวางระเบิดและป้องกันจนกว่าระเบิดจะทำงาน ในขณะที่ฝ่ายป้องกันก็ต้องทำทุกอย่างไม่ให้อีกทีมบุกมาวางได้และถ้าวางสำเร็จก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อเข้าไปแก้ระเบิดดังกล่าวให้ได้น่ะเอง การเล่นในโหมดนี้คล้ายกับโหมด Point Capture คือจุดในการเล่นทั้ง 2 จุดครับ แต่ต่างกันที่ A และ B นั้นจะใช้แทนตำแหน่งจุดวางระเบิดครับแถมทั้งสองตำแหน่งยังเปิดพร้อมกันด้วย มันเลยกลายเป็นว่าฝ่ายป้องกันค่อนข้างลำบากพอสมควรเพราะต้องคอยวิ่งไปมาทั้งสองตำแหน่งน่ะเอง ในขณะที่ฝ่ายโจมตีก็สามารถวางแผนโถมไปรุมกับจุดเดียว หรือแบ่งออกเป็นสองทีมบุกเข้าไปวางคนละจุดก็ได้เช่นกัน แต่ต้องระวังไว้ว่าการวางระเบิดจะทำได้ครั้งละตำแหน่งเท่านั้นไม่สามารถวางพร้อมกันทั้ง A และ B ได้น่ะเอง หนึ่งความแตกต่างจากเกม FPS อื่นคือการวางและการกู้ระเบิดภายในเกมนี้จะทำกี่ครั้งก็ได้ตราบจนกว่าเป้าหมายระเบิดหรือจนกว่าเวลาหมดครับ ไม่เหมือนกับหลายๆ เกมที่ถ้าวางระเบิดแล้วกู้เสร็จตัวเกมจะจบทันที ตรงนี้มันเลยทำให้มีเวลาคิดแผนต่างๆ ได้พอสมควรเลยครับ โหมดการเล่น Domination โหมดย่อยลำดับสุดท้ายนั้นได้แก่ Domination หรือ “โหมดยึดแต้ม” ส่วนเป้าหมายของโหมดนี้คือการเข้าไปยึดจุดที่ตัวเกมกำหนดไว้จากนั้นก็รอให้แต้มเด้ง ฝ่ายไหนที่แต้มถึง 100% ก่อนหรือมีแต้มสูงสุดตอนก่อนเวลาหมดก็จะได้แต้ม โดยจะมีการวัดผลแพ้ชนะกันที่ฝ่ายไหนทำได้ 2 แต้มก่อนก็ชนะไปน่ะเองครับ สำหรับโหมด Domination นี้ค่อนข้างแตกต่างจากอีก 2 โหมดคือไม่มีการแบ่งฝ่ายโจมตีหรือฝ่ายบุกแต่อย่างใดทั้งสองฝ่ายจะถูกปล่อยออกมาพร้อมกันเมื่อเวลานับถอยหลังเสร็จ ภายในโหมดการเล่นนี้แต่ละด่านจะมีจุด A, B และ C กำหนดไว้และมีการเปิดเป็นเวลาโดยสิ่งที่เราต้องทำก็คือการเข้าไปยึดจุดดังกล่าวในช่วงที่เปิดน่ะเองครับ พอจุดดังกล่าวหมดเวลาทางตัวเกมก็จะมีการระบุขึ้นมาให้เรารู้ทันทีว่าจุดต่อไปอยู่ตรงไหนก็ให้เราไปลุยกันต่อได้เลย ในส่วนของจุดทำคะแนนนั้นถ้าหากเรายึดได้แล้วต่อให้ไม่มีคนในทีมเรายืนอยู่ในจุดเลยตัวคะแนนก็จะยังเพิ่มขึ้นอยู่ดีครับ เพียงแต่ต้องระวังไว้ว่าถ้าหากมีอีกทีมแม้แต่คนเดียวเข้ามาอยู่ในจุดดังกล่าวมันจะเข้าสู่สถานะ Contest ทันทีและทำให้คะแนนเราไม่เพิ่มน่ะเอง โหมดฝึกซ้อม Practice Mode สำหรับโหมดนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันแต่อย่างใดแล้วครับกับ Practice Mode หรือ “โหมดฝึกซ้อม” นั่นล่ะ ซึ่งก็เหมือนกับเกมแนว FPS หลายๆ เกมที่จะต้องมีห้องซ้อมไว้ให้เราทดสอบโน่นทดสอบนี่หรือไว้วอร์มมือก่อนลงสนามแน่นอนว่าภายในเกม Gundam Evolution ก็มีโหมดนี้ไว้รองรับอยู่นั่นเองครับ ซึ่งเมื่อกดเข้าไปแล้วตัวเกมจะให้เราเลือกหุ่นที่ต้องการเข้าไปทดสอบ (หุ่นที่ยังไม่ปลดเลือกไม่ได้นะ) เมื่อลงสนามมาเราก็จะเจอกับ Zaku มากมายเต็มไปหมด ทั้งตัวยืนอยู่กับที่, ตัวเดินไปมา หรือตัวที่ยิงอยู่ก็ตามที แถมเวลาเราทำดาเมจยังมีค่าตัวเลขขึ้นแสดงให้เห็นด้านซ้ายมืออีกด้วย เรียกว่ามีให้ฝึกปรือครบครันเลยทีเดียว ใครยังไม่ชินตัวไหนหรือยังไม่มั่นใจก็มาฝึกที่นี่ก่อนแล้วค่อยไปลงสนามจริงก็ได้ครับผม โหมดสร้างห้อง Custom Match โหมดการเล่นนี้นั้นก็จะเหมือน Competitive Mode แทบทุกประการเลยก็ได้ครับสำหรับ Custom Match หรือ “โหมดสร้างห้อง” เพียงแต่เปลี่ยนจากการกดสุ่มหาห้องไปเป็นการสร้างห้องส่วนตัวที่สามารถจุผู้เล่นได้สูงสุด 12 คนน่ะเอง เรียกว่าเป็นโหมดที่เอาไว้ใช้เล่นกับเพื่อนก็ได้ครับ เนื่องจากการเล่นโหมดปกตินั้นทีมนึงจะจุได้เพียง 6 คน ถ้ามีคนเกินขึ้นมาเราก็จะไปด้วยกันไม่ได้เราเลยต้องแก้ปัญหาด้วยการสร้างห้อง Custom Match มาเล่นกันเองนี่ล่ะครับ ซึ่งเราสามารถปรับได้หมดว่าจะเล่นโหมดไหน Domination, Capture Point หรือ Destruction แถมแต่ละโหมดเรายังเลือกแมพได้อีกต่างหาก เอาจริงๆ โหมดนี้มันก็สามารถใช้เป็นสนามซ้อมอีกแบบได้ด้วยนะ เกิดเราไม่ถนัดด่านนั้นด่านนี้ก็สามารถรวมตัวสมาชิกทีมมาฝึกใน Custom Match นี้ก็ได้เช่นกันครับผม

Read more

สำหรับวันนี้เราจะมาในเกม Gundam Evolution กันครับ โดยเรื่องที่จะมาพูดถึงก็คือเรื่องของ “ตัวหุ่น” น่ะเอง เรามาดูกันดีกว่าว่าในเกมนี้มีหุ่นกี่ตัว แต่ละตัวมีสกิลอะไรบ้าง รวมถึงแนวทางการเล่นคร่าวๆ ของหุ่นแต่ละตัวด้วยครับผม เกี่ยวกับหุ่นยนต์ภายในเกมนี้ ตัวเกม Gundam Evolution ในแพทช์ปัจจุบัน (เดือน กันยายน) นั้นจะมีหุ่นยนต์ให้เราเลือกเล่นด้วยกันทั้งหมด 17 ตัว ครับ โดยจะแบ่งออกเป็นหุ่นที่ปลดล็อกมาให้ทันที 12 ตัว และหุ่นใหม่อีก 5 ตัวที่ผู้เล่นต้องไปปลดล็อกกันในเกมอีกทีนึงน่ะเอง  ซึ่งแน่นอนว่าพอในเกมมาแนว Hero Shooter ด้วยแล้วมันก็ย่อมจะทำให้ความสามารถของหุ่นแต่ละตัวแตกต่างกันออกไป รวมถึงแนวทางสไตล์การเล่นต่างๆ เองด้วย โดยในวันนี้เราจะมาดูกันดีกว่าว่าหุ่นทั้ง 17 ตัวนั้นแต่ละตัวมีความสามารถอะไรกันบ้าง รวมถึงผมจะมาแนะนำสไตล์การเล่นคร่าวๆ ให้เพื่อนๆ ได้เรียนรู้กันครับเผื่อบางคนไม่รู้เล่นอะไรยังไงดีน่ะเอง  Pale Rider ค่าพลังชีวิต: 1,000 จำนวนครั้งในการพุ่ง: 2 ครั้ง ระยะการโจมตี: ระยะกลาง ระดับความยากในการเล่น: ★★ อาวุธหลัก - Bullpup Machine Gun  คลิกซ้าย: ยิงปืนกลออกไปเป็นชุดทำดาเมจได้ดีในช่วงระยะกลาง คลิกขวา: ทำการขึ้นลำกล้องส่งผลให้ปืนยิงแม่นขึ้น แต่ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ สกิลของหุ่น Q - Hades: เข้าสู่โหมด Hades เพิ่มความเสียหายในการยิงและรีโหลดไวขึ้น F - Hand Grenade: ปาระเบิดออกไปด้านหน้าเพื่อสร้างความเสียหาย E - EMP Grenade: ปาระเบิดออกไปด้านหน้าเพื่อลดความเร็วของศัตรู C - Repair Pod: โยนเสาออกไปด้านหน้าเพื่อใช้สำหรับรักษาตัวเองและเพื่อนร่วมทีม แนวทางการเล่น Pale Rider นั้นจะเน้นสไตล์การเล่นเป็นตัวทำดาเมจประจำทีมครับ โดยเน้นการทำดาเมจจากระยะกลางเป็นหลัก นอกจากนี้ถ้าเกิดโดนดาเมจเยอะมากๆ เรายังถอยมาวางเสาฮีลเพื่อเติมเลือดก่อนกลับไปลุยต่อ หรือเราจะเก็บเสาฮีลไปไว้ช่วยเพื่อนที่ใกล้ตายแทนก็ได้เช่นกันครับ  Gundam RX78-2 ค่าพลังชีวิต: 1,000 จำนวนครั้งในการพุ่ง: 2 ครั้ง ระยะการโจมตี: ระยะกลาง ระดับความยากในการเล่น: ★★★ อาวุธหลัก - Beam Rifle คลิกซ้าย: ยิงปืนบีมไรเฟิลออกไปเพื่อทำดาเมจใส่ศัตรู เหมาะสำหรับโจมตีระยะกลาง คลิกขวา: ทำการขึ้นลำกล้องเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการยิง สกิลของหุ่น Q - Super Napalm: ปาระเบิดนาปาล์มออกไป สร้างความเสียหายรุนแรงพร้อมทำดาเมจวงกว้าง F - Hyper Hammer: ทำการเหวี่ยงลูกตุ้มเหล็กออกไปด้านหน้า เพื่อทำดาเมจและสตันใส่ศัตรู สามารถใช้ทำลายโล่ศัตรูได้ E - Gundam Shield: หยิบโล่ขึ้นมาเพื่อป้องกันดาเมจ แนวทางการเล่น Gundam Rx78-2 นั้นสไตล์การเล่นจะคล้ายๆ Pale Rider ครับคือการทำดาเมจจากระยะกลางเป็นหลัก แต่ถ้าเกิดว่าเจออีกทีมมีตัวถือโล่มาเราก็สามารถเข้าไปโยนลูกตุ้มทำลายโล่อีกฝ่ายเพื่อสร้างความได้เปรียบให้ทีมเราได้ด้วยล่ะนะ ส่วนอัลติก็เรียกว่าเป็นไพ่ตายในการพลิกสถาการณ์ได้เลยล่ะ Zaku II (Ranged) ค่าพลังชีวิต: 800 จำนวนครั้งในการพุ่ง: 3 ครั้ง ระยะการโจมตี: ระยะใกล้ ระดับความยากในการเล่น: ★★★★ อาวุธหลัก - Zaku Machine Gun คลิกซ้าย: ยิงปืนกลออกไปทำดาเมจใส่ศัตรู  ซึ่งได้ผลสูงสุดเมื่อยิงในระยะใกล้หรือประชิด สกิลของหุ่น Q - Heat Hawk Slash: หยิบขวานพุ่งไปด้านหน้า โจมตีและสตันศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในเส้นทาง F - Cracker Grenade: ปาระเบิดออกไปทำดาเมจใส่ศัตรู พร้อมทำให้กระเด็นและสตันช่วงสั้นๆ  E - Smoke Discharger: เปิดระเบิดควัน ทำให้ไม่โดนดาเมจทุกอย่างชั่วคราว แนวทางการเล่น Zaku II นั้นสไตล์การเล่นจะเป็นตัวลอบเข้าไปโจมตีอีกฝ่ายครับ เนื่องจากตัวปืนกลถึงแม้จะยิงรัวมากๆ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ไม่มีความแม่นยำเลยทำให้ต้องเข้าไปแนบเนื้อศัตรูเพื่อหวังผลน่ะเอง ซึ่งหุ่นตัวนี้นับว่าเป็นหุ่นที่ดีมากในการแอบเข้าไปเก็บตัวระยะไกลอีกฝ่ายหรือใช้บุกจากด้านหลังอีกฝ่ายก็ได้เช่นกันครับ Gundam Barbatos ค่าพลังชีวิต: 1,000 จำนวนครั้งในการพุ่ง: 3 ครั้ง ระยะการโจมตี: ระยะใกล้ ระดับความยากในการเล่น: ★★★★ อาวุธหลัก - Mace คลิกซ้าย: โจมตีประชิดใส่ศัตรูด้านหน้าพร้อมทำให้กระเด็นออกไป คลิกขวา: สามารถกดค้างเพื่อชาร์จได้ เมื่อกดปล่อยจะทำดาเมจใส่ศัตรูพร้อมทำให้ติดสตัน สกิลของหุ่น Q - Alaya Vijnana System: เมื่อกดใช้สามารถโจมตีได้ 3 ครั้งด้วยการพุ่งไปฟันและสร้างดาเมจมหาศาล F - Long Sword: ฟาดอาวุธลงที่พื้นใต้เท้า ทำดาเมจใส่ศัตรูพร้อมสตัน ศัตรูที่ตายจากท่านี้จะถูกทำลายทันที E - Boost Jump: กระโดดพุ่งตัวไปด้านหน้า สกิลจะรีเซ็ตทันทีหากฆ่าศัตรูได้ แนวทางการเล่น Gundam Barbatos สไตล์การเล่นนั้นจะเป็นการเข้าไปทำดาเมจระยะประชิดตามอาวุธนั่นล่ะครับ โดยส่วนใหญ่เน้นการชาร์จก่อนแล้วแดชเข้าไปตีจากนั้นก็ตามด้วยท่าฟาดพื้นเพื่อปิดคอมโบ ก่อนจะใช้ท่ากระโดดในการหลบหนีออกมาน่ะเอง เป็นอีกหนึ่งตัวที่เล่นค่อนข้างยากและต้องใช้การฝึกพอสมควรเลย Sazabi ค่าพลังชีวิต: 1,400 จำนวนครั้งในการพุ่ง: 1 ครั้ง ระยะการโจมตี: ระยะใกล้ ระดับความยากในการเล่น: ★★★ อาวุธหลัก - Beam Shot Rifle คลิกซ้าย: ยิงกระสุนกระจายออกไปด้านหน้าในลักษณะคล้ายปืนลูกซอง ได้ผลดีในระยะประชิด ดาเมจจะลดลงตามระยะที่ห่างออกไป คลิกขวา: กดค้างเพื่อยกโล่ขึ้นมาด้านหน้าไว้รับดาเมจจากศัตรู ระหว่างที่ยกโล่อยู่สามารถยิงได้ปกติ สกิลของหุ่น Q - Funnels: ปล่อยฟันเนลออกไปโจมตีศัตรูอัตโนมัติ F - Beam Tomahawk: ปาขวานออกไปเพื่อทำดาเมจและสตันศัตรู E - Homing Boost: กดเพื่อพุ่งไปหาเพื่อนร่วมทีมหรือขวานที่ปาออกไป ระหว่างที่พุ่งจะทำดาเมจและผลักศัตรูที่อยู่ในเส้นทาง C - Enemy Seach: สแกนหาศัตรูที่อยู่หลังกำแพงด้านหน้าชั่วคราว แนวทางการเล่น Sazabi นั้นสไตล์การเล่นจะเป็นตัวแทงค์ประจำทีมครับ ด้วยจากการที่ค่าพลังชีวิตสูงมากแถมยังสามารคลิกขวาเพื่อยกโล่มารับดาเมจได้ด้วยหน้าที่หลักๆ ก็คือยืนชนให้เพื่อนนั่นละครับ ส่วนอีกหน้าที่ก็คือการเอาขวานไว้ใช้สตันศัตรูอาจปาใส่ตัวดาเมจหลักของอีกทีมหรือไม่ก็พวกตัวลอบเข้ามาโจมตีอย่าง บาบาทอส หรือ Exia ก็ได้ครับผม Methuss ค่าพลังชีวิต: 800 จำนวนครั้งในการพุ่ง: 2 ครั้ง ระยะการโจมตี: ระยะกลาง ระดับความยากในการเล่น: ★★★ อาวุธหลัก - Arm...

Read more

Tighnari ตัวละครธาตุพืช 5 ดาวตัวแรกของ Genshin Impact โดยเจ้าหน้าที่หูยาวผู้นี้ได้เข้ามาพร้อมอัปเดต 3.0 โดยในแพทช์นี้นักเดินทางจะสามารถได้รับเขาจากตู้กาชาตัวละคร และหลังจากอัปเดต 3.1 นักเดินทางจะสามารถสุ่มได้เขาจากตู้กาชาถาวรด้วย นับว่าเป็นครั้งแรกของเกมเลยที่มีการเพิ่มตัวละครระดับ 5 ดาวลงในตู้กาชาถาวรแบบนี้ แนะนำตัวละคร และรูปแบบการเล่นของ Tighnari แบบคร่าว ๆ การชาร์จยิงของเขาจะสะสมได้สองขั้น หากชาร์จจนครบ 2 ขั้นแล้วจะเป็นการยิงลูกธนูแบบพิเศษออกไป โดยตัวลูกธนูจะแตกออกเป็น 4 เส้นเมื่อยิงโดนเพื่อทำความเสียหายเพิ่มเติมใส่ศัตรู สกิลจะเป็นการปาระเบิดดีบัฟออกไปด้านหน้าของตัวละคร ศัตรูที่อยู่ภายในควันจะถูกหลอกล่อเป้าการโจมตี นอกจากนี้ตัวเขาเองจะได้รับบัฟชาร์จยิงไวขึ้น ซึ่งจะหายไปเมื่อชาร์จยิงจนครบ 3 ครั้ง ท่าไม้ตายจะทำการยิงลูกธนูติดตามออกไป เมื่อลูกธนูโดนเป้าหมายแล้วจะแตกออกเป็นลูกธนูย่อยเพื่อโจมตีเป้าหมายเดิมอีก แนะนำอาวุธ สำหรับอาวุธแนะนำจะมีอยู่ 5 แบบด้วยกัน คือ Hunter’s Path, Aqua Simulacra, Skyward Harp, Amos Bow และ Hamayumi  Hunter’s Path ธนูประจำตัว เพิ่มโบนัสความเสียหายธาตุ และจะได้บัฟเพิ่มดาเมจของการชาร์จโจมตีขึ้นตามค่าชำนาญธาตุของตัวละคร ซึ่งตัวเขาเองมีสกิลเพิ่มความเสียหายที่ทำได้ตามค่าชำนาญธาตุอยู่แล้ว ทำให้เทสเตตัสไปชำนาญธาตุได้อย่างสบายใจ Aqua Simulacra  อาวุธที่แรงรองลงมาจากอาวุธประจำตัว แต่ติดเงื่อนไขที่ต้องอยู่ใกล้ศัตรูถึงจะเพิ่มความแรงได้สูงสุด แม้จะยุ่งยากอยู่บ้าง แต่ก็ยังถือว่าเป็นอาวุธที่ดีอีกชิ้นหากไม่มีอาวุธประจำตัว Skyward Harp ธนูที่เพิ่มทั้งค่าอัตราคริ และความแรงคริ ซึ่งส่งผลโดยตรงถึงความแรงของสกิล และท่าไม้ตายเช่นเดียวกับค่าชำนาญธาตุ Amos Bow แม้ตัวละครจะไม่ได้รับประโยชน์จากพลังโจมตีที่อาวุธให้มามากนัก แต่ก็ยังเป็นสเตตัสที่ช่วยเพิ่มแรงได้อยู่ แถมตัวธนูยังมีสกิลช่วยเพิ่มความเสียหายการชาร์จยิงอีกด้วย Hamayumi เป็นธนูทางเลือก 4 ดาวสำหรับผู้เล่นที่ไม่มีอาวุธ 5 ดาว ตัวธนูมีสกิลเพิ่มความเสียหายการชาร์จยิง และมีสเตตัสเป็นค่าพลังโจมตี แนะนำอาร์ติแฟกต์ สำหรับอาร์ติแฟกต์ จะเน้นไปที่ค่าสเตตัสอย่างค่าชำนาญธาตุ อัตราคริ และความแรงคริ ส่วนอัตราฟื้นฟูพลังงาน กับพลังโจมตีจะสำคัญรองลงมา นาฬิกาใส่เป็นค่าชำนาญธาตุ ถ้วยโบนัสความเสียหายไม้ หมวกอัตราคริ หรือความแรงคริ อาร์ติแฟกต์มีแนะนำอยู่ 2 เซ็ต คือ 4 Wanderer’s Troupe และ 4 Gilded Dreams Wanderer’s Troupe เพิ่มค่าชำนาญธาตุ 80 หน่วย หากผู้สวมใส่เป็นผู้ใช้สื่อเวท หรือ ธนู จะเพิ่มโบนัสความเสียหายการชาร์จโจมตี 35% Gilded Dreams เพิ่มค่าชำนาญธาตุ 80 หน่วย เมื่อทำปฏิกิริยาธาตุ จะได้รับบัฟตามตัวละครที่ธาตุเหมือนกัน หรือต่างกันในทีม เป็นเวลา 8 วินาที  โดยตัวละครที่ธาตุเดียวกันจะให้บัฟพลังโจมตี 14% ส่วนตัวละครที่ธาตุต่างกันจะให้ค่าชำนาญธาตุ 50 หน่วย แนะนำสมาชิกทีม  ทีมที่แนะนำได้แก่ Dendro Traveler / Collei / Fischl และ Yae Miko โดยในทีมของ Tighnari ควรมีตัวละคร 1 ตัวที่สวมใส่อาร์ติแฟกต์ 4 Deepwood Memories เพื่อช่วยลดต้านทานธาตุพืช และมีตัวละครธาตุสายฟ้า 1 ตัว เพื่อช่วยทำดีบัฟสายฟ้าเพื่อทำปฏิกิริยาเพิ่มดาเมจ  Dendro Traveler / Collei เป็นตัวละครธาตุพืชอีกสองตัวที่สามารถเลือกใช้ 1 ตัวมาช่วยเปิดใช้งานสั่นพ้องพืชได้ นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูพลังงานของ Tighnari ได้ดีอีกด้วยเพราะเป็นธาตุเดียวกัน Fischl / Yae ตัวละครธาตุสายฟ้าที่ช่วยดีบัฟสายฟ้าใส่ศัตรูได้อย่างต่อเนื่อง แล้วยังสามารถทำความเสียหายได้ดีอีกด้วย พรสวรรค์ เน้นอัปเลเวลการโจมตีปกติเป็นหลัก เนื่องจากการชาร์จโจมตีเป็นส่วนที่ทำความเสียหายรวมได้มากที่สุด รองลงมาเป็นท่าไม้ตาย ส่วนสกิลธาตุจะทำความเสียหายได้น้อยที่สุด ควรอัปเป็นลำดับสุดท้าย แนะนำกลุ่มดาว กลุ่มดาวที่ปลดแล้วมีผลเยอะได้แก่กลุ่มดาว 1,2,4 และ 6 กลุ่มดาว 1 อัตราคริของการชาร์จยิงเพิ่มขึ้น 15% กลุ่มดาว 2 เมื่อมีศัตรูอยู่ในหมอกควันจากสกิลธาตุ ตนเองจะได้รับบัฟโบนัสความเสียหายธาตุ 20% และบัฟจะยังคงสถานะไว้ได้อีก 6 วินาทีแม้ว่าจะไม่มีศัตรูอยู่ในหมอกควันแล้ว กลุ่มดาว 4 เมื่อใช้งานท่าไม้ตาย ตัวละครทั้งหมดในทีมจะได้รับบัฟค่าชำนาญธาตุ 60 หน่วย และหากท่าไม้ตายก่อให้เกิดปฏิกิริยาธาตุ จะได้โบนัสค่าชำนาญธาตุเพิ่มขึ้นอีก 60 หน่วย 8 วินาที กลุ่มดาว 6 ลดระยะเวลาชาร์จยิงลง 0.9 วินาที และหลังชาร์จยิงระดับที่ 2 โดนเป้าหมาย จะมีกระสุนพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีก 1 นัดโดยจะทำความเสียหายได้เท่ากับพลังโจมตี 150% Tighnari นั้นเป็นตัวละครที่เหมาะสำหรับคนที่มีความชำนาญในการเล็งเป้า เนื่องจากลูกธนูมีขนาดเล็ก และพลาดเป้าหมายได้ง่าย หากไม่ชำนาญในการเล็งยิงแล้ว อาจจะใช้งานตัวละครได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้าสามารถยิงได้อย่างชำนาญแล้ว ตัวเขาจะเป็นหนึ่งในดาเมจหลักที่ช่วยล้มบอสได้อย่างไม่ยากเย็นเลย เครดิตผู้เขียนบทความ : ไกด์แมวๆ - Limemy Channel สามารถไปติดตามกันได้นะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

Read more
Page 5 of 53 1 4 5 6 53