Mobile Guide

Mobile Guide - สำหรับบทความ เทคนิค หรือ guide ต่างๆสำหรับเกมเครื่องมือถือต่างๆ ทั้งเก่าใหม่ งูกินหางหรือระดับ next-gen ได้ทั้งนั้น

Veera ROV Stepplay

Veera : Harvester of Souls เป็นตัวละครสาย Mage ที่ผู้เล่นใหม่ๆส่วนมากมองว่าเป็นแค่ตัวฟรี ไม่หรูหรา รุนแรงหรือโดดเด่นเท่ากับ Krixi หรือ Natalya แต่เมื่อได้ลองสัมผัสกับตัวเธอซักพักแล้วจะเข้าใจว่าความเรียบง่ายของเธอนั้น มันคือดาบที่รอผู้ที่เหมาะสมมาถือจริงๆ https://www.youtube.com/watch?v=C6eo9-6i1qM&feature=youtu.be Skill ภาพ ชื่อสกิล ความสามารถ Come Hither เมื่อ Skill ของวีร่าโจมตีโดนเป้าหมาย จะทำให้พลังป้องกันเวทย์ของพวกเขาลดลง 30-72 หน่วยต่อครั้ง ทับซ้อนได้ 3 ครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ (เริ่มที่ 30 และมากขึ้นตามเลเวลของวีร่า) Hell Bat วีร่าทำการปล่อยค้างคาวขนาดใหญ่ออกไปเป็นเส้นตรง ทำความเสียหายให้กับศัตรูทั้งหมดในแถวอย่างเท่าเทียม DMG : 520/585/650/715/780/845 (+1.22 ของพลังเวทย์) CD : 12/11/10/9/8/7 Kisses ล๊อคเป้าและส่งจูบใส่เป้าหมาย สร้างความเสียหายและสตันเป็นเวลา 1.5 วินาที ไม่สามารถหลบได้ DMG : 285/320/355/390/425/460 (+0.70 ของพลังเวทย์) CD : 10/9.4/8.8/8.2/7.6/7 Little Friends วีร่าทำการปล่อยค้างคาวจำนวน 5 ตัวไปโจมตีเป้าหมายรอบตัวเธอแบบสุ่ม หากเป้าหมายโดนค้างคาวมากกว่า 1 ตัว ตัวที่เหลือจะทำความเสียหายน้อยลงครึ่งหนึ่ง ค้างคาวจะเล็งเป้าหมายที่เป็นฮีโร่ก่อนเสมอ หากมีฮีโร่หลายคนในระยะจะสุ่มจากตำแหน่งและจำนวนเป้าหมาย DMG : 325/405/485 (+0.75 ของพลังเวทย์) CD : 18/15/12   แนวทางการอัพสกิล Veera การเลือกอัพ Skill ของตัววีร่านั้น เราจะทำการอัพ Hellbat ให้เต็มก่อนพร้อมกับ Ultimate Little Friend เพื่อให้สามารถทำความเสียหายแข่งกับ Mage หรือ Carry ของฝั่งศัตรูให้ได้เป็นหลัก แต่ในกรณีที่ไปเลนคู่กับคนอื่นหรือเล่นในแบบเลนเดี่ยวนั้น หมาก็ขอแนะนำให้อัพ Kisses มาไว้เพื่อจับศัตรูตั้งแต่ตอนแรกและค่อยอัพ Hellbat ตามปกติจะเพิ่มโอกาสให้กับทีมได้มากกว่าจ้า อธิบาย Skill ของ Veera ► Come Hither ผลของ Passive นี้อาจจะเห็นผลไม่ชัดเจนในช่วงแรกๆ ทำให้ตัวเธอค่อนข้างเสียเปรียบในช่วงต้นเกมมาก แต่เมื่อเธอมี Little Friends แล้ว สกิลนี้จะสามารถแสดงพลังออกมาได้เต็มที่ เหยื่อของเธอจะต้องแปลกใจว่าทำไมเธอถึงได้โจมตีแรงขึ้นอย่างผิดปกติเช่นนี้ ► Hellbat ท่าโจมตีหลักของวีร่า เธอจะทำการส่งค้างคาวยักษ์พุ่งโจมตีศัตรูทั้งหมดในระยะเป็นเส้นตรงที่มีขอบเขตกว้างมากเลยทีเดียว ข้อดีของท่านี้อยู่ที่ศัตรูทั้งหมดในระยะนั้นจะได้รับความเสียหายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการหารหรือลดลงตามจำนวนแต่อย่างใด ทำให้เธอสามารถยิงอัดหน้า Tank ทะลวงหากองหลังหรือใช้กวาดครีปในเลนได้เป็นอย่างดี ► Kiesses ท่าจับที่พึ่งพาได้สุดๆ ในเกม เป้าหมายจะไม่สามารถหลบท่านี้ได้เลยทำให้ไม่ว่าจะโดดหลบหรือโยกล่อยังไงก็โดนทุกราย ตัวท่านี้ไม่แนะนำให้กดเล่นเพื่อทำความเสียหายในทุกๆ กรณีจ้า ให้เก็บไว้เพื่อจับเหยื่อหรือจับศัตรูที่จะเข้ามาล้วงตัวเธอหรือคนในทีมจะดีที่สุด กรณีที่มั่นใจว่าไม่มีคนซ้อนหลัง ก็สามารถใช้ยิงเพื่อจับเหยื่อและคอมโบกับท่าอื่นให้เข้าเป้าง่ายขึ้นได้ ► Little Friends ท่าไม้ตายของเธอที่ดูแล้วจืดเป็นแกงจืดใส่น้ำ เธอจะส่งค้างคาวไปโจมตีศัตรูแบบสุ่ม มีครีปยิงครีป มีฮีโร่ยิงฮีโร่ มีทั้งคู่ฮีโร่ซวยไป แม้ความแรงนั้นจะไม่ได้หรูหรา ดีไม่ดีจะแพ้ท่าอย่างยิงทองของ Gilder แต่ข้อดีอยู่ที่เธอสามารถร่ายได้โดยไม่ต้องออกท่าทางและเล็งเป้าอัตโนมัติ (และคูลดาวน์สั้นมาก) ทำให้การยิงท่านี้ระหว่างวิ่งหนีหรือไล่ล่าเป็นอะไรที่ Smoooooooth มาก เนื่องจากค้างคาวจะโจมตีหลายครั้ง ทำให้ผลของ Passive Come Hither แสดงผลได้เต็มที่จนเกราะกันเวทย์ของคนที่โดนนั้นแทบจะไร้ค่าไปเลยทีเดียว สำหรับท่านี้ไม่ควรใช้เมื่ออีกฝ่ายอยู่กันเยอะๆ เนื่องจากความเสียหายจะกระจายจนเบามาก ควรกะระยะให้สามารถโดนได้เพียง 1-2 เป้าหมายจะดีที่สุด แนวทางการเล่น Veera การเล่นวีร่านั้นก่อนอื่นให้ผู้เล่นนึกถึงเมจหรือนักเวทย์ในเกม RPG เสียก่อน เธอคือคนที่โจมตีได้รุนแรง แต่ตัวบางและไม่มีท่าสำหรับหนีใดๆ การจะเล่นเธอให้ดีจึงเป็นการพยายามใช้ Skill ตอดศัตรูทีเผลอ เก็บท่าจับไว้สำหรับทำคอมโบหรือเอาตัวรอด และพยายามฟาร์มของเพื่อให้สามารถออกของทำความเสียหายได้รุนแรง อย่าพยายามเอาตัวเธอไปยืนแถวหน้า ไม่งั้นเธออาจจะเป็นคนแรกที่ได้ถูกหามออกจากเลน ในภาพ Veera กำลังโดนเข้ามาเล่นงานโดยฮีโร่ของฝั่งตรงข้าม แต่มันทำอะไรเธอไม่ได้ด้วยผลจากสกิล Kiesses ในช่วงต้นเกมนั้น วีร่าอ่อนแอจนอาจจะถูกตราหน้าว่านู๊บได้ง่ายๆ อันเนื่องจากทุก Skill ของเธอในเลเวลแรกๆ นั้นมีระยะเวลา Cooldown ที่นานจนป้อมแตก (12 วินาที) การใช้สกิลมั่วซั่วจะเป็นการบอกใบ้กลายๆ ว่า มาตีชั้นซิ ชั้นสู้เธอไม่ได้นะ มีใครโดดมาล้วงก็หลับมันตรงนั้นเลย สกิลของเธอในช่วงต้นเกมจึงควรเก็บไว้ในกรณีที่ยิงหวังผลได้เท่านั้น ทำให้ต้นเกมเรามักจะได้เห็นวีร่ายืนกอดป้อมเยี่ยงโคอะล่าเกาะต้นไม้ และใช้ Hellbat ในการตอดศัตรูหรือกวาดครีปเป็นหลัก เมื่อวีร่ามี Ultimate Little Friends แล้ว ชีวิตของเธอจะพลิกกลับเยี่ยงเมจคนอื่นๆ แน่นอนว่าเธอยังคงตอดด้วย Hellbat ต่อไป แต่เมื่อใดที่มีจังหวะ เธอจะสามารถเปิดคอมโบ Kisses > Little Friends หรือ Hellbat และใช้อีกท่าที่เหลือ ก่อนจะเผ่นออกโดยที่อีกฝ่ายยังไม่มีเวลาจะสวนกลับมาแรงๆ ครบชุดได้ ซึ่งนั่น... เจ็บไม่น้อยเลยล่ะ วีร่านั้นโดยพื้นฐานเป็นเมจ แต่ด้วยท่าจับที่หวังผลได้และท่ากวาดที่กว้าง ทำให้เธอสามารถเล่นได้ทั้งเลนเดี่ยวและเลนคู่  กรณีไปเลนเดี่ยว : การเล่นเลนเดี่ยวนั้น Hellbat จะเป็นท่าแรกที่เราจะนำติดตัวมา เพื่อใช้ในการกวาดครีปไม่ให้ดันจนเกินไปหรือตอดศัตรู และที่เป็นข้อห้ามเลยคือ ถ้าไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในเลนครบ ห้ามวิ่งเล่นกลางเลนเด็ดขาด เธอไม่มีท่าหนี และเธอโดนล้วงตาย ง่าย-โคตร-โคตร ► กรณีเจอนักเวทด้วยกัน : ต้นเกมวีร่าจะแพ้เมจคนอื่นๆด้วยค่า Cooldown ที่นานกว่ามาก ดังนั้นเลนของเธอจะถูกดันเป็นเรื่องปกติ พยายามเล็ง Hellbat ให้โดนทั้งครีปและฮีโร่ และเก็บ Kisses ไว้สำหรับจับตายหรือหนี อย่าใช้ในการทำความเสียหายเฉยๆ มันไม่แรงขนาดนั้น หากมีโอกาสที่ใช้ Little Friends โดนศัตรูแน่ๆก็กดใช้ได้โดยไม่ต้องเสียดายจ้า กรณีที่เจอนักเวทย์ที่ยิงไกลกว่าอย่าง Illumia นั้น พยายามอย่าอยู่ใกล้ครีปและเน้นการกอดป้อมให้มากขึ้นแทน การเจอเธอยิงบอลมาสตันเราบ่อยๆนั้นนอกจากเราจะเสียเปรียบง่ายแล้ว เป็นการโบกมือเรียกป่าอีกฝ่ายให้เข้ามาล้วงเราคาป้อมอีกด้วย ► กรณีเจอพวกแครี่ : การเจอแครี่นั้น เราอาจจะต้องขอแรงช่วยจากป่าฝั่งเราบ้าง เนื่องจากแครี่นั้นจะฉวยโอกาสที่เราโดนดันในการถลุงป้อมอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ Fennik ที่เป็น Objective Killer แล้ว ป้อมอาจจะแหกได้ภายในการดันเพียง 3-4 ครั้งด้วยซ้ำ หลักๆ นั้นจะเป็นการใช้ Hellbat ในการตอดเมื่อเขาพยายามตีครีปหรือป้อม หรือถ้าเป็นตัวที่มีท่าพุ่งมาแลกอย่าง Violet ให้เก็บ Kisses เพื่อยิงจับและส่ง Hellbat อัดหน้าก่อนจะถอยฉากออกมาจ้า กรณีไปเลนคู่ : ในด้านเลนคู่นั้น การ Up Kisses มาเป็นอันดับแรกจะช่วยมากกว่าในด้านของการช่วยจับฆ่า หรือช่วยหยุดให้หนีได้ง่ายขึ้นมาก เนื่องจาก Cooldown ที่นานพอกันของทั้งสองท่า...

Read more
Krixi วิธีเล่น

Krixi The Nymphora หรือที่ชาวไทยเราเรียกกันว่าผีเสื้อ เป็นเมจที่มีจุดเด่นอยู่ที่สกิลอันแสนจะรุนแรง และมีคูลดาวน์ในการใช้ที่ค่อนข้างน้อย ทำให้เธอสามารถทำความเสียหายให้กับทีมฝ่ายตรงข้ามได้สูงมากๆ อีกทั้งยังมีสกิลที่ทำให้ศัตรูของเธอลอยขึ้นไปในฟ้าเพื่อขัดขวางการเข้ามาถึงตัวเธอและทีมได้อีกด้วย ทำให้นักเวทตัวนี้เป็นที่นิยมมากๆ ในการเล่นทั้งในโหมดปกติและโหมดแรงค์เลยครับ Skill ภาพ ชื่อสกิล ความสามารถ Flutter  เมื่อสกิลโจมตีโดนศัตรู ความเร็วเคลื่อนที่ของเธอจะเพิ่มขึ้น 25% เป็นเวลา 2 วินาที Mischief  ปล่อยร่างโคลนออกไป สร้างความเสียหายเวท 320/395/470/545/620/695 (+1.0 ของพลังเวท) โดยความเสียหายจะลดลง 20% ตามจำนวนศัตรูที่โดน(ลดได้ไม่เกิน 40%) สกิลนี้จะมีคูลดาวน์ 7.5 วินาทีและลดลงเหลือ 5 วินาทีเมื่ออัพเลเวลเต็ม Nature's Wrath เรียกพลังแห่งธรรมชาติเพื่อโจมตีศัตรูสร้างความเสียหายเวท 260/292/324/356/388/420(+0.62 ของพลังเวท) พร้อมทำให้ศัตรูลอยขึ้น สกิลนี้มีคูลดาวน์ 14 และลดลง 1 ทุกๆ เลเวลสูงสุดคือ 8 วินาที Moonfall  Krixi เรียกฝนดาวตกกระหน่ำโจมตีศัตรูใกล้เคียงต่อเนื่องกัน 5 วินาที สร้างความเสียหายเวท 260/325/390(+0.60 ของพลังเวท) ต่อลูก โดยในหนี่งตัวจะโดนได้มากสุด 4 ครั้ง สกิลนี้มีคูลดาวน์เริ่มต้นที่ 55 วิ และจะลดเหลือ 45 วิเมื่อเลเวลเต็ม *อ้างอิงจากวันที่ 10/05/2060 แนวทางการอัพสกิล Krixi ควรรีบอัพ Mischief เอาไว้ให้เต็มก่อนเพราะเป็นดาเมจหลัก และสกิลอัลติเมทเมื่อสามารถอัพได้ โดยสกิล Nature's Wrath นั้นไม่ต้องรีบเท่าไหร่เพราะเก็บเอาไว้ใช้แค่ป้องกันตัวเองเฉยๆ เทคนิคการใช้สกิล ► สกิล Passive Flutter  สกิลนี้ทำให้เราเอาตัวรอดได้ดีมากๆ โดยการตอดสกิลใส่ศัตรูและถอยฉากออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะการใช้คู่กับ Nature's Wrath(ถ้าโดน) จะทำให้การหนีของเรามีโอกาสสำเร็จสูงมากๆ ► สกิล Mischief เป็นสกิลที่มีความรุนแรงมากๆ - มากที่สุด ในช่วงแรก อาจจะเหมือนมันตอดเบาๆ แต่ถ้าของเราถึงล่ะก็ดอกเดียวก็แทบจะทำให้อีกฝ่ายกลับบ้านได้แล้วครับ และเทคนิคการใช้งานอีกนิดคือให้เราเล็งอีกฝั่งตรงปลายๆ สกิลจะทำให้โดนทั้งขาไปขากลับแบบเต็มๆ เลย (แต่ไม่ต้องไปเพ่งมากนะยิงๆ ไปเถอะ)► Nature's Wrath สกิลนี้สามารถใช้เปิดให้เพื่อน หรือใช้ถอยได้ดีมากๆ แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำว่าให้เก็บเอาไว้รอตอนที่อีกฝ่ายเข้ามาหาเราดีกว่าครับ โดยเฉพาะพวก Butterfly หรือตัวล้วงต่างๆ ที่ชอบเข้ามาหาเรา ให้เราเก็บสกิลนี้ไว้ใช้แล้วถอยออกมาจะช่วยเพิ่มโอกาศรอดได้มากๆ► Moonfall  อัลติเมทที่รุนแรงพอสมควรเลยครับ โดยเฉพาะถ้าได้ทำความเสียหายต่อเนื่องทั้งชุดจะแรงมากๆ แต่ข้อเสียของมันคือระยะของสกิลที่ต้องเข้าไปในระยะใกล้ระดับนึง และการสุ่มโจมตีเป้าหมายที่อาจจะขัดใจจอร์สไปบ้าง ดังนั้นหากยังไม่มั่นใจจริงๆ ไม่ต้องรีบใช้สกิลนี้ก็ได้ครับ รอจังหวะที่อีกฝ่ายใช้สกิลกันไปหมดแล้ว หรือมีเพื่อนเปิดให้ค่อยใช้ดีกว่า เราอยู่วงนอกตอดด้วย Mischief ไปก่อนก็เจ็บไม่น้อยเลยนะ  เทคนิคการใช้ Moonfall อีกอย่างนึงคือหากเราโดนไล่ฆ่าให้กดใช้ Moonfall ระหว่างวิ่งหนี จะทำให้เราติด Passive ด้วยครับ ข้อดีของมันคือ Animation การปล่อยสกิลที่น้อยมากๆ ทำให้หนีได้อย่างไม่ติดขัดเท่าไหร่   แนวทางการเล่น Krixi Krixi เป็นเมจที่ค่อนข้างครบเครื่อง ไม่ว่าจะในแง่ของการตอดคู่ต่อสู้ด้วยสกิลที่รุนแรง หรือสกิลในการหยุดเป้าหมาย ทำให้เธอเป็นเมจที่สามารถทำงานได้ในแทบทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะถอยเธอก็มีสกิล Nature's Wrath และด้วย Passive ที่ทำให้การเคลื่อนที่ไวขึ้นเมื่อสกิลโดนเป้าหมายทำให้เธอเป็นตัวที่หนีได้ไวมากๆ ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องจำเอาไว้ว่าตัวเธอบางมากๆ ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรเข้าไปปะทะมากเกินไปครับ คอมโบ : คอมโบของตัวนี้ไม่ค่อยตายตัวเท่าไหร่ แต่งานหลักของเราก็คิอการตอดอีกฝ่าย(Poke) ด้วยสกิลอย่าง Mischief จากวงนอกไปเรื่อยๆ และคอยช่วยเหลือเพื่อนที่กำลังแย่หรือเปิดให้ทีมด้วย Nature's Wrath และถ้าหากมีจังหวะเหมาะๆ ก็ต่อไปด้วย Moonfall ครับ ซึ่งสิ่งสำคัญของตัวละครนี้คือไอเทมมากกว่า เพราะมันจะมีผลกับสกิลของเราแบบสุดๆ ไปเลยทีเดียว ซึ่งหากอยากได้สกิลแรงๆ ควรจะรีบออก Hecate’s Diadem เอาไว้ครับ Nature's Wrath > Mischieft > Moonfall เป็นคอมโบที่เห็นผลได้ชะงัดมาก กรณีไปเลนเดี่ยว : ตามปกติแล้ว Krixi จะไปที่เลนเดี่ยวอย่างเลนกลางเป็นส่วนใหญ่ โดยคู่ต่อสู้ที่เรามักจะได้เจออาจจะเป็นตัวเวทด้วยกัน หรือพวกแครี่ที่นิยมมาเลนกลางอย่าง Violet หรือ Fennik ครับ โดยวิธีการรับมือคร่าวๆ ของตัวแต่ละสายมีดังนี้ ► กรณีเจอนักเวทด้วยกัน : ถ้าหากว่าเจอพวกนักเวทด้วยกันสิ่งที่เราควรจะทำคือระวังในเรื่องระยะให้ดี โดยเฉพาะหากเจอตัวที่สกิลไกลกว่าหรือพอๆ กันอย่างเช่น Alister พยายามหาจังหวะในการสวนและอย่าเดินมั่วๆ เพราะอาจโดนอีกฝ่าย Poke ได้ ให้พยายามกะจังหวะในช่วงที่อีกฝ่ายต้องลาสคลีป และตอดไปด้วย Mischief ครับ หรือหากจังหวะสวยจริงๆ อาจจะคอมโบไปสองสกิลเลยคือ Mischief + Nature's Wrath จ้า แล้วถ้ามีอัลติเมทด้วยจะใช้แถมไปด้วยก็ได้นะ ► กรณีเจอพวกแครี่ : ในการไปเลนกลางหลายๆ ครั้งตัวที่เราจะเจอบ่อยๆ เลยคือ Violet หรือ Fennik ครับซึ่งการรับมือกับพวกนี้ค่อนข้างเป็นงานยากอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งคำแนะนำที่ผมพอจะช่วยได้คือให้เราพยายามยืนอยู่อย่างเซฟๆ ไม่ต้องรีบร้อน ให้รอจังหวะที่อีกฝ่ายใช้สกิลพุ่งเข้ามาก่อน แล้วให้เรารอสวนไปด้วย Nature's Wrath + Mischief ครับ เพราะจังหวะที่อีกฝ่ายพุ่งจะไม่สามารถกดเปลี่ยนทิศได้ทัน ดังนั้นให้เล็งจังหวะนั้นสวนๆ ให้ดีๆ แลกกันไปเลย จากนั้นให้เดินเฉดหลบออกมา เพราะแลกต่อก็ไม่คุ้มครับ ส่วนไอเทมกรณีที่เจอกับพวกแครี่ผมอยากจะให้รีบออก Phoenix Tear เอาไว้เพื่อช่วยฟื้นฟูมานาและเลือดเมื่อเลเวลอัพ เพราะมันจะทำให้เราสามรถมีชีวิตอยู่ในเลนได้อีกนานพอควรเลยทีเดียวครับ กรณีไปเลนคู่ : สำหรับกรณีที่เราไปเลนคู่นั้นจะไม่ค่อยมีอะไรตายตัวเท่าไหร่ หลักๆ แล้วคือเราควรพยามที่จะเปิดสกิลให้เพื่อนได้เข้าง่ายๆ ด้วยการใช้ Nature's Wrath และตอดไปเรื่อยๆ ด้วย Mischief ครับ ส่วนไอเทมชิ้นแรกๆ ผมแนะนำเป็น Phoenix Tear แล้วต่อด้วย Orb of Magi เพื่อความต่อเนื่องในการใช้สกิลในเลนครับสำหรับการไปเลนคู่นั้น Krixi แทบจะสามารถไปได้กับทุกตัวเลย แต่ตัวที่ผมเห็นว่าค่อนข้างเหมาะเป็นพิเศษคือตัวที่สามารถช่วยสตั๊นหรือหยุดด้วยกันได้อีกแรง จะเพิ่มโอกาสในการฆ่าได้สูงมากๆ เช่น Alister, Vanhein ฯลฯ หรือไปกับพวกตัวดาเมจหนักๆ ไปเลยอย่าง Violet ก็ไม่เลว แต่ถ้าจับคู่แบบนี้สู้ส่งสักคนไปเลนกลางดีก่วานะ(ฮา) อื่นๆ : ► Krixi เป็นตัวที่ดันเลนได้ค่อนข้างไว ในระหว่างที่เราเคลียร์เลนไปหมดแล้วอาจจะไปตีคลีปที่อยู่ข้างๆ ป่าเพื่อเก็บเลเวลฆ่าเวลาได้ เพราะการเดินเข้าไปใกล้ป้อมเกินไปอาจจะ ทำให้สุ่มเสี่ยงต่อการโดนแก๊งจากป่าของทีมตรงข้ามได้ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรคุยกับป่าทีมเราก่อนนะไม่งั้นอาจจะโดนด่าข้อหาแย่งยฟาร์มได้ ► หากเราเลเวล 4 แล้วแล้วจังหวะดันคลีปไปได้ไว อาจจะเดินขึ้นไปแก๊งเลนอื่นๆ ที่กำลังเสียเปรียบก็ไม่เลวครับ ซึ่งกรณีนี้ผมจะแนะนำให้รีบออกรองเท้าไว้สักคู่ แต่ยังไม่ต้องรีบอัพเกรดก็ได้ ซึ่งเราสามารถแก๊งได้ค่อนข้างง่ายจากสกิล Nature's Wrath ครับ   การออกไอเทม Krixi หลักๆ...

Read more

ในวันนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องของ Vision หรือระยะการมองเห็นนั่นเองครับซึ่งเป็นเรื่องที่หลายๆ คนมักจะมองข้ามกันไปเยอะอยู่เหมือนกัน ซึ่งผมอยากจะขอบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยเลยล่ะครับก่อนอื่นทำความเข้าใจกับคำว่า Vision หรือระยะการมองเห็นนั้นคือสิ่งที่เราสามารถมองเห็นได้ภายในแผนที่นั่นเอง ซึ่งโดยปกติแล้วเราจะมองเห็น สิ่งที่อยู่ใกล้ๆ กับตัวละครของเรา รวมไปถึงตัวละครของเพื่อนๆ ภายในทีม,ป้อมของฝ่ายเรา และคลีปที่เดินไปเดินมาในแผนที่ด้วย แต่คลีป สำหรับระยะการมองเห็นนั้นจะอยู่ประมาณ 1 หน้าจอของเรานั่นเองครับ (ถ้าปรับแบบกว้่างนะ) โดยสิ่งที่ผมอยากจะแนะนำก็คืออยากจะให้ลองมอง minimap บ่อยๆ เพราะเราอาจจะได้เห็นสิ่งที่เราไม่ได้สังเกตุในหน้าจอของตัวเอง เช่นป่าของฝั่งตรงข้ามทีกำลังจะมาแก๊งเป็นต้นครับ  ประโยชน์ของหญ้า เมื่อเรารู้จักกับระยะการมองเห็นหรือ Vision กันไปแล้ว ทีนี้เรามารู้จักกับเจ้าพุ่มหญ้าเพื่อนยากเป็นสิ่งที่กระจายอยู่ทั่วๆ แมพถ้าหากเราเข้าไปอยู่ในหญ้าแล้วเนี่ย จะทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถเห็นเราได้ครับซึ่งหากเราใช้ดีๆ เนี่ยจะสามารถทำให้เราเอาชีวิตรอดได้แบบสบายๆ เลยทีเดียว สำหรับเจ้าดงหญ้านี้มันจะมีประโยชน์มากๆ ครับตอนที่เราต้องวิ่งมาแก๊ง เพราะอีกฝ่ายจะไม่เห็นเราก่อนที่จะโดนเชือดนั่นเองครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องระวังในเรื่องของตำแหน่งของอีกฝ่ายด้วย โดยเราควรจะดูให้ดีๆ ก่อนว่าอีกฝ่ายอยู่ใกล้กับหญ้าที่เราจะแก๊งไหม เพราะบางทีหากอีกฝ่ายอยู่ ใกล้ๆ ขอบ การแก๊งของเราก็อาจจะล่มตั้งแต่ก่อนมุดเข้าหญ้าครับ เพราะโดนมองเห็นซะก่อน เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับเรื่อง Vision อาจจะเป็นเรื่องง่ายๆก็จริง แต่อยากจะให้เพื่อนๆ ได้ศึกษาเอาไว้เพราะบางทีเราอาจจะได้ใช้ในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงก็ได้นะครับ  

Read more

หากเพื่อนๆ ถูกใจฝากกดไลค์ที่เพจกบด้วยนะครับ >>จิ้ม<< อ้อ! และบทความนี้มีแบบภาพด้วยนะดูได้ที่เพจกบเลยจ้า >>จิ้มอีกที<<ถ้าหากจะพูดถึงเรื่องของเกราะภายในเกม ROV : Realm of Valor แล้วคิดว่าส่วนใหญ่คงเป็นอะไรที่ไม่ค่อยจะมีคนจะสนใจกันสักเท่าไหร่ เพราะส่วนมากแล้วเรื่องของเกราะต่างๆ มักจะอยู่กับตัวแทงค์ ทำให้ตัวละครสายอื่นๆ มักไม่ค่อยสนใจกันสักเท่าไหร่ใช่ไหมครับ? ความจริงแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้เล่นแทงค์ แต่ว่าการออกเกราะก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่แย่ขนาดนั้น เพราะว่ามันช่วยเราเซฟได้เยอะเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าดาเมจจะน้อยลง แต่ถ้าหากว่าเรามีดาเมจเยอะแต่ว่าไม่ได้ทำความเสียหายอีกฝั่งมันก็ไม่มีค่า ซึ่งภายในไกด์นี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องของเกราะต่างๆ ให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันแบบเจาะลึกเลยโดยจะเป็นยังไงบ้างเราไปชมกันเลยดีกว่า เกี่ยวกับประเภทของเกราะ ภายในเกม ROV : Realm of Valor นั้นจะมีค่าเกราะอยู่สองประเภทด้วยกันคือเกราะกันกายภาพ(พลังปกติแหล่ะ) และเกราะกันเวทย์ครับ ซึ่งเจ้าเกราะแต่ละประเภทนั้นก็จะช่วยลดดาเมจแต่ละประเภทให้เราครับ โดยเกราะปกติจะช่วยเราลดความเสียหายจากความเสียหายด้วยการโจมตีปกติ และสกิลที่ใช้ค่าพลังโจมตีปกติมาคิดดาเมจ ส่วนเกราะกันเวทย์จะช่วยลดความเสียหายจากสกิลของพวกตัวละครเวทย์ครับ วิธีการคิด % ของค่าเกราะ เกราะต่างๆ ภายในเกมนั้น ไม่ว่าจะเป็นเกราะปกติ และเกราะกันเวทย์จะไม่ได้ลดค่าความเสียหายตามค่าพลังป้องกัน แต่จะคิดเป็น % เช่นถ้าหากว่าเรามีค่าเกราะ 403 หน่วยจะไม่ได้หมายความว่าเราลดค่าความเสียหาย 403 หน่วย แต่เราจะสามารถลดความเสียหายจากการโจมตีของเป้าหมายได้ 40.1 % ครับ ซึ่งการคิด % นี้จะใช้ด้วยกันได้ทั้งค่าพลังป้องกันปกติและค่าการป้องกันเวทย์เลย จุดสำคัญของมันอยู่ที่ ยิ่งตัวเลขค่าเกราะของเรามากเท่าไหร่ % ของการป้องกันที่เราได้ก็จะยิ่งน้อยขึ้นเท่านั้นครับ โดยทางกบเองได้รวบรวมสถิติของค่า % เกราะที่ได้แบบคร่าวๆ มาให้เพื่อนๆ ชมกันอย่างคร่าวๆ แล้ว ซึ่งตัวเลขอาจจะไม่ใช่เลขแบบกลมๆ แต่ก็คิดว่าสามารถอ้างอิงได้ครับ และตัวเลขนี้เป็นข้อมูลที่เก็บจากวันที่ 23 เมษายน 2560 โดยในอนาคตข้อมูลอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามแพทช์ครับ ค่าเกราะที่มี พลังป้องกันที่ได้(%) 57 8.6 99 14.1 198 24.8 296 33 403 40.1 502 45.5 600 50 699 53.8 797 57 897 59.9 996 62.4 2490 80.5 จากกราฟข้างบนเราจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ายิ่งมีค่าพลังป้องกันสูงเท่าไหร่ค่า % ที่ได้จากการซื้อเกราะก็จะยิ่งน้อยลงไปเท่านั้นครับ ดังนั้นให้เราออกเกราะแต่พอดีจะดีกว่า ไม่ต้องตะบี้ตะบันออกเกราะเต็มตัวก็ได้เพราะผลที่ได้ไม่ค่อยคุ้มค่าสักเท่าไหร่ หรือหากอยากจะออกเกราะจริงๆ ก็ไม่ควรจะออกของซ้ำๆ แต่ออกเป็นเกราะอย่างอื่นที่มีสกิลแตกต่างกันออกไปครับ Mantle of Ra  ไอเทมที่ทำให้เราได้สกิลติดตัวสุดเด็ดอย่าง Incantation ที่ทำความเสียหายเป็นเวทใส่ศัตรูรอบๆ กับได้พลังชีวิตอีกถึง 1500 หน่วย แต่ข้อเสียของมันก็คือจะได้แต่เลือดไม่ได้เกราะเลยนั่นเองครับ... Mantle of Ra เหมาะกับใคร ไอเทมชิ้นนี้เหมาะกับแทงค์แทบทุกตัว โดยส่วนตัวแล้วผมว่ามันค่อนข้างจะเหมาะกับฮีโร่แทงค์เกือบทุกตัว โดยเราอาจจะออกเป็นชิ้นแรกๆ เพื่อหวังผลของ Incantation ก็ได้ แต่ก็ควรจะออกไอเทมชิ้นอื่นๆ มาช่วยเสริมด้วยจะดีที่สุดครับ และไอเทมชิ้นนี้หากคิดจะออกในช่วงท้ายๆ ของเกมล่ะก็ ผมคิดว่าไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่ เพราะผลของสกิลติดตัวจะไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่แล้ว ซึ่งฮีโร่ที่เหมาะกับไอเทมชิ้นนี้เป็นพิเศษ ผมมองว่าต้องยกให้ Taara ครับเพราะเธอจะได้รับผลตรงๆ เลยจากสกิลที่คิดเป็น % ตามเลือดด้วย Shield of the Lost  ไอเทมเกราะที่เรามักจะถูกแนะนำให้ออกเมื่อคุณเล่นตัวละครแทงค์ ซึ่งมันก็เป็นไอเทมที่แทบจะขาดไม่ได้เลยจริงๆ ครับจากการที่มันบวกค่าเกราะให้เราถึง 270 หน่วยและยังให้พลังชีวิตอีก 1200 หน่วยด้วย โดยทีเด็ดของมันที่สุดก็คงจะไม่พ้น Strengthened Sentinel ที่ช่วยลดความเร็วการโจมตีของศัตรูรอบข้างลง 30% Shield of the Lost เหมาะกับใคร สำหรับไอเทมชิ้นนี้น่าจะเหมาะกับแทงค์หรือไฟต์เตอร์ทุกตัวเลยล่ะครับ โดยเฉพาะหากอีกทีมมีตัวตีกายภาพที่ค่อนข้างจะเกิด การออกไอเทมชิ้นนี้จะช่วยทำให้แครี่ของฝ่ายตรงข้าม ตีช้าลงไประดับนึงเลยทีเดียว The Aegis ไอเทมของสายแทงค์ที่ไม่ได้บวกเลือดให้กับคนใช้ ถึงแม้ว่าจะเพิ่มเกราะมาให้สูงมากถึง 360 ก็ตาม และยังได้ลดคูลดาวน์ด้วย แต่โดยรวมแล้วมันค่อนข้างเป็นไอเทมที่ไม่ควรรีบออกครับ เพราะว่าถึงแม้เราจะมีเกราะเยอะแต่เลือดน้อยก็เล่นลำบากอยู่ดี ถึงอย่างนั้นสกิลติดตัวของไอเทมชิ้นนี้อย่าง Sentinel ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆ ด้วยการที่ลดความเร็วการโจมตีของผู้โจมตีเราและยังลดความเร็วการเคลื่อนที่ถึง 20% อีกด้วย The Aegis เหมาะกับใคร ตัวละครแทงค์และไฟต์เตอร์เกือบทุกตัว โดยเฉพาะแทงค์ที่ต้องใช้มานาครับ สำหรับตัวละครที่เหมาะเป็นพิเศษแบบกิ่งทองใบหยกเลยคือ Mina ที่มีสกิลบังคับให้เป้าหมายมาโจมตีตัวเองจะเหมาะกับไอเทมชิ้นนี้มากเป็นพิเศษ แต่พวกตัวแทงค์ตัวอื่นๆ ก็ออกไอเทมชิ้นนี้ได้เหมือนกันเพียงแต่เราอาจจะไม่ต้องรีบออกเป็นชิ้นแรกๆ ครับ Gaia's Standard สุดยอดเกราะกันเวทที่จะทำให้เราสามารถฟื้นฟูเลือดได้ด้วยหากได้รับความเสียหาย ด้วยผลของสกิล Recover เมื่อโดนโจมตี(ใช้ได้ทุก 10 วิ) ทำให้เราสามารถยืนในไฟต์ได้ค่อนข้างนาน และตัวไอเทมยังบวกค่าการต้านเวทให้เราอีก 180 รวมถึงพลังชีวิต 1100 หน่วยด้วย! อ้อได้ความเร็วการเคลื่อนที่ด้วยยนะ Gaia's Standard เหมาะกับใคร แทงค์หรือไฟต์เตอร์ทุกตัวที่เจอกับอีกฝ่ายที่มีเวทค่อนข้างแรง ถ้าคุณรู้สึกว่าโดนเวทแล้วเจ็บล่ะก็ ออกชิ้นนี้เถอะครับช่วยได้จริงๆ Medallion of Troy ไอเทมสายป้องกันอีกชิ้นที่ขาดไม่ได้เลยในการรับมือกับพวกนักเวทย์ที่มีสกิลค่อนข้างรุนแรง โดยมันจะช่วยลดคูลดาวน์ให้กับตัวละครของเราและยังยได้ค่าต้านเวทย์อีก 280 รวมไปถึง พลังชีวิต 1100 หน่วยด้วย ซึ่งจุดแข็งของมันที่ลืมไม่ได้เลยคือสกิลติดตัวอย่าง Fairy ที่จะทำให้เราได้รับโล่เวท 300-1000 หน่วยทุกๆ 20 วินาที ทำให้สามารถเข้าไปปะทะกับตัวเวทย์อีกฝ่ายได้ง่ายขึ้น Medallion of Troy เหมาะกับใคร แทงค์ทุกตัวที่เจอกับตัวเวทของอีกฝ่ายที่ค่อนข้างเกิด โดยจะออกคู่กับ Gaia's Standard ก็ได้จะทำให้เวทแทบยิงคุณไม่เข้าเลยล่ะครับ โดยคุณอาจจะออก Medallion ก่อนก็ได้แล้วค่อยไปออก Gaia's Standard Crimson Banner ไอเทมแทงค์ยอดนิยมที่มักจะโดนแนะนำให้ออกโดยระบบอัตโนมัติของเกม ที่ได้ทั้งเกราะ 200 และเลือด 1200 อีกทั้งยังได้สกิลติดตัวอย่าง Bloody Battle ที่เมื่อช่วยหรือฆ่าอีกทีมจะฟื้น HP 20% ใน 5 วิด้วย ทำให้เป็นไอเทมขวัญใจของใครหลายๆ คนที่กำลังขาดแคลนเลือดเลยล่ะครับ Crimson Banner เหมาะกับใคร โดยส่วนตัวแล้วผมว่ามันมีไอเทมที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าแม้ว่าราคาจะแพงกว่าก็ตาม ดังนั้นผมเลยไม่ค่อยชอบออกไอเทมชิ้นนี้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าใครชอบก็สามารถซื้อหามาใช้งานกันดูได้ครับ แต่โดยความเห็นส่วนตัวแล้วผมว่าไปซื้อชิ้นอื่นจะช่วยทีมได้เยอะกว่า Hyoga's Edge ไอเทมที่เหมาะกับคนชอบวิ่งไล่ โดยมันจะทำให้คุณสามารถไล่เก็บฮีโร่อีกฝั่ง หรือทำให้ทีมคุณไล่ตามทันได้ง่ายขึ้น ด้วยผลของสกิล Biting Cold ที่ช่วยสโลว์เป้าหมาย 25% และเพิ่มความเร็วตัวเอง 10% นอกจากนี้ไอเทมชิ้นนี้ยังให้ค่าเกราะและต้านเวทย์ถึง 100 กับพลังชีวิตอีก 1200 หน่วย Hyoga's Edge เหมาะกับใคร ไอเทมชิ้นนี้โดยส่วนตัวผมคิดว่าเหมาะกับพวกไฟต์เตอร์ที่มีสกิลเอาไว้ไล่ตามเป้าหมายซะมากกว่า แต่กับแทงค์ก็พอใช้ได้เช่นกันครับ โดยตัวที่ผมคิดว่าเหมาะเป็นพิเศษก็จะมี Cresht, Taara เป็นต้นครับ Ancestral Glory ไอเทมที่ไม่ได้แค่เหมาะกับพวกตัวสายแทงค์หรือไฟต์เตอร์อย่างเดียว...

Read more
คู่มือ ROV ออกของสายเวทย์

ปัญหาของใครหลายๆ ที่เล่นเกม MOBA โดยเฉพาะเกม ROV ต้องประสบพบเจอก็คือการออกไอเทมจริงไหมครับ เพราะว่าภายในเกมนี้เนี่ยมีไอเทมอยู่เยอะเสียเหลือเกิน ไอครั้นคนที่พึ่งจะมาเล่นก็งงๆ ว่าจะออกอะไรดี จะออกของผิดหรือเปล่า ดังนั้นกบจึงได้เขียนและทำไกด์ดังที่อยู่ภายในคลิปนี้มาให้ได้ลองชมกันเพื่อเป็นตัวช่วยเพื่อนๆ ที่พึ่งหัดเล่นสายเวทครับ https://www.youtube.com/watch?v=GYHRKlk9JCo บทบาทของสายเวท สำหรับบทบาทของตัวละครสายเวทย์นั้นโดยส่วนใหย่แล้วจะมีหน้าที่ในการทำความเสียหายให้กับศัตรูด้วยสกิลจากแผงหลัง หรือวงนอกของการต่อสู้ ยิ่งสกิลของเรามีความรุนแรงเท่าไหร่ เราก็ยิ่งทำให้อีกฝ่ายลำบากมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะพวกตัวละครบางๆ อย่างแครี่ที่รับรองว่าโดนทีนึงหนาวแน่นอนครับ ถ้าหากเวทย์เราแรงพอ ในส่วนเรื่องของเลน ส่วนใหญ่แล้วตัวละครสายเวทย์มักจะไปอยู่ในเลนกลางเป็นส่วนใหญ่ เพราะว่าสามารถที่จะเก็บเลเวลได้ไว และสามารถเดินไปช่วยเลนอื่นได้ง่าย แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไป เพราะว่าเราอาจจะไปอยู่เลนอื่นๆ กับเพื่อนก็ได้เช่นกัน หรือแม้แต่ป่าเองก็พอเล่นได้ ถึงแม้จะลำบากสักหน่อย อย่างเช่น Mganga ที่หลายๆ คนนิยมเอาไปเล่นกันอยู่พักนึงครับ ไอเทมสำคัญของสายเวทย์ สำหรับไอเทมที่ตัวละครสายเวทย์แทบจะทุกคนต้องออก จะมีหลักๆ อยู่ด้วยกันดังนี้ครับ ซึ่งผมจะขอวิเคราะห์ไอเทมพวกนี้ให้ฟัง 1.Orb of the Magi ไอเทมยอดนิยมที่เกมมักจะแนะนำให้เราออกสำหรับตัวเวทย์ หลายๆ ตัวเลยทีเดียวขล่ะครับข้อดีของมันคือสกิลติดไอเทมทั้ง 2 ชนิดไม่ว่าจะเป็น Bide ที่ทำให้ได้ เลือด, เวท และลดคูลดาวน์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยสูงสุดแล้วเราจะได้ พลังเวท +220, HP 500 และลดคูลดาวน์ถึง 20% (ต้องรอสกิลแสดงผลหลังจากซื้อเต็มที่ 5 นาที) นอกจากนี้สกิลติดตัวของไอเทมอย่าง From the Ashes ก็ทำให้เรายืนในเลนได้นานขึ้นมากๆ ด้วยผลของการฟื้นเลือดและมานา 20% เมื่อเลเวลอัพครับ หรือหากเราต้องการแค่ผลของ From the Ashes ก็อาจจะออกเอาไว้แค่ Phoenix Tear ที่เป็นส่วนผสมแล้วไปออกชิ้นอื่นก็ได้เหมือนกัน Orb of the Magi เหมาะกับใคร ? สำหรับ Orb of the Magi นั้นสามารถใช้ได้กับตัวละครสายเวทย์ได้ทุกตัวเลยครับ เพียงแต่อาจจะเหมาะสมมากน้อยต่างกันไป เพราะเราได้สิ่งที่ต้องการแทบจะทุกอย่างสำหรับไอเทมชิ้นนี้ แต่ข้อเสียของมันก็คือ กว่าไอเทมจะแสดงผลได้เต็มที่ก็ต้องใช้เวลาถึง 5 นาทีหลังจากซื้อ ทำให้บางครั้งเราเร่งไปออกไอเทมที่ต้องการชิ้นอื่นจะได้ผลไวกว่าครับ แต่สำหรับคนที่คิดอะไรไม่ออก ไอเทมชิ้นนี้เป็นไอเทมที่ใช้งานได้ทุกสถานการณ์และทุกตัวละครเลยจริงๆ ซึ่งถ้าถามผมว่าตัวละครไหนที่ควรออก ผมบอกได้เลยว่าตัวเวทย์ทุกตัวครับ หรือหากไม่ออกชิ้นนี้คุณจะหันไปออก Virtue's Necklace ก็ไม่เลวเหมือนกันครับ โดยเหตุผลผมจะบอกเอาไว้ในคำอธิบายของ Virtue's Necklace ที่ชิ้นถัดไป Note : จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม กรณีที่เล่นตัวเวทแล้วไปเลนกลาง หากเราเจอพวกตัวที่ล้วงเก่งๆ หรือโจมตีเราได้จากระยะไกลมากๆ อย่าง Violet หรือ Fenix ผมแนะนำให้เร่งออก Phoenix Tear แล้วต่อเป็น Orb of the Magi เพราะจะทำให้เรายืนเลนแข่งกับพวกนี้ได้ และอาศัยการเล่นที่เซฟขึ้นมาหน่อย แล้วค่อยรอจังหวะสวนไปครับ หรืออาจจะดันเลนให้ไวๆ แล้วรีบชิ่งกลับมาแถวป้อมก็แล้วแต่สไตล์ของคนและตัวที่เราเลือกเล่น 2.Virtue's Necklace ไอเทมที่ให้ผลในการฟื้นฟูมานาที่สูงมากๆ ทำให้เราสามารถสาดสกิลใส่เป้าหมายได้อย่างสนุกมือ โดยผลของมันนอกจากจะทำให้เราได้ฟื้นฟูมานาแล้ว ยังได้ลดคูลดาวน์ 20% , มานาสูงสุด +300 และพลังเวทอีก 140 ด้วย ภายในราคาเพียงแค่ 1980 ครับ ซึ่งมันจะดีกว่า Orb of the Magi ตรงซื้อมาปุ๊บได้ใช้แน่ๆ ไม่ต้องรอเวลา แต่ก็มีข้อเสียคือมันไม่ได้ช่วยเราฟิ้นเลือดแบบ Orb of the Magi นั่นเองทำให้ต้องเล่นเซฟกว่ามากๆ Virtue's Necklace เหมาะกับใครบ้าง ? เนื่องจากไอเทมชิ้นนี้ไม่ได้ช่วยฟื้นเลือดให้เราเมื่อเลเวลอัพ แต่ก็แลกมาด้วยการฟื้นมานาที่รวดเร็วมากก ดังนั้นตัวที่เหมาะกับไอเทมชิ้นนี้ผมคิดว่าเป็นพวกตัวละครที่มีระยะสกิลค่อนข้างไกลเพื่อเซฟตัวเองอย่าง Kahlii หรือ Natalya จะค่อนข้างเหมาะ หรืออาจจะเป็นตัวที่ต้องแต่เดิมมีสกิลค่อนข้างนานแล้เวราต้องการลดคูลดาวน์เยอะๆ อย่าง Veera ก็พอใช้ได้ครับ ซึ่งไม่ได้ตายตัวเท่าไหร่อยู่กับความชอบของเราซะมากกว่า เพียงแต่ว่าอย่าลืมว่าเราต้องเซฟเพิ่มขึ้มาหน่อยเท่านั้นเอง 3.Boomstick ไอเทมยอดนิยมของใครหลายๆ คนที่เพิ่มความรุนแรงให้กับสกิลของเราได้อย่างมหาศาลด้วยผลของสกิลติดตัวอย่าง Echo ที่เมื่อใช้แล้วจะทำให้สร้างความเสียหายเวทได้ 50 หน่วยบวกด้วย 30% ของพลังเวทครับ ทำให้เป็นไอเทมยอดนิยมที่สามารถออกให้กับนักเวทย์ได้แทบทุกตัวเลยทีเดียว Boomstick เหมาะกับใครบ้าง? จะบอกว่าไอเทมชิ้นนี้เหมาะกับใครบ้างนั้น เรียกได้ว่าเหมาะกับตัวเวทย์ทุกตัวเลยก็ไม่ผิดครับ แต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องออกเสมอไป เพราะบางทีความแรงอย่างเดียวอาจจะไม่ใช่คำตอบ บางคนก็อาจจะข้ามชิ้นนี้ไปออกไอเทมเพื่อเพิ่มโอกาสในการรอดช่วงทีมไฟต์ก็ไม่ผิดครับ แต่ถ้าใครอยากได้ความแรงล่ะก็ ชิ้นนี้แทบจะขขาดไม่ได้เลย โดยตัวที่ผมแนะนำเป็นพิเศษก็จะมี Krixi กับ Nayalya 4.Hecate's Diadem ไอเทมที่สุดของสายเวทย์ที่ไม่ออกไม่ได้จริงๆ ครับด้วยผลของการบวกพลังเวทถึง 200 และยังได้สกิลติดตัวอีก 2 อย่างคือ Kich ที่ทำให้พลังเวท +35% กับสกิลติดตัวที่ทำให้เจาะเกราะเวท + ถึง 75 ทำให้สกิลของตัวละครสายเวทย์แรงขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลยทีเดียวครับ แต่ว่าถึงจะดียังไงแต่ก็ไม่ควรออกเกิน 1 ชิ้นนะเพราะสกิลติดตัวมันส่งผลซ้อนทับกันได้จ้า Hecate's Diadem เหมาะกับใคร เจ้าไอเทมชิ้นนี้เหมาะกับสายเวทย์ทุกตัวครับ เว้นแต่คุณเล่นเวทย์กึ่งแทงค์อาจจะข้ามไปก็ได้ แต่ถ้าไม่ใช่กรณีนั้นส่วนตัวแล้วผมว่าควรจะออกเอาไว้ครับ โดยมันจะเหมาะกับการออกเป็นชิ้นที่ 2-3 มากๆ หลังจากที่เราได้ของใหญ่สักชิ้นแล้ว เพราะจะทำให้ได้ผลของ % ที่บวกพลังเวทย์ชัดเจนขึ้นครับ 5.Frosty's Revenge ไอเทมยอดนิยมอีกชิ้นของอีโร่สายเวทย์ที่ทำให้เราได้ทั้งพลังเวทและต้านทานเวท แต่ที่เด็ดที่สุดก็คือผลของมันที่ทำให้เป้าหมายของเราที่โดนสกิลของเราเข้าไปจะลดความเร็วเคลื่อนที่ถึง 20% นี่ล่ะครับที่เด็ดสุดๆ Frosty's Revenge เหมาะกับใคร ไอเทมชิ้่นนี้อาจจะใช้ได้กับแทบทุกตัวแต่ว่าที่เหมาะมากๆ ผมมองว่าจะเป็นฮีโร่ที่มีสกิลเป็น AOE(สกิลเป็นวงกว้าง) อย่าง Kahlii หรือ Mganga จะเหมาะเป็นพิเศษ เพราะจะทำให้เป้าหมายโดนสกิลของเราเต็มๆ โดยเฉพาะ Kahlii ที่สกิลปกติก็โสลว์อยู่แล้วมีไอเทมชิ้นนี้เข้ไปอีก รับรองว่าเดินแทบไม่ได้เลยทีเดียวครับ 6.Holy of Holies ไอเทมเลทเกมที่หลายๆ คนนิยมออกกัน ซึ่งเจ้าชิ้นนี้นอกจากจะทำให้เราได้รับพลังเวทมากถึง 400 หน่วยแล้วเรายังได้พลังชีวิต+1400 ฟรีๆ ด้วยจากผลของสกิลติดตัว Holy of Holies เหมาะกับใคร ไอเทมชิ้นนี้เหมาะกับทุกตัวครับสำหรับสายเวทย์ เพราะทำให้เราได้ทั้งเลือกและ HP แต่ว่าด้วยความที่ราคามันแพงมากๆ จึงเป็นไอเทมชิ้นสุดท้ายที่มักจะออกกันมากกว่า และถ้าใครอยากออกหลายชิ้นจำเอาไว้นิดว่าเราจะได้แต่พลังเวทแต่จะไม่ได้พลังชีวิตเพิ่มซ้ำนะครับ เพราะว่าผลของการเพิ่มเลือดจะได้รับครั้งเดียวในชิ้นแรกเท่านั้น ไอเทมสายเวทย์ชิ้นอื่นๆ ไอเทมกลุ่มนี้เป็นไอเทมที่ไม่ค่อยเหมาะกับตัวละครสายเวทย์ส่วนใหญ่ แต่จะเหมาะกับการใช้งานเป็นตัวๆ และตามสถานการณ์เฉพาะมากกว่า ดังนั้นจึงขอยกเอาไว้มาในหมวดนี้ครับ Staff of Nuul ไอเทมที่ค่อนข้างจะสำคัญอีกชิ้นนึงของตัวเวทย์ โดยมันจะช่วยทำให้เกราะกันเวทย์ของเป้าหมายแทบจะไร้ค่าไปเลยครับ เพราะเราจะสามารถเจาะเกราะเวทย์ของเป้าหมายได้ถึง 45% เลยทีเดียว ซึ่งการออกไอเทมชิ้นนี้จะเหมาะมากๆ เมื่ออีกฝ่ายออกเกราะกันเวทย์ค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าอีกฝ่ายออกมาไม่เยอะเท่าไหร่ก็ข้ามไปก็ได้ครับ Soaring Aura ไอเทมที่จำเป็นมากๆ ตัวเวทย์สายกึ่งแทงค์ โดยเฉพาะลุงทอง (Gildur) เพราะเจ้าไอเทมชิ้นนี้...

Read more

ROV TIP : สารพัดทิปเด็ดภายในเกม ROV ในบทความนี้จะเป็นรวม ROV TIP หรือทิปต่างๆ ภายในเกมที่กบนึกออกนะครับ และอยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างเราไปชมกันเลยดีกว่าครับ ^o^ 1.ราคาของในร้านค้าจะถูกมากหากเราเล่นวันแรกๆ ฮีโร่หลายตัวโดยเฉพาะตัวเก่าๆ ราคาจะลดแบบสุดๆ  ซึ่งราคาของตัวละครที่ดขลเนี่ยก็จะมีตั้งแต่ 3 วันไปจนถึง 7 วันเลยล่ะครับ ดังนั้นช่วงแรกๆ ควรเล็งตัวที่เล่นง่ายๆ หรือสามารถทำหน้าที่ได้หลากหลายไว้ก่อน ซึ่งตัวที่ผมแนะนำก็จะมี ๐ Krixi เมจยอดนิยมที่ราคาเบาๆ แต่ฝีมือไม่เบาเลย ๐ Gildur  กิลเดอร์หรือลุงทองที่สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งแทงค์และเป็นนักเวทย์ (ตัวนี้แนะนำมากๆ) ๐ Mganga เมจอีกหนึ่งตัวที่สามารถทำดาเมจในช่วงไฟต์ได้ดีมากๆ แต่ถึงจะลดแล้วราคาก็ยังแอบสูงนะ ๐ Mina ตัวแทงค์ที่เล่นค่อนข้างง่าย เหมาะกับคนหัดเล่นมากๆ และช่วงลดราคาก็ถูกสุดๆ น่าซื้อมาหัดเล่นไว้ก็ไม่เลวครับ นอกจากตัวละครในช่วงแรกๆ ที่ราคาถูกแล้วมีเทคนิคในการหาเงินวันแรกๆ เล็กน้อยคือให้เราซื้อบัตร * EXP มาแล้วปั่นเลเวลให้ไวที่สุด จะทำให้เราได้เงินเป็นรางวัลจากการเลเวลอัพและมีเงินพอมาซื้อตัวละครครับ 2.เราสามารถเปลี่ยนไอเทมที่ซื้อบ่อยๆ ได้ในหน้าตัวละคร > ไอเทม โดยสามารถจัดไอเทมที่เข้ามือหรือชอบได้ อีกทั้งยังมีไอเทมเซตที่มีคนใช้และอันดับการชนะให้ดูด้วย โดยการกดดูได้ที่จับคู่ครับ3.ส่วนผสมไอเทมบางชิ้นอาจจะโดนซ่อนอยู่เราต้องกดดูถึงจะเห็น  ดังนั้นหากเราลืมล่ะก็ลองกดตารางไอเทมเพื่อดูได้ครับ จะทำให้เราออกไอเทมที่ต้องการได้ไม่พลาด4.เงินภายในเกมสมารถหาได้จากหลายทางโดยหนึ่งคือจากการชนะได้สูงสุดวันละ 500 ซึ่งจะได้เยอะเป็นพิเศษหากชนะเป็นครั้งแรกของวันครับ โดยหลังจากชนะไปแล้วจะต้องรออีก 24 ชั่วโมงจึงจะรับโบนัสนี้ได้อีกหน นอกจากนี้เรายังสามารถได้เงินภายในเกมมาจากการชนะครบตามจำนวนที่กำหนด (สูงสุด 7 ตา) และจากการเลเวลอัพด้วย เพื่อนๆ สามารถอ่านอย่างละเอียดได้ >>ที่นี่<<  มาเข้าถึง Tip และเทคนิคการเล่นภายในเกมกันบ้าง ข้อที่ 5.การตีคลีปตายจะได้เงินมากกว่าปล่อยตายเองนิดหน่อย ดังนั้นหากว่าเป็นไปได้เราก็ควรจะคลาสช็อตคลีปเองให้ได้มากที่สุดเพื่อให้ได้เงินมาออกของที่ต้องการได้ไวที่สุดครับ6.ลำดับการโจมตีอัตโนมัติตามปกติแล้วเกมจะให้ความสำคัญกับฮีโร่เป็นอันดับแรก ต่อด้วยป้อมและคลีป ซึ่งอาจจะไม่ค่อยเป็นอิสระในการเล็งเท่าไหร่ ดังนั้นผมจึงแนะนำว่าให่ลองเปลี่ยนไปใช้การเล็งเป้าแบบอื่นตามที่ตัวเองถนัด ซึ่งผมได้เคยทำคลิปแนะนำเอาไว้แล้วครับ สามารถไปชมได้เลย7.กำแพงหลายๆ จุดเราสามารถที่จะกระโดดข้ามได้ด้วยสกิลของฮีโร่บางตัวเช่น Taara,Fenix ฯลฯข้อที่ 8 สกิล Frostbite สามารถใช้ใส่คนได้ด้วยหากว่าเราอัพเกรดเป็นไอเทมสำหรับป่าในขั้นที่ 2 เป็นต้นไป โดยผลของมันคือทำให้เป้าหมายถูกสโลว์และโดนดาเมจจำนวนหนึ่งจ้า เรียกได้ว่าเหมือนมีอีกสกิลนึงเลยล่ะ8.ในจังหวะไฟต์หรือต่อสู้ ลองใช้หญ้าให้เป็นประโยชน์ดู เพราะเวลาที่เราเข้าไปหลบในหญ้าอีกฝ่ายที่ชอบกดรัวๆ เป้ามันจะเปลี่ยนไปตีตัวอื่นหรือคลีปแทน ทำให้เอาตัวรอดได้แบบชิวๆ เลยบางที (อันนี้ไม่ได้ใส่ในคลิป) 9.เลือดหลังป้อม จะหายไปหากว่าป้อมโดนทำลาย(ไม่ได้ใส่ในคลิป)10.ถ้าตัวละครฝั่งตรงข้ามตัวไหนโดนฆ่าตายรัวๆ เงินที่ได้จากการฆ่าจะลดลงเรื่อยๆ ตรงกันข้ามหากเราฆ่าต่อเนื่องเยอะๆ เงินที่อีกฝ่ายได้จากการฆ่าเราจะยิ่งเยอะ (ไม่ได่ใส่ในคลิป) 12.Boomstick จะทำความเสียหายให้กับฮีโร่และคลีปที่อยู่รอบๆ เป้าหมายที่โดนสกิลตัวแรกด้วย (ไม่ได้ใส่) 13.ไอเทมบางอย่างมีผลซ้อนทับกัน ดังนั้นไม่ควรออกซ้ำหลายๆ ชิ้น สังเกตุได้จากชื่อสกิล  14.ATK Speed ภายในเกมจะตันอยู่ที่ 200% เท่านั้นและจะเพิ่มเกินจากนี้ไม่ได้แม้ว่าจะใส่ไอเทมอะไรก็ตาม  15.อัตราการคริติคอลภายในเกมสามารถทำให้เกิน 100% ได้่ด้วย แต่จริงๆ แล้วมีเพียงแค่ 100% ก็ติดทุกดอกละจ้า 16.เวทแวมไพน์คือเราจะฟื้นฟูเลือดจากสกิลที่ทำควมเสียหายเป้าหมายได้ แต่ดูดเลือดคือเราจะฟื้นเลือดจากการโจมตีปกติใส่เป้าหมายได้ครับ

Read more
rov รูนเข้าใจง่าย

เรื่องรูนใครว่าเข้าใจยาก สำหรับหลายๆ คนที่พึ่งเริ่มเล่นเกม ROV ใหม่ๆ อาจจะมีปัญหาและสงสัยว่าเจ้ารูนนี่มันคืออะไรและมีผลอะไรกับกาเรล่นมากหรือเปล่า ซึ่งในวันนี้กบจะมาอธิบายถึงเรื่องรูนอย่างละเอียดให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันครับ ซึ่งบอกไว้เลยว่าไม่ยากแน่นอน รูนคืออะไร ? รูนคือหินที่มีความสามารถแตกต่างกันออกไป โดยเราจะสามารถติดตั้งเพื่อเพิ่มความสามารถให้กับฮีโร่ได้ ซึ่งเราจะได้รับช่องใส่รูนเพิ่มขึ้นมาเลเวลละ 1 ช่องและจะเต็มที่เลเวล 30 นั่นเองครับ สำหรับตัวรูนนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 สีดังต่อไปนี้ ๐ สีแดง : รูนสีนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ให้กับฮีโร่ของเรา อาทิเช่นพลังโจมตี, พลังเวท, ความเสียหายคริติคอล ฯลฯ หรือให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีโดยตรงนั่นเองครับ ๐ สีเขียว : รูนสีเขียวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการป้องให้กับฮีโร่ของเราครับ ไม่ว่าจะเป็นรูนที่เพิ่มเพราะป้องกันกายภาพ หรือเกราะป้องกันเวท ๐ สีม่วง : รูนสีนี้จะเกี่ยวข้องกับพลังชีวิตและอัตราการฟื้นฟูเลือดเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งยังมีรูนที่มีความสามารถพิเศษอย่างเวทแวมไพน์และดูดเลือดด้วย นอกจากสีของรูนแต่ละชนิดแล้วยังแบ่งออกเป็นเลเวลอีกด้วยครับ โดยจะมีอยู่ทั้งหมด 3 เลเวลแต่ละเลเวลก็จะมีราคาและความสามารถแตกต่างกันไป แน่นอนว่าเลเวล 3 จะดีที่สุดแต่ก็แพงที่สุดเช่นกัน ดังนั้นในช่วงแรกผมจึงแนะนำให้ใช้แค่เลเวล 2 ก็พอครับ รูนมีผลมากไหม ? รูนนั้นหลายๆ คนอาจจะคิดว่าไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่ว่าความจริงมันมีผลมากๆ ในช่วงต้นเกมเพราะถ้าหากใส่รูนครบชุดพลังโจมตีในและพลังป้องกันจะแตกต่างกันมากๆ ในตอนแรก โดยเฉพาะคนที่เล่นป่าที่ไปสู้กับคลีปจะเห็นผลชัดเจนเป็นพิเศษครับระหว่างการมีรูนกับไม่มี เพราะพลังโจมตีที่ต่างกัน 10-20 หน่วยนั้นก็ทำให้คลีปตายไวกว่าไม่มีเยอะมากๆ เกราะก็เช่นกัน การที่มีเกราะที่มากขึ้นก็ทำให้เราฟาร์มง่ายขึ้นสุดๆ ดังนั้นผมขอสรุปเอาไว้เลยครับว่า รูนนั้นจะมีผลต่อเกมมากๆ เพราะหากเราคุมเกมในช่วงแรกจากสเตตัสที่สูงกว่าได้ ในระยะยาวท้ายเกมเราก็จะได้เปรียบไปด้วย ราคาของรูน รูนในแต่ละระดับจะมีราคาแตกต่างกันออกไป โดยในแต่ละเลเวลจะมีราคา 10/200/2000 ตามระดับเลเวล แนะนำการจัดรูนแบบพื้นฐาน สำหรับการจัดรูนในแบบพื้นฐานนั้นเราควรจะมีรูนอยู่ 2 หน้าเป็นอย่างน้อย 1 คือรูนสำหรับการเล่นตัวละครที่มีการโจมตีและสกิลเป็นกายภาพ และ 2 คือรูนสำหรับเล่นตัวละครที่มีการโจมตีและใช้สกิลเป็นเวทย์ ซึ่งในช่วงแรกผมแนะนำว่าให้เราซื้อรูนเลเวล 2 มาใช้งานครับ และค่อยๆ ทยอยเปลี่ยนเป็นรูนเลเวล 3 เมื่อมีเงิน ไม่ต้องฝืนรีบซื้อรูนเลเวล 3 ก็ได้ โดยรุนเลเวล 2-3 ที่ผมแนะนำสำหรับทั้ง 2 สายมีดังนี้ (ขออนุญาติข้ามรูนเลเวล 1) รูนกายภาพ หรือรูนตี เอาไว้เล่นกับฮีโร่จำพวกแครี่/ป่า/นักฆ่า เป็นการจัดแบบกลางๆ ในช่วงแรกๆ ซึ่งแนะนำว่าควรจัดให้เฉพาะทางมากขึ้นในอนาคตครับ แต่หากเรายังไม่รู้ว่าจะเล่นตัวไหนเป็นหลัก ลองจัดประมาณนี้กันดูได้ครับ Rune เลเวล 2 สายตี สีแดง Master : พลังโจมตี +1.5, ความเร็วการโจมตี +0.4% Brute Force : พลังโจมตี +1.5, พลังชีวิต + 13.5 สาเหตุที่ผมแนะนำ 2 ตัวนี้เพราะสามารถใช้ได้ค่อนข้างครอบคลุมแทบจะทุกตัวละคร แต่หากว่าชอบเล่นไปทางแครี่ซะส่วนใหญ่อาจจะหันไปลองใช้ Mob ที่ได้ทั้งคริ +0.5% และ ความเสียหายคริติคอล +2% ก็ได้ครับ สีม่วง Mutation : พลังชีวิต +45 Reinforce : พลังชีวิต +36, เกราะ +1.6 สังเกตุว่าผมเลือกที่จะให้เน้นไปที่พลังชีวิตเพราะว่ามันสามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ครับ เกราะต้านเวทหรือกายภาพ เราสามารถปรับเปลี่ยนไอเทมเอาได้ สีเขียว Indomitable : เกราะ +5.4 Loyalty : ต้านทานเวท +5.4 แนะนำว่าให้ใส่สับๆ กันครับ หรือจะเน้นไปที่เกราะล้วนเลยก็ได้ แล้วออกของต้านเวทช่วยเอา เพราะโดยพื้นฐานแล้วตัวตีกายภาพมักจะเจอตัวตีกายภาพด้วยกันบ่อยกว่า ต่อมารูนเลเวล 3 สายตี มีที่น่าใช้อยู่พอสมควรเลยทีเดียวซึ่งมันจะค่อนข้างเฉพาะทางขึ้นมาหน่อยนึงแล้ว เราอาจจะต้องตัดสินใจเลือกจากแนวที่เราชอบเล่นเป็นหลักครับ แต่ถ้าจะเล่นแบบรวมๆ ยังตัดสินใจไม่ได้ผมจะแนะนำดังนี้ สีแดง Onslaught : พลังโจมตี +2, เจาะเกราะ +3.5 Bloodlust : พลังโจมตี +2.5, ดูดเลือด +0.5% Bloodlust จะเหมาะกับพวกตัวแครี่ หากเราเล่นพวกแครี่บ่อยๆ หรือไฟต์เตอร์จะค่อนข้างเหมาะครับ แต่ถ้าไม่ใช่ใช้ Onslaught จะดีกว่า สีม่วง Colossus : พลังชีวิต +75 (ใส่กับพวกแท้งค์) Immortal : พลังชีวิต +60 ฟื้นฟูพลังชีวิต/5 วิ +4.5 (เหมาะกับเอาไว้ยืนเลนนานๆ ได้ทั้แทงค์และตัวอื่นๆ) Assassinate : พลังโจมตี +1.6, ความเร็วการเคลื่อนที่ +1% (เหมาะกับคนชอบเล่นพวกตัวป่าดาเมจ เช่น Butterfly) รูนสีม่วงมีตัวเลือกเยอะมากๆ ผมเลยเลือกที่น่าใช้และมาให้เป็นตัวอย่าง 3 ตัวครับสำหรับสายตี สีเขียว Herculean Power : เกราะ +5, ต้านทานเวท +5 Great Wall : เกราะ +9 โดยส่วนตัวแล้วผมว่า Herculean Power ค่อนข้างจะครอบคลุมสุดครับ แต่ถ้าหากคิดว่าไม่ค่อยเจอพวกสายเวทหรอกในช่วงแรกๆ ก็ใส่ Great Wall ไปก็ได้ครับ รูนสายเวทย์ สำหรับสายนี้จะแตกต่างจากรูนทางสายตีพอสมควรครับ เพราะสเตตัสที่เราใช้จะไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ โดยรูนที่ผมจะขอแนะนำในแบบพื้นฐานและเล่นได้ครอบคลุมจะมีดังนี้ เลเวล 2 สายเวทย์ สีแดง Pestilence : พลังเวท +2.5, เจาะเกราะเวท +1.4 สีม่วง Mutation : พลังชีวิต +45 Revelation : พลังเวท +1.4, เวทแวมไพน์ 0.8%, ต้าทานเวท +1.6 โดยส่วนยตัวผมชอบ Mutation ครับบวกเลือกตรงๆ แน่นอนดี แต่ใครอยากได้ความหลากหลายลองไปใช้ revelation กันได้ครับ สีเขียว Loyalty : ต้านทานเวท +5.4 ตัวเวทส่วนมากจะไปตบกันเลนกลางครับ ดังนั้นส่วนใหญ่จึงจะเจอเวทด้วยกัน แต่ก็มีบางกรณีอาจไม่ใช่ แต่ผมจะเอาส่วนมากที่เจอเลยใช้เป็นรูนต้านเวทครับ เลเวล 3 สีแดง Desolate : พลังเวท +4.2, เจาะเกราะเวท +2.4 สีม่วง Colossus : พลังชีวิต +75...

Read more

รวมสารพัดวิธีการหาเงินภายในเกม ROV:Realm of Valor ภายในเกม ROV: Realm of Valor นั้นอาจจะมีการจำกัดเงินที่ได้จากการเล่นเกมจบแต่ละรอบก็จริง แต่ทว่าเราก็ยังมีวิธีการหาเงินภายในเกมวิธีอื่นอีกหลายวิธีพอสมควรวึ่งวิธีการหาเงินทั้งหมดหมายในเกมมีดังต่อไปนี้ครับ 1.เล่นให้จบตา : วิธีการนี้เป็นวิธีการบ้านๆ ที่สุดที่เราสามารถจะทำได้ ซึ่งเพียงแค่เราเล่นจบในแต่ละตาก็จะได้เงินแล้ว ซึ่งความพิเศษก็คือถ้าหากว่าเราชนะเป็นครั้งแรกของวันเราจะได้เงิน *2 ด้วยครับ (เวลาจะรีเซ็ตเมื่อผ่านไป 1 วันหลังจากชนะแล้ว) แต่การเล่นให้จบตานี้มีข้อเสียคือเราจะได้รับเงินในแต่ละวันไม่เกิน 500 เท่านั้นครับ 2.ทำภารกิจรายวัน : วิธีนี้จะไปด้วยกันกับการเล่นให้จบตาครับ ซึ่งทุกครั้งที่เราเล่นจบไม่ว่าแพ้หรือชนะก็จะนับเช่นกันและถ้าหากว่าเราเล่นครบ 6 ตาจำนวนเงินที่เราจะได้นั้นจะมากถึง 440 ต่อวันเลยล่ะครับ แถมยังได้ exp ด้วยนะ 3.เลเวลอัพ : ทุกครั้งที่เราเลเวลอัพสิ่งที่จะได้มาด้วยก็คือรางวัลความสำเร็จเมื่อเลเวลอัพนั่นเอง! 4.กดรับเอาจากเพื่อนๆ : เราสามารถที่จะรับเหรียญที่เพื่อนๆ ส่งมาให้เราได้ถึงวันละ 5 ครั้งด้วยกัน โดยจะได้ครั้งละ 5 เหรียญ นั่นก็หมายความว่าเราสามารถหาได้เพิ่ทต่อวัน 25 เหรียญด้วยกันเลยล่ะครับ

Read more

แนวทางการเล่น ROV สำหรับมือใหม่ สวัสดีครับช่วงนี้เพื่อนๆ หลายคนน่าจะกำลังหัวร้อนกันอยู่กับเกม MOBA บนมือถืออย่าง ROV:Realm of Valor กันซึ่งถ้าหากว่าใครยังไม่ค่อยเชี่ยวชาญหรือยังอยากจะศึกษาพื้นฐานของเกมล่ะก็ เข้ามาดูบทความนี้กันได้เลยครับรับรองว่าการเล่นเกมนี้จะกลายเป็นเรื่องง่ายอย่างแน่นอน โดยมือใหม่มีเรื่องอะไรบ้างที่ควรรู้ไปชมกันเลยครับ วิธีการชนะเกม เชื่อว่าหัวข้อนี้หลายคนน่าจะทราบอยู่แล้วครับ แต่ผมจะมาย้ำเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ซึ่งการชนะภายในเกมนี้ได้นั้นเราจะต้องทำลายป้อมปราการของฝั่งตรงข้ามที่อยู่ภายในสุดให้ได้ หรือเราอาจจะเรียกกันว่าฐาน, บ้าน, ป้อมใน ฯลฯ โดยตัวเกมจะแบ่งออกเป็น 3 เลนเราจะดันไปเลนไหนก็ได้ไปถึงป้อมได้เหมอืนกันหมด!! ทีนี้เรารู้แล้วว่าชนะยังไงทีนี้เราไปดูหัวใจสำคัญกันดีกว่าอะไรคือหัวใจสำคัญของการชนะเกม Key to Win!! หัวใจสำคัญในการได้รับชัยชนะ 1.เลือกตัวให้เข้ากับทีม : ในทีมควรจะมีตำแหน่งต่างๆ ให้ครบ โดยในการเล่นใหม่ๆ อาจจะไม่ต้องใส่ใจมาก แต่ถ้าเล่นไปสักระยะหนึ่งภายในทีมควรจะมีแครี่,แทงค์, จังเกิล ให้ครบซึ่งแต่ละตำแหน่งมีหน้าที่อะไรเดี๋ยวจะขยายในส่วนต่อไป 2.ทำงานกันเป็นทีม : ภายในเกมเราสามารถปิงหรือส่งสัญญาณให้เพื่อนได้ อย่ามัวแต่ม่อเพื่อนร่วมทีมจนเพื่อนตายหมด หากมีอะไรก็บอกเพื่อนบ้าง เช่นอีกทีมหาย หรือเรากำลังจะไปช่วยนะ! 3.บ้าคิลได้แต่อย่าลืมป้อม : เกมนี้ไม่ได้วัดกันที่จำนวนคิลแต่วัดกันที่ใครดันถึงบ้านก่อนครับ การคิลนั้นดีเพราะเราจะได้เงินและเลเวลจำนวนมาก แต่อย่าลืมสนใจป้อมด้วยยยย 4.ออกไอเทมให้ถูกสถานการณ์ : ไอเทมภายในเกมนี้มีคุณสมบัติค่อนข้างต่างกัน การออกแต่ของเดิมๆ และของแนะนำอาจไม่ตอบโจทย์ในระยะยาว ดังนั้นควรศึกษาไอเทมแต่ละชิ้นกันไว้ด้วย 5.เก็บทรัพยากณ์ในป่าเมื่อมีโอกาส : พวกมอนสเตอร์ในป่านั้นให้ exp และบัฟที่ดีมากๆ หากมีโอกาศอย่าลืมเข้าไปเก็บด้วยโดยเฉพาะโกเลมฟ้าและโกเลมแดง และที่สำคัญเลยคือมังกรกับบอสของแมพอย่าง Dark Slayer รู้จักกับตำแหน่งต่างๆ ฮีโร่แต่ละตัวนั้นส่วนใหญ่แล้วก็จะมีโรลและตำแหน่งแตกต่างกันไปครับ ซึ่งโดยหลักๆ แล้วจะแบ่งออกเป็น 6 ประเภทคร่าวๆ จำไว้ก็ดี จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ เล่นๆ งงค่อยกลับมาอ่านก็ได้ 1.แครี่ (Carry): ฮีโร่ผู้ซึ่งมีหน้าที่ทำดาเมจใส่ศัตรูให้มากที่สุดด้วยการโจมตีปกติที่รุนแรงและต่อเนื่อง โดยฮีโร่ในกลุ่มนี้มักจะสามารถทำดาเมจต่อวินาทีได้เยอะด้วยการโจมตีปกติเช่น Van Helsing, Yorn, Fenix ฯลฯ 2.แทงค์ (Tank): ฮีโร่ที่มีเลือดหรือสกิลที่สามารถรับดาเมจให้เพื่อนได้ เหมาะกับการเปิดฉากการต่อสู้ให้ทีม โดยฮีโร่ในกลุ่มนี้เช่น Gildur, Taara, Grakk ฯลฯ 3.ไฟต์เตอร์(Fighter): ฮีโร่ที่อยู่จุดกึ่งกลางระหว่างแทงค์และแครี่ เรียกง่ายๆ ก็คือจับฉ่ายผสมเอาจุดเด่นระหว่าง 2 สายเข้าไว้ด้วยกัน แต่ก็ไม่สุดสักทางแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่กับของที่ออกด้วยนะ ตัวอย่างเช่น Zanis, Lubu, Ormarr, Maloch, Zephys, ฯลฯ 4.ซัพพอร์ต(Support): ฮีโร่สายแม่พระที่ทุกๆ คนในทีมรัก(?) หรือบางทีอาจจะโดนไล่ให้ไปเล่นตัวอื่นแทน 5555 (เพราะเค้าไม่รู้ความสามารถ) โดยฮีโร่สายนี้จะมีสกิลสนับสนุนค่อนข้างเยอะ แต่ก็มีข้อเสียคือทำดาเมจได้ไม่ค่อยดี และต้องพึ่งพาเพื่อนร่วมทีมค่อนข้างมาก ตัวอย่างฮีโร่ในสายนี้ (Payna, Alice ฯลฯ ) 5.เมจ(mage) : สายอาชีพขั้นแรกก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นวิซซาร์ด... เอ้ย! ไม่ใช่!! ฮีโร่ในกลุ่มเมจนั้นจะทำหน้าที่คล้ายแครี่ครับ แต่จะแตกต่างกันตรงแทนที่จะทำดาเมจด้วยการโจมตีปกติอย่างแครี่ แต่เมจจะทำดาเมจด้วยสกิลเป็นหลักครับ ตัวอย่างเช่น (Krixi, Mganga, ฯลฯ) 6.แอสซาซิน(Assassin) : ฮีโร่กลุ่มที่มีความสามารถในการเข้าประชิดตัวฮีโร่ฝ่ายศัตรูได้อย่างฉับไว โช้งเช้งโชะเช๊ะ และสามารถฆ่าเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็มีข้อเสียคือตัวบางมากๆ! (Butterfly) โดยตำแหน่งต่างๆ เนี่ยขอให้จำเอาไว้ว่ามันไม่ได้ตายตัวเสมอไปครับ อย่างเช่นบางทีแทงค์อาจจะออกดาเมจจนแรงกว่าแครี่ หรือไฟต์เตอร์ที่ออกของแทงค์ล้วนก็อาจจะทำหน้าที่แทนแทงค์ได้เหมือนกัน! ดังนั้นขอให้เรารู้ไว้คล่าวๆ ก็พอครับ ไปเลนไหนกันดี? ในเกม ROV มีเลนอยู่ 3 เลนด้วยกันและช่องพิเศษคือเลนป่าอีก 1 เลนครับ ซึ่งหลายคนก็อาจจะสงสัยว่าจะไปเลนไหนดี? ขนาดถนนยังมีเลนซ้ายเลนขวา ROV เองก็มีเลนกับเค้าด้วย ซึ่งการเลือกเลนเนี่ยจริงๆ แล้วไม่ได้ตายตัวสักเท่าไหร่ครับ แต่ถ้าหากจะให้แนะนำแบบง่ายๆ โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีพื้นฐานดังนี้ครับ ๐ เลนกลาง : ตัวละครที่ไปเลนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักเวท ซึ่งสาเหตุมาจากพวกตัวเวทต้องการเลเวลที่ไวเพื่อให้มีสกิลรุนแรงที่สุด โดยนักเวทนั้นส่วนใหญ่ของไม่ต้องเยอะมาก แต่ในบางกรณีก็อาจจะมีตัวที่เป็นแครี่เข้ามายืนเลนก็ได้ โดยแครี่ที่นิยมเอามาเลนกลางก็จะมี Violet หรือ Fennik ครับเพราะสองตัวนี้สามารถหลบสกิลของพวกตัวเวทได้ดี และมีสกิลตอดที่รุนแรงมากๆ เรียกได้ว่าพวกนักเวทหลายตัวเกลียดเลยแหละ ๐ เลนฝั่งมังกรใหญ่ : ที่ผมขอเรียกแบบนี้เพราะในจอเราจะเห็นว่าตัวเองอยู่ฝั่งซ้ายมือตลอด แต่จริงๆ แล้วเกมมันก็สับด้านไปเรื่อยๆ แหล่ะครับ ให้เราสังเกตุดูว่ามังกรใหญ่อยู่ฝั่งไหน ฝั่งนั้นจะค่อนข้างมีความสำคัญ เราควรจะส่งฮีโร่ไปเฝ้า 2 คน เพราะไม่อย่างนั้นมังกรอาจจะโดนแย่งเอาได้ง่ายๆ ซึ่งให้เงินถึง 100 ต่อการฆ่าได้ 1 ครั้งเลยครับ(ทั้งทีมด้วยนะ) ๐ เลนฝั่ง Dark Slayer: หรือเลนฝั่งบอสของเกมนั่นแหล่ะครับ โดยเลนนี้ส่วนใหญ่จะมากันคนเดียว สาเหตุเนื่องมาจากบอสมันกว่าจะเกินก็ต้องเล่นไปสักระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องเฝ้ามาก เลนนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นเลนที่วัดกัน 1-1 ๐ ป่า : ป่านั้นจะอยู่ระหว่างเลนต่างๆ โดยคนที่เข้าไปในป่านั้นช่วงแรกจะเลเวลไวกว่าในเลนพอสมควร จึงมีหน้าที่คอยเฝ้าดูแลและช่วยเหลือเพื่อนภายในที่กำลังเสียเปรียบ โดยการออกมาเซอร์ไพรต์เป็นระยะๆ วิธีการเล่นอย่างละเอียดกบจะเขียนทีหลังจ้า (เขียนในนี้เดี๋ยวยาวไป) ซึ่งตัวป่าที่นิยมปัจจุบันจะเป็น Butterfly หรือ Zenis ครับ(ตัวอื่นก็ป่าได้นะแต่แค่ลูกเมียน้อยนิดหน่อย) และคนเข้าป่าควรซื้อไอเทมสำหรับสายป่าโดยเฉพาะ ความเสียหายเวท/ความเสียหายกายภาพ คืออะไร? เรื่องสำคัญที่คนเล่นใหม่ๆ มักจะมองข้ามกันก็คือประเเภทของความเสียหายครับ โดยความเสียหายเนี่ยจะมีอยู่ 2 แบบคือความเสียหายเวท ที่มาจากสกิลของพวกตัวเวท(แทงค์หลายๆ ตัวก็มีสกิลคิดเป็นเวทนะ) และความเสียหาย กายภาพที่มาจากการโจมตีปกติและสกิลของหลายๆตัว ซึ่งเมื่อเราได้รับดาเมจเข้าไป จะหักลบกับค่าเกราะ หรือ เกราะต้านเวทที่เรามี ก่อนจะหักลบกับเลือดที่เหลืออยู่ครับ ดังนั้นหากใครเล่นแทงค์อย่าลืมออกของป้องกันให้ถูกกันด้วยนะ! สกิลชาเลนเจอร์ สกิลสนับสนุนที่ช่วยให้การเล่นของเราง่ายขึ้น โดยจะปลดล็อกเรื่อยๆ เมื่อเราเลเวลมากขึ้นครับ โดยสเปลแต่ละชิ้นก็จะมีคุณสมบัติต่างกันออกไป โดยกบขอสรุปคร่าวๆ ดังนี้ Sprint : ทำให้วิ่งไวขึ้นระยะเวลานึงเหมาะกับแทบทุกตัวในช่วงแรกเอาไว้ใช้หนีหรือใช้ไล่ฆ่า ข้อดีคือระยะเวลาแสดงผลมันนานมาก วิ่งจากกลางแมพไปปลายแมพได้เลย Execite : สร้างความเสียหายจริง (ไม่หักเกราะ) กับฮีโร่รอบๆ เป็นจำนวน 16% ของพลังชีวิตที่หายไป เหมาะกับพวกตัวไฟต์เตอร์ที่ต้องการดาเมจเพิ่ม ไม่เหมาะกับสายอื่นๆ เท่าไหร่เพราะต้องเข้าไประยะใกล้มาก ทำให้เสี่ยงต่อการโดนรุมยำ Punish : สกิลที่ใช้ในการเข้าป่า โดยการฟาดดาเมจใส่คลิป ทำให้สามารถฟาร์มได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งหากเราอัพเกรดไอเทมป่าจะทำให้ใช้ Punish ใส่คนได้ด้วย Roar : ทำให้ตีไวขึ้น 60% และตีแรงขึ้น 10% 5 วิ เหมาะกับพวกแครี่กับพวกตัวเข้าไปล้วง แต่โดยรวมแล้วผมว่าใช้อันอื่นดีกว่าแฮะ (แล้วแต่ชอบนะจริงๆ ) Heal : สกิลยอดนิยมอีกตัวนึง ที่เอาไว้ใช้ฮีลตัวเองและเพื่อนรอบๆ โดยคิดจาก 15% ของพลังชีวิตสูงสุด และยังได้ความเร็วการเคลื่อนที่ 15% อีก 2 วิ เหมาะกับเลนที่ไปกับเพื่อนเป็นพิเศษ แต่จริงๆ ก็พกไปทุกคนยังได้เลยมันทำให้เวลาไฟต์เราเซฟขึ้นพอควรครับ Disturb : ทำให้ป้อมเดี้ยงเป็นเวลา 5 วินาที...

Read more

หากชื่นชอบผลงานสามารถกดถูกใจให้เพจผู้เขียนได้ที่นี่ >>Click<<Gildur The Golden King เป็นฮีโร่สายแทงค์ที่มีความยืดหยุ่นมากๆ ถึงแม้ว่าตัวเกมจะบอกว่าเค้าเป็นฮีโร่สายแทงค์ แต่ความจริงแล้วเราสามารถปรับเปลี่ยนไอเทมและเล่นเค้าให้เป็นฮีโร่สายเวทได้ครับ ซึ่งก็แรงไม่แพ้ตัวอื่นๆ เลยทีเดียว อีกทั้งเค้ายังมีความสามารถในการเปิดให้กับเพื่อนร่วมทีมด้วยสกิลหยุดอย่าง  Debauchecy ที่ทำให้เป้าหมายแทบจะเป็นเป้านิ่งที่น่ากลัวสุดๆ ดังนั้นฮีโร่ตัวนี้ผมจึงอยากแนะนำให้เราหัดเล่นกันเอาไว้ครับ เพราะใช้ได้ทุกสถานการณ์แน่นอน  และในส่วนของเรื่องเลน เค้าสามารถไปเลนไหนก็ได้ครับทั้งเลนเดี่ยวหรือคู่ โดยถ้าไปเลนคู่จะสามารถเปิดจังหวะในการบวกให้เพื่อนในเลนได้ดีมาก Skill ภาพ ชื่อสกิล ความสามารถ The Touch การโจมตีคอมโบธรรมดาครั้งที่ 4 จะทำให้เป้าหมายด้านหน้ากระเด็นถอยหลัง และสร้างความเสียหายเวท(3.0) ของพลังเวท อีกทั้งทุกสกิลที่ร่ายจะได้รับโล่ป้องกันชั่วคราว Siega Gildur พุ่งไปด้านหน้า สร้างความเสียหายกายภาพ 90/100/110/120/130/140(บวกพลังเวทย์และพลังโจมตี 0.45) ให้แก่ศัตรูที่โดน โดยมีคูลดาวน์จะลดตามระดับเลเวล 10/9/8/7/6/5 โดยจะใช้มานา 75 หน่วย และเพิ่มขึ้น 5 หน่วยต่อเลเวล Miser Gildur ยิงทองคำใส่ศัตรู สร้างความเสียหายเวท 300/350/400/450/500/550 (+1.5 ของพลังเวท) และสตั๊นเป็นวงกว้าง โดยจะใช้มานา 70 และเพิ่มขึ้น 10  ทุกเลเวล ส่วนคูลดาวน์จะเริ่มต้นที่ 12 และลดลง 1 ทุกๆ เลเวลจนเหลือ 7 วินาที Debauchery Gildur เรียกวงแหวนทองคำออกมาสร้างความเสียหายเวทแต่ละครั้ง 100(0.45 ของพลังเวท) และสตั๊นศัตรูรอบๆ ตัว ดาเมจ : 100/130/160   คูลดาวน์ :42/35/28  มานา : 150/160/170   แนวทางการอัพสกิล Gildur เทคนิคการใช้สกิล ๐ สกิล Passive ของลุงทองที่ทำให้เราได้รับเกราะทุกครั้งที่ใช้สกิลต่างๆ ซึ่งมีประโยชน์มาก เพราะจะทำให้เรายืนได้อีกนิดนึง โดยมีข้อควรทราบคือหากเรากดใช้สกิลใหม่ไป เกราะของเดิมจะหายทันที ดังนั้นไม่ต้องรีบรัวสกิลก็ได้หากไม่จำเป็น และการต่อยด้วยท่า Passive ที่ผลักศัตรูออกไปก็นับว่าเป็นสกิลด้วยนะ ได้รับเกราะเหมือนกันจ้า * ช่วงต้นเกมเราสามารถทำคอมโบได้ง่ายๆ ด้วยการโจมตีปกติใส่คลีป 2-3 ทีแล้ว Siege เข้าไปต่อยฮีโร่ฝ่ายตรงข้าม (แต่ถ้าเลือดน้อยอย่าเสี่ยงดีกว่านะ) https://youtu.be/3GuwFhSdPVk ๐ Siege สามารถใช้ข้ามสิ่งกีดขวางได้ ดังนั้นควรฝึกใช้ให้คล่องๆ เอาไว้จะทำให้เราเอาตัวรอดในสถานการณ์โดนรุมหรือโดนไล่ได้ครับ ๐ Miser มีระยะสกิลไกลมาก และแม้จะสุดระยะของมันแล้วยังสามารถระเบิดได้อีกหน่อย ทำให้ระยะมันไกลกว่าที่โชว์ แต่เราก็ต้องระวังมันโดนคลีปแทนที่จะโดนเป้าหมายด้วยนะ ๐ Debauchery นอกจากจะใช้เปิดได้ดีมากๆ แล้วยังใช้เป็นสกิล Counter พวก Assasin อย่าง Butterfly ได้ดีมาก โดยให้เรารอจังหวะที่พวกตัวล้วงเข้ามาฆ่าทีมเราแล้วดักรอใช้อันติรับรองว่าได้ผลดีมากๆ ครับ แนวทางการเล่น ๐ ตอนเลือกตัว เราควรจะคิดตั้งแต่ตอนเลือกตัวเลยครับว่าจะเล่นไปทางสายไหน โดยดูจากตัวของทีมเรา ถ้าหากว่าขาดแทงค์เราก็ควรจะเล่นแทงค์ โดยการออกของเน้นไปทางเลือดและเกราะ แต่ถ้าหากว่ามีตัวแทงค์อยู่แล้วอาจจะออกไปทางเวทย์ก็ได้ครับ ๐ สายแทงค์ ในช่วงเลือกตัวถ้าคิดจะมาเล่นแทงค์ผมแนะนำให้พกสกิล Flicker ต้นเกมนั้นโดยส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างเชียร์ให้ออก Phoenix Tear เพื่อเอาไว้ฟื้นเลือดเมื่อเลเวลอัพและได้เวทอีกหน่อย จากนั้นออก Orb of the Magi  เพราะเราจะได้ทั้งเลือด,มานา, ลดคูลดาวน์ และพลังเวทย์ครับ เรียกได้ว่าครบทุกอย่างที่ต้องการเลย จากนั้นก็ดูสถานการณ์อีกฝั่งที่เราเจอในเลนเวทหรือตีปกติแรง ให้ออกของป้องกันไปตามนั้น หรือหากเจอผสมๆ กันทั้งสองสาย อาจจะออกของที่เด้งเลือดได้อย่าง Gaia’s Standard ซึ่งนอกจากจะกันเวทได้แล้วยังเด้งเลือดตอนโดนดาเมจด้วย  ๐ สายเวท สำหรับสายนี้สเปลอาจจะไม่จำเป็นจะต้องเอา Flicker ไปก็ได้ อาจจะเอาเป็นฮีลหรืออย่างอื่นไปก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าอยากเอาไว้เซฟตัวเองตอนไฟต์หรือไว้เปิดก็ไม่เลวเหมือนกัน เพียงแต่มันไม่ค่อยจำเป็นเท่าสายแทงค์ครับ เพราะตัวเราบาง และไอเทมสำหรับสายนี้นั้นผมแนะนำให้ออกเป็น Orb of the Magi ก่อนเหมือนสายอื่นๆ จากนั้นตามด้วยรองเท้า  > Hecate’s Diadem> Boomstick > Staff of Null > Holy of Holies ครับ ๐ สายกึ่งเวท สำหรับการเล่นกึ่งเวทนั้นชิ้นแรกผมแนะนำให้ออกเช่นเดียวกับสายอื่นๆ คือ Orb of the Magi จากนั้นให้ออกแทงคืสักชิ้นเพื่อดูสถานการณ์ก่อน โดยผมแนะนำเป็น  Gaia’s Standard หรือ Medalion of troy จากนั้นให้ดูสถานการณ์หากได้เปรียบก็ออกของเวทเพิ่มแต่ถ้าเสียเปรียบอาจจะออกแทงค์เพิ่มครับ ๐ คอมโบพื้นฐาน  คอมโบส่วนใหญ่ของ Gildur จะเป็นการใช้ Siege พึ่งเข้าไปแล้วต่อด้วย  Debauchery หรือถ้าหากอยากได้ระยะที่เพิ่มขึ้นมาไกลๆ อาจจะใช้ Flicker เข้าช่วยก็ได้ครับ*สำหรับรองเท้าถ้าเล่นสายแทงค์อาจจะออกไปตามสถานการณ์และตัวละครอีกฝ่ายที่เจอครับ ถ้าเจอตัวกายภาพอาจจะออกเป็น Sonic Boots ก็ไม่เลวนะ   รูนเบื้องต้น ถึงแม้ว่า Gildur จะเล่นได้หลายสายก็จริง แต่ว่ารูนนั้นเราอาจจะไม่ต้องเตรียมเอาไว้ทุกสายก็ได้ โดยหลักๆ แล้วผมอยากจะให้ยืนพื้นเอาไว้ที่รูนเวท ครับ เพราะอย่างน้อยเราก็จะได้ดาเมจต้นเกม แต่หากเรามีรูนแทงค์ไปเลยอาจจะใช้เป็นแทงค์ไปเลยก็ได้ครับ แต่หากไม่มีใช้เวทไปก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมายนัก รูนแดง : กรณีที่เป็นเลเวล 2 ผมขอแนะนำเป็น Pestilence  ส่วนเลเวล 3 จะเป็น Sage หรือ Desolate ครับ รูนม่วง : ถ้าเลเวล 2 ผมแนะนำเป็น Mutation แต่ถ้าเลเวล 3 ผมแนะนำเป็น Colossus ครับเพื่อเอาเลือดเอาไว้ยืน เพราะไม่ว่าจะเล่นสายไหนเลือดก็ค่อนข้างจำเป็นสำหรับตัวนี้ครับ รูนเขียว : ผมขอแนะนำแบบกลางๆ เอาไว้คือ Herculean Power ในระดับ 3 แต่ถ้าใครอยากเน้นเกราะอย่างเดียวหรือต้านเวทก็เปลี่ยนไปใช้อันอื่นได้ครับ ส่วนในระดับ 2 เป็น indomitable หรือ Loyalty ครับ สรุปข้อดีเสีย ข้อดี ๐ ราคาไม่แพงมาก ๐ สามารถเล่นได้หลายแบบทั้งแทงค์และดาเมจ ๐ มีสกิลหยุดที่น่ากลัวที่สุดในเกมและนานมากๆ ๐ เข้าและออกไฟต์ไวมากด้วยสกิลพุ่ง ๐ เหมาะกับการเอาไปเล่น Rank มากๆ ข้อเสีย ๐ การจะฆ่าด้วยตัวคนเดียวค่อนข้างยากต้องมีเพื่อนช่วย ๐ เป็นตัวที่ต้องอาศัยทีมเวิร์คพอสมควร ๐ ท่าอัลติเมทสามารถถูกหยุดได้ง่ายด้วยสกิลผลัก, สตั๊น หรือยก

Read more
Page 199 of 200 1 198 199 200