Mobile Guide

Black Swan เป็นตัวละครในสายลบล้าง ธาตุ "ลม" ภายในเกม Honkai: Star Rail โดยเธอเป็นตัวละครที่ทำดาเมจเป็น DoT (ดาเมจต่อเนื่อง ) ซึ่งเหมาะกับเอามาใช้เล่นกับทีมประเภทนี้มาก ๆ แต่ทั้งนี้เธอก็ถือว่าเป็นตัวละครนึงที่มีการเล่นค่อนข้างจะซับซ้อน หากนับตัวละครที่ออกมาช่วงหลัง Table of contentsรีวิวการใช้งาน Black Swanสกิลของ Black SwanLight Cone แนะนำของ Black SwanRelic แนะนำEidolon แนะนำตัวอย่างทีมแนะนำสรุปการบิ้ว Black Swan รีวิวการใช้งาน Black Swan Black Swan เป็นตัวละครที่ถือว่าค่อนข้างจะมีความซับซ้อนสูงระดับนึง ซึ่งคนที่พึ่งมาเล่นอาจจะแอบงงนิดหน่อย ดังนั้นผมขออธิบายเล็กน้อยก่อน เกี่ยวกับดีบัฟ ความศักดิ์สิทธิ์ (Arcane) โดยศัตรูที่ได้รับดีบัฟนี้จะได้รับดาเมจต่อเนื่องธาตุลม ตอนเริ่มเทริ์น สูงสุด 240% ของพลังโจมตี และแต่ละ Stack จะเพิ่มตัว * นี้ 12% หมายความว่าหากเราสามารถเก็บ Stack ได้เยอะ จะสามารถทำดาเมจได้มหาศาลมาก ๆ และหลังจากศัตรูโดนดาเมจตอนต้นเทริ์นแล้ว Stack นี้จะรีเซ็ตกลับมาเป็น 1 ซึ่งเราสามารถทำให้ซ้อนทับได้มากสุดถึง 50 หน่วย ทีนี้หลายคนอาจจะงงว่า Stack ของ "ความศักดิ์สิทธิ์" จะเพิ่มขึ้นได้ยังไงบ้าง ขอสรุปแบบเร็ว ๆ นะครับ เพราะถ้าอธิบายแบบละเอียดมันจะค่อนข้างยาว ซึ่งหากเราอัป Trace ทั้งหมดแล้ว Stack จะมีโอกาสเพิ่มได้ดังนี้ โจมตีและใช้สกิลใส่ศัตรูที่ติดสถานะ DoT (ลมเฉือน / เสียเลือด / เผาไหม้ / ช็อตไฟฟ้า) เมื่อเริ่มตาของศัตรูแล้วติดสถานะ DoT ติดศัตรูอยู่ ยิ่งติดหลายสถานะยิ่งได้ Stack เยอะ (จะมี % อยู่ อาจจะไม่ได้ติดตลอด) เข้าสู่การต่อสู้จะมีโอกาสทำให้ศัตรูโดนคนละ 1 Stack ตั้งแต่เริ่ม ใช้เทคนิคก่อนสู้ จะเพิ่มโอกาสติดสถานะซ้อนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะล้มเหลว ทีนี้ความโหดของตัวนี้คือหากเราทำให้ศัตรูติดสถานะได้ถึงจำนวนที่กำหนด การโจมตีต่อเนื่องของ Black Swan จะไม่สนพลังป้องกัน 20% และถ้ามี ไลท์โคนเข้ามาเริมด้วย จะได้พลังโจมตีและตีไม่สนเกราะเพิ่มขึ้นอีก นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม Black Swan ถึงเป็นตัว DPS ดาเมจแบบ DoT ที่แรงเอามาก ๆ นี่ยังไม่นับรวมท่าไม้ตายที่ทำให้ Stack ไม่หายไป และศัตรูจะโดนดาเมจแรงขึ้นอีก 25% เข้าไปด้วย แถมสถานะ Arcane จะนับว่าศัตรูติดสถานะผิดปกติอยู่ ซึ่งถ้าไปกับ Kafka จะเป็น Duo ที่ทำดาเมจได้แรงมาก ข้อดีข้อเสียทำดาเมจ DoT ได้แรงมากต้องมีทีมที่เหมาะสมถึงจะเก่งทำดาเมจหมู่ได้ดีสกิลค่อนข้างซับซ้อนและมีเงื่อนไขที่ต้องทำความเข้าใจเหมาะกับทั้ง Moc และ PFต้องมีของและไอเทมที่ตรงสาย สกิลของ Black Swan ชื่อความสามารถPercipience, Silent Dawn -(โจมตีปกติ)สร้างดาเมจลม 78% ของตัวละคร แก่ศัตรูที่กำหนดหนึ่งตัว และมีโอกาสพื้นฐาน 74% ที่จะทำให้เ้ปาหมายติดสถานะ ความศักดิ์สิทธิ์ 1 ขั้นหลังจากโจมตีเป้าหมายที่ติดสถานะ ลมเฉือน / เสียเลือด / เผาไหม้ / ช็อตไฟฟ้า แต่ละสถานะ จะมีโอกาสพื้นฐาน 74% ที่จะทำให้เป้าหมายติด สถานะ ความศักดิ์สิทธิ์ เพิ่มอีก 1 ขั้น Decadence, False Twilight - สกิลต่อสู้ สร้างfkg,0], 112.5% ของพลังโจมตี แก่ศัตรูที่กำหนด 1 ตัว รวมถึงตัวที่อยู่ใกล้กับเป้าหมาย พร้อมกับมีโอกาส 100% ที่จะทำให้เป้าหมายและตัวที่อยู่ใกล้เคียงติด ความศักดิ์สิทธิ์ 1 ขั้น นอกจากนี้มีโอกาสพื้นฐาน 100% ที่จะทำให้พลังป้องกันของเป้าหมายและตัวใกล้เคียงลดลง 23.8% 3 ตาBliss of Otherworld's Embrace - ท่าไม้ตาย (หมู่) ทำให้ศัตรูทั้งหมดติดสถานะ "เปิดเผย" เป็นเวลา 2 เทิร์น ขณะที่อยู่ในสถานะ "เปิดเผย" จะได้รับ DMG ในตาตัวเองเพิ่ม 30% และเมื่อเป้าหมายติดสถานะ ความศักดิ์สิทธิ์ จะถือว่าติดสถานะ ลมเฉือน / เสียเลือด / เผาไหม / ช็อตไฟฟ้า ด้วย นอกจากนี้ เมื่อเริ่มต้นในแต่ละตา หลังจากที่ ความศักดิ์สิทธิ์ สร้างดาเมจแล้ว จำนวนชั้นจะไม่ถูกรีเซ็ต ทั้งนี้ในช่วงเวลาที่ติดสถานะ "เปิดเผย" เอกเฟกต์การไม่รีเซ็ตจำนวนชั้นของ ความศักดิ์สิทธิ์ จะอยู่ได้มากสุด 1 ครั้ง และจะรีเซ็ตจำนวนการเกิดเมื่อติดสถานะ "เปิดเผย" อีกครั้งLoom of Fate's Caprice - พรสวรรค์ | สกัดกั้นเมื่อเริ่มต้นในแต่ละตา ทุก1 ครั้งที่เป้าหมายได้รับดาเมจต่อเนื่อง จะมีโอกาสพิ้นฐาน 72.5 % ที่จะติดสถานะ ความศักดิ์สิทธิ์ 1 ชั้น และเมื่ออยู่ในความศักดิ์สิทธิ์ ตอนเริ่มแต่ละตา ศัตรูเป้าหมายจะได้รับดรเมจลมต่อเนื่อง 300% ของ ATK ของ ตัวละคร โดย ความศักดิ์สิทธิ์ แต่ละชั้นจะทำให้ตัวคูนดาเมจ เพิ่มขึ้น 15% จากนั้นจะรีเซ็ตเป็น 1 ชั้น ซึ่ง ความศักดิ์สิทธิ์ สามารถสะสมได้มากสุด 50 ชั้น มีเพียงตอนที่ ความศักดิ์สิทธิ์ สร้างดาเมจในขณะเริ่มตาของเป้าหมาย ที่จะทำให้เกิดดาเมจเพิ่มเติมตามจำนวนชั้นของ ความศักดิ์สิทธิ์ ที่เป้าหมายติดอยู่ หากมีจำนวนชั้นมากกว่าหรือเท่ากับ 3 จะสร้างดาเมจลมต่อเนื่อง 225% ของพลังโจมตีแก่ศัตรูข้างเคียง และมีโอกาส 72.5% ทำให้ติดสถานะ ความศักดิ์สิทธิ์ หากมีจำนวนสแต็กมากกว่าหรือทเ่ากับ 7 จะทำให้ดาเมจที่ทำในครั้งนี้เพิกเฉย...

Dr.Ratio เป็นตัวละครในสายล่าสังหารธาตุ "จินตภาพ" ภายในเกม Honkai: Star Rail ซึ่งถือว่าหาได้ยากมาก ๆ โดยเป็นตัวละครที่สามารถทำการโจมตีเป้าหมายเดี่ยวได้อย่างรุนแรง Table of contentsรีวิวการใช้งาน Dr.Ratioสกิลของ Dr.RatioLight Cone แนะนำของ Dr.Ratioเซ็ต Relic แนะนำข้อมูล Eidolon และคำแนะนำตัวอย่างทีมแนะนำสรุปการ Build –Dr.Ratio รีวิวการใช้งาน Dr.Ratio ตัวละครนี้จัดว่าเป็นตัวละครที่ทำดาเมจใส่เป้าหมายเดี่ยวได้แรงมากกกกกกก แถมเป็นธาตุจินตภาพที่หาไม่ค่อยได้เท่าไหร่ โดยดาเมจหลักจะมาจากการสะสมบัฟและการโจมตีต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถเอาไปเล่นกับทีมโจมตีต่อเนื่องได้ด้วย แถมด้วยการสะสมบัฟคริก็ทำให้ดาเมจรุนแรงขึ้นได้มาก ๆ การจะแสดงความสามารถของตัวละครนี้ออกมาได้เต็มที่ ควรจะจัดทีมร่วมกับตัวละครที่มีดีบัฟเข้าไปด้วย เพราะจะทำให้สามารถโจมตีได้รุนแรงขึ้น ซึ่งหากจะให้พูดถึงภาพรวม ๆ แล้วตัวละครนี้ค่อนข้างดีในการใช้กับ Content ที่เฉพาะทางมาก แต่การเอาไปใช้กับการเล่นทั่ว ๆ ไปอาจจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ เหตุผลสำคัญเลยคือต้องใช้เวลาในการเซ็ตอัประดับนึง ทำให้คนที่ชอบความรวดเร็วอาจจะไม่ชอบเท่าไหร่ ในการเอาไปจัดการกับมอนกี้กี้ในฉาก แต่ถึงยังไงก็ตาม Dr.Ratio เป็นตัวที่ทำดาเมจได้แรงมากแบบจริงจัง หากสามารถ Set up ได้ ตัวอย่างเนื้อหาที่เอาไปลงแล้วเหมาะมาก ๆ เช่น Memory of Chaos ที่จัดว่าเป็นตัวที่น่าใช้แบบสุด ๆ และด้วยความที่ตัวละครนี้มีเมคานิกการเล่นที่อาจจะชวนให้ผู้เล่นใหม่สับสนนิดหน่อย ทั้งการที่ได้ผลพิเศษจากการโจมตีศัตรูที่มีดับัฟ หรือ เงื่อนไขของการออกการโจมตีต่อเนื่อง อาจทำให้คนท่พึ่งเล่นค่อนข้างสับสน แต่หากเราทำความเข้าใจกับสกิลดี ๆ แล้วตัวละครนี้จัดเป็น DPS ที่จัดจ้านเอามาก ๆ ข้อดีข้อเสียเป็นตัวละครแจกฟรีทำดาเมจเป้าหมายหมู่ไม่ค่อยดี ทำดาเมจเป้าหมายเดี่ยวได้รุนแรงมากไม่ได้เหมาะกับทุก Contentใช้รีริคได้หลายแบบจำเป็นต้องมีตัวดีบัฟในทีม สกิลของ Dr.Ratio ชื่อความสามารถMind is Might - โจมตีปกติ (เดี่ยว)สร้าง DMG จินตภาพ 130% ของ ATKIntellectual Midwifery - สกิลต่อสู้ (เดี่ยว)สร้าง DMG จินตภาพ 187.5% ของพลังโจมตีแก่ศัตรูที่กำหนด 1 ตัว Syllogistic Paradox - ท่าไม้ตาย (เดี่ยว)สร้าง DMG จินตภาพ 288% ของ ATK แก่ศัตรู 1 ตัว พร้อมสร้างสถานะ "ความเขลาของปราชญ์" เมื่อเืพ่อนร่วมทีมโจมตีเป้าหมายที่ติดสถานะนี้ Dr.Ratio จะปล่อยการโจมตีต่อเนื่อง แก่เป้าหมายดังกล่าว 1 ครั้ง โดยเอฟเฟกต์ "ความเขลาของปราชญ์" เกิดได้สูงสุด 2 ครั้งโดยจะมีผลต่อเป้าหมายล่าสุดที่เขาทำการปล่อยท่าไม้ตายเท่านั้น หลังจากที่ปล่อยท่าไม้ตายแล้ว เอฟเฟกต์ดังกล่าวจะถูกรีเซ็ต Cogito, Ergo Sum - พรสวรรค์ (เดี่ยว)เมื่อปล่อยสกิลต่อสู้ มีโอกาส 40% ที่จะปล่อยการโจมตีต่อเนื่อง แก่เป้าหมายดังกล่าว 1 ครั้งทำดาเมจ จินตภาพ 337.5% โดยทุก 1เอฟเฟกต์ Debuff ที่เป้าหมายมีจะทำให้ โอกาสคงที่ ในการปล่อยการ โจมตีต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 20% หากเป้าหมายถูกกำจัดก่อนที่จะปล่อยการ โจมตีต่อเนื่อง จะสุ่มปล่อยการ โจมตีต่อเนื่อง ให้แก่ศัตรูหนึ่งตัว Mold of Idolatry - เทคนิค (สกัดกั้น)หลังใช้เทคนิคแล้วจะสร้างพื้นที่พิเศษ ที่ยั่วยุให้ศัตรูเข้ามาโจมตีเป็นเวลา 10 วินาที หลังจากที่เข้าสู่การต่อสู้ พร้อมกับศัตรูในพื้นที่พิเศษ จะมีโอกาสพื้นฐาน 100% ที่ความเร็วของศัตรูจะลดลง 15% เป็นเวลา 2 เทิร์น เอฟเฟกต์พื้นที่ ที่ฝ่ายเราสร้างขึ้น จะมีได้สูงสุดเพียง 1 จุดเท่านั้น *อ้างอิงจากเลเวลสกิลสูงสุด Light Cone แนะนำของ Dr.Ratio ชื่อความสามารถBaptism of Pure Thought (ประจำตัว)ทำให้ DMG คริติคอลของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 20%  แต่ละครั้งที่ศัตรูเป้าหมายได้รับเอฟเฟกต์ Debuff 1 เอฟเฟกต์ ผู้สวมใส่จะสร้าง DMG คริติคอลแก่เป้าหมายดังกล่าวเพิ่มขึ้น 8%  ซ้อนทับได้มากสุด 3 ชั้น เมื่อใช้ท่าไม้ตายโจมตีศัตรูเป้าหมาย ผู้สวมใส่จะได้รับเอฟเฟกต์ "พิพาท" ซึ่งจะทำให้สร้าง DMG เพิ่มขึ้น 36%  และการโจมตีต่อเนื่องจะเพิกเฉยต่อ DEF 24% ของเป้าหมาย โดยเอฟเฟกต์นี้จะคงอยู่ 2 เทิร์นWorrisome Blissfulทำให้อัตราคริติคอลของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 18%  และการโจมตีต่อเนื่องสร้าง DMG เพิ่มขึ้น 30%  หลังจากผู้สวมใส่ปล่อยการโจมตีต่อเนื่อง จะทำให้เป้าหมายติดสถานะ "Tame" โดยเอฟเฟกต์นี้ ซ้อนทับได้มากสุด 2 ชั้น เมื่อเป้าหมายฝ่ายเรา โจมตีศัตรูเป้าหมายที่ติดสถานะ "Tame" สถานะ "Tame" แต่ละชั้นจะทำให้สร้าง DMG คริติคอลเพิ่มขึ้น 12%Cruising in the Stellar Seaทำให้อัตราคริติคอลของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 8%  และทำให้ผู้สวมใส่สร้างอัตราคริติคอล แก่ศัตรูเป้าหมายที่มีเปอร์เซ็นต์ HP น้อยกว่าหรือเท่ากับ 50% เพิ่มขึ้นอีก 8% หลังจากผู้สวมใส่กำจัดศัตรูเป้าหมายแล้ว ATK จะเพิ่มขึ้น 20%  เป็นเวลา 2 เทิร์นOnly Silence Remainsทำให้ ATK ของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 16%  เมื่อจำนวนศัตรูเป้าหมายในการต่อสู้มีเท่ากับหรือน้อยกว่า 2 ตัว อัตราคริติคอลของผู้สวมใส่จะเพิ่มขึ้น 12%Subscribe for More!ทำให้ DMG จากการโจมตีปกติ และสกิลต่อสู้ของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 24%  เมื่อค่าพลังงานในปัจจุบันของผู้สวมใส่เท่ากับพลังงานสูงสุด เอฟเฟกต์นี้จะเพิ่มขึ้นอีก 24%Return to Darknessทำให้อัตราคริติคอลของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 12%  หลังจากติดคริติคอล จะมีโอกาสคงที่ 16%  ในการลบล้างเอฟเฟกต์ Buff 1 เอฟเฟกต์ ของศัตรูเป้าหมายที่ถูกโจมตี โดยเอฟเฟกต์นี้จะเกิดขึ้นได้แค่ 1 ครั้งต่อการโจมตี เซ็ต Relic แนะนำ เบื้องต้นเลยแนะนำเป็น Wastelander of Banditry Desert เนื่องจากเราจะได้ค่าดาเมจจินตภาพมาเยอะที่สุด และหากใส่ครบ 4 ชิ้นยังเพิ่มค่า CRIT RATE อีก 10% แถมดาเมจ CRIT อีก 20% กับศัตรูที่โดนขังอยู่ แต่หากเราจะเล่นทีมดาเมจต่อเนื่อง การใส่ผสมกับ The Ashblazing Grand Duke ก็เป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับเซ็ตรองแนะนำให้ใช้เป็น Firmament Frontline: Glamoth เพื่อเร่งดาเมจให้ได้มากที่สุด เนื่องจากเราใช้ตัวละครนี้เป็น...

Ruan Mei ตัวละครในพาร์ทสระสาน "ธาตุน้ำแข็ง" ที่มีสกิลช่วยเหลือทีมได้เป็นอย่างดี ด้วยสารพัดบัฟ และ เป็นตัวละครเดียวที่มีความสามารถเพิ่มการทำลายจุดอ่อนหรือเกราะขาวของศัตรู ( ณ แพทช์ปัจจุบัน 1.6) ยังไม่มีตัวละครอื่นที่ทำได้

WORN TEETH AND OLD MARKS เป็นหนึ่งในด่านกิจกรรมที่มาพร้อมกับแพทช์ 1.2 ของเกม Reverse:1999 โดยมาพร้อมกั้บตัวละคร Tooth Fairy โดยกิจกรรมนี้หากเราเล่นจบจะได้เพชรรวมถึง 240 เม็ด พร้อมกับของอัปเกรดตัวเยอะพอสมควรเลย ซึ่งตัวกิจกรรมก็ไม่ยากมาก แค่แก้ Puzzle เล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงแค่ด่านเยอะนิดนึงเท่านั้นเอง โดยแต่ละด่านมีวิธีการแก้ยังไงชมได้ที่คลิปด้านล่างครับ คลิปเฉลยกิจกรรม WORN TEETH AND OLD MARKS https://www.youtube.com/watch?v=qJlsrVew7ko เกี่ยวกับ Revrese:1999 เกมนี้เป็นเกมแนว Turn Base RPG กาชา ที่มีรูปแบบการเล่นเป็นการให้ผู้เล่นเลือกการ์ด ที่จะสุ่มขึ้นมือมาแตกต่างกันแต่ละตา โดยตัวภาพและโทนเรื่องของเกมจะออกแนวย้อนยุคเล็กน้อย ซึ่งเนื้อเรื่องคร่าว ๆ คือตัวเอกพยายามหาทางแก้ไขวิกฤตจากปรากฎการณ์ธรรมชาติที่ทำให้เวลาไม่สามารถเดินต่อไปได้ ซึ่งเราจะรับบทเป็น Time Traveler ที่มีชื่อว่า Venti

ใน Reverse:1999 ตัวละครใหม่อย่าง Tooth Fairy เป็นตัวละครสาย Support ที่สามารถช่วยบูสต์ดาเมจให้กับทีมได้สูง มาก ๆ โดยเธอมีทั้งสกิลดีบัฟที่ลดค่า Cri Res และ Cri Def ให้กับศัตรู และสามารถฮีลได้ค่อนข้างจะแรงมากอีกต่างหาก แม้ว่าอาจจะไม่มีสกิลที่เอาไว้หยุดศัตรูก็จริง แต่ด้วยการเร่งดาเมจให้กับ DPS ได้สูงมาก แถมยังทำดาเมจด้วยตัวเองได้ค่อนข้างแรง ทำให้ถือว่าเป็นตัว Support ที่น่าหามาใช้มากอยู่ดี Table of contentsTooth Fairy เหมาะกับทีมแบบไหนใครที่ควรเปิดหาข้อดี-ข้อเสีย ของ Tooth Fairyสกิลของ Tooth FairyInheritance - Propositionค่าใช้จ่ายในการอัปตัวละครResonatePsychube แนะนำPortrayควรเปิดซ้ำไหม?สรุปรีวิวตัวละครนี้ Tooth Fairy เหมาะกับทีมแบบไหน Tooth Fairy เหมาะที่จะไปกับ DPS แทบทุกตัว เพราะตัวเธอมีสกิลที่ช่วยเหลือในการตีติดคริเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นสกิลดีบัฟ ลดคริ แถมยังมีสกิลล้างดีบัฟให้กับทีมได้ แม้ว่าเงื่อนไขการใช้งานอาจจะยุ่งยากไปบ้างคือท่าไม้ตายต้องติดคริ แต่ด้วยการที่มันบัฟ Cri Rate 30% ทำให้ติดได้ไม่ยากเท่าไหร่ครับ และด้วยเหตุผลแบบนี้เองทำให้ Tooth Fairy เหมาะกับจะไปกับ DPS ได้แทบจะทั้งหมดเลย แต่ถ้าหากเหมาะเป็นพิเศษเลยน่าจะเป็น Lilya ที่เน้นการโจมตีแบบ Critical ส่วนอีกช่องนึง อาจจะหาตัวที่มีสกิลหยุดมาไว้อีกตัวนึงเพื่อให้ทีมสมดุลขึ้น ใครที่ควรเปิดหา คนที่ยังมีตัวฮีลหลักไม่ครบ 2 ทีม หรือคนที่ต้องการตัวซัพพอร์ตที่เอามาเร่งดาเมจให้กับ DPS หลัก ข้อดี-ข้อเสีย ของ Tooth Fairy ข้อดีข้อเสียไปได้กับ DPS ส่วนใหญ่ไม่มีสกิลหยุดศัตรูเลยทำให้ทีมทำดาเมจจากการคริได้สูงขึ้นมากท่าโจมตีเป็นแบบเดี่ยวทั้งหมดทำดาเมจได้สูงระดับนึงเงื่อนไขการใช้ท่าไม้ตายให้สมบูรณ์ต้องใช้ค่าคริระดับนึงล้างดีบัฟได้ สกิลของ Tooth Fairy Song for the Bad Tooth โจมตีเป้าหมายเดี่ยวทำดาเมจ 500% Mental DMG และ + ค่าคริติคอล 30% ขณะใช้ และหากติด Cri จะทำการล้างสถานะ Stat Down, Neg Status และ Control ให้ทั้งทีม Emty Gums ★ โจมตีเป้าหมายเดี่ยว ทำดาเมจ 150% Mental DMG พร้อมทำให้เป้าหมายติดสถานะ Confusion 1 เทิร์น ★★โจมตีเป้าหมายเดี่ยว ทำดาเมจ 250% Mental DMG พร้อมทำให้เป้าหมายติดสถานะ Confusion 1 เทิร์น ★★★ โจมตีเป้าหมายเดี่ยว ทำดาเมจ 450% Mental DMG พร้อมทำให้เป้าหมายติดสถานะ Confusion 1 เทิร์น Lullaby ★ - ฮีลกลุ่ม ฟื้นฟูพลังชีวิตเท่ากับ 80% ของผู้ร่ายให้กับเพื่อนทั้งหมด โดยการใช้สกิลนี้จะเพิ่มโอกาสติดคริ 30% ขณะใช้ ★★ฮีลกลุ่ม ฟื้นฟูพลังชีวิตเท่ากับ 120% ของผู้ร่ายให้กับเพื่อนทั้งหมด โดยการใช้สกิลนี้จะเพิ่มโอกาสติดคริ 30% ขณะใช้ ★★★ ฮีลกลุ่ม ฟื้นฟูพลังชีวิตเท่ากับ 200% ของผู้ร่ายให้กับเพื่อนทั้งหมด โดยการใช้สกิลนี้จะเพิ่มโอกาสติดคริ 30% ขณะใช้ *สกิลอ้างอิงจากตัวละครที่ยังไม่ได้ปลด Portray ใด ๆ Inheritance - Proposition Insight I - หลังจากเข้าการต่อสู้ จะได้ 3 Stack ของ Baby Tooth และจะได้เพิ่มเมื่อทีมใช้การ์ด Incantation นอกจากนี้ Stack จะเพิ่มทุกครั้งเมื่อเริ่มตา หากสะสม Stack ของ Baby Tooth ครบ 5 จะได้รับบัฟ ลดค่า Cri Res และ Cri Def ของศัตรูลง 15% จำนวน 1 Turn Insight II - เมื่อเข้าการต่อสู้จะได้ค่า Healing Done +10% Insight III - เมื่อBaby Tooth แสดงผล เพื่อนร่วมทีมจะฟื้นฟูพลังชีวิต 10% ของค่า HP ที่หายไปและจะได้รับค่า Baby Tooth เพิ่ม 2 Stack *Baby Tooth: ที่ 5 Stack จะแสดงผลเมื่อเริ่มเทิร์น ค่าใช้จ่ายในการอัปตัวละคร Insight 1Insight 2Insight 3Sharpodonty *18000Page of Starlit Ascent *6 Spell of Banishing *6Solidus *4Sharpodonty *40000Page of Starlit Ascent *10 Liquified Terror *5Salted Mandrake *4Sharpodonty *200000Tome of Starlit Ascent *16 Wyrmling Skeleton *6Golden Fleece *3 Resonate ควรเน้นไปที่ค่าโจมตีและค่า Cri Rate หรือจะเน้น Cri Rate ไปเลยก็ได้เพื่อให้การฮีลและท่าไม้ตายติดคริบ่อย ๆ เนื่องจากการจะใช้ผลของสกิลตัวละครนี้ให้คุ้มที่สุดจะต้องมีค่าคริเรทที่สูงระดับนึง Psychube แนะนำ Beyond Wonderland / That Inquisitive Dear / Thunderous Applause / Laughter and Laughter Portray Lv.1 Song for...

ใน Team Fight Tactics มี Comps อยู่หมาศาลมาก ๆ ในแต่ละ Season ทำให้ผู้เล่นใหม่งงและไม่รู้จะเริ่มเล่นจากอะไรดี ดังนั้นภายในบทความนี้เราจะเน้นไปที่ Comp ที่มือใหม่สามารถทำและใช้ได้จริงค่อนข้างง่ายครับ เนื่องจากมีวิธีการเล่นที่ไม่ซับซ้อนมากจนเกินไป ซึ่งหากใครที่พึ่งเริ่มเล่น อาจเริ่มต้นด้วย Comps พวกนี้ดูก่อนได้ และค่อยหาที่ตัวเองชอบต่อไป เพราะในช่วงเริ่มต้นเล่นใหม่ ๆ เราจะงงว่า Comp ไหนผสมกับอันไหนดี โดยภาพขออนุญาติอ้างอิงจาก https://tftactics.gg/tierlist/team-comps เป็นหลักนะครับ Table of contentsPunk + Rapid FireK/DAEMO + SpellweaverBigshot Punk + Rapid Fire Comp ที่สามารถเล่นได้ตั้งแต่ช่วงต้นเกม ซึ่งหากเราดวงไม่แย่จนเกินไป และสามารถทำ Jinx ได้เร็ว แทบจะการันตีเลยว่าติด 1/4 อย่างแน่นอน ซึ่งหากเราหา Jinx Rapid Fire ไม่ได้ก็ยังสามารถใช้เป็น Punk แทนได้ เพียงแต่ต้องเปลี่ยนตัวเล่นนิดหน่อย เช่น Amumu กับ Vex ออก แล้วหาตัว Guadian กับตัวละครที่เป็น Executioner ตัวอื่นแทน หรือหากเล่นแล้วหา Headline Jinx กับทำ 3 ดาวไม่ไหวจริง ๆ ก็สามารถเปลี่ยนไปเล่น Caitlyn ได้ Comp นี้หากไม่มีอะไรผิดพลาดเราจะค้างไว้ที่เลเวล 6 จนได้ Jinx ครบ แล้วค่อยขึ้นเลเวลต่อ ซึ่งหากไม่ซีเรียสมากในช่วงแรก อาจยอมแพ้ไปไม่ต้องเร่งเลเวลมากนัก แล้วหา Jinx ให้ครบตั้งแต่ช่วงเลเวล 5 ก็๋ได้ ข้อดีของ Comp นี้คือ ในช่วงหลังที่เราเหลือเงินเยอะ สามารถกดรีร้านค้ารัว ๆ เพื่อเพิ่มดาเมจให้กับตัวละครของเราได้ ทำให้ช่วงเลทเกมแม้ว่า Jinx จะเป็นตัวละครแค่ 1 บาท แต่ก็สามารถสู้สูสีกับตัวละครใน Tier สูง ๆ ได้ครับ K/DA Comp นี้อาจจะต้องเร่งเลเวลสักหน่อย แต่ไม่ถึงกับต้องตะบี้ตะบันอัปเลเวล เพราะตัวดาเมจหลักจะเป็น Ahri หรือไม่ก็ Akari ซึ่งจะเริ่มหาง่ายช่วงเลเวล 7 ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับว่าไอเทมที่เรามีส่วนมากไปทางไหน ทำให้มีตัวเลือกค่อนข้างมากในการเล่น ส่วนในช่วงแรก อาจจะใส่ไอเทมไว้ที่ Kaisa หรือ Seraphine ก่อนแล้วยอมขายทิ้งหาใหม่ *หากจะเล่นอาการิเป็นดาเมจหลักควรหาตัวที่เป็น Executioner เพิ่ม เพื่อให้อาการิสามารถแสดงความสามารถได้เต็มที่ EMO + Spellweaver อีกหนึ่งสายที่เหมาะกับคนพึ่งเล่นเพราะทำตัวได้ง่าย โดย Comp นี้จะเน้นดาเมจหลักไปที่ Annie ซึ่งหากเราสุ่มได้ Annie ตั้งแต่ต้นเกมก็ง่ายเลย แต่ทั้งนี้หากจะเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องเป็น Annie ที่เป็น Headline EMO แต่หากหาไม่เจอ ใช้เป็นสาย Spell ก็พอเล่นแก้ขัดได้แต่อาจต้องปรับตัวละครใน Line up นิดหน่อย แต่สายนี้จะมีจุดยากอยู่เล็กน้อยคือเราต้องมีไอเทม แบบเป๊ะ ๆ ตามภาพนิดนึง กับต้องรีบหา Annie ให้ไวที่สุด ดังนั้นรูปแบบการเล่นจะเป็น Hyper Roll ที่ดองเงินทั้งหมดเอาไว้รอรีตอน 3-1 ยกเว้นว่าเราจะได้ Augment ที่สุ่มได้บ่อย ๆ อาจไม่ต้องรอสุ่มทั้งหมดตอน 3-1 ก็ได้ กรณีที่ไม่สามารถทำ Annie 3 ดาวได้จริง ๆ หรือมีคนแย่งเล่นเยอะ อาจรีบข้ามเลเวลแล้วไปหา Ahri แทนเพื่อมาเป็นตัวแบกดาเมจ Bigshot อีกหนึ่งสายที่เล่นค่อนข้างง่ายและพลิกแพลงได้ค่อนข้างเยอะ เพราะตัว Big shot มีให้เลือกค่อนข้างเยอะมาก โดยดาเมจหลักจะมีให้เลือกหลัก ๆ อยู่สองตัวคือ Miss Fortune หรือ อีกตัวนึงคือ Ezreal อยู่กับสถานการณ์ ว่าตัวโดนแย่งเยอะไหม หากโดนแย่งหนักจริง ๆ ก็อาจไปปั้นตัวอื่นได้ กรณีที่ตั้งใจว่าจะให้ตัวดาเมจหลักเป็น Ezreal สิ่งที่ต้องทำคือเร่งเลเวล 8 ให้ไวที่สุด อันนี้อาจจะยากเล็กน้อย ซึ่งอาจจะต้องเก็บ Stack แพ้หรือชนะ เยอะ ๆ ซึ่งอาจเป็นงานยากกับคนที่พึ่งเล่น ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำเป็น ค้างอยู่ที่เลเวล 7 แล้วหา Miss Fortune ดีกว่า เพราะสามารถทำได้ง่ายกว่ามาก แม้ว่าในเลทเกม Ezreal อาจเก่งกว่า แต่การทำให้ครบได้มันยากกว่ามาก แต่ถ้าเริ่มคล่องแล้วค่อยลองไปเล่นแบบ Fast 8 ทั้งหมดนี้ก็เป็น Comp เบื้องต้น ที่ทางผู้เขียนมองว่าค่อนข้างจะเหมาะกับผู้เล่นใหม่ครับ ซึ่งทำได้ไม่ยากเกินไป ซึ่งหากชำนาญแล้วอาจจะลองปรับไปเล่นแบบอื่น ๆ ทั้งนี้ให้ดูเป็นแนวทางเท่านั้นนะครับ เพราะการเล่นจริง ตัวละครอาจจะไม่ได้มาตามใจแบบที่เราหวังเอาไว้ ดังนั้นอาจจะต้องมีการปรับเปลียนได้ ไม่ต้องยึดติดกันมากจ้า! หากใครที่พึ่งเล่นแล้วยัง งง ๆ สามารถอ่านบทความสอนการเล่นได้ที่นี่เลย >> Click <<

Pickles เป็นตัวละครที่ถือว่าค่อนข้างแปลกในการเล่น Reverse:1999 เพราะเมคานิกการเล่นของตัวละครนี้จะไม่ได้เน้นการออกแอคชั่นบ่อย ๆ โดยจากความสามารถหลังจากปลด Insight ของน้องจะทำให้น้องได้รับ Stack ที่ทำให้การใช้สกิลในครั้งถัดไปมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมยังได้ค่า Moxie หรือเกจท่าไม้ตายเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก ทำให้การจัดทีมสามารถใส่น้องไปคู่กับ DPS ได้แทบทุกทีม Table of contentsภาพรวมของ PicklesPickles เหมาะกับทีมแบบไหนตัวอย่างทีมใครที่ควรเปิดหาข้อดี-ข้อเสีย ของ Picklesสกิลของ PicklesInheritance - Propositionค่าใช้จ่ายในการอัปตัวละครResonant แนะนำPsychube แนะนำPortrayควรเปิดซ้ำไหม?สรุปรีวิวตัวละครนี้ ภาพรวมของ Pickles ตัวละครนี้เป็นสาย DPS ที่ค่อนข้างจะมีอรรถประโยชน์ดีมาก ๆ แถมยังมีความสามารถในการบัฟให้ทีม และสกิลที่ล้างดีบัฟของศัตรูอีกต่างหาก โดยจุดสำคัญที่สุดคือการที่น้องไม่ต้องออกแอคชั่นแล้วจะได้รับบัฟ ทำให้ไม่ต้องออกท่าโจมตีบ่อย Pickles เหมาะกับทีมแบบไหน ในเบื้องต้นตัวละครนี้จะเหมาะกับการใส่คู่กับ DPS ตัวไหนก็ได้ โดยน้องจะเป็น DPS ที่ช่วยทำดาเมจเสริมอีกแรงนึง รวมถึงคอยบัฟให้กับทีมและล้างดีบัฟศัตรู ตัวอย่างทีม ตามที่ได้แจ้งไปตัวละครนี้สามารถไปได้กับหลายทีมมาก แต่ทว่าหากถามว่าเหมาะกับตัวไหนที่สุดคิดว่าน่าจะเป็น Melania เพราะตัวละครนี้ต้องออกแอคชั่นบ่อยมาก ๆ ซึ่งประกอบกับน้องหมาของเราไม่ต้องออกสกิลบ่อยนักทำให้สามารถไปด้วยกันได้ง่าย ส่วนตัวละครสุดท้ายที่เป็นซัพพอร์ต ขอเป็นตัวที่ฮีลได้เพื่อเอามาช่วยอุดช่องโหว่ของทีมก็พอครับ ใครที่ควรเปิดหา สำหรับตัวละครนี้เหมาะกับคนที่มี DPS หลักอยู่แล้ว เพราะด้วยความสามารถของน้อง ทำให้ไม่เหมาะกับเป็น DPS หลัก เนื่องจากเราต้องให้น้องอยู่เฉย ๆ ในบางตาเพื่อใช้ความสามารถที่ติดตัว ข้อดี-ข้อเสีย ของ Pickles ข้อดีข้อเสียไปได้กับ DPS แทบทุกทีมต้องไม่ออกแอคชั่นจึงใช้ความสามารถได้ทำได้ทั้งบัฟและลบบัฟศัตรูไม่มีสกิลหยุด ทำให้อาจต้องหาตัวละครซัพพอร์ตมาช่วยหยุดศัตรูอีกตัว สามารถเก็บเกจท่าไม้ตายได้ไวโดยไม่ต้องทำอะไรมาก สกิลของ Pickles Thus Spoke Pickles โจมตีเป้าหมายเดี่ยว โดยทำดาเมจ 500% Mental DMG หลังจากนั้นเพื่อนร่วมทีมจะได้รับโบนัสดาเมจ 30% ให้กับเพื่อนร่วมทีมระยะเวลา 2 เทิร์น ถ้าหากว่าผู้ร่ายอยู่ในสถานะ Clarified Topic ระยะเวลาของบัฟจะเพิ่มขึ้น 1 เทิร์น Clarified Topic - เพิ่มประสิทธิภาพของการใช้การ์ดหรือท่าไม้ตาย ( Stack -1 หลังจากแสดงผล ) Nihilism Abuse ★ โจมตีเป้าหมายเดี่ยว ทำดาเมจ 200% Mental DMG และหากผู้ร่ายอยู่ในสถานะ Clarified Topic จะทำดาเมจแรงขึ้น 50% ★★โจมตีเป้าหมายเดี่ยว ทำดาเมจ 300% Mental DMG และหากผู้ร่ายอยู่ในสถานะ Clarified Topic จะทำดาเมจแรงขึ้น 75% ★★★ โจมตีเป้าหมายเดี่ยว ทำดาเมจ 500% Mental DMG และหากผู้ร่ายอยู่ในสถานะ Clarified Topic จะทำดาเมจแรงขึ้น 125% Hedonism Implement ★ - โจมตีเป้าหมายกลุ่ม ทำดาเมจ Mental 150% ใส่ศัตรู 2 ตัว หากว่าอยู๋ในสถานะ Clarified Topic จะได้ค่าเจาะเกราะ +25% ★★โจมตีเป้าหมายกลุ่ม ทำดาเมจ Mental 150% ใส่ศัตรู 2 ตัว และลบสถานะ ,, ของศัตรู หากว่าอยู๋ในสถานะ Clarified Topic จะได้ค่าเจาะเกราะ +25% ★★★ โจมตีเป้าหมายกลุ่ม ทำดาเมจ Mental 300% ใส่ศัตรู 2 ตัว และลบสถานะ ,, ของศัตรู หากว่าอยู๋ในสถานะ Clarified Topic จะได้ค่าเจาะเกราะ +25% *สกิลอ้างอิงจากตัวละครที่ยังไม่ได้ปลด Portray ใด ๆ Inheritance - Proposition Insight I - หากไม่ได้ออกแอคชั่นภายในตานั้น จะได้รับ 1 Stack ของ Clarified Topic ทุกครั้งที่ Clarified Topic ทำงาน จะได้รับ Moxie +1 ให้กับผู้ร่าย Insight II - เพิ่มดาเมจ 8% เมื่อเข้าการต่อสู้ Insight III - ได้รับ 2 Stack ของ Clarified Topic ทันทีหลังจากที่เข้าการต่อสู้ ค่าใช้จ่ายในการอัปตัวละคร Insight 1Insight 2Insight 3Sharpodonty *18000Page of Mineral Wealth *6 Silver Ore *6Spell of Fortune *6Sharpodonty *40000Scroll of Mineral Wealth *10 Solidus *3Biting Box *4Sharpodonty *200000Tome of Mineral Wealth *16 Incorrupt Monkeypaw *6Mistilteinn *3 Resonant แนะนำ ในเบื้องต้นส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็นต้องเปิดหาเพิ่มครับ แต่หากต้องการให้บัฟมีประสิทธิภาพเต็มที่ให้เปิดไว้ที่ Resonant 2 จะทำให้จากเดิมบัฟ 25% กลายเป็น 40% Psychube แนะนำ Luxurious Leisure / Hopscotch / Brave New World Portray Lv.1 Thus Spoke Pickles เพิ่มดาเมจเป็น 575%Lv.2 Thus Spoke Pickles เพิ่มประสิทธิภาพบัฟจากเดิม 25% > 40% Lv.3 Nihilism Abuse เพิ่มโบนัสดาเมจหากอยู๋ในสถานะ Clarified...

Headline Unit เป็นระบบใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน Team Fight Tactics ใน Set ที่ 10 โดยยูนิท ชนิดนี้เป็นตัวละที่จะปรากฎขึ้นมาในร้านค้า โดยจะปรากฎขึ้นมาเป็น 2 ดาวเลย โดย Mecanic และสิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับมันเลยคือ สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับ Headline Unit 1.Unit Headline จะปรากฎขึ้นมาให้ซื้อเสมอหากเรายังไม่มี Unit Headline 2.Unit Headline จะไม่ปรากฎตัวเดิมซ้ำติด ๆ กัน 3. Unit Headline สกิลจะถูกเสริมพลังให้มีความแข็งแกร่งกว่าปกติ 4. เราจะพบ Unit Headline ในระดับ Tier สูงขึ้นได้หลังจากที่อัปเลเวลแล้ว โดยตั้งแต่ Tier 2 ขึ้นไปจะเริ่มพบได้ที่เลเวล 4 ระดับ Tier 3 จะพบได้ที่เลเวล 6 ส่วน Tier 4 จะเริ่มพบตอนเลเวล 8 จบด้วย Tier 5 จะเริ่มพบตอนเลเวล 9 5.Unit Headline จะมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างนึงเหมือนมี 2 ตัว เช่น Headline Taric จะมีคุณสมบัติ Guadian 2 หรืออาจจะมีคุณสมบัติ Disco 2 เป็นต้น 6.Unit Headline จะดึงตัวที่มีอยู่ใน Pool ออกมา ซึ่งหากว่าใน Pool มีตัวละครเหล่านั้นไม่ถึงครึ่ง Unit ตัวนั้น ๆ จะไม่ถูกนำมาวางขายในแบบ Headline ก็หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ นะครับ โดยใครที่ยังไม่เคยเล่น Team Fight Tactics และสนใจอยากจะเล่นดูสามารถลองไปอ่านบทความสอนเล่นได้ที่ลิงค์นี้เลย >>Click<<

Team Fight Tactic หรือมีชื่อย่อว่า TFT เป็นโหมดที่แยกออกมาจากเกมหลักของ League of Legends ซึ่งโหมดนี้จะเป็นดหมดที่เป็นเอกเทศ และไม่เกี่ยวข้องกับโหมดหลัก แต่จะมีการหยิบตัวละครจากในเกมหลักมาใช้ โดยในแต่ละ Season ก็จะมีตีมต่างกันออกไปและจะมีการเล่นปรับเปลี่ยนไปตามตีมของแต่ละซีซั่น แต่ทั้งนี้วิธีการเล่นโดยพื้นฐานแล้วก็จะยังคงเหมือนเดิมครับ *ทางผู้เขียนขออ้างอิงภาพ Interface จากของบน PC เป็นหลักนะครับ Table of contentsโหลดมาเล่นยังไง?ความแตกต่างของ Team Fight Tactic เวอร์ชั่น PC กับมือถือหน้า Lobby เกมโหมดต่าง ๆ ของเกม Team Fight Tacticรูปแบบการเล่นและแนวทางเบื้องต้นเกี่ยวกับร้านค้าและเลเวลเรื่องของเงิน เงิน และก็ เงินไอเทมและการใส่ไอเทมสูตรผสมไอเทมอะไรคือ Augmentการเลือก Augment ต้นเกมComp คืออะไรStatus ตัวละครรูปแบบการเล่นพื้นฐานเว็บดู Comp เบื้องต้นเทคนิคการเล่นเบื้องต้นของ Team Fight Tactics โหลดมาเล่นยังไง? เราสามารถโหลดมาเล่นบนคอมได้ผ่านตัว Riot Client ที่ >>Click<< โดยจะต้องทำการสมัครไอดีของ RIOT ก่อนหากไม่เคยมีไอดีมาก่อน หรือหากต้องการเล่นผ่านมือถือ สามารถโหลดมาเล่นได้ทั้งบน iOS และ Android ความแตกต่างของ Team Fight Tactic เวอร์ชั่น PC กับมือถือ บนเวอร์ชั่น PC เราจะต้องเข้าเล่นผ่านตัวเกม Leage of Legends ส่วนบนมือถือเราจะสามารถเข้าเล่นเกมได้โดยตรงเลย โดยความแตกต่างของทั้งสองเวอร์ชั่นในการเล่นนั้น หลัก ๆ แล้วจะเป็นเรื่องของ Interface ที่อยู่คนละตำแหน่งกัน และ หน่วยเงินที่ต่างกัน โดยหากเล่นในมือถือจะมีหน่วยเงินที่ชื่อว่า TFT Coin สำหรับซื้อของในร้านค้า แต่บน PC เราจะต้องใช้ RP ในการซื้อ ภาพบน PC ภาพการเล่นบนมือถือ หน้า Lobby เกม หลังจากที่เราเลือกเล่นแล้วในหน้า Lobby เราจะสามารถปรับแต่ง สิ่งต่าง ๆ ได้ 3 อย่างคือ 1.นักวางแผนหรือตัว Mascot ที่เราจะควบคุมและเป็นคนสั่งการเหล่าตัวละครในการต่อสู้ 2.สกิน Arena หรือสกินของฉาก 3.Boom เป็นท่าโจมตีที่จะใช้หากเราสู้ชนะ โดยทั้งหมดนี้เพื่อความสวยงามเท่านั้นไม่ได้มีผลใด ๆ กับการเล่นหรือดวงครับ โหมดต่าง ๆ ของเกม Team Fight Tactic Normal: โหมดปกติของเกม ไม่มีการจัดอันดับหรือเก็บคะแนน Ranked: เป็นโหมดเก็บคะแนน ถ้าเราทำผลงานได้ดีอันดับแรงค์จะสูงขึ้น โดยการจะได้คะแนนนั้นเราจะต้องได้อันดับที่ 1-4 หากน้อยกว่านั้นคะแนนจะโดนลด Double Up: โหมดคู่ สามารถจับทีมเล่นกับเพื่อนได้ มีการคิดคะแนนแรงค์ด้วยเช่นกัน โหมดนี้เราจะใช้ค่า HP ร่วมกับเพื่อน และหากเราหรือเพื่อนสู้ชนะก่อน จะส่งทีมไปช่วยเพื่อนสู้ต่อ Hyper Roll: เป็นโหมดที่เน้นความรวดเร็วกติกาการเล่นจะถูกปรับให้ไวขึ้น เช่น เราจะไม่ได้เงินจากดอกเบี้ย พลังชีวิตของผู้เล่นแต่ละคนจะน้อยกว่าปกติ ไม่ต้องกดอัปเลเวล เลเวลจะเพิ่มขึ้นเอง รูปแบบการเล่นและแนวทางเบื้องต้น การชนะภายในเกมนี้เราจะต้องได้อันดับที่ 1 - 4 โดยยิ่งได้อันดับดีเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้แต้มมากขึ้นเท่านั้น (หากเล่นแรงค์) ซึ่งผู้เล่นจะต้องทำการเลือกซื้อฮีโร่จากร้านค้า และนำมาวางบนตาราง หลังจากนั้นเมื่อเวลาในแต่ละรอบจบลง ตัวเกมจะทำการสุ่มผู้เล่นที่จะให้เราสู้ด้วย ซึ่งถ้าหากว่าเราแพ้ก็จะโดนผู้ชนะทำการโจมตีและเลือดของเราจะลดลง ซึ่งค่าความเสียหายในการโจมตีจะขึ้นอยู่กับมอนสเตอร์ที่เหลืออยู่บนกระดาน และเลเวลของผู้ชนะครับ ซึ่งถ้าหากว่าค่า HP ของเราเป็น 0 เมื่อไหร่จะถือว่าเกมจบลง โดยภายในการต่อสู้นอกเหนือจากความสามารถและสกิลของแต่ละตัวละครแล้วจะมีในเรื่องของเผ่าและคลาส แต่ละตัวละครจะมีเผ่าและคลาสอย่างน้อย 1 เสมอ แต่บางตัวละครอาจมีมากกว่า 1 ถ้าหากเราวางตัวละครที่ไม่ซ้ำกันลงในกระดาน และมีจำนวนเผ่าหรือคลาสครบตามจำนวนที่กำหนด จะได้รับโบนัสพิเศษในการต่อสู้ ในการเล่นแต่ละรอบจะแบ่งออกเป็นรอบที่ต้องเจอกับมอนสเตอร์, เจอกับผู้เล่น และรอบเลือกของโดยรอบที่พบกับมอนสเตอร์นอกเหนือจาก 3 Stage แรกแล้ว จะพบได้ในท้าย Stage ส่วนรอบเลือกของจะอยู่กลางของแต่ละ Stage เราสามารถเพิ่มเลเวลเพื่อเพิ่มโอกาสเจอกับตัวละครที่เก่งขึ้น และเพิ่มจำนวนฮีโร่ที่วางลงในสนามได้ ยิ่งเลเวลมากเท่าไหร่ก็จะสามารถวางตัวได้มากขึ้นเท่านั้น รวมถึงมีโอกาสเจอตัวละครทีี่มีราคาแพงและเก่งกว่าในช่วงเลเวลระดับต้น ๆ สำหรับการต่อสู้ตัวละครของเราจะใช้สกิลทุกครั้งที่เกจมานาเต็มหลอด ซึ่งเกจนี้จะเป็นสีฟ้า ๆ อยู่ด้านล่างของหลอด HP ซึ่งเจ้าเกจนี้จะเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่โดนโจมตี หรือ โจมตีศัตรู ซึ่งเราสามารถเร่งให้เต็มไวขึ้นได้โดยติดไอเทมให้กับฮีโร่ ซึ่งตัวละครนึงจะติดไอเทมได้ 3 ชิ้น เราสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวละครของเราได้โดยหาตัวซ้ำ 3 ตัว ตัวละครของเราจำรวมกันเป็นตัวเดิมในระดับที่สูงขึ้น ส่งผลให้สกิลและค่าสเตตัสเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งเราสามารถอัปเกรดได้ 2 ครั้ง ครั้งแรกจะเป็นสีเงิน และครั้งที่ 2 จะเป็นสีทอง โดยการอัปเกรดครั้งที่ 2 จะต้องใช้ตัวละครในระดับสีเงินตัวเดียวกันอีก 3 ตัว ซึ่งตัวละครใน Tier แรก ๆ หากเล่นไปช่วงท้ายเกมหากไม่อัปเกรดเลยคือแทบจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่ตัวTier ระดับสูง ๆ 4 - 5 บางตัวแม้ว่าจะไม่ต้องอัประดับก็เก่งอะไรแบบนี้เป็นต้น สิ่งที่ควรทราบคือในแต่ละ Season เผ่าและ Class ของตัวละครจะเปลี่ยนชุดใหม่ ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่เหลือเค้าของแพทช์เก่าเลยก็เป็นได้ ทำให้เราอาจจะต้องศึกษาเกี่ยวกับเผ่าและ Class ใหม่ แต่รูปแบบการเล่นโดยพื้นฐานจะยังคงเดิมครับ กรณีที่เราไม่พอใจตัวละครที่ได้รับสามารถทำการรีโรลได้ โดยการจ่าย 2 เพื่อทำการสุ่มร้านค้าใหม่ โดยร้านค้าจะสุ่มตัวละครจาก Pool ตามระดับเลเวลของเรา เกี่ยวกับร้านค้าและเลเวล ในการเล่นร้านค้าจะทำการสุ่มตัวละครมาให้เราเลือกซื้อ 5 ตัวเสมอ ซึ่งตัวเกมจะสุ่มมาจากใน Pool ตัวละครที่เหลืออยู่ ซึ่งถ้าหากว่าตัวละนั้น ๆ โดนซื้อไปหมดแล้วเราจะไม่สามารถสุ่มเจอตัวละคร นั้น ๆ ได้ โดยจำนวนตัวสามารถดูได้จากตารางด้านล่าง ซึ่ง Tier ของตัวละครยิ่งมีระดับสูงราคารจะยิ่งแพง สังเกตุง่าย ๆ ได้จากราคา ถ้าราคาเท่าไหร่ก็คือ Tier เท่านั้นครับ เช่นตัวละคร Tier 1 จะราคา 1 Gold ส่วนตัวละคร Tier 5 ราคาจะอยู่ที่ 5 Gold เป็นต้น Tier 1Tier 2Tier 3Tier 4Tier 5EXP ที่ต้องใช้จำนวนตัวที่มี222017109Level 1 100%Level 2100%Level...

Huohuo สาวน้อยนักปราบผีที่ตัวเองดันกลัวผี ตัวละครฮีลเลอร์ "ธาตุลม" จาก Honkai: Star Rail ที่มีความสามารถในการเพิ่มพลังโจมตีให้กับปาร์ตี้ รวมไปถึงความสามารถในการฟื้นฟูพลังงาน โดยตัวละครนี้จะมีแนวทางการ Build ยังไงบ้างไปชมกันเลย! Table of contentsรีวิวการใช้งาน Huohuoสกิล HuohuoLight Cone แนะนำของ Huohuoเซ็ต Relic แนะนำข้อมูล Eidolon และคำแนะนำตัวอย่างทีมแนะนำสรุปการ Build - Huohuo รีวิวการใช้งาน Huohuo ตัวละครนี้เป็นสายเฟืองฟูที่ถือว่าทำหน้าที่ของตัวละครสายฮีลได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นการฮีล และ การบัฟเพื่อน ๆ ในทีม รวมถึงล้างบัฟ เรียกว่าทำหน้าที่ในสายนี้ได้ไร้ที่ติเลย แถมบัฟของเธอก็ยังถือว่าดีมาก ทั้งมีบัฟเพิ่มพลังโจมตีและยังมีบัฟที่เอาไว้เร่งพลังงานอีกต่างหาก ในแง่การใช้งานแม้ว่าจะไม่ได้สะดวกสบายเท่ากับ Luocha ที่ฮีลอัตโนมัติเรื่อย ๆ ส่งผลให้เราต้องนั่งคำนวณพลังงานในการกะตาใช้สักหน่อย แต่ก็ถือว่าไม่ได้ยากเกินไป ส่วนท่าไม้ตายแม้ว่าจะดีมากก็จริง ทั้งฮีลหมู่กับบัฟเพิ่มพลังโจมตี แต่ก็มีข้อเสียเลยคือกว่าจะเก็บเกจท่าไม้ตายเต็มต้องใช้เวลาสักหน่อยเพราะค่าพลังงานที่ต้องการในการใช้ท่าไม้ตายคือ 140 แต้ม ซึ่งตัวละครเฟื่องฟูตัวอื่นส่วนมากจะใช้แค่ 90 - 100 หน่วยเท่านั้น ทำให้บางครั้งเราอาจจะเก็บเกจไม่ทัน ในส่วนของการเซฟเพื่อน น้องถือว่าเป็นตัวที่ช่วยเซฟเพื่อนที่ดีด้วยการใช้สกิล 1 ครั้ง จะทำการล้างดีบัฟได้ และผลจะเกิดเรื่อย ๆ ถึง 6 ที ก่อนจะต้องใช้ใหม่ แถมหากเพื่อนในทีมมีเลือดเหลือต่ำกว่า 50% จะช่วยฮีลเพื่อกันตายได้ 1 ครั้ง ซึ่งหากเทียบกับตัวละครที่ล้างดีบัฟได้ตัวอื่นน้องเป็นตัวล้างดีบัฟที่ถือว่าดีมาก ๆ เพราะเราไม่ต้องร่ายสกิลใหม่บ่อย ๆ ข้อดีข้อเสียฮีลแรงและมีอรรถประโยชน์ดีมากเกจท่าไม้ตายต้องใช้พลังงานเยอะสกิลล้างดีบัฟดีไม่ต้องกดใช้งานบ่อยการใช้งานสกิลต่างๆ มีความซับซ้อนเล็กน้อยบัฟเร่งพลังโจมตีให้เพื่อนได้ มีสกิลเอาไว้เร่งเกจท่าไม้ตายให้เพื่อน สกิล Huohuo ชื่อความสามารถBanner: Stormcaller - โจมตีเดี่ยวสร้าง DMG ลม 55% ของ HP สูงสุด ของเธอแก่ศัตรูที่กำหนด 1 ตัวTalisman: Protection - สกิลต่อสู้ลบล้างเอฟเฟกต์ Debuff 1 เอฟเฟกต์ของฝ่ายเราที่กำหนดหนึ่งตัว และฟื้นฟู HP 22.4% ของ HP สูงสุดของ เธอ+623แก่ฝ่ายเราที่กำหนดหนึ่งตัวทันที พร้อมทั้งฟื้นฟู HP 17.9% ของ HP สูงสุดของ เธอ+498 แก่ตัวที่อยู่ใกล้เคียงกับเป้าหมายด้วย Tail: Spiritual Domination - ท่าไม้ตายฟื้นฟูพลังงานให้กับเพื่อนในทีม ที่นอกเหนือจากตัวเอง 21.0% ของพลังงานสูงสุดของแต่ละตัว พร้อมทั้งทำให้ ATK ของเป้าหมายดังกล่าวเพิ่มขึ้น 43.2% เป็นเวลา 2 เทิร์น Possession: Ethereal Metaflow - พรสวรรค์หลังจากปล่อยสกิลต่อสู้ เธอจะได้รับ "Drive Provision" เป็นเวลา 2 เทิร์น และเมื่อเริ่มเทิร์นของ เธอระยะเวลาดงกล่าวจะลดลง 1 เทิร์น ในขณะที่ เธอมี "Drive Provision" เมื่อเป้าหมายฝ่ายเราเริ่มต้นเทิร์น หรือปล่อยท่าไม้ตาย จะฟื้นฟู HPของเป้าหมายนั้น ๆ 4.5% ของ HP สูงสุดของ เธอ 134 พร้อมทั้งสร้างเอฟเฟกต์ฟื้นฟูแก่เป้าหมายฝ่ายเราทุกตัวที่มี HPปัจจุบันน้อยกว่าหรือเท่ากับ 50% เป็นจำนวน 1 ครั้ง เมื่อปล่อย "Drive Provision" เพื่อให้การรักษาแก่เป้าหมายฝ่ายเราจะลบล้างเอฟเฟกต์ Debuff ของเป้าหมายดังกล่าว 1 เอฟเฟกต์ โดยเอฟเฟกต์นี้ สามารถเกิดขึ้นได้ 6 ครั้งหลังจากที่ปล่อยสกิลต่อสู้อีกครั้ง จะรีเฟรชจำนวนการเกิดเอฟเฟกต์ Fiend: Impeachement of Evil - เทคนิคเธอจะข่มขู่ให้ศัตรูติดสถานะ "Horror-Struck" ซึ่งศัตรูที่ติดสถานะนี้ จะหลบหนีไปยังทิศทาง ที่อยู่ห่างจากเธอเป็นระยะเวลา 10 วินาที เมื่อเข้าสู่การต่อสู้พร้อมกับศัตรูที่ติดสถานะ "Horror-Struck" จะมีโอกาสพื้นฐาน 100% ที่จะทำให้ ATK ของเป้าหมายแต่ละตัวลดลง 25% เป็นเวลา 2 เทิร์น *อ้างอิงจากเลเวลสกิลสูงสุด Light Cone แนะนำของ Huohuo ชื่อรายละเอียดNight of Frightทำให้อัตราการฟื้นฟูพลังงานของผู้ใส่เพิ่มขึ้น 12/14/16/18/20% และหลังจากปล่อยท่าไม้ตาย ผู้สวมใส่จะฟื้น HP ให้กับเป้าหมายที่เลือดต่ำที่สุดจำนวน 10/11/12/13/14% ของ HP สูงสุด และหลังจากที่รักษาเป้าหมายแล้วจะทำให้ ATK ของเป้าหมายเพิ่มขึ้น 2.4/2.8/3.2/3.6/4% ซ้อนทับได้ 5 ชั้นเป็นเวลา 2 เทิร์นTime Waits for No Oneเพิ่มค่า Max HP ของผู้สวมใส่ 18/21/24/27/30% และปริมาณการรักษาเพิ่มขึ้น 12/14/16/18/20% เมื่อผู้สวมใส่ทำการรักษาให้กับเป้าหมายฝ่ายตัวเองจะบันทึกปริมาณการรักษาเอาไว้ เมื่อเป้าหมายฝ่ายตัวเองทำการโจมตี จะสุ่มสร้าง DMG เพิ่มเติมตามประเภทของผู้สวมใส่ 36/42/48/54/60%ของปริมาณการรักษาที่บันทึกไว้ แก่ศัตรูเป้าหมายที่โดนโจมตี 1 ตัว โดยที่ DMG นี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากบัฟอื่น ๆ และในแต่ละเทิร์นจะเกิดขึ้นได้สูงสุด 1 ครั้ง Quid Pro Quoเมื่อเริ่มเทิร์นจะสุ่มฟื้นฟูพลังงาน 8 หน่วย ให้กับเป้าหมายอื่นในฝ่ายตัวเอง 1 ตัวที่มี % พลังงานน้อยกว่า 50%Shared Fellingทำให้การรักษาของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 10%/12.5%/15%/17.5%/20% และเมื่อปล่อยสกิลต่อสู้ จะฟื้นฟูพลังงานให้ฝ่ายตัวเองทั้งหมด 2/3/3/4/4 หน่วยPost-OP Conversationทำให้อัตราการฟื้นฟูพลังงานของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 8%/10%/12%/14%/16% และในขณะที่ปล่อยท่าไม้ตาย การรักษาจะเพิ่มขึ้น 12%/15%/18%/21%/24% เซ็ต Relic แนะนำ สำหรับเซ็ต Relic น่าใช้ตัวเซ็ตหลักเราจะใช้เป็นเซ็ต Messenger traversing Hackerspace เพิ่อเอาไว้เร่งความเร็ว หรืออาจจะใส่ผสมกับ Passerby of Wandering Clound ก็ได้ เพื่อให้ฮีลแรงขึ้น ส่วนเซ็ตรองอีก 2 ชิ้นจะสามารถใช้ได้ 2 เซ็ตคือ Fleet...