Mobile Guide

Mobile Guide - สำหรับบทความ เทคนิค หรือ guide ต่างๆสำหรับเกมเครื่องมือถือต่างๆ ทั้งเก่าใหม่ งูกินหางหรือระดับ next-gen ได้ทั้งนั้น

สวัสดีอีกเช่นเคยกับแฟนเกม Fairy Tail: Force Unite! ในวันนี้ผมก็จะมานำเสนออีกเรื่องน่าสนใจที่หลายๆ คนมองข้ามกันไป และไม่รู้ว่ามันสำคัญยิ่งยวดขนาดไหนกับระบบ "รูปแบบทีม" เอาเป็นว่าเราอย่าเสียเวลาเลย เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า มา! รูปแบบทีม คืออะไร?  คือรูปแบบการวางตำแหน่งกลยุทธ์ของทีมเราหรือจะมองว่าเป็นตำแหน่งการยืนตัวละครก็ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นรูปแบบพื้นฐานที่พบได้มากในเกมเทิร์นเบสและเกมมือถือสมัยนี้ แต่รู้รึเปล่าว่าภายในเกมนี้จะมีรูปแบบให้ได้เลือกกันถึง 10 แบบเลยด้วย โดยสามารถปลดล็อคได้ด้วยการซื้อหนังสือเล่มละ 1,000,000 เงินจีเวล พร้อมทั้งยังสามารถอัปเกรดขั้นได้อีกต่างหาก นอกจากนี้แต่ละรูปแบบไม่ใช่เพียงแค่ตำแหน่งการยืนที่แตกต่างกันเท่านั้นนะ ยังมีบัฟแต่ละตำแหน่งแตกต่างกัน พร้อมด้วยรูปแบบแพ้-ชนะทางกันอีกด้วย จึงทำให้ “รูปแบบทีม” นี่ล่ะเป็นอีกหนึ่งตัววัดผลแพ้-ชนะกันได้เลย ส่วนมีรูปแบบอะไรบ้างนั้นเราก็มาดูกันเลยดีกว่า รูปแบบทีมทะลวง จุดเด่น : เพิ่มพลังโจมตีเท่ากันในทุกตำแหน่ง ชนะทาง : แยกเงา กลยุทธ์ พริบตา แพ้ทาง : ปิดล้อม ปีกราชา หลุมพราง นี่คือรูปแบบแรกที่ตัวเกมจะปลดล็อคให้เราเมื่อทำเควสถึง มีจุดเด่นคือการเพิ่มดาเมจให้กับทุกตำแหน่ง โดยแลกมากับค่าความเร็วที่ลดลงไป เป็นรูปแบบการเพิ่มพลังโจมตีสูงสุดจากรูปแบบทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้าหากว่าอัปไปจนถึงเลเวลสูงสุดจะช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้ถึง 12% เลย เหมาะสำหรับทีมเน้นพลังโจมตีเข้าแลกนั่นเอง รูปแบบทีมแยกเงา จุดเด่น : เพิ่มพลังโจมตีเวท M.ATK อย่างมากให้กับตัวละครผู้เล่น  ชนะทาง : โยกย้าย ปีกราชา ปิดล้อม แพ้ทาง : ทะลวง หลุมพราง พริบตา เป็นรูปแบบเด่นชัดมากเรื่องการเพิ่มค่า M.ATK ให้กับตัวละครหลักของเรา โดยจะแลกมากับการลดค่าพลังป้องกัน  ในขณะเดียวกันก็ทำการเพิ่มพลังโจมตีในระดับนึงให้กับสองตำแหน่งด้านข้าง ความเร็ว และพลังป้องกันอีกอย่างละตำแหน่ง เหมาะสำหรับคนที่เลือกเล่นคลาสจำพวกเวทคลื่นเสียงหรือเวทหิมะ พวกใช้พลังโจมตีเวทนั่นเอง เมื่อเลเวลสูงสุดจะเพิ่มค่าพลังเวทให้สูงถึง 15.3% เลย รูปแบบทีมเสมอภาค จุดเด่น : เพิ่มพลังโจมตีกายภาพ P.ATK อย่างมากให้กับตัวละครผู้เล่น ชนะทาง : หลุมพราง โยกย้าย พริบตา แพ้ทาง : กลยุทธ์ ปิดล้อม ผจญภัย อาจเรียกว่า “สายสมดุล” ตามชื่อก็ว่าได้ แต่เอาจริงๆ รูปแบบนี้จะเน้นไปทางการเพิ่มค่า P.ATK อย่างมากให้กับตัวละครหลักของเรา พร้อมด้วยการเพิ่มดาเมจกายภาพ ดาเมจโดยรวม ค่าพลังฟื้นฟู และต้านทานผนึก อีกอย่างละตำแหน่ง เหมาะสำหรับคลาสจำพวกสายเวทปืนหรือเวทเสริมพลัง โจมตีดาเมจแบบกายภาพ พร้อมตัวฮีลประจำทีมอีกหนึ่ง โดยเลเวลสูงสุดจะเพิ่มค่า P.ATK สูงถึง 15.3% รูปแบบทีมกลยุทธ์ จุดเด่น : เพิ่มพลังป้องกันกายภาพ P.Resist ให้กับตัวละครผู้เล่น ชนะทาง : พริบตา โยกย้าย เสมอภาค แพ้ทาง : ปีกราชา ทะลวง ผจญภัย สำหรับรูปแบบ กลยุทธ์ จะคล้ายกับสองรูปแบบก่อนหน้านี้ แต่เปลี่ยนจากการเสริมพลังโจมตีมาเป็นเพิ่มพลังป้องกันกายภาพ หรือ P.Resist แทน ไม่ได้เพิ่มเยอะขึ้นแบบโดดเด่นแต่จะเป็นการเพิ่มเฉลี่ยไล่เลี่ยกันในแต่ละตำแหน่ง ในขณะเดียวกันก็ยังคงเพิ่มดาเมจและความเร็ว ให้กับตำแหน่งโดยรอบไปในตัวด้วย รูปแบบนี้ค่อนข้างจะเหมาะกับคลาสจำพวกสายดาเมจที่พลังป้องกันน้อย ซึ่งสามารถช่วยทำให้เอาตัวรอดได้นานขึ้นนั่นเอง รูปแบบทีมโยกย้าย จุดเด่น : เพิ่มความเร็ว SPD อย่างมากให้สองตำแหน่ง และเพิ่มค่าฮีลรองลงมา ชนะทาง : ผจญภัย หลุมพราง ปิดล้อม แพ้ทาง : แยกเงา เสมอภาค กลยุทธ์ ตามชื่อของรูปแบบกับ โยกย้าย คือเน้นการเพิ่มความเร็วของตัวละคร SPD อย่างมากโดยเน้นให้กับตัวละครผู้เล่น และในตำแหน่งตัวละครที่ 3 แลกมากับค่าพลังป้องกันกายภาพและเวทมนต์ที่เสียไป ซึ่งรูปแบบนี้ค่อนข้างจะเหมาะกับคลาสจำพวกเน้นการดีบัฟตัวละครอย่างเวทผนึกหรือคลาสจำพวกต้องเซ็ตอัปหลายๆ อย่างก่อนต่อสู้ ซึ่งต้องพึ่งความเร็วในการลงมือก่อนนั่นเอง รูปแบบทีมผจญภัย จุดเด่น : เพิ่มความเร็ว SPD อย่างมากให้หนึ่งตำแหน่ง และระดับปานกลางรองลงมา ชนะทาง : หลุมพราง เสมอภาค กลยุทธ์ แพ้ทาง : โยกย้าย ปีกราชา พริบตา  จะมาในลักษณะของรูปแบบตัว T โดยตำแหน่งที่ 3 อยู่บริเวณกึ่งกลางด้านหน้าจะได้รับความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แลกมาด้วยพลังป้องกันเวทมนต์ลดลงไป ในขณะเดียวกันอีกสองตำแหน่งก็จะได้ค่าความเร็วเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่จะไม่ได้เพิ่มเยอะเท่าด้านหน้า และมีการเพิ่มพลังโจมตีกายภาพและเวทมนต์ตามลำดับ รูปแบบนี้จะดูคล้ายกับ โยกย้าย เพียงแต่จะเป็นการโฟกัสตัวละครเพียงตัวเดียว เหมาะสำหรับคนที่มีตัวโจมตีหนักๆ ภายในทีมแล้วต้องการใช้เปิดเริ่มการโจมตี รูปแบบทีมปิดล้อม จุดเด่น : เพิ่มความเร็ว SPD อย่างมากให้กับตัวละครผู้เล่น และเพิ่มค่าผนึกอย่างมากให้อีกหนึ่งตำแหน่ง ชนะทาง : ปีกราชา ทะลวง เสมอภาค แพ้ทาง : พริบตา แยกเงา โยกย้าย แทบจะเหมือนกันกับสองแบบก่อนหน้านี้เลยก็ว่าได้ กับการเพิ่มความเร็ว SPD อย่างมากให้หนึ่งตำแหน่ง แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีการเพิ่มค่าผนึก Seal ขึ้นมาอย่างมากเลยด้วยเช่นกัน ส่วนตำแหน่งที่เหลือก็จะมีการเพิ่มค่าดาเมจ และค่าพลังป้องกันขึ้นมาเป็นลำดับ เหมาะสำหรับทีมที่มีตัวละครจอมเวทสายผนึกรวมอยู่ในทีมนั่นเอง รูปแบบทีมปีกราชา จุดเด่น : เพิ่มพลังป้องกันโดยรวมให้กับในทีม ชนะทาง : กลยุทธ์ ทะลวง ผจญภัย แพ้ทาง : ปิดล้อม แยกเงา หลุมพราง รูปแบบชัดเจนของเป้าหมายนี้คือการเพิ่มความถึกให้กับทีมของเรา โดยจะมีการเพิ่มพลังป้องกันให้ตัวละครเราสูงมาก แลกมากับค่าสปีดที่ลดลง ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มค่าฮีลไปด้วย แสดงให้เห็นว่าเป็นรูปแบบเน้นการเอาตัวรอดแท้จริง สำหรับ ปีกราชา นี้ก็เหมาะกับทีมที่มีพลังโจมตีพอแล้วแต่รู้สึกตัวเองยังเปราะอยู่ตายง่ายเกินไป หรือไว้เลือกใช้เฉพาะหน้าเวลาเจออีเวนท์หรือบอสตบหนักๆ ได้ด้วยเช่นกัน รูปแบบทีมพริบตา จุดเด่น : เพิ่มค่าฮีลอย่างมากให้กับตัวละครผู้เล่น ชนะทาง : ปิดล้อม แยกเงา ผจญภัย แพ้ทาง : กลยุทธ์ เสมอภาค ทะลวง ค่อนข้างจะขัดแย้งจากชื่อรูปแบบพอสมควรเลยกับพริบตา ซึ่งน่าจะสื่อถึงความรวดเร็วเสียมากกว่า แต่จุดเด่นของรูปแบบคือการเพิ่มค่าฮีลอย่างมากให้กับตัวละครเราแทนและแบบปานกลางให้กับอีกหนึ่ง นี่จึงเป็นรูปแบบประเภทการรักษาโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับคลาสจำพวกเวทฟื้นฟูและเวทยาที่สามารถรักษาคนอื่นภายในทีมได้นั่นเอง รูปแบบทีมหลุมพราง จุดเด่น : เพิ่มค่าต้านทานผนึกให้สามตำแหน่งแรก ชนะทาง : ปีกราชา ทะลวง แยกเงา แพ้ทาง : ผจญภัย เสมอภาค โยกย้าย เป็นอีกรูปแบบที่แตกต่างจากรูปแบบอื่นๆ ทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ด้วยรูปแบบอื่นจะมีการเพิ่มค่าโจมตี พลังป้องกัน ความเร็วไม่ก็การรักษา แตกต่างจากหลุมพรางจะเป็นการเพิ่มค่าต้านทานผนึกหรือ Seal Resis. ถึงสามตำแหน่ง ทำให้รูปแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะจะใช้ทั่วไป เหมาะสำหรับในโอกาศหรืออีเวนท์เฉพาะหน้าเท่านั้น อย่างในการต่อสู้ PVP หรือท้าชนบอสที่มีพวกสกิลผนึกเยอะๆ...

Read more

อัปเดต 1.2 กันมาแล้วกับ Genshin Impact ซึ่งก็มีทั้งพื้นที่ใหม่ ของใหม่ ศัตรูใหม่ ปริศนาใหม่ และความเหนื่อยตาแตกในการพยายามไขมันใหม่ๆ กันอีกเช่นเคย ในวันนี้ก็จะมากล่าวถึงวิธีการปลดล๊อคเจ้าดาบใหญ่แห่ง Dragonspine ที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ กับดาบใหญ่ Snow-Tombed Starsilver กันจ้า https://www.youtube.com/watch?v=mKHkeRvleaU&ab_channel=Myplaypost วิธีการปลดล๊อคดาบใหญ่ Snow-Tombed Starsilver ตัวดาบใหญ่เล่มนี้จะไม่มีการใบ้ปริศนาตรงๆ แต่จะกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ในเขตภูเขา Dragonspine แห่งนี้ผ่านทางแท่นศิลาจารึกต่างๆ ที่มีอยู่ทั้งสิ้น 8 จุดด้วยกัน ซ้ำร้าย บางจุดยังซ่อนอยู่ในปริศนาอย่างอื่นอีกต่างหาก เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้สนใจคำพูดของ Paimon ที่บอกถึงการรวบรวมแล้วก็แทบจะเมินแล้วก็เผลอยาวเลยล่ะ แน่นอน ต่อให้สนใจแต่ถ้าหาตำแหน่งไม่เจอก็ปลดล๊อคออกมาไม่ได้อยู่ดีแง สำหรับบทความนี้ในส่วนด้านล่างก็จะชี้เป้าของตำแหน่งแท่นศิลาจารึกทั้ง 8 จุดกันจ้า เพื่อนๆ จะได้ปลดล๊อคกันได้ง่ายซักหน่อย หรือถ้าคนไหนอยากค้นหาด้วยตัวเองก็ขอเป็นกำลังใจให้น้า สู้ๆ ดูตำแหน่งในแผนที่ประกอบเพื่อเช็คตำแหน่งของแต่ละจุดได้จ๊ะ (ไอคอนสีเหลืองคือตำแหน่งของกล่องในการเปิดห้องนิรภัยจ้า) ► การเปิดห้องนิรภัย ในแท่นศิลาจุดที่ 3 นี้ จะต้องผ่านด่านปริศนาห้องนิรภัยเสียก่อน โดยการเปิดห้องนี้จะต้องใช้หีบสีทองทั้งหมด 3 ใบจากที่ต่างๆ ที่กระจายไปทั่วภูเขาแห่งนี้ และก็เป็นปริศนาการท้าทายในรูปแบบต่างๆ กันไปหมด มีเป็นตีมอนสุดกวน หาของมาประดับ และปิดท้ายด้วยการซ่อนมันในภูเขาสูง Princess's Box : ได้จากการดึงดาบที่อยู่กลางแม่น้ำและทำการท้าทายกำจัดศัตรูภายใน 60 วินาทีให้ผ่าน (Abyss Mage สองตัวน้ำและน้ำแข็งหัวอุ่นแน่นอนจ้า แนะนำเล่นตัวน้ำแข็งก่อนเลย) Scribe's Box : ได้จากการนำดอก Cecilia วางบนหลุมศพ 3 ดอก จะปรากฎหีบออกมา Priest's Box : จะอยู่บนซากหอคอย กล่องหรูหราไฮโซที่เพื่อนๆ คุ้นเคยกัน (ทีมงานเผลอเปิดไปแล้ว เสียใจมากไม่มีรูปกล่องให้เพื่อนๆ ดู) เมื่อได้กล่องครบทั้ง 3 ใบแล้วก็จะสามารถเปิดห้องนิรภัยเข้าไปลูทของได้ตามสะดวก พร้อมกับสำรวจแท่นศิลาได้ด้วยเลย (อย่าลืมสำรวจล่ะ! เดี๋ยวเก็บของเพลินลืมแล้วต้องย้อนมาใหม่อีก) ส่วนด้านล่างนี้ก็จะเป็นตำแหน่งของแท่นศิลาทั้งหมดจ้า จุดที่ 1 : บริเวณด้านบนขวาของภูเขาริมน้ำ จุดคบไฟด้วยล่ะ จุดที่ 2 : อยู่บริเวณหน้าห้องเป้าหมายของเราเลยจ้า จุดที่ 3 : ภายในห้องนิรภัย ให้มายังวาร์ปในถ้ำน้ำแข็ง Starglow Cavern แล้ววิ่งขึ้นไปข้างบน 1 รอบ จะเห็นสะพาน ก่อนถึงสะพานให้หันไปทางซ้ายมือ แล้วร่อนข้ามไป วิ่งต่อไปทางซ้าย (ไปผิดทางจะเจอศัตรู) ก็จะมาถึงห้องนิรภัยอันหายาก จุดที่ 4 : อยู่ด้านบนสุดของ Starglow Cavern จุดที่ 5 : อยู่ใต้ปริศนา Seelie วิ่งไล่จับ โดยต้องผ่านปริศนาสองชุด ชุดแรกจะเป็น Seelie 2 ตัว และตามด้วย Seelie 3 ตัวที่ต้องเว้นระยะห่างให้เท่ากันถึงจะผ่านได้ จุดที่ 6 : อยู่ในถ้ำน้ำแข็งที่ใช้ปลดผนึกสายลมด้านบนสุด จุดนี้จะต้องสู้กับ Ruin Guard และ Ruin Grader ด้านบนที่มีแท่นธาตุน้ำแข็ง 5 จุดให้ชนะก่อนถึงจะลงมาได้ จุดที่ 7 : บนหน้าผาของ Wyrmrest Valley สังเกตุจากเส้นถนน จุดที่ 8 : อยู่หน้า Domain น้ำแข็ง ในจุดนี้เพื่อนๆ ต้องทำเควสโลกปลดล๊อคเส้นทางที่มีสายลมพัดผ่านก่อน (ปลดผนึกน้ำแข็งทั้ง 3 จุด) จากนั้นต้องแก้ปริศนาปลดล๊อคทางเข้า Domain ที่เป็นการละลายผนึกน้ำแข็งอีกเช่นกัน ตรงจุดนี้แนะนำให้มีตัวละครที่ใช้ธนูด้วย 1 คนจะละลายน้ำแข็งได้สะดวกมาก หลังจากที่เพื่อนๆ เจอแท่นศิลาครบทั้ง 8 แห่งแล้ว ก็จะสามารถเข้าถึงตัวดาบได้ซักที แต่ทว่ายังไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ ให้เพื่อนๆ ใช้ตัวละครที่มีธาตุไฟทำการจุดคบไฟที่อยู่รอบๆ ให้ครบ 4 อันเสียก่อน เท่านี้ก็จะสามารถปลดล๊อคตัวดาบกันได้เสียที นักเดินทางเอ๋ย ความพยายามของเจ้าสัมฤทธิ์ผลแล้ว (ทำเสียงเลียนแบบบอสหมาป่า) หลังได้แบบแปลนมาก็กดใช้และไปคราฟตัวดาบกันได้เลยที่ช่างตีเหล็กเจ้าเก่าของเรา สำหรับตัวดาบนี้ก็จะเด่นในด้านของค่าสเตตัสที่เป็นโบนัสความเสียหายกายภาพ และก็อาจจะเป็นข้อเสียในเวลาเดียวกัน เนื่องจากหลายๆ คนที่ใช้ดาบใหญ่ จะมีการแปลงธาตุในการโจมตีเสมอ ซึ่งในระหว่างที่แปลงธาตุ ผลโบนัสกายภาพนี้จะไม่ทำงานหรือทำงานไม่เต็มที่ ก็จะไม่ค่อยเหมาะกับตัวละครเหล่านี้เท่าไหร่นัก อย่างไรก็ดีถ้าไม่ได้มีการแปลงธาตุแล้ว ก็เรียกได้ว่ามีความแรงในระดับที่น่าสนใจเลยทีเดียวล่ะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

Read more

หลังจาก Genshin Impact อัปเดต 1.2 กันมาแล้ว เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ หลายคนได้สั่นสะท้านกับความเย็นยะเยือก (Sheer Cold) บนพื้นที่หิมะตกของ Dragonspine กันเป็นแน่แท้ หลายคนอาจจะทราบเกี่ยวกับการรับมือความหนาวกันแล้ว ส่วนใครที่ยังไม่ทราบก็ลองมาดูวิธีการรับมือความหนาวกันได้จ้า ความเย็นยะเยือกและการรับมือ เมื่อเข้าสู่พื้นที่ของ Dragonspine ที่มีหิมะปกคลุมแล้ว ตัวละครจะมีเกจความหนาวปรากฎขึ้นที่ด้านบนของหลอดพลังชีวิตทันที เกจนี้จะค่อยๆ ขึ้นอย่างช้าๆ และเร็วขึ้นหากเจอสภาวะบางอย่าง เช่นพายุหิมะ (ลมแรงบนที่สูงๆ) การลงไปว่ายน้ำเล่น ซึ่งถ้าหากเกจนี้เต็มแล้วล่ะก็ จะปรากฎน้ำแข็งเกาะที่ขอบหน้าจอพร้อมกับพลังชีวิตของตัวละครที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ฮีลสู้กันตาแหกไปข้าง หมดแรงฮีลก็ตายสนิทจ้า พอใกล้เต็มหลอดก็จะมีเสียงเตือนชวนระทึกด้วยล่ะ สภาวะนี้จึงเป็นอุปสรรคที่ค่อนข้างอันตรายมากในการวิ่งเล่นด๊องๆ ใน Dragonspine แห่งนี้ แน่นอนว่าตัวเกมก็ทำวิธีการรับมือมาให้แล้ว แม้จะดูยุ่งยากไปซักนิด นั่นคือการใช้เหล่าไฟต่างๆ มาเป็นจุดสร้างความอบอุ่นให้กับตัวเองนั่นเอง โดยสิ่งที่สามารถใช้ได้นั้นก็จะมีดังนี้ คบไฟต่างๆ (ต้องติดไฟอยู่นะ) เตาปรุงอาหาร (ใช่แล้ว ต้องติดไฟอยู่เช่นกัน) จุดวาร์ปทั่วไปและเสา Statue of Seven (มีต้นเดียว) การอยู่ใกล้กับ Warming Seelie และ Seelie Garden ที่เจ้าตัวไปพำนักแล้ว อยู่ใกล้กับเสาที่ปลดปล่อยพลังของไฟออกมาได้ เก็บ Scarlet Quartz ติดตัวไว้ (การอยู่ใกล้กับจุดวาร์ปและ Statue of Seven จะทำให้หายไป) การใช้ไอเทมบางชนิด เช่น Warming Potion จะสามารถหาได้จากการปลดล็อค Frostbearing Tree เลเวล 4 อยู่ใกล้ๆ Frostbearing Tree กางโล่ไม่ช่วยจ๊ะ CEO ธาตุดินก็เอาไม่อยู่นะ แน่นอนว่าต้องขอเตือนเพื่อนๆ ก่อนว่าความเย็นยะเยือกนี้เป็นสถานะพิเศษที่อยู่กับพื้นที่ของ Dragonspine ไม่ได้เป็นสถานะติดตัวละคร ทำให้ไม่สามารถลบล้างออกได้ รวมถึงการทำให้ตัวเองติดสถานะเผาไหม้, สร้างโล่ป้องกันไม่ทำให้ความเย็นยะเยือกลดลงหรือหยุดไว้ชั่วคราวแต่อย่างใด ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ ต้องการออกสำรวจพื้นที่ในเขตนี้หรือวิ่งเล่นแล้วนั้น พยายามมองหาคบไฟต่างๆ มีตัวละครธาตุไฟไว้สำหรับจุดคบไฟเหล่านั้นกลับมาใหม่ (ระวังปฎิกิริยาธาตุที่จะทำให้ไฟดับด้วย ดับไปต้องจุดใหม่น้า) เปิดจุดวาร์ปต่างๆ จะช่วยให้สามารถเดินในพื้นที่หนาวจัดแห่งนี้ได้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ส่วนนี้ก็เป็นทิปเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการท่องเที่ยวบนภูเขาหิมะนี้ ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้าจ้า กำลังหาเพื่อนเล่นด้วยกันหรือข้อมูลอยู่ ลองมาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

Read more

กิลด์เรด ในเกม Evil Hunter Tycoon เป็นการร่วมมือกันของสมาชิกกิลด์ในการกำจัดบอส โดยที่สมาชิกภายใน กิลด์ต้องส่งกองหนุนเพิ่มเอาไว้ในระบบ เพื่อที่จะช่วยเพื่อนๆ ที่อยู่ในกิลเวลาที่ทำการเปิดกิลด์เรดในการตีบอสนั่นเองซึ่งบอสหลังๆ นี่โหดมากครับดังนั้นในการส่งกองหนุนให้ลง Hunter ที่โหดที่สุดของแต่ละหมู่บ้านเอาไว้เลยเราไปดูรายละเอียดกันครับ ต้องมีกิลด์ซะก่อน 1.การลงทะเบียนกองหนุนแนะนำให้ใส่ Hunter ที่ดีที่สุดของเราเข้าไป และเมื่อ Hunter ที่เราใส่เป็นกองหนุนมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ อัปเกรดอุปกรณ์ใหม่ให้ทำการลงทะเบียนใหม่ทุกครั้ง ซึ่งถ้าเราไม่ทำการลงทะเบียนใหม่ Hunter ตัวดังกล่าวที่เป็นกองหนุนก็จะใช้ค่าสถานะเดิมก่อนหน้าที่จะทำการอัปเกรด 2.Hunter กองหนุนของหมู่บ้านที่เป็นสมาชิกกิลด์เมื่อทำการลงทะเบียนแล้วก็จะมาปรากฏให้เห็นในหน้าสมาชิก ซึ่งเราสามารถกดเข้าไปดูได้ การลงเรดกิลด์ เช่นเดียวกับการลงลานหน้าปราสาทราชาปีศาจเราจำเป็นต้องมีมีคัมภีร์โพทัลปราสาทราชาปีศาจซะก่อน ซึ่งเราสามารถหาได้จากการกำจัดบอทในระดับความยากเชี่ยวชาญขึ้นไป ต้องตีบอสในระดับเชียญชาญขึ้นไปถึงจะได้คัมภีร์โพทัลปราสาทราชาปีศาจ กำจัดบอสซะแล้วเราก็จะได้คัมภีร์โพทัลปราสาทราชาปีศาจมา เมื่อได้คัมภีร์มาแล้วก็ทำการเปิดโพทัลปราสาทราชาปีศาจที่ด้านขวาบน จากนั้นเลือกกิลด์เรดเลือกระดับที่ต้องการจะลงแล้วกดเปิดโพทัลได้เลย หมายเหตุ: ให้ทำการเฝ้าดูการตีบอสในช่วงแรกไว้ ถ้าเกิดคิดว่ารุมตีบอสไม่ไหวให้กดยกเลิกซะก็จะไม่เสียเวลาและเสียรอบครับแล้วค่อยลดระดับเลเวลลงมา กองหนุนของกิลด์มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการช่วยเหลือเพื่อนๆ สมาชิก ในการกดลงครั้งแรกจะทำการส่งสมาชิก 5 คนแรกมาก่อน หลังจากนั้นถ้ามีเพื่อนในกิลด์ตายหรือกองหนุนตายตัวระบบก็จะส่งกองหนุนมาช่วยเราตีบอสเรื่อยๆ จากภาพกองหนุน 8 ตัวละครโหดๆ ทั้งนั้น เมื่อกำจัดบอสได้ บอสก็มีการดรอปเข็มขัดและขนนกฟีนิกซ์ตามระดับที่เราลงกิลด์เรด และมีโอกาสที่จะดรอปตราสัญลักษ์ที่เป็นแฟชั่นเพิ่มสถานะให้กับ Hunter อีกด้วย (ดรอปยากมากผู้เขียนก็ยังไม่มี T_T) ภาพจาก discord Evil Hunter Tycoon เมื่อใส่ตราสัญลักษณ์แล้วก็จะมีแสงอยู่ใต้เท้าตามภาพเลยครับ ผู้เขียนก็ได้แนะนำในกิลด์เรดในการหาเข็มขัดมาใส่กัน เพื่อนๆ สามารถศึกษาข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการเล่นด้วยความเพลิดเพลินได้เลย ถ้าชื่นชอบผลงานเขียนแล้วก็ฝากติดตามหรือไปพูดคุยกันได้นะครับที่เพจ > กุ๊กไก่เล่นไปเรื่อย <<

Read more
Genshin Impact Camera cover playpost

หลัง Genshin Impact อัปเดต 1.2 กันมาก็มีของเล่นกันมาอีกแล้ว หนึ่งในนั้นก็คือเจ้ากล้องถ่ายรูปที่จะให้เพื่อนๆ ได้ถ่ายภาพตัวละครสุดรักของเพื่อนๆ ได้อย่างเต็มที่นั่นเอง เจอของเล่นสนุกๆ แบบนี้คง ไม่ต้องพูดอะไรกันมากไปดูวิธีทำกันเลยดีกว่า คาหนังคาเขา เด็กดื้อเจอแมวดื้อไม่ยอมให้จับ วางเพลิงสด อ่านต่อหน้าสาม! วิธีทำกล้องถ่ายรูป ให้เพื่อนๆ ไปที่ตัวเมือง Liyue บริเวณกลางเมืองและรับเควสของ Xu ซึ่งเขาจะเล่าถึงเรื่องของกล้องถ่ายรูปและฝากให้เราส่งรูปให้กับลูกค้าทั้งสองคนหน่อย ซึ่งตรงนี้ตัวเควสจะไม่บอกว่าอยู่ที่ไหน ดังนั้นเพื่อนๆ ต้องดูรูปเพื่อหาว่าลูกค้าเป็นใครกันเองจ้า ลูกค้าทั้งสองคนก็จะเป็นคนที่เพื่อนๆ คุ้นเคยกันดีหลังผ่านเควสของ Liyue กันมาแล้ว คุณยายผู้ขายของเล่นสำหรับผู้ใหญ่(?) โฆษกที่สำหรับเล่าเรื่องชาบนเวที(?) หลังส่งรูปเสร็จก็จะปลดล๊อคไอเทมกล่องถ่ายรูปมาให้ได้ใช้กันจ้า และก็อย่างที่เพื่อนๆ เห็นกันว่า มันใช้ช่องไอเทมขนาดเล็ก ช่องเดียวกับกระเป๋าอาหารฉุกเฉินนั่นแหละ!!! ดังนั้นถ้าใครจะไปลุยอะไรหนักๆ อย่าลืมเช็คก่อนนะจ๊ะว่าเปลี่ยนไอเทมเรียบร้อยแล้วหรือยัง ไม่งั้นจะกดเติมเลือดกลายเป็นกดแชะฉากเด็ดดีฬามันตอนโดนยำตายฟรีไม่รู้ตัวนะเอ้อเตือนไว้ก่อน ขอให้สนุกกับเกทชิน 1.2 จ้า... รู้นะว่ากำลังทำหน้าเบื่อกับการตามหาของไปถวายต้นไม้นะ จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

Read more

รูนในเกม Evil Hunter Tycoon เป็นไอเท็มที่ใส่เพื่อเพิ่มคุณสมบัติเพิ่มเติมจากในอุปกรณ์ ซึ่งเราสามารถหารูนได้จากการลง โพทัลราชาปีศาจในหมวด ลานหน้าปราสาทราชาปีศาจในระดับต่างๆ และตัวรูนนั้นมีหลายชนิดให้เลือกใช้งานอีกด้วยเราไปดูกันครับ วิธีการหาหินรูน ในการจะหารูนนั้นเราจำเป็นต้องมีคัมภีร์โพทัลปราสาทราชาปีศาจซะก่อน ซึ่งเราสามารถหาได้จากการกำจัดบอทในระดับความยาก เชี่ยวชาญขึ้นไป ต้องตีบอสในระดับเชียญชาญขึ้นไปถึงจะได้คัมภีร์โพทัลปราสาทราชาปีศาจ กำจัดบอสซะแล้วเราก็จะได้คัมภีร์โพทัลปราสาทราชาปีศาจมา เมื่อได้คัมภีร์มาแล้วก็ทำการเปิดโพทัลปราสาทราชาปีศาจที่ด้านขวาบน 1.เมื่อเปิดมาแนะนำให้ติ๊กอัปเกรดรางวัลทุกครั้ง ซึ่งในการเพิ่มรางวัลแต่ละครั้งจะใช้เงินในการลงปราสาทเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากราคาปกติ 2.เลือกระดับในการลงโพทัลปราสาทราชาปีศาจ ยิ่งเลเวลสูงระดับของรูนก็ได้ในระดับเลเวลที่สูขึ้นตามไปด้วย 3.รางวัลการเคลียร์ลานหน้าปราสาทราชาปีศาจซึ่งตอนนี้สูงสุดที่เลเวล 90 เมื่อเข้ามาในลานหน้าปราสาทแล้วแนะนำให้เราเล่นมือและคอยเก็บลูกบอลสีม่วงตามพื้นเพื่อทำการเพิ่มเกจให้เต็มไวขึ้นและบอสออกมาให้เรากำจัดได้ในเวลาที่รวดเร็วซึ่งจำกัดเวลาในการลง 1 รอบแค่ 10 นาที เมื่อทำการกำจัดบอสทั้งหมดแล้วเราก้จะได้รูนตามระดับที่เราเครียร์ได้แบบสุ่ม เรามีโอกาสได้รูนต่างๆ ดังต่อไปนี้ Rune ชื่อ คุณสมบัติ รูนเพิ่มคริติคอล เพิ่มค่า Cri 1-5% รูนอัปเกรดการโจมตี เพิ่มค่า ATK ทั้งหมด 3-24% รูนความเร็วโจมตี เพิ่มค่า ATK SPD 1-5% รูนสังหารประเภทบอส เพิ่มค่าความเสียหายประเภทบอส 9-28% รูนเพิ่ม HP เพิ่ม HP % รูนเผาผลาญอารมณ์ ลดปริมาณการใช้อารมณ์ลง 4-22% รูนฟื้นฟูอารมณ์ เมื่อโจมตีมีโอกาส % ที่จะพื้นฟูอารมณ์  3-12% รูนรับทอง เมื่อโจมตีมีโอกาส 3-24% ที่จะได้รับทอง 2 เท่า รูนสังหารสัตว์ประเสริฐ เพิ่มค่าความเสียหายประเภทสัตว์ประเสริฐ 9-28% รูนรับ EXP เพิ่ม EXP ที่ได้รับขึ้น 4-22% รูนสังหารประเภทสัตว์ เพิ่มค่าความเสียหายประเภทสัตว์ขึ้น 9-28% รูนฟื้นฟูพลังงาน เมื่อโจมตีมีโอกาส % จะพื้นฟูพลังงาน 3-12% รูนรับวัตถุดิบ เพิ่มโอกาสที่จะได้รับวัตถุดิบเพิ่ม 3-24% รูนเผาผลาญพลังงาน ลดปริมาณการใช้พลังงานลง 4-22% รูนลดความเสียหาย มีโอกาส % ที่จะลดความเสียหาย 25% รูนอัปเกรดการป้องกัน เพิ่มค่า DEF 1-5% รูนอัปเกรดการหลบหลีก เพิ่มค่า EVA 1-5% รูนความเร็วเคลื่อนที่ เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 3-12% รูนสังหารประเภทปีศาจ เพิ่มค่าความเสียหายประเภทสัตว์สัตว์ปีศาจ 9-28% รูนสังหารประเภทซอมบี้ เพิ่มค่าความเสียหายประเภทซอมบี้ 9-28% รูนเผาผลาญความหิว ปริมาณการใช้ควาหิวลดลง 4-22% รูนฟื้นฟูความหิว เมื่อโจมตีมีโอกาส % จะพื้นฟูความหิว 3-12% รูนดูดเลือด เพิ่มค่าดูดเลือด 3-12% ของความเสียหาย เปอร์เซ็นค่าต่างๆ ของรูนจะเป็นการสุ่มทั้งหมดไม่จำเป็นว่ารูนเลเวลสูงจะได้ค่าสูงเสมอไป ในบางครั้งเราก็จะเห็นว่ามี รูนเลเวลต่ำที่มีค่าสถานะสูงกว่ารูนที่เลเวลสูงก็มี แต่ว่ายิ่งเลเวลของรูนสูงขึ้นก็มีโอกาสที่จะสุ่มค่าสถานะที่สูงขึ้นไปด้วยครับ ตัวอย่างรูนเลเวลน้อยกว่าแต่มีค่าสถานะที่มากกว่ารูนที่เลเวลสูงกว่า การใส่รูนให้อุปกรณ์ การใส่รูนให้กดเข้าไปที่เมนู ฮันเตอร์ → เลือกฮันเตอร์ที่เราต้องการจะติดตั้งรูน → เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง → กดไปที่ติดตั้งรูนในช่องว่าง → เลือกรูนที่ต้องการติดตั้ง เป็นอันเสร็จครับ เมื่อติดตั้งเสร็จเราก็จะได้ค่าสถานะเพิ่มเติมขึ้นดังภาพ และถ้าเกิดอยากเปลี่ยนรูนก็ให้เอารูนชิ้นอื่นไปใส่ทับได้เลยโดยที่รูนเก่าจะหายไปครับ หมายเหตุ: รูนแต่ละชนิดจะเห็นผลแค่เม็ดเดียวที่มีค่าสถานะเยอะที่สุดเท่านั้นดังนั้นอย่าใส่รูนซ้ำกันครับ (ขอบคุณข้อมูลจากเพื่อนในกลุ่มครับ) ผู้เขียนก็ได้แนะนำในเรื่องเกี่ยวกับหินรูนที่ใช้ติดตั้งในอุปกรณ์ต่างๆ ไปพอสมควรแล้ว เพื่อนๆ สามารถศึกษาข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการเล่นด้วยความเพลิดเพลินได้เลย ถ้าชื่นชอบผลงานเขียนแล้วก็ฝากติดตามหรือไปพูดคุยกันได้นะครับที่เพจ > กุ๊กไก่เล่นไปเรื่อย <<

Read more

เปิดมาได้อาทิตย์หนึ่งแล้วสำหรับตัวเกม Fairy Tail: Force Unite ผมมั่นใจว่าหลายคนอาจจะยังงงๆ กับระบบนู้นนี้นั้นอยู่บ้าง เช่นเคยครับวผมจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับตัวเกมให้ลึกขึ้น โดยวันนี้จะมาแนะนำระบบ "อสูรเวท" เรามาดูกันดีกว่าว่าเจ้าพวกน้อนตัวนี้คืออะไร มีอะไรที่น่าสนใจอะไรบ้าง อสูรเวทคืออะไร?  ระบบที่นำเหล่า อสูร ออกมาร่วมต่อสู้ไปพร้อมกับตัวละครของผู้เล่น หรือหลายคนอาจจะเรียกว่า “ระบบสัตว์เลี้ยง” ก็ได้เช่นกัน มีรูปแบบแตกต่างกันออกไปตั้งแต่ น้องลิงอาบนํ้า ไปจนถึง แพนด้าสายเมา พร้อมด้วยการแบ่งแรงค์ตั้งแต่ Normal ไปจนถึง Legend เหมือนกับระบบแรงค์ของตัวละคร ยิ่งแรงค์สูงเท่าไหร่สเตตัสพื้นฐานและสกิลก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปเท่านั้น โดยแต่ละแรงค์จะมีวิธีการหาได้จาก: อสูรเวทระดับ Normal - สามารถซื้อได้จากร้านค้าภายในเกมเมื่อเลเวลถึงกำหนด อสูรเวทระดับ Epic - สามารถหาได้จากหีบสมบัติเงินโดยใช้กุญแจเงิน อสูรเวทระดับ Legend - สามารถหาได้จากหีบสมบัติทองโดยใช้กุญแจทองซึ่งแพงกว่ากุญแจเงินถึงสามเท่าเลยทีเดียว ระบบเลเวลและสเตตัส สิ่งที่ทำให้อสูรเวทแตกต่างจากเหล่าจอมเวทย์คือ เราสามารถเลือกอัปสเตตัสให้พวกเขา พร้อมทั้งยังสามารถสั่งการในเวลาต่อสู้ได้ด้วย แตกต่างจากเหล่าตัวละครทั้งหลายซึ่งเราคาดเดาการกระทำและบังคับพวกเขาไม่ได้เลย เลเวลของเหล่าอสูรสามารถสูงกว่าตัวละครของผู้เล่นได้ถึง 10 เลเวล เช่น ตัวของเรามีเลเวล 55 เลเวลพวกเขาก็สามารถเพิ่มได้สูงสุดแค่ 65 เท่านั้นเอง สามารถเพิ่มเลเวลได้ทั้งหมดสองวิธีคือ:  เก็บค่าประสบการณ์จากการต่อสู้ - ในที่นี้คือต้องเอาลงสนามนะ อยู่เฉยๆ ในคลังจะไม่ได้รับ EXP ใช้ขวดยา EXP อสูรเวท I และ II  - สามารถหาได้จากกิจกรรมและการซื้อในหน้าร้านค้า การเลือกอัพค่าสเตตัสอสูรเวท อย่างแรกเพื่อนๆ ต้องเข้าใจก่อนว่าอสูรตัวนั้นเป็นสายไหน โจมตีกายภาพ หรือ โจมตีเวท โดยสามารถสังเกตได้จากค่า P.ATK และ M.ATK ว่าอันไหนสูงกว่าอันนั้นก็คือสายหลักของพวกเขานั่นเอง โดยการเพิ่มค่าสเตตัสก็จะมีผลดังนี้ ค่า STR > เพิ่ม พลังโจมตีกายภาพ หรือ P.ATK ค่า INT > เพิ่ม พลังโจมตีเวท หรือ M.ATK ค่า DEF > เพิ่ม พลังป้องกัน โดยรวมทั้ง P.DEF และ M.DEF ค่า VIT > เพิ่ม พลังชีวิตสูงสุด หรือค่า HP และเพิ่มค่า M.DEF ด้วยเล็กน้อย ค่า AGI > เพิ่ม ความว่องไว หรือ SPD  ส่วนจะเลือกเล่นไปทางดาเมจหรือจะให้อสูรเราเป็นตัวชนสายแทงค์ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่นของแต่ละคนเอง ระบบสกิลและสกิลเสริม ในอสูรแต่ละตัวจะมีสกิลไม่เหมือนกัน รวมไปถึงจำนวนของสกิลเองด้วย ตัวอย่างอย่างเช่น “บาธติ้งมังกี้” ที่มีอยู่ 2 สกิล และ “โบรว์อาวล์” ที่มีมาถึง 4 สกิล โดยทั้งคู่นั้นจัดอยู่ในระดับของ Normal นั่นจึงหมายความว่าถึงแม้จะเป็นแรงค์เดียวกันแต่ความสามารถก็จะไม่เหมือนกันเลย  นอกจากนี้เพื่อนๆ ยังสามารถเพิ่มจำนวนสกิลได้ด้วยการใช้ “ยาวิญญาณเวท” และเรียนรู้สกิลอื่นได้จากหนังสือ “สกิลอสูรเวท” ซึ่งทั้งสองอย่างสามารถหาซื้อได้จากทางหน้าร้านค้าได้เลย ในส่วนของ สกิลเสริม จะมีลักษณะเป็นเหมือนบัฟสกิลติดตัว ซึ่งสามารถเรียกได้ตัวละสองสกิล โดยมีเงื่อนไขการปลดล็อคแต่ละสกิลระบุเอาไว้ รวมไปถึงหากทำกิจกรรมบางอย่างแล้วได้สกิลเดิมซํ้ามา สกิลนั้นยังจะถูกเพิ่มเลเวลและเพิ่มค่าความสามารถให้ดีขึ้นอีกด้วย เหรียญตราอสูร ตราอสูรถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจน ก็จะเหมือนกับระบบไอเทมสวมใส่ของตัวละครเราก็ว่าได้ โดยจะมีการเพิ่มทั้งค่าพลังโจมตี พลังป้องกัน เพิ่มค่า HP เพิ่มค่าความเร็ว แตกต่างกันไปในแต่ละเหรียญ โดยมีการแบ่งออกเป็นทั้งหมด 10 แบบ นอกจากนี้หากเพื่อนๆ มีเหรีญซํ้ายังสามารถรวบรวมมาเพื่อเพิ่มเลเวลให้สเตตัสสูงขึ้นได้ ทำให้นอกเหนือจาก เลเวล ระบบสกิล แล้วนั้น ตราอสูร คืออีกหนึ่งปัจจัยช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของอสูรเวทเราได้นั่นเอง ตอนนี้มีอสูรเวททั้งหมดกี่ตัว? แล้วดูยังไง? โดยในขณะนี้อยู่ภายในเกม Fairy Tail : Force Unite ก็ได้มีอสูรเวทภายในเกมทั้งหมดทั้งสิ้น 45 ตัวด้วยกัน โดยแบ่งออกเป็น Normal - 29 ตัว Epic - 5 ตัว และ Legend - 5 ตัว ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ว่ามีตัวอะไรบ้างก็สามารถกดเข้าไปยัง กรอบรูปอสูรเวท บริเวณด้านหน้ากรอบรูปตัวละครเรา แล้วให้เลื่อนลงไปบริเวณด้านล่างตรงคำว่า “คอลเล็กชั่น” ก็จะเป็นการโชว์ออกมาให้เราได้รู้กันแล้วว่ามีตัวอะไรกันบ้าง พร้อมทั้งหากในอนาคตมีอัพเดทตัวอะไรเข้ามาเพิ่มเติมก็สามารถเช็คได้จากที่นี่ได้เช่นกัน ทำไมอสูรถึงมีประโยชน์มากกว่าแค่สัตว์เลี้ยง? เอาตรงๆ ผมมองว่า อสูรเวท เนี่ยมีความสำคัญลำดับต้นๆ เหมือนกันนะ เพราะอย่างที่ได้บอกไปตอนแรกว่าเราสามารถเลือกให้พวกเขาทำอะไรได้บ้างเวลาต่อสู้ แตกต่างจากเหล่าจอมเวทย์กับการต้องมานั่งลุ้นว่า เขาจะใช้สกิลนี้ไหมนะ จะใช้สกิลนั้นรึเปล่า ทำให้เราสามารถวางแผนในแต่ละเทิร์นได้มากขึ้น เป็นเหมือนตัวเลือกแผนสองรองลงมาจากตัวละครหลักเราก็ว่าได้ ซึ่งพวกเขามีประโยชน์มากกว่าที่หลายๆ คนคิดมากเลยทีเดียว ก็ได้แต่หวังว่าหลังจากได้อ่านบทความนี้ เพื่อนๆ จะเข้าใจในระบบของ “อสูรเวท” กันเพิ่มเติมได้ไม่มากก็น้อยล่ะนะ ส่วนถ้าเกิดใครอยากได้เหล่าอสูรแรงค์ Epic กับ Legend ก็อาจจะต้องเปย์กันหนักหน่อย หรือไม่ก็ต้องเก็บกิจกรรมให้ครบทุกอันแบบไม่ให้ขาดเลย แต่ยังไงก็เหลือเงินไว้ให้ถึงสิ้นเดือนกันด้วยล่ะ เด๋วมาม่ายาวๆ จนสิ้นเดือนจะหาว่าไม่เตือนนะ~

Read more

เพื่อนๆ หลายคนที่พึ่งเริ่มเล่นเกม Fairy Tail: Force Unite! อาจจะสงสัยกันใช่ไหมล่ะว่า เออฉันได้ตัวละครนี้นั้นโน้นมาเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วควรใช้ตัวไหนดีล่ะ? ในคราวนี้ผมก็จะมาแนะนำ ตัวละครน่าใช้สำหรับมือใหม่ให้เพื่อนๆ ได้เป็นแนวทางในตัดสินใจกัน แต่! ผมจะหยิบมาเฉพาะตัวละครที่หาได้ง่ายเท่านั้นนะ! ตัวละครเปย์หลักพันถึงหมื่นพวกนั้นเราจะไม่เอามารวมนะ เตือนไว้ก่อน นัตสึ (Natsu) - S  วิธีการได้รับ : เควสเนื้อเรื่อง นัตสึ ตัวละครแรกสุดที่เราจะได้จากภายในเกม ซึ่งเป็นตัวละครที่มีประโยชน์อย่างมากกับผู้เล่นใหม่ ด้วยรูปแบบการโจมตีหลายเป้าหมาย ทั้งแบบทะลุและแบบวงกว้าง พร้อมด้วยโอกาศติดสถานะ “เผาไหม้” ทำให้ศัตรูได้รับดาเมจเพิ่มเติมในแต่ละเทิร์น ไปจนถึงสกิลอย่าง “มังกรเพลิงคำราม” เมื่อโจมตีแล้วมีโอกาศ 20% จะใช้สกิลซํ้าอีกครั้งนึง ทำให้เขาเป็นอีกหนึ่งตัวละครเหมาะกับมือใหม่และหาได้ง่าย (ก็มันแจกตัวแรกนิ!) เกรย์ (Grey) - S วิธีการได้รับ : เควสเนื้อเรื่อง พ่อหนุ่มผู้เกลียดการใส่เสื้อ เกรย์ หนึ่งในตัวละครที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในเซิร์ฟเวอร์ประเทศจีนและไต้หวัน ด้วยพลังโจมตีอันรุนแรงเป็นอย่างมากชนิดที่ว่าตัวละครแรงค์ SS บางตัวยังเทียบกับดาเมจของเขาไม่ได้เลยด้วยซํ้า นอกจากนี้เมื่อเขาใช้สกิล “ไอซ์แคนน่อน” ยังจะทำการลบพลังป้องกันและความเร็วของเป้าหมายลงถึง 5% อีกด้วย จึงทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งตัวเหมาะสำหรับมือใหม่ ไม่ว่าจะทั้งในโหมด PVE หรือ PVP ก็ตาม เอลซ่า (Erza) - SS วิธีการได้รับ : กิจกรรมลงทะเบียนล่วงหน้า  ตัวละครที่แจกมาเป็นรางวัลเนื่องในกิจกรรมยอดลงทะเบียนล่วงหน้าถึง 5 แสน มาพร้อมกับแรงค์ SS โดย เอลซ่า นั้นจะเป็นตัวละครที่มีค่าพลังโจมตี พลังป้องกัน และพลังชีวิตสูงมากทีเดียว พร้อมด้วยสไตล์การโจมตีแบบหมู่และสกิล “ยืนหยัด” เมื่อสร้างดาเมจจะทำการฟื้นฟูเลือดถึง 10% ถึงแม้อาจจะไม่ได้มีลูกเล่นเท่าไหร่นัก แต่ตัวของเธอก็นับว่าเป็นอีกตัวละครน่าใช้งานไม่แพ้กัน ลัคซัส (Laxus) - SS วิธีการได้รับ : รางวัลล็อคอิน 3 วัน อีกหนึ่งตัวละครอันได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ในเซิร์ฟเวอร์จีนและไต้หวันเช่นเดียวกับเกรย์ จอมเวทย์สายฟ้าตัวทำดาเมจสายสมดุล ลัคซัส ผู้มีความสามารถอันหลากหลายสามารถเลือกใช้ได้ในหลากสถานการณ์ ทั้งสกิลแบบหมู่ ทั้งสกิลเป้าหมายแบบเดี่ยว นอกจากนี้ยังสามารถบัฟเพิ่มพลังโจมตีให้ตัวเองได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่น่าใช้และหาได้ง่ายๆ เพียงแค่ล็อคอินครบ 3 วันก็ได้แล้ว เวนดี้ (Wendy) - S  วิธีการได้รับ : รางวัลเติมเงินครั้งแรก สาวน้อยดรากอนสเลเยอร์แห่งท้องนภา ได้มาจากรางวัลตอบแทนจากการเติมเงินครั้งแรก เวนดี้ หนึ่งในตัวละครสายฮีลเลอร์อันดีงามและหาได้ง่าย เป็นตัวละครที่ฮีลแรงมากในระดับนึงเลย แถมยังมีสกิลชุบเพื่อนที่ม่องเท่งไปขึ้นมาได้อีกด้วย เป็นทางอีกทางเลือกสำหรับคนกำลังมองหาตัวฮีล หรือเพื่อนๆ คนไหนขี้เกียจเติมก็สามารถใช้ตัว โพลยุชก้า และ อิจิยะ มาแทนก็ได้นะ แต่สองตัวนั้นอาจจะเทียบกับน้องเวนดี้ไม่ได้เท่าไหร่หรอก จูเบีย (Juvia) - A  วิธีการได้รับ : เควสเนื้อเรื่อง ตัวละครแรงค์ A ที่มีความน่าสนใจไม่น้อยกับ จูเบีย ตัวละครสายเวทย์กับจุดเด่นคือการทำดาเมจแบบวงกว้าง AOE โดยถึงแม้สเตตัสของตัวเธออาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไรเพราะไม่ใช่แรงค์ S แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ คือเธอสามารใช้ “สกิลคู่หู” ร่วมกับ เกรย์ ได้ โดยสกิลนั้นมีชื่อว่า “ไอซ์เวฟ” ซึ่งจะโจมตีโดนศัตรูทุกตัวพร้อมทั้งโอกาศลดสปีดของศัตรูลงได้ นอกจากนี้ทั้งคู่ยังเป็นตัวละครแรกที่สามารถใช้สกิลคู่หูได้และยังหาจากเควสเนื้อเรื่องได้ในช่วงต้นเกมอีกด้วยนั่นเอง มิร่าเจน (Mirajane) - S วิธีการได้รับ : เควสเนื้อเรื่อง คุณพี่สาวสายดาเมจ มิร่าเจน อีกตัวละครที่รับได้จากเควส กับจุดเด่นคือการโจมตีที่รวดเร็วและโอกาศติดคริติคอลสูงมาก โดยคุณพี่สาวจะมีสกิลที่น่าสนใจคือ “เล็งจุดอ่อน” ที่เพิ่มอัตราการติดคริติคอลแบบติดตัว และสกิล “คอมโบปีศาจ” หากคุณพี่สามารถฆ่าใครได้ในเทิร์นนั้น คุณพี่จะพุ่งไปตบอีกตัวทันทีด้วยดาเมจเพิ่มเติม 100% เหมือนกับการตีสองครั้งในทีเดียวเลยก็ว่าได้ ทำให้คุณพี่สาวเป็นอีกตัวละครที่น่าสนใจไม่น้อย และที่สำคัญคุณพี่สาวสวยมากเลยด้วย ว้าว~ ก็ถือเป็นการแนะนำคร่าวๆ กันไปสำหรับตัวละครน่าใช้ให้แก่มือใหม่ทั้งหลายล่ะนะ เอาจริงๆ มันยังมีอยู่อีกตัวที่ผมอยากแนะนำมากเลยกับ ฟรีด สุดยอดตัวละครสาย CrowdControl ตัวละครที่อันดับท็อป 10 ในเซิร์ฟเวอร์จีนและไต้หวันใช้กันแทบทุกทีมเลยก็ว่าได้ แต่ผมไม่ไดหยิบมาในตัวอย่างของเซิร์ฟเวอร์ประเทศไทยนั้น เพราะผมยังไม่ได้ตัวนี้เลย ใครที่อยากได้ฟรีดก็สามารถไปเข้าร่วมกิจกรรม "เมจิกเฮ้าส์" ได้ครับผม

Read more

Fairy Tail: Force Unites เกมมือถือตัวใหม่ที่สร้างจากอนิเมะชื่อดังอย่าง Fairy Tail พึ่งเปิดให้บริการกันไปหมาดๆ โดยผู้ให้บริการที่เราคุ้นเคยกันดี Garena ซึ่งผมก็มั่นใจเลยว่าต้องมีเพื่อนๆ หลายคนที่เข้าไปเล่นกันบ้างแล้วล่ะ (จะไม่พึ่งเริ่มเล่นได้ไง เกมพึ่งเปิดนิ!)  แล้วการเริ่มเล่นใหม่มีอะไรที่เราควรรู้หรือเตรียมพร้อมบ้างล่ะ? ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอแนะนำเพื่อนๆ มาอ่านบทความนี้กันเลยดีกว่ากับ 10 เรื่องน่ารู้สำหรับมือใหม่ใน Fairy Tai : Force Unites! จะมีอะไรกันบ้างเราก็มาดูกันเลย เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง หลังจากจบฉากแรกแล้ว ตัวเกมจะพาเรามาสร้างตัวละครกัน โดยจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 ตัว พร้อมคลาสอาชีพอีกถึง 9 แบบ ซึ่งแต่ละตัวจะมีให้เลือกว่าเราเป็นคลาสอะไรได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็น เวทพิทักษ์-สายแทงค์ เวทย์เสริมพลัง-สายดาเมจกายภาพ เวทย์ฟื้นฟู-สายฮีล ซึ่งสามารถกดดูรายละเอียดพร้อมสเตตัสต่างๆ ได้ ถ้าเกิดมาเล่นพร้อมเพื่อนคนอื่นเราก็อาจจะวางแผนกันก่อนว่า เออ เดี๋ยวเราแทงค์ นายเล่นซัพพอร์ต เพื่อให้ปาร์ตี้ได้มีครบทุกตำแหน่ง แต่ถ้าเกิดใครที่มาแบบลุยเดี่ยวก็เลือกตามความชอบได้เลย ควรเลือกให้เหมาะกับสไตล์การเล่นของเรา เพราะเราต้องอยู่กับตัวละครนี้ไปตลอดเกมเลยนั่นเอง การอัพสเตตัสที่มีให้ถึง 3 แผง พอเล่นมาได้สักพักตัวเกมจะปลดล็อคระบบ “อัปค่าสเตตัส” เราสามารถเลือกได้ว่าจะอัปสเตตัสใดเป็นหลัก จะอัปแบบอัตโนมัติตามแนะนำ เลือกแบบสายสมดุล หรือสายเพรียวดาเมจ อะไรก็ตามแต่ เพราะผมอยากจะบอกว่า อัปๆ มันไปเถอะ ลองผิดลองถูกได้  เหตุผลเพราะตัวเกมมีหน้าแผงสเตตัสมาให้เรา 3 แบบ ให้เราสามารถสลับไปมาได้ตลอด อย่างผมเล่นสายเวทย์นํ้าแข็ง หน้านึงก็ Int ล้วน อีกหน้าหนึงก็ Int 70% Vit 30% โดยปกติจะใช้แบบแผนแรกเสมอเน้นดาเมจเป็นคนบ้าพลัง แต่พอเจอมอนบางตัวสู้ไม่ไหว ก็ค่อยสลับไปอีกหน้าเพื่อให้ตัวละครยืนได้นานขึ้นนั่นเอง สกิลต้องคอยอัปสกิลเสมอห้ามลืมเด็ดขาด อีกหนึ่งเรื่องพื้นฐานเบสิคเลยสำหรับเกม RPG กับระบบ “สกิล” ซึ่งต้องคอยอัพอยู่เสมอ เวลาเลเวลอัปจะมีแจ้งเตือนให้อัปสเตตัส มีไอเทมใหม่มาก็จะเด้งว่า เออของชิ้นนี้ดีกว่าใส่ชิ้นนี้สิ แต่ไม่รู้ทำไม “สกิลตัวละคร” หรือ “เวท” เนี่ยเวลาอัปเกรดได้หรือมีอะไรใหม่จะไม่ค่อยแจ้งเตือนเลยจนทำให้บางครั้งลืมแบบลืมสนิทไปเลยก็มี แถมยังมีทั้งสกิลอาชีพ สกิลทั่วไป และสกิลฝึกฝน ถึงสามแบบเลยด้วยซึ่งสำคัญมากทีเดียว แต่กลับไม่ค่อยมีการสอนเท่าไหร่นัก เอาเป็นว่าถ้าอัปได้ก็อัปเถอะนะ อย่าลืมเช็คค่า HP/MP สำรอง เนื่องด้วยตัวเกมเป็นแนวเทิร์นเบส แล้วเคยคิดบ้างรึเปล่าเวลาต่อสู้เสร็จเนี่ย เลือดกับมานาที่หายไปกลับมาได้ยังไง? ตัวเกมคงจะไม่ใจดีขนาดเติมให้หรอก คำตอบก็คือ “ค่า HP/MP สำรอง” นั่นเอง เพื่อนๆ สามารถเข้าไปเช็คได้โดยการกดรูปหน้าตัวละครเราด้านขวาบน แล้วไปยังหัวข้อ “ข้อมูล” ก็จะมีแสดงค่าสำรองคงเหลือให้เราได้เห็นกันแล้ว หรือกดรูปขวดยาเล็กๆ ด้านหน้ากรอบรูปก็ได้เช่นกัน โดยในทุกครั้งหลังต่อสู้เสร็จ ค่า HP MP ที่เราเสียไป ตัวของเราก็จะดึงเอามาเติมจากค่าสำรองเสมอ ในช่วงแรกอาจจะยังไม่มีผลอะไรมาก แต่พอเล่นไปสักพักแล้วลืมเช็ค รู้ตัวอีกทีไม่มีพอจะรีเลือดแล้ว ทีนี้ก็จะต้องหาวิธีเพิ่มเลือดเอยอะไรเอยวุ่นวายตายเลย คอสตูม ยาพาหนะ มีประโยชน์มากกว่าความสวยงาม ของสวยงามอย่างพวก “ชุดคอสตูม” หรือ “ยานพาหนะ” นับเป็นสิ่งมีประโยชน์มากกว่าของประดับสายตาก็ว่าได้ อย่างชุดคอสตูมเมื่อสามารถปลดล็อคได้ครบตามเซ็ตนั้นๆ ก็จะมีของรางวัลเป็นเซ็ตโบนัสมาให้ บ้างก็เพิ่มพลังโจมตี บ้างก็เพิ่มพลังป้องกัน เพราะฉะนั้นถ้าสามารถหามาครอบครองได้ก็ควรจะรีบหามาไว้ ยานพาหนะก็เช่นเดียวกัน เพื่อนๆ สามารถอัปเลื่อนขั้นได้ ในทุกครั้งที่อัปจะได้แต้มสเตตัสมา โดยจะมีให้เลือกระหว่าง พลังโจมตี พลังรักษา โอกาศผนึก และพลังป้องกัน ซึ่งสเตตัสเหล่านี้จะส่งผลไปยังตัวละครเราโดยตรงเลยด้วย จัดทีมให้ดี ไม่ใช่เอาแต่ใจ นอกเหนือจากต้องคอยระวังเรื่องตัวละครหรือไอเทมแล้ว อีกสิ่งสำคัญไม่แพ้กันเลยคือ “การจัดรูปแบบทีม” ไม่ใช่ว่าการได้ตัวละครแรงค์ SS มาแล้วยัดๆ เข้ามาช่วยสู้จะดีเสมอไปนะ แต่ละตัวจะมีสเตตัสและสกิลไม่เหมือนกัน บ้างก็สายโจมตี บ้างก็เป็นสายก่อกวน เราจึงควรมองถึงจุดเด่นของตัวนั้นๆ แล้วจัดทีมที่คอมโบกันได้จะทำให้เราไปได้ไกลกว่า  รวมไปถึงระบบ “รูปแบบทีม” อันหลากหลายแบบให้เลือกใช้ โดยแต่ละแบบจะมีตำแหน่งยืนต่างกันไป อย่างเช่น รูปแบบทะลวง ตัวของเราจะยืนแนวหลังสุด พร้อมเอาอสูรเวทไว้แนวหน้าคอยรับดาเมจ เหมาะสำหรับใครที่ตัวละครค่อนข้างบางจะได้ไม่โดนดาเมจตายก่อน ทำให้ “รูปแบบทีม” นี่ล่ะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยและกลยุทธ์สำหรับวัดผลแพ้ชนะได้เลย ฮีลเลอร์สำคัญมาก! อย่างที่เราเข้าใจกันดีว่าเราจะสามารถบังคับได้แค่เพียงตัวละครของเรากับอสูรเวทเท่านั้น ตัวละครอื่นๆ จะโจมตีอัตโนมัติเราเข้าไปยุ่งไม่ได้ แถมยิ่งเป็นเกมเทิร์นเบสด้วยแล้วเพียงเทิร์นเดียวก็เป็นตัวตัดสินชะตาได้ละ ลองมาคิดดูว่าเราต้องเสียในแต่ละเทิร์นกับการมานั่งกดยาฟื้นฟูซึ่งเติมได้ไม่ถึง 10 - 20% เลยด้วยซํ้า มันคุ้มไหมล่ะนั่น และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสายฮีลเลอร์ถึงสำคัญกับเกมนี้มาก เพื่อนๆ ควรจะมีไว้ในทีมอย่างน้อยสักหนึ่งคนก็ยังดี เราจะได้ไม่ต้องคอยมากังวลกับ HP มากนัก และในเทิร์นนั้นเราก็สามารถโจมตีได้อย่างเต็มที่ หรือไม่ก็สามารถใช้สกิลใส่ศัตรูได้หลากหลายเลย ส่วนใครเล่นฮีลเลอร์เป็นเมนอยู่แล้วก็หมดกังวลได้เลย อสูรเวท อีกหนึ่งสิ่งห้ามเมิน ผมได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าเวลาต่อสู้เราจะสามารถบังคับได้เพียงตัวละครเราและอสูรเวทเท่านั้น เราไม่สามารถคาดเดาการกระทำของตัวอื่นได้ จึงทำให้เหล่าอสูรนี่ล่ะล่ะมีความสำคัญไม่แพ้กันเลย ถ้ายกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ ใครที่เล่นตัวละครสายเวทย์หรือดาเมจ ที่ตัวละครจะออกบางๆ หน่อย อสูรเวทนี่ละจะมีบทบาทอย่างมากเลย เราสามารถเอาอสูรสายแทงค์มาช่วยรับดาเมจหรือใช้สกิลให้อีกฝ่ายตีเขาแทน โดยเราจะไม่โดนโจมตีและสามารถทำดาเมจสวนไปได้เรื่อยๆ หรืออาจเป็นสายดีบัฟ ที่เราสามารถก่อกวนศัตรูโดยสามารถเลือกเป้าหมายเจาะจงได้ ไม่จำเป็นต้องมาเสียในแต่ละเทิร์นไปฟรีๆ กับการต้องมานั่งไล่กดใส่แยกอีกที ไล่ทำเควสและกิจกรรมให้ครบ ต้องบอกเลยว่าเกมนี้ของแจกค่อนข้างจะเยอะเลย เพื่อนๆ คนไหนเป็นสายฟรีผมก็มั่นใจว่าจะเล่นกันได้ยาวๆ ขอแค่เพียงไล่ทำเควสและกิจกรรมให้ครบของรางวัลมากมายก็รออยู่เป็นขบวนเลยล่ะ แต่ถ้าขี้เกียจ วุ้ย! ไม่เอาไม่อยากทำ ถ้าอย่างนั้นก็ตัวใครตัวมันแล้ว นอกจากนี้ในแต่ละวันยังมีโควต้าในการลงดันเจี้ยนหรือกิจกรรมยิบย่อยอีกด้วย ซึ่งอยากบอกว่าทำมันให้ครบซะ! เพราะเมื่อเล่นไปได้สักพักมันจะมีเควสที่จำกัดเลเวล แต่เควสเราหมดแล้วจะทำยังไงดีล่ะ? คำตอบก็คือกิจกรรมเหล่านี้นี่ล่ะ ดังนั้นห้ามลืมเด็ดขาดเลยนะ อย่าลืมเช็คจดหมาย ปกติแล้วเราทำเควสภายในเกมเสร็จ NPC นั้นก็จะให้ของรางวัลเราตอบแทนเลยใช่รึเปล่า แต่กับเกมนี้มันก็ไม่ใช่เชิงซะทีเดียว เพราะมันจะมีบางครั้งที่ของรางวัลจะถูกส่งมาทาง “จดหมาย” แทนนั่นเอง ไม่เพียงแต่ของรางวัลจากเควสเท่านั้นนะ บางครั้งตัวเกมแอบแจกของบางอย่างแล้วส่งมาทางจดหมายถ้าเราไม่เช็คดูก็ไม่รู้อยู่อย่างนั้นแล่ะ เพราะถึงจะมีตัวแจ้งเตือนขึ้นมาแต่มันก็เป็นเพียงแค่วงกลมสีแดงเล็กๆ ถ้าไม่สังเกตเราก็ไม่รู้ด้วยซํ้า ดังนั้นเราจึงต้องคอยเช็คจดหมายอยู่เป็นระยะๆ จะมาโวยวายบอกไม่ได้ของรางวัลก่อนเช็คจดหมายไม่ได้แล้วนะ ถือว่าเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ สำหรับมือใหม่ผู้พึ่งเริ่มเล่นนะครับและก็หวังแค่ว่ามันจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้างสักเล็กน้อยก็ยังดี ส่วนที่เหลือก็คงต้องไปเรียนรู้กันในเกมอีกทีแล้วล่ะ สำหรับ Fairy Tail : Force Unites ก็ได้เปิดให้บริการในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ววันนี้ มาพร้อมรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจก็สามารถดาวน์โหลดได้ด้านล่างเลยจ้า

Read more

วันนี้ผู้เขียนจะได้มาแนะนำพาร์ทใหม่ใน Event Gundam Festival นั่นก็คือ Legend Gundam, Transient Gundam และพาร์ทกิจกรรมคือเจ้า Vayeate ที่มาพร้อมกับกาชาในเกม GUNDAM BATTLE: GUNPLA WARFARE ครั้งนี้จะได้นำข้อมูลของพาร์ทกับความน่าใช้งานว่าชิ้นไหนน่าใช้งานหรือเหมาะกับการโมหุ่นของเราครับ 1.Legend Gundam ข้อมูลพื้นฐาน ชื่อ Legend Gundam Model number ZGMF-X666S ซี่รี่ Mobile Suit Gundam SEED DESTINY ความหายาก ✦✦✦✦✦ attribute Speed EX skill Part Leg Mobile Suit Legend Gundam EXskill Defiant Kai Beam Javelin ประเภท Beam Melee Penetration D power B+ Cooldown 30 วินาที (เริ่ม 8 วินาที) คำอธิบาย ทำการโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยดาบคู่ Alteration Power เพิ่มจาก B+ เป็น A- Part Back Mobile Suit Legend Gundam EXskill DRAGOON System ประเภท Beam Shot Penetration A- power C Cooldown 30 วินาที (เริ่ม 8 วินาที) คำอธิบาย เปิดใช้งานระบบ DRAGOON System เพื่อยิงโจมตีศัตรูในระยะประชิดรอบทิศทาง เพิ่มพลังโจมตีการยิงให้กับทีม 20% เพิ่มการต้านทานลำแสงให้กับทีม 20% Alteration เพิ่มพลังโจมตีการยิงให้กับทีมจาก 20% เป็น 30% เพิ่มการต้านทานลำแสงให้กับทีม 20% (เท่าเดิม) Part Traits Part Part Traits Head เมื่อเปิดใช้งานอาชีพ Middle-Shooter จะเพิ่มพลังโจมตี Ex Skill ขึ้น 17% Body เมื่อติดตั้ง Tag Commander จะเพิ่มพลังโจมตีการยิงขึ้น 17% Arms เมื่อติดตั้ง Tag Ace Excl จะเพิ่มพลังโจมตีการยิงขึ้น 17% Legs – Back - Beam Javelin เมื่อความทนทานมากกว่หรือเท่ากับ 60% จะเพิ่มพลังโจมตี Ex Skill ขึ้น 17% Beam Javelin  เมื่อคุณสมบัติเครื่องตัวเองคือ Speed จะเพิ่มเกจของอาชีพขึ้น 6% Beam Rifle เมื่อคุณสมบัติเครื่องตัวเองคือ Speed จะลดพลังโจมตี Ex Skill ของศัตรูลง 17% Alteration Part Part Traits (Slot 2) Head เมื่อความทนทานมากกว่หรือเท่ากับ 60% จะเพิ่มพลังโจมตีการยิงขึ้น 20% Body เมื่อเปิดใช้งานอาชีพ Middle-Shooter จะเพิ่มอัตราการเจาะเกราะของ Ex Skill ขึ้น 10% Arms เมื่อคุณสมบัติเครื่องตัวเองคือ Speed จะเพิ่มพลังโจมตีการยิงขึ้น 20% Legs – Back – Beam Javelin เมื่อติดตั้งอาวุธประเภทปืนไรเพิล จะเพิ่มเกจเริ่มต้นของ Ex Skill ขึ้น 6% Beam Javelin  ชิ้นส่วนหลัง เพิ่มพลังโจมตี Ex Skill ขึ้น 20% Beam Rifle พลังโจมตีระยะประชิดเพิ่มขึ้น 10% เพิ่มพลังโจมตีการยิงขึ้น 20% Word Tag Part Tag 1 Tag 2 Head Ace Excl Commander Body Ace Excl Commander Arms Ace Excl For Space Legs Ace Excl For Space Back Ace Excl For Space Beam Javelin Ace Excl For Space Beam Javelin  Ace Excl Commander High-Energy Beam Rifle Ace Excl Commander Ace Excl เมื่อเปิดใช้งาน เพิ่มพลังโจมตีของการยิง 10% Commander เมื่อเปิดใช้งานพลังโจมตีของการยิงจะเพิ่มขึ้น 5% ความต้านทานของลำแสงบีมเพิ่มขึ้น 5% For Space เมื่อเปิดใช้งานค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 1% และจะเพิ่มขึ้นอีก 3% หากฉากต่อสู้เป็นอวกาศ ระดับความน่าใช้งาน SSS SS SS S S+ SS+ S+ S+   2.Transient Gundam ข้อมูลพื้นฐาน ชื่อ Transient Gundam Model number GN-9999 ซี่รี่ Gundam Build Fighters Try ความหายาก ✦✦✦✦✦...

Read more
Page 81 of 199 1 80 81 82 199