Mobile Guide

Mobile Guide - สำหรับบทความ เทคนิค หรือ guide ต่างๆสำหรับเกมเครื่องมือถือต่างๆ ทั้งเก่าใหม่ งูกินหางหรือระดับ next-gen ได้ทั้งนั้น

Ward อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของเกมประเภท Moba ที่ต้องชิงความได้เปรียบในพื้นที่ต่าง ๆ รวมไปถึงการมองเห็นในที่ต่าง ๆ ถ้าเรามีการมองเห็นในพื้นที่มากกว่าอีกฝ่ายจะทำให้ฝ่ายเรามีข้อมูลและความได้เปรียบมากกว่าอีกฝ่ายอย่างมหาศาล ทั้งยังสร้างความกดดันให้อีกฝ่ายที่อาจจะต้องเดินเข้ามาในจุดอันตรายและโดนจัดการได้ง่าย ๆ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกันกับ 5 จุดปัก Ward ที่สำคัญใน LoL: Wild Rift กันครับ 1. หญ้าประจำเลน นอกจากการปะทะในเลนที่ผู้เล่นต้องโฟกัสกันอย่างหนักแล้วก็ยังมีปัจจัยนอกอย่างการลอบสังหารจากตำแหน่ง Jungler ที่จะคอยหามุมมืดต่าง ๆ เพื่อเข้ามาจัดการกับเรา การวอร์ดไว้ยังจุดบอดเหล่านั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งไม่แพ้กันเลยโดยเบื้องต้นจะมีจุดปักวอร์ดดังนี้ครับ สองจุดยอดฮิตสำหรับ Baron Lane และ Dragon Lane อีกหนึ่งจุดปักวอร์ดสำคัญของ Mid Lane จะใช้รูปแบบเดียวกันทั้งทางด้านซ้ายและขวา จุดนี้จะช่วยป้องกันการ Dive Tower ของอีกฝ่ายได้ดีมาก ๆ 2. จุดกึ่งกลางของแผนที่ จุดนี้เพื่อน ๆ บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องผิวเผิน แต่จริง ๆ แล้วมันก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่สำคัญเช่นกัน เพราะการปักวอร์ดไว้ตรงกลางแผนที่จะทำให้เรารู้และคาดเดาการเคลื่อนไหวของทีมศัตรูได้ง่าย เช่น เราจะรู้ว่าทีมศัตรูกับแก๊งไปยังตำแหน่งไหนหรือกำลังจะไปเก็บ Objective อะไรรึเปล่า แม้แต่ในช่วงต้นเกมหาก Mid Lane ของเราปักหวอดในจุดนี้ไว้จะทำให้เห็นการเดินเกมของ Mid Lane อีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนอีกต่างหากเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเลยที่ผมค่อนข้างแนะนำให้ปักไว้ตลอดเวลานะครับสำหรับจุดกึ่งกลางของแผนที่ จุดปักที่สุดแสนสำคัญโดยเฉพาะตอนที่อีกฝ่ายเป็นแชมเปี้ยนที่เดินไปช่วยเหลือเลนอื่นเก่ง ๆ จะช่วยให้ฝ่ายเรารู้การเคลื่อนไหวได้ง่ายยิ่งขึ้น 3. Objective สำคัญ Dragon, Rift Herald และ Baron Nashor มอนสเตอร์ป่าที่จะมอบบัฟอันทรงพลังให้แก่ทีมที่สังหารพวกมันลงไปนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดยอดฮิตเช่นกัน การชิงไหวชิงพริบในการมองเห็นทั้งการวอร์ดเพื่อเพิ่มการมองเห็นของทีมตัวเองและการตัดวอร์ดเพื่อปิดระยะการมองเห็นของอีกฝ่าย โดยจะนำมาซึ่งความได้เปรียบอันมหาศาลทั้งการเก็บ Objective เหล่านั้นได้ฟรี ๆ หรือแม้แต่การดักสังหารอีกฝ่ายที่ต้องเสี่ยงเข้ามาเช็กในพื้นที่เป็นระยะ ๆ ใช้ได้ทั้งกันศัตรูแอบเดินมา Gank และยังใช้กันอีกฝ่ายมาเนียนเก็บมังกรได้อีกด้วยเรียกได้ว่า 2 in 1 ไปเลย หลุม Dragon ก็ต้องปักนะ 4. ป่า มาถึงในส่วนของวอร์ดในที่พื้นที่ของป่าแล้วนะครับ สำหรับในส่วนนี้จะแบ่งเป็น 2 รูปแบบชัด ๆ นั้นก็คือการวอร์ดเพื่อป้องกันการ Invate (การเข้ามาบุกป่าของฝั่งเราจากศัตรู) และการวอร์ดเพื่อให้มองเห็นการเดินเกมหรือการเคลื่อนไหวของผู้เล่นตำแหน่ง Jungler อีกทีม โดยการปักเพื่อป้องกันนั้นจะเป็นพื้นฐานที่ผู้เล่นส่วนใหญ่รู้กันดีอยู่แล้วและไม่ค่อยมีความเสี่ยงเท่าไหร่ เพราะอยู่ในพื้นที่ ๆ ทีมตนเองสามารถวิ่งมาช่วยได้ตลอดเวลา แต่สำหรับการปักเพื่อสร้างความได้เปรียบฝ่ายตรงข้ามนั้นอาจจะมีความเสี่ยงอยู่หน่อย ๆ เพราะต้องเข้าไปในพื้นที่ที่ทีมเรามองไม่เห็นและอาจจะโดนลอบโจมตีได้นั่นเอง การปักเพื่อป้องกันพื้นที่ส่วนใหญ่มักปักทิ้งไว้ก่อนเข้าเลนและก่อนไปเดินเกมยังเลนอื่น ๆ การปักเพื่อ Invate เป็นการเปิดพื้นที่การมองเห็นไว้ตรวจสอบว่า Jungler อีกฝ่ายอยู่ที่ไหนในแผนที่ 5. ปักตามสถานการณ์ ข้อนี้นั้นอาจจะบอกได้ว่าเป็นการนำหัวข้อทั้งหมดมารวมเป็นข้อเดียวซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความชำนาญอยู่หน่อย ๆ เพราะเราต้องอ่านเกมในให้ออกได้ด้วยตัวเองและเลือกไปปักวอร์ดในจุดสำคัญก่อนฝ่ายตรงข้ามในช่วงนั้น ๆ ถ้าหากทำได้ก็จะทำให้มีจังหวะดักสังหารอีกฝ่ายได้ไม่ยาก หลังจัดการศัตรูได้แล้วการเดินเกมต่อเนื่องของทีมเราก็จะทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น จังหวะช่วงท้ายเกมที่ทั้งสองฝ่ายจ้องจะเก็บ Objective จึงต้องชิงไปวอร์ดในที่นั้น ๆ ก่อนอีกฝ่ายและรออีกฝ่ายเดินหลุดเข้ามานั่นเอง หรือการหวอดในจุดเสี่ยงปะทะเพื่อดูการเคลื่อนไหวของอีกทีมในช่วงกลางเกมหลังจากเสียป้อมแรกในแต่ละจุดไปแล้ว ในกรณีที่ต้องการเก็บ Objective หรือลอบสังหารก็สามารถทำได้ไม่ยากหากมีการปักวอร์ดเตรียมพร้อมไว้แล้วซึ่งจะทำให้เรามีเวลาตัดสินใจได้มากขึ้นง่ายขึ้นนั่นเอง ก็จบไปแล้วนะครับสำหรับ 5 ข้อที่ผมยกมาในวันนี้ ซึ่งนอกจากการปักวอร์ดแล้วการเลือกใช้ตัวของ Sweeping Lens ก็ยังมีผลในด้านต่าง ๆ ไม่แพ้กันขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งานของแต่ละคนซึ่งผมหวังว่าบทความในครั้งนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ ทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับและครั้งหน้าผมจะนำข้อมูลดี ๆ มาให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกันอีกครั้ง วันนี้คงต้องขอตัวก่อนล่ะครับ พูดคุย หาเพื่อนเล่น LoL: Wild Rift ได้ที่ กลุ่ม League of Legends: Wild Rift Thailand

Read more

Diona น้องแมวสุดน่ารักเป็นบาเทนเดอร์ชื่อดังของร้าน Cat's Tail ในเมือง Mondstadt ถนัดอาวุธประเภทธนู ชาร์จยิง ใช้สกิลหรือท่าไม้ตายโจมตีเป็นธาตุน้ำแข็ง นอกจากนี้ยังเป็นสายซัพของทีมคอยสร้างเกราะรูปน้องแมวสุดน่ารักให้กับเพื่อนในทีม หรือจะวงอาณาเขตจากท่าไม้ตายสามารถฮิลด้วยนะ! ข้อมูลตัวละคร ชื่อ : Diona เกิด : วันที่ 18 มกราคม อยู่ฝ่าย : ร้านเหล้า Cat's Tail วิชั่นที่ครอบครอง : ธาตุน้ำแข็ง กลุ่มดาว : Feles (แมว) Diona เกิดจากเชื้อสายระหว่างมนุษย์และแมวมีพรสวรรค์ในการทำเครื่องดื่มแบบไหนก็ออกมารสเลิศทั้งหมด แม้ความจริงแล้วเธอเกลียดมันมากๆ แต่ไม่ว่าจะทำให้ผิดแปลกยังไงก็กลับออกมาอร่อยทุกครั้ง ความใฝ่ฝันของเธอคือการทำลายอุตสาหกรรมสุราทั้งหมดในเมือง Mondstadt ! วิธีการได้รับตัวละคร : ได้จากการเปิดกาชาตู้ Skill ภาพ สกิล รายละเอียด Kätzlein Style การโจมตีปกติ : โจมตีด้วยธนูทั้งหมด 5 ครั้ง เป็นดาเมจกายภาพ   ท่าชาร์จโจมตี : กดค้างหรือปุ่มพิเศษจะง้างศรชาร์จพลังน้ำแข็งยิงออกไปเป็นดาเมจธาตุน้ำแข็ง https://youtu.be/JzAjNuf1g90 https://youtu.be/tjYxhVqzm0M Icy Paws กดสกิล 1 ครั้ง จะโจมตีด้วยอุ้งเท้าแมว 2 อัน สร้างดาเมจน้ำแข็ง พร้อมทำให้เกิดเกราะป้องกันรูปแมว (ความทนของเกราะขึ้นอยู่กับเลือดสูงสุดของ Diona) คงอยู่ประมาณ 5 วิ กดสกิลค้าง จะโจมตีด้วยอุ้งเท้าแมว 5 อัน สร้างดาเมจน้ำแข็ง พร้อมทำให้เกิดเกราะป้องกันรูปแมว เกราะหนาขึ้น 75% คงอยู่ประมาณ 10 วิ https://youtu.be/dH9IMDXCIMs https://youtu.be/8gNRNnK_9_Y Signature Mix ท่าไม้ตายจะโยนเชคเกอร์ที่มีเครื่องดื่มพิเศษออกไปใส่เป้าหมาย ทำให้เกิดวงอาณาเขตน้ำแข็งขนาดใหญ่ทำดาเมตน้ำแข็งต่อเนื่อง ทุกครั้งที่เกิดการโจมตีจะฟื้นฟูเลือดให้ตัวละครในวงไปด้วย (ท่าฟื้นฟูเลือดขึ้นอยู่กับพลังชีวิตสูงสุดของ Diona) https://youtu.be/fOLIyeULqsk Cat's Tail Secret Menu เมื่ออยู่ในเกราะป้องกันความเร็วเคลื่อนที่และลดการใช้เกจสตามิน่าลง 10% Drunkard's Farce ศัตรูที่อยู่ในวงท่าไม้ตายจะถูกลดพลังโจมตีลง 10% นาน 15 วิ Complimentary Bar Food ปรุงอาหารประเภทฟื้นฟู (แบบสมบูรณ์) มีโอกาส 12% ได้รับเพิ่มเป็น 2 เท่า กลุ่มดาว : Feles (แมว) หมายเหตุ : ต้องใช้ดวงดาวแห่งชีวิตของ Diona ในการอัพดาวแต่ละดวง สามารถหาได้จากการเปิดกาชาได้ตัวละคร Diona ซ้ำเท่านั้น กลุ่มดาว สกิล รายละเอียด Lv. 1 A Lingering Flavor เมื่อวงของท่าไม้ตายหมดลงจะฟื้นฟูเกจท่าไม้ตายให้ Diona 15 หน่วย Lv. 2 Shaken, Not Purred สร้างดาเมจเพิ่มขึ้น 15% เกราะป้องกันหนาขึ้น 15% เมื่อสกิลโดนศัตรูโล่จะหนาขึ้น 50% นาน 5 วิ Lv. 3 A-Another Round? เพิ่มเลเวลของท่าไม้ตายขึ้น 3 เลเวล (สูงสุด 15 เลเวล) Lv. 4 Wine Industry Slayer หากอยู่ในวงของท่าไม้ตาย Diona จะชาร์จโจมตีเร็วขึ้น 60% Lv. 5 Double Shot, On The Rocks เพิ่มเลเวลของสกิลเกราะป้องกัน Icy Paws ขึ้น 3 เลเวล (สูงสุด 15 เลเวล) Lv. 6 Cat's Tail Closing Time หากตัวละครอยู่ในวงท่าไม้ตายจะได้ผลดังนี้ มีเลือดน้อยกว่า 50% จะฮิลเยอะขึ้น 30% มีเลือดมากกว่า 50% เพิ่มความชำนาญธาตุ 200 หน่วย จุดเด่น-จุดด้อย จุดเด่น จุดด้อย สกิลสามารถโจมตีและสร้างเกราะป้องกันให้เพื่อนได้ สกิลเกราะค่อนแบบกดธรรมดาอยู่ได้สั้น ท่าไม้ตายสร้างวงขนาดใหญ่ทำดาเมจและฮิลเลือดไปพร้อมกัน สกิลเกราะแบบกดค้างคูลดาวน์หลังใช้ค่อนข้างนาน พาสซีพทำอาหารฟื้นฟูเลือดมีโอกาสได้ของ 2 เท่า แนะนำอาวุธ น้องแมวนั้นจะมีสกิลสร้างเกราะป้องกันให้ทีมได้ดีและมีท่าไม้ตายฮิลได้ด้วย อาวุธที่แนะนำมีดังนี้ แนะนำอาร์ติแฟกต์ การฮิลหรือความทนของเกราะ Diona นั้นจะใช้ค่าพลังชีวิตสูงสุดของเธอเป็นหลัก เพื่อทำให้เกราะหนาขึ้นฮิลได้แรงขึ้น แนะนำให้ใส่ออฟหลักเป็น เลือด% l เลือด% l โบนัสฟื้นฟู, ฟื้นฟู% l เลือด% l โบนัสฟื้นฟู อาร์ติแฟกต์มีดังนี้ 1.เซ็ต Maiden Beloved ใส่ 2 ชิ้นเพิ่มความสามารถในการฮีล 20% เมื่อใส่ครบ 4 ชิ้น การใช้สกิลหรือไม้ตาย จะช่วยทำให้ทุกคนในปาร์ตี้ได้รับผลการฮีลมากขึ้นอีก 20% เป็นเวลา 10 วินาที ฮีลกันสะใจไปเลย 2.เซ็ต Retracing Bolide เซ็ตสองชิ้นเพิ่มความทนทานของเกราะป้องกัน 35% เมื่อใส่ครบสี่ชิ้น เมื่อมีเกราะการโจมตีปกติและชาร์โจมตีทำดาเมตเพิ่มขึ้น 40% 3.เซ็ต Maiden Beloved 2 ชิ้น กับ เซ็ต Retracing Bolide 2 ชิ้น ทำให้ฮิลแรงขึ้น 15% และเกราะหนาขึ้น 35% จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่  

Read more

สิ่งหนึ่งที่หลายคนถามหาใน Genshin Impact กันมานานแสนนานก็คงไม่พ้นวิธีเติมเลือดไวๆ นั่นเอง ในอัพเดท 1.1 นั้นก็มีการอัพเจ้าสิ่งนี้เข้ามาซักที มันคือ NRE หรือกระเป๋าอาหารฉุกเฉินที่จะทำให้เพื่อนๆ ไม่ต้องเปิดเข้าเมนูให้เสียเวลาโดนมอนรุมตบตายในแบบ co-op ระหว่างเติมเลือดได้แล้วล่ะ แต่ก็มีขั้นตอนการทำที่ต้องเสียเวลาพอสมควรอยู่ ไปดูกันดีกว่า วิธีการหากระเป๋าอาหาร ในการจะได้รับตัวไอเทมชิ้นนี้มานั้น เพื่อนๆ จะต้องผ่านเควส ของ Mondstadt ขั้นต่ำเลเวล 5 เสียก่อนจึงจะได้รับมา เมื่อเพื่อนๆ ได้รับตัวคู่มือการสร้างมาแล้ว ให้กดเข้าหน้าจอไอเทม และเลือกไปที่หมวดสุดท้าย ไอเทมล้ำค่า จะเจอแบบแปลนอยู่ ให้กดใช้งาน จากนั้นไปที่ร้านตีเหล็กเพื่อสร้างได้เลยจ้า (ต้องกดใช้ก่อนนะถึงจะโผล่ในร้านตีเหล็ก) ของที่สร้าง ไอเทม วิธีหา NRE Lizard Tail x20 ได้จากการไล่จับกิ้งก่าตามฉาก Chaos Circuit x20 ได้จาก Ruin Hunter, Ruin Guard (สามารถสรรสร้างจากของเลเวลต่ำกว่าได้) Electro Crystal x50 ใช้ธาตุไฟทำลายผลึกแร่สีม่วงที่เจอได้ตามพื้นที่ต่างๆ เมื่อสร้างแล้ว ก็สามารถติดตั้งได้ด้วยการไปยังหน้าจอของไอเทมขนาดเล็ก (หรือกดปุ่ม B) และเลือกติดตั้งกระเป๋านี้ได้เลย ช่องมันจะไปใช้ร่วมกับเจ้าช่องไอเทมหาหินสะท้อนธาตุนะจ๊ะ เพราะงั้นเพื่อนๆ จะเลือกใส่ได้แค่อันใดอันหนึ่งเท่านั้น หลังจากใส่แล้ว ก็กดที่ตัวช่องว่างทางขวามือเพื่อเลือกใส่อาหารชนิดเพิ่มเลือด และอาหารชนิดชุบชีวิตอย่างที่ต้องการได้เลย (ไม่สามารถใช้อาหารชนิดบัพได้) เมื่อติดตั้งแล้ว ระหว่างที่อยู่ในเกม ก็จะปรากฎไอคอนไอเทมฟื้นเลือดที่เราได้ติดตั้งขึ้นมาอยู่ทางด้านขวาของหน้าจอ ให้กดใช้กับตัวละครที่อยู่ในสนามตอนนั้นได้ทันที (ถ้าจะใช้กับคนอื่นต้องสลับตัวมาก่อน หรือเข้าเมนูไปน้า) และหากตัวละครนั้นตายลงก็จะมีตัวเลือกให้กดใช้ชุบได้เลยด้วย เรียกได้ว่าเป็นของที่ชำอำนวยความสะดวกให้กับเพื่อนๆ ได้อย่างแท้ทรูกันจริงๆ เสียที แม้ว่าการจะเก็บชื่อเสียงของตัวเมือง Mondstadt ให้ได้เลเวล 5 อาจจะต้องใช้เวลาซักหน่อย แต่ก็บอกได้เลยว่าคุ้มค่าที่เสียเวลาเป็นอย่างมากเลยล่ะจ้า สุดท้ายนี้ก็ขอให้เพื่อนๆ มีความสุขกับการผจญภัยใน Genshin Impact และอย่าลืมทำเควสเพิ่มชื่อเสียงทุกอาทิตย์ล่ะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

Read more

ชื่อ: Yasuo ชนเผ่า: - บ้านเกิด: Ionia หน้าที่: Fighter ตำแหน่ง: Mid lane ประวัติ: ยาสุโอะคือบุรุษชาวไอโอเนียผู้เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ และเป็นนักดาบผู้แคล่วคล่องว่องไวซึ่งสามารถใช้พลังวายุฟาดฟันศัตรู ชายหนุ่มผู้หยิ่งทะนงนี้ถูกกล่าวหาว่าฆ่าอาจารย์ของตัวเอง แม้เขาจะไม่ได้ทำเช่นนั้น แต่ยาสุโอะก็ไร้หนทางไม่อาจพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองและจำต้องสังหารพี่ชายของเขาในการต่อสู้เพื่อป้องกันตัว เมื่อเวลาผ่านไป ฆาตกรตัวจริงก็ถูกเปิดเผยในที่สุดและพี่ชายของเขาก็ได้ฟื้นคืนชีพจากความตาย แต่ทว่ายาสุโอะกลับไม่สามารถทำใจให้อภัยตนเองสำหรับทุกสิ่งที่เขาได้ทำลงไป ตอนนี้ เขาพเนจรท่องไปทั่วโลกโดยมีเพียงสายลมเป็นเครื่องนำทางดาบของเขา (ข้อมูลจาก universe.leagueoflegends.com) ใน League of Legends: Wild Rift เขามักจะถูกนำมายืนในเลนกลาง แชมป์เปี้ยนเลนกลางหลายตัวค่อนข้างจะแพ้ทางเขา เราจึงมักจะเห็นคนหยิบยาสึโอะเมื่อเจอกับมิดเลนที่เป็นดาเมจเวทและแพ้การประชิดตัว ข้อมูลสกิล  วิธีอัปสกิล  Summoner Spells การออกของ รูน ชนะทาง - แพ้ทาง เทคนิคการเล่น สรุป ข้อมูลสกิล Yasuo วิธีอัปสกิล Yasuo Yasuo Summoner Spells รูนแนะนำของ Yasuo การออกของ Yasuo Yasuo ชนะทาง เขาจะแข็งแกร่งมากเมื่อเจอกับแชมป์เปี้ยนที่เป็นตัวโจมตีระยะไกล เช่น Ahri Ziggs All ADC Yasuo แพ้ทาง เขาจะอ่อนแอเมื่อเจอกับแชมป์เปี้ยนที่มีสกิลในการประชิดตัวทันทีและพลังโจมตีสูง เช่น Jax Fiora Camille เทคนิคการเล่น Yasuo ยาสึโอะเป็นตัว Mid lane อีกตัวที่เล่นยากมากกกก ต้องอาศัยสกิลของผู้เล่นสูงเพราะเป็นตัวที่ต้องการคอมโบสกิลไม่ว่าจะจากตัวเองหรือเพื่อนร่วมทีม ด้วยอัลติเมทที่ต้องการให้แชมป์เปี้ยนอีกฝั่งลอยขึ้นก่อนถึงจะใช้ได้ สกิล 1 ที่ต้องฟัน ๆ แทง ๆ ให้โดนถึงจะได้ลมมาเป่าศัตรูให้ลอยขึ้น แถมสกิล 2 ที่โคตรจะจำเป็นกับทีมไฟต์เลย เป็นตัวที่เน้นคอมโบสกิลสุด ๆ ยิ่งกว่า Mid lane ตัวอื่นอีก แต่ความยากนี้ก็ทดแทนมาด้วยการทำลายล้างที่สูงปรี๊ดดด ตัวยาโอะสามารถสู้ได้สูสีหรือเก่งกว่า Mid lane ตัวอื่น ๆ มาก จึงเห็นคนหยิบไปชนกับ Mage ในเลนกลางเยอะ เพราะมันสามารถชนะได้แทบจะทุกตัวถ้าเราช่ำพอ การจะเล่นให้ช่ำนั้นนอกจากต้องรู้จักว่าแต่ละสกิลใช้ยังไงแล้ว ยังต้องใช้เทคนิคคอมโบด้วยการกดสกิล 1 แทงไปที่ศัตรูเพื่อทำดาเมจ ซึ่งสกิลนี้หากใช้ 2 ครั้ง (ต้องโดนศัตรูนะ) ครั้งต่อไปสกิลจะเปลี่ยนเป็นการปล่อยพายุหมุนๆ เมื่อโดนศัตรูจะทำให้ลอยขึ้นและสามารถใช้อัลติเมทได้ สกิล 2 เป็นสกิลที่ทำให้เขาได้เปรียบกับศัตรูที่โจมตีระยะไกลเพราะมันเป็นกำแพงลมที่สามารถกันได้ทุกอย่างเกือบ 100% ไม่ว่าจะเป็นสกิลหรือการโจมตีปกติ แต่บางสกิลก็ไม่กันนะ เช่น อัลติเมทของ Lux ส่วนสกิล 3 จะเอาไว้สไลด์ผ่านมินเนียนหรือแชมป์เปี้ยนใช้ไล่ตามศัตรูหรือหนีก็ได้เช่นกัน และถ้าสไลด์ไปพร้อมกดสกิล 1 (ที่แทง 2 ครั้งมาแล้ว) ใส่ศัตรูยาโอะจะทำการหมุนตัวและถ้าโดนแชมป์เปี้ยนจะทำให้พวกเขาลอยขึ้น ช่วงต้นเกม - เป็นช่วงที่ยาโอะยังไม่เก่งสักเท่าไรด้วยความที่อาจจะแพ้ระยะถ้าหากเจอ Mage ที่มีระยะไกลกว่า เช่น Ahri หรือ Orianna อาจจะทำให้เขาโดนสะกิดจนเสียเลือดเยอะและทำให้ฟาร์มยากขึ้น เพราะฉะนั้นช่วงเลเวล 1-4 ให้พยายามฟาร์มไปก่อน ค่อยบวกเมื่อมีโอกาสหรือตอนที่ป่าของเรามาแก๊งค์ก็ได้ ช่วงกลางเกม - หากชนะเลนให้ดันมินเนี่ยนเข้าไปยังหน้าป้อมของศัตรู แต่อย่าพึ่งรีบตีป้อมให้เรามองไปยังเลนบน (Baron lane) และเลนล่าง (Dragon lane) ว่ามีเลนไหนที่เราพอจะแก๊งค์ได้ไหม ยาโอะค่อนข้างเป็นตัวที่วิ่งแก๊งค์เลนอื่นได้ดี และการทำแบบนี้สามารถช่วยแก้เกมให้กับเลนอื่นที่แพ้เลนและแก้เกมตอนที่เราแพ้เลนช่วงต้นเกมได้ด้วยการไปยำเลนอื่นแทน ช่วงท้ายเกม - จะเป็นช่วงเวลาของทีมไฟต์ด้วยสกิล 2 ของเขานั้นมีประโยชน์ในทีมไฟต์มาก ๆ เพียงแค่กลางมันออกใส่พวกตัวที่โจมตีระยะไกล จะทำให้อีกฝ่ายงงเพราะไม่ทันสังเกตุนอกจากนี้ยังช่วยลดดาเมจที่อีกฝ่ายโจมตีใส่เราได้อีกด้วย หลังจากนั้นให้เรากดสกิล 1 แทงไปเพื่อทำดาเมจบวกกับโจมตีธรรมดาจนได้ลม แต่วิธีนี้จะช้าสักหน่อยแนะนำให้กดสกิล 3 สไลด์ไป แล้วไปกดสกิล 1 ที่แทงศัตรูมาแล้ว 2 ครั้งกลางวงไฟต์เพื่อยกแชมป์เปี้ยนอีกฝ่ายแล้วตามด้วยการกดสกิลอัลติเมท ถ้าหากวิธีนี้มันยังไม่ทันใจอีกแนะนำให้พึ่งพาเพื่อนร่วมทีมที่หยิบตัวที่มีสกิลในการยกแชมป์เปี้ยนมา เช่น Janna หรือ Malphite ให้พวกเขาเปิดไฟต์หลังจากนั้นเราค่อยอัลติเมทแล้วเข้าไปนัว สรุป ยาสึโอะเป็นตัวที่เก่งและกากในเวลาเดียวกันคือมันขึ้นอยู่กับฝีมือคนเล่นด้วย เขาสามารถชนะทางแชมป์เปี้ยนที่โจมตีระยะไกลได้เป็นอย่างดี บวกกับดาเมจที่สูงด้วยคริติคอลที่เป็น Passive ติดตัวเขา ซ้ำยังมีสกิลที่คอยช่วยเหลืออย่างสกิล 2 และ 3 ในการหนี แม้จะเป็นตัวที่เล่นยากมาก ๆ แต่ก็ทดแทนมาด้วยดาเมจที่สูง หากเราช่ำ ๆ หน่อย สามารถเอาไปไต่ Rank ได้สบาย แต่อย่าลืมนะตัวนี้มันไม่ง่ายถ้าไม่ช่ำอย่าหาเอาไปลง Rank เด็ดขาด ถ้าไม่อยากถูกหาว่าเป็นมะเร็ง พูดคุย หาเพื่อนเล่น LoL: Wild Rift ได้ที่ กลุ่ม League of Legends: Wild Rift Thailand

Read more

ชื่อ: Ezreal ชนเผ่า: - บ้านเกิด: Piltover หน้าที่: Masksman ตำแหน่ง: Carry ประวัติ: เอสเรียลคือนักผจญภัยผู้ห้าวหาญ ที่เต็มเปี่ยมด้วยพรสวรรค์เกี่ยวกับศาสตร์เวทมนตร์โดยไม่รู้ตัว เขาสำรวจหาสมบัติจากหลุมฝังศพโบราณ เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับคำสาปจากอดีตกาลและเอาตัวรอดจากสถานการณ์จวนตัวทุกครั้งได้อย่างหน้าตาเฉย ความกล้าหาญและความองอาจของเขานั้นเกินกว่าจะบรรยายได้หมด เขามักจะชอบด้นสดเพื่อหาทางออกจากสถานการณ์ใด ๆ ก็ตาม โดยพึ่งพาไหวพริบและส่วนใหญ่มักจะจบลงที่ถุงมือวิเศษจากชูริม่าซึ่งสามารถยิงคลื่นเวทมนตร์ทำลายล้างได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนไม่ว่าเอสเรียลจะอยู่แห่งหนตำบลใดปัญหามักตามหลังเขามาอยู่ไม่ไกล หรือไม่ก็ข้างหน้า ไม่แน่ก็อยู่ทุกที่ มีคำกล่าวไว้ว่าหากคุณอยากชนะให้กด Ezreal แล้วจะเหมือนเล่นเกมแบบ Easy Mode ซึ่งคำนี้อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมดแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันครับสำหรับ Ezreal ในเวอร์ชั่นของ Wild Rift วันนี้เราจึงจะมาทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้นกันครับ ข้อมูลสกิล วิธีอัปสกิล  Summoner Spells รูน การออกของ ชนะทาง แพ้ทาง แชมเปี้ยนที่เหมาะนำมาเล่นคู่ เทคนิคการเล่น สรุป ข้อมูลสกิล Ezreal วิธีอัปสกิล Ezreal รูปแบบการอัปสกิลของ Ezreal นั้นจะค่อนข้างมีรูปแบบที่ตายตัวซึ่งจะออกมาดังรูปที่ผมกล่าวถึงเลยครับเนื่องจากสกิล Essence Flux นั้นหลัก ๆ แล้วในช่วงต้นเกมมักจะเป็นสกิลเอาไว้เสริมดาเมจเป็นหลักมากกว่าไม่ได้มีประโยชน์เหมือน Mystic Shot หรือ Arcane Shift ที่ต้องใช้บ่อยครั้งทั้งการตอดและหนีครับ Ezreal Summoner Spells รูปแบบ Spell นั้นจะใช้แบบพื้นฐานทั่วไปในตำแหน่ง AD Carry เลยครับนั้นคือ Heal Flash ซึ่งเอาไว้เพื่อโอกาสรอดชีวิตในจังหวะสำคัญต่าง ๆ รูนแนะนำของ Ezreal สำหรับ Ezreal Rune ของเขานั้นอาจจะดูแปลกกว่าแชมเปี้ยน Carry ตัวอื่น ๆ อยู่สักหน่อยเนื่องจากเขานั้นต้องใช้มานาในการเล่นค่อนข้างสูงทำให้ต้องการรูนเพื่อเข้ามาช่วยในการ Regen มานาหรือเพิ่มมานานั้นเองครับ การออกของ Ezreal หัวใจสำคัญของ Ezreal นอกจากดาเมจแล้วยังมีเรื่องของคูลดาวน์สกิลเข้ามาเกี่ยวข้องอีกเป็นจุดใหญ่ทำให้ไอเทมต่าง ๆ ของ Ezreal นั้นจะเน้นไปทางด้านไอเทมที่มีความสามารถทั้งดาเมจ ลดคูลดาวน์ และยังรวมไปถึงมานาที่ต้องใช้ในการกดสกิลอย่างต่อเนื่องอีกด้วยซึ่งค่อนข้างแตกต่างกับ Carry ตัวอื่น ๆ ที่ขอแค่มีดาเมจหนัก ๆ ก็เพียงพอแล้ว (สำหรับไอเทม Spellblade นั้นจะใช้งานได้แค่ชิ้นเดียวเท่านั้นไม่สามารถทับซ้อนได้และวิธีเลือกออกสำหรับ Ezreal นั้นจะใช้หลักการดังนี้ครับ หากอีกฝ่ายเป็นตัวละครดาเมจกายภาพแรง ๆ ซะเยอะแนะนำว่าออก Iceborn Gauntlet จะดีกว่า Trinity Force ส่วนนึงครับเนื่องจากได้พลังป้องกันและความสามารถในการ Slow เป้าหมายเข้ามาอีกด้วยหรือหากมั่นใจและต้องการรีดดาเมจให้มากที่สุดก็สามารถขึ้น Trinity Force ได้เช่นเดียวกันครับ) Ezreal ชนะทาง Ezreal ในช่วงแรกนั้นอาจจะไม่สามารถบอกได้เต็มปากว่ามีแชมเปี้ยนที่ชนะทางอย่างชัดเจนเนื่องจากเขายังไม่มีดาเมจมากพอที่จะจัดการอีกฝ่ายง่าย ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมี Arcane Shift สกิลเคลื่อนที่ที่ทำให้เขาสามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดายจึงสามารถหลบการใช้สกิลเปิดที่ค่อนข้างรุนแรงหรือสามารถทำให้เขาตายได้ง่าย ๆ อาทิ คอมโบพุ่งทุบของ Alistar หรือ Rocket Grab ของ Blitzcrank Alistar Blitzcrank Ezreal แพ้ทาง อย่างที่ผมบอกไปด้านบน Ezreal ในตอนนี้นั้นไม่ค่อยแพ้ทางแชมเปี้ยนใด ๆ สักเทาไหร่แต่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสตายเลยซึ่งอาจจะมาจากแชมเปี้ยนที่มีการตอดอย่างต่อเนื่องและทำจังหวะได้ง่ายหรือแชมเปี้ยนที่มีสกิลการเคลื่อนที่ได้หลาย ๆ ครั้งทำให้การไล่ตามมาจัดการเขานั้นเป็นไปได้ง่าย Vayne Ashe แชมเปี้ยนที่เหมาะจะนำมาเล่นคู่กับ Ezreal Ezreal นั้นค่อนข้างมีความยืดยุ่นสูงทำให้สามารถเล่นได้กับ Support ทุกประเภทแต่หากพูดถึงแล้วแชมเปี้ยนที่สามารถเล่นได้ดีเมื่อควบคู่กับ Ezreal นั้นผมขอยกตัวอย่างมาเช่น Braum และ Blitzcrank ที่สามารถทำจังหวะให้ Ezreal สามารถทำคอมโบสกิลเพื่อรีดดาเมจอย่างรวดเร็วและยังสามารถป้องกันในจังหวะที่เขาอาจจะพลาดท่าได้เช่นเดียวกัน Braum Blitzcrank เทคนิคการเล่น Ezreal Ezreal นั้นมีจุดเด่นในการใช้สกิลต่อเนื่องที่สามารถตอดเลือดฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดีและยังสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วทำให้การจะจัดการเขานั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากนอกจากนี้เขายังสามารถทำคอมโบสกิลเพื่อรีดดาเมจได้อย่างรวดเร็วจากการใช้ Essence Flux,Mystic Shot,Arcane Shift ที่เป็นการแปะสกิลแล้วยิงจากนั้นโดดเข้าไปทำดาเมจอย่างต่อเนื่องอย่างรุนแรง นอกจากนี้หากเพื่อน ๆ ที่เล่นได้อย่างชำนาญและมอง Mini Map บ่อย ๆ ยังสามารถใช้ Trueshot Barrage เพื่อจัดการแชมเปี้ยนฝ่ายศัตรูในเลนอื่น ๆ ที่ใกล้ตายได้อีกด้วย ช่วงต้นเกม – ในช่วงนี้ Ezreal นั้นไม่ค่อยเหมาะที่จะในการใช้ต่อสู้ตรง ๆ ทำให้วิธีการเล่นของเขาต้องเล่นไปทางด้านการตอดด้วยการใช้ Mystic Shot ใส่ฝ่ายศัตรูไปเรื่อย ๆ เพื่อเน้นเก็บ Mana Charge ของ Tear of Goddess สลับกับจังหวะในการฆ่ามินเนี่ยน ซึ่งหากฝ่ายศัตรูโดนเราตอดเลือดมากพอก็อาจจะมีจังหวะสวย ๆ ทำให้เรามีโอกาสังหารอีกฝ่ายได้ไม่ยากครับ ช่วงกลางเกม – เมื่อเข้ากลางเกมหากได้ Muramana แล้วหรือมีไอเทมที่มากกว่าอีกฝ่่ายการเล่นในช่วงนี้จะเริ่มแสดงความเก่งกาจของเขาออกมาให้เห็นผ่านการใช้สกิลต่าง ๆ Ezreal นั้นจะค่อนข้างมีความได้เปรียบอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะในด้านทีมไฟต์ที่สามารถยิงตอดอีกฝ่ายได้อย่างรุนแรงหรือการลอบสังหาร Carry อีกฝั่งด้วยตนเอง ช่วงท้ายเกม – เข้าสู่ช่วงปีศาจหากเพื่อน ๆ คนใดเคยเจอแล้วก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่มันตัวอะไรเนี่ยด้วยความแรงจากสกิลพร้อมทั้งระยะที่ไกลเอาเรื่องบวกกับสกิลการหนีของเขาทำให้เป็นเรื่องยากมากในการไล่จับหรือไล่สังหารเขาและหาก Ezreal ถูกเล่นโดยผู้เล่นที่ชำนาญแล้วละก็เรียกได้ว่าแทบจะสู้ไม่ได้เลยทีเดียวสำหรับ Ezreal ใน สรุป สำหรับ Ezreal นั้นค่อนข้างเป็นตัวที่ต้องใช้ความชำนาญในการเล่นอยู่พอสมควรครับด้วยการเล็งยิงสกิลบวกกับความเข้าใจในการใช้สกิลแต่หากเพื่อน ๆ คนไหนที่เล่นจนชำนาญแล้วจะเรียกได้ว่า Ezreal นั้นยืนหนึ่งในเรื่อง Carry เกมเลยทีเดียวทำให้ในหลาย ๆ ครั้งเราก็จะเห็นผู้เล่นเลือกเขามาเล่นในทุก ๆ เกมนั้นเอง หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจก็ลองไปฝึกซ้อมจนชำนาญดูได้นะครับรับรองว่าคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปแน่นอน พูดคุย หาเพื่อนเล่น LoL: Wild Rift ได้ที่ กลุ่ม League of Legends: Wild Rift Thailand

Read more

เวลาเกมอัพเดทนั้น บางเกมก็จะมีการแอบใส่ของแปลกๆ มาให้คนเล่นได้ค้นหา ในอัพเดท 1.1 ของ Genshin Impact เองก็เช่นกัน ที่ได้ใส่มอนสเตอร์ตัวใหญ่เข้ามาตัวหนึ่งที่หน้าตาเหมือนคนป่าขนปุย Hilichurl เป๊ะ แต่เสี่ยกว่า! ดูร่ำรวมมากกว่า แถมยังมีความลับเล็กน้อยถ้าไปสู้กับมันอีกตะหาก บทความนี้ก็จะพาเพื่อนๆ มาดูพี่เสี่ยแกกันจ๊ะ ตามล่าหา Hilichurl สุดแปลก เจ้า Hilichurl หรือคนป่าขนปุยตัวนี้ ก็จะต่างจากตัวปกติอย่างเห็นได้ชัด เปรียบเสมือน "เฮียเหว่ย" ในเกม Honkai Impact 3 เป็นเกมจากค่ายเดียวกันนั่นเอง มักจะนั่งหรือนอนเอกขเนกสบายใจ ไม่สนใจใยดีเพื่อนๆ ที่เดินไปเซฟฟี่ถ่ายรูปใกล้ๆ เลย และถ้าเราไปโจมตีมัน มันก็จะต่อสู้กลับอย่างก้าวร้าวมาก! ด้วยการเปิดกระเป๋าปาเพชร (Primogems) อัดเรา หรืออาจจะหยิบอย่างอื่นมาโจมตี เช่นตุ๊กตาโฮมุ เป็น Easter Egg อย่างหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่า พี่แกก็ไม่ได้เก่งอะไรไปกว่าเจ้าตัวธรรมดาที่เราพบเจอได้ทั่วไปเลย ภาพเฮียเหว่ยตัวจริงจาก https://forums.mihoyo.com/genshin/article/15035 แต่จุดที่น่าจะเด็ดจริงๆ คงอยู่ที่เมื่อกำจัดเฮียเหว่ยได้ จะได้รับเงินจำนาน 233 (มันต้องมีความหมายอะไรแอบอยู่อย่างแน่นอน), กะหล่ำ เปลี่ยนเป็นไอจังมาสคอสแห่งเกม Honkai นั่นเอง, 18 EXP (คาดว่าจะเป็นปี 2018 ตอนเฮียเหว่ยโผล่ในคอมมิคฮงไกครั้งแรก) และจะมีโอกาสเล็กน้อยที่เพื่อนๆ จะได้รับเพชรมาด้วยตั้ง 1 เม็ด (เยอะมว๊าก) และแน่นอน โอกาสก็คือโอกาส มีโอกาสที่จะได้หรือไม่ได้นั่นและหนา เฮียเหว่ย Hilichurl นี้ก็จะอาศัยอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ตายตัว แต่จะสุ่มว่าจะเกิดตรงนั้นหรือไม่เกิดหรือเปล่าเท่านั้น เมื่อเจอแล้วทำการโจมตีจนเฮียเหว่ยหนีไป จะสุ่มเกิดจุดใหม่ทันทีอีก 1 ครั้ง ให้ไปหา ถ้าหาเจอก็ตีซ้ำเพื่อเอาของมา (ฮ่า) แต่หลังจากนั้นจะต้องรออีก 12 ชม. (ตีได้สูงสุดวันละ 4 ตัว) เพื่อให้เฮียเหว่ยเกิดใหม่ ใครว่างๆ ก็อย่าลืมไปตามหาตัวกันนะ มี Achievement ให้ด้วยนะ อันนี้ก็เป็นมุมเล็กน้อยที่แวะเวียนมาฝากข่าวให้กับเพื่อนๆ จ้า ไว้เจอกันใหม่บทความหน้า ขอให้ได้เพชรติดตัวกันไปน้า จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

Read more

ดันเจี้ยน End Game นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของหลายๆ เกม ซึ่งใน Genshin Impact นั้นก็มีในชื่อที่เรียกขานกันว่า Spiral Abyss (ชั้นเกลียดแกฟาตุย .... อ้าวไม่ใช่เหรอ?) โดยจะเป็นดันเจี้ยนที่มีความท้าทายด้วยการจำกัดเวลาในการเล่นแต่ละชั้น ไม่สามารถใช้ไอเทมอาหารช่วยเหลือได้ เรียกว่ารีดความสามารถเท่าที่กันให้เต็มๆ เลย Spiral Abyss อยู่ที่ไหน   ตัวดันเจี้ยน (Domain) Spiral Abyss นั้นจะอยู่บริเวณด้านล่างขวาของเขต Mondstadt (แหลม Cape Oath) ที่บริเวณแหลมจะมีแท่น Seelie Garden อยู่สามจุด เมื่อพามาเปิดได้ครบ จะสร้างพื้นที่กระแสลมให้สามารถใช้เป็นทางลัดวาร์ปไปยังเกาะของ Spiral Abyss ได้ และเมื่อเปิดใช้งานแล้วก็จะสามารถใช้เป็นจุด Teleport มาได้โดยตรงแล้วล่ะ ตัวดันนี้จะมีลักษณะพิเศษต่างจากดันเจี้ยนอื่นๆ ดังนี้ ไม่สามารถใช้ไอเทมชนิดอาหารได้ การเติมเลือดและชุบชีวิตต้องทำผ่านสกิลตัวละครเท่านั้น มีลักษณะเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นประกอบไปด้วย 3 ห้อง แต่ละห้องมีการท้าทาย 3 ขั้นตอน (ทำเป็นช้างเอราวัณไปด้าย) การจะผ่านไปชั้นต่อไปได้ จะต้องเก็บดาวจากการผ่านการท้าทายในชั้นก่อนหน้าขั้นต่ำ 6 ดาวเสียก่อน ทุกๆ เดือนจะมีบัพรายเดือนที่จะช่วยเหลือผู้เล่นให้เล่นในดันได้ง่ายขึ้น แต่ละห้อง จะมีบัพให้เลือก 3 อย่างที่เปลี่ยนไปรายวัน บัพบางชนิดจะส่งผลทั้งชั้น ในขณะที่บัพบางชนิดจะส่งผลแค่ในห้องนั้นๆ ในแต่ละชั้นยังมีผลกระทบเพิ่มเติมที่ช่วยเหลือผู้เล่นให้สู้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะล๊อคตายตัวในแต่ละชั้น เพื่อนๆ สามารถหยุดพักการลุยได้เมื่อจบในแต่ละห้อง และออกมาแก้เบื่อ เติมแรงกายแรงใจก่อนได้ เมื่อกดกลับเข้าไปจะมีตัวเลือกสองอย่างคือ เล่นต่อจากเดิม หรือยกเลิกการท้าทาย การเล่นต่อจากเดิมจะเป็นการบังคับเล่นต่อจากในห้องที่พึ่งจบมา ยกเลิกการท้าทาย ตัวเกมจะเซพรางวัลต่างๆ และให้เพื่อนๆ กลับไปเลือกห้องที่จะเล่นใหม่ได้ เมื่อผ่านแต่ละห้องได้ จะมีรางวัลให้ตามที่ระบุ และหากผ่านความท้าทายในแต่ละห้องได้ ก็จะมีรางวัลให้อีก รางวัลของชั้นที่ 1-8 (Spiral Corridor) จะไม่มีการรีเซ็ทใดๆ แต่เมื่อเข้าสู่ชั้นที่ 9 เป็นต้นไป (Spiral Moon) จะรีเซ็ททุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือนให้สามารถมาเบิกรางวัลได้เรื่อยๆ เมื่อผ่านชั้นที่ 3 ห้องที่ 3 ได้สำเร็จครั้งแรก จะได้รับตัวละคร Xiangling ฟรี 1 ตัว (ถ้ามีครบแล้วจะเปลี่ยนเป็น Masterless Starglitter 5 อันแทน) ในแต่ละชั้นจะมีการให้เลือกปาร์ตี้ใหม่ และในชั้นที่ 5 - 8 จะต้องจัดทีม 2 ปาร์ตี้ (เหนื่อยตายไปข้าง) เพราะมีการแยกเป็นสองส่วน แถมยังใช้เวลาในการท้าทายร่วมกันอีกต่างหาก ในบทความนี้ก็จะมาอธิบายเกี่ยวกับแนวทางการผ่านชั้นที่ 1-8 ให้กับเพื่อนๆ กัน ส่วนชั้นหลังจากนั้น มันคือฝีมือของเพื่อนๆ ที่ผ่านการฟาร์มกับระบบของตัวเกมเท่านั้น! อธิบายเกี่ยวกับบัพที่พบเจอได้ใน Spiral Abyss บัพของดันเจี้ยนนี้จะแบ่งทั้งหมด 3 ชนิด ซึ่งใช้ร่วมกันได้ทั้งหมดเลย ► เริ่มจากบัพรายเดือน (Blessing of the Abyssal Moon) จะเป็นบัพที่เกี่ยวข้องกับการ   รักษาค่าสเตตัสของเพื่อนๆ จะปรากฎเป็นวงที่พื้น เมื่ออยู่ในวงนี้และทำตามเงื่อนไข ก็จะช่วยเสริมพลังให้กับตัวละครหรือเกิดผลสนับสนุนผู้เล่นอะไรบางอย่างขึ้น ► บัพตัวเลือกในแต่ละห้อง (Benediction of the Abyss) จะเป็นบัพที่มีสองแบบคือ บัพชั้นนั้นทั้งชั้นกับบัพเฉพาะห้องนั้นห้องเดียว ซึ่งปกติบัพเฉพาะห้องจะมีความทรงพลังกว่า จะเปลี่ยนไปในแต่ละห้องแบบรายวัน ให้เลือกตามที่ทีมของเพื่อนๆ หรือตัวละครหลักของเพื่อนๆ ใช้งาน โดนมีทริคเล็กน้อยคือ ในห้องที่ 1-2 เพื่อนๆ ควรหยิบบัพชนิดส่งผลทั้งชั้นมาก่อน เนื่องจากจะช่วยให้เคลียร์ห้องหลังจากนี้ได้ง่ายขึ้น ส่วนในห้องสุดท้ายหยิบตามใจชอบได้เลย   ► บัพของแต่ละชั้น (Lay Line Disorder) จะเป็นบัพที่ล๊อคไว้ประจำชั้นนั้นๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มีความทรงพลังค่อนข้างมากถ้าเพื่อนๆ มีตัวละครที่อยู่ในเงื่อนไขของบัพนั้นๆ เช่น ธาตุน้ำแข็งแรงขึ้นมาก, มีเลือดเยอะหรือน้อยกว่าที่กำหนด การพยายามจับทีมและเลือกบัพให้ถูก จะช่วยให้เพื่อนๆ ผ่านการท้าทายได้ง่ายขึ้นมากเลยทีเดียว     ของรางวัลที่ได้จาก Spiral Abyss การลง Spiral Abyss นั้นจะมีการแบ่งรางวัลที่ได้รับออกเป็นสองอย่างด้วยกันตามความสามารถของเพื่อนๆ ที่ลุยผ่านมาได้ รางวัลของการผ่านห้องนั้นๆ (Chamber's Bounty) : เป็นรางวัลที่จะได้รับหากเพื่อนๆ สามารถผ่านห้องนั้นมาได้ โดยไม่สนใจว่าจะผ่านความท้าทายมาได้กี่ดาวก็ตาม รับไปได้เลย รางวัลจากการผ่านความท้าทายของชั้นนั้นๆ (Star's Bounty) : รางวัลนี้เพื่อนๆ จะได้รับต่อเมื่อสามารถผ่านเงื่อนไขความท้าทายของชั้นนั้นๆ ได้แล้วเท่านั้น ผ่านกี่ดาวก็รับไปตามนั้นเลยจ้า ตั้งแต่ 3/6/9 ดาวก็ว่ากันไป ซึ่งในตัว Spiral Corridor (ชั้น 1-8) จะไม่มีการรีเซ็ตรางวัล ได้แล้วได้เลยไม่มีซ้ำ แต่ส่วนของ Spiral Moonspire ชั้นที่ 9 เป็นต้นไป จะมีการรีเซ็ตทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน ทำให้สามารถกลับมาฟาร์มใหม่เรื่อยๆ ได้ เป็นอีกแหล่งในการหาเพชร Primogems ไปใช้งานได้ แม้จะไม่เยอะมากเท่าไหร่นัก แต่ก็ดีกว่าไม่มีล่ะน้า ชั้นที่ 1 - สนับสนุนไฟ ► บัพของชั้นนี้ เพิ่มความเสียหายของธาตุไฟ 75% เพิ่มความเสียหายของโวเวอร์โหลด 200% มอนสเตอร์เลเวล : 25 ห้องที่ ศัตรูที่เจอ การท้าทาย 1 Electro Slime Large Electro Slime Mutant Electro Slime เหลือเวลาอย่างน้อย 90/150/210 วินาที 2 Hilichurl Fighter Wooden Shield Hilichurl Guard Hilichurl Shooter Hilichurl Grenadier Wooden Shield Mitachurl Blazing Axe Mitachurl เหลือเวลาอย่างน้อย 90/150/210 วินาที 3 Hilichurl Shooter Wooden Shield Mitachurl Large Electro Slime...

Read more

ตัวเกมก็พึ่งจะเปิดให้บริการกันมาได้ไม่กี่วันกับ Cabal M ซึ่งผมก็มั่นใจว่าจะต้องมีเพื่อนๆ หลายคนเลยทีเดียวที่พึ่งจะได้เริ่มเล่นกัน แล้วถ้าอย่างนั้น. . . เริ่มเล่นใหม่เราควรเตรียมพร้อมยังไงล่ะ ควรเรียนรู้อะไรบ้าง ดังนั้นนี่จึงเป็นบทความเหมาะสำหรับเพื่อนๆ โดยเฉพาะเลย งั้นเราก็มาดูกันเลยดีกว่าว่าเราควรต้องรู้อะไรบ้างกับการเดินทางครั้งใหม่นี้  เริ่มต้นเดินทาง มาว่ากันถึงการเริ่มต้นกับตัวเกมก่อนเลย หลังจากเพื่อนๆ ได้สร้างตัวละครเข้ามาแล้ว สิ่งแรกที่ควรทำคือเควสเนื้อเรื่อง อย่าพึ่งเดินสำรวจ อย่าพึ่งชมนกชมไม้ทำเควสก่อนเท่านั้นครับ ในช่วงแรกตัวเกมจะเน้นไปทางเควสแนะนำว่าระบบนี้คืออะไร NPC นี้มีหน้าที่อย่างไร การตามหาสกิล การวาร์ป จิปาถะและอื่นๆ อีกมากมาย ซี่งมันสำคัญมากหลายๆ คนอาจจะมองว่ามันก็เป็นแค่ระบบพื้นฐานเหมือนเกมอื่นไม่ใช่หรอ คำตอบก็คือทั้งใช่และไม่ใช่ครับ บางระบบอาจจะเหมือนเกมอื่นก็จริง แต่ก็มีหลายระบบที่เราควรทำความเข้าใจเสียก่อน ไม่งั้นถึงเวลาใช้แล้วอาจจะงงตาแตกเลยก็ว่าได้ ระบบ Rank ระดับอาชีพ ตัวแปรสำคัญความแข็งแกร่งของตัวละครเราอีกอย่างคือระบบ Rank อาชีพ โดยเจ้าระบบนี้จะมีการจำกัดหลายๆ อย่างมาก เช่นเมื่อสเตตัสถึงกำหนดเราจะไม่สามารถอัพสเตตัสเพิ่มได้จนกว่าจะขึ้นแรงค์ หรือแม้แต่สกิลใหม่ๆ ก็จะไม่มีออกมาให้เห็นจนกว่าเราจะอัพแรงค์อีกด้วย จึงทำให้ระบบนี้มีความจำเป็นมากๆ ทีเดียว ถ้าสามารถทำการเลื่อนขั้นได้ก็ขอให้ทำเป็นอันดับแรกๆ เลยครับ เควสหลักสำคัญมาก ภายในเกมจะมีเควสค่อนข้างหลากหลาย เควสหลัก เควสย่อย เควสอีเวนท์ เควสรายวัน สารพัดสารเพเต็มไปหมด แต่เพื่อนๆ จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเควสหลักเป็นอันดับแรก อย่างที่ผมได้อธิบายถึงระบบ Rank อาชีพไปก่อนหน้านี้ เงื่อนไขการจะเลื่อนขั้นได้นอกจากเลเวลถึงกำหนดแล้ว อีกเงื่อนไขก็คือการทำเควส ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเควสหลักทั้งสิ้น เพื่อนๆ จึงจำเป็นต้องใส่ใจกับเควสส่วนนี้ให้มากและต้องมาเป็นอันดับแรกเสมออีกด้วย เลือกสกิลให้เหมาะกับสไตล์ จุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้ตัวเกมเล่นค่อนข้างจะเพลินคือ ความหลากหลายของสกิล โดยทุกครั้งเมื่อเพื่อนๆ ทำการอัพแรงค์คลาสอาชีพได้ เพื่อนๆ ก็จะมีช่องสกิลปลดล็อคเพิ่ม พร้อมด้วยสกิลเซ็ตใหม่ให้ได้เรียนกัน ซึ่งสกิลภายในเกมนี้เพื่อนๆ จะสามารถเรียนแบบมั่วซั่วเลยก็ได้ เพราะเราสามารถลบทิ้งแล้วเรียนสกิลอื่นแทนได้ตลอดเวลา ใช้ก็เพียงแค่เงินสำหรับการอัพเลเวลและแต้มสกิลเพียงเท่านั้น ดังนั้นทางที่ดีเมื่อเล่นไปได้สักพัก เพื่อนๆ ก็ควรจะทดลองสกิลหลายๆ อย่างดู เพื่อหาแนวทางให้เหมาะสไตล์ของตัวเอง บางคนอาจจะเน้นสกิลโจมตีหมู่ โจมตีไว โจมตีแล้วติดดีบัฟต่างๆ หรือเน้นไปทางดาเมจตูมตามเลยก็ได้ด้วยเช่นกัน เปิดคอมโบลุยแหลก ระบบคอมโบ ฟีเจอร์ที่เป็นเหมือนเอกลักษณ์อีกอย่างประจำเกมไปแล้วก็ว่าได้ ซึ่งการใช้งานก็ไม่ยุ่งยากเพียงแค่กดกตรงปุ่ม “คอมโบ” จากนั้นก็จะมีแถบขึ้นมาบริเวณกลางจอ แล้วสักพักก็จะเริ่มมีหลอดวิ่ง ให้เพื่อนๆ กดปุ่มโจมตีให้ใกล้กับแถบสีเขียวให้มากที่สุด ยิ่งใกล้มากดาเมจยิ่งออกมาสูง แถมยิ่งทำให้การใช้สกิลไวขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลยทีเดียว  เป็นระบบที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เพราะมันสามารถใช้สำหรับการรีดดาเมจจำนวนมากได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งเหมาะสำหรับเวลาเจอกับบอสหรือต้องการเคลียร์มอนจำนวนมาก แรกๆ อาจจะกดไม่ตรงบ้างแป้กบ้าง แต่ก็ขอให้ฝึกใช้กันบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินเอง ทีนี้ก็จะง่ายแล้วแถมสนุกอีกต่างหาก Battle Aura มีประโยชน์กว่าที่เห็น นอกเหนือจากการใช้ระบบคอมโบแล้ว Battle Aura คืออีกฟังค์ชั่นใช้งานอันมีประโยชน์ไม่แพ้กัน โดยระบบนี้ต้องเล่นมาสักพักถึงจะปลดล็อคให้ใช้ได้ ซึ่งก็จะมีความคล้ายคลึงกับสกิลอยู่บ้างคือจะคอยปลดล็อคเมื่อทำการเรื่องขั้นแรงค์คลาสอาชีพแล้วนั่นเอง  ในช่วงระดับแรกๆ ก็จะเหมือนการกดใช้งานบัฟก็เท่านั้น เพิ่มพลังโจมตี แล้วก็มีออร่าขึ้นรอบๆ ตัวทำให้อาจจะดูไม่มีอะไรเท่าไหร่ แต่เมื่อสามารถใช้งานในส่วนของขั้นที่ 3 และ 4 ได้ อาวุธในมือของเราจะมีการเปลี่ยนรูปลักษณ์ไป อย่างเช่นดาบใหญ่จะกลายเป็นเคียว ดาบโล่จะกลายเป็นโล่ยักษ์ หรืออย่างธนูก็จะกลายเป็นปืนคู่แทน ซึ่งจะมาพร้อมกับท่าการโจมตีใหม่ๆ และดาเมจที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล นี่จึงเป็นอีกระบบที่ไม่ควรจะมองข้ามไป เข้าใจฟังค์ชั่นอัตโนมัติ ถึงแม้ฟังค์ชั่นอัตโนมัติ อาจจะดูไม่มีอะไรยุ่งยากกดเปิดใช้แล้วก็ปิดสมองกันได้ยาวๆ แต่เอาจริงๆ มันก็ยังมีปัญหาอยู่เหมือนกันนะ อย่างแรกคือถ้าเกิดรอบตัวของเราไม่มีมอนสเตอร์ให้ตี ตัวของเราก็จะวิ่งย้ายไปหามอนตัวอื่นที่อยู่ใกล้แทน ถ้าเราละสายตาไปเพียงแปปนึง ตัวของเราอาจจะไปอยู๋อีกฟากของแมพแล้วไปนอนเป็นกระสอบทรายให้มอนเลเวลสูงก็เป็นได้ ดังนั้นเราจึงควรทำความเข้าใจกับฟังค์ชั่นอัตโนมัตินี้เสียก่อนว่า มันสามารถปรับได้นะ เพียงแค่เข้าไปที่ตั้งค่าแล้วสังเกตตรงหัวข้อ Auto Combat ก็พอ เพื่อนๆ สามารถเลือกได้ว่าจะให้ระยะการค้นหาอยู่เฉพาะตรงนั้น หรือขอบเขตแบบไม่จำกัดก็ทำได้ ไปจนถึงเลือกตีมอนดุร้ายก่อน หรือจะเลือกมอนเควสก่อนก็ได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเพื่อนๆ ควรจะตั้งค่าเหล่านี้ให้เรียบร้อยก่อนเปิดระบบดังกล่าว เพื่อกันไม่ให้ตัวของเราไปที่ไม่ควรจะไปนั่นเอง คีย์ลัดอันแสนสะดวก ขอยอมรับเลยว่าระบบนี้ช่วงแรกผมก็เมินมันสนิทเหมือนกัน คือในเมื่อเราสามารถใส่สกิลให้มันใช้เป็นลำดับไปได้ แล้วมันจะมีคีย์ลัดไว้ทำไม? แต่พอเล่นมาได้สักพักมันก็เข้าใจแจ่มแจ้งและขาดไม่ได้เลยทีเดียว อย่างแรกเลยคือในตอนหลังๆ สกิลเราจะมีเยอะเกินกว่าจะใส่ไปในลำวงจรสกิลได้หมด ซึ่งแน่นอนว่ามันก็มีทั้งสกิลที่ใช้ได้ทุกสถานการณ์ กับเหมาะใช้เฉพาะหน้า ทำให้คีย์ลัดเข้ามาเติมในส่วนตรงนี้ได้ นอกจากนี้คือการใช้ยาของตัวละครเรา ถึงจะมียาในตัวแต่ถ้าไม่ลากลงมาใส่คีย์ลัดไว้ ตัวละครของเราก็จะไม่ยอมกดใช้ยาให้ คอยจัดช่องเก็บของสมํ่าเสมอ ไอเทมภายในเกมนี้ไม่ใช่ว่าหนึ่งชิ้นจะใช้ช่องเก็บของเพียงหนึ่งช่องเท่านั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของไอเทมชิ้นนั้นๆ ถ้านึกภาพไม่ออกก็ให้นึกเกมพวก Path of Exile, Diablo, Mu Online อะไรพวกนี้ดูน่าจะเห็นภาพชัดเจนกว่า ทำให้บางครั้งเมื่อทำการเล่นแบบเพลินๆ หรือฟาร์มไปเรื่อย ไอเทมอาจจะเต็มกระเป๋าโดยไม่รู้ตัว ยิ่งเมื่อทำเป็นเกมมือถือซึ่งระบบหลายๆ อย่างมันพาเราไปได้เรื่อย เราก็จะยิ่งลืมเรื่องตรงนี้ไปซะสนิทเลย ดังนั้นเพือนๆ จำเป็นต้องคอยเตือนตัวเองแล้วจัดช่องเก็บของไว้อยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นเกิดบางทีไปเจอบอสแล้วของแรร์ดรอปจะเก็บไม่ได้ขึ้นมาเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนนะ หมั่นเคลียกิจกรรมให้ครบ ไม่เพียงแต่การทำเควสและเก็บเลเวลเท่านั้น การไล่ทำภารกิจต่างๆ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเควสรายวัน กิจกรรมอีเวนท์ต่างๆ รวมไปถึงเหล่าดันเจี้ยนทั้งหลาย ซึ่งการไล่ทำกิจกรรมเหล่านี้ก็จะมีของตอบแทนกลับมา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าอีเวนท์ต่างๆ ที่ตัวเกมจัดขึ้นมาอย่างจำกัดเวลา ส่วนใหญ่มักจะมีการแจกของรางวัลเป็นไอเทมหายากหรือหาไม่ได้ทั่วไป จึงมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เลย แถมยิ่งคนไหนที่เป็นสายฟรีการจะทำให้ตัวละครของเราแข็งแกร่งขึ้นได้ก็ต้องพึ่งระบบภารกิจพวกนี้ด้วยเช่นกัน ก็ถือว่าเป็นเทคนิคและความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มเล่นใหม่กับ Cabal M ล่ะนะครับ ถึงแม้ตัวเกมจะเป็นเกมมือถือ แต่ก็ไม่ได้เหมือนเกมมือถืออื่นๆ ซะทีเดียว ตัวเกมทำมาให้เหมาะกับการเล่นในระยะยาว ทั้งระบบโน่นนี่นั่นที่มีการดึงมาใช้จากฝั่ง PC ด้วยอะไรด้วย ทำให้เพื่อนๆ บางคนอาจจะต้องใช้เวลาศึกษาพอสมควรเลยทีเดียว ก็หวังว่าจะเป็นประโชน์ให้เพื่อนๆ ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ Cabal Mobile หรือ Cabl M ก็ได้เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้วในขณะนี้ มาพร้อมการรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ สามารถดาวน์โหลดมาเล่นกันได้แล้ววันนี้ทั้ง IOS และ Android เลย

Read more

วันนี้ผู้เขียนจะได้มาแนะนำพาร์ทใหม่นั่นก็คือ Gundam Exia, Gundam Geminass 01 และพาร์ทกิจกรรมคือเจ้า Gundam Astraea ที่มาพร้อมกับกาชาในเกม GUNDAM BATTLE: GUNPLA WARFARE ครั้งนี้จะได้นำข้อมูลของพาร์ทกับความน่าใช้งานว่าชิ้นไหนน่าใช้งานหรือเหมาะกับการโมหุ่นของเราครับ 1.Gundam Exia ข้อมูลพื้นฐาน ชื่อ Gundam Exia Model number GN-001 ซี่รี่ Mobile Suit Gundam 00 ความหายาก ✦✦✦✦✦ attribute Technique EX skill Part Leg Mobile Suit Gundam Exia EXskill Double Saber Shear ประเภท Physical Melee Penetration D power B+ Cooldown 30 วินาที (เริ่ม 8 วินาที) คำอธิบาย ฟันศัตรูด้วย GN Blades จากมือทั้งสองข้าง Part Back Mobile Suit Gundam Exia EXskill Trans-Am ประเภท Awakening ระยะเวลา 30 วินาที Cooldown 90 วินาที (เริ่ม 18 วินาที) คำอธิบาย ปลดปล่อยอนุภาคกำลังสูงจากเตาปฏิกรณ์ GN Drive เพิ่มความเร็วให้กับตัวเอง 20% เพิ่มพลังโจมตีระยะประชิดและโจมตีการยิงให้กับตัวเอง 15% ตลอดระยะเวลาของการเปิดใช้งานกันพลาของคุณเมื่อโดนโจมตีจะไม่หยุดชงัก Part Traits Part Part Traits Head พลังโจมตีการยิงเพิ่ม 10% เพิ่มพลังโจมตีของ Ex Skill ขึ้น 17% Body เมื่อคุณสมบัติเครื่องตัวเองคือ Technique จะลด Cooldown ของ Ex Skill ลง 6% Arms เมื่อคุณสมบัติเครื่องตัวเองคือ Technique จะเพิ่มพลังโจมตีระยะประชิดขึ้น 17% Legs – Back – GN Sword เมื่อโจมตีเป็นประเภทกายภาพ จะเพิ่มพลังโจมตีของ Ex Skill ขึ้น 17% GN Beam Saber เมื่อติดตั้ง Tag Protag จะลดพลังโจมตีระยะประชิดของศัตรูลง 17% GN S/L Blade เมื่อความทนทานมากกว่าหรือเท่ากับ 60% จะเพิ่มพอัตราคริติคอลการโจมตีระยะประชิดขึ้น 10% GN Sword Rifle Mode เมื่อเปิดใช้งานอาชีพ In-Fighter จะเพิ่มเกจเริ่มต้นของ Ex Skill ขึ้น 6% GN Shield เมื่อค่า CPWR มากกว่า 150000 จะเพิ่ม Effect ของ Ex Skill ประเภท Buff ขึ้น 4% Word tag Part Tag 1 Tag 2 Head Protag High Mobility Body Protag High Mobility Arms Protag High Mobility Legs Protag Close Combat Back Protag Close Combat GN Sword Protag For Desert GN Beam Saber Protag High Mobility GN Short Blade/GN Long Blade Protag Close Combat GN Sword Rifle Mode Protag For Desert GN Shield Protag For Desert Protag เมื่อเปิดใช้งาน เพิ่มพลังการโจมตี 10% High Mobility เมื่อเปิดใช้งานการป้องกันการยิงจะเพิ่มขึ้น 5% ความต้านทานของลำแสงบีมเพิ่มขึ้น 5% Close Combat เมื่อเปิดใช้งานความทนทานเพิ่มขึ้น 5% พลังการโจมตีเเพิ่มขึ้น 5% For Desert เมื่อเปิดใช้งานค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 1% และจะเพิ่มขึ้นอีก 3% หากฉากต่อสู้เป็นทะเลทราย ระดับความน่าใช้งาน S A+ S S- S- S+ S- S- A+ S-   2.Gundam Geminass 01 ข้อมูลพื้นฐาน ชื่อ Gundam Geminass 01 Model number OZX-GU01A ซี่รี่ New Mobile Report Gundam W Dual Story G-UNIT ความหายาก ✦✦✦✦✦ attribute Power EX skill Part Body Mobile Suit Gundam Geminass 01 EXskill Px System Activation ประเภท...

Read more

ชื่อ: Blitzcrank ชนเผ่า: The Great Steam Golem บ้านเกิด: Zaun หน้าที่: Support Tank ตำแหน่ง: Support ประวัติ: บลิตซ์แคร็งก์มีร่างขนาดมหึมาที่ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนโลหะวาววับ ไอน้ำ และไฟฟ้าที่ปะทุดังเปรี๊ยะ มันเดินตระเวนท่องไปตามท้องถนนในเมืองซอนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อพัฒนาปรับปรุงเมืองใต้ดินแห่งนี้และช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน แรกเริ่มนั้น มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ทำหน้าที่กำจัดขยะพิษในเมืองซอนท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายและเป็นภัยต่อร่างกายมากที่สุด แต่มันกลับวิวัฒนาการไปไกลกว่าโปรแกรมที่ได้ออกแบบไว้แต่แรก ซึ่งนี่เป็นไปได้เพราะอัจฉริยภาพของผู้ที่ประดิษฐ์มันขึ้นมาและพลังลึกลับของเฮ็กซ์เทค สำหรับพี่หุ่นกระป๋องของเรานั้นเรียกได้ว่าเก่งจนต้องเนิฟเลยทีเดียวสำหรับใน LoL: Wild Rift ด้วยความสามารถที่มากพอจะจัดการ Carry ของฝ่ายศัตรูได้ด้วยตนเองจึงได้มีการเนิฟไปใน Patch ก่อนหน้านี้   ข้อมูลสกิล วิธีอัปสกิล  Summoner Spells รูน การออกของ ชนะทาง แพ้ทาง แชมเปี้ยนที่เหมาะนำมาเล่นคู่ เทคนิคการเล่น สรุป ข้อมูลสกิล Blitzcrank วิธีอัปสกิล Blitzcrank จริง ๆ แล้ววิธีการอัปสกิลของ Blitzcrank นั้นหลัก ๆ แล้วผมอยากจะให้ Focus ไปที่ Rocket Grab อย่างเดียวเป็นหลักนะครับเนื่องจากเป็นสกิลจุดเด่นของแชมเปี้ยนตัวนี้ซึ่งต้องอัปสกิลนี้นำเท่านั้นซึ่งสำหรับ Overdrive และ Power Fist นั้นเพื่อน ๆ สามารถดูความเหมาะสมในการใช้ภายในเกมแล้วเลือกอัปตามได้อย่างอิสระครับยกตัวอย่าง เช่น อีกฝ่ายเป็นตัวที่มีสกิลหนีหรือสกิลวิ่งค่อนข้างไวการจะทำให้เราเข้าถึงตัวได้ง่ายกว่านั้นก็ต้องพึ่ง Overdrive ทำให้เราเลือกอัปสกิลนี้ตามหรืออีกฝ่ายเป็นแชมเปี้ยนนักฆ่าที่คอยจะเข้ามาหาฝ่ายเราอยู่แล้วก็ให้อัป Power Fist ตามเพื่อให้ใช้ได้บ่อยยิ่งขึ้นนั้นเอง Blitzcrank Summoner Spells ในส่วนของ Spells นั้นนอกจาก Ignite แล้วยังสามารถเลือกใช้ Exhaust ได้เช่นกันหากเห็นว่าฝ่ายศัตรูนั้นมีแชมเปี้ยนประเภทนักฆ่าหลายตัวซึ่งจะทำให้ Carry ฝั่งเรามีโอกาสรอดมากขึ้นครับ รูนแนะนำของ Blitzcrank รูนที่แนะนำจะเป็นรูนพื้นฐานของ Support Tank นะครับเนื่องจากตัวของ Blitzcrank นั้นจะต้องเอาตัวเองเข้าไปปะทะกับฝ่ายตรงข้ามอยู่เสมอทำให้การได้เกราะและต้านเวทจาก Aftershock เป็นอะไรที่ค่อนข้างดีทำให้มีโอกาสรอดหรือชนะในการต่อสู้นั้นมากขึ้นครับ การออกของ Blitzcrank การออกของนั้นสำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่เคยอ่านไกด์ Alistar มาแล้วก็อาจจะสงสัยเอ่นี้มันของชุดเดียวกันเลยนินาใช่ครับ ชุดเดียวกันครับเนื่องจากแชมเปี้ยนทั้ง 2 ตัว Alistar และ Blitzcrank เป็นแชมเปี้ยน Support Tank ประเภทเดียวกันทำให้การออกของนั้นค่อนข้างจะคล้ายกันซึ่งเพื่อน ๆ สามารถเลือกออกได้ตามแต่สถานการณ์นั้นครับ อาทิ อีกฝ่ายมีแชมเปี้ยนนักฆ่าเยอะเราก็เน้นมาออกไอเทมที่ให้เกราะป้องกันกับเพื่อนร่วมทีมก่อนเป็นพิเศษเพื่อให้เพื่อนร่วมทีมเราเล่นได้ง่ายยิ่งขึ้น Blitzcrank ชนะทาง ณ ตอนนี้สำหรับ Duo Lane จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าพี่หุ่น Blitzcrank นี้แทบจะไม่มีตัวใดที่สู้พี่แกได้เลยแต่ถ้าจะให้เจาะจงตัวละครที่ค่อนข้างแพ้ทางเป็นพิเศษก็จะได้แก่ตัวละครที่ไม่มีสกิลเคลื่อนที่ต่าง ๆ และมีเลือดที่น้อยทำให้เสี่ยงต่อการโดนดึงเข้ามาสังหารได้ง่าย ๆ Nami Janna Blitzcrank แพ้ทาง อย่างที่บอกไปในขั้นต้นที่ Blitzcrank นั้นค่อนข้างจะไม่มีแชมเปี้ยนตัวใดสู้เขาได้เลยแต่ก็ยังพอมีตัวละครที่ทำให้เขาหาจังหวะเล่นได้ยากขึ้นเช่นกัน อาทิ Braum Alistar ที่เป็นตัวละคร Support Tank และมีสกิลป้องกันทำให้การดึงเข้ามานั้นเป็นเรื่องไม่ค่อยดีนักเนื่องจากไม่สามารถจัดการได้ในทันทีและมีโอกาสที่จะโดนสวนกลับได้ง่าย ๆ Braum Alistar แชมเปี้ยนที่เหมาะจะนำมาเล่นคู่กับ Blitzcrank เนื่องจากมีสกิลในการดึงอีกฝ่ายเข้ามาเพื่อจัดการอย่างรวดเร็ว Blitzcrank นั้นจึงต้องการคู่หูที่มีสกิลรุนแรงหรือสกิลที่สามารถทำจังหวะให้เขาดึงอีกฝ่ายเข้ามาได้ง่าย ๆ เช่น Ashe Jhin เทคนิคการเล่น Blitzcrank พี่หุ่นของเรานั้นนอกจากสกิล Rocket Grab ที่เป็นสกิลระยะไกลก็ไม่มีสกิลใด ๆ ที่พอจะสร้างความกดดันฝ่ายศัตรูได้เลยแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความน่ากลัวเลยเนื่องจากเทคนิคการเล่นนั้นเราสามารถเก็บสกิล Rocket Grab ไว้เพื่อกดดันอีกฝ่ายได้นั้นเองซึ่งเทคนิคจะเป็นการเปลี่ยนวิธีการเล่นจากดึงเข้ามาเป็นการเดินเพื่อกดดันให้อีกฝ่ายเดินไปอยู่ในมุมที่ไม่สามารถหลบสกิล Rocket Grab ได้แล้วค่อยทำการดึงเข้ามาจัดการหรือใช้วิธีเดินเข้าไปต่อยด้วย Power Fist แล้วค่อยจัดการดึงมานั้นเองครับซึ่ง 2 วิธีนี้ค่อนข้างจะใช้ได้ผลดีเลยทีเดียวครับเพื่อน ๆ สามารถนำไปลองใช้จริงกันดูได้นะครับ ช่วงต้นเกม – ในช่วงต้นนั้นตัวของ Blitzcrank จะมีความพิเศษกว่า Support ตัวอื่น ๆ ตรงที่สามารถเดินไปป่วน Jungler ฝ่ายตรงข้ามได้โดยการรอดึงมอนสเตอร์สัตว์ป่าที่เขาตีอยู่เพื่อทำให้เสียจังหวะในการเก็บเลเวลช่วงต้นไปนั้นเองและสำหรับภายในเลนนั้นช่วงเลเวล 1 จะเป็นช่วงที่ไม่ควรปะทะตรง ๆ กับฝ่ายตรงข้ามสักเท่าไหร่หากคู่ Duo Lane ของเราเป็นตัวละครที่ไม่มีดาเมจมากนักเนื่องจากการดึงเข้ามาแล้วไม่สามารถจัดการได้จะทำให้เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากกว่าเสียเองในบางครั้งแต่หลังจากขึ้นช่วงเลเวล 2 ขึ้นไปเต็มที่ครับดึงได้ดึงเล็ง Carry เป็นหลักแล้วจัดการได้เลยครับ ช่วงกลางเกม – นอกจากการเล่นในเลนแล้ว Blitzcrank ยังสามารถเดินไปช่วยเพื่อนร่วมทีมในตำแหน่งอื่น ๆ ได้อีกไม่ว่าจะเป็นการเดินไป Rocket Grab อีกฝ่ายที่ Mid Lane หรือการบุุกป่าอีกฝ่ายพร้อม Jungler ก็ย่อมทำได้และทำได้ดีอีกด้วยเนื่องจากในช่วงนี้แชมเปี้ยนส่วนใหญ่จะมีสกิลรุนแรงพอที่จะจัดการอีกฝ่ายลงได้ไม่ยากหากดึงอีกฝ่ายมาได้ก็แทบจะจัดการได้ทันทีเลยทีเดียว ช่วงท้ายเกม – ช่วงท้ายของเกมบทบาทของ Rocket Grab ของพี่หุ่นเราก็ยังไม่ได้ลดความน่ากลัวลงแต่อย่างใดซึ่งสามารถนำมาใช้เปิดทีมไฟต์ทำให้ทีมตนเองได้เปรียบเป็นอย่างมากหากดึงแชมเปี้ยนที่สำคัญ ๆ ของอีกฝ่ายมาจัดการได้ก่อนเกิดทีมไฟต์ทำให้อีกฝ่ายไม่มีตัวทำหน้าที่สำคัญ ๆ และเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปในที่สุด สรุป Blitzcrank นั้นเป็นตัวละครที่ค่อนข้างมีประโยชน์ในการใช้งานได้อย่างหลากหลายแต่ก็แลกมากับการที่ผู้เล่นต้องมีความแม่นยำในการใช้งาน Rocket Grab อยู่พอสมควรซึ่งต้องใช้เวลาฝึกฝนและเลือกจังหวะใช้งานให้ถูกต้องนั้นเอง หากเพื่อน ๆ เป็นผู้เล่นที่ชื่นชอบตัวละครสร้าง Make Play Blitzcrank นั้นก็ค่อนข้างเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์เลยทีเดียวสามารถนำไปลองเล่นได้ครับรับลองไม่ผิดหวังครับ พูดคุย หาเพื่อนเล่น LoL: Wild Rift ได้ที่ กลุ่ม League of Legends: Wild Rift Thailand

Read more
Page 84 of 198 1 83 84 85 198