Mobile

Mobile - หมวดนี้รวบรวมข่าวสาร รีวิว บทความหรือเกมต่างๆที่น่าสนใจสำหรับเครื่องมือถือทั้ง iOS และ Android สำหรับชาว smartphone จ้า

แผนที่ใน AxE นั้นมีข้อดีตรงที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวก มีข้อมูลพื้นฐานที่เพื่อนๆ ต้องการ ซึ่งตัว Mini Map หรือแผนที่ย่ออาจจะบอกอะไรได้ไม่มากนอกจากทิศทางและตำแหน่งคร่าวๆ แต่ตัวแผนที่โลกหรือ World Map นั้นจะมีข้อมูลที่มากกว่าพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเปิดแผนที่ได้ด้วยการกดที่ตัว Mini Map และตัวเกมจะเรียกแผนที่ขนาดใหญ่ออกมาให้ ข้อมูลของตัวแผนที่ เมื่อเปิดแผนที่ขึ้นมาแล้วนั้น เพื่อนๆ สามารถกดที่ตำแหน่งบนแผนที่เพื่อเดินไปยังตำแหน่งนั้นได้ และหากปุ่ม Track ในแผนที่หลังจากเลือกตัวละครอื่น, Elite Monster, NPC หรือ Dungeon ก็ยังใช้เป็นขั้นตอนลัดในการเดินทางไปหาสิ่งนั้นๆ ได้ด้วย 1. ชื่อของพื้นที่และระดับความยาก 2. ดูรายชื่อของผู้เล่นคนอื่นในพื้นที่นั้น 3. ดูรายชื่อของ Elite Monster ในพื้นที่นั้น 4. ใช้ดู NPC หรือ Dungeon ในพื้นที่นั้น 5. เพื่อนๆ สามารถเช็คค่า Allie's Morale ผ่านทางด้านล่างซ้ายของแผนที่ได้ โดยเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งทุกคนในฝ่ายเดียวกันจะได้รับรางวัลด้วย 6. หากพื้นที่นั้นมีค่าสถานะอะไรพิเศษจะแสดงผ่านสีของตัวอักษรให้ทราบ รูปแบบของ Area ข้อความ สถานะการต่อสู้ รายละเอียด Protected Area Protected (สีฟ้า) ไม่สามารถถูกศัตรูโจมตีได้ Allies's Alerted Area Alerted (สีขาว) ไม่สามารถถูกศัตรูโจมตีได้ ยกเว้นไปโจมตีศัตรูก่อน Battle Area Targetable (สีแดง) สามารถถูกศัตรูโจมตีได้ สามารถโจมตีกลับได้ Enemy Alerted Area Targetable (สีแดง) สามารถถูกศัตรูโจมตีได้ สามารถโจมตีศัตรูได้ต่อเมื่อศัตรูทำการโจมตีมาก่อนเท่านั้น Enemy Protected Area Restricted (สีม่วง) สามารถถูกศัตรูโจมตีได้ ไม่สามารถโจมตีศัตรูกลับได้เลย   7. สัญลักษณ์บนแผนที่ (กดดูว่าสัญลักษณ์อะไรเป็นอะไรได้ด้วยการกดปุ่มรูปแว่นขยาย)   แผนที่โลก (World Map) หากเพื่อนๆ ต้องการเปิดแผนที่โลก ให้กดปุ่ม บริเวณล่างขวาของหน้าจอแผนที่ จากนั้นตัวเกมก็จะเปิดแผนที่โลกทั้งหมดของ AxE ออกมาให้เพื่อนๆ ทราบ และสามารถใช้ในการเป็นตัวช่วยในการเดินทางไปได้ด้วย ซึ่งตัวแผนที่โลกนั้นจะแบ่งออกเป็นพื้นที่ต่างๆ ของ Empire, Alliance และ Conflict

Read more

AxE นั้นเป็นเกมที่เน้นความเป็นสงครามของทั้งสองฝ่าย ตัวระบบ Conflict นี้จึงเป็นหนึ่งในระบบชูโรงของเกม สำหรับตัวระบบนี้ผู้เล่นของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น Empire หรือ Alliance นั้นจะทำการเข้าสู่พื้นที่ Conflict เพื่อเข้าต่อสู้ห่ำหั่นกันในแบบ Real-time กันเลยทีเดียว Conflict ระบบ Conflict นั้นจะเปิดให้ใช้งานได้หลังจากที่ผ่าน Main Quest 5-1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อนๆ จะสามารถเข้าเล่นได้โดยการเข้าพื้นที่ Conflict ก่อนหากเป็นการเข้าเล่นครั้งแรก ตัว Conflict นั้นจะแบ่งออก Siege War / Territory War และ Deathmatch ซึ่งแต่ละแบบนั้นจะมีเวลาบอกเอาไว้ให้สามารถเช็คได้ระหว่างที่อยู่ในเกมโดยไม่ต้องออกมาดู website อะไรข้างนอก ตัวพื้นที่แต่ละพื้นที่นั้นก็จะมีรางวัลที่แตกต่างกันไป และมีเงื่อนไขว่าต้องผ่าน Main Quest ไหนบ้างถึงจะได้รับรางวัลนั้น รวมถึงเช็คผ่านหน้า ได้ด้วยเช่นกันว่าจะได้รางวัลอะไร ► Siege War ในการเล่นแบบ Siege War นั้น เพื่อนๆ จะมีเป้าหมายร่วมกันอยู่ที่การเข้าไปยึดครองเขตย่อยของพื้นที่ Conflict ให้ได้ แต่ละรอบจะมีเวลาให้ 13 นาที ก่อนเริ่ม 10 นาทีจะปรากฎ Conflict Icon บนพื้นที่นั้น ก่อนเริ่ม 5 นาทีจะมีประกาศแจ้งให้ทราบกับทุกคนที่ยังไม่ได้อยู่ในพื้นที่นั้นๆ เพื่อนๆ สามารถเข้าร่วมได้ด้วยการกด และเลือกเดินทางไปยังพื้นที่ Conflict ดังกล่าว หรือจะใช้ World Map ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการดูข้อมูลเพิ่มเติม เช่นเงื่อนไขการชนะหรือการเข้าร่วมผ่านการกด ที่อยู่ตรง Conflict Icon ได้เช่นกัน อย่างไรก็ดี หากเพื่อนๆ กดออกจาก Conflict จะไม่สามารถเข้าร่วม Conflict ได้อีกเป็นเวลา 30 นาที เงื่อนไขการชนะ ฝ่ายที่สามารถยึดพื้นที่ได้ 100% ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ หากเวลาหมด ฝ่ายที่ยึดได้มากกว่าจะชนะ แต่ถ้าทั้งสองฝ่ายไม่สามารถยึดได้ถึงจุดที่กำหนด จะจบที่ไม่สามารถตัดสินได้และเป็นโมฆะไป กฎของ Siege War การยึดเขตทำได้โดยการยืนอยู่บนพื้นที่ที่ยังไม่ถูกยึดครองเป็นเวลา 5 วินาที (10 วินาทีบนพื้นที่ศัตรู) หากมีผู้เล่นอีกฝ่ายอยู่ในพื้นที่นั้น ค่าการยึดครองจะค้างที่ 99% เมื่อยึดครองได้แล้ว จะได้รับแต้มยึดครอง 1% ทุกๆ 3 วินาที รางวัลของ Siege War จะส่งมอบให้กับตัวละครที่ทำการยึดครองพื้นที่ได้นานเกิน 3 วินาทีเท่านั้น ► Deathmatch Deathmatch นั้นจะต่างจาก Siege War อย่างชัดเจน โดยมีเงื่อนไขการเอาชนะที่เปลี่ยนจากการยึดครองเป็นการฆ่าล้างบาง ฝ่ายใดท่ฆ่าได้มากที่สุดภายในระยะเวลา 7 นาทีจะเป็นฝ่ายที่ชนะไป เรียกว่าสายโหดนี่มากันเต็มโหมดนี้แน่นอน แต่ละรอบจะมีเวลาให้ 7 นาที ก่อนเริ่ม 10 นาทีจะปรากฎ Conflict Icon บนพื้นที่นั้น ก่อนเริ่ม 5 นาทีจะมีประกาศแจ้งให้ทราบกับทุกคนที่ยังไม่ได้อยู่ในพื้นที่นั้นๆ เพื่อนๆ สามารถเข้าร่วมได้ด้วยการกด และเลือกเดินทางไปยังพื้นที่ Conflict ดังกล่าว หรือจะใช้ World Map ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการดูข้อมูลเพิ่มเติม เช่นเงื่อนไขการชนะหรือการเข้าร่วมผ่านการกด ที่อยู่ตรง Conflict Icon ได้เช่นกัน อย่างไรก็ดี หากเพื่อนๆ กดออกจาก Conflict จะไม่สามารถเข้าร่วม Conflict ได้อีกเป็นเวลา 30 นาที เงื่อนไขการชนะ ฝ่ายที่ฆ่าอีกฝ่ายได้มากที่สุดภายในระยะเวลา 7 นาทีจะเป็นฝ่ายที่ชนะ หากแต้มฆ่าเท่ากัน จะจบด้วยการเสมอ หากไม่มีการฆ่ากันเลย จะจบด้วยการโมฆะไป กฎของ Deathmatch การฆ่าผู้เล่นอีกฝ่ายได้จะทำให้ฝ่ายตัวเองได้รับ 1 แต้ม ตัวละครที่ทำความเสียหายใส่อีกฝ่ายแม้แต่ครั้งเดียวจะถือว่ามีส่วนร่วมในการต่อสู้และสามารถรับรางวัลได้ หากทุกคนในฝ่ายไม่สามารถต่อสู้ได้ในระยะเวลาที่กำหนด จะถือว่าแพ้ ► อื่นๆ เกี่ยวกับ Conflict การคืนชีพในช่วง Conflict ตัวละครที่ตายจะถูกชุบขึ้นมาพร้อมกับคนอื่นๆ ในฝ่ายเดียวกันทุกๆ 15 วินาที โดยใช้เวลาชุบ 5 วินาที ระหว่างเล่นใน Conflict การเกิดจุดเกิดที่ใกล้ที่สุดจะใช้งานไม่ได้ แต่ละฝ่ายจะมีจังหวะการเกิดที่ไม่พร้อมกัน ขึ้นกับเวลาของแต่ละฝ่ายที่ทำได้ ระยะเวลาเกิดอาจจะเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมได้ ปาร์ตี้สำหรับ Conflict เมื่อ Conflict เริ่มขึ้น ทุกคนที่เป็นฝ่ายเดียวกันจะถูกสร้างปาร์ตี้ให้ทันที โดยสามารถเช็คได้จากใกล้ๆ ปุ่ม ซึ่งสกิลสนับสนุนต่างๆ นั้นจะสามารถใช้กับเพื่อนร่วมฝ่ายได้ในช่วงนี้ ระบบการเล็งใน Conflict ระหว่าง Conflict นั้น ผู้เล่นอีกฝ่ายที่เข้ามาอยู่ในระยะ 50 เมตรของตัวละครจะทำให้มีปุ่ม ปรากฎเหนือปุ่มสกิล การกดปุ่มนี้จะทำให้สามารถเช็คพลังชีวิตที่เหลืออยู่ รวมถึงสามารถกดวิ่งตามเป้าหมายได้ด้วยการกดที่ชื่อเป้าหมายนั้นๆ Tactical Radar เป็นของเล่นเล็กๆ น้อยๆ ที่จะเปลี่ยนแผนที่ย่อยให้กลายเป็น Tactical Radar และแสดงข้อมูลต่างๆ เพิ่มให้ ธงสีฟ้า ใช้ในการแสดงสัญญาณบอกให้เพื่อนร่วมฝ่ายมารวมตัวกันได้ เครื่องหมายตกใจสีแดง ใช้ในการแสดงสัญญาณบอกให้เพื่อนร่วมฝ่ายทราบว่าตรงนั้นมีอันตราย หลังจากที่ Conflict จบลงนั้น เพื่อนๆ จะสามารถเช็คผลงานของตัวเองตอนจบ และเลือกรับรางวัลตามผลงานที่ทำไปได้ ซึ่งเป็นจุดที่แสดงให้เพื่อนๆ เห็นว่ายังมีอะไรที่สามารถปรับปรุงหรือแก้ไขสำหรับการต่อสู้ครั้งต่อไปได้ด้วย

Read more

Dungeon เป็นหนึ่งในของคู่เกม RPG และใน AxE นอกจาก Dungeon ธรรมดาแล้วก็ยังมี Raid Dungeon ที่มีความยากมากกว่าดันเจี้ยนปกติอีกด้วย ตัว Raid Dungeon นั้นจะปลดล๊อคให้เพื่อนๆ ได้เข้าไปตะลุยเมื่อผ่าน Main Quest 3-8 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว Raid Dungeon การลง Raid Dungeon นั้นก็จะสามารถจับปาร์ตี้กันรวมได้สูงสุดถึง 6 คนให้สมกับความยากที่จะต้องเข้าไปตะลุยบอสในแต่ละดันเจี้ยนกัน ซึ่งจะมีการวัดคะแนนในการลงแต่ละครั้งด้วยความสามารถในการสร้างความเสียหายต่อตัวบอสได้ตอนที่ลงไป ยิ่งทำความเสียหายได้มากเท่าไหร่นั้นก็จะยิ่งได้รางวัลที่ดีขึ้นตามไปทั้งกับตัวเพื่อนๆ และปาร์ตี้ที่ลงด้วยกัน ► การลง Raid Dungeon การลงดันเจี้ยนนี้แต่ละครั้งนั้นจะต้องใช้ Raid Ticket หนึ่งใบต่อการลงเสมอ ตั๋วนี้จะรีเซ็ทให้ทุกๆ เที่ยงคืนของแต่ละวันและจำกัดสูงสุด 1 ใบ นั่นหมายถึงไม่สามารเก็บดองไว้ได้ หรือไปกดเติมตั๋วแล้วใช้ไม่ทันก็ตาม ไม่มีการทบให้ หากตั๋วไม่พอต่อความสะใจนั้น เพื่อนๆ สามารถซื้อตั๋วเพิ่มเติมได้วันละ 1 ใบ ซึ่งตัวตั๋วจะถูกใช้ทันทีเมื่อลง Raid Dungeon และหากหลุดระหว่างที่ลงอยู่หรือเกิดเหตุอาเพศใดๆ จะไม่มีการคืนตั๋วให้ โปรดระวังในจุดนี้ด้วย ► กฎของ Raid Dungeon เมื่อเพื่อนๆ เข้าสู่ตัวดันเจี้ยนแล้ว จะมีเงื่อนไขข้อบังคับในแต่ละดันเจี้ยนร่วมไปกับเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด ไม่ว่าจะเป็นกับดักหรือเหล่ามอนสเตอร์ที่ประดังหน้าเข้ามาถ่วงแข้งถ่วงขาเหล่านักบู๊ทั้งหลาย โดยเป้าหมายของการลงดันเจี้ยนนี้คือการเอาชนะบอสให้ได้ภายในเวลาที่กำหนด หากเพื่อนๆ กำจัดบอสได้ก่อนหมดเวลา จะได้รับรางวัลเต็ม 100% ของการลง Raid นั้นๆ แต่หากฆ่าไม่ทัน รางวัลก็จะถูกตัดทอนลงไปเป็นสัดส่วนที่ทำได้แทน ดังนั้นไม่ต้องเขียมหรือกลัวว่าใครจะดีกว่าใคร อัดให้เต็มที่ล้มมันให้ได้เพื่อรางวัลกับทุกคนที่คุ้มค่าที่สุด อนึ่ง การตายเกลี้ยงยกปาร์ตี้จะมีผลเช่นเดียวกับเวลาหมดและได้รางวัลตามที่ฝืนสู้กันได้นะเอ้อ เพื่อนๆ สามารถเช็คผลประกอบการของสมาชิกแต่ละคน ว่าใครทำอะไรไปเท่าไหร่ได้ด้วยการกดปุ่มแว่นขยาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นความเสียหายที่ทำได้หรือได้รับนั้น จะส่งผลต่ออันดับในการลงทั้งนั้น ► การชุบชีวิตกลับมา ใครที่พลาดตายในระหว่างการลง Raid นั้น จะสามารถคืนชีพกลับมาได้ฟรีหนึ่งครั้ง แต่หลังจากนั้นจะต้องเสีย Rubies นะเอ้อ

Read more

แน่นอนว่าในเกม AxE ที่มีการแบ่งฝ่ายแล้วนั้น เรื่องของคำว่าอันดับรวมถึงชื่อเสียงที่เป็นอีกหนึ่งในจุดขายเล็กๆ ของเกมแนวนี้ก็เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ ซึ่ง AxE ก็ได้มีระบบนี้เช่นเดียวกัน โดยในบทความนี้ก็จะมาขออธิบายให้เพื่อนๆ ทราบกันคร่าวๆ เกี่ยวกับระบบทั้งสองนี้ ค่าชื่อเสียง ค่าชื่อเสียงหรือ Reputation นั้นจะมีส่วนช่วยเหลือตัวละครของเพื่อนๆ ให้เติบโตขึ้นได้ด้วย เจ้าค่าชื่อเสียงนี้หลักๆ จะได้รับจากการทำ Mission หรือ Achievement ให้สำเร็จ และเมื่อถึงระดับที่กำหนดก็จะทำให้ค่าชื่อเสียงนี้เลเวลอัพเพิ่มเติมกันไป ตัวค่าชื่อเสียงนั้นจะมีเลเวลสูงสุดอยู่ที่ 300 เลเวล และเมื่อมีชื่อเสียงที่มากขึ้น ตัวละครก็จะได้รับโบนัสมีค่าพลังโจมตี, พลังป้องกันและค่า HP ที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้แล้วค่าชื่อเสียงเมื่ออัพเลเวลขึ้นมาแล้วจะไม่สามารถลดลงได้อีกรวมถึงคิดแยกตามแต่ตัวละครกันไป เพื่อนๆ สามารถเช็คค่าชื่อเสียงของตัวเองได้ผ่านทางหน้า Mission หรือ Achievement ครับ Ranking ในส่วนของ Ranking หรืออันดับนั้น จะเป็นส่วนที่ใช้แสดงอันดับของเพื่อนๆ โดยขึ้นอยู่กับว่าได้ทำผลงานอะไรไปบ้างในฝ่ายของที่เพื่อนๆ ได้อยู่ ซึ่งอันดับนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนทุกๆ 1 ชั่วโมงและคิดแยกตามตัวละครไม่รวมกันทั้งหมด นอกจากนี้แล้ว ถ้าเพื่อนๆ ไม่ออนเกมเป็นเวลานานๆ ก็จะถูกเขี่ยออกจากอันดับบนกระดานอีกด้วย เรียกได้ว่าไม่ยอมให้ดาวค้างฟ้ากันเลยทีเดียว ► ชนิดของ Rank Daily Rank (อันดับประจำวัน) : อันดับนี้จะมีการปรับทุกๆ เที่ยงคืนของแต่ละวัน และมีการมอบฉายาให้กับผู้เล่นที่ทำอันดับที่กำหนดได้ Weekly Rank (อันดับประจำสัปดาห์) : อันดับนี้จะปรับทุกๆ เที่ยงคืนวันจันทร์ของแต่ละสัปดาห์และมีการมอบรางวัลให้ตามแต่อันดับที่ผู้เล่นแต่ละคนดันขึ้นไปได้ รางวัลของระบบอันดับนี้จะสามารถกดรับได้เมื่อเพื่อนๆ สามารถดันตัวเองขึ้นไปติดอยู่ในอันดับที่กำหนดได้ และสามารถเช็คได้จากในส่วนของ Reward Details จ้า ► วิธีการกดรับรางวัล สิ่งสำคัญที่เราควรทำทุกวันคือการกดรับรางวัลจากผลงานของเราด้วย ซึ่งหากเราทำอันดับหรือคะแนนเอาไว้สูงในหลายๆ ครั้งจะมีฉายาพิเศษที่เพิ่มค่าสเตตัสให้เราได้เยอะมากๆ ดังนั้นอย่าลืมกดรับกันนะจ๊ะ 1.กดไปที่หน้า Rank 2.กดไปที่ปุ่ม Collect หรือถ้าขี้เกียจกดรับทีละอันกด Collect All ไปเลยก็ได้

Read more

ในเกมที่เด่นด้านการทำสงครามต่างฝ่ายกันอย่าง AxE ระบบที่สนับสนุนการทำสงครามโดยเฉพาะก็จะเป็นอะไรที่ชูโรงมาก ในครั้งนี้ก็จะมาพูดถึงส่วนของระบบ Invasion หรือการบุกฝ่ายกันบ้าง ซึ่งเป็นระบบที่ทำมาสนับสนุนการทำสงครามโดยเฉพาะ โดยแทนที่จะเป็นสงครามสเกลใหญ่ ระบบนี้จะเป็นการจัดปาร์ตี้ไปทำเควสถล่มพื้นที่ศัตรูกันแทน Invasion ตัวระบบ Invasion จะเปิดให้ใช้งานหลังจากที่ได้ทำการผ่าน Main Quest 4-4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวระบบนี้จะคล้ายกับ Field of Honor ตรงที่ต้องใช้ไอเทม Invasion Ticket ในการเข้าร่วม โดยเพื่อนๆ จะเก็บได้ 3 ใบและทุกๆ เทีย่งคืนระบบจะเติมให้เป็น 3 ใบอีกครั้งหากถูกใช้ไป เพื่อนๆ สามารถสร้างปาร์ตี้เพื่อบุก Conflict Area ของอีกฝ่ายได้ โดยการบุกนี้ก็จะใช้ทำ Assigned Special Quest ได้ รวมถึงหากผ่านเควสก็จะได้ Valor Point, Rune Upgrade Stone, Rune รวมถึงบัพพิเศษอีกด้วย ระหว่างบุก เพื่อนๆ จะสามารถถูกอีกฝ่ายโจมตีได้ ระบบ Invasion จะไม่สามารถใช้ได้ช่วง 10 นาที ก่อน Conflict เริ่มและ 10 นาที หลัง Conflict จบลง เควส Invasion จะสามารถแชร์เพื่อร่วมทำไปพร้อมๆ กันกับสมาชิกในปาร์ตี้คนอื่นได้ อย่าลืม! ► รูปแบบของภารกิจ ตัวภารกิจนั้นจะมีอยู่หลากหลายแบบส่วนมากก็จะเป็นการจำกัดมอนเสตอร์ที่กำหนด หรือหาของที่เกมกำหนดเอาไว้ ซึ่งเราสามารถกดออโต้ได้ครับ ดังนั้นจึงไม่ยากอะไร ► ข้อมูลหน้าจอ Invasion พื้นที่ที่เปิดให้ Invade จำนวนไอเทม Invasion Ticket ที่ต้องการ วิธีการเข้าร่วม Repeat คือการเล่นซ้ำแบบเดิม, Quick Play จะทำการเข้าร่วมทันทีแบบสุ่มปาร์ตี้, Party Play จะใช้สำหรับการเล่นแบบปาร์ตี้กัน แสดงจำนวนตั๋วที่มีอยู่ ► การเข้าเล่น Invasion กดเข้าร่วมแบบที่ต้องการ โดยหากกด Quick Play และไม่มีปาร์ตี้ที่เหมาะสม ตัวเกมจะสุ่ม AI มาให้ในปาร์ตี้แทน หลังจากเลือกปาร์ตี้แล้ว ให้เลือก Conflict Area เพื่อรับเควส Invasion จากนั้นให้เล่นตามเควสได้เลย จุดที่ต้องระวังก็จะอยู่ที่การโดนอีกฝ่ายโจมตีได้ จุดที่ต้องระวังคือ ตัวเควส Invasion นั้นจะมีเวลากำหนดอยู่ หากหมดเวลาเมื่อไหร่ จะถือว่าการบุกครั้งนั้นล้มเหลวทันที นอกจากนี้การออกจากปาร์ตี้ก่อนที่เควสจะเสร็จ ก็จะนับว่าคนที่ออกจากปาร์ตี้ไปนั้นบุกไม่สำเร็จในครั้งนั้นด้วยเช่นกัน เงื่อนไขเควสพังปลีกย่อย รับเควสอื่นมาทำ ออกจากพื้นที่เควส กดยอมแพ้/ทิ้งเควสหลังตาย โดนเตะออกจากปาร์ตี้หลังหลุดจากเกมนานไป คนในปาร์ตี้ผ่านเควสกันแล้วระหว่างที่หลุด ► การแจ้งเตือน เมื่อมีศัตรูทำการ Invade พื้นที่ของฝ่ายเพื่อนๆ ตัวเกมจะมีการแจ้งเตือนให้ทราบไปยังผู้เล่นของฝ่ายที่ถูก Invade ทำให้สามารถสามัคคีรวมตัวกระทืบอีกฝ่ายได้อย่างพร้อมเพรียง เพื่อนๆ สามารถกดที่ปุ่มแจ้งเตือนในหน้าจอแผนที่เพื่อไปยังพื้นที่นั้นๆ ที่ถูกบุกได้ การทำ Invasion Quest สำเร็จจะเป็นอะไรที่ช่วยให้เพื่อนๆ สามารถพัฒนาตัวละครได้ง่ายขึ้น ด้วยรางวัลที่มีให้ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น Rune, Rune Upgrade Stone, Valor Point ทำให้เป็นอีกระบบที่ควรทำทุกวันจริงๆ หากต้องการจะปั่น Rune

Read more

สถานรบแห่งเกียรติยศหรือ Field of Honor ใน AxE นั้น เป็นชื่ออย่างอลังการของระบบสนามประลอง PvP แบบ 1-1 นั่นเองจ้า โดยตัวสนามประลองนี้จะเปิดให้ใช้งานหลังจากที่เพื่อนๆ ได้ผ่าน Main Quest 2-17 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว Field of Honor ระบบการ pvp แบบ 1-1 ของสนามประลองนี้มีจุดที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ คนที่ประลองจะสามารถจับคู่ประลองได้โดยไม่ต้องเกี่ยงว่าใครจะอยู่ฝ่ายไหน และไม่สามารถใช้ Auto Battle หรือ Manual Skill Battle ได้ การจะเข้าประลองนั้น เพื่อนๆ จะต้องมีไอเทม Field of Honor Ticket ติดตัวก่อน เจ้าตั๋วนี้จะสามารถสะสมได้ 5 ใบและได้รับเพิ่มวันละ 5 ใบทุกวัน และการเข้าร่วมประลองจะทำให้เพื่อนๆ ได้รับคะแนนของตัวสนามประลองสำหรับการจัดลำดับในแต่ละ Season ซึ่งในระดับ League ที่สูงขึ้นก็จะต้องใช้อันดับและคะแนนที่สูงขึ้นตามไปด้วย ► ของรางวัล ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เพื่อนๆ จะได้รับของรางวัลในการต่อสู้เสมอ โดยเฉพาะรูนต่างๆ แถมยังมีของรางวัลที่ได้จากการทำอันดับได้ดีในแต่ละอาทิตย์อีกด้วย ทำให้เป็นอีกหนึ่งในระบบที่หลายคนมักจะใช้ในการล่าของเพิ่มเติมกัน นอกเหนือไปจากความมันส์ในการได้บู๊กันแบบ 1-1 *ของรางวัลประจำอาทิตย์จะหายไปหากไม่กดรับก่อนหมดเวลา*

Read more

ระบบ Rune ในเกม AxE นั้นจะปรากฎให้ใช้งานต่อเมื่อเพื่อนๆ ผ่านเนื้อเรื่องหลัก 4-3 ในเกมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตัวรูนนั้นเมื่อติดตั้งให้กับตัวละครก็จะทำให้มีค่าสเตตัสต่างๆ เพิ่มขึ้นตามแต่ชนิดของรูนกันไป จึงเป็นอีกหนึ่งในจุดที่เพื่อนๆ ควรให้ความสนใจหากต้องการให้ตัวละครเก่งขึ้นนั่นเอง เรื่องเกี่ยวกับ Rune เพื่อนๆ จะสามารถหารูนมาใช้ได้จากการเล่นในโหลดต่างๆ เช่น Arena, Field of Honor, Conflict หรือ Invasion เป็นหลัก แต่ก็สามารถหาได้จากการเล่นใน Mission หรือซื้อจากร้านค้าได้เช่นกัน โดยเพื่อนๆ จะสามารถพกติดตัวได้สูงสุด 75 ชิ้น ช่องเก็บรูนนี้สามารถได้ด้วยการใช้ Rubies ซื้อช่องขยายเพิ่มเติม ► ชนิดของ Rune รูนจะมีการแบ่งออกเป็นสองระดับ (Tier) คือ Greater Tier และ Lesser Tier โดยในแต่ละระดับก็จะแตกย่อยออกมาสองรูปทรง (Shape) แต่ละรูปทรงแบ่งออกเป็น 4 ชนิด (Type) และยังมีการแบ่งเกรดความหายากเป็น 6 อย่างตั้งแต่ Normal, Fine, Rare, Epic, Unique ไปจนถึง Mystic อีกด้วย ► การติดตั้ง Rune การติดตั้งรูนนั้นทำได้โดยการเลือกไปที่ปุ่ม ในหน้าจอเมนูหลัก ซึ่งเพื่อนๆ จะสามารถติดตั้งรูนได้ตามแต่รูปทรงของช่องว่างนั้นๆ ยกเว้นในช่องที่ 7 ที่สามารถติดตั้งรูปทรงไหนก็ได้ โดยมีข้อระวังคือการถอดรูนออกจะต้องใช้ Gold เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อถอดได้แต่หากเลือกแบบไม่จ่ายเงินจะเป็นการทำลายรูนเดิมทิ้งทันที และในการใส่รูนนั้นจะต้องเลือกให้ตรงกับประเภทของช่องด้วย นอกเหนือจากเรื่องของรุนแล้วยังมีช่องใส่รูนด้วยครับ โดยช่องใส่รูนจะแบ่งออกเป็นสองจักรราศี แต่ละจักรราศีนั้นก็จะมีช่องการติดตั้งรูนที่แตกต่างกันออกไป อนึ่ง หากเพื่อนๆ ติดตั้งรูน 4 ชิ้นที่มีชนิดเดียวกันแล้ว จะได้รับ Set Effect เพิ่มเติมด้วย Rune Forge Rune Forge หรือการพัฒนารูนนั้นเป็นระบบเสริมที่ใช้ทำให้รูนของผู้เล่นมีคุณสมบัติที่ดีขึ้นได้ โดยมีวิธีการหลายรูปแบบดังนี้ ► Rune Enhancement รูนแต่ละชิ้นจะสามารถ Enhance ได้สูงสุด 15 เลเวล โดยในการ Enhance แต่ละครั้งจะต้องใช้รูนเพิ่มเติมด้วย และเกรดหรือความหายากของรูนที่ใช้ในการ Enhance จะเป็นตัวกำหนดโอกาสที่จะ Enhance สำเร็จหรือไม่ดังตารางด้านล่างนี้ ตารางข้อมูลจากเว็บบอร์ดของเซิร์ฟเวอร์ Global *ถ้าเกรดของ "รูนที่ใช้" กับ "รูนที่จะอัพ" นั้นเป็นเกรดเดียวกัน โอกาสสำเร็จจะเป็น 100%* วิธีการ Enhance นั้นจะทำได้โดยการกดปุ่ม ของรูนที่ต้องการ Enhance จากนั้นก็เลือกรูนที่เป็นชนิดเดียวกัน(อันนี้จะหายไปหลัง Enhance) เมื่อใดก็ตามที่เพื่อนๆ ทำการ Enhance จะมีโอกาสประมาณ 25% ที่จะได้รับโบนัสพิเศษ ซึ่งจะสุ่มได้สูงสุดถึง 5 ครั้งด้วยกัน โดยถ้าหากเราอัพเกรดรูนนั้นไปยังระดับที่สูงขึ้นโบนัสก็จะยังคงอยู่ครับ ► Rune Combination เพื่อนๆ จะสามารถทำการผสมรูนได้ต่อเมื่อมีรูนที่มีการ Enhance ไปแล้วจนตัน 15 เลเวลแล้ว  เราสามารถใช้รูนที่มีรูปร่าง, ขนาดเดียวกัน รวมถึง Gold ในการผสมได้ หลังจากการผสมแล้วนั้น รูนที่ได้ออกมาจะมีรูปร่างแบบเดิม แต่ชนิด (ชื่อและคุณสมบัติ) จะเปลี่ยนไปแบบสุ่ม *Note : รูนเกรด Mystic ไม่สามารถ Combine ได้* ► Rune Upgrade นอกจากการผสมรูนแล้ว รูนที่มีการ Enhance ไป 15 เลเวลแล้วยังสามารถนำมาอัพเกรดให้เป็นระดับที่สูงขึ้นได้โดยใช้ Rune Upgrade Stone เพิ่มเติม ซึ่งเจ้าหินนี้ก็จะได้จากการเล่นใน Invasion เป็นหลัก และบางครั้งอาจจะได้จาก Mission หรือ Quest บางอย่างด้วย การอัพเกรดรูนนั้นจะทำให้เพื่อนได้รับรูนที่มีชนิดเดิมแต่เป็นระดับสูงขึ้น (ชื่อ, รูปทรง, คุณสมบัติแบบก่อนหน้า) โดยรูน ATK และ DEF จะใช้หินแตกต่างกัน Rune ATK : ใช้ Bravery Rune Upgrade Stone Rune DEF : ใช้ Earth Rune Upgrade Stone ► Rune Disassembly การแยกส่วนรูนจะทำให้ได้รับ Rune Crystal ที่เป็นส่วนประกอบในการสร้างรูนขั้น Greater ต่อไปได้

Read more

The Holy Darkhaan Empire หรือ Empire เป็นหนึ่งในสองฝ่ายของ AxE ซึ่งฝ่าย Empire นั้นจะเป็นฝ่ายที่เชื่อมั่นในตัวตนของพระเจ้าและทำทุกวิถีทางที่จะคืนชีพพระเจ้ากลับขึ้นมาบนโลกนี้ ต่างจากทาง Alliance ที่ต้องการอิสระภาพและต้องการหยุดยั้งไม่ให้พระเจ้ากลับมาสู่โลกนี้อีกครั้ง เรียกว่าไม่ได้ใกล้เคียงกันเลยแม้แต่น้อย https://www.youtube.com/watch?v=qChAv3-UUeQ The Holy Darkhaan Empire ในด้านของทางจักรวรรดิ Darkhaan นั้น ถือว่าพระเจ้านั้นเป็นที่สุดของพวกเขา พวกเขาได้เรียกจักรวรรดิของตนเองว่าเป็นจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์และมองเหล่า Alliance เป็นพวกนอกรีต ไร้ศาสนาและไร้กฎเกณฑ์ ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ การคืนชีพให้กับพระเจ้า Benvu จึงเป็นเป้าหมายสูงสุดของพวกเขาในเวลานี้เพื่อที่จะนำมาซึ่งสิ่งที่พวกเขายึดมั่นและชัยชนะเหนือเหล่า Alliance ► ภาพรวมของฝ่าย หลักการ : ชนชั้นและกฎเกณฑ์ ศาสนาและความเชื่อ : จงรักภักดีในตัว Benuv (จักรพรรดิทำหน้าที่เป็นพระสันตปะปา) ผู้นำ : Strauss (จักรพรรดิองค์แรก) พื้นที่ : ทั่วทวีป Grenvis คำขวัญ : พระเจ้าจักนำความเจริญจงมาสู่ Darkhaan คำทักทาย : ขอให้แสงสว่างนำทางคุณ คำอวยพร/คำรับ : เพื่อเกียรติแห่ง Darkhaan!, เหล่าพวกนอกรีตจงตายซะ!, คำสอนของพระเจ้าจงยั่งยืน!   ► เผ่าพันธุ์และสายอาชีพ Iron Elves : Valkyrie Northerners : Warrior Kiko : Mage   ► มุมมองต่อฝ่าย Alliance พวกนอกรีต, คนทรยศ, ไร้อารย, พวกบ้านนอกหลังเขา, พวกเสนียดที่พระเจ้ายังไม่เอา   ► เป้าหมายของสงคราม เพื่อการคืนชีพของ Benuv, ล้างบาง Kaidan และสร้างโลกที่มีสันติสุขให้ได้   แผงผังทางการปกครอง High Mage : องค์การที่ไม่ขึ้นกับฝ่ายใด Kalevala Society : กลุ่มชนชั้นที่อยู่ภายใต้ High Mage Emperor : จักรพรรดิผู้มีอำนาจสูงสุด (แยกจาก High Mage อีกทีหนึ่ง) Ministry : เปล่าผู้ปกครองหลัก Ministry of the State : ผู้ปกครองในแต่ละรัฐประเทศ Various Subjects : คอยดูแลเรื่องราวต่างๆ Imperial Army : กองทัพหลวง Supreme Commandant : หัวหน้าทัพเฉพาะระดับสูง Subordinate Troops : กองทัพใต้บัญชา Special Ops : กลุ่มทหารพิเศษโดยเฉพาะ Silver Knights : อัศวินเกราะเงิน High Priestess : สังฆราช Benuv Imperial Faith : กองทัพของฝ่าย Freya Knights : เหล่าอัศวิน Freya

Read more

Alliance หรือ The Galanos Alliance เป็นหนึ่งในสองฝ่ายของ AxE โดยตัวฝ่าย Alliance นั้นจะเป็นฝ่ายที่มีความอิสระเสรี มีอิสรภาพ ไม่ขึ้นหรือยึดติดกับพระเจ้าต่างๆ มีการปกครองโดยอาศัยหลักประชาธิปไตย ทำให้ฝ่าย Alliance นั้นมีความตรงกันข้ามกับ The Darkhaan Empire โดยสิ้นเชิงเลยทีเดียว https://www.youtube.com/watch?v=sJ6ELfYpk1o The Galanos Alliance ตัวฝ่าย The Galanos Alliance นั้นก็เรียกได้ว่าตรงข้ามกับทาง Empire โดยสิ้นเชิง ซึ่งมีความเป็นอิสระและประชาธิปไตย ซึ่งแม้ว่าในบทบาทเป้าหมายสงครามจะเป็นการป้องกันการคืนชีพของ Benuv แต่ก็ยังมีความอิสระที่จะเปิดให้ประชาชนสามารถนับถือในตัว Benuv ได้ด้วยเช่นเดียวกัน ► ภาพรวมของฝ่าย หลักการ : อิสรภาพและความรับผิดชอบ ศาสนาและความเชื่อ : อิสระ (หลายคนเชื่อในตัวตนของ Benuv และคอยขอพรอยู่เสมอ) ผู้นำ : กลุ่มสมาชิกของแต่ละเผ่า ซึ่งจะผลัดกันเป็นประธานาธิปดี พื้นที่ : ทั่วทวีป Essos คำขวัญ : ขอให้เสรีภาพเกิดขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด คำทักทาย : โชคลาภจงอยู่กับคุณ คำอวยพร/คำรับ : เสรีภาพจงอยู่ตลอดไป, แด่ Galanos, ความคลั่งจงพินาศ ► เผ่าพันธุ์และสายอาชีพ Forest Elves : Archer Titan : Titan Nomads : Blademaster ► มุมมองต่อฝ่าย Empire ป่าเถื่อน, ขยะ, พวกจิตใจอ่อนแอ, หมูตะวันตก, ขี้ข้าของพระเจ้า   ► เป้าหมายของสงคราม เพื่อหยุดยั้งการคืนชีพของ Benuv (และ Kaidan) และสร้างโลกที่สวยงามโดยไม่ต้องยืมมือพระเจ้า   แผงผังทางการปกครอง Voodoo Queen Enclave : องค์การที่ไม่ขึ้นกับฝ่ายใด เชื่อใน Benvu และมีเวทมนตร์ต่างๆ Alliance President : สมาชิกของแต่ละเผ่าที่ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเป็นประธานาธิปดี Roundtable Council : กลุ่มสมาชิกผู้นำของแต่ละเผ่า (เช่น Kiristan, Ornua, Calvanis) Unified Government : รัฐบาลร่วม Various Minister : แจกจ่ายอำนาจสู่ผู้ปกครองในแต่ละระดับชนชั้น Alliance Army : กองทัพหลักของฝ่าย Alliance Minister of Defense : ควบคุมทิศทางของกองกำลังในฝ่าย Freedom Troops : กองกำลังอิสระ Subordinated Troops : กองกำลังย่อยในเงื่อนไขต่างๆ

Read more

Warrior เป็นอาชีพในสายแทงค์ของฝ่าย Empire ภายในเกม AxE ซึงอาชีพนี้จะใช้ดาบใหญ่เป็นอาวุธ โดยความแตกต่างของอาชีพนี้กับ Titan คือ Warrior จะโจมตีค่อนข้างช้ากว่า แต่ก็แลกมากับดาเมจและระยะสกิลที่ค่อนข้างมากกว่าครับ โดยสกิลของอาชีพนี้จะเหมาะกับการ PVP แบบหมู่เอามากๆ เพราะกวาดทีนึงกว้างมาก แต่ถึงแบบนั้นการ PVP แบบ 1 ต่อ 1 ก็ไม่ได้แย่นะครับ เนื่องจากสกิลค่อนข้างกว้างดังนั้นหมายความว่าในสนามเล็กๆ การที่อีกฝ่ายจะหลบ เลยถือเป็นอะไรที่แอบลำบากพอควรเลย แต่ถ้าหากเราใช้สกิลพลาดบ่อย ก็อาจเป็นเป้านิ่งให้ตีฟรีเอาได้ง่ายๆ นะ https://www.youtube.com/watch?v=LE4S9Jw9IGs Active Skill ชื่อสกิล ความสามารถ ผลของสกิล CD Ascending Strike โดดเข้าฟาดฟันก่อนจะฟันเสยขึ้น ทำความเสียหาย 2 ครั้ง % ของความเสียหายทั้งหมด 15 Dark Strike ทำการโจมตีอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง ทำความเสียหาย 6 ครั้ง % ของความเสียหายทั้งหมด 19 Sacred Slash ใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ฟันอย่างรุนแรงตามแนวขวาง ทำความเสียหาย 2 ครั้ง % ของความเสียหายทั้งหมด 23 Whirling Blade หมุนตัวฟันเช่นเดียวกับพายุ สร้างความเสียหายต่อเนื่อง ทำความเสียหาย 5 ครั้ง % ของความเสียหายทั้งหมด 30 Mighty Blow I สะสมพลังงานเข้าสู่ดาบเพื่อโจมตีอย่างรุนแรงครั้งเดียว ทำความเสียหาย 1 ครั้ง % ของความเสียหายทั้งหมด 40 Mighty Blow II เพิ่มระยะเวลาร่ายสกิล และเพิ่มความเสียหายมากขึ้น ทำความเสียหาย 1 ครั้ง % ของความเสียหายทั้งหมด 40 Heavens Asunder I ฟาดลงอย่างรุนแรงพร้อมกับพลังของสายฟ้า ทำความเสียหาย 2 ครั้ง % ของความเสียหายทั้งหมด 45 Heavens Asunder II เพิ่มระยะเวลาร่ายสกิล และเพิ่มความเสียหายมากขึ้น ทำความเสียหาย 2 ครั้ง % ของความเสียหายทั้งหมด 45 Fury Burst I บันดาลโทสะ ฟาดฟันศัตรูต่อเนื่อง ทำความเสียหาย 7 ครั้ง % ของความเสียหายทั้งหมด 50 Fury Burst II เพิ่มระยะเวลาร่ายสกิล และเพิ่มความเสียหายมากขึ้น ทำความเสียหาย 5 ครั้ง % ของความเสียหายทั้งหมด 50 *สกิลทั้งหมดมีเลเวลสูงสุดที่เลเวล 10* Passive Skill ชื่อ Passive ผลของ Passive Enhance ATK เพิ่มพลังโจมตี 30 Enhance ATK Improvement เพิ่มพลังโจมตี 0.2% Enhance DEF เพิ่มพลังป้องกัน 30 Enhance DEF Improvement เพิ่มพลังป้องกัน 0.2% *พาสซีสสกิลทั้งหมดมีเลเวลสูงสุดที่เลเวล 25* Attributes ► ฝั่งซ้าย เลเวล ชื่อ Attribute ผลของ Attribute CD 10 Blind I ในเวลา 5 วินาทีจะทำให้ศัตรูรอบตัวตาพร่า ลดความแม่นยำลง ลดพลังป้องกันลง 7.2% เป็นเวลา 3 วินาที และลดความเร็วการเคลื่อนที่ลง 1.2 เป็นเวลา 3 วินาที ระยะทำการ 9 เมตร 110 20 Short Grip ทำให้เป้าหมายเคลื่อนที่ช้าลง 80% เป็นเวลา 5 วินาที 10 25 Impregnable Defense I สร้างโล่ดูดซับความเสียหายให้กับสมาชิกในปาร์ตี้ ลดความเสียหาย 28% เป็นจำนวน 10 ครั้ง หากใช้ใน Raid จะลดความเสียหาย 48% เป็นจำนวน 20 ครั้ง ระยะทำการ 50 เมตร 150 30 Short Run เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ 40% เป็นเวลา 5 วินาที 30 40 Blind II ในเวลา 5 วินาทีจะทำให้ศัตรูรอบตัวตาพร่า ลดความแม่นยำลง ลดพลังป้องกันลง 9.6% เป็นเวลา 5 วินาที และลดความเร็วการเคลื่อนที่ลง 1.6 เป็นเวลา 4 วินาที ระยะทำการ 9 เมตร 110 50 Impregnable Defense II สร้างโล่ดูดซับความเสียหายให้กับสมาชิกในปาร์ตี้ ลดความเสียหาย 32% เป็นจำนวน 10 ครั้ง หากใช้ใน Raid จะลดความเสียหาย 64% เป็นจำนวน 20 ครั้ง ระยะทำการ 50 เมตร 150 70 Blind III ในเวลา 5 วินาทีจะทำให้ศัตรูรอบตัวตาพร่า ลดความแม่นยำลง ลดพลังป้องกันลง 12% เป็นเวลา 5 วินาที และลดความเร็วการเคลื่อนที่ลง 2 เป็นเวลา 5 วินาที ระยะทำการ 9 เมตร 110 80 Impregnable Defense III...

Read more
Page 160 of 189 1 159 160 161 189