PC Guide

Palworld เป็นเกมแนวเอาตัวรอดที่มีส่วนผสมของเกมแนวเลี้ยงสัตว์ ซึ่งถ้าให้พูดแบบเข้าใจง่ายเลยจะเหมือนกับเกม Ark ผสมกับ Pokemon แต่ตัวเกมได้มีการเพิ่มระบบต่าง ๆ และทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้่น และมีความดืบเถื่อนอยู่พอสมควร โดยภายในบทความนี้ทางผู้เขียนได้รวมเทคนิคเบื้องต้นและเรื่องที่ควรทราบ เอาไว้ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน หรือหากอยากอ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับเกมนี้สามารถกดได้ที่ Palworld Table of contentsการเล่นกับเพื่อนการตั้งฐานและคำแนะนำในการเลือกช่วงต้นวิธีจับ Pal และใช้น้อง ๆ ในการทำงาน รวมถึงเอามาขี่ค่าสเตตัสของตัวละครการต่อสู้ในช่วงแรกการอัปเกรด Palบอสและหอคอยการเก็บเลเวลพ่อค้าดันเจี้ยน การเล่นกับเพื่อน เกมนี้สามารถเล่นกับเพื่อนด้วยกันได้รวม 4 คน หากเล่นแบบไม่ได้เปิดใช้ Dedicated Server ซึ่งวิธีการเปิดผ่านคอมพิวเตอร์สามารถอ่านได้ที่ >>Click<< แต่โดยพื้นฐานแล้วหากเล่นแบบปกติเราจะชวนเพื่อนได้ผ่าน Invite Code ครับ การตั้งฐานและคำแนะนำในการเลือกช่วงต้น การตั้งฐานในช่วงต้นแนะนำว่าควรตั้งในแถบ Plateau of Beginnings เนื่องจากทรัพยากรเริ่มต้นจะค่อนข้างเยอะและเหมาะกับคนที่พึ่งเล่นใหม่ โดยให้พยายามหาที่กว้าง ๆ เพราะการวางของภายในฐานจะต้องใช้พื้นที่ค่อนข้างเยอะ ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลไปเราสามารถย้ายฐานทีหลังได้ แต่อาจต้องเหนื่อยย้ายของนิดหน่อยครับ การเลือกฐานให้พยายามหลีกเลี่ยงการวางติดกัับภูเขา หรือที่คิดแม่น้ำเยอะ ๆ เพราะจะไม่สามารถใช้พื้นที่ได้เต็มที่ โดยเราสามารถสร้างฐานได้โดยการสร้าง Palbox เพื่อกำหนดเขตฐานได้ โดยข้อดีของตัวฐานคือสามารถใช้เป็นจุดวาร์ปได้เลย แต่จะสร้างได้จำกัด ข้อดีของการมีฐานคือไอเทมที่อยู่ภายในกล่องของฐานทั้งหมดจะสามารถดึงมาคราฟได้ หมายความว่าเราเพียงแค่ยัดของเข้าไปในกล่องต่าง ๆ ก็สามารถคราฟจากตรงไหนก็ได้ของฐานครับ โดยหลังจากเล่นไปเรื่อย ๆ และอัปเกรดฐานไปจนเลเวลสูง ๆ เราจะสามารถตั้งฐานเพิ่มได้ แต่ทั้งนี้ทรัพยากรในแต่ละฐานจะแยกกัน ตรงนี้ผมแนะนำว่าฐานหากจะสร้างเพิ่มควรย้ายฐานไปที่เกาะอื่นเพื่อที่จะได้มีัจุดที่วาร์ปง่าย ๆ หรืออาจจะไปหาจุดที่มีทรัพยากรเยอะ ๆ ก็ได้ สำหรับการสร้างสิ่งต่าง ๆ ภายในเกมสามารถทำได้โดยการกดปุ่ม B โดยในช่วงแรกจะยังสร้างของได้ไม่เยอะ แต่หลังจากที่เลเวลอัปแล้ว จะสามารถเรียนการสร้างสิ่งของใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาได้ โดยจะได้แต้มสกิลทุกครั้งที่เลเวลอัป และจะมีของพิเศษที่ใช้แต้มม่วงในการอัป ตรงนี้จะหาได้จากการจัดการกับบอสต่าง ๆ ภายในเกมโดยจะได้แค่ครั้งแรกที่กำจัดได้เท่านั้น วิธีจับ Pal และใช้น้อง ๆ ในการทำงาน รวมถึงเอามาขี่ เราสามารถที่จะจับ Pal มาใช้ได้โดยการคราฟไอเทมที่ชื่อว่า Pal Sphere มาใช้งานโดยจะต้องทำการอัปเลเวลให้ถึง 2 ก่อน จะคราฟ Pal Sphere ระดับแรกได้ ส่วนระดับที่สูงขึ้นจะอัปได้ตอนเลเวล 14 / 20 / 27 / 35 / 44 โดยยิ่งระดับสูงจะยิ่งมีโอกาสจับได้มากขึ้น เรื่องของธาตุภายในเกมนี้ ธาตุของ Pal จะมีด้วยกันอยู่ 9 ธาตุโดยการแพ้ชนะจะเป็นตามตารางนี้ครับ สำหรับการใช้งานน้อง ๆ เราจะสามารถดูได้ว่าน้องตัวไหนทำงานอะไรได้บ้าง โดยจะมีบอกในหน้าต่างข้อมูลของน้อง ๆ โดยไล่ตามลำดับ ความสามารถในการทำงานแต่ละด้านจะมีดังนี้ Kindling: หลอมเหล็ก + ทำอาหารPlanting: ปลูกผักHandiwork: ช่วยคราฟของหรือสร้างของLumbering: ตัดไม้Medicine Production: ทำยาTransporting: แบกของเอาของไปเก็บในกล่องWatering: รดน้ำต้นไม้Generating Electricity: ผลิตไฟฟ้า Gathering: เก็บผลผลิตMining: ขุดแร่Cooling: สร้างความเย็นใช้กับของช่วงหลัง ๆ Farming: สามารถเอาเข้าฟาร์มเพื่อผลิตของอะไรบางอย่างได้เช่นไก่จะผลิตไข่ แกะจะผลิตขน *เราสามารถดู ว่าน้อง ๆ ทำงานอะไรได้ตอนเอาเมาส์ชี้ในหน้าอื่นเช่นกันแต่ถ้ากด F ตอนเอาเมาส์ชี้จะมีคำอธิบายรายละเอียดที่ค่อนข้างจะละเอียดกว่า ทั้งนี้เราสามารถกด F เพื่อยกน้องขึ้นมา แล้วโยนไปในจุดที่ต้องการให้ทำงานนั้น ๆ ได้กรณีที่น้องสามารถทำงานได้หลายประเภท เพื่อให้น้องโฟกัสงานที่เรามอบหมาย สิ่งที่ควรทราบคือ มอนสเตอร์แต่ละตัวจะมีทักษะพิเศษต่างกันออกไป บางตัวก็จะมีความสามารถในการต่อสู้ หรือบางตัวก็จะมีความสามารถเด่นในการทำงาน โดยเช็คได้โดยการกด F ที่ตัวมอนสเตอร์ จะมีคำอธิบายความสามารถอยู่ อาทิเช่น Work Slave จะช่วยทำให้ทำงานไวขึ้น แต่พลังโจมตีจะลดลง ทำให้ไม่เหมาะกับการเอาไปใช้สู้ สำหรับการเอาน้อง ๆ มาขี่ เราจะต้องทำการจับตัวที่สามารถขี่ได้ก่อน หลังจากนั้นเราจะสามารถอัปสกิล เพื่อสร้างอุปกรณ์สำหรับขี่ที่โต๊ะ Pal Gear Workbench ได้ครับ หลังจากที่สร้างแล้วเพียงแค่เราเอามอนสเตอร์ที่จะขี่ออกมาก็เป็นอันเรียบร้อย ทั้งนี้การใช้สกิลพิเศษของ Pal บางตัวก็จะมีรวิธีการเช่นเดียวกัน ค่าสเตตัสของตัวละคร สำหรับการอัปค่าสเตตัสของตัวละคร อยู่กับว่าเราชอบทำอะไรเป็นหลัก โดยหลังจากเลเวลอัปเราสามารถเลือกอัปค่าที่ชอบโดยการกดไปที่ Enhanced Stats ซึ่งจะมีค่าดังนี้ HP : เพิ่มค่าพลังชีวิต Stamina : ค่าพลังงานสูงสุด Attack : พลังโจมตี Defense : พลังป้องกัน Work Speed : ความเร็วในการทำงานต่าง ๆ Weight ; น้ำหนักที่ขนได้ ในช่วงแรกแนะนำว่าควรเพิ่มค่า Weight ให้ได้สัก 500 ก่อนเพื่อขนของ ส่วนค่าอื่น ๆ แล้วแต่ว่าชอบเล่นแนวไหน ในส่วนของ Stamina แรก ๆ อาจจะสำคัญแต่ถ้าเราเล่นไปสักพักแล้วจะขี่สัตว์ได้ทำให้ค่านี้อาจไม่ได้จำเป็นเท่าช่วงแรก และสำหรับค่า Work Speed หากเราบริหาร Pal ดี ๆ ให้น้องมาช่วยสร้างก็อาจจะไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น เว้นแต่เราชอบสร้างของเยอะมาก ๆ หรือเป็นคนที่คอยจัดการงานที่บ้านเป็นหลัก การต่อสู้ในช่วงแรก ในช่วงแรกก่อนที่จะมีปืนหรืออาวุธระดับสูง การใช้มอนสเตอร์ในการต่อสู้จะสามารถทำดาเมจได้มากกว่าการโจมตีด้วยตัวเองมาก ๆ ดังนั้นแนะนำว่าควรหา Pal เอาไว้ต่อสู้สัก 2-3 ตัวกระจายธาตุ กันเผื่อเจอธาตุที่แพ้ และเหลือเผื่อไว้ช่องนึงสำหรับมอนสเตอร์ที่เอาไว้เดินทาง เช่นพวกตัวที่ขี่ได้และวิ่งได้ไว ๆ จะช่วยให้เราเล่นได้ง่ายขึ้น การอัปเกรด Pal นอกจากการเก็บเลเวลแล้วเนี่ย เราสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของ Pal ด้วยการอัปดาวได้ด้วยการใช้ Pal Essence Condenser โดย จะคราฟได้หลังจากเลเวล 14 เราสามารถใช้มอนสเตอร์ที่ซ้ำกันมาผสมรวมกันเพื่อให้ได้มอนสเตอร์ระดับที่สูงขึ้นได้ แนะนำตัวควรเลือกตัวที่สกิลดี ๆ เป็นตัวแม่ ทั้งนี้ในช่วงหลัง ๆ เราจะสามารถเอามอนสเตอร์มาผสมพันธ์กันได้ด้วย โดยจะได้มาเป็นไข่ แล้วต้องเอาไปฟักอีกที บอสและหอคอย ภายในเกมนี้จะมีบอสอยู่ 2 ประเภทคือ บอสที่อยู่กระจายตามแผนที่ เป็นมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่าปกติ เราสามารถไปท้าสู้และจับได้ โดยพวกมันจะเกิดใหม่เรื่อย ๆ ซึ่งครั้งแรกที่เราจัดการได้จะได้แต้มสกิลสีม่วงมาอัปสกิลด้วย ส่วนบอสที่อยู่ในหอคอยจะเป็นเหมือนบอส Event ที่เราจะเจอกับผู้ฝึกมอนสเตอร์ที่ปกป้องอยู่ หากชนะได้จะได้แต้มม่วง เช่นกัน แต่เราจะไม่สามารถจับได้ หน้าตาของหอคอยจะเป็นประมาณดังภาพ ภายในหอคอยจะเจอกับบอสเราจะต้องเอาชนะให้ได้ สำหรับบอสที่อยู่ตามแมพเราสามารถเช็คได้โดยการกดปุ่ม M บนแผนที่...

ภายในเกม Palworld ตัวมอนสเตอร์ของเราจะมีด้วยกันอยู่ทั้งหมด 9 ธาตุด้วยกัน ซึ่งถ้าหากว่าเราใช้ธาตุที่ชนะทางโจมตีใส่ธาตุที่แพ้จะสามารถทำดาเมจได้รุนแรงขึ้น เช่นเดียวกันครับ หากว่า มอนสเตอร์ของเรารับดาเมจจากตัวที่แพ้ทางก็จะได้รับดาเมจน้อยลง ธาตุ ชนะแพ้WaterFireElectricFireIceWaterGrassGroundFireGroundElectricGrassElectricWaterGroundFireIceWaterDragonDarkIceDarkNaturalDragonNaturalไม่มีDark เกี่ยวกับ Palworld Palworld เป็นเกมแนวเอาตัวรอดผสมกับการจับสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักมาใช้งาน ซึ่งเราสามารถฝึกและใช้งานพวกมอนสเตอร์ภายในเกมที่เรียกว่า Pals ได้ ไม่ว่าจะเอามใช้เป็นเพื่อน เป็นแรงงาน หรืออาหาร ก็สามารถทำได้ภายในเกมนี้

หลังจากที่ผู้เขียนได้ลองหาวิธีในการเล่นกับเพื่อนจำนวนมาก ๆ ดูก็ได้เจอกับวิธีการเปิด Dedicated Server ซึ่งสารภาพว่าตัวผู้เขียนต้องใช้เวลางมอยู่พอสมควรเลย เพราะไปติดในส่วนของการ Forward Port เพราะโมเด็มในไทยไม่ค่อยเหมือนต่างประเทศเท่าไหร่ จนลองงมดูจากหลาย ๆ ที่และดูจากเกมอื่น ๆ เป็นตัวอย่าง จนสามารถทำได้ โดยวิธีในการเปิด Dedicated server เพื่อน ๆ สามารถทำได้ตามนี้เลยครับ ซึ่งบางวิธีอาจจะเกิน ๆ ไปบ้างต้องขออภัยนะครับ เพราะทางผู้เขียนทดลองด้วยตัวเองอาจจะมีผิดพลาดบ้าง วิธีการเปิด Dedicated server 1.ดาวน์โหลด Palworld Dedicated Server บน Steam ก่อน ( ณ ปัจจุบันหากใครเล่นใน Xbox Game Pass จะยังไม่มี) โดยหากเราซื้อเกมมาแล้วจะสามารถโหลดมาเปิดผ่านคอมพิวเตอร์ของเราได้เลย หลังจากที่โหลดมาเรียบร้อยแล้ว ให้ให้กดเข้าไปโดยจะมีตัวเลือกปรากฎขึ้นมา 2 ตัว คือ1.1) Play Palworld Dedicated Server - อันนี้คนอื่นจะไม่เห็นเซิร์ฟเวอร์ที่เราเปิด จะต้องเข้าโดยตรงผ่าน IP เท่านั้น เหมาะกับคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัว1.2) Open and star as a community sercver - หลังจากสร้างแล้วผู้เล่นทั่วไปจะเห็นเซิร์ฟเวอร์ของเรา ตามภาพบนเราจะเลือกตรงไหนก็ได้แล้วกด Play แล้วจะได้หน้าต่างประมาณนี้ กดปิดไปก่อนได้เลยแค่กดให้รู้ว่ารันได้ปกติหรือเปล่า 2.ทำการตั้งค่าพื้นฐานของเซิร์ฟเวอร์ที่เราจะเปิด ง่ายสุดคือกดคลิปขวาที่ Palworld Dedicated Server > คุณสมบัติ > ไฟล์ที่ติดตั้งแล้ว > เปิดหา มองหาไฟล์ที่ชื่อ DefaultPalWorldSettings ทำการเปิดด้วย อะไรก็ได้ที่แก้ไขไฟล์ได้ ง่ายสุดคือ Notepad โดยส่วนนี้เราจะตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ได้ เช่นพวกความยาก และอื่น ๆ โดยจุดสำคัญที่ต้องแก้คือ ServerName / AdminPassword แก้ตามต้องการได้เลยส่วนตรง PublicPort ให้ใส่เป็น 8211 2. ทำการติดตั้ง Steam CMD โดยโหลดได้จากหน้านี้ https://developer.valvesoftware.com/wiki/SteamCMD#Windows เข้าไปแล้วกดตรง Download steamCMD for Window (ถ้าใช้วินโดว์) ส่วน Linux ให้ทำตามขั้นตอนในเว็บ จะต่างจากวินโด้ 3.ให้แตกไฟล์ให้เรียบร้อยแล้วกดเปิด จะได้หน้าต่างประมาณนี้ พิมพ์คำสั่ง login anonymous แล้วรอสักครู่ จากนั้นพิมพ์คำสั่ง app_update 2394010 แล้วรอสักครู่ให้ดาวน์โหลดไฟล์ต่าง ๆ ให้เรียบร้อยจะใช้เวลาสักครู่ 4.เป็นการ Forward Port อันนี้จะเป็นส่วนที่ค่อนข้างยากที่สุด ซึ่งโมเด็มแต่ละรุ่นก็จะต่างกัน โดยของทางผู้เขียนจะใช้เป็น Huawei HG8245H เราสามารถทำการ Forward ได้โดยการเข้าไปที่โมเด็ม 192.168.1.1 เข้ามาแล้วให้กดที่ Forward Rules > Port Mapping Configuration > Add (หากเป็นโมเด็มรุ่นอื่นอาจต่างกันเล็กน้อย) โดยให้ดูตามภาพล่าง ส่วนที่ 1 เดี๋ยวจะอธิบายทีหลัง แต่ส่วนเลข 2-4 สามารถกรอกตามได้เลย โดยกดกด Add แล้วเพิ่มเข้าไป ในส่วนของเลข 1 ตรง Internal Host จะมี Public IPเช็คได้โดยการเข้าที่ CMD ของคอมเราแล้วพิมพ์ ipconfig เอาเลขตรง IPv4 มาใส่ 5.ให้เช็ค Firewall ของเรา ว่าเปิด Public ให้กับ Palworld หรือยัง 6.ให้ทำการเปิด Palworld Dedicated Server จากนั้นให้เพื่อน ๆ ลองเข้าเกมได้เลย โดยการพิมพ์เลข IP ของเครื่องที่เปิด สามารถเช็คได้ที่ https://whatismyipaddress.com/ ตรง IPv4 ตอนเข้าเกมให้กดที่ Join Multiplayer Game กรอกเลข IP ของเครื่องเราตามด้วย :8211 เช่น 180.XXX.XXX.XXX:8211 หรือหากเปิดแบบ Community ก็สามารถเสริ์จหาจากหน้า Community Server ได้ หากสำเร็จเราจะสามารถเข้าไปในเซิร์ฟเวอร์ได้

Dr.Ratio เป็นตัวละครในสายล่าสังหารธาตุ "จินตภาพ" ภายในเกม Honkai: Star Rail ซึ่งถือว่าหาได้ยากมาก ๆ โดยเป็นตัวละครที่สามารถทำการโจมตีเป้าหมายเดี่ยวได้อย่างรุนแรง Table of contentsรีวิวการใช้งาน Dr.Ratioสกิลของ Dr.RatioLight Cone แนะนำของ Dr.Ratioเซ็ต Relic แนะนำข้อมูล Eidolon และคำแนะนำตัวอย่างทีมแนะนำสรุปการ Build –Dr.Ratio รีวิวการใช้งาน Dr.Ratio ตัวละครนี้จัดว่าเป็นตัวละครที่ทำดาเมจใส่เป้าหมายเดี่ยวได้แรงมากกกกกกก แถมเป็นธาตุจินตภาพที่หาไม่ค่อยได้เท่าไหร่ โดยดาเมจหลักจะมาจากการสะสมบัฟและการโจมตีต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถเอาไปเล่นกับทีมโจมตีต่อเนื่องได้ด้วย แถมด้วยการสะสมบัฟคริก็ทำให้ดาเมจรุนแรงขึ้นได้มาก ๆ การจะแสดงความสามารถของตัวละครนี้ออกมาได้เต็มที่ ควรจะจัดทีมร่วมกับตัวละครที่มีดีบัฟเข้าไปด้วย เพราะจะทำให้สามารถโจมตีได้รุนแรงขึ้น ซึ่งหากจะให้พูดถึงภาพรวม ๆ แล้วตัวละครนี้ค่อนข้างดีในการใช้กับ Content ที่เฉพาะทางมาก แต่การเอาไปใช้กับการเล่นทั่ว ๆ ไปอาจจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ เหตุผลสำคัญเลยคือต้องใช้เวลาในการเซ็ตอัประดับนึง ทำให้คนที่ชอบความรวดเร็วอาจจะไม่ชอบเท่าไหร่ ในการเอาไปจัดการกับมอนกี้กี้ในฉาก แต่ถึงยังไงก็ตาม Dr.Ratio เป็นตัวที่ทำดาเมจได้แรงมากแบบจริงจัง หากสามารถ Set up ได้ ตัวอย่างเนื้อหาที่เอาไปลงแล้วเหมาะมาก ๆ เช่น Memory of Chaos ที่จัดว่าเป็นตัวที่น่าใช้แบบสุด ๆ และด้วยความที่ตัวละครนี้มีเมคานิกการเล่นที่อาจจะชวนให้ผู้เล่นใหม่สับสนนิดหน่อย ทั้งการที่ได้ผลพิเศษจากการโจมตีศัตรูที่มีดับัฟ หรือ เงื่อนไขของการออกการโจมตีต่อเนื่อง อาจทำให้คนท่พึ่งเล่นค่อนข้างสับสน แต่หากเราทำความเข้าใจกับสกิลดี ๆ แล้วตัวละครนี้จัดเป็น DPS ที่จัดจ้านเอามาก ๆ ข้อดีข้อเสียเป็นตัวละครแจกฟรีทำดาเมจเป้าหมายหมู่ไม่ค่อยดี ทำดาเมจเป้าหมายเดี่ยวได้รุนแรงมากไม่ได้เหมาะกับทุก Contentใช้รีริคได้หลายแบบจำเป็นต้องมีตัวดีบัฟในทีม สกิลของ Dr.Ratio ชื่อความสามารถMind is Might - โจมตีปกติ (เดี่ยว)สร้าง DMG จินตภาพ 130% ของ ATKIntellectual Midwifery - สกิลต่อสู้ (เดี่ยว)สร้าง DMG จินตภาพ 187.5% ของพลังโจมตีแก่ศัตรูที่กำหนด 1 ตัว Syllogistic Paradox - ท่าไม้ตาย (เดี่ยว)สร้าง DMG จินตภาพ 288% ของ ATK แก่ศัตรู 1 ตัว พร้อมสร้างสถานะ "ความเขลาของปราชญ์" เมื่อเืพ่อนร่วมทีมโจมตีเป้าหมายที่ติดสถานะนี้ Dr.Ratio จะปล่อยการโจมตีต่อเนื่อง แก่เป้าหมายดังกล่าว 1 ครั้ง โดยเอฟเฟกต์ "ความเขลาของปราชญ์" เกิดได้สูงสุด 2 ครั้งโดยจะมีผลต่อเป้าหมายล่าสุดที่เขาทำการปล่อยท่าไม้ตายเท่านั้น หลังจากที่ปล่อยท่าไม้ตายแล้ว เอฟเฟกต์ดังกล่าวจะถูกรีเซ็ต Cogito, Ergo Sum - พรสวรรค์ (เดี่ยว)เมื่อปล่อยสกิลต่อสู้ มีโอกาส 40% ที่จะปล่อยการโจมตีต่อเนื่อง แก่เป้าหมายดังกล่าว 1 ครั้งทำดาเมจ จินตภาพ 337.5% โดยทุก 1เอฟเฟกต์ Debuff ที่เป้าหมายมีจะทำให้ โอกาสคงที่ ในการปล่อยการ โจมตีต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 20% หากเป้าหมายถูกกำจัดก่อนที่จะปล่อยการ โจมตีต่อเนื่อง จะสุ่มปล่อยการ โจมตีต่อเนื่อง ให้แก่ศัตรูหนึ่งตัว Mold of Idolatry - เทคนิค (สกัดกั้น)หลังใช้เทคนิคแล้วจะสร้างพื้นที่พิเศษ ที่ยั่วยุให้ศัตรูเข้ามาโจมตีเป็นเวลา 10 วินาที หลังจากที่เข้าสู่การต่อสู้ พร้อมกับศัตรูในพื้นที่พิเศษ จะมีโอกาสพื้นฐาน 100% ที่ความเร็วของศัตรูจะลดลง 15% เป็นเวลา 2 เทิร์น เอฟเฟกต์พื้นที่ ที่ฝ่ายเราสร้างขึ้น จะมีได้สูงสุดเพียง 1 จุดเท่านั้น *อ้างอิงจากเลเวลสกิลสูงสุด Light Cone แนะนำของ Dr.Ratio ชื่อความสามารถBaptism of Pure Thought (ประจำตัว)ทำให้ DMG คริติคอลของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 20%  แต่ละครั้งที่ศัตรูเป้าหมายได้รับเอฟเฟกต์ Debuff 1 เอฟเฟกต์ ผู้สวมใส่จะสร้าง DMG คริติคอลแก่เป้าหมายดังกล่าวเพิ่มขึ้น 8%  ซ้อนทับได้มากสุด 3 ชั้น เมื่อใช้ท่าไม้ตายโจมตีศัตรูเป้าหมาย ผู้สวมใส่จะได้รับเอฟเฟกต์ "พิพาท" ซึ่งจะทำให้สร้าง DMG เพิ่มขึ้น 36%  และการโจมตีต่อเนื่องจะเพิกเฉยต่อ DEF 24% ของเป้าหมาย โดยเอฟเฟกต์นี้จะคงอยู่ 2 เทิร์นWorrisome Blissfulทำให้อัตราคริติคอลของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 18%  และการโจมตีต่อเนื่องสร้าง DMG เพิ่มขึ้น 30%  หลังจากผู้สวมใส่ปล่อยการโจมตีต่อเนื่อง จะทำให้เป้าหมายติดสถานะ "Tame" โดยเอฟเฟกต์นี้ ซ้อนทับได้มากสุด 2 ชั้น เมื่อเป้าหมายฝ่ายเรา โจมตีศัตรูเป้าหมายที่ติดสถานะ "Tame" สถานะ "Tame" แต่ละชั้นจะทำให้สร้าง DMG คริติคอลเพิ่มขึ้น 12%Cruising in the Stellar Seaทำให้อัตราคริติคอลของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 8%  และทำให้ผู้สวมใส่สร้างอัตราคริติคอล แก่ศัตรูเป้าหมายที่มีเปอร์เซ็นต์ HP น้อยกว่าหรือเท่ากับ 50% เพิ่มขึ้นอีก 8% หลังจากผู้สวมใส่กำจัดศัตรูเป้าหมายแล้ว ATK จะเพิ่มขึ้น 20%  เป็นเวลา 2 เทิร์นOnly Silence Remainsทำให้ ATK ของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 16%  เมื่อจำนวนศัตรูเป้าหมายในการต่อสู้มีเท่ากับหรือน้อยกว่า 2 ตัว อัตราคริติคอลของผู้สวมใส่จะเพิ่มขึ้น 12%Subscribe for More!ทำให้ DMG จากการโจมตีปกติ และสกิลต่อสู้ของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 24%  เมื่อค่าพลังงานในปัจจุบันของผู้สวมใส่เท่ากับพลังงานสูงสุด เอฟเฟกต์นี้จะเพิ่มขึ้นอีก 24%Return to Darknessทำให้อัตราคริติคอลของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 12%  หลังจากติดคริติคอล จะมีโอกาสคงที่ 16%  ในการลบล้างเอฟเฟกต์ Buff 1 เอฟเฟกต์ ของศัตรูเป้าหมายที่ถูกโจมตี โดยเอฟเฟกต์นี้จะเกิดขึ้นได้แค่ 1 ครั้งต่อการโจมตี เซ็ต Relic แนะนำ เบื้องต้นเลยแนะนำเป็น Wastelander of Banditry Desert เนื่องจากเราจะได้ค่าดาเมจจินตภาพมาเยอะที่สุด และหากใส่ครบ 4 ชิ้นยังเพิ่มค่า CRIT RATE อีก 10% แถมดาเมจ CRIT อีก 20% กับศัตรูที่โดนขังอยู่ แต่หากเราจะเล่นทีมดาเมจต่อเนื่อง การใส่ผสมกับ The Ashblazing Grand Duke ก็เป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับเซ็ตรองแนะนำให้ใช้เป็น Firmament Frontline: Glamoth เพื่อเร่งดาเมจให้ได้มากที่สุด เนื่องจากเราใช้ตัวละครนี้เป็น...

Ruan Mei ตัวละครในพาร์ทสระสาน "ธาตุน้ำแข็ง" ที่มีสกิลช่วยเหลือทีมได้เป็นอย่างดี ด้วยสารพัดบัฟ และ เป็นตัวละครเดียวที่มีความสามารถเพิ่มการทำลายจุดอ่อนหรือเกราะขาวของศัตรู ( ณ แพทช์ปัจจุบัน 1.6) ยังไม่มีตัวละครอื่นที่ทำได้

สารบัญเป้าหมายของเกมการหาเงินเลือกแบบไหนดี?การปลูกผัก / พืชผลตกปลาเก็บของป่าขายจับแมลง + จับสัตว์ทะเล :เลี้ยงสัตว์ขุดเหมืองวิธีการคราฟไอเทมเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเล่นการเล่นปีแรกในแต่ละฤดูSpringSummerFallWinterการปลูกผักและผลผลิตเกี่ยวกับผลผลิตยักษ์บริจาคของให้เทพธิดาการดำน้ำวิธีการฟื้นฟูทะเลดันเจี้ยนใต้ทะเลการจับแมลงและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไอเทมที่มักจะหาไม่เจอช่วงแรกอธิบายเรื่องความสัมพันธ์กับ NPC และเทคนิคการเพิ่มความสัมพันธ์วิธีการหา NPCการแต่งงานการลงเหมืองเทคนิคการลงเหมืองอย่างรวดเร็วการเลี้ยงสัตว์แบบสรุประยะเวลาการคืนทุน (อย่างช้าที่สุด) ของสัตว์แต่ละชนิดวิธีการทำอาหารการตกปลาฉบับสรุปสิ่งที่ควรทราบในการตกปลาวิธีอัปเกรดอุปกรณ์การเปิดหีบสมบัติและขุดฟอสซิสรวมถึง Geodeการอัปเกรดบ้านการอัปเกรดผลผลิตและวิจัยอุปกรณ์ใหม่ ๆการตกแต่งบ้านร้านค้าลับการย้ายตำแหน่งสิ่งก่อสร้างวิธี Enchanting อุปกรณ์อธิบายระบบเควสวิธีการเล่นกับเพื่อนวิธีการแต่งงานกับนาง/นาย เงือกบั๊คเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจเจอในการเล่นและการแก้ปัญหา เป้าหมายของเกม ใน Coral Island เราจะเล่นแบบชิล ๆ ไปเรื่อย ๆ ก็ได้ครับ แต่ตัวเกมก็ได้มีการแทรกเควสหลัก และภารกิจเอาไว้ให้เราทำซึ่งเป็นหนึ่งในความท้าทายในการเล่นเกมนี้และทำให้ตัวเกมเล่นแล้วสนุกขึ้น โดยภารกิจใหญ่ที่ผู้เล่นจะได้รับเลยคือ การฟื้นฟูเมืองเพราะด้วยเหตุผลบางประการทำให้เมืองอันแสนสวยงามร้างและไม่มีนักท่องเที่ยว ซึ่งแต่เดิมแล้วเมืองอยู่ในแรงค์ที่ค่อนข้างสูง แต่ ณ วันที่เราย้ายเข้ามาเมืองของเราก็อยู่ในแรงค์ต่ำสุดหรือแรงค์ F ไปเรียบร้อยแล้ว เราสามารถที่จะทำการพัฒนาและฟื้นฟูเมืองให้กลับไปอยู่ในแรงค์ที่สูงขึ้นได้ โดยการทำภารกิจย่อยต่าง ๆ 3 หมวดดังนี้ครับ 1.บริจาคของให้พิพิธภัณฑ์: หลังจากที่เราเข้าไปที่พิพิธภัณฑ์ครั้งแรก จะปลด Event และหลังจากนั้นเราจะสามารถนำของมาบริจาคได้ โดยของที่สามารถบริจาคได้จะเป็นพวก ปลา / แมลง / ของโบราณ / อัญมณี / ฟอสซิล ซึ่งจะบริจาคได้ชนิดละครั้ง ซึ่งเราจะได้ของรางวัลเป็นการตอบแทนด้วย โดยการบริจาคของ 1 ชิ้นจะได้แต้มฟื้นฟูเมือง 3 แต้ม 2.ฟื้นฟูทะเล: หลังจากที่เราปลด Event ลงไปใต้ทะเลได้แล้วจะช่วยฟื้นฟูทะเลได้โดยการใช้แท่นพลังงาน โดยการฟื้นฟูแต่ละจุดจะได้แต้มฟื้นฟูเมือง 10 แต้ม และจะปลดล็อกโซนใหม่ ๆ เพิ่มเติม โดยยิ่งลึกจะยิ่งมีสิ่งมีชีวิตหายากและ สาหร่ายที่ใช้ในการอัปเกรดการวิจัย 3.ส่งของให้เทพธิดา: อันนี้จะคล้าย ๆ กับบริจาค แต่จะแตกต่างกันเล็กน้อยตรงเราจะต้องส่งของที่เทพธิดาระบุเท่านั้น ซึ่งก็จะมีไล่ตั้งแต่ของที่หาได้ง่ายและของที่หาได้ยากมาก ๆ ซึ่งการจะได้คะแนนจากหมวดนี้เราจะต้องส่งให้ครบประเภทในหมวดนั้น ๆ จึงจะได้ ซึ่งแต้มที่ได้จะค่อนข้างเยอะเลยครับ โดยส่วนของ Town Rank จะขึ้นเมื่อเราทำคะแนนในหมวดอื่น ๆ ทุกหมวด การหาเงินเลือกแบบไหนดี? ในช่วงปีแรกเงินจะเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ ในการเล่นเพราะการอัปเกรดสิ่งต่าง ๆ การซื้อของมาใช้งาน การวิจัยสิ่งต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ใช้เงินทั้งสิ้น ซึ่งในช่วงเดือนแรกตัวเลือกเราอาจจะไม่เยอะมาก แต่พอเข้าสู่ช่วงเดือนที่ 2 ไปเราจะพอมีเงินไปทำสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่ค่อยพออยู่ดี โดยผมจะอธิบายถึงข้อดี / ข้อเสีย ของสายต่าง ๆ ในช่วงปีแรกให้ฟังให้ ตัดสินใจในเบื้องต้นครับ การปลูกผัก / พืชผล ขอเรียกรวม ๆ ว่าปลูกผักนะครับ สายนี้เป็นสายที่หาเงินก้อนได้ง่ายที่สุด แต่ทั้งนี้การปลูกผักจำนวนมากในช่วงแรกจะใช้เวลาเยอะมากกกกกกก และต้องใช้พลังงานในการรดน้ำต้นไม้เยอะเช่นกัน ซึ่งการจะเล่นสายปลูกผักแนะนำว่าควรจะทำคู่ไปกับการดำน้ำ เพื่อเร่งหาวัตถุดิบในการสร้างสปริงเกอร์หรือเครื่องรดน้ำอัตโนมัติเพื่อลดเวลาในการปลูกผักให้มากที่สุด เพื่อจะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ โดยหากอยากจะเน้นปลูกผักอย่างเดียวก็ปลูกที่โตแล้วเก็บขายเลยจะได้กำไรเยอะกว่า แต่ถ้าอยากได้เวลาไปทำอย่างอื่นไม่ต้องมานั่ง หว่านเมล็ดใหม่บ่อย ๆ ก็ปลูกพืชที่เก็บซ้ำได้หลาย ๆ ครั้ง ซึ่งพืชในกลุ่มที่เก็บซ้ำได้ ซึ่งในเดือนแรกเลยจะปลูกไม่ค่อยทัน อาจต้องปลูกที่โตแล้วเก็บขายไปก่อน สายนี้จะหาเงินได้เร็วมากช่วงเดือนที่ 2 - 3 เป็นต้นไป ในช่วงเดือนแรก ให้เน้นไปที่การหาเงินมาซื้อเมล็ดพืชในเดือนที่ 2 จะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นครับ และพอเดือนที่ 3 หากว่าเราเริ่มมีสปริงเกอร์หรือเครื่องรดน้ำอัตโนมัติแล้ว ก็เหลือแค่รอเก็บผลผลิตแล้วล่ะ ซึ่งพอเริ่มมีทรัพยากรเยอะ ๆ ให้เราทำการสร้างพวกถังเพื่อเอาไว้แปรรูป ผลผลิตจะทำให้ได้เงินเยอะขึ้นกว่าขายตรง ๆ ในส่วนของราคาผลผลิตต่าง ๆ ทางผมเคยรวมไว้ให้แล้วโดยสามารถดูราคาของผลผลิตได้ที่บทความนี้ครับ Coral Island ราคาผลผลิต และการปลดล็อก (Spring / Summer / Fall / Winter ) ส่วนสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมแนวนี้การปลูกผัก เราจะต้องทำการพรวนดินโดยใช้ Hoe ก่อน จากนั้นจึงจะหว่านเมล็ดลงไปได้โดยให้ถือเมล็ดไว้แล้วกดคลิกที่ช่องที่ต้องการ หลังจากนั้น ก็รดน้ำ โดยจะต้องรดทุกวันจนกว่าจะโตเต็มที่แล้วจะเก็บเกี่ยวได้ จากนั้นสามารถเอาไปขายโดยการใส่ไว้ในกล่อง ข้าง ๆ บ้าน หรือเอาไปขายที่ร้านค้าตรง ๆ ตกปลา สายนี้เป็นสายที่ปั๊มตังได้ไวที่สุดในช่วงแรก (ย้ำว่าช่วงแรกนะ) เพราะตอนตกปลาในเกมนี้เวลาจะหยุด หมายความว่าเราสามารถปั๊มปลาได้แทบจะเรื่อย ๆ เลย โดยเวลาจะเดินแค่ตอนชาร์จกับเหวี่ยงเบ็ด ซึ่งสายนี้จะเหมาะมากในการปั๊มเงินช่วงเดือนแรก - เดือนที่สอง หรืออาจจะมาตกปลาฆ่าเวลาหลังจากทำกิจกรรมอื่น ๆ ในเกมเรียบร้อยแล้วเสริมรายได้อีกทีก็ได้ ข้อเสียอย่างเดียวของสายนี้คือมันกินเวลาเยอะมาก หากใครขยันก็จัดไปครับ ซึ่งสายปลูกผักจะเริ่มหาเงินได้มากกว่าหลังจากที่เราเริ่มมีแปลงผักเยอะ ๆ แล้ว แต่ในช่วงต้น มั่นใจได้เลยว่าการตกปลาหาเงินได้เยอะกว่า แต่หากอยากโฟกัสที่หาเงินจริง ๆ จัง ๆ ช่วงเดือนที่ 2 ไปเน้นไปที่ปลูกผัก / เลี้ยงสัตว์จะหาได้ไวกว่า *Tip: คุณภาพของปลาจะสูงขึ้นตามระดับการฟื้นฟูทะเล หมายความว่าเรามีโอกาสได้ปลาในระดับดาวที่สูงกว่าปกติ หากว่าระดับของ Ocean เราสูงขึ้น เก็บของป่าขาย วิธีที่ดีมากในการปั๊มเงินช่วงต้นเกมแบบ Easy Money หากเราสามารถที่จะจำจุดของป่าเกิดบ่อย ๆ ได้เราสามารถวนไปเก็บได้เรื่อย ๆ ทั้งนี้ต้องแจ้งไว้ก่อนว่า แต่ละวันมันอาจจะสุ่มเกิดไม่เหมือนกัน ดังนั้นอาจจะต้องคอยเช็คดูดี ๆ และจำจุดที่ของป่าเกิดบ่อย ๆ เอาไว้ครับ โดยในช่วงเดือนแรก หากวันไหนโชคดีเก็บของป่าได้เยอะสามารถหาเงินได้เกิน 1000 Coin เลยทีเดียว จับแมลง + จับสัตว์ทะเล: สายนี้ช่วงแรกหาเงินค่อนข้างยากครับ แต่ในทะเลดันมีของจำเป็นในการอัปเกรดวิจัย กับทำสปริงเกอร์ ซึ่งการจับสัตว์ทะเล กับการจับแมลงจะคล้ายกันคือต้องใช้สวิงจับ และเราจะเริ่มดำน้ำได้หลังจากเล่นไปสักพักนึง ให้ผ่านช่วงวันแรก ๆ ของเกม ซึ่งที่ผมบอกว่ามันหาเงินได้ยากเป็นเพราะว่า การจับแมลง + จับสัตว์ทะเล เวลาของเกมจะเดินตามปกติ ทำให้หากเราไม่โชคดีจริง ๆ การจะปั๊มเงินจากสายนี้เป็นอะไรที่ยากมาก แต่หลังจากที่เลเวลอัปไปเยอะระดับนึงแล้วเราจะหาเงินได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถเอาสัตว์ทะเลไปแปรรูปได้ ส่วนแมลงไม่ค่อยมีอะไรเพิ่มมูลค่าเท่าไหร่ หลังจากที่เราเล่นไปสักระยะแล้วและฟื้นฟูปะการังทั้งหมดได้แล้ว จะมีเควสให้เราสามารถกลายเป็นนาง/นายเงือกได้ สามารถอ่านรายละเอียดเต็ม ๆ ได้ที่ Coral Island วิธีการแปลงร่างเป็นเงือก เลี้ยงสัตว์ สายนี้เนื่องจากในช่วงแรกการซื้อสัตว์มาเป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก และต้องเลี้ยงให้มีค่าความรักระดับนึงถึงจะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง เลยต้องใช้เวลาสักระยะ แต่หากว่าเล่นไปสักระยะนึงแล้ว สายนี้หาเงินได้เป็นรองแค่ปลูกผักเท่านั้นครับ โดยการขายวัตถุดิบตรง ๆ อาจได้ราคาไม่สูงมาก แต่ผลผลิตจากสัตว์ทุกอย่างเราสามารถแปรรูปก่อนเอาไปขายได้ ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างคุ้ม ขุดเหมือง สายนี้เป็นอีกสายนึงที่หาเงินได้ค่อนข้างลำบาก แต่ข้อดีคือเราจะมีโอกาสเจอไอเทมเอาไปบริจาคให้ Museum ได้บ่อย และมีของจำเป็นในการเอาไปอัปเกรดอุปกรณ์ ซึ่งแนะนำว่าควรหาเวลามาขุดเหมืองบ้าง เพื่ออัปเกรดของ แต่ถ้าจะหาเงินจริงจังไปโฟกัสทำอย่างอื่นดีกว่าครับ เพราะของที่ได้จากเหมืองโดยรวมแล้วช่วงต้นเกมขายไม่ได้ราคาเท่าไหร่ และเรายังต้องเจอกับมอนสเตอร์มากวนใจด้วย...

ภายในเกม Coral Island ผู้เล่นสามารถที่จะแต่งงานกับตัวละครหรือ NPC ภายในเกมได้ โดยเราสามารถที่จะแต่งงานได้ทั้งกับตัวละครชายและตัวละครหญิงเลยครับ โดยวิธีการนั้นจะต้องทำอะไรบ้างไปดูกัน วิธีการแต่งงานภายในเกม Coral Island 1.จะต้องขอเป็นแฟนก่อนเพื่อปลดล็อกหัวใจให้สามารถขึ้นไปถึง 10 ดวงได้ โดยจะต้องซื้อไอเทมที่ชื่อว่า Locket ที่อยู่ในร้าน Blacksmith จะมีขายหลังจากมีตัวละครที่แต่งงานได้มีระดับหัวใจถึง 8 โดยให้นำไปมอบให้ NPC ที่ต้องการขอเป็นแฟน (จะขอได้คนเดียวเท่านั้น) 2.หลังจากที่ขอเป็นแฟนแล้วเราจะเลื่อนระดับความสัมพันธ์จนถึงหัวใจ 10 ดวงได้ หลังจากที่ถึงแล้วเช่นเดียวกันกับตอนขอเป็นแฟน จะมี Item ใหม่มาขายในร้านค้า Blacksmith ชื่อว่า Diamond Ring ราคา 5000 Coin ให้นำไปมอบให้แฟน ก็จะสามารถแต่งงานได้ โดยอีกเงื่อนไขที่ควรทราบคือเราจะต้องทำการอัปเกรดบ้านเป็นระดับ 3 ก่อน 3.งานแต่งงานจะเริ่มขึ้นในอีก 4 วันให้หลัง โดยจะมีชาวเมืองมาแสดงความยินดีกับเรา ซึ่งในวันแต่งงานตัวเกมจะบังคับเจอ Event หลังจากที่เราออกจากบ้าน และงานจะเสร็จเรียบร้อยหลังจากเที่ยง สำหรับการมีลูกเราจะต้องต่อเติมบ้านถึงระดับ 4 ก่อน และภรรยา / สามี มีหัวใจถึง 14 ดวง + (อันนี้ไม่ชัวร์แต่น่าจะ 14) จะมีเหตุการณ์ที่เราจะได้รับลูกมา การมีลูก การมีลูกเราจะต้องอัปเกรดบ้านเป็นระดับ 4 ก่อน โดยตัวเกมจะเพิ่มห้องสำหรับเด็กเข้ามา และภรรยา / สามี ของเราจะต้องมีหัวใจอย่างน้อย 14 ดวง (ตรงนี้ไม่คอนเฟิร์ม) โดยหลังจากเล่นไปจะมีเหตุการ์ณที่คู่ของเราสอบถามว่าอยากมีลูกไหม หากเราตอบ Yes หลังจากนั้นไม่นานเราจะมีเด็ก ภาพประกอบจาก Reddit

ในเกม Coral Island เวลาเราดำน้ำอยู่จะเจอปัญหาว่าสามารถเคลื่อนที่ได้ค่อนช้างช้าและลำบากมาก แต่ปัญหานั้นจะหมดไป หากเราแปลงร่างเป็นเงือกเรียบร้อยแล้ว โดยเราจะแปลงร่างเป็นเงือกได้อัตโนมัติหลังจากที่ลงมาในโซนทะเล ซึ่งวิธีการในการรแปลงร่างเป็นเงือกมีเงื่อนไขดังนี้ เงื่อนไขการแปลงร่างเป็นเงือก 1.ต้องฟื้นฟูทะเลสาปทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว 2. สำเร็จเควส One of Us วิธีทำเควส One of Us เควสนี้จะปรากฎหลังจากที่เราฟื้นฟูทะเลสาปทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากผ่านไปสักระยะนึง Cho Oyu จะเรียกให้เราไปพบกับเธอที่ Oracle แถววังนางเงือก โดยหลังจากที่เราไปพบ เธอจะให้เราหาของมาให้ได้แก่ 1.ผลผลิตระดับ Osmium 5 ชิ้น 2.Osmium Kelp Essence 5 ชิ้น หลังจากที่เรากลับไปหาเธอจะปรุงยาให้เราแลกเราจะกลายเป็นมนุษย์เงือก ซึ่งสามารถเลือกสกินที่ชอบได้ ผลก็คือหลังจากที่เรากลายเป็นเงือกแล้วเราจะเคลื่อนไหวบนน้ำได้ไวขึ้นเป็นอย่างมาก และสามารถทำการแดช

ภายใน Coral Island จะมีภาริจอย่างนึงที่เราจะทำตอนไหนก็ได้คือการบริจาคของให้เทพธิดา ซึ่งจะปลดล็อกหลังจากเล่นไปไม่ไกลมากนัก ซึ่งเราจะได้ไอเทมและของรางวัลต่าง ๆ เป็นการตอบแทน เช่น สามารถใช้งาน Green House ทำให้ปลูกผักอะไรในฤดูไหนก็ได้ หรือ ปลดล็อกโซนใหม่ ๆ เป็นต้น Table of contentsการปลดล็อกแท่นบูชาใหม่และเนื้อหาที่ปลดเพิ่มจาก Offeringรางวัลในการ Clear Altar ได้ทั้งหมด แต่ละแท่นรายการของ Offering ในแต่ละ AltarCrop AltarCatch AltarAdvanced  AltarRare Altar การปลดล็อกแท่นบูชาใหม่และเนื้อหาที่ปลดเพิ่มจาก Offering ในการปลดล็อกแท่นบูชาเราจะต้องทำการส่งของให้ครบชุด ในแต่ละแถวเพื่อปลดล็อกแท่นใหม่ โดยการปลดล็อกและรางวัลจะมีดังนี้ จำนวนที่ทำสำเร็จ (แถว)ปลดล็อก1- ปลดล็อก Catch Altar- ปลดล็อก Goddess Blessing (ทำให้วาร์ปไปจุดต่าง ๆ ได้)- ปลดล็อกจุดวาร์ปที่ฟาร์มของเราและ Lake Temple2- ปลดล็อก Advanced Altar- ปลดล็อกโรงอาบน้ำร้อน ที่ด้านบนของเมือง- ปลดล็อกวาร์ปตรง Lookout- 30 Heritage3- ปลดล็อก Rare altar6- ปลดล็อก Mid Forest (เอาไว้หา Hard wood)- 30 Heritage10- ปลดล็อกจุดวาร์ปที่บ่อน้ำร้อน- ปลดล็อก NPC Pandazen ที่ป่าไผ่แถวด้านบนของเมือง14- ปลดล็อก Deep forest - 30 Heritage20- ได้ Achievement Healing The World- +150 Friendship points ชาวเมืองทุกคน24- ฟื้นฟู Temple อย่างสมบูรณ์และได้รับ 40 Heritage รางวัลในการ Clear Altar ได้ทั้งหมด แต่ละแท่น ตามปกติแล้วหากเราเคลียร์ได้ในแต่ละแถวจะได้ของรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ มาแต่หากว่าเราเคลียร์ได้ทั้งหมดแล้วจะได้ของที่มีมูลค่าสูงมาหรือเป็นของพิเศษมาเป็นรางวัล โดยของที่ได้หาก Clear ได้ทั้งหมดในแต่ละแท่นจะมีดังนี้ครับ ชื่อแท่นรางวัลCrop Altar- Green House- Sacred Tree ตรงเมืองจะได้รับการฟื้นฟูCatch Altar- ปลดล็อกแท่นขุด- แต้ม Heritage- (หากปลดไป 2 /6) ปลดล็อกวาร์ปตรง hillsideAdvance Altar- สามารถคราฟ Warp sesajen ได้ (กดวาร์ปได้เลย)- ฟื้นฟู Lake Sacred treeRare Altar- ปลดล็อกพื้นที่ Savannah- ได้รับ Mythical pet seed - ฟื้นฟู Farm sacred tree รายการของ Offering ในแต่ละ Altar ในแต่ละ Altar หากเราส่งของแต่ละหมวดเรียบร้อยแล้วจะได้รับรางวัล ซึ่งของแต่ละหมวดย่อยจและรางวัลที่ได้จะแบ่งออกเป็นแท่นดังนี้ครับ Crop Altar ภาพจาก https://coralisland.fandom.com/wiki/Lake_Temple?so=search รายชื่อของวิธีหาWoodตัดกิ่งไม้และตัดต้นไม้ทั่วไปStoneทุบหินFiberตัดหญ้าSap ได้จากการตัดต้นไม้Maple seedได้จากการตัดต้นเมเปิลPine coneได้จากการตัดต้นไม้ทั้งหมดใน Spring Sesajenปลูกและเดินป่าในฤดูใบไม้ผลิทั้งหมดใน Summer Sesajenปลูกและเดินป่าในฤดูร้อนทั้งหมดใน Fall Sesajenปลูกและเดินป่าในฤดูใบไม้ร่วงทั้งหมดใน Winter Sesajenปลูกและเดินป่าในฤดูหนาวSea Saltเก็บได้จากในทะเลแทบทุกจุด (กดเก็บได้เลยคล้าย ๆ หิน)King scallopทะเลความลึก 50-60 เมตรEastern oysterทะเลความลึก 20-30 เมตรBlue musselทะเลความลึก 20-30 เมตรGreen sea urchinสุ่มเจอทั่ว ๆ ไปในทะเล Catch Altar ภาพจาก https://coralisland.fandom.com/wiki/Lake_Temple?so=search รายชื่อของวิธีหาCatfishสถานที่: River Field / River Forest / Pond ฤดู: Spring / Summer อากาศ: ฝนตก / มีพายุเวลา: บ่าย / กลางคืนTilapiaสถานที่: Pond / Lake / Cavern (Earth) ฤดู: Spring / Winterอากาศ: ทั้งหมดเวลา: ทั้งวันRainbow fishสถานที่: River (Town)ฤดู: Spring / Winterอากาศ: ทั้งหมดเวลา: ทั้งวันSilver arowanaสถานที่: Cavern (Earth / Water /Wind) ฤดู: Winterอากาศ: ทั้งหมดเวลา: เช้า / บ่ายkoiสถานที่: River (Town) / Cavern (Entrance) / Lakeฤดู: Spring / Summerอากาศ: ทั้งหมดเวลา: เช้าPink snapperสถานที่: Ocean (Dock) / Cavern (Wind)ฤดู: Spring / Winter / ทุกฤดู(ในเหมือง)อากาศ: ทั้งหมดเวลา: เช้าและบ่าย / ทั้งวัน (ในเหมือง)Lionfishสถานที่: Ocean (Beach , Forest)ฤดู: Spring / Summerอากาศ: ทั้งหมดเวลา: เช้า / บ่าย / เย็นAsian sheepsheadสถานที่: Ocean (Forest)ฤดู: Winterอากาศ: ทั้งหมดเวลา: ทั้งวันYellowfin tunaสถานที่: Ocean (Dock / Beach)ฤดู: Winterอากาศ: Rain / Strom /...

หลังจากที่เราอัปเกดรเมืองจนถึงระดับ E ภายในเกม Coral Island แล้วเราจะสามารถรับสัตว์เลี้ยงมาเป็นครอบครัวเดียวกับเราได้ โดยจะสามารถไปรับมาเลี้ยงได้ที่ Community Center โดยข้อแตกต่างของสัตว์เลี้ยงกับสัตว์ชนิดอื่น ๆ คือ มันจะไม่สามารถผลิตผลผลิตให้เราได้ โดยจะมีเอาไว้เพื่อความสวยงามและประดับเท่านั้น แต่เราสามารถจะเล่นกับมันได้โดยการเดินไปคุย ซึ่งรายละเอียดมีดังนี้ เงื่อนไขการรับเลี้ยงสัตว์ 1.ต้องมีระดับเมืองถึง Rank E 2.จะต้องซื้อเบาะหรือเตียงนอนให้สัตว์เลี้ยงก่อน (ซื้อได้ที่จุดเดียวกับที่รับเลี้ยงเลย) 3.สามารถเลี้ยงได้เพียงแต่ตัวเดียวเท่านั้น ประเภทสัตว์ที่สามารถเลี้ยงได้ 1.สุนัข 2.แมว 3.กิ้งก่า 4.หมาจิ้งจอก 5.กระต่าย 6.ลิง ทั้งนี้อาจจะมีประเภทอื่นเพิ่มขึ้นมาในอนาคตครับ