PC Guide

สำหรับเกม VR Kanojo นั้นแต่เดิมแล้วเป็นเกมแนว 18+ ซึ่งแน่นอนว่าวางขายใน Steam ไมไ่ด้แน่นอน แต่ตัวเกมในฉบับของ Steam นั้นก็ได้ทำการตัดฉากเด็ดดีออกไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าหากว่าเราอยากจะเล่นในแบบเต็มๆ ล่ะก็สามารถทำได้ดังนี้ครับ วิธีการติดตั้งแพทช์ 18+ 1.โหลดไฟล์ Patch 18+ ในหน้าเว็บนี้ตรงที่ 18+ Upgrade http://illusionvr.jp/index_en.php#conthome 2.แตกไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาเอาไว้ตรงไหนก็ได้จากนั้นให้มองหา Abdata 3.ก็อบปี้โฟลเดอร์ abdata ไปทับในไฟล์เกมอันเดิม  ซึ่งหากหาไม่เจอให้เข้าไปที่หน้าสตีมตรงเกม VR Kanojo จากนั้นกด Properties เลือก Tab ที่ Local Files จากนั้นคลิกไปที่ Browse Local Files 3.หลังจากเอาไฟล์ abdata ไปวางทับโฟลเดอร์เดิมเป็นอันเรียบร้อยเข้าเกมเล่นได้ตามปกติครับ          

การปั่นพลังโจมตีนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเกม RPG ที่มีการบวกกันอยู่ดั่งช้อนส้อม ใน Monster Hunter World เองก็เช่นกันที่มีบัพต่างๆ ให้เลือกใช้ และส่วนหนึ่งที่เพื่อนๆ หลายคนสงสัยก็คงไม่พ้น เจ้าไอเทมเพิ่มพลังโจมตีเนี่ย มันส่งผลอะไรยังไงกัน อ่ะมา รอบนี้จะพาไปรู้จักกับเหล่าของเพิ่มพลังโจมตีและป้องกัน เพื่อบัพให้สะใจกันไปเลย! หลักของการเพิ่มพลังโจมตี สิ่งที่ควรทราบก่อนอื่นเลยนั่นคือ นอกจากตัวอาวุธที่ใช้จะมีค่าพลังโจมตีตามที่กำหนดแล้วนั้น การใช้ไอเทม สกิล หรือบัพจะส่งผลให้มีพลังโจมตีเพิ่มขึ้น และอาวุธแต่ละชนิด จะมีการคูณค่าพลังโจมตีที่แตกต่างกันไปเมื่อโจมตีออกมาจริง ทำให้อาวุธบางชนิดอย่างดาบใหญ่ จะมีค่าตัวเลขในเกมสูง ทุบทีก็ออกมาแรง แต่ช้า ในขณะที่อาวุธอย่างธนู มีตัวเลขต่ำ ยิงเบากว่าแต่เน้นปริมาณความถี่ให้สมดุลย์กัน อาวุธ ตัวคูณความเสียหาย อาวุธ ตัวคูณความเสียหาย Great Sword 4.8 Gunlance 2.3 Long Sword 3.3 Switch Axe 3.5 Sword & Shield 1.4 Charge Blade 3.6 Dual Blades 1.4 Insect Glaive 3.1 Hammer 5.2 Light Bowgun 1.3 Hunting Horn 4.2 Heavy Bowgun 1.5 Lance 2.3 Bow 1.2 ไอเทมและสกิลต่างๆ นั้น จะเพิ่มพลังโจมตีเป็นจำนวนตายตัว แต่เมื่อนำไปคูณกับตัวเลขเฉพาะของอาวุธแต่ละชนิด ทำให้ผลที่ได้ออกมาต่างกันตามสมดุลย์ของเกมนี้ ซึ่งถ้าไม่อยากคิดให้เครียดมากนัก ก็สามารถดูจากตัวเลขตายตัวเอาก็ได้จ้า เพราะเรามั่นใจได้ว่าเพิ่มมา มันแรงขึ้นแน่ๆ แอ๊ ตามปกติแล้ว เราจะสามารถแบ่งของเพิ่มหมวดของบัพต่างๆ ทั้งพลังโจมตีและพลังป้องกันออกเป็น 4 หมวดได้ดังนี้ 1. สกิลจากชุดเกราะ สกิลทั้งหมดสามารถซ้อนทับกันได้ โดยแต่ละสกิลก็จะเพิ่มพลังโจมตีแตกต่างกันไปตามที่ระบุไว้ 2. บัพจากการกินข้าว การกินเนื้อจะช่วยเพิ่มพลังโจมตีได้ 3. ไอเทมต่างๆ อันได้แก่ Charm, Talon, Drug, Seed, Powder, Pill ซึ่งเป็นจุดที่จะขออธิบายเพิ่มเติมเนื่องจากบางอย่างจะซ้อนทับกันได้ 4. บัพจากเสียงเพลง ของ Hunting Horn หรือ Coral Orchestra ของแมว อันนี้อะไรแรงกว่าก็จะได้รับผลอันนั้น ทั้งสี่หมวดนี้จะเพิ่มซ้อนทับกันได้หมด โดยจุดที่ยุ่งยากที่สุดคือส่วนของไอเทมจ้า เนื่องจากมีของที่จะชนกันเองไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ จึงเป็นอะไรที่แลดูจะวุ่นวายกว่า เพราะงั้นเราไปดูกันโล้ดว่าแต่ละอย่างมีอะไรบ้าง   ไอเทมเพิ่มพลังโจมตีชนิดต่างๆ ตัวไอเทมเพิ่มพลังโจมตีนั้นจะมีทั้งแบบพกพาและกดใช้งาน ซึ่งอันที่จริงก็จะไม่ยากเท่าไหร่นัก โดย Drug จะชนกันเอง และ Seed กับ Pill นั้นต่างกันที่เวลาและพลังโจมตีที่ได้ การใช้ไอเทมบัพเหล่านี้จึงเป็นอีกจุดหนึ่งที่สาย Support หรือคนที่ต้องการทำเวลาควรทราบไว้จ้า ชื่อไอเทม/บัพ ตัวคูณพลังโจมตีเสริม ระยะเวลา* ข้อมูลเพิ่มเติม Power Charm 6 ถาวร ไอเทมติดตัว Power Talon 9 ถาวร ไอเทมติดตัว Demon Powder 10 3 นาที มีผลกับทุกคนในเขตนั้นๆ Might Seed 10 3 นาที (4:30 นาที) Might Pill 25 20 วินาที (30 วินาที) Demondrug 5 1 เควสหรือนอนแมว Nitroshoom ให้ผลแบบเดียวกัน Mega Demondrug 7 1 เควสหรือนอนแมว Attack Up S (ข้าว) 5 1 เควสหรือนอนแมว Attack Up M (ข้าว) 10 1 เควสหรือนอนแมว Attack Up L (ข้าว) 15 1 เควสหรือนอนแมว *สกิล Item Prolonger level 3 จะเพิ่มเวลาเท่าในวงเล็บ* จะเห็นได้ว่าหากต้องการบัพพลังโจมตีกันให้สุดๆ แล้วนั้น การพก Power Charm (+6), Power Talon (+9), กินข้าวแมว Attack Up (L) (+15), ยัด Mega Demondrug (+7), Demon Powder (+10) และปิดด้วย Might Pill (+25) จะเพิ่มพลังโจมตีแบบสุดๆ เท่าที่ตารางนี้จะมอบให้ได้เลยทีเดียว! (+72 หน่วย! อุต๊ะ) แต่ทั้งนี้ ปัญหามันก็อยู่ที่ว่า เวลาของเจ้าไอเทมและการหามันนี่แหละ อย่างเช่น Might Pill ที่เพิ่มพลังโจมตีแซงทุกสิ่งทุกอย่าง ก็มีผลแค่ 20 วินาที เรียกว่าถ้ามอนไม่ได้ล้มอยู่ เปิดโอกาสให้โจมตีรัวๆ ต่อเนื่อง ก็หาความคุ้มค่าไม่เจอกันเลย หรืออย่าง Mega Demondrug ที่เพิ่มตัวเลขให้ 2 หน่วย แต่ต้องใช้ไอเท็ม Nourishing Extract ที่ไม่มีขาย หาลำบากมาผสม ก็ทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะใช้แค่ Demondrug กัน ส่วน Might Seed / Demon Powder ขึ้นกับความขยันบัพกันจ้า อนึ่ง สำหรับคนที่มีสกิล Mushroomancer ที่ทำให้กินเห็ดและได้ผลเหมือนไอเท็มต่างๆ ตัว Nitroshroom นั้นจะเทียบเท่ากับการกิน Demondrug และ Parashroom จะให้ผลเหมือนกิน Armordrug ทุกประการจ้า หลักการเดียวกันเป๊ะๆ จะได้ไม่กินชนกันนะจ๊ะ นอกจากนี้แล้วไอเทมสายเพิ่มพลังป้องกัน (Adamant, Armor) ก็จะใช้ตารางแบบเดียวกันนะจ๊ะ แต่มีผลในด้านการเพิ่มพลังป้องกันแทน หากลงเควสใหญ่ๆ อันตราย ก็ใช้บัพเอาตัวรอดก่อนสู้ได้นะเอ้อ จากทีเดียวตายอาจจะเหลือนิดหน่อยให้คลานกลับมากินยาได้ในบางกรณีนะเอ้อ   แถมท้ายกับการคราฟไอเทม...

Monster Hunter World นั้นได้เพิ่มระบบใหม่ขึ้นมานั่นคือการค้นหาร่องรอยของมอนสเตอร์ต่างๆ เพื่อปลดล๊อคการวิจัยและตัวเควส Investigation แต่ไอ้การเก็บร่องรอยก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างวุ่นวาย เจ้ามอนเล็กๆ ก็ชอบมากวนให้ Scoutfly แตกกระจายทุกที ไหนจะมีเควสหลักที่ต้องให้หารอยน๊านนานอีกกว่าจะผ่าน เอ้า งั้นมาจัดชุดสำหรับหารอยโดยเฉพาะกิจกันเถอะ ช่างการตีมังกรซักหน่อยเป็นไรไป! ชุดเก็บรอยระดับพึ่งลุย High Rank เควสเก็บรอยตอน High Rank ครั้งแรกที่เพื่อนๆ จะได้เจอนั้น ก็ไม่พ้นเจ้า ??? Rathian Track ที่ติดกันยาวๆ เป็นแน่แท้ ซึ่งเจ้าเควสนี้ เพื่อนๆ จะต้องรวบรวมรอยของ Pink Rathian จากที่ต่างๆ ให้ครบ เควสถึงจะเปิดให้เราไปต่อได้ แต่การไล่เก็บธรรมดานั้นบอกเลยว่านานและวุ่นวายมาก หลายคนจึงมีวิธีลัดในการเก็บ ไม่ว่าจะเป็นการหารอยให้เจอแล้วเข้าออกบ่อยๆ หรือให้เพื่อนช่วยครีห้องให้มันซะเลย ซึ่งในบทความนี้ก็จะเสนอชุดที่ช่วยให้เพื่อนๆ ตามรอยแบบธรรมดากันได้ง่ายขึ้นจ้า ชุดนี้ก็จะประกอบด้วยชิ้นส่วนที่หาง่ายมากๆ แต่ช่วยให้การเก็บรอยง่ายขึ้นดังนี้ หัว Hunter's A : Scoutfly Range Up, Scholar ลำตัว Jagras's A : Intimidator 2 แขน Jagras's A : Palico Rally 1, Intimidator 1 เอว Girros's B : Effluvial Expert, ขา (ฟรี) สร้อย (ฟรี) ตัวสกิลก็จะมีผลดังนี้จ้า Scoutfly Range Up : ทำให้ระยะของแมลงสำรวจเราไกลขึ้นมาก สามารถเก็บร่องรอยรอบตัวได้กว้างขึ้น พลาดอะไรน้อยลง Scholar : พระเอกของงานนี้ เพิ่มเปอร์เซ็นการได้รับค่า Research Level และแต้ม Special Investigation (เควส Pink Rathian และการหา Elder Dragon ทั้ง 4 ตัว) Intimidator 3 : ทำให้เราจะไม่โดนมอนสเตอร์ขนาดเล็กเช่น Jagras, Girros, Gastodon โจมตีก่อนเลย Effluvial Expert : ไม่ได้รับผลลดเลือดของก๊าซไข่เน่าในเขตล่างของ Rotten Vale Palico Rally : เพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกันของแมว ..... เป็นของแถมที่ติดมา ช่างมันไปจ้า จุดหลักที่ได้ใช้จริงๆ นั้นจะเป็นตัวสกิล Scholar ที่ทำให้การเก็บรอยแต่ละครั้งได้แต้มวิจัยเพิ่มขึ้น และสกิล Intimidator ที่ทำให้ศัตรูขนาดเล็กไม่ตีเราก่อนนั่นเอง (หากเราโดยพวกมันไล่โจมตี Scoutfly จะหยุดทำงาน ทำให้ตามรอยรอบตัวต่อไม่ได้) ส่วนโบนัสเล็กน้อยก็จะเป็นตัว Scoutfly Range Up ที่ทำให้เวลาเราเดินหารอย จะมีโอกาสเจอรอยที่อยู่รอบตัวง่ายขึ้นเพราะรัศมีค้นหากว้างขึ้น กับการไม่โดนพิษไข่เน่าจาก Effluvial Expert นั่นเอง   https://youtu.be/LbUJgoQ5Auc การตามรอย Pink Rathian / Elder ทั้ง 4 การตามรอย ??? Rathian หรือเจ้า Pink Rathian นั้น เพื่อนๆ ก็จะพบรอยของมันในแผนที่ทั้ง 4 ฉากเลยทีเดียว แต่แผนที่ที่คนนิยมไปบ่อยที่สุดเพราะหาร่องรอยได้ง่ายนั้น ก็จะเป็น Rotten Vale ในเขตด้านบนที่ไม่มีพิษนั่นเองจ้า เนื่องจากศัตรูกลางทางหลบเลี่ยงได้ง่าย ตัวร่องรอยก็อยู่ในจุดที่เดินไปหาได้ไว รวมถึงทางเดินก็ไม่วกวนไปมาอีกด้วยนั่นเอง สิ่งที่ควรระวังก็เห็นจะมีแค่เจ้ามังกรกระดูก Radobaan ที่คอยกลิ้งไปมากวนใจ และสามารถเลี่ยงได้ง่ายๆ นั่นเอง ถ้าใครดวงดีเจอเจ้าเครื่องบินทิ้งระเบิด Bazelgeuse แนะนำให้ใช้ Dung Pod ยิงไล่มันจ้าถ้าแถวนั้นมีรอยที่เราต้องเก็บพอดี หรือจะรีบหยิบผ้าคลุมเทพ Ghillie Mantle มาใส่ให้มันไม่เห็นเราก็ได้จ้า โดยปกติแล้ว เมื่อเพื่อนๆ เก็บรอยในพื้นที่เขตบนหมด ประมาณ 4-5 รอย ก็จะกด Return from Expedition กันและวนใหม่เพื่อให้รอยเกิดใหม่พร้อมเก็บอีกครั้งนั่นเอง ทำให้สามารถจบเควสนี้ได้ไวขึ้นมาก (จุดประสงค์เดิมก็มีไว้เพื่อให้เพื่อนๆ ได้สำรวจแผนที่ในระดับ High Rank นั่นเอง) ซึ่งหากรวมกับสกิล Scholar แล้วนั้น การเก็บรอยก็จะไวขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยทีเดียว แน่นอนว่าจะใช้วิธีเดียวกันในการตามหาร่องรอยของเจ้า Deviljho ก็ได้เช่นเดียวกันจ้า   เมื่อจบจากเควส Pink Rathian แล้วนั้น ก็จะทิ้งช่วงกันไปพักใหญ่ๆ ก่อนที่เพื่อนๆ จะได้เจอกับเควสตามรอยที่เหลืออยู่อีก 2 เควส โดยเป็นเควสตามล่ารอยของเจ้า Nargigante ใน Elder Recess ที่ต้องใช้การวิ่งตามล่ารอยเฉพาะในแผนที่นั้นไม่แพ้กันเลยทีเดียว แถมหัวหน้าใหญ่ของเราก็ยังสั่งให้ไปเจอมอนสเตอร์เจ้าถิ่นในแผนที่นั้นอีกด้วย ก็ไปทักทายมันแต่พอหอมปากหอมคอ แต่ไม่ต้องสู้กับมันล่ะ เผ่นจากที่เกิดเหตุและออกตามรอยเนกิกันเต้ต่อได้เลย อีกเควสหนึ่งจะเป็นการตามหาร่องรอยของ Elder Dragon ทั้งสามตัวในอีกสามแผนที่ โดยประกอบไปด้วย Kushala Daora ที่ Ancient Forest Teostra ที่ Wildspire Waste Vaal Hazak ที่ Rotten Vaal อย่างไรก็ตามนั้น เจ้า Elder Dragon ทั้งสามตัวนี้ เพื่อนๆ สามารถข้ามการตามรอยของมันได้ด้วยการเล่นเควสในแผนที่นั้นเควสอื่นแทนได้ โดยเมื่อจบเควส จะได้รับแต้มวิจัยของเจ้าสามตัวนี้มาตัวละนิดหน่อยตามแต่แผนที่ที่ได้เล่นไปเลยจ้า ซึ่งก็ค่อนข้างที่จะดีกว่าเพราะเพื่อนๆ จะได้มีโอกาสฟาร์มของเตรียมตัวรับมือกับเหล่ามังกรโบราณจอมโหดเหล่านี้ไปในตัวเลย ทำให้ตัวชุดเก็บรอยของเราไม่ต้องนำมาใช้ในกรณีนี้เท่าไหร่นัก ถ้าหากใครอยากเก็บรอยตามที่เกมเขาบอกมา ก็ยังสามารถคว้าชุดเก็บรอยนี้มาใส่และวิ่งตะลุยหาให้ทั่วแผนที่ได้เช่นกันจ้า เพียงแต่ขอบอกว่า เหนื่อยเอาการเลยล่ะ สำหรับเพื่อนๆ ที่ติดเควสเหล่านี้อยู่ ถ้าบทความนี้ช่วยได้ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งจ้า

ความสะดวกของนักล่านั้นแลกมาด้วยความพยายามอยู่เสมอ ใน Monster Hunter World นั้น การจะหาไอเทมต่างๆ มาใช้งานก็ต้องไปไล่เก็บกันเอาเอง แม้ว่าในภาคนี้ระบบการเก็บของตามฉากจะพัฒนาขึ้นแบบสุดๆ แต่เวลาออกลุยที ใช้กันหมดเนื้อหมดตัว ไล่เก็บไม่ทันใจ อย่าได้กังวลไป ในเกมก็ยังมีระบบอำนวยความสะดวกให้จ้า นั่นคือ ดิ Ancient Tree หรือต้นไม้โบราณที่เหล่านักวิจัยในฐานนั้นแอบปลูกจนสำเร็จนั่นเองจ้า รู้จักกับเจ้า Ancient Tree เพื่อนๆ จะได้พบกับ Ancient Tree เมื่อดำเนินการเล่นเนื้อเรื่องไปได้ถึงจุดๆ หนึ่ง ซึ่งนักวิจัยในฐานนั้นจะบอกกับเราว่าเขาได้พยายามปลูกเจ้าต้นไม้โบราณนี่นานแล้วแต่ไม่สำเร็จ แต่ในที่สุดมันก็โตจนได้ ซึ่งมันก็โตเร็วโคตรๆ เสียด้วย! และผลพลอยได้ของนักล่าอย่างเราก็คือ เราจะสามารถเพาะปลูกหรือเลี้ยงแมลงต่างๆ บนต้นไม้นี้ได้ระหว่างที่ไปลุยเควส เมื่อกลับมาก็จะเก็บรวบรวมมาใช้งานได้ โอ้ว นี่มัน Passive Income เอ้ย Passive Farming จริงๆ หลักการทำงานของ Ancient Tree นั้นก็จะเริ่มจากการที่เพื่อนๆ เลือกว่าจะเพาะอะไร จากนั้นก็ใส่สารอาหารเพื่อเร่งจำนวน จากนั้นก็ตะลุยเควสเพื่อให้มันนับเวลา ไอเทมแต่ละชนิดก็จะมีเวลาที่ต้องการแตกต่างกันไป โดยแสดงจากจำนวนขีดสีเทา หากมีขีดเดียวหมายถึงใช้เวลา 1 เควสในการเพิ่มจำนวน 1 ครั้ง 2 ขีดก็สองเควสว่ากันไป และจำนวนที่ได้ก็จะเขียนไว้ด้วยตัวเลขสีขาว (หากมีการใส่ปุ๋ย จะมีการระบุตัวเลขสีเขียวหรือแถบสีเขียวเพิ่มเติม) เพื่อนๆ สามารถกดเก็บไอเทมเมื่อไหร่ก็ได้ และการเปลี่ยนไอเทมที่เพาะจำนวนกลางคัน ไม่ส่งผลเสียอะไร ยกเว้นว่าเป็นไอเทมที่ใช้เวลาหลายเควสและไม่ได้ใส่ปุ๋ยเร่งเวลาไว้ อันนั้นจะเสียไป หากตัวตะกร้าผลผลิตเต็ม เกมจะแจ้งเตือนให้เราทราบ และผลผลิตใหม่หลังจากนี้จะไม่ถูกนับเพิ่ม จนกว่าเพื่อนๆ จะเคลียร์ตะกร้าที่เต็มก่อนนะจ๊ะ ไอเทมแมลงที่ชื่อว่า Great Hornfly นั้นสามารถสุ่มได้จากการเพาะปลูกอะไรใน Ancient Tree เท่านั้นนะจ๊ะ อย่างไรก็ตาม ไอเทมที่เพื่อนๆ จะเพาะปลูกเพิ่มจำนวนได้นั้น จะปลดล๊อคแยกต่างหากจากการทำ Optinal Quest ที่ได้จากทั้งตัวนักวิจัยและป้าที่อยู่ข้างๆ ชื่อเควส ภารกิจ ของที่ได้ 3* Pricky Predicament ส่ง Bauble Cactus 20 ชิ้น (เก็บได้จากตะบองเพชรต้นเล็กๆ) ปลดล๊อคพืชกับเมล็ดต่างๆ เพิ่ม 4* Royal Relocation ล่า Rathian 1 ตัว ปลดล๊อคเห็ดและแมลงต่างๆ เพิ่ม เมื่อผ่านเควสทั้งสองแล้ว จะมีจำนวนของที่ปลูกและเพาะได้เพิ่มอีกเยอะเลยทีเดียว แต่ทว่า การที่เพื่อนๆ จะเพาะปลูกอะไรเพิ่มได้ จำเป็นจะต้องมีไอเทมชนิดนั้นๆ ในตัวเสียก่อน เช่น หากไม่เคยเจอ Might Seed เลย แม้จะปลดล๊อคได้แล้วก็จะยังปลูกไม่ได้ ทั้งนี้ เมล็ดพืชและของหลายๆ อย่างตัวเกมจะตั้งค่า auto-craft ให้แต่แรกทำให้เก็บติดตัวมาน้อยๆ จะโดนแปรรูปไปหมดเสียก่อน ให้แก้ด้วยการเปิดเมนู Crafting List และเอา Auto-craft (ติ๊กถูกสีเขียว) ออกเสียก่อน (สังเกตุด้านล่างจะบอกว่ากดปุ่มอะไรเพื่อยกเลิก บางคนอาจจะตั้งปุ่มไม่เหมือนกัน) จากนั้นเมื่อเก็บไอเทมติดตัวกลับเมืองมาได้แล้ว ค่อยเปิด auto-craft เหมือนเดิมเพื่อความสะดวกจ้า จะหมดปัญหาหาของกลับมาปลูกไม่สำเร็จซะที   วิธีการปลดล๊อคช่องเพิ่ม เมื่อเพื่อนๆ เล่นลึกเข้าไปในเนื้อเรื่องมากขึ้น ก็จะมีเควสที่ปลดล๊อคชนิดของปุ๋ยและจำนวนตะกร้าเพาะปลูก หรือขยายตะกร้ารับของให้ได้เยอะขึ้น ทำให้ฟาร์มของได้สูงสุดถึง 3 อย่างพร้อมกัน เรียกได้ว่าถ้าไม่ลืมนี่ ปั้มของมาใช้ได้ไม่อั้นเลยจริงๆ ผลที่ได้ เควสที่ต้องผ่าน Harvest Slot +10 (เพิ่มความจุตะกร้าผลผลิต เป็น 20 ช่อง) - To Hold a Harvest (delivery) ส่ง Aqua Sac 2 ชิ้น พร้อมจ่าย 300 RP Harvest Slot +10 (เพิ่มความจุตะกร้าผลผลิต เป็น 30 ช่อง) - ผ่านเควสเนื้อเรื่อง Tickled Pink แล้ว - Your Storage Solution (delivery) ส่ง Torrent Sac 1 ชิ้น พร้อมจ่าย 1000 RP Cultivate Slot +1 (เพิ่มจำนวนไอเทมที่เพาะได้ รวม 2 ช่อง) - ผ่านเควส 4* Persistent Pests (HR8+) กำจัด Hornetaur 14 ตัว Cultivate Slot +1 (เพิ่มจำนวนไอเทมที่เพาะได้ รวม 3 ช่อง) - ผ่านเควสเนื้อเรื่อง Old World Monster in the New World แล้ว - ผ่านเควส 7* Talons of Ire and Ice (HR13+) กำจัด Legiana และ Odoragon   นอกจากนี้แล้ว ตัว Ancient Tree ยังสามารถใส่ปุ๋ยต่างๆ เพิ่มเติมได้ 1 ครั้งต่อการเล่นจบเควสแต่ละรอบ ซึ่งผลที่ได้นั้นจะทำการเพิ่มผลผลิตให้กับไอเทมชนิดนั้นๆ ที่เราใส่ไป โดยแบ่งเป็น สมุนไพรและเมล็ดพืช, แมลงและน้ำผึ้ง, เห็ดต่างๆ กับปุ๋ยเร่งการเติบโต ที่ทำให้ใช้เวลาน้อยลงในการเพาะไอเทมชนิดหลายเควส ตัวปุ๋ยเองยังสามารถซ้อนทับกันได้ โดยผลที่ได้จะเปลี่ยนจาก S เป็น L ทำให้ได้รับจำนวนมากขึ้นไปอีกระดับ และหากเป็นปุ๋ยเร่งโต จะลดจาก 2-3 เควสให้เหลือเควสเดียวได้เลย ซึ่งเพื่อนๆ สามารถอัดปุ๋ยต่างๆ ได้เต็มที่ อะไรที่ยังไม่หมดก็จะเพิ่มเวลาและระดับเข้าไปให้ แต่จะสูงสุดที่ 9 เควสและระดับ L เท่านั้น ชนิดของปุ๋ย / ผล เควสที่ต้องทำ ระยะเวลา แต้ม RP Fertilizer เพิ่มจำนวนของสมุนไพร, เมล็ดพืช (S) 3 100 Mushroom...

อีกหนึ่งในมุมเล็กๆ น่ารักของ Monster Hunter World นั้น ก็ไม่พ้นในเรื่องของสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ประกอบอยู่ในฉาก ไม่ว่าจะเป็นกระต่าย นก แมลงต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้แค่ประกอบฉากเท่านั้น แต่ยังสามารถจับมาเลี้ยงในห้องส่วนตัวของเพื่อนๆ ได้อีกด้วย! ซึ่งแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้่วยอะไร เลี้ยงจริงๆ ก็ไม่ได้ แต่ก็สร้างสีสรรในห้องและก็ให้แต้มวิจัย (Research Point) ตอนที่จับมาได้ด้วยล่ะน้า วิธีการจับสัตว์ การจะจับสัตว์ต่างๆ นั้น เพื่อนๆ นักล่าจะต้องทำการติดตั้งตะข่ายจับสัตว์หรือ Capture Net เสียก่อน ซึ่งเจ้าตะข่ายนี้จะมีติดตัวมาตั้งแต่ตอนเริ่มเกมแล้ว วิธีใช้ก็เพียงแต่กดเลือกไปที่ Capture Net และกดใช้งาน ตัวละครก็จะติดตั้งลงใน Slinger ให้ทันที พอจะใช้งานก็เพียงแค่กดปุ่มเล็ง จะปรากฎกรอบสีขาวเหมือนกับกล้องถ่ายรูปขึ้นมาให้ หากเราเล็งโดนสัตว์ที่จับได้ กรอบสีขาวก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้มให้ทราบว่าจับได้ชัวร์แน่นอน ก็กดยิงปุ้ง ตะข่ายจะพุ่งไปรวมเจ้าสัตว์ตัวน้อยมาให้ทันที เมื่อจับได้ ตัวละครจะหยิบตะข่ายมาดู พร้อมกับที่เกมจะแสดงบอกให้ทราบว่าเราจับตัวอะไรได้ และได้มากี่ตัว ได้แต้มวิจัยตัวละเท่าไหร่ (ยิ่งสัตว์หายากเท่าไหร่ก็ยิ่งให้คะแนนวิจัยสูงมากเท่านั้น) หลังจากนั้นสัตว์ที่เราจับได้จะปรากฎให้เห็นอยู่ใน Hunter's Note ส่วนของ Monster Field Guide / Endemic Life จ้า จะมีทั้งข้อมูลและจำนวนทั้งหมดที่เราจับได้เลย ยังไม่พอ! หากเราไปคุยกับน้องเหมียว House Keeper ในห้องของเราแล้ว เลือกคำสั่ง Place Your Pets จะสามารถนำสัตว์ที่เราจับได้มาประดับในห้องได้ด้วยนะเอ้อ งานนี้บอกได้ว่าห้องเราจะมีสีสรรตามความชอบของแต่ละคนขึ้นเยอะเลยทีเดียวล่ะ อย่างไรก็ดี พื้นที่แต่ละจุดจะวางสัตว์ต่างๆ ได้ไม่เหมือนกัน และหากต้องการวางหลายจุด จะต้องจับสัตว์ตัวนั้นมาหลายตัวหน่อยนะจ๊ะ เช่นจับนกได้ตัวเดียว จะให้มันแยกร่างไปทุกที่เลยก็คงไม่ไหว   ตามล่าจับสัตว์ทั่วหล้า Gotta Catch Them All! ในบทความนี้ก็จะพาเพื่อนๆ ไปไล่จับสัตว์ต่างๆ เท่าที่มีใน Patch ปัจจุบันของ PC ที่ยังไม่มีน้าแกะทองกันจ้า ซึ่งในรายชื่อต่างๆ นี้ก็จะเรียงตามใน Hunter's Note เนื่องจากพวกสัตว์ตัวหายากนั้นแทบจะวนหากันเป็นหลายชั่วโมง ด้วยโอกาสสุ่มเกิดที่ต่ำ หากเพื่อนๆ จะจับก็ต้องใช้ความอดทนไม่ย่อท้อต่อการกดเข้าๆ ออกๆ หาหน่อยนะเอ้อ แต่มั่นใจได้ว่าจับได้ครบแน่นอน ความถึกอยู่ที่ไหน สัตว์แรร์อยู่ที่นั่น! จุดที่ควรระวังในการจับสัตว์คือ สัตว์หลายๆ ชนิดจะหนีเวลาที่เพื่อนๆ เข้าไปใกล้ การพกผ้าคลุม Gillie Mantle ไป จะทำให้เราสามารถเข้าใกล้พวกมันได้โดยที่ไม่หนีไปเสียก่อน แต่หากเมื่อใดที่เพื่อนๆ ยิงตะข่ายไปแล้ว จะใส่ผ้าคลุมหรือไม่ สัตว์ที่อยู่ใกล้ๆ ตะข่ายจะหนีไปทันที ดังนั้นพยายามใจเย็นๆ ตอนจะจับนะเอ้อ โดยเฉพาะเวลาเจอสัตว์แรร์ ใส่ผ้าคลุมไว้มันไม่หนีแน่นอน   Terrestrial Life สัตว์ที่อาศัยตามผิวดินหรือกำแพงเป็นหลัก เป็นกลุ่มที่มีประชากรอยู่มากที่สุดเลยทีเดียว Shepard Hare ถิ่นอาศัย : Ancient Forest, Wildspire Waste กระต่ายธรรมดาๆ พบเห็นได้ทั่วไป มีขนสีน้ำตาล ค่อนข้างกลัวคน Pilot Hare ถิ่นอาศัย : Ancient Forest, Wildspire Waste กระต่ายที่มีขนสีชมพู พบเห็นได้ในจุดที่เจอกระต่ายธรรมดาบ้างเป็นระยะ เวลาเกิดจะอยู่ห่างจากตัวอื่นเล็กน้อยทำให้พลาดสายตาได้ง่าย Forest Gecko ถิ่นอาศัย : Ancient Forest ตุ๊กแกสีเขียว พบได้ตามต้นไม้และที่ชื้น Wildspire Gecko ถิ่นอาศัย : Wildspire Waste ตุ๊กแกสีเหลือง พบได้ตามถ้ำ Gloom Gecko ถิ่นอาศัย : Rotten Vale, Elder Recess ตุ๊กแกสีคล้ำ มีหางสีม่วงแดง มักพบเจอตามซอกและกำแพงต่างๆ Moonlight Gecko ถิ่นอาศัย : Rotten Vale, Elder Recess ตุ๊กแกหายาก มีลำตัวสีม่วงที่เปล่งแสงออกมาเหมือนกับ Blightmoss และมักจะอยู่ใกล้กับ Blightmoss หรือพื้นที่สีม่วง มักพบได้เป็นระยะๆ ตรง Blightmoss ที่ Camp 8 ของ Elder Recess บางครั้งก็สามารถเจอได้ตรงรังนอน Odogaron ด้านในสุดของ Rotten Vale บริเวณที่มี Scatter Nut ให้เก็บ Vaporonid ถิ่นอาศัย : Ancient Forest, Wildspire Waste แมงมุมที่ถักใยดักในถ้ำ จะหนีไปทันทีหากไปทำลายใยของมัน (รวมถึงการที่แมวเราไปโดนใยมันขาดด้วย) พบตัวไม่ยากมากนัก Scavantula ถิ่นอาศัย : Rotten Vale แมงมุมที่พบได้ทั่วไปบนพื้นชั้นแรกของ Rotten Vale เควสที่เกี่ยวข้อง Endemic Life Researcher : จับ Scavantula 5 ตัว Revolture ถิ่นอาศัย : Ancient Forest, Wildspire Waste, Rotten Vale, Elder Recess อีแร้งที่โผล่มากินศพ หรือหาอาหารตามพื้นดิน พบเจอได้ง่ายและมักจะมารวมตัวตามศพใหม่ๆ Blissbill ถิ่นอาศัย : Ancient Forest นกสีชมพู มักพบได้ตามพื้นที่โล่งใกล้ Camp 1 ค่อนข้างกลัวคนมาก Dung Beetle ถิ่นอาศัย : Wildspire Waste แมลงกลิ้งขี้ มักพบได้ทั่วไป บางครั้งก็จะกลิ้งขี้อยู่ หากมันเจอกอง Dung จะรีบเข้าไปปั่นขี้กลับรัง หากเตะมันตอนที่กลิ้งขี้อยู่ จะได้รับ Rolling Dung 5 ชิ้น (ใช้ทำ Dung Pod ได้เช่นกัน) Bomb Beetle ถิ่นอาศัย : Elder Recess ด้วงกลิ้งระเบิด ญาติของ Dung Beetle หากเตะมันตอนที่กลิ้งระเบิดอยู่จะได้รับ Bomb Pod 1 ชิ้น เควสที่เกี่ยวข้อง...

ขึ้นภาคใหม่ก็มักจะมีลูกเล่นใหม่ โดยในครั้งนี้ของ Monster Hunter World นั้นก็มาพร้อมกับ Slinger หรือรู้จักกันในนามหนังสติ๊ก อีกหนึ่งในของเล่นประจำตัวนักล่าที่ทำได้มากกว่าเกาะขามังกรเข้าเควส โดยตัวหนังยางนี้ปกติจะไม่ได้ใช้ทำอะไรนอกจากใช้ห้อยโหน แต่หากนักล่าเก็บกระสุนมาแล้ว ก็จะใช้ในการยิงเพื่อสะกิดมอนหรือทำประโยชน์ได้หลากหลายขึ้นกับชนิดของกระสุนเลยทีเดียว พื้นฐานการใช้งาน Slinger ตัว Slinger นั้น หลักๆ จะใช้ในการยิงกระสุนเป็นหลัก แต่ก็สามารถใช้งานอื่นๆ ได้ด้วยไม่ว่าจะเป็นในด้านการปีนป่ายผนังให้เร็วขึ้น ใช้ในการเกาะติดกับหลังมอนตอนขี่เพื่อไม่ให้หลุดจากตัวมอน ใช้จับสัตว์ต่างๆโดยข้อมูลของหนังยางนี้จะแสดงอยู่ด้านล่างขวาของหน้าจอ ทางซ้ายของไอเทม ซึ่งแรกเริ่มจะเป็นช่องว่างๆ จนเมื่อเพื่อนๆ ติดตั้งกระสุนหรืออุปกรณ์เข้าไปแล้ว จึงจะแสดงเป็นของชนิดนั้นๆ ให้ทราบ   ► โหนตัวผ่าน Wedge Beetle โดยพื้นฐานแรกสุดคือการใช้ยิงสลิงไปยังเจ้าด้วง Wedge Beetle เพื่อโหนตัวไปยังพื้นที่ข้างเคียง ซึ่งทำได้โดยการกดเล็งและกดปุ่ม Interact / พูดคุย ตัวละครก็จะยิงสลิงไปเกาะและโหนตัวไปค้างอยู่แบบนั้น จนกว่าเพื่อนๆ จะกดกระโดดออกมา *ขึ้นกับว่าเพื่อนๆ ตั้งไว้ที่ปุ่มไหนน้า เช่นของหมาจะเป็นปุ่ม E หรือดูจากตอนเล็งไปที่ด้วงก็ได้ ปุ่มในเกมจะเปลี่ยนตามที่ตั้งไว้* ซึ่งการโหนตัวแบบนี้นั้น นอกจากจะทำให้เดินทางได้เร็วขึ้นแล้ว นักล่าที่ชำนาญศึกจะสามารถใช้ในการเอาตัวรอดจากการโจมตีของมอน หรือใช้โหนตัวขึ้นกลางอากาศเพื่อโจมตีมอนจากบนหลัง/ขึ้นขี่มอน ก็ได้ แน่นอนว่าไม่ได้มีทุกพื้นที่ที่จะมีแมลงนี้อยู่ เพื่อนๆ จึงต้องสำรวจพื้นที่และจำตำแหน่งของพวกมันเอาไว้ หรือสังเกตุเอาจากสีเหลืองทองที่โดดเด่นบนที่สูงก็ได้ นอกจากนี้เพื่อนๆ จะสามารถโหนตัวได้ตลอดเวลาแม้ว่าตัวหนังยางจะบรรจุกระสุนหรือไม่บรรจุอยู่ก็ตามจ้า สะดวกมากๆ   ► จับสัตว์ด้วย Capture Net พวกสัตว์ต่างๆ ที่เพื่อนๆ เห็นตามแผนที่ ไม่ว่าจะเป็นนกตัวเล็กๆ อีแร้งที่มากินศพ มดตามทาง กบชา แม้กระทั่งแมลงยักษ์หรือกระพรุนที่ Coral Highland จนไปถึงปลาในสระ เพื่อนๆ สามารถใช้สิ่งที่เรียกว่า Capture Net ในการจับพวกมันได้หมดทั้งสิ้น! ตะข่ายนี้จะมีติดตัวเพื่อนๆ อยู่แล้ว และสามารถติดตั้งใส่ Slinger ได้ด้วยการเลือกและกดใช้งาน ตัวละครจะทำการติดตั้งตะข่ายทับไปบนหนังยางของเรา หากมีกระสุนอยู่ ตะข่ายจะแสดงผลแทนไปชั่วคราวจนกว่าจะถอดออกจ้า ซึ่งกระสุนที่มีก็จะยังอยู่เหมือนเดิมไม่หายไปไหน การใช้ตะข่ายนั้นก็เพียงเล็งไปยังจุดที่ต้องการ ซึ่งหากอยู่ในระยะใกล้พอหรือจะจับได้แน่ๆ กรอบจะเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีส้มเตือนให้ทราบ จากนั้นก็กดยิงตามปกติ ตัวละครก็จะยิงตะข่ายไปจับสัตว์มาไว้ในมือจ้า *ตะข่ายมีน้ำหนักมาก ทำให้ยิงแล้วจะย้อยลงพื้นอย่างรวดเร็ว ลองใช้ยิงเล่นซักพักจะเริ่มเข้าใจวิถีโค้งของมันจ้า* สัตว์แต่ละตัวก็จะให้แต้ม Research Point แตกต่างกันไป ยิ่งหายากยิ่งมีแต้มสูง หากเป็นตัวระดับ Rare นั้น แต้มอาจจะเป็นหลักหลายร้อยเลยทีเดียว หากเป็นไอเทมอย่างแมลง Flashbug, Thunderbug ก็จะเด้งเข้ากระเป๋าเราแทนกันไป นอกจากนี้ สัตว์ที่จับได้ยังสามารถนำไปปล่อยไว้ในบ้านเหมือนสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ ได้อีกด้วยนะเอ้อ รวมถึงปลาด้วย! ถ้ามีโอกาสก็จะมาเล่าสู่กันฟังถึงการสะสมสัตว์นะจ้า   กระสุน Slinger ชนิดต่างๆ การใช้งานที่เพื่อนๆ จะได้ใช้กันบ่อยที่สุดของ Slinger นั้นจะเป็นการใช้ยิงกระสุนหลากชนิด ซึ่งในเกมนั้น กระสุนแต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป และมีอยู่ตามแผนที่ต่างๆ ให้ค้นหามาใช้งานได้ทั้งสิ้น การเก็บกระสุนมานั้นตัวละครจะติดตั้งลงในหนังยางทันที หากเก็บกระสุนใหม่มาจะเป็นการโยนของเก่าทิ้งไปบนพื้น(เก็บทีหลังได้) และติดตั้งของใหม่ไปแทน TIP : ระหว่างที่ขี่มอนสเตอร์อยู่ เพื่อนๆ สามารถยิงกระสุนพวกนี้ได้ด้วยเช่นกันจ้า ► Stone กระสุนชนิดที่ธรรมดาที่สุด ใช้ยิงเพื่อสร้างความสนใจของมอนสเตอร์ที่ยังไม่เห็นตัวเรา หรือยิงเพื่อจุดถังระเบิด, ปล่อยกับดักหินต่างๆ ได้ แทบจะสร้างความเสียหายไม่ได้เลย แต่สามารถใช้ยิงมือของ Kulu Ya-ku ตอนมันถือหินให้มันทิ้งหินได้นะ! (นอกจากนี้ยังมีผล KO เล็กน้อยมากๆ แฝงไว้ด้วย)   ► Redpit กระสุนผลไม้สีแดง ไม่ค่อยต่างจาก Stone เท่าไหร่นัก แต่สามารถใช้ยิงยุงยักษ์ Vespoid จนตายเพื่อให้มันหล่นลงมาเป็นตัวๆ แล่ได้โดยไม่แหลกเป็นชิ้นๆ เหมือนใช้อาวุธโจมตีโดยตรง   ► Brightmoss มักพบได้ตามถ้ำหรืออุโมงค์ แม้จะทำความเสียหายแค่ 1 แต่ก็มีคุณสมบัติในการทำให้สิ่งที่โดนยิงมีแสงเรืองออกมาระยะใหญ่ ใช้ในการช่วยเน้นจุดหรือส่องแสงได้ แต่โดยมากจะไม่ได้ใช้กัน ถ้าใช้ยิงมังกรที่กำลังบินอยู่ จะทำให้มันชะงักหรือร่วงลงมาได้ด้วยล่ะ (ใช้กับ Elder Dragon ไม่ได้) *ใช้ดูดเมือกน้ำของ Namielle ใน Iceborne ได้*   ► Watermoss กระสุนที่มีคุณสมบัติของธาตุน้ำ ทำความเสียหายแทบไม่ได้เช่นกัน แต่มีคุณสมบัติของน้ำที่ใช้กับมอนสเตอร์บางชนิดได้ เช่นการยิงเพื่อลอกโคลนออกจากตัวของ Barroth, Jyuratodus และมีโบนัสพิเศษสำหรับคนที่ยิงเข้าปากของ Anjanath ในจังหวะที่มีเปลวไฟออกมาที่ปากได้สำเร็จ โดยมันจะล้มลงไปนอนกลิ้งให้ตีฟรียาวๆ พร้อมกับลบสถานะไฟของมันออก (การตีที่หัวของ Anjanath ก็ให้ผลแบบเดียวกันแต่ต้องตีจนความเสียหายถึง ต่างกับ Pod) *ใช้ดูดเมือกน้ำของ Namielle ใน Iceborne ได้*   ► Slinger Torch กระสุนที่มีคุณสมบัติธาตุไฟ เมื่อยิงไปแล้วหากกระทบพื้น จะเกิดเป็นเปลวไฟขึ้นมา สร้างเศษความเสียหายให้ศัตรูที่มาโดนได้ด้วย สามารถใช้จุดไล่ก๊าซพิษในพื้นที่ส่วนล่างของแผนที่ Rotten Vale ได้ เปลวไฟที่พื้นจะมีผลอยู่ราวๆ 1 นาที ช่วยให้เราสู้กับมอนสเตอร์ในดงก๊าซได้ง่ายขึ้น สามารถใช้ทำให้เกราะลาวาที่แห้งแล้วของ Lavasioth นุ่มลงได้ด้วย นอกจากนี้จะทำให้พวก Girros กลัว ไม่กล้าเข้าใกล้อีกพักหนึ่ง   ► Scatter Nut (ผลพิเศษ : ทำให้ชะงัก) ถั่วเซียนที่มีคุณสมบัติแตกกระจาย ทำความเสียหายเป็นกลุ่มได้พอสมควร โดยเฉพาะเมื่อโดนตรงกลางลำตัว ปกติมักจะพบอยู่บนเถาที่อยู่ที่สูง แต่บางครั้งก็จะหล่นที่พื้นอยู่ เพื่อนๆ สามารถใช้กระสุนชนิดอื่น ปืนหรือธนูยิงให้ผลถั่วบนเถาหล่นลงมาให้เก็บได้ (ถ้าปูเก้ปูเก้บินขึ้นไปกิน การยิงถั่วจะทำให้มันร่วงแอ๊กลงมา)   ► Crystalburst (ผลพิเศษ : ทำให้ชะงัก) มันคือ Scatter Nut เวอร์ชั่นในแผนที่ Elder Recess นั่นเองจ้า โดยรวมจึงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก   ภาพเดียวใช้ได้ 4 อย่าง Piecing, Thorn, Bomb, Dragon เลยจ้า ► Piercing Pod (ผลพิเศษ : ทำให้ชะงัก) หนึ่งในกระสุนที่จะหล่นเมื่อโจมตีมอนสเตอร์ในระดับหนึ่งหรือทำลายชิ้นส่วนได้ (ได้จากการเตะ Iron Helmcrab ด้วยเช่นกัน) มีผลในการทะลุทะลวงตลอดเส้นทางแบบไม่จำกัดครั้ง ทำความเสียหายแบบตัด ทำให้หากสะสมความเสียหายได้มากพอก็จะตัดหางได้ด้วย ► Slinger Thorn (ผลพิเศษ : ทำให้ชะงัก) หนึ่งในกระสุนที่จะหล่นเมื่อโจมตีมอนสเตอร์ในระดับหนึ่งหรือทำลายชิ้นส่วนได้ (ได้จากการเตะ Soldier Helmcrab ด้วยเช่นกัน) มีผลเมื่อยิงไปจะปักอยู่ที่มอนเสอตร์...

หลังจากที่ Monster Hunter World ได้เปิดตัวลงในภาค PC กัน ก็คาดได้ว่าน่าจะมีนักล่ามือใหม่ที่พึ่งเคยเข้าสู่โลกแห่งเหล่ามังกรและนักล่าแห่งนี้ เมื่อพูดถึงมือใหม่แล้ว ก็ย่อมมีการเป๋ ลองผิดลองถูกกันไป โดนรับน้องกลิ้งเป็นลูกขนุนกันบ้างเป็นสีสรรของเกม ในครั้งนี้ก็จะมาขอแนะนำถึง ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ หรือพื้นฐานต่างๆ ที่มือใหม่ควรทราบเพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับการล่ามอนได้ดีขึ้นจ้า https://www.youtube.com/watch?v=ClI6w7jecTo เก็บมันให้หมด สำรวจมันให้สิ้น เนื่องจากความเป็น Open World (ในระดับหนึ่ง)นั้น ทำให้โลกใน Monster Hunter World กว้างและมีอะไรให้เก็บ ให้สำรวจเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นทางลัด หรือไอเทมต่างๆ ผู้เล่นใหม่ควรใช้เวลาในการค่อยๆ สำรวจภูมิประเทศ เส้นทางเดินทางไปยังพื้นที่อื่น รวมถึงไอเทมต่างๆ ที่สามารถเก็บมาใช้งานได้ นอกจากไอเทมแล้ว เพื่อนๆ จะยังพบร่องรอยของสัตว์ขนาดใหญ่หรือมังกรได้เป็นระยะๆ ก็ขอแนะนำให้เก็บให้สิ้นหากมีเวลาจ้า เนื่องจากร่องรอยเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้เรารู้ตำแหน่งของเป้าหมายได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังเพิ่มแต้มวิจัยให้กับเพื่อนๆ ด้วย เจ้าแต้มนี้สามารถใช้งานได้หลากหลายในฐานของเราเลยทีเดียวล่ะจ้า สะสมไว้เถิด จะเกิดผล อนึ่ง ระหว่างอยู่ในเควส เพื่อนๆ สามารถกดเปิดแผนที่แล้วเลือกที่ Camp เพื่อ Fast Travel ไปยัง Camp นั้นได้นะจ๊ะ (ใช้ได้เฉพาะระหว่างไม่ได้ต่อสู้อยู่)   Scoutfly แมลงน้อยนำทาง จุดเด่นอีกอย่างของภาคนี้ที่มาแทนที่ Paintball นั้นก็คือเจ้า Scoutfly หรือหิ่งห้อยนี่เอง เพื่อนๆ จะพบว่า มันจะคอยทำหน้าที่ลอยไปชี้ตำแหน่งไอเทมรอบๆ ตัวที่สามารถเก็บได้ และชี้ไปยังร่องรอยของมังกรต่างๆ ให้ด้วย เมื่อสะสมร่องรอยได้ถึงระดับหนึ่งแล้ว พวกมันก็จะมีความไวต่อการค้นหามากขึ้น สามารถชี้นำทางไปยังร่องรอยต่อไปได้ หรือแม้กระทั่งชี้ไปยังตำแหน่งของมอนสเตอร์เป้าหมายที่ต้องการได้อีกด้วย โวะ เทพ เทพ เทพ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสีย พวกมันก็เป็นแมลงอย่างหนึ่ง ทำให้ระหว่างที่ชี้เป้าหมาย หากเราโดนบังคับให้ต่อสู้จากพวกแย้ข้างทาง หรือมังกรตัวอื่น แมลงเหล่านี้จะยุติการค้นหาเป้าหมายชั่วคราวจนกว่าเราจะหลุดจากการต่อสู้นั้น (ขอบแผนที่ไม่เป็นสีแดง) หรือบางครั้ง มันก็พาเราอ้อมโลกไปซะไกล ทั้งๆ ที่พอสังเกตุทางดีๆ รู้ทางลัดแล้ว เราวิ่งแป๊บเดียวถึงก็มีจ้า แหม่ แมลงมันไม่รู้จักทางลัดนี่น้า อนึ่ง เลเวลของข้อมูลมอนสเตอร์ที่เรามี จะเป็นตัวกำหนดความไวต่อร่องรอยของแมลงน้อยด้วยน้า เช่นถ้าข้อมูลเลเวล 0 เราจะต้องตามรอยหลายครั้งมาก กว่าจะชี้ทางได้ แต่ถ้ามีเลเวล 3 แค่เจอรอยสองครั้งก็เพียงพอจะชี้เป้าแล้วล่ะจ้า   Ecological Research รอบรู้เรื่องมอนทั้งหลาย อยากรู้ไหมว่ามอนตัวไหนแพ้ธาตุอะไร จุดไหนทำลายได้ ตรงไหนจุดอ่อน? ขอแนะนำให้รู้จักกับคุณลุงนิเวศวิทยาคนนี้เลย ทุกครั้งที่เพื่อนๆ สะสมร่องรอยของสัตว์ขนาดใหญ่, มังกร หรือไปสู้กับมันมาแต่ละครั้ง จะได้รับแต้มข้อมูลของพวกมันมา และเมื่อเลเวลอัพ จะสามารถมารายงานกับลุงคนนี้ได้ โดยผลของการรายงาน จะทำให้มีการบันทึกลงในสมุดโน๊ต Hunter's Note ของเพื่อนๆ ไว้เป็นข้อมูลในการออกล่าได้จ้า ในสมุด Hunter's Note นี้ ก็จะแสดงข้อมูลของมอนสเตอร์ที่เพื่อนๆ เก็บรวบรวมมาโดยแบ่งเป็นระดับต่างๆ พื้นฐานดังนี้ เลเวล 0 : มีแค่ชื่อกับข้อมูลทั่วไป เลเวล 1 : แสดงจุดอ่อน ข้อมูลการแพ้ทาง (ยิ่งดาวเยอะ ยิ่งแพ้ทาง) เลเวล 2 : แสดงข้อมูลไอเทมดรอปในระดับ Low Rank เลเวล 3 : เพิ่มข้อมูลไอเทมระดับ Rare เลเวล 4 : เพิ่มข้อมูลไอเทมดรอปในระดับ High Rank นอกจากนี้ในแต่ละเลเวล ก็จะทำให้เจ้า Scoutfly ของเราทำงานได้ดีขึ้น ใช้จำนวนร่องรอยน้อยลงก่อนจะชี้ตำแหน่งมอนได้ไวขึ้นด้วยจ้า   Resource Center จุดรับส่งเควสพิเศษ Resource Center หรือหน่วยช่างสามสหายนั้น เพื่อนๆ สามารถเข้ามาพูดคุยกับพวกเขาเพื่อรับเควสหรือลงทะเบียนเควสชนิดพิเศษได้จ้า โดยเควสเหล่านี้จะแบ่งเป็น Bounty : เป็นการรับเควสย่อยที่สามารถทำไประหว่างทำเควสอื่นๆ ได้ทุกชนิด เช่นเก็บเห็ดให้ครบตามจำนวน จับมังกรให้ได้ ล่ามังกรให้ครบ ซึ่งจะได้รางวัลหลักเป็นแต้มวิจัยและ Armor Sphere สำหรับตีบวกเกราะจ้า Investigate : เป็นการลงทะเบียนเควสชนิดพิเศษ เควสเหล่านี้จะมีเงื่อนไขแตกต่างไปจากเดิม เช่นมีเวลาน้อยลง นอนแมวได้น้อยครั้ง จำกัดจำนวนคน รวมถึงจำกัดจำนวนครั้งที่สามารถสร้างเควสนี้ได้ด้วย แต่มีข้อดีที่จะมีรางวัลให้เยอะกว่าไปล่าตามปกติ ซึ่งเพื่อนๆ จะสามารถมาเลือกเควสที่ต้องการได้ที่นี่ จากนั้นเควสจะปรากฎให้สร้างได้ในหมวด Investigate ตอนครีเควสจ้า Delivery Quest : เป็นหัวข้อสำหรับการส่งเควสชนิดที่ NPC ต่างๆ ขอให้หาของมาให้โดยที่เราไม่ต้องออกไปลุยในเควส, หรือมายืนยันตำแหน่ง Camp ของแผนที่ต่างๆ ได้จ้า ซึ่งในระหว่างการเล่นนั้น ขอแนะนำให้เพื่อนๆ แวะมาหาสามสหายนี้บ่อยๆ โดยเฉพาะการมารับส่ง Bounty เพื่อสะสมแต้มวิจัยและ Armor Sphere ไว้ใช้งาน จะได้ไม่มีปัญหาต้องมาไล่เก็บทีหลังแบบเหนื่อยๆ น่อ อนึ่ง การจะทำให้เควส Investigate ปรากฎขึ้นมานั้น จะต้องมีการสำรวจร่องรอยของมอนสเตอร์ชนิดนั้นๆ หรือทำลายชิ้นส่วนไปจนถึงระดับหนึ่งก่อน ทำให้บางครั้งหากออกล่าเพียงครั้งเดียว อาจจะยังไม่มีเควสปรากฎขึ้นมาน้า   Training Area เบื่อไหมกับการออกสำรวจเพื่อไปลองอาวุธ ไปหัดใช้นู่นนี่ในเควส? นี่เลย Training Area พื้นที่พิเศษที่ให้เพื่อนๆ ได้ลองของได้อย่างสะใจ วิธีการเข้าไปนั้นก็จะสามารถเข้าไปผ่านทาง My Room และคุยกับน้องเหมียว Housekeeper จากนั้นเลือกหัวข้อ Training Area น้องเหมียวก็จะพาเรามาส่งที่ลานฝึกซ้อมให้แล้วจ้า ในลานฝึกซ้อมนี้ ก็จะมีทั้งเถาวัลย์ พื้นที่กระโดด ทางลาด จุดวิ่งไต่ผนัง แบบครบเครื่องพร้อมกับน้องเสาให้เราได้ทดลองอาวุธดูความแรงกันได้ถึงพริกถึงขิงกันไปเลย นอกจากนี้ก็ยังมีกล่องเก็บของสำหรับเปลี่ยนอาวุธที่มี รวมถึงไอเทมที่ใช้ก็จะไม่ถูกหักออกจากตัวหรือกล่องอีกด้วย เรียกได้ว่าอยากลองอะไรก็ลองได้เต็มที่กันไปเลย! เพื่อนๆ มือใหม่หรือมือเก่าที่อยากลองอะไร อย่าพลาดพื้นที่นี้นะจ๊ะเอ้อ   Slinger ของเล่นใหม่นักล่า อุปกรณ์ใหม่ที่ตัวละครโชว์ให้ดูตั้งแต่เริ่มเข้าเกมนั้น เป็นของเล่นใหม่ของนักล่าที่ใช้งานได้หลากหลายเลยทีเดียว Slinger หรือหนังสติ๊กนั้นโดยหลักเพื่อนๆ จะสามารถเก็บกระสุนชนิดต่างๆ มาใช้งานกับมันได้ เพื่อยิงให้เกิดผลที่แตกต่างกันไปตามแต่ชนิดกระสุน ไม่ว่าจะเป็นก้อนหินธรรมดาสำหรับเบี่ยงเบนความสนใจเวลาที่มอนสเตอร์ยังไม่เห็นเรา หรือใช้ยิงกระสุนมอสแสงให้เกิดแสงสว่างที่ตัวมอนหรือพื้นที่มืดๆ ได้ กระสุนนั้นก็มีหลากหลายชนิดให้ได้ทดลองใช้ และนอกจากใช้ยิงกระสุนแล้ว มันยังใช้ในการโหนตัวตามตำแหน่งต่างๆ ที่มีเจ้าแมลงสีดำสลับทอง Wedge Beetle เป็นเส้นทางลัดได้อีกด้วยล่ะ ถ้าคิดว่าวิ่งช้าแล้ว ลองหัดใช้ Slinger โหนในจุดต่างๆ ดูซิ แล้วจะรู้ว่าความเร็วเป็นเยี่ยงไร! ► อ่านข้อมูลของ Slinger แบบเจาะลึกได้ จ้า   Canteen กองทัพเดินด้วยพุง นักล่ามีแรงด้วยของกิน ในเกมนั้นจะมีส่วน Canteen...

พูดถึงเกมปลูกผักอย่าง Stardew Valley แล้วนั้น การมีระบบ co-op นั้นถือว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่และมีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมากเลยทีเดียว แม้ว่าโดยรวมตัวเกมนั้นจะเหมือนเดิม แต่หลายๆ อย่างก็มีการปรับเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ไม่ว่าในด้านการหยุดเวลาไม่ได้ หรือการบริหารเงินที่ได้มา ในบทความนี้ก็จะแนะนำเพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยผ่านจับ co-op ใน Stardew Valley กันจ้า ว่ามีอะไรที่น่ารู้หรือระวังบ้าง 10 เรื่องน่ารู้ก่อนเล่น co-op 1. เพื่อนจะเข้าเล่นได้ต่อเมื่อมีอาคารที่ชื่อว่า Cabin ว่างอยู่ในฟาร์ม นอกจากการครีในโหมด co-op แล้ว ตัวฟาร์มจำเป็นจะต้องมีอาคารที่เรียกว่า Cabin ต่างๆ อยู่ด้วย เพื่อนๆ จึงจะสามารถเข้ามาเล่นด้วยกับเจ้าของฟาร์มได้ โดยตัวอาคารนี้จะสร้างได้ทันทีในราคาและวัตถุดิบที่ถูกเยี่ยงเมล็ดไชเท้าเลย (100g + 10 stone) ซึ่งโดยปกติจะสร้างได้สูงสุดสามแห่ง (รวมทุกชนิด) ซึ่งหากเลือกสร้างฟาร์มใหม่ก็จะมีตัวเลือกติดตั้ง Cabin ให้แต่แรกด้วยล่ะ หลังจากมี Cabin แล้ว ก็ให้เพื่อนเข้าเกมและสร้างตัว ก็จะเป็นการลงทะเบียนชื่อเพื่อนคนนั้นในฟาร์มของเราจ้า อย่างไรก็ดี ตัวเกมไม่มีระบบเตะคนออกให้หรือล๊อคห้อง ดังนั้นถ้ามีคนใน Friend List ที่ไม่ได้ตั้งใจชวนเข้ามาในฟาร์มและเขาทำการสร้างตัว Cabin จะโดนยึดไป ต้องทำการทุบทิ้งสร้างใหม่หากอยากเตะคนๆ นั้นออกนะจ๊ะ   2. เจ้าของฟาร์มมีบ้าน เพื่อนก็มี Cabin ในส่วนของ Cabin นั้นก็จะเป็นเหมือนกับบ้านของเจ้าของฟาร์มเป๊ะๆ ยกเว้นภายนอกที่ดูเล็กกว่า แต่ภายในนั้นก็จะมีขนาดใหญ่เท่ากัน และตกแต่งได้อย่างอิสระเหมือนกัน (ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของ Cabin ก็ตกแต่งได้นะ แกล้งกันได้นะเอ้อ ระวังด้วย ฮา) นอกจากนี้การอัพเกรดตัวบ้านนั้นก็จะคิดแยกกันอีกด้วย หากเพื่อนไม่อยู่ในเกมนั้น คนอื่นก็จะสามารถเข้าไปสำรวจลิ้นชักซึ่งจะเป็นส่วนของช่องเก็บของในตัวเพื่อนคนนั้นได้ ทำให้ไม่ต้องห่วงว่าเวลาเพื่อนไม่ได้เล่นแต่มีของที่ต้องใช้อยู่ในตัว ต้องมารอพร้อมกันอะไรขนาดนั้น อุแหม่   3. วิธีการชวนคนเข้ามาเล่นได้หลายวิธี ตัวเกมมีวิธีในการชวนคนเข้ามาเล่นในฟาร์มด้วยกันหลายวิธี ทั้งการเปิดให้เพื่อนเข้าได้อย่างอิสระ (ตัวเกมพื้นฐานจะปิดส่วนนี้ให้ เพื่อกันไม่ให้ที่ในฟาร์มโดนคนที่ไม่ได้ตั้งใจเล่นด้วยกันแต่แรกมาจองที่), การเปิดเฉพาะระบบ Lan, การส่ง Invite หรือแม้กระทั่งการออก Code ให้กรอกสำหรับคนที่ไม่ให้อยู่ใน Friend List เดียวกันอีกด้วย เรียกได้ว่าใส่ใจมากเลยทีเดียวล่ะ! เพื่อนๆ สามารถแก้ไขส่วนนี้ได้ในหน้าจอ Setting ส่วนของ Multiplayer จ้า   4. เวลาใน co-op จะเดินตลอดเวลา! คนเดียวหยุดให้ หลายคนวิ่งกันเข้าไปก็แลดูจะไม่ผิดนัก เพราะใน co-op นั้น เวลาจะไม่หยุดให้ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ตาม ติด Event, เปิดเมนู, ซื้อของ, กินอาหารหรือขึ้นรถบัส ทั้งหมดเวลาก็จะเดินต่อไปอย่างมุ่งมั่น ทำให้การบริหารเวลาใน co-op เป็นอะไรที่ป่วนแตกกันสุดๆ เลยล่ะ เพื่อนๆ ต้องปรับตัวกันสุดๆ ถ้าไม่อยากให้ง่วงสลบนอกบ้านตอนตีสองล่ะนะ!   5. ทุกคนต้องพร้อมถึงจะเริ่มเทศกาลได้ ในขณะที่ตัวเกมมีกำหนดเวลาว่าต้องไปถึงลานนี้หรือที่นี่ในช่วงเวลาเท่านี้ของวันจึงจะเริ่มเทศกาลได้ แต่ไม่ใช่ว่าแค่เจ้าของฟาร์มไปถึงงานเทศกาลก็เริ่มแล้วคนอื่นจะวาร์ปมาหรือโดนทิ้งไว้ตรงนั้นนะจ๊ะ ทุกคนต้องมาถึงที่หมายเพื่อรอให้คนอื่นๆ มาจนครบก่อน จึงจะตัดเข้างานเทศกาลนั้นได้ ซึ่งอย่างไรก็ตาม ข้อดีคือในเทศกาล เวลาจะยังหยุดเดินตามปกติให้ทุกคนได้เล่นเทศกาลได้เต็มที่จ้า ทั้งนี้ของรางวัลในเทศกาลนั้นจะนับแยกเป็นรายคน เช่นคะแนนหรือแต้มที่ได้รับ (ยกเว้นการประกวดของใน Stardew Valley Fair ที่นับถาดเดียวได้หมดทุกคน) หรืออาหารที่ใส่ในเทศกาล Luau ต้องใส่ระดับเดียวกันจึงจะได้ผลตามที่กำหนดเป็นต้น   6. หลายคนเตียงเดียวได้และหลับแยกกันจ๊ะ การนอนก่อนตีสองเพื่อป้องกันการง่วงหลับนอกบ้านยังคงมีอยู่และไม่มีอะไรป้องกันหรือลักไก่ได้แล้ว ซึ่งตัวเกมนั้นจะคิดแยกว่าใครหลับทันหรือไม่ทัน คนไม่ทันก็จะตื่นมาในบ้านพร้อมกับค่า Energy ที่ไม่ค่อยจะเต็มเท่าไหร่ ส่วนคนที่นอนรออยู่ก็จะตื่นตามปกติพลังงานเต็มเปี่ยมจ้า นอกจากนี้ไม่จำเป็นต้องนอนเตียงของตัวเอง จะมุดโปงพร้อมกับเพื่อนๆ ก็ยังได้ เลยเป็นที่มาของอาการ ใครบ้านใกล้ทางเข้าออกฟาร์มจะโดนมุดโปงเสมอ (ฮา) และไม่ต้องกังวลว่าคนนอนก่อนจะเสียเปรียบ เพราะแค่ตัวสัมผัสเตียง ค่าพลังงานก็จะค่อยๆ ฟื้นฟูอย่างช้าๆ โอ้ว สุดยอด แบบนี้ต้นเกมสบายเลย! .... ไม่อ่ะ เวลามันก็เดินของมัน รู้ทันนะเธอวววว์   7. เงินแชร์กันหมด แต่ของไม่แชร์ อุฮิ เป็นความโหดร้ายอย่างหนึ่งของระบบ co-op ที่ทุกคนใช้เงินกองกลางร่วมกันทั้งหมด ใครตกปลาขาย ใครปลูกผักขาย ลงกองกลางหมด แต่ของที่ซื้อ อัพเกรดอะไรต้องซื้อแยกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าต่างๆ การอัพอุปกรณ์ แม้กระทั่งบ้านและคอกม้าที่ต้องเปย์เองกันทั้งสิ้น โอ๊ก อย่างไรก็ดี ถ้ามีการวางแผนกันดีๆ ช่วยกันหาเงิน ตกลงว่าใครเอาอะไรก่อนหลัง ก็จะทำให้การบริหารเงินเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้นจ้า   8. ระบบ Margin สำหรับ Hardcore Gamer ระบบหักรายได้ เป็นระบบที่ใช้สำหรับเพิ่มความยากของเกมได้ตามใจ ซึ่งหน้าที่ของมันก็จะตามชื่อเลย นั่นคือทำให้รายได้ที่เราได้รับเหลือตามที่ตั้งไว้ เช่นตั้งไว้ที่ 100% เวลาขายของราคา 20,000 ก็จะได้เต็มๆ 20,000 แต่ถ้าตั้งให้น้อยลงเหลือ 75% จากสองหมื่น จะเหลือแค่ 15,000! และถ้าเหลือ 50% จะยิ่งโคตรร๊อค เหลือแค่ 10,000 เดียว!!! เรียกได้ว่าเล่นกันแบบเวรี่ฮาร์ทกันเลยทีเดียวจ้า   9. แต่งงานกันเองได้ ในขณะที่การจับชาวเมืองนั้นต้องแย่งกันว่าใครจะเหนือกว่าถ้าจีบคนเดียวกัน แต่ว่าตัวเกมก็เปิดให้เพื่อนๆ แต่งงานกันเองได้ด้วยนะจ๊ะถ้าเบื่อชาวเมืองกันแล้ว หรือแฟนๆ มาเล่นด้วยกัน (ขอดีดมดแป๊บ) แต่แน่นอนว่าแต่งด้วยกันเองก็จะไม่ได้สิทธิพิเศษแบบที่ชาวเมืองเขามีกัน (ให้ของตอนเช้า, ช่วยรดน้ำ, เลี้ยงสัตว์อะไรทำนองนั้น) และลักไก่แต่งกันตั้งแต่วันแรกไม่ได้นะจ๊ะ เพราะต้องมีแหวนแต่งงานที่สร้างย๊ากยาก(จริงๆ นะ) ด้วยล่ะเอ้อ งานนี้ก็ต้องพิสูจน์รักแท้กันซักหน่อยล่ะน้า   10. Mod ใช้ได้แค่บางอันนะจ๊ะ เนื่องจากตัวอัพเดท Multiplayer มีการแก้ไขอะไรมากมาย ทำให้ Mod เกมหลายๆ ตัวไม่รองรับ แต่หลายตัวก็มีการอัพเดทตามให้รองรับหรือโชคดีที่ใช้ได้โดยไม่ต้องแก้ไขอะไรพิเศษอยู่บ้าง ซึ่งโดยมาก Mod จำพวกเปลี่ยนรูปต่างๆ เช่นภาพตัวละครมักไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นกรณีของ Mod ที่แก้ไขระบบของตัวเกมนั้น ส่วนมากก็จะมีปัญหาแน่นอน เพื่อนๆ สามารถเช็ครายชื่อ Mod ที่ตัวเกมรองรับได้ จ้า   นี่ก็เป็นเรื่องน่ารู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับระบบ co-op ของตัว Stardew Valley จ้า ใครที่ไม่เคยเล่นจะได้รับมือกันได้ง่ายขึ้นหน่อยน้า  

ขึ้นชื่อว่าเกมแนว Survival ย่อมต้องไม่แนะนำอะไรให้ผู้เล่นต้นเกม และนั่นหมายถึงความตายที่รออยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้ ใน Raft เองก็เช่นกัน ที่แม้ว่าจะต้องวุ่นกับการทำนู่นนี่ตลอดเวลา แต่ก็ยังต้องหากินอยู่เพื่อไม่ให้หิวตาย ในครั้งนี้ก็เลยเป็นที่มาของบทความ "เอาตัวรอดฉบับเบื้องต้น" ใน Raft กันว่าเริ่มมาแล้วควรทำอย่างไรดีให้ตัวเองรอดให้ได้ https://www.youtube.com/watch?v=__w615A5lC4 วิธีการเอาตัวรอดฉบับเบื้องต้นใน Raft เริ่มมานั้น เพื่อนๆ จะอยู่บนแพขนาด 2x2 ช่อง พร้อมกับตะขอให้ใช้งานหนึ่งอันเท่านั้น ในทะเลที่มีฉลาม 1 ตัวและขยะลอยอยู่เต็มไปหมด ท่ามกลางความหิวและความกระหายน้ำที่ค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เพื่อนๆ ต้องทราบก็จะมีดังนี้ ไม่แนะนำให้โดดลงไปเก็บของเพราะแบบนี้ล่ะ อย่ากระโดดลงน้ำไปเก็บของเล่น - การทำแบบนี้จะทำให้โดนน้องหลามงาบขึ้นอืดตายเอาง่ายๆ นอกจากนี้หากว่ายตามแพไม่ทันหรือแพลอยหายไป งานนี้แทบจะต้องเล่นใหม่ลูกเดียวนะจ๊ะ หมั่นเก็บของให้เสมอ - ของต่างๆ นั้นหมดลงอย่างรวดเร็ว พยายามหาของเก็บสะสมไว้เสมอ อย่าดื่มน้ำทะเล - น้ำทะเลจะทำให้หิวน้ำอย่างรวดเร็วและเผาหลอดความกระหายน้ำให้พินาศสิ้นในช่วงเวลาเพียงวินาทีเดียว เลี่ยงการกินของดิบถ้าไม่ใช่ผลไม้ - การกินของดิบจะได้ค่าความอิ่มน้อยลง และยังทำให้หิวน้ำด้วย หากต้องการกินของดิบ มีผลไม้ให้กินนะจ๊ะ จำปุ่มกิน-ดื่ม(คลิ๊กซ้าย)และปุ่มวาง(E) ให้แม่น - การกดผิดจะทำให้ชีวิตพังพินาศได้อย่างรวดเร็ว อะไรที่เกินตัว ให้ปล่อยไป - การเจอเกาะทั้งที่ไม่มีสมอเรือ หรือการพยายามพายแพสู้กระแสน้ำไปหาถังใบเดียวจนไม้พายแหก เป็นอะไรที่ไม่คุ้มค่า เอ้า ลากเข้ามา ของทั้งนั้น ในช่วงแรกของเกมที่มีเพียงแพอันน้อยนั้น เพื่อนๆ ควรพุ่งเป้าไปที่การเตรียมของจำเป็นพื้นฐานก่อน โดยให้เพื่อนๆ ทำการรวบรวมไม้ ใบไม้ และพลาสติกให้เร็วที่สุดและรีบประกอบขึ้นมาทีละอย่าง (ใบ้ไม้จะสามารถนำมาสร้างเป็นเชือกได้) ของพื้นฐานในการเอาตัวรอดไล่ตามลำดับความสำคัญไปก็จะมีดังนี้ TIP : กดคลิ๊กขวาหากต้องการรีบยกเลิกการลากตะขอ จะประหยัดเวลากว่าลากตะขอเปล่าๆ เข้ามาหาตัว (ทำได้เฉพาะไม่มีของติดกับตะขออยู่จ้า) ค้อน (Building Hammer) : ใช้ต่อเติมแพหรือซ่อมแพ (ใช้ได้ถาวร) หอก (Wooden Spear) : สำหรับไล่ฉลาม หรือป้องกันตัว แก้วน้ำ (Empty Cup) : เก็บน้ำ (ใช้ได้ถาวร) ที่กลั่นน้ำ (Simple Purifier) : สำหรับกลั่นน้ำดื่มก่อนแห้งตาย (ใช้ได้ถาวร) เตาย่าง (Simple Grill) : ไว้ย่างอาหาร (ใช้ได้ถาวร) มีที่กลั่นน้ำ เตาย่าง หอก ค้อน แก้วน้ำ ชีวิตก็จะเริ่มทรงตัวแล้วล่ะ จะเห็นได้ว่าจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พอประมาณเลยทีเดียว และการจะวางของให้เริ่มรู้สึกมีพื้นที่ ก็จะต้องต่อเติมแพเพิ่มเติม โดยใช้ไม้และพลาสติกเพิ่มเติมด้วย โดยปกติแล้ว ในช่วงแรก แพขนาด 3x3 หรือ 4x3 จะช่วยให้มีพื้นที่ทำนู่นนี่ได้มากขึ้นเยอะจนอุ่นใจได้ ► การหาน้ำจืดและอาหาร ในส่วนของน้ำจืดนั้น เพื่อนๆ สามารถหาน้ำจืดได้ด้วยการเอาน้ำทะเลใส่แก้ว และเอาไปกลั่นด้วยเครื่องกลั่นน้ำ (ใช้เศษไม้เป็นเชื้อเพลิง) หรือจะกินผลไม้จากบนเกาะเอาก็ได้จ้า ในด้านของอาหาร ต้นเกมนั้น เพื่อนๆ จะต้องพึ่งดวงจากการลุ้นว่าจะเก็บถังไม้ที่มีมันฝรั่งหรือหัวบีทได้ไหม และเอามาย่างกินจ้า ผลไม้บนเกาะจะให้น้ำมากกว่าอาหารเป็นส่วนมาก ซึ่งภายหลังเราจะตกปลามากินกันเป็นหลักแทน เริ่มเอาตัวรอดจริงจัง หลังจากนั้นก็จะเริ่มเป็นการเตรียมอุปกรณ์ระดับกลางที่ใช้ในการอำนวยความสะดวกให้มากขึ้น ในจุดนี้เพื่อนๆ จะเริ่มทำการหาอาหารและน้ำมาตุน และเอาตัวรอดไปวันๆ ได้โดยไม่เดือดร้อนมากถ้าไม่คิดการใหญ่ทำอะไรเกินตัว หรือร้อนรนจนเกินไป แน่นอนว่ามันก็จะเป็นขั้นตอนที่กินทรัพยากรไปอีกระดับอย่างน่าสะพรึงเลยล่ะ ใบเรือ หนึ่งในของใช้ประจำเรือ (มีผลแค่ใบเดียวนะ หลายใบไม่ช่วย) ใบพาย (Paddle) : ไว้พายไปยังจุดที่ต้องการได้ เบ็ดตกปลา (Fishing Rod) : แหล่งการหาอาหารหลักของผู้เล่นเลยทีเดียว โต๊ะวิจัย (Research Table) : ใช้ในการวิจัยของใหม่ๆ ต่างๆ กล่องเก็บของ (Small Storage) : เมื่อของเริ่มรก ก็จำเป็นต้องมีที่เก็บ สมอเรือ (Throwable Anchor) : สำหรับการขึ้นบกอย่างบนเกาะเท่านั้น ก่อนที่แพจะลอยหายไป ขวาน (Axe) : อุปกรณ์ถล่มต้นไม้ต่างๆ หรือทำลายพื้นที่ที่ไม่ต้องใช้ ใบเรือ (Sail) : ใช้ในการปรับทิศทางเรือโดยไม่ต้องอาศัยใบพาย เหยื่อฉลาม (Shark Bait) : ของล่อไม่ให้ฉลามงาบระหว่างดำน้ำ ตกปลากินประทังชีวิต ด้วยพลังแห่งใบพาย จะทำให้เพื่อนๆ สามารถเข้าถึงถังไม้หรือแพร้างที่อยู่ไกลออกไปได้ง่ายขึ้น และเบ็ดตกปลาจะช่วยให้มีทั้งน้ำและอาหารกินตลอดเวลายามที่ว่างจากการหาของ (หรือจำใจต้องทิ้งของไปตกปลา) โต๊ะวิจัยจะช่วยปลดล๊อคของต่างๆ เพิ่มเติม โดยแลกกับการต้องเอาวัตถุดิบหย่อนลงไปวิจัยก่อนชิ้นหนึ่ง แต่ก็คุ้มค่า เพราะของต่างๆ ที่ต้องใช้นั้นจะมีอยู่ในนั้นทั้งหมดเลยทีเดียว TIP : ปลาขนาดเล็กอย่าง Pomfret และ Herring นั้น เก็บไว้ทำเหยื่อฉลามจะคุ้มกว่าเอามากินเองจ้า ให้อาหารน้อยมากๆ TIP : ระหว่างตกปลายังสามารถเดินไปมาและเก็บของได้ตามปกตินะ ถ้าไม่มีสมอเรือ แพก็จะลอยไปตามน้ำเยี่ยงนี้ ถ้าตามไม่ทันก็จบเกมเลย ตัวสมอเรือและขวานนั้นจะช่วยในการให้ผู้เล่นสามารถรุกขึ้นเกาะไปเก็บไม้และผลไม้ต่างๆ ได้ แม้ว่าจะไม่จำเป็นมากนักในต้นเกม แต่การขึ้นเกาะสำเร็จก็จะช่วยให้มีทรัพยากรสำคัญอย่างไม้ และผลไม้มาช่วยให้เล่นได้ง่ายขึ้นไปพักใหญ่เลยทีเดียว ..... ยกเว้นการเจอเกาะที่ขึ้นไม่ไหว สูงไป ก็ต้องใช้เทคนิคการสร้างหลังคายื่นแบบไม่แคร์สื่อ ต่อให้ยาวออกไปและสูงพอเอากันแทน ► การขึ้นเกาะสูงๆ เกาะที่สูงๆ นั้น ตัวเกมจะบังคับให้เรามีแพที่สูงพอ ดังนั้นวิธีการคือการที่เราสร้างหลังคาแบบใดก็ได้ (ที่เป็นชนิดทางลาด) และต่อเป็นทางลากขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงระดับความสูงที่เราต้องการนั่นเอง แน่นอนว่าการทำแบบนี้จะทำให้เราถูกบังคับให้ขึ้นเกาะด้วยทิศนั้นของแพอย่างเดียว ซึ่งใบเรือและใบพายจะช่วยให้เราปรับตำแหน่งแพได้ TIP : ก่อนขึ้นเกาะควรรอให้ฉลามงับแพและไล่ไปก่อน เพราะหากเราขึ้นเกาะแล้วฉลามงับแพ จะไม่มีเวลาย้อนกลับมาทัน ถ้ามันงับจุดสำคัญ อาจจะทำให้ที่สร้างมาตั้งนานพังพินาศได้ ใต้น้ำจะมีเศษเหล็ก หิน ทราย ดินเหนียว สาหร่ายให้เก็บมากมาย ถ้าสามารถรับมือกับฉลามได้ ปัญหาของการดำน้ำก็ไม่พ้นเจ้าฉลาม ตรงจุดนี้ เหยื่อล่อฉลามจะเข้ามามีบทบาท โดยเหยื่อชิ้นหนึ่งจะล่อฉลามให้งับได้ราวๆ 2 นาที มีเวลาให้เราเก็บของใต้น้ำได้ในระดับหนึ่ง การมีเหยื่อเตรียมไว้ซัก 2-3 อันจะช่วยให้เราเก็บของใต้น้ำได้มากเลยทีเดียว หลักๆ ของการเอาตัวรอดฉบับพื้นฐานก็จะจบลงเท่านี้จ้า เพราะถ้าเขียนมากกว่านี้มันก็จะไม่ใช่เรื่องพื้นฐาน แต่จะกลายเป็นเรื่องยาวการเล่นโดยละเอียดเอาแล้ว ซึ่งอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ เพราะการเล่นเกมเอาตัวรอดนั้น ส่วนตัวหมาก็มองว่าการรู้พื้นฐานนิดหน่อยแล้วไปต่อยอดเอาเองจะเล่นสนุกกว่ามาก อย่างไรก็ดี ถ้าบทความนี้ช่วยให้เล่น Raft สนุกขึ้นหรือง่ายขึ้น หมาก็ดีใจที่ช่วยเหลือได้จ้า ไว้เจอกันใหม่บทความหน้าน้า

Onmyoji คือนักพรตที่ใช้วิชา วิถีแห่งองเมียว โดยจะเป็นรูปแบบวิชาเวทย์มนตร์โบราณแขนงหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีรากฐานมาจากโหราศาสตร์และลัทธิเต๋าของประเทศจีน ในวิถีแห่งเต๋านี้ เชื่อว่าทุกสรรพสิ่งนั้นประกอบไปด้วยธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ไม้ และ เหล็ก ทั้งยังมีพลังด้านบวกและลบ หรือก็คือ หยิน-หยาง ที่แสดงถึงความสมดุลของสรรพสิ่ง ตามตำนานของประเทศญี่ปุ่น องเมียวจิที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ อาเบโนะ เซย์เมย์ ถูกกล่าวขานว่าเกิดมาจากสุนัขจิ้งจอก ซึ่งสุนัขจิ้งจอกถือว่าเป็นสัตว์ที่มีเวทมนตร์ จึงพูดได้ว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่บุญขององเมียวจิ ดังนั้นในเกมนี้เราจึงได้เห็นสกิลเรียกหมาจิ้งจอกแสนน่ารักด้วย นอกจากนี้ในเกมยังมีการนำอสูรปกครองศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 ทิศ ตามหลักตำราจีนมาเป็นสกิลในเกมอีกด้วย ได้แก่ เก็นบุ หรือเต่าดำทิศเหนือ , เซริว หรือมังกรฟ้าทิศตะวันออก, ซุซาคุ หรือหงส์แดงทิศใต้, และ เบี๊ยคโกะ เสือขาวทิศตะวันตก นั่นเอง           จุดเด่น เป็นอาชีพที่มีสกิลหลาย Over Heat มากเมื่อเทียบกับอาชีพอื่น ตัวสกิลมีลักษณะเป็น Multi hits ทำให้สามารถใช้งานคู่กับการ์ดสร้างสถานะได้ดี แต่ละสกิลมีระยะที่กว้างมาก ใช้งานง่าย แต่ละสกิลมีเอฟเฟคพิเศษอยู่ เช่นมีบัฟ และ ดีบัฟ จุดด้อย สกิลเบาเมื่อเทียบกับคลาสอื่นๆ เกือบทุกสกิลจำเป็นจะต้องอาศัยการร่าย (Cast) ทำให้ถ้าหากขาก Quick Cast จะทำให้ขาดการต่อเนื่องได้ สกิลหลักๆเป็นสกิลบัฟที่มีคูลดาวน์นานพอสมควร เป็นคลาสที่ต้องใช้ Sp จำนวนมากในการร่ายสกิล   สกิล ภาพ ชื่อสกิล Circle Type รายละเอียด Fire Fox Shikigami 1 Magic Attack อัญเชิญ Fire Fox Shikigami ออกมาช่วยโจมตีศัตรูเป็นเวลา 60 วินาที - การโจมตีจะเป็นแบบอัตโนมัติเหมือนกับสกิลซัมม่อนทั่วไป ไม่สามารถบังคับได้ - มี Attribute ที่เสริมความสามารถสกิล และ ของอาชีพ Psychokiino - มี Attribute ที่ทำให้มีโอกาสโจมตี 3 ฮิต 25% เมื่อเลเวลเต็ม - มี Attribute ที่ทำให้ซัมม่อนโจมตี 3 ฮิตตลอด แต่ระยะเวลาจะเหลือเพียง 10 วินาที Greenwood Shikigami 1 Magic Attack เสกต้นไม้ขึ้นมาโดยจะสร้างความเสียหายกับศัตรูที่อยู่รอบๆ และยังส่งผลให้ศัตรูติด อีกด้วย - จะลด movement speed 10 เป็นเวลา 5 วินาที - มี Attribute ที่ทำให้ศัตรูติดดีบัฟโดนแดมเมจต่อเนื่องหลังจากสกิลหยุดทำงานไป - มี Attribute ที่ทำให้ดึงศัตรูที่อยู่รอบๆเข้าสู่ใจกลางต้นไม้ Howling White Tiger 1 Magic Attack โจมตีศัตรูที่อยู่รอบๆตัวเราโดยจะโดนตัวที่ใกล้กับเราที่สุดเป็นอันดับแรก และทำให้ศัตรูติดอยู่ในสถานะ (สกิลนี้ เมื่อโจมตีใส่ศัตรูประเภท จะแรงขึ้น 50%) - มี Attribute ที่ทำให้โจมตีใส่ศัตรูประเภท แรงขึ้น 50% เมื่อเลเวลเต็ม - มี Attribute ที่ทำให้หลังใช้สกิลจะได้รับบัฟ movement speed +10 เป็นเวลา 10 วินาที Water Shikigami 1 Magic Attack ยิงคลื่นน้ำระยะกว้างออกไปเป็นเส้นตรงเพื่อสร้างความเสียหายแก่ศัตรูที่อยู่บริเวณด้านหน้า Genbu Armor 2 Magic Attack สร้างเกราะป้องกันขึ้นมา โดยเมื่อเราได้รับแดมเมจจะไปลด SP แทนการลด HP และเกราะนี้จะหายไปเมื่อ SP เราใกล้หมด เมื่อเราเปิดใช้สกิลนี้ จะทำให้ SP regen ตามปกติไม่ทำงาน - ไม่สามารถทำงานร่วมกับ ได้ - เมื่อใช้สกิลนี้อยู่ จะมีโอกาสที่จะไม่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีธาตุ - มี Attribute ที่ทำให้มีโอกาสหลบการโจมตีจาก P.Atk ได้ 10% เมื่อเลเวลเต็ม - มี Attribute ที่ลดอัตราการการกิน SP ลง 10% เมื่อเลเวลเต็ม Toyou 2 Magic Attack ร่ายสกิลแผ่นดินไหวสร้างความเสียหายแก่ศัตรูในวงกว้าง สำหรับศัตรูที่ติดสถานะ จะโดนแดมเมจจากสกิลนี้เพียงครึ่งเดียว แต่จะมีโอกาสติดสถานะ - จะทำให้เดินไม่ได้ 3 วินาที - มี Attribute ที่ทำให้มีโอกาสติด 10% เมื่อเลเวลเต็ม     การใช้งานสกิลจริงที่น่าสนใจ Fire Fox Shikigami เป็นสกิลซัมม่อนที่เรียกได้ว่า น่ารักมุ้งมิ้งที่สุดในเกม เลยก็ว่าได้ แต่ในการใช้งานจริงนั้น ต้องบอกว่าแดมเมจที่ได้ให้อารมณ์แบบตอดๆ มากกว่า ไม่แรงแต่เรื่อยๆ แดมเมจที่ได้จากสกิลนี้จะเป็น Single target 2 hit per attack หรือก็คือ ตีโดนเพียงแค่ครั้งละ 1 ตัวเท่านั้นและเด้ง 2 ฮิตต่อการโจมตีหนึ่งครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้นสกิลนี้มี Attribute เสริมความสามารถมากถึง 3 สกิลด้วยกัน ทำให้ความดีงามของสกิลนี้อาจจะไม่ควรไปโฟกัสที่แดมเมจเท่าไร แต่เป็นผลประโยชน์ที่ได้จาก Attribute แทน โดยจะขอไล่ทีละอัน เป็น attribute พระเอกของสกิลนี้เลยก็ว่าได้เลยก็ว่าได้ เพราะจะไปเพิ่มความสามารถให้กับสกิล และ ของอาชีพ Psychokino โดยความสามารถที่เพิ่มขึ้นมาสำหรับสกิล คือเพิ่มระยะของสกิลให้ไกลขึ้น และ และเปลี่ยนสกิลนี้เป็นธาตุไฟ นอกจากนี้เมื่อใช้คู่กับสกิล ยังทำให้เกิดแดมเมจเป็นวงกว้าง 9 แฉก อีกด้วย การใช้งานสกิลนี้คู่กับมอนส์เตอร์ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีมาก เพราะแดมเมจระหว่างก่อนและหลังซัมม่อน แรงขึ้นแบบเห็นได้ชัด (แต่จะใช้ต้องระวังเรื่องแพ้ธาตุด้วย) ในส่วนของความสามารถที่เพิ่มขึ้นมาของ คือเพิ่ม Fire properties hits...