Console Guide

หลังจากที่ครั้งก่อนหัวอุ่นกว่าอาหารกันไปแล้วกับกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ใน Genshin Impact ที่ได้ส่งอาหาร วันนี้ก็มีกิจกรรมใหม่มาให้เพื่อนๆ ได้เล่นกันเบาๆ อีกเช่นเคย และเบากว่าเดิมสบายกว่าเดิมในรายการตามล่าสมบัติไปแลกของ สมบัติที่สาปสูญ นั่นเองจ้า กิจกรรมสมบัติที่สาปสูญ ตัวกิจกรรมนี้จะมีระยะเวลาในการเล่นทั้งหมด 10 วันด้วยกันตั้งแต่วันที่ 08 ถึงวันที่ 18 มาราคม ในครั้งนี้ก็จะเป็นการให้เพื่อนๆ ได้ออกตามล่าสมบัติที่ซ่อนอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดที่ก็เรียกได้ว่าหาได้ไม่ยากเท่าไหร่นัก และยังมีตัวช่วยในการหาอีกด้วยล่ะ รอบนี้คงไม่มีการหัวร้อนแล้วล่ะนะอิอิ อย่างไรก็ตาม การจะเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ เพื่อนๆ ต้องมีระดับนักผจญภัย 20 หรือมากกว่าเสียก่อนน้า จากนั้นก็เดินทางไปที่ Stone Gate จากนั้นก็คุยกับ NPC Ulman เพื่อเริ่มเล่นกิจกรรมได้เลย ตัวกิจกรรมก็จะมอบไอเทม Mini Seelie มาให้ได้ติดตั้งในช่องไอเทมขนาดเล็กให้ เป็นเหมือนกับไอเทมช่วยบอกว่าเราอยู่ใกล้จุดที่มีสมบัติแค่ไหน เรียกว่าคือตัวช่วยเหลือในการเล่นกิจกรรมครั้งนี้นี่เอง นี่มัน Paimon เวอร์ชั่นช่วยชี้เป้าสมบัติ!?   ในแต่ละวันจะมีการบอกพื้นที่ที่มีสมบัติให้สองจุดด้วยกัน ก็สามารถเทียบกับในแผนที่ในตัวได้เลย พอรู้ตำแหน่งว่าอยู่ไหนแล้วก็เดินทางไปได้ในทันที เพียงแต่ว่าตำแหน่งของจุดต่อไปจะไม่ปลดล๊อคออกมา ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่ได้เคลียร์จุดก่อหน้า และยังมีสมบัติพิเศษที่ต้องเคลียร์ให้ครบจำนวนที่กำหนดจึงจะปลดล๊อคออกมาด้วย จุดที่ขุดสมบัติได้จะมีเยอะกว่าจำนวนที่เราจะต้องเก็บ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องวิ่งหากันตาแตกแต่อย่างใด โดยจะแสดงให้ทราบเป็นเสาแสงขนาดพอประมาณถ้าเข้าไปในระยะของมัน (Seelie จะมีปฎิกิริยาตอบรับเปล่งแสงออกมารวมถึงมีเสียงแจ้งเตือนให้ด้วยล่ะ) เมื่อเจอแล้วก็สามารถสำรวจเพื่อขุดสมบัติได้ทันที ก็จะได้รับไอเทม Iron Coin สำหรับแลกของจากตัว NPC ในกิจกรรมได้ และอาจจะมีไอเทมนิดหน่อยเด้งมาให้เก็บเพิ่มเติมเป็นโบนัส อนึ่ง : น้อง Seelie กลัวการต่อสู้ ถ้าติดสถานะต่อสู้อยู่น้องจะหลบหนีไปชั่วคราวน้า   ► สมบัติพิเศษ หลังจากที่เพื่อนๆ เจอสมบัติครบจำนวนที่กำหนดแล้ว จะมีการปลดล๊อคสมบัติพิเศษออกมา ซึ่งครั้งนี้จะไม่มีการบอกตำแหน่งที่ชัดเจนว่าอยู่ที่ไหนแต่จะบอกแค่เขตนั้นๆ ให้ทราบเฉยๆ พร้อมกับมีภาพจุดสังเกตุที่มีสมบัติซ่อนอยู่ให้แทน ก็ต้องวิ่งตามหากันไปในเขตนั้น เมื่อทำการขุดสมบัติก็จะปรากฎการท้าทายที่แอบยากในระดับหนึ่งขึ้นมา หากเอาชนะได้ก็จะได้รับรางวัลพิเศษกันไปจ้า สมบัติพิเศษจุดที่ 1 การท้าทาย กำจัด Hydro, Cyro Abyss Mage อย่างละ 1 ตัว ห้ามโดนแช่แข็งครบ 3 ครั้ง แนะนำให้ใช้ตัวละครธาตุไฟรีบกำจัด Cyro Abyss Mage ก่อน เนื่องจากเกราะแตกได้ง่ายกว่า Hydro มาก สมบัติพิเศษจุดที่ 2 การท้าทาย กำจัดศัตรู 3 ตัว โดยจะมาทีละตัว Rock Shieldwall Mitachurl Rock Shieldwall Mitachurl Stonehide Lawachurl มีเวลากำจัด 1 นาที เมื่อกำจัดศัตรูได้จะได้รับเวลาเพิ่ม 1 นาที ให้เพื่อนๆ ใช้ตัวละครดาบใหญ่, ธาตุดิน หรือใช้ปฎิกิริยาแช่แข็งรีบจัดการสองตัวแรกให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้มีเวลาจัดการเจ้า Stonehide มากขึ้น   ► ร้านค้าแลกของ ในส่วนของของรางวัลที่มีให้แลกก็เป็นของเล็กๆ น้อยๆ แต่ที่น่าสนใจก็คงจะเป็น Mini Seelie ที่เป็นเหมือนกับเครื่องประดับนี่ล่ะ เพื่อนๆ จะสามารถแลก Mini Seelie ได้เพียง 1 ตัวจาก 3 ตัวเท่านั้น ก็เลือกที่ชอบดีๆ ล่ะน้า เพราะแลกมาแล้วจะแลกตัวอื่นอีกไม่ได้แล้วนะ! ดูจากคำอธิบาย น่าจะแตกต่างกันเพียงด้านของสีน้องเท่านั้น ในระหว่างการเล่น เพื่อนๆ อาจจะมีโอกาสได้เจอกับการท้าทายแบบ Co-op เพิ่มเติมอีกด้วย ก็แนะนำถ้าเกิดเจอเข้าแล้วอย่าลืมลองท้าทายดู หากสามารถผ่านได้ ก็จะได้รับ Mora หรือ Hero's Wit เพิ่มเติมด้วย ซึ่งตัวการท้าทายนี้จะสามารถรับรางวัลได้สูงสุด 3 ครั้งเท่านั้นจ้า เพราะงั้นในช่วงเวลากิจกรรมนี้เพื่อนๆ ก็อย่าลืมแวะเวียนเข้ามาไล่เก็บสมบัติกันน้า ค่อนข้างชิวเลยล่ะ ..... เอ๊ะ หรือจะชิวแค่วันแรกๆ เหมือนกับรอบก่อน!? จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

ผู้เล่นในเกม Genshin Impact หลายคนน่าจะเริ่มวิ่งสำรวจแมพภูเขาหิมะ Dragonspine กันเยอะแล้วอย่างแน่นอน ซึ่งภายในแมพหิมะนี้จะมีของที่จำเป็นต้องฟาร์มหาเพื่อเอาไว้ใช้เป็นวัตถุดิบในการคราฟสิ่งอื่นๆ ต่อไป โดยไอเทมเหล่านั้นคือ แร่ Starsilver, เนื้อแช่แข็ง และเขี้ยวมังกร มาดูกันว่าอยู่ตรงไหนให้ฟาร์มได้กันบ้าง! จุดฟาร์มทั้งหมดในแมพภูเขาหิมะ จุดหาเนื้อแช่แข็ง จะมีจุดใหญ่ๆ อยู่สองแห่งคือ แถวขอบทะเลขวาล่างของแมพ ตรงนั้นจะมีพายุหิมะปกคลุมอยู่ และจะมีหมูป่าแช่แข็งอยู่เป็นจุดๆ ตามชายหาด สามารดูแผนจุดตามแผนที่ในภาพได้เลย (สามารถฟาร์มได้ทุกวัน) และอีกจุดจะมีราชาหมูป่าอยู่ด้วย ให้วาร์ปตรงเสา Statue of Seven จากนั้นกระโดดลงมาข้างล่าง 1 ชั้น จะมีหมูแช่แข็ง 1 ตัวกับเสาอุ่นอยู่ เดินไปข้างในสุดจะเจอหมูแช่แข็ง 3 ตัว ทำการละลายหมูป่า 3 ตัวแล้วแล่เนื้อให้หมด ราชาหมูป่าจะโกรธแล้วออกมาขวิดเรา! เวลาราชาหมูป่าพุ่งให้ล่อไปตรงกำแพงเพื่อทำให้บอสชนแล้วสตั้น หลังจากใกล้ตายนะเกิดการครั้งโจมตีสร้างดาเมจรุนแรงอย่างมากแต่ถ้าสามารถฆ่าได้ตอนครั้งจะปลดความสำเร็จได้ได้เพชรด้วยนะ! จุดหาเขี้ยวมังกร ในช่วงแรกจะมีเควสให้ไปตามหาเขี้ยวประหลาดทั้งหมด 4 จุด เพื่อรับอาวุธหอก Dragonspine Spear 4 ดาว มาใช้และพิมพ์เขียวสำหรับสร้างอาวุธชิ้นนี้มาขัดเกลาต่อ แต่การจะสร้างหอกได้ต้องใช้ไอเทม 1 ในนั้นคือ เขี้ยวมังกรที่ดูดซับพลังชีวิต 8 อัน โดยต้องเก็บเขี้ยวมังกรธรรมดาไปทำให้เป็นแบบดูดซับพลังชีวิตเสียก่อน ตัวเขี้ยวมังกรจะสามารถฟาร์มเก็บได้ทุกๆ 3 วัน โดยทั้ง 4 จุดจะอยู่ดังนี้ โซนขวาล่างตรงชายหาดติดทะเลจะอยู่ใกล้ๆ จุดวาร์ปตรงนั้นจะมีกระดูกขนาดใหญ่กับหินแดงเต็มพื้นที่ จะมีเขี้ยวมังกรอยู่ตรงนั้น 1 อัน โซนซ้ายบนของแมพภูเขาหิมะ วาร์ปไปตรงโซนนั้นทางขวาของแผนที่จะมีเกาะกลางน้ำเล็กๆ ที่จะมีซากกระดูกใหญ่อยู่พร้อมมีเขี้ยวมังกรอยู่ตรงนั้น ให้รีบเก็บแล้วหนีออกมาเพราะจมีศัตรูสุดป่วนออกมา 2 ตัว อีกจุดให้วาร์ปไปตรงที่ Wyrmrest Valley จากนั้นวิ่งขึ้นไปทางบนจะมีเขี้ยวขนาดใหญ่พร้อมกับ Fatui อยู่ตรงนั้น 1 คน จุดสุดท้ายอยู่ใจกลางซากมังกรยักษ์ วาร์ปไปทางสะพานขาดใต้ตัว Y ของ Wyrmrest Valley โดดลงไปข้างล่างสุดจะมีอุโมงสีแดงใจกลางมีแกนกลางหัวใจของมังกรอยู่ ในนั้นจะมีเขียวอันที่ 4 จากนั้นก็กดสำรวจหัวใจเพื่อนำเขี้ยวมาแปลงเป็น เขี้ยวมังกรที่ดูดซับพลังชีวิต (ต้องมีครบ 4 ชิ้น ก่อนจึงจะสามารถเปลี่ยนได้) เพียงเท่านี้ก็จะได้เขี้ยวมังกรไว้สำหรับคราฟอาวุธ Dragonspine Spear แล้ว จุดเก็บแร่ Starsilver เนื่องจากจะมีกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วทั้งแมพจึงจะมาร์คเป็นจุดกองใหญ่ๆ ไว้ฟาร์มประจำกันแทน แร่จะเกิดใหม่ทุกๆ 3 วัน Snow – Covered Path มี 4 จุด Wyrmrest Valley มี 3 จุด Entombed City Outskirts มี 3 จุด ตรงเสา Statue of Seven 1 จุด ตรงชายหาดขวาล่างของแมพภูเขาหิมะ 4 จุด จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact Thailand

หลังจากได้ยินแต่ชื่อเสียงเรียงนามกันมานาน วันนี้นักเล่นแร่แปรธาตุสุดดัง Albedo ก็พร้อมจะมาโชว์ความสามารถให้เพื่อนๆ ได้เห็นกันแล้วใน Genshin Impact แม้จะเห็นเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุแบบนี้ แต่ก็ใช้ดาบและวิชาเล่นแร่แปรธาตุดินของเขาถล่มศัตรูได้ไม่แพ้ใคร ข้อมูลตัวละคร   ชื่อ : Albedo เกิด : วันที่ 13 กันยายน อยู่ฝ่าย : Knights of Favonius วิชั่นที่ครอบครอง : ธาตุหิน กลุ่มดาว : Princept Cretaceus (ทารก) วิธีการได้รับตัวละคร : ได้จากการเปิดกาชาต่างๆ Albedo นักเล่นแร่แปรธาตุผู้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในตัวเมือง Mondstadt ภายใต้การทำงานของเหล่าอัศวินของ Favonius เขามีชื่อเรียกที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น "อัจฉริยะ" "อาจารย์" "คนน่าสงสัย" "กัปตันหน่วยสืบสวน" แต่ชื่อเหล่านั้นไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลยสำหรับเขา เมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาสนใจจะค้นคว้า ชื่อเสียง เส้นสายและความมั่งคั่งไม่เคยอยู่ในสายตาของเขา มีเพียงสิ่งเดียวที่เขามุ่งหน้าไขว่คว้าเสมอ นั่นคือความรู้อันไร้ขีดจำกัดและภูมิปัญญาที่ตกทอดมาแต่โบราณทั้งหลาย Skill ภาพ สกิล รายละเอียด Favonius Bladework - Weiss การโจมตีปกติ : โจมตีด้วยดาบ 5 ครั้งติดต่อกัน ท่าชาร์จโจมตี : ฟันครั้งหนึ่งก่อนจะตวัดดาบรอบตัวพร้อมกับถอยหลังไปเล็กน้อย https://youtu.be/0UoSf9JLYhE https://youtu.be/XLpIbKzpi7Q Abinogenesis: Solar Isotoma เรียกดอกไม้ที่เป็นวัตถุธาตุหินออกมาด้านหน้าตัวเขา สร้างความเสียหายธาตุหินเป็นกลุ่ม พร้อมกางอาณาเขตขึ้นมา เมื่อศัตรูในอาณาเขตนี้ได้รับความเสียหาย จะเกิดการสั่นพ้อง Transient Blossom ขึ้นมา สร้างความเสียหายธาตุหินเป็นกลุ่ม (ความเสียหายขึ้นกับพลังป้องกัน) โดยมีคูลดาวน์ 2 วินาที หากตัวละครขึ้นไปยืนบนดอกไม้ จะเกิดแท่นคริสตัลที่ยกตัวเองขึ้นสูงจากพื้นได้ สามารถมีแท่นและดอกไม้ได้เพียง 1 ดอกเท่านั้น หากกดค้างจะเป็นการเล็งตำแหน่งของดอกไม้ได้ https://youtu.be/rHmm5cUuqsk https://youtu.be/0u-kBrJAGJ0 Rise of Progeniture: Tectonic Tide ทำความเสียหายธาตุดินเป็นกลุ่มอย่างรุนแรงด้านหน้าตัวเขา หากใช้ในอาณาเขตของ Solar Isotoma จะเกิดการสั่นพ้องอย่างรุนแรงเป็นดอกไม้ Fatal Blossom บานแบบสุ่มรอบๆ สูงสุด 7 ครั้ง สร้างความเสียหายธาตุหินเป็นกลุ่มเพิ่มเติม ความเสียหายของท่าไม้ตาย และการสั่นพ้องจะไม่ทำให้เกิดผล Transient Blossom เพิ่มเติม https://youtu.be/HC7yEIk0oYQ Calcite Might เพิ่มความเสียหายของ Transient Blossom 25% หากศัตรูมีพลังชีวิตต่ำกว่า 50% Homunculus Nature เมื่อใช้ท่าไม้ตายจะเพิ่มความชำนาญธาตุให้กับตัวละครในทีมที่อยู่ใกล้กับเขา 125 หน่วยเป็นเวลา 10 วินาที Flesh of Genius เมื่อสร้างวัตถุดิบสำหรับเลื่อนระดับอาวุธ จะมีโอกาส 10% ที่จะได้รับวัตถุดิบเป็น 2 เท่า กลุ่มดาว : Ampulla (ทารก) หมายเหตุ : ต้องใช้ดวงดาวแห่งชีวิตของ Albedo ในการอัพดาวแต่ละดวง สามารถหาได้จากการเปิดกาชาได้ตัวละคร Albedo ซ้ำเท่านั้น กลุ่มดาว สกิล รายละเอียด Lv. 1 Flower of Eden เมื่อโจมตีแล้วเกิดผล Transient Blossom ขึ้นจากสกิลจะฟื้นฟูพลังงาน 1.2 หน่วย Lv. 2 Open of Phanerozoic เมื่อโจมตีแล้วเกิดผล Transient Blossom จะบัพ Fatal Reckoning เป็นเวลา 30 วินาที การใช้ท่าไม้ตายจะล้างผลบัพทั้งหมดออก โดยส่งผลให้ท่าไม้ตายและการสั่นพ้องของไม้ตายรุนแรงขึ้น ตัวบัพจะเพิ่มความเสียหายเท่ากับ 30% ของพลังป้องกันของเขา ซ้อนทับได้ 4 ครั้ง Lv. 3 Grace of Helios เพิ่มเลเวลของสกิล Abinogenesis: Solar Isotoma ขึ้น 3 เลเวล (สูงสุด 15 เลเวล) Lv. 4 Descent of Divinity เพิ่มความเสียหายจากการโจมตีด้วยการพุ่งจากอากาศขึ้น 30% หากอยู่ในอาณาเขตของ Solar Isotoma Lv. 5 Tide of Hadean เพิ่มเลเวลของท่าไม้ตายขึ้น 3 เลเวล (สูงสุด 15 เลเวล) Lv. 6 Dust of Purification ตัวละครในทีมที่อยู่ในอาณาเขตของ Solar Isotoma และได้รับเกราะจากการตกผลึกจะทำความเสียหายเพิ่มขึ้น 17% จุดเด่น-จุดด้อย จุดเด่น จุดด้อย หากมีศัตรูจำนวนมากจะเป็นตัวแจกพลังงานให้กับเพื่อนร่วมทีมได้โหดจริงจัง หากมีศัตรูจำนวนน้อย จะฟื้นฟูพลังงานได้น้อยมาก ไม้ตายสามารถแจกความชำนาญธาตุได้ โดยไม่มีเงื่อนไขนอกจากกดใช้มันเฉยๆ หากศัตรูทับแท่นสกิลหรือวางติดสิ่งกีดขวาง ก็จะไม่สามารถสร้างดอกไม้ลอยขึ้นฟ้าได้ สร้างแท่นยกตัวละครขึ้นสูงจากพื้นได้ ใช้ได้ทั้งการสำรวจและการต่อสู้ ยังสามารถถูกโจมตีจากระยะไกลได้จากด้านบนแท่นเช่นเดิม แนะนำอาวุธ หากพิจารณาจากพรสวรรค์ของเขาแล้ว Albedo เป็นคนที่เหมาะที่จะเป็นตัว Burst สนับสนุนมากกว่าเป็นตัวยืนฟาดโดยตรง อาศัยการสลับตัวออกมาวางดอกไม้กางอาณาเขต / ทริคเพลย์ด้วยแท่นดอกไม้ เมื่อไม้ตายพร้อมก็โดดออกมาเสก Fatal Blossom ซักตูม วางดอกไม้ใหม่และสลับเอาตัวหลักมาทุบต่อ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะแย่ในการนำมาเป็นตัวยืนหลัก ด้วยความที่การสั่นพ้องของดอกไม้จะขึ้นกับพลังป้องกันของเขา รวมถึงตัวบัพจากหมู่ดาวก็เกี่ยวข้องกับพลังป้องกัน ทำให้ตัวเลือกอาวุธเสริมพลังป้องกันก็ดูน่าสนใจไม่น้อย การจะใช้เป็นการฟื้นฟูพลังงานก็จะทำให้เขาสลับมา Burst ไม้ตายเรื่อยๆ ได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ตัวเลือกอย่างพลังโจมตีตรงๆ ก็ทำให้เขาโลดแล่นฟาดนู่นนี่เล่นได้สำหรับคนที่ชอบเขามากๆ อยากเป็นตัวยืน, ต้องการพลังโจมตีโดยรวมทุกด้าน ค่อนข้างน่าเสียดายเล็กน้อยที่ตัวดาบนั้น มักจะมีค่าสเตตัสและตัวสกิลที่ไปกันคนละทางพอสมควร ทำให้ต้องเลือกอย่างเสียอย่างมากกว่า (เนื่องจากดาบออกแบบมาให้เป็นอาวุธที่มักจะได้ใช้กับตัวละคร DPS หลัก ขัดกับ role ของเขาที่เสนอในบทความนี้พอสมควร) แนะนำอาร์ติแฟกต์ ในแนวการเล่นนั้น ส่วนตัวจะแนะนำในด้านสาย Burst Damage และซัพเพื่อนร่วมทีมมากกว่าฟาดเองเป็นหลัก ประกอบกับด้วยความที่ใช้ดาบ แม้จะโจมตีได้รวดเร็ว แต่ก็มีจุดอ่อนที่เจาะโล่ต่างๆ ได้ยาก รวมถึงการที่ต้องเป็นตัวทำความเสียหายแล้ว ทำให้การเลือกอาร์ติแฟกต์นั้นก็จะเป็นการจับคู่โดยเน้นตัวเลือกที่ส่วนนาฬิกากันเพราะแทบจะล๊อคความเมต้าที่ส่วนอื่นแล้ว (ตัวเลือก) + เพิ่มดาเมจธาตุหิน + คริเรท /...

เปิดพื้นที่ใหม่ Dragonspine ใน Genshin Impact 1.2 กันมา ก็ย่อมมาพร้อมกับของให้ได้ค้นหากันเช่นเคย และหนึ่งในของที่หลายคนอาจจะยี้ หรืออาจจะชอบก็คงไม่พ้นการตามล่าหาของไปสักการะรูปปั้นนั่นเอง แม้ว่าในตัว Dragonspine จะไม่มีรูปปั้น แต่ก็มีอะไรที่คล้ายกัน เพราะงั้นปะ ได้เวลาวิ่งรอบเขากันอีกแล้ว Frostbearing Tree ในการอัปเดต Dragonspine นั้น เพื่อนๆ ก็จะได้เจอพื้นที่ใหม่อันเย็นยะเยือก พร้อมกับของสะสมใหม่ Crimson Agate ที่พบได้ทั่วไปเช่นเดียวกับเหล่าหินสะท้อนธาตุดินและธาตุลมก่อนหน้านี้ และการใช้งานก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นัก นั่นคือเมื่อเข้าไปใกล้ก็จะมีเสียงแจ้งเตือนเบาๆ พร้อมปรากฎไอคอนให้ได้เห็นในแผนที่ เมื่อเก็บมาก็จะเอาไปใส่ต้นไม้เพื่อให้มันโตได้ (แต่ถ้าถูกซ่อนอยู่ในกล่องจะไม่แจ้งเตือนบนแผนที่นะ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้นไม้ที่ว่านี้ก็จะต่างจากรูปสลักก่อนหน้าที่แค่ไปแตะเฉยๆ ไม่ได้เพราะโดนแช่เป็นไอติมรสผักอยู่ ต้องทำการปลดผนึกออกมาก่อนจึงจะสามารถเข้าไปมอบ Crimson Agate ได้ (เพื่อนๆ สามารถเก็บตัวผลึกได้ตั้งแต่แรกเลยถ้าหาเจอ) การปลดผลึกนั้นหลักๆ ก็จะเป็นการหาตำแหน่งของแท่งน้ำแข็งให้เจอ จากนั้นก็เก็บเจ้า Scarlet Quartz ที่อยู่ใกล้ๆ แถวนั้นและโจมตีใส่ต้นไม้เพื่อปลดปล่อยพลังงานออกมา Scarlet Quartz ที่ใช้ตีผลึกน้ำแข็งจะไม่เกิดใหม่จนกว่าจะปลดผนึกได้สำเร็จ และจะมีจำนวนให้ใกล้ๆ นั้นพอดีกับที่ต้องใช้ปลด 4 ก้อนเป๊ะ จนกระทั่งเกราะน้ำแข็งแตกออกหมด ก็จะปลดล๊อคผนึกได้ โดยเจ้าต้นแรกที่เจอนั้นจะเป็นต้นเดียวที่เราส่ง Crimson Agate ให้ได้ ส่วนผนึกที่เหลือจะมีลูกล่อลูกชนให้ต้องไขปริศนาเพิ่มเติมกันไป ตำแหน่งผนึกทั้งหมด บนขวาคือต้น Frostbearing Tree บนซ้ายเป็นผนึกใต้ดินที่ต้องผ่านการตีกับเหล่า Ruin Guardian ด้านล่างเป็นผนึกที่อยู่ด้านล่างสุดของถ้ำ ต้องผ่าน Challenge ตีมอนสเตอร์ใกล้ๆ ก่อนจึงจะปลดบาเรียที่ป้องกันผนึกอยู่ได้ การส่งมอบ Crimson Agate ให้กับต้นไม้ก็จะมีรางวัลตอบแทนให้คล้ายกับตอนที่เราถวายเครื่องสักการะเลย แต่หรูกว่าเพราะไม่มีค่า Stamina สูงสุดให้แล้ว โดยของที่ได้ก็จะมีดังนี้ เลเวล รางวัลที่ได้ รางวัลตายตัว 1 1 x Acquaint Fate 200 Adventure EXP 10 x Mystic Enhancement Crystal 50,000 Mora 2 1 x Acquaint Fate 3 5 x Hero's Wit 4 แบบแปลน Warming Bottle 5 2 x Acquaint Fate 6 2 x Intertwined Fate 7 5 x Hero's Wit 8 Northlander Polearm Prototype เปิดระบบ Crimson Wish 9 Frostbearing - ต้นไม้โบราณ (ลายนามบัตร) 10 ความทรงจำของ Frostbearing Tree - แบบแปลนสร้างสื่อเวทย์ 11 1 x Crown of Insight 12 Wing of Consealing Snow สำหรับตำแหน่งของ Crimson Agate ก็จะกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ของ Dragonspine เช่นเคย แต่ก็เป็นโชคดีที่ทาง website interactive map ทั้งหลายมีการอัพเดทข้อมูลตำแหน่งกันแล้ว .... เดี๋ยว ไวเกินไปไหม!? ซึ่งเพื่อนๆ หาข้อมูลได้จากตัว ดังนี้เลยจ้า เช่นเคย แนะนำให้เพื่อนๆ ทำการปักหมุดตำแหน่งที่เก็บแล้ว หรือยังไม่ได้เก็บ เพื่อการตามหาจะได้ไม่ลำบากว่าตรงไหนเก็บแล้วหรือยังไม่เก็บจ้า   Crimson Wish ตัวระบบ Crimson Wish นั้นจะปลดล๊อคออกมาหลังจากที่เพื่อนๆ ทำการถวาย Crimson Agate ให้กับต้นไม้จนได้รับรางวัลเลเวล 8 มาแล้ว (เพื่อนๆ ต้องหาตัว Agate จากในแผนที่ขั้นต่ำสุดทั้งหมด 80 ก้อน) จากนั้นกดรับรางวัล ก็จะทำการปลดล๊อคในส่วนของตัวระบบ Crimson Wish ออกมาให้ได้เล่นกัน ในภายรวมแล้วนั้นระบบ Crimson Wish ก็จะเป็นเหมือนกับเควสประจำครึ่งสัปดาห์ที่จะรีเซ็ททุกๆ วันจันทร์ และ วันศุกร์ โดยมีให้ทั้งหมดรอบละ 5 เควสด้วยกัน ตัวเควสนั้นจะปรากฎเป็นไอคอนรูปต้นไม้สีฟ้าในแผนที่ของพื้นที่ภูเขาแห่งนี้ ตัวเควสโดยรวมนั้นก็จะมีความคล้ายคลึงกับตัวเควสประจำวันค่อนข้างมาก และออกไปทางง่ายกว่าอย่างเห็นได้ชัดด้วย (แต่ก็จะยากกว่าพวกเควสฉุกเฉินตามทาง) แต่บางทีก็อาจจะสังเกตุยากนิด เช่นเควสที่ต้องละลายน้ำแข็งให้ศัตรูปรากฎตัวออกมาก่อน เพื่อนๆ ก็อย่าลืมหิ้วตัวละครธาตุไฟติดตัวไว้ด้วยยามเล่นเควสชุดเหล่านี้ และสังเกตุจากพื้นที่รอบๆ ให้ดีว่ามีก้อนน้ำแข็งอยู่หรือไม่ หากไม่มีศัตรูให้กำจัดแถวนั้น เมื่อทำเควสแล้ว เพื่อนๆ จะได้รับ Crimson Agate เป็นรางวัล 1 ก้อน ทำให้สามารถนำไปถวายให้กับต้น Frostbearing Tree เพื่อรับรางวัลต่อได้ เนื่องจากตัว Crimson Agate นั้นที่มีอยู่ในฉากตั้งแต่แรกนั้นมีจำนวนไม่มากเพียงพอที่จะสามารถถวายให้กับต้นไม้จนครบ 12 เลเวลได้ ก็ต้องมาทำส่วนของ Crimson Wish กันนี่ล่ะจ้า นอกจากนี้แล้ว ตัว Battle Pass ที่เป็นเควสรายอาทิตย์นั้นก็ยังมีส่วนของ Crimson Wish อาทิตย์ละ 5 ครั้งให้ทำอีกด้วย ก็เป็นจุดช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ กันไป แต่ถ้าถวายครบแล้วก็จะไม่มีให้ทำอีกน้า และถ้าว่ากันแล้วถวายให้ครบไปจะดีกว่าเพราะช่วยลดการเสียเวลาได้มาก และยังไงตัว Battle Pass นั้นก็สามารถทำได้ทันภายในเวลาที่กำหนดได้อย่างเหลือเฟืออยู่แล้วด้วยล่ะนะ   ตรงนี้ก็คงต้องบอกว่า เพื่อนๆ คงพลาดกันไม่ได้แล้วล่ะกับการสะสม Crimson Agate มาปลดล๊อครางวัลจากต้นไม้ เพราะยังไงซะ แค่เลเวล 4 เพื่อนๆ ก็จะได้เจ้า Warming Bottle ไว้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องความเย็นยะเยือกกันแล้ว แถมของรางวัลยังมีพวก Wish ให้ได้นำไปหาตัวละครหรืออาวุธเพิ่มเติมกันอีก เย่ะ ก็ขอให้สนุกกับการหาไอเทมกันล่ะจ้า ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้า จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

ในแพทช์ 1.2 ของเกม Genshin Impact นอกจากจะมีแมพพื้นที่ใหม่อย่างภูเขาน้ำแข็งมาให้ผู้เล่นได้ไปสำรวจกันแล้ว ยังมีดันเจี้ยนใหม่ที่เพิ่มเข้ามาด้วยนั้นก็คือดัน "ยอดสูงสุดแห่ง Vindagnyr" ที่จะมีอาร์ติแฟกต์ใหม่เพิ่มเข้ามาด้วยสองเซ็ตเป็นเซ็ตน้ำแข็ง Icebreaker และเซ็ตน้ำ Ocean Conqueror แต่การจะไปลงได้นั้นต้องปลดล็อคตามเงื่อนไขเสียก่อน จะต้องปลดยังไงถึงจะสามารถลงดันเจี้ยนนี้ได้ ไปดูกัน! วิธีปลดดันเจี้ยนยอดสูงสุดแห่ง Vindagnyr ผู้เล่นจะต้องตามหาตามหาคริสตัลทั้ง 3 จุด และทำลายเพื่อเอาก้อนพลังงานกลับไปยังใจกลางของภูเขาหิมะให้ครบ แต่ละจุดจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไปอีก โดยแต่ละจุดและวิธีเข้าไปทำลายคริสตัลมีดังนี้ จุดแรก จะอยู่ไม่ห่างจากทางเข้าแมพภูเขาหิมะเท่าไหร่ ตรงนั้นจะมีศัตรูคอยเฝ้าอยู่ด้วยต้องกำจัดให้หมดก่อนจึงไม่เช่นนั้นอาจจะโดนมันฆ่าตายแทน หลังจากที่เคลียร์พื้นที่หมดแล้วให้ตามหาหินสีแดง Scarlet Quartz ที่อยู่บริเวณรอบๆ ให้เจอ ตีให้แตกแล้วกดเก็บมาจากนั้นวิ่งไปตีตัวคริสตัลเลือดจะลดไป 1 ส่วน ต้องใช้หินแดงทั้งหมด 4 ก่อน สำหรับจุดแรกหาได้ไม่ยากนัก เมื่อทำลายคริสตัลแล้วจะพบกับพลังงานทรงกลมข้างใน ให้กดสำรวจมันจะกลับไปยังภูเขาหิมะเองทันที แล้วต้นไม้สีแดง Frostbearing Tree จะปรากฏขึ้นมา จุดที่สอง ไปที่ Wyrmrest Valley ตรงนั้นจะมีลานกลมขนาดใหญ่อยู่พร้อมหุ่น 2 ตัวให้กำจัดให้เรียบร้อยก่อนเพื่อเตรียมแก้ไขปริศนากันต่อ ซึ่งตรงลานจะมีกลไกให้กดพร้อมน้องผี 1 ตัว หลังจากกดให้ดูจุดที่น้องบินไปตามลำดับ พอน้องกลับมาตรงกลไกให้เอาธาตุน้ำแข็งยิงเรียงตามลำดับให้ครบจะมีศัตรูปรากฏออกมา ในส่วนนี้ศัตรูจะเป็นพวกหุ่นทั้งหมดพร้อมกับพายุหิมะที่จะทำให้โดนแช่แข็งได้เร็วขึ้น ตรงแท่นกลไกทำความอุ่นรอบๆ จะไม่ได้เปิดตลอดมันจะคอยสลับเปิดไปเรื่อยๆ ให้คอยสังเกตุแสงสีแดงในพายุเอาไว้แล้ววิ่งไปทางนั้นเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นแล้วสู้กับศัตรูต่อ หลังจากที่ศัตรูตายหมดแล้วลานน้ำแข็งตรงกลางจะแตกออกให้ลงไปยังข้างล่างได้ก็จะพบกับคริสตัลจุดที่สองและเงื่อนไขการปลดลำดับต่อไป ให้ตามหาน้องผีแล้วพาไปยังแท่นพำนักเพื่อเปิดกรงขัง ในนั้นจะมีหินสีแดงอยู่ 1 อันเอาไปตีคริสตัล อีก 3 อันที่เหลือจะอยู่รอบๆ หาได้ไม่ยากเอาไปตีให้ครบแล้วส่งก้อนพลังงานกลับไปยังภูเขาหิมะ หลังน้ำแข็งในถ้ำละลายหุ่น 2 ตัว จะตื่นขึ้นมาแต่เลือดมีนิดเดียวเท่านั้นกำจัดได้ไม่ยาก จุดที่สาม เข้าไปในถ้ำน้ำแข็ง Starglow Cavern ใครเปิดเสาวาร์ปตรงเหนือชื่อ Skyfrost Nail เอาไว้แล้วก็ไปที่นั้นได้เลย เข้าไปส่วนลึกสุดจะเจอกับคริสตัลอันสุดท้าย (หากใครยังไม่เคยเปิดเสาข้างในเอาไว้ให้ เข้าทางหัวตัว S ของ Starglow Cavern ที่มีจุดวาร์ปอยู่ตรงนั้นให้เดินเข้าไปเลย) คริสตัลตรงนี้จะยังไม่สามารถเข้าไปได้เพราะมีบาเรียป้องกันอยู่ ตรงบริเวณนั้นจะมีชาเลนต์ให้กดท้าทายอยู่ จะเจอศัตรูประเภทน้ำแข็งออกมาหลายชุดพร้อมระยะเวลาในการสู้ หลังจากสิ้นสุดการท้าทายแล้วบาเรียจะถูกปลดออกให้เข้าไปทำลายได้ หินแดง 2 จุดแรกจะอยู่ใกล้ๆ จุดท้าทายและเสาพำนักของน้องผี ส่วนจุดที่สามให้อ้อมไปข้างหลังคริสตัลจะมีหินบังอยู่ทำการทำลายหินทิ้งจะเจอน้องผีและหินแดงอยู่ข้างใน และจุดสุดท้ายให้วิ่งไปข้างหลังเหมือนเดิมแล้วเลี้ยวไปทางขวามีมือข้างในสุดจะเจอหินแดงอยู่เอามาตีใส่คริสตัลเพื่อเก็บก้อนพลังงานข้างในอันสุดท้าย หลังจากทั้งก้อนพลังงานทั้งสามกลับไปยังภูเขาหิมะแล้วให้วาร์ปกลับไปที่เสา Statue of Seven หันไปข้างหลังจะเจอทางเข้าไปข้างในจะมีศัตรูอยู่ตามทาง และจะเจอน้องผีในนั้นตามน้องขึ้นไปเรื่อยๆ จะเข้าไปยังใจกลางของภูเขาหิมะ พร้อมกับปริศนาสุดท้ายที่ต้องทำการปลดล็อค รวมซากเสาทั้ง 3 จุด ครั้งนี้จะต้องทำการรวมซากเสาให้มารวมเป็น 1 เดียว โดยจะต้องตีคริสตัลแดงอีก 3 ครั้ง (คริสตัลทุกอันจะมีเลือดแค่ 1 ใน 4 เท่านัั้น) จะต้องตามหาหินสีแดงให้เจอเพื่อเอาไปทำลายคริสตัล จุดแรก ให้เดินตามน้องผีไปทางขวาจะเจอศัตรูทั้งหมด 3 ตัว กำจัดทิ้งให้หมดบาเรียที่ครอบหินแดงไว้จะเปิดออก นำไปตีคริสตัลบนซากเสาลอยฟ้าจะปรากฏอันต่อไป (หลังตีเก็บหินแดงแล้วเอาตัวธนูยิงจากจุดนั้นได้เลย) จุดที่สอง จุดที่สองจะอยู่สูงขึ้นอีกชั้น จากตรงจุดแรกที่ยืนอยู่ให้วิ่งชิดขอบทางขวาขึ้นไปเรื่อยๆ จะเจอลานกว้างมีศัตรูเฝ้าอยู่ กำจัดให้หมดตรงนั้นจะมีหินแดงอยู่ หยิบมาแล้วเอาไปคริสตัลกันได้เลย จุดที่สาม จุดสุดท้ายจะขึ้นไปอีกระดับเลย ตรงจุดลานกว้างเมื่อกี้จะมีน้องผีอยู่ด้วยให้เดินตามน้องไปจะพาปีนขึ้นไปบนเสาข้างบน ข้างบนมีแท่นธาตุลมอยู่ให้เอาธาตุลมยิงใส่จะมีลมและวงความเร็วพาไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเก็บหินแดงอันสุดท้าย เพียงเท่านี้เศษเสาทั้งสามจุดจะรวมกันเป็นเสาขนาดใหญ่ลอยขึ้นไปบนฟ้าพร้อมทำให้น้ำแข็งตรงพื้นหายไปเผยให้เห็นชั้นข้างล่างจะพบกับดันเจี้ยนที่ตามหากันอยู่! ที่นี้ก็ได้เวลาฟาร์มอาร์ติแฟกต์ใหม่กันแล้วละ ตัวของดันเจี้ยนนั้นจะมีช่องน้ำแข็งและไฟปรากฏขึ้นมาแบบสุ่ม หากอยู่ในช่องน้ำแข็งหรือนอกช่องความหนาวจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องคอยหาช่องไฟแล้วไปสู้กับศัตรูตรงนั้นเพื่อลดความหนาวไปในตัวไม่ให้ถูกความหนาวกัดกิน จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact Thailand

ครั้งก่อนแจกตัวละครกันไปแล้ว ในครั้งนี้มาแจกอาวุธกันบ้างกับกิจกรรมใหม่ต้อนรับ Patch 1.2 ของ Genshin Impact "ชอร์กขาวและมังกรดำ" ที่จะพาเพื่อนๆ ไปรับดาบต้องสาปสีดำและเรื่องราวของเบื้องหลังของดาบเล่มนี้กัน แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ดาบนะจ๊ะ ยังมีไอเทมอื่นๆ แจกเหมือนกัน! Event ชอร์กขาวและมังกรดำ ► เงื่อนไขการเข้าร่วม Event : มีระดับนักผจญภัยเลเวล 20 เป็นต้นไป, ผ่านเควสในตำนาน บทแห่งองค์ชายชอร์กขาวฉากที่ 1 แล้ว ► เกี่ยวกับตัว Event ในส่วนของ Event นี้ก็จะมีทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน จะสามารถเริ่มทำได้หลังจากที่เพื่อนๆ ผ่านตัวเควสในตำนาน บทแห่งองค์ชายชอร์กขาวฉากที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ก็จะเปิดเควสใหม่ขึ้นมา ชอร์กขาวและมังกรดำ ซึ่งเป็นเควสที่จะพาเพื่อนๆ มาหาตัว Albedo อีกครั้งและเริ่มต้นทดลองดาบมังกรดำ Festering Desire กันไป ในช่วงกิจกรรมนี้ หากเพื่อนๆ ผ่านความท้าทายได้สำเร็จ จะปลดล๊อคพลังของดาบออกมาเพิ่มเติม (มีผลเฉพาะในช่วงกิจกรรมและในพื้นที่ Dragonspine) ทำให้ตัวดาบนี้โหดขึ้นเป็นอย่างมากเลยทีเดียวล่ะ แถมระหว่างกิจกรรมยังสามารถอัพเลเวลดาบได้มากกว่าปกติ 50% ด้วยนะ! ปลดล๊อคผ่านกิจกรรมฉากที่ 1 ระยะเวลาของกิจกรรมนี้ก็ยิงยาวเกือบสองอาทิตย์ โดยแต่ละช่วงจะมีดังนี้ ฉากที่ 1 เริ่มวันที่ 23/12 ฉากที่ 2 เริ่มวันที่ 25/12 ฉากที่ 3 เริ่มวันที่ 28/12 ฉากที่ 4 เริ่มวันที่ 31/12   ส่วนตัวร้านค้ากิจกรรมที่ใช้แลกดวงดาวนั้นจะเปิดให้แลกตามระยะของช่วงเวลาในกิจกรรมฉากที่ 2/3/4 ตามลำดับเป๊ะๆ ของที่แนะนำให้แลกจริงๆ ก็จะมีส่วนของตัวหิน Festering Dragon Morrow ที่ใช้ขัดเกลาตัวดาบ, ไอเทมเลื่อนระดับและพรสวรรค์ รวมถึงตัวมงกุฎ ที่เหลือค่อนข้างจะฟรีสไตล์เหมือนเดิมจ้า ► ของที่แลกได้ด้วย Glimmering Essence ของที่แลกได้ ใช้ Essence จำนวนสูงสุด Festering Dragon Morrow 600 1 Chain of Dandelion Gladiator 25 6 Debris of Decarabian's City 25 6 Boreal Wolf's Cracked Tooth 25 6 Lustrous Stone from Guyun 25 6 Mist Veiled Mercury Elixir 25 6 Piece of Aerosiderite 25 6 Hero's Wit 20 20 Mystic Enhancement Ore 10 60 Mora x 10,000 20 30 รวมทั้งหมด 3,100 Essence   ► ของที่แลกได้ด้วย Warm Essence ของที่แลกได้ ใช้ Essence จำนวนสูงสุด Festering Dragon Morrow 600 1 Hero's Wit 20 20 Adventurer's Experience 5 20 Mystic Enhancement Ore 10 120 Mora x 10,000 20 30 รวมทั้งหมด 2,900 Essence   ► ของที่แลกได้ด้วย Miraculous Essence ของที่แลกได้ ใช้ Essence จำนวนสูงสุด Festering Dragon Morrow 600 2 Crown of Insight 400 1 Guide to "Freedom" 20 9 Guide to "Resistance" 20 9 Guide to "Ballad" 20 9 Guide to "Prosperity" 20 9 Guide to "Diligence" 20 9 Guide to "Gold" 20 9 Hero's Wit 12 20 Mora x 10,000 12 30 รวมทั้งหมด 3,280 Essence   ► ฉาก 1 ในฉากที่หนึ่งนี้จะเป็นการเปิดใช้งานตัวดาบนี้ เพื่อนๆ สามารถรับเควสจาก Sucrose ที่เชิงเขาของ Dragonspine และไล่ทำตัวเควสได้เลย จะมีเพียงศัตรูไม่ยากอย่างเช่นฝูงสไลม์และเหล่านักล่าสมับิตเท่านั้น มั่นใจได้ว่าไม่เกินกำลังของเพื่อนๆ แน่นอน แค่เผื่อใจว่าต้องฟัดกับพวกลูกอีช่างปาขวดก็พอ ในช่วงนี้จะเป็นการสะสม Rime Crystal จากการกำจัดศัตรูที่สามารถพบเจอได้ในเขต Dragonspine ทุกตัว เพื่อรวบรวมจำนวน Crystal ให้ครบและปลดล๊อคความสามารถของดาบออกมานั่นเอง แน่นอนว่าการตีศัตรูตามฉากนั้นไม่เสียค่า Resin เพราะงั้นก็สามารถไล่ฟาดให้สิ้นได้เลยจ้า   ► ฉากที่ 2 ในฉากที่สองนี้เพื่อนๆ จะได้เริ่มต้นในเควส การท้าทายของเทพเจ้า ในช่วงแรกของเควสก็จะเป็นการตีมอนทั่วไปเล็กน้อยกับเจ้า Fatui น้ำแข็ง น้ำและลมพร้อมกัน ตามด้วยการตบตีป้องกันเสาเล็กๆ น้อยๆ ในอีกจุดหนึ่ง ก็เป็นอันเปิดตัวเควสเสร็จสิ้น เข้าสู่การฟาร์มช่วงที่สองกัน การฟาร์มในช่วงที่สองนี้ก็จะเป็นการที่เพื่อนๆ ต้องไปทำการท้าทายจุดต่างๆโดยจะปรากฎขึ้นมาในแผนที่ให้ทราบ ตัวการท้าทายจะให้เพื่อนๆ สู้กับมอนสเตอร์ต่างๆ 3...

อัปเดต 1.2 กันมาแล้วกับ Genshin Impact ซึ่งก็มีทั้งพื้นที่ใหม่ ของใหม่ ศัตรูใหม่ ปริศนาใหม่ และความเหนื่อยตาแตกในการพยายามไขมันใหม่ๆ กันอีกเช่นเคย ในวันนี้ก็จะมากล่าวถึงวิธีการปลดล๊อคเจ้าดาบใหญ่แห่ง Dragonspine ที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ กับดาบใหญ่ Snow-Tombed Starsilver กันจ้า https://www.youtube.com/watch?v=mKHkeRvleaU&ab_channel=Myplaypost วิธีการปลดล๊อคดาบใหญ่ Snow-Tombed Starsilver ตัวดาบใหญ่เล่มนี้จะไม่มีการใบ้ปริศนาตรงๆ แต่จะกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ในเขตภูเขา Dragonspine แห่งนี้ผ่านทางแท่นศิลาจารึกต่างๆ ที่มีอยู่ทั้งสิ้น 8 จุดด้วยกัน ซ้ำร้าย บางจุดยังซ่อนอยู่ในปริศนาอย่างอื่นอีกต่างหาก เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้สนใจคำพูดของ Paimon ที่บอกถึงการรวบรวมแล้วก็แทบจะเมินแล้วก็เผลอยาวเลยล่ะ แน่นอน ต่อให้สนใจแต่ถ้าหาตำแหน่งไม่เจอก็ปลดล๊อคออกมาไม่ได้อยู่ดีแง สำหรับบทความนี้ในส่วนด้านล่างก็จะชี้เป้าของตำแหน่งแท่นศิลาจารึกทั้ง 8 จุดกันจ้า เพื่อนๆ จะได้ปลดล๊อคกันได้ง่ายซักหน่อย หรือถ้าคนไหนอยากค้นหาด้วยตัวเองก็ขอเป็นกำลังใจให้น้า สู้ๆ ดูตำแหน่งในแผนที่ประกอบเพื่อเช็คตำแหน่งของแต่ละจุดได้จ๊ะ (ไอคอนสีเหลืองคือตำแหน่งของกล่องในการเปิดห้องนิรภัยจ้า) ► การเปิดห้องนิรภัย ในแท่นศิลาจุดที่ 3 นี้ จะต้องผ่านด่านปริศนาห้องนิรภัยเสียก่อน โดยการเปิดห้องนี้จะต้องใช้หีบสีทองทั้งหมด 3 ใบจากที่ต่างๆ ที่กระจายไปทั่วภูเขาแห่งนี้ และก็เป็นปริศนาการท้าทายในรูปแบบต่างๆ กันไปหมด มีเป็นตีมอนสุดกวน หาของมาประดับ และปิดท้ายด้วยการซ่อนมันในภูเขาสูง Princess's Box : ได้จากการดึงดาบที่อยู่กลางแม่น้ำและทำการท้าทายกำจัดศัตรูภายใน 60 วินาทีให้ผ่าน (Abyss Mage สองตัวน้ำและน้ำแข็งหัวอุ่นแน่นอนจ้า แนะนำเล่นตัวน้ำแข็งก่อนเลย) Scribe's Box : ได้จากการนำดอก Cecilia วางบนหลุมศพ 3 ดอก จะปรากฎหีบออกมา Priest's Box : จะอยู่บนซากหอคอย กล่องหรูหราไฮโซที่เพื่อนๆ คุ้นเคยกัน (ทีมงานเผลอเปิดไปแล้ว เสียใจมากไม่มีรูปกล่องให้เพื่อนๆ ดู) เมื่อได้กล่องครบทั้ง 3 ใบแล้วก็จะสามารถเปิดห้องนิรภัยเข้าไปลูทของได้ตามสะดวก พร้อมกับสำรวจแท่นศิลาได้ด้วยเลย (อย่าลืมสำรวจล่ะ! เดี๋ยวเก็บของเพลินลืมแล้วต้องย้อนมาใหม่อีก) ส่วนด้านล่างนี้ก็จะเป็นตำแหน่งของแท่นศิลาทั้งหมดจ้า จุดที่ 1 : บริเวณด้านบนขวาของภูเขาริมน้ำ จุดคบไฟด้วยล่ะ จุดที่ 2 : อยู่บริเวณหน้าห้องเป้าหมายของเราเลยจ้า จุดที่ 3 : ภายในห้องนิรภัย ให้มายังวาร์ปในถ้ำน้ำแข็ง Starglow Cavern แล้ววิ่งขึ้นไปข้างบน 1 รอบ จะเห็นสะพาน ก่อนถึงสะพานให้หันไปทางซ้ายมือ แล้วร่อนข้ามไป วิ่งต่อไปทางซ้าย (ไปผิดทางจะเจอศัตรู) ก็จะมาถึงห้องนิรภัยอันหายาก จุดที่ 4 : อยู่ด้านบนสุดของ Starglow Cavern จุดที่ 5 : อยู่ใต้ปริศนา Seelie วิ่งไล่จับ โดยต้องผ่านปริศนาสองชุด ชุดแรกจะเป็น Seelie 2 ตัว และตามด้วย Seelie 3 ตัวที่ต้องเว้นระยะห่างให้เท่ากันถึงจะผ่านได้ จุดที่ 6 : อยู่ในถ้ำน้ำแข็งที่ใช้ปลดผนึกสายลมด้านบนสุด จุดนี้จะต้องสู้กับ Ruin Guard และ Ruin Grader ด้านบนที่มีแท่นธาตุน้ำแข็ง 5 จุดให้ชนะก่อนถึงจะลงมาได้ จุดที่ 7 : บนหน้าผาของ Wyrmrest Valley สังเกตุจากเส้นถนน จุดที่ 8 : อยู่หน้า Domain น้ำแข็ง ในจุดนี้เพื่อนๆ ต้องทำเควสโลกปลดล๊อคเส้นทางที่มีสายลมพัดผ่านก่อน (ปลดผนึกน้ำแข็งทั้ง 3 จุด) จากนั้นต้องแก้ปริศนาปลดล๊อคทางเข้า Domain ที่เป็นการละลายผนึกน้ำแข็งอีกเช่นกัน ตรงจุดนี้แนะนำให้มีตัวละครที่ใช้ธนูด้วย 1 คนจะละลายน้ำแข็งได้สะดวกมาก หลังจากที่เพื่อนๆ เจอแท่นศิลาครบทั้ง 8 แห่งแล้ว ก็จะสามารถเข้าถึงตัวดาบได้ซักที แต่ทว่ายังไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ ให้เพื่อนๆ ใช้ตัวละครที่มีธาตุไฟทำการจุดคบไฟที่อยู่รอบๆ ให้ครบ 4 อันเสียก่อน เท่านี้ก็จะสามารถปลดล๊อคตัวดาบกันได้เสียที นักเดินทางเอ๋ย ความพยายามของเจ้าสัมฤทธิ์ผลแล้ว (ทำเสียงเลียนแบบบอสหมาป่า) หลังได้แบบแปลนมาก็กดใช้และไปคราฟตัวดาบกันได้เลยที่ช่างตีเหล็กเจ้าเก่าของเรา สำหรับตัวดาบนี้ก็จะเด่นในด้านของค่าสเตตัสที่เป็นโบนัสความเสียหายกายภาพ และก็อาจจะเป็นข้อเสียในเวลาเดียวกัน เนื่องจากหลายๆ คนที่ใช้ดาบใหญ่ จะมีการแปลงธาตุในการโจมตีเสมอ ซึ่งในระหว่างที่แปลงธาตุ ผลโบนัสกายภาพนี้จะไม่ทำงานหรือทำงานไม่เต็มที่ ก็จะไม่ค่อยเหมาะกับตัวละครเหล่านี้เท่าไหร่นัก อย่างไรก็ดีถ้าไม่ได้มีการแปลงธาตุแล้ว ก็เรียกได้ว่ามีความแรงในระดับที่น่าสนใจเลยทีเดียวล่ะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

เทศกาลวันหยุดสุดหรรษา Toy Day ใน Animal Crossing: New Horizons ได้มาถึงแล้วค่ะ ในวันนี้เราจะได้พบกับ Jingle กวางเรนเดียร์จมูกดำบนเกาะที่มาแจกของขวัญให้กับทุกคน สำหรับใครที่งงว่ากิจกรรมนี้มันต้องเข้าร่วมยังไงนะ วันนี้เรามี 3 เรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับกิจกรรม Toy Day มาให้อ่านกันค่ะ กิจกรรม Toy Day มีเวลาถึงตอนไหน? กิจกรรมจะจัดขึ้นในวันที่ 24 ธันวาคมตรงกับวันคริสต์มาสอีฟพอดี ทาง Nintendo ไม่ได้เข้าใจผิดว่าวันนี้เป็นวันคริสต์มาสนะคะ สำหรับช่วงเวลาของกิจกรรม Toy Day จะจัดขึ้นตลอดทั้งวันและจะเริ่มบนเกาะของเราในเวลาตี 5 ของวันที่ 24 ธันวาคมไปจนถึงเวลาตี 5 ของวันที่ 25 ธันวาคม เรามีเวลา 24 ชั่วโมงเต็มในการเข้าร่วมกิจกรรมคริสต์มาสและพบกับ Jingle ข้อควรระวังในกิจกรรมนี้คือตอนที่เรามาแจกของขวัญให้กับเพื่อนบ้านบนเกาะ เราอาจจะไปเจอตอนพวกเขากำลังหลับอยู่เพราะฉะนั้นดูเวลาให้ดีๆ นะคะ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่าไรเพียงแต่เราต้องรอให้พวกเขาตื่นซะก่อนถึงจะแจกของขวัญต่อได้ เราจำเป็นต้องให้ของขวัญกับเพื่อนบ้านไหม? คำตอบก็คือ "ไม่จำเป็น" แม้ว่าในภาค New Leaf จะมีเพื่อนบ้านมาคอยแนะนำว่าเราควรจะให้ของขวัญอะไรกับใครแต่ในภาคนี้ทาง Nintendo ได้เอาฟีเจอร์นี้ออกไปแล้ว ถึงจะบอกว่าไม่จำเป็นต้องให้ของขวัญแต่ถ้าเรามีของขวัญก็จะสามารถแลกกัยเพื่อนบ้านได้ค่ะ แล้วเราก็ไปลุ้นของที่เพื่อนบ้านให้อีกที มีรางวัลอะไรบ้าง? มีไอเทม 5 ชิ้นที่เราสามารถหาได้จากกิจกรรม Toy Day ได้แก่ ของรางวัล วิธีได้รับ Festive Wrapping Paper พูดคุยกับ Jingle Toy Day Stockings ให้ Festive Wrapping Paper กับ Jingle Gift Pile ส่งของขวัญให้กับเพื่อนบ้านเกินครึ่ง Toy Day Sleigh ส่งของขวัญให้ชาวบ้านทุกคน Jingle's Photo แขวนถุงเท้าในวัน Toy Day จะได้ของขวัญในวันที่ 25 ธันวาคม

หลังจาก Genshin Impact อัปเดต 1.2 กันมาแล้ว เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ หลายคนได้สั่นสะท้านกับความเย็นยะเยือก (Sheer Cold) บนพื้นที่หิมะตกของ Dragonspine กันเป็นแน่แท้ หลายคนอาจจะทราบเกี่ยวกับการรับมือความหนาวกันแล้ว ส่วนใครที่ยังไม่ทราบก็ลองมาดูวิธีการรับมือความหนาวกันได้จ้า ความเย็นยะเยือกและการรับมือ เมื่อเข้าสู่พื้นที่ของ Dragonspine ที่มีหิมะปกคลุมแล้ว ตัวละครจะมีเกจความหนาวปรากฎขึ้นที่ด้านบนของหลอดพลังชีวิตทันที เกจนี้จะค่อยๆ ขึ้นอย่างช้าๆ และเร็วขึ้นหากเจอสภาวะบางอย่าง เช่นพายุหิมะ (ลมแรงบนที่สูงๆ) การลงไปว่ายน้ำเล่น ซึ่งถ้าหากเกจนี้เต็มแล้วล่ะก็ จะปรากฎน้ำแข็งเกาะที่ขอบหน้าจอพร้อมกับพลังชีวิตของตัวละครที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ฮีลสู้กันตาแหกไปข้าง หมดแรงฮีลก็ตายสนิทจ้า พอใกล้เต็มหลอดก็จะมีเสียงเตือนชวนระทึกด้วยล่ะ สภาวะนี้จึงเป็นอุปสรรคที่ค่อนข้างอันตรายมากในการวิ่งเล่นด๊องๆ ใน Dragonspine แห่งนี้ แน่นอนว่าตัวเกมก็ทำวิธีการรับมือมาให้แล้ว แม้จะดูยุ่งยากไปซักนิด นั่นคือการใช้เหล่าไฟต่างๆ มาเป็นจุดสร้างความอบอุ่นให้กับตัวเองนั่นเอง โดยสิ่งที่สามารถใช้ได้นั้นก็จะมีดังนี้ คบไฟต่างๆ (ต้องติดไฟอยู่นะ) เตาปรุงอาหาร (ใช่แล้ว ต้องติดไฟอยู่เช่นกัน) จุดวาร์ปทั่วไปและเสา Statue of Seven (มีต้นเดียว) การอยู่ใกล้กับ Warming Seelie และ Seelie Garden ที่เจ้าตัวไปพำนักแล้ว อยู่ใกล้กับเสาที่ปลดปล่อยพลังของไฟออกมาได้ เก็บ Scarlet Quartz ติดตัวไว้ (การอยู่ใกล้กับจุดวาร์ปและ Statue of Seven จะทำให้หายไป) การใช้ไอเทมบางชนิด เช่น Warming Potion จะสามารถหาได้จากการปลดล็อค Frostbearing Tree เลเวล 4 อยู่ใกล้ๆ Frostbearing Tree กางโล่ไม่ช่วยจ๊ะ CEO ธาตุดินก็เอาไม่อยู่นะ แน่นอนว่าต้องขอเตือนเพื่อนๆ ก่อนว่าความเย็นยะเยือกนี้เป็นสถานะพิเศษที่อยู่กับพื้นที่ของ Dragonspine ไม่ได้เป็นสถานะติดตัวละคร ทำให้ไม่สามารถลบล้างออกได้ รวมถึงการทำให้ตัวเองติดสถานะเผาไหม้, สร้างโล่ป้องกันไม่ทำให้ความเย็นยะเยือกลดลงหรือหยุดไว้ชั่วคราวแต่อย่างใด ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ ต้องการออกสำรวจพื้นที่ในเขตนี้หรือวิ่งเล่นแล้วนั้น พยายามมองหาคบไฟต่างๆ มีตัวละครธาตุไฟไว้สำหรับจุดคบไฟเหล่านั้นกลับมาใหม่ (ระวังปฎิกิริยาธาตุที่จะทำให้ไฟดับด้วย ดับไปต้องจุดใหม่น้า) เปิดจุดวาร์ปต่างๆ จะช่วยให้สามารถเดินในพื้นที่หนาวจัดแห่งนี้ได้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ส่วนนี้ก็เป็นทิปเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการท่องเที่ยวบนภูเขาหิมะนี้ ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้าจ้า กำลังหาเพื่อนเล่นด้วยกันหรือข้อมูลอยู่ ลองมาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

หลัง Genshin Impact อัปเดต 1.2 กันมาก็มีของเล่นกันมาอีกแล้ว หนึ่งในนั้นก็คือเจ้ากล้องถ่ายรูปที่จะให้เพื่อนๆ ได้ถ่ายภาพตัวละครสุดรักของเพื่อนๆ ได้อย่างเต็มที่นั่นเอง เจอของเล่นสนุกๆ แบบนี้คง ไม่ต้องพูดอะไรกันมากไปดูวิธีทำกันเลยดีกว่า คาหนังคาเขา เด็กดื้อเจอแมวดื้อไม่ยอมให้จับ วางเพลิงสด อ่านต่อหน้าสาม! วิธีทำกล้องถ่ายรูป ให้เพื่อนๆ ไปที่ตัวเมือง Liyue บริเวณกลางเมืองและรับเควสของ Xu ซึ่งเขาจะเล่าถึงเรื่องของกล้องถ่ายรูปและฝากให้เราส่งรูปให้กับลูกค้าทั้งสองคนหน่อย ซึ่งตรงนี้ตัวเควสจะไม่บอกว่าอยู่ที่ไหน ดังนั้นเพื่อนๆ ต้องดูรูปเพื่อหาว่าลูกค้าเป็นใครกันเองจ้า ลูกค้าทั้งสองคนก็จะเป็นคนที่เพื่อนๆ คุ้นเคยกันดีหลังผ่านเควสของ Liyue กันมาแล้ว คุณยายผู้ขายของเล่นสำหรับผู้ใหญ่(?) โฆษกที่สำหรับเล่าเรื่องชาบนเวที(?) หลังส่งรูปเสร็จก็จะปลดล๊อคไอเทมกล่องถ่ายรูปมาให้ได้ใช้กันจ้า และก็อย่างที่เพื่อนๆ เห็นกันว่า มันใช้ช่องไอเทมขนาดเล็ก ช่องเดียวกับกระเป๋าอาหารฉุกเฉินนั่นแหละ!!! ดังนั้นถ้าใครจะไปลุยอะไรหนักๆ อย่าลืมเช็คก่อนนะจ๊ะว่าเปลี่ยนไอเทมเรียบร้อยแล้วหรือยัง ไม่งั้นจะกดเติมเลือดกลายเป็นกดแชะฉากเด็ดดีฬามันตอนโดนยำตายฟรีไม่รู้ตัวนะเอ้อเตือนไว้ก่อน ขอให้สนุกกับเกทชิน 1.2 จ้า... รู้นะว่ากำลังทำหน้าเบื่อกับการตามหาของไปถวายต้นไม้นะ จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่