Console Guide

Stray กลับมากับเกมของน้องเหมียวเช่นเคยครับ โดยในวันนี้ผมจะมาแนะนำในส่วนของ “ตู้กดน้ำ” น่ะเอง เรามาดูกันดีกว่าครับว่าตู้กดนํ้าที่ว่าเนี้ยมันมีไว้ทำอะไร มีทั้งหมดกี่ตู้แล้วอยู่ที่ไหนกันบ้างครับ ตู้กดนํ้ามีไว้ทำอะไรและทำไมเราจึงต้องตามหามัน? ในส่วนของ “ตู้กดน้ำ” หรือ Vending Machines นั้นจัดเป็นหนึ่งในรายการของที่เราสามารถไล่มองหาได้ระหว่างที่อยู่ในเขต Slums ช่วงเนื้อเรื่อง Chapter 4 และ 6 โดยจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ตู้กระจายไปซ่อนอยู่ภายในเขตพื้นที่ครับ ซึ่งเมื่อเราเจอแล้วเข้าไปทำการกดพวกตู้กดนํ้าเหล่านี้เราก็จะได้ในส่วนของ Energy Drinks กลับมาเป็นของรางวัลครับผม ตัว Energy Drinks นี้เมื่อเราได้มาแล้วเราสามารถนำมันไปแลกเปลี่ยนกับตัวหุ่นยนต์ Azooz ที่อยู่แถวโซนด้านหน้าของสลัมได้ ซึ่งของที่เราแลกได้จะมีอยู่ 2 อย่างด้วยกันคือ: 1.ชิ้นส่วนความทรงจำของ B-12 - วางขายในราคา 3 Energy Drinks 2.เนื้อเพลงของ Morusque - วางขายในราคา 1 Energy Drinks ซึ่งรายการของทั้งสองอย่างที่วางขายนี้มันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเนื้อเรื่องครับ ถ้าเพื่อนๆ กะจะแค่เล่นให้จบเกมเอาเนื้อเรื่องหลักเพียงอย่างเดียวไม่ต้องสนมันก็ได้ แต่ถ้าใครเป็นสายเก็บรายละเอียดเกมหรือไล่ปลดล็อก Achievement ทั้งสองอย่างนี้คือสิ่งที่คุณห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดเลย เอาล่ะที้นี้เรามาดูกันดีกว่าว่าตู้กดนํ้าทั้ง 4 ตู้นั้นแอบซ่อนอยู่ไหนกันบ้าง ตู้กดนํ้าหมายเลข 1 สำหรับตู้กดนํ้าในรายการแรกนี้นับว่าเป็นจุดที่หาเจอได้ง่ายสุดจากทั้งสี่อันเลยครับ โดยให้เราเริ่มจากตำแหน่งของ Guardian แล้วให้ทำการเลี้ยวซ้ายจากนั้นก็ตามทางมาเรื่อยๆ ครับ เดินมาจนเราเจอกับตัวของ Morusque หุ่นยนต์ดีดกีตาร์บริเวณตรงข้ามหุ่นตัวนี้จะมีตู้กดนํ้าอยู่ซึ่งนี่ก็คือเป้าหมายแรกในรายการของเราน่ะเอง ตู้กดนํ้าหมายเลข 2 ตู้กดนํ้าเครื่องถัดมานั้นเราสามารถพบได้บริเวณถนนเส้นหลักของเขต Slums เริ่มแรกให้เรากลับไปเริ่มจากตำแหน่งของ Guardian เช่นเดิมแต่คราวนี้เมื่อเดินออกมาแล้วให้เราเลี้ยวไปทางขวาแทนครับ ให้เราเดินตามทางมาเรื่อยๆ จนกว่าจะผ่านร้านซักรีด Super Spirit Laundry จากนั้นเดินต่อไปจนเจอซุ้มสีเหลืองซึ่งเป็นที่อยู่ของ Seamus และมาสุดทางลงตรงทางตันที่บนกำแพงมีคำว่า R.I.P Humans พ่นไว้อยู่หรือก็คือหนึ่งในชิ้นส่วนความทรงจำของ B-12 ซึ่งผมเคยแนะนำในบทความก่อนหน้านี้น่ะเอง พอมาถึงตรงนี้ให้เรามองไปทางด้านซ้ายมือครับก็จะเห็นตู้กดนํ้าหมายเลข 2 ที่เราตามหาอยู่น่ะเอง ตู้กดนํ้าหมายเลข 3 ตู้กดนํ้าในลำดับถัดไปนี้ใครจะตามหาก็อาจต้องมองสูงเข้าไว้เพราะเจ้าตู้นี้มันจะแอบซ่อนอยู่บนดาดฟ้าอาคารน่ะเอง โดยสิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือการไปเริ่มต้นจากตำแหน่งของ Momo อพาร์ตเมนต์ อาคารที่ตัว Guardian ส่งเรามาในเนื้อเรื่องรวมทั้งยังเป็นจุดเก็บชิ้นส่วนความทรงจำและเนื้อเพลงในบทความก่อนหน้านี้ด้วย ขั้นแรกเลยให้เราไปยังตำแหน่งป้ายไฟสีเหลืองของตัวอพาร์ตเมนต์ก่อนแล้วให้ลงถังที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อลงมายังชั้นดาดฟ้า จากนั้นก็ปีนดาดฟ้าออกไปทางโซนด้านขวาเรื่อยๆ เราจะพบกับตู้กดนํ้าที่ยังมีไฟใช้งานได้อยู่ ทีนี้ให้เราไปกดยังตัวเครื่องก็จะได้รับ Energy Drink มาอีก 1 ชิ้นเรียบร้อยแล้ว ตู้กดนํ้าหมายเลข 4 Stray_20220719150215 สำหรับตู้กดนํ้าเครื่องสุดท้ายนี้ถูกจัดให้เป็นตู้ที่หาได้ยากมากและเรียกว่าแอบซะเนียนสุดๆ เลยล่ะ โดยเราต้องย้อนกลับไปยังทางตันจุดเดียวกับที่เรากระโดดเข้ามาใน Slums จากช่วงท้ายของ Chapter 3 ก่อนเป็นอันดับแรกเลยครับ เมื่อเรามาถึงทางตันแล้วให้เราเดินเข้าไปตามซอยคดเคี้ยวที่อยู่ด้านข้างไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอเข้ากับตัวหุ่นยนต์ที่กำลังดูทีวีอยู่ จากนั้นให้ไปยืนตรงบันไดข้างเจ้าหุ่นยนต์แล้วหันหลังกลับมาจากนั้นให้มองเงยขึ้นมาสักหน่อยเราจะเห็นว่ามันมีเหมือนชั้นลอยอยู่บนหัวเจ้าหุ่นตัวนี้พอดีเลย เมื่อเห็นแล้วก็ให้เราหาทางปีนขึ้นไปแล้วเราก็จะได้เจอเข้ากับตู้กดนํ้าเครื่องสุดท้ายแล้ว ตรงนี้มีอีกวิธีที่เขาแนะนำมาคือให้ลองวิ่งไล่มองลงมาจากดาดฟ้าตึกแถวนั้นก็ได้ครับจะเห็นแสงสว่างของเครื่องกดนํ้าได้ค่อนข้างชัดเจนด้วยเช่นกัน Stray_20220719132706 จบบทความเรื่องของ Stray - ตำแหน่งตู้กดนํ้า ไปแล้วนะครับ เรียกว่าเป็นบทความสั้นๆ ก็ได้เพราะมันมีแค่ 4 เครื่องเท่านั้นเอง แต่ถึงอย่างนั้นบางเครื่องก็แอบซะเนียนจนปวดหัวเลยอย่างเจ้าเครื่องสุดท้ายเนี่ย หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ กันไปไม่มากก็น้อยนะครับผม

Stray เกมของน้องแมวที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งภายในเกมก็จะให้เราได้สวมบทเป็นแมวส้มพร้อมทำกิจกรรมแมวต่างๆ มากมายทั้ง การปีนไต่กำแพง, การตบของลงจากระเบียง, การร้องเหมียวใส่หุ่นยนต์ หรือแม้แต่การ “ลับเล็บ” ก็ตามที โดยในวันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่สำหรับการลับเล็บน้องแมวนั่นเองครับ แถมบอกเลยว่าถ้าทำครบก็จะได้ของรางวัลกลับไปด้วยล่ะนะ การลับเล็บแมวทำยังไงและทำไปทำไม? การ “ลับเล็บ” นั้นเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เราทำได้ในเกมครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะทำมันได้ตลอดหรือทำได้ทุกที่หรอกนะ ภายในเกมจะมีจุดต่างๆ สามารถให้เราเข้าไปลับเล็บได้ยกตัวอย่างเช่น ต้นไม้, พรม, กำแพง หรือ ประตู เป็นต้น ซึ่งเมื่อเข้าไปใกล้ปุบก็จะมีปุ่มให้กดเพื่อเริ่มการลับเล็บครับ ซึ่งนอกเหนือจากการเป็นฟีเจอร์ที่ใส่มาเพื่อเอาใจเหล่าทาสแมวแล้วนั้น การลับเล็บเนี่ยบางครั้งก็ยังเอาไว้ใช้สำหรับการเข้าถึงเนื้อหาบางอย่างด้วยนะ ยกตัวอย่างเช่นในพื้นที่โซน Slum จะมีร้านค้าบางแห่งเราสามารถไปลับเล็บข่วนประตูเพื่อให้หุ่นยนต์มาเปิดให้เราเข้าไปได้ด้วย ดังนั้นถ้าเจอจุดลับเล็บดูแปลกตาก็ลองทำดูเถอะครับบางทีมันอาจพาเราไปเจออะไรที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้ ไม่เพียงเท่านั้นการลับเล็บเนี่ยถ้าเราทำครบตามเงื่อนไขที่ตัวเกมกำหนดไว้เราจะได้รับ Achievement หรือถ้วยรางวัล TERRITORY กลับมาเป็นของรางวัลด้วย โดยในบทความนี้ผมก็จะพาเพื่อนๆ ไปแนะนำถึงจุดลับเล็บทั้งหลายเพื่อปลดล็อกถ้วยที่ว่ากันน่ะเองครับผม ซึ่งจะมีการแนะนำแบ่งไปทีละ Chapter เลย สถานที่การลับเล็บใน Chapter 1 - Inside the Wall จุดที่แนะนำในบทนี้นั้นจะพบได้ตั้งแต่เริ่มเกมมาเลยครับ หลังผ่านฉากคัทซีนหลบฝนในตอนแรกมาจนถึงจุดที่ตัวเกมให้เราบังคับน้องแมวได้แล้วก็ให้เราเดินตามทางมาเรื่อยๆ ครับ หลังจากปีนกำแพงครั้งที่สองขึ้นมาแล้วให้เราสังเกตบริเวณซ้ายมือของเราจะมีต้นไม้อยู่ให้เราสามารถเข้าไปลับเล็บได้นั่นเอง  ตรงจุดนี้ถ้าคนไม่ค่อยได้สนใจรอบๆ ตัวก็อาจจะเลยตรงนี้กันไปครับเนื่องจากจะโฟกัสกับการตามน้องแมวตัวอื่นแทนมากกว่า สถานที่การลับเล็บใน Chapter 2 - Dead City เมื่อเริ่มเนื้อเรื่องบทนี้มาก็ให้เราเดินตามทางผ่านตัวเมืองมาเรื่อยๆ ครับ กระทั่งมาถึงตรงจุดที่เราต้องปีนขึ้นหลังคาเพื่อไปตบถังสีให้ตกลงมากระแทกกระจกด้านล่างเพื่อเข้าไปห้องด้านใน ซึ่งเมื่อเราเข้ามาปุบให้เดินเลยจากจุดที่ตกลงมาอีกนิดเราจะเจอพรมอยู่ที่สามารถกดลับเล็บได้น่ะเองครับผม สถานที่การลับเล็บใน Chapter 3 - The Flat หลังเริ่ม Chapter มาปุบให้เราตรงมายังห้องนั่งเล่นหลักของตัวอาคารทันทีเลยครับซึ่งสังเกตได้จากภายในห้องจะมีจอคอมขนาดใหญ่ทำงานไว้อยู่ พอเข้าห้องมาแล้วให้เราสังเกตหัวมุมด้านหนึ่งที่เป็นตำแหน่งของห้องครัวพอดี ตรงบริเวณหัวมุมจะมีพรมอยู่ที่เราสามารถเข้าไปลับเล็บได้ครับ สถานที่การลับเล็บใน Chapter 4 และ Chapter 6 - The Slum ในเนื้อเรื่องChapter 4 และ 6 โซนของ The Slum นี้นับว่าเป็นสถานที่เราสามารถพบเจอตำแหน่งลับเล็บได้ค่อนข้างเยอะและง่ายว่าที่อื่นมากเลยล่ะครับไม่ว่าจะเป็น โซฟา, ประตู, พรม อื่นๆ อีกมากมายทีเดียว แต่ถ้าถามว่าตรงไหนง่ายสุดนั้นใน Chapter 4 ก็คงเป็นอาคารที่ตัวของ Guardian อาศัยอยู่ครับ โดยบริเวณชั้นล่างสุดตรงตำแหน่งที่หุ่นยนต์นั่งรวมกันอยู่จะมีพรมอยู่กลางห้องให้ลับเล็บได้ครับ ในส่วนของ Chapter 6 นั้นก็จะอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของ Momo ซึ่งพอเรามาอยู่ที่นี่ก็ให้มองหาพรมได้เลย เป็นหนึ่งในของที่เห็นได้ง่ายพอสมควรเพราะมันใหญ่และสะดุดตามากทีเดียว สถานที่การลับเล็บใน Chapter 5 - Rooftops เมื่อเริ่มเนื้อเรื่องบทนี้มาให้เราทำการขึ้นถังลิฟต์แรกที่เห็นเพื่อข้ามฟากมายังตึกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเลยครับ เมื่อข้ามมาแล้วก็ให้เราทำการปีนกำแพงเพื่อขึ้นไปด้านบนต่อเลยเราจะเห็นซุ้มตั้งอยู่ตรงหน้า ซึ่งใต้ซุ่มก็มีพรมไว้สำหรับลับเล็บของน้องแมวอยู่ด้วย สถานที่การลับเล็บใน Chapter 7 - Dead End สำหรับตำแหน่งลับเล็บใน Chapter 7 นี้จะมีอยู่เพียงจุดเดียวครับแถมยังเป็นจุดที่หลายคนมักจะไม่ทันสังเกตแล้วเดินเลยกันไปซะเป็นส่วนใหญ่เลยด้วย โดยเมื่อเราได้เข้ามาคุยกับตัวของ Doc เรียบร้อยแล้วให้เราทำการเดินสำรวจภายในแล็บของเขาก่อนครับอย่าพึ่งรีบออกไป ทีนี้มันจะมีกำแพงอยู่ด้านหนึ่งที่วอลล์เปเปอร์เริ่มหลุดเริ่มขาดไปแล้วตรงนี้นี่ล่ะที่เราสามารถมาลับเล็บได้ครับผม ถ้าหาไม่เจอให้ลองสังเกตตัว Defluxor ก็ได้ครับกำแพงจะอยู่ใกล้ๆ กันเลย สถานที่การลับเล็บใน Chapter 8 - The Sewers เช่นเดียวกับรายการก่อนหน้านี้เลยภายใน Chapter 8 นี้ก็มีจุดที่เราลับเล็บน้องแมวได้เพียงจุดเดียวเท่านั้น และก็เป็นจุดที่หลายคนมองข้ามกันไปด้วยเช่นกัน ให้เราทำการเล่นในเนื้อเรื่องนี้มาเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงจุดที่เราต้องใช้ B-12 ในการเปิดแผงวงจร 2 จุดเพื่อเปิดประตูบานใหญ่ครับ เมื่อประตูเปิดแล้วก็ให้เราปีนบันไดขึ้นมาพอถึงแล้วให้เรามองทางซ้ายก่อนเป็นอันดับแรกครับ (ถ้าไปขวาเลยจะไปเนื้อเรื่องต่อและข้ามจุดนี้เลย) มีแผ่นไม้กระดานอันหนึ่งวางไว้กับพื้นอยู่ที่เราสามารถไปลับเล็บให้น้องแมวได้น่ะเอง สถานที่การลับเล็บใน Chapter 9 - Antvillage แบบเดียวกับในโซนพื้นที่ Slum ครับ ภายในพื้น Antvillage จะมีหลายจุดมากให้เราไปลับเล็บได้ แต่ถ้าพูดถึงจุดไวสุดก็คงเป็นตำแหน่งที่หุ่นยนต์สองตัวนั่งอยู่บนเตียงที่เราเจอตอนแรก ให้ลองมองเลยมาทางขวาของเตียงหน่อยจะมีไม้กระดานวางพิงไว้อยู่ให้เราไปจัดการตรงนั้นได้เลย สถานที่การลับเล็บใน Chapter 10 - Midtown อีกหนึ่ง Chapter ที่มีหลายจุดให้เราลับเล็บของน้องแมวเช่นกันครับ แต่จุดที่พบได้ง่ายสุดและเจอตั้งแต่แรกๆ ของบทนี้เลยนั้นเราต้องเดินไปบนถนนเส้นหลักของ Midtown ก่อนเมื่อมาถึงแล้วให้มองประตูทางด้านขวาเอาไว้ มันจะมีประตูอยู่บานนึงซึ่งนำเราเข้าไปในบ้านที่มีหุ่นยนต์นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา ทีนี้ก็ให้เราเดินไปข้างๆ หุ่นตัวนั้นแล้วก็ทำภารกิจของเราได้เลย สถานที่การลับเล็บใน Chapter 11 - Jail สำหรับ Chapter จะมีอยู่สองจุดด้วยกันครับ จุดแรกนั้นอยู่หลังจากที่เราช่วย Clementine และ B-12 ออกมาได้แล้ว บริเวณพื้นที่ด้านนอกของคุกจะมีจุดนึงที่ต้นไม้ขึ้นอยู่ให้เราไปลับเล็บตรงนั้นได้เลยครับ หรืออีกจุดนั้นเราต้องไปลับเล็บใส่ตัวรถบรรทุกเพื่อเรียก Clementine อีกทีนึงในตอนท้ายบท ซึ่งตรงนี้เป็นเหมือนตัวบังคับที่ต้องทำทุกคนเลยก็ว่าได้ สถานที่การลับเล็บใน Chapter 12 - Control Room ในส่วนของ Chapter สุดท้ายนี้มีอยู่เพียงไม่กี่จุดเท่านั้นเองแต่ทุกจุดล้วนแล้วต้องเล่นตามเนื้อเรื่องไปจึงเจอครับมันจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะพลาดในบทนี้น่ะเอง ส่วนจุดที่เจอได้ตอนแรกเลยก็คือตอนที่เราไปเจอประตูล็อกอยู่ ซึ่งตัว B-12 จะเปิดแผงวงจรด้านข้างให้เราไปทำการลับเล็บหรือข่วนสายไฟเพื่อให้วงจรลัดและประตูจะได้เปิดออกมานั่นเองครับ ครบทั้ง 12 Chapter ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ ทีนี้เพื่อนๆ คนไหนพลาดจุดไหนไปบ้างก็แวะไปไล่ทำไล่เก็บกันให้ครบละ เราจะได้ในส่วนของถ้วยรางวัล TERRITORY ติดไม้ติดมือกลับมาเป็นรางวัลด้วยน่ะเอง หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ กันไปไม่มากก็น้อยนะครับผม

กลับมาต่อกับเกมของน้องแมวส้ม Stray เช่นเคยครับ จากก่อนหน้านี้เราได้แนะนำในเรื่องของชิ้นส่วนความทรงจำไปแล้ว ในวันนี้ผมเลยจะมาแนะนำอีกหนึ่งรายการของที่เราสามารถไล่เก็บภายในเกมได้กับตัวของ “เข็มกลัด” หรือ Badge น่ะเอง โดยเราจะมาดูกันดีกว่าว่าเข็มกลัดที่ว่าคืออะไรทำอะไรได้บ้างมีกี่แบบและหาจากไหนบ้างน่ะเองครับ เข็มกลัดภายในเกมนี้ไว้ทำอะไร? ตัวของ “เข็มกลัด” หรือ Badge ภายในเกมนี้จะถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในไอเทมประเภท Collectible หรือของสะสม คล้ายกับชิ้นส่วนความทรงจำของ B-12 ในบทความก่อนหน้านี้เลยครับ แต่มีความต่างอยู่ที่ตัวเข็มกลัดนั้นจะไม่ได้มีผลหรือเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องแต่อย่างใดเลยแต่มีบทบาทในลักษณะของ “ไอเทมสวยงาม” แทน โดยเข็มกลัดที่เราไล่เก็บสะสมได้นั้นมีอยู่ทั้งหมด 6 ชนิดครับ ซึ่งพอได้มาแล้วตัวเข็มกลัดจะมีการโชว์อยู่บริเวณกระเป๋าบนหลังของน้องแมวเรา เราสามารถเลือกว่าจะติดตัวไหนหรือไม่ติดเลยก็ได้เช่นกัน แต่น่าเสียดายที่ว่าเราเลือกตำแหน่งวางบนกระเป๋าไม่ได้ล่ะนะติดตรงไหนก็ต้องติดตรงนั้นไปเลยล่ะ เอาล่ะทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าเข็มกลัดทั้ง 6 แบบมีอะไรบ้าง แล้วหาจากไหนบ้าง เข็มกลัด Outsider Badge สำหรับเข็มกลัดประเภท Outsider Badge นี้ผู้เล่นจะได้รับมาโดยอัตโนมัติเมื่อเล่นจบ Chapter 6 - The Slums (Part 2) ไปแล้วน่ะเองครับ ซึ่งก่อนที่เราเข้า Chapter 7 นั้นตัวของ Seamus จะเดินมาหาเราพร้อมมองตัวเข็มกลัดดังกล่าวมาให้โดยบอกว่าเป็นข้อความที่ Doc ฝากมาถึงเราน่ะเอง เข็มกลัด Music Badge การจะหา Music Badge ได้นั้นเราจำเป็นต้องทำการรวบรวม Music Sheets ให้ครบทั้ง 8 แผ่นครับ ซึ่งทั้งแปดแผ่นนั้นเราสามารถหาได้ระหว่างอยู่ในพื้นที่เขต Slums หรือช่วงเนื้อเรื่องบทที่ 4 และ 6 น่ะเอง พอเราหาครบแล้วก็ให้ไปหา Morusque หุ่นยนต์ดีดกีตาร์เพื่อแลกเข็มกลัดน่ะเอง ส่วนวิธีการหาเนื้อเพลงทั้ง 8 แผ่นเพื่อนๆ ก็เช็คได้จากด้านล่างนี้เลยครับ:  เนื้อเพลงแผ่นที่ 1 - เนื้อเพลงแผ่นแรกอยู่ในอพาร์ทเมนท์ของ Momo ซึ่งพอเข้ามาให้เรามองหาประตูรั้วไว้จะมีรูที่ตัวเราลอดเข้าไปได้ เมื่อเข้ามาให้สังเกตกล่องจำนวนมากวางอยู่ตรงหัวมุมจากนั้นให้เราปีนขึ้นไปก็จะพบเนื้อเพลงที่ว่าแล้ว เนื้อเพลงแผ่นที่ 2 - ให้เรากลับไปยังตำแหน่งที่ Guardian อยู่แล้วให้เดินบันไดลงมาเรื่อยๆ จะพบเข้ากับถังเรียงกันไว้ซึ่งเราสามารถกระโดดขึ้นไปได้ เมื่อขึ้นมาแล้วให้เราปีนสิ่งของตามทางไปเรื่อยๆ ซึ่งมันมาสุดอยู่ตรงระเบียงบ้านหลังนึงที่มีโต๊ะกับเก้าอี้พลาสติกตั้งไว้ โดยหนึ่งในเก้าอี้จะมีเนื้อเพลงวางไว้ให้เราเก็บได้ครับ เนื้อเพลงแผ่นที่ 3 - ให้เราเดินทางไปยัง Elliott’s Programming ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือของร้านขายเสื้อผ้าคุณยาย พอมาถึงแล้วเราสามารถข่วนประตูเพื่อเข้าไปได้ครับ หลังจากเข้ามาแล้วให้มองไปยังกำแพงฝั่งตรงข้ามที่มีรูปแขวนพิงไว้อยู่และตรงนี้เองก็มีเนื้อเพลงแผ่นถัดไปที่เรากำลังตามหาอยู่ เนื้อเพลงแผ่นที่ 4 - เนื้อเพลงแผ่นนี้จะถูกวางขายอยู่กับ Barterman บริเวณโซนด้านหน้าของสลัมครับ เราสามารถมาซื้อได้ในราคา 1 Energy Drink เท่านั้นเอง เนื้อเพลงแผ่นที่ 5 - สำหรับเนื้อเพลงแผ่นนี้เราต้องเดินทางไปยัง Dufer Bar ซึ่งอยู่ข้างล่างบันไดฝั่งตรงข้าม Guardian พอมาถึงแล้วให้เราทำการหาบันไดเพื่อขึ้นไปชั้นสองแล้วให้สังเกตบริเวณข้างกำแพงที่มีโต๊ะวางติดกันอยู่ หนึ่งในโต๊ะตรงนั้นจะมีเนื้อเพลงวางไว้ให้เราเก็บได้ครับ เนื้อเพลงแผ่นที่ 6 - เนื้อเพลงแผ่นนี้จะอยู่ในบ้านของ Celementine ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของ Momo อพาร์ทเมนท์นั่นเองครับ พอมาถึงแล้วก็ให้เราหาทางขึ้นไปยังห้องนอนของบ้านให้ได้จากนั้นก็ให้สังเกตชั้นวางของที่ตั้งติดอยู่กับเตียงในห้องจะเจอเนื้อเพลงแล้วล่ะครับ เนื้อเพลงแผ่นที่ 7 - เริ่มต้นจาก Momo อพาร์ทเมนท์ พอออกมาแล้วให้เราเลี้ยวขวาจะเห็นสัญลักษณ์ของเหล่า Outsider ก็ให้เราตามสัญลักษณ์ดังกล่าวมาเรื่อยๆ จนกว่าถึงห้องหนึ่งที่มีหนังสือมากมายคล้ายกับห้องสมุด ตรงบริเวณกลางห้องจะมีหุ่นยนต์พังแล้วนั่งอยู่ใกล้กับตัวเปียโน พอมาถึงตรงนี้ให้เราปีนขึ้นไปบนเปียโนก็สามารถเก็บเนื้อเพลงได้แล้วครับ เนื้อเพลงแผ่นที่ 8 - ภายในซอยแคบๆ ข้างตัวของ Morusque นั้นจะมีตู้เซฟอยู่ซึ่งเราสามารถไปเอารหัสได้จากที่บาร์ครับ (รหัสคือ 1283) พอเราใส่รหัสประตูเซฟก็จะเปิดออกซึ่งมีเนื้อเพลงแผ่นสุดท้ายซ่อนไว้อยู่น่ะเอง เข็มกลัด Plant Badge ตัวเข็มกลัด Plant Badge นั้นเราสามารถแลกได้ตอนอยู่ที่ Chapter 9 - Antvillage ครับ ซึ่งค่อนข้างคล้ายกับ Music Badge อยู่อย่างคือเราต้องไปรวบรวมของมาก่อนจึงจะแลกได้น่ะเอง โดยสิ่งที่เราต้องใช้แลกก็คือดอกไม้ 3 สีซึ่งหาได้จากบริเวณรอบๆ นั้นเลย ส่วนดอกไม้ทั้งสามสีที่ว่าอยู่ตรงไหนบ้างนั้นเพื่อนๆ ไล่เช็คได้จากด้านล่างนี้เลยครับ: ดอกไม้สีแดง - ดอกไม้สีแดงนั้นจะตั้งอยู่ใกล้กับหุ่นสองตัวที่กำลังขุดดินอยู่ เราสามารถมายังจุดนี้ได้โดยการกระโดดลงถังห้อยอยู่ข้างหุ่นสองตัวที่เล่นหมากกระดานอยู่ครับ ดอกไม้สีม่วง - บริเวณชั้นสองถัดมาจากหุ่นสองตัวที่เล่นหมากกระดานอยู่นั้นมีกิ่งไม้ยื่นออกไปครับ ให้เราปีนกิ่งไม้ที่ว่าไปก็จะเจอดอกไม้สีม่วงให้เราเก็บได้ ดอกไม้สีเหลือง - ให้เราเดินไปยังชั้นที่ Zbaltazar นั่งอยู่ครับ จากนั้นให้เดินเลยไปหน่อยจนเจอบาร์ซึ่งด้านข้างของบาร์นี่ล่ะจะมีท่อที่เราเดินไปได้ ให้เดินตามท่อมาอีกหน่อยเราจะเจอดอกไม้สีเหลืองส่วนสุดท้ายนั่นเองครับ เข็มกลัด Cat Badge ตัว Cat Badge นี้เรามาเก็บได้เมื่อเดินทางมาถึง Chapter 10 - Midtown แล้วครับ พอมาถึงแล้วให้เราเดินตามถนนเส้นหลักมาเรื่อยๆ และคอยสังเกตบริเวณด้านขวาไว้จะมีร้านค้าอยู่ร้านหนึ่งที่มีลักษณะเหมือนหุ่นยนต์ลูกค้ากำลังยืนต่อว่าหุ่นยนต์เจ้าของร้านอยู่ พอเห็นเป้าหมายแล้วก็ให้รีบเดินมายังร้านนี้ทันทีเลยครับ เมื่อมาถึงแล้วให้เรากระโดดขึ้นเคาน์เตอร์แล้วเดินต่อไปยังด้านหลังร้าน เราจะเห็นป้ายโปสเตอร์ติดอยู่ตรงกำแพงหลังหุ่นเจ้าของร้านพอดิบพอดีเลยซึ่งมันเขียนไว้ว่า “2458 :edoC” แต่พอเราอ่านกลับหลังจะได้ว่า “Code: 8542” จากนั้นให้เราเดินมาอีกฝั่งของห้องจนเจอกับตู้เซฟด้านบนก็ให้เราเอารหัส 8542 ไปใส่เมื่อเปิดมาเราจะได้รับตัวของ Cat Badge มาแล้วน่ะเอง เข็มกลัด Police Badge ตัว Police Badge ยังคงเก็บได้ภายใน Chapter 10 - Midtown เช่นกันครับ ให้เราเดินไปยังซอยข้างสถานีรักษาความปลอดภัย (ตึกที่ไฟเหลืองๆ สว่างๆ ) พอมาถึงซอยดังกล่าวให้เราสังเกตด้านขวากำแพงให้ดีครับมันจะมีโต๊ะที่เราสามารถปีนขึ้นไปได้ก็ให้เราปีนขึ้นไปแล้วตามทางสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เลย หลังจากปีนสูงขึ้นมาได้สักพักมันจะพาเรามาอยู่ด้านหน้าของหน้าต่างบานนึงที่ให้เรากระโดดเข้าไป พอเราเข้ามาปุปเราก็เจอกับซากหุ่นยนต์พังนอนอยู่ ซึ่งพอเราค้นเจ้าซากหุ่นที่ว่าจะได้ Police Badge มาครับผม เข็มกลัด Neco Badge เข็มกลัดตัวสุดท้าย Neco Badge นี้ก็ยังคงอยู่ในเนื้อหา Chapter 10 - Midtown โดยจะพบได้ในช่วงที่เราบุกเข้าไปในอาคารของ Neco เพื่อขโมย Atomic Battery นั่นเองครับ โดยเริ่มแรกเราต้องขึ้นไปยังชั้น 3 แล้วให้คุยกับหุ่นยนต์บนชั้นนั้นเพื่อเริ่มเควสช่วยตามหากุญแจหลังคุยกับหุ่นยนต์เสร็จแล้วให้เราเดินตามทางมาครับทีนี้เราจะเจอคันโยกซึ่งอยู่ข้างๆ โดรนลาดตระเวนให้เราโดดขึ้นไปเพื่อดันคันโยกดังกล่าว หลังดันเสร็จปุปประตูด้านข้างที่เป็นทางไปต่อจะถูกเปิดออก  เมื่อเข้าประตูมาแล้วก็ให้เราเดินหลบพวกหุ่นยามทั้งหลายและเดินหลบหลังเงาถังไปจนถึงส่วนลึกสุดของห้องตรงจุดนํ้าขัง (ไม่ต้องข้ามไปห้องอื่นนะ) พอมาถึงจุดนี้ให้เรากระโดดเหยียบถังไปจนถึงกองของลอยนํ้าตรงหัวมุมครับตรงนั้นน่ะเองเราจะเจอกุญแจที่ว่า พอได้กุญแจแล้วทำเหมือนเดิมครับหลบพวกหุ่นต่างๆ จนกลับจุดเดิมที่เรารับเควสไว้ จากนั้นส่งมอบกุญแจเจ้าหุ่นตัวนี้ก็จะมอบ Neco Badge มาเป็นของรางวัลให้เราน่ะเอง เป็นการจบบทความ Stray - รายละเอียดของเข็มกลัดทั้งหมด ไปก็แล้วกันนะครับ ซึ่งอย่างที่ผมบอกไปตอนต้นว่าตัวเข็มกลัดนี้ไม่ได้มีผลอะไรกับเนื้อเรื่องเลย เป็นเพียงของประดับสวยงามเท่านั้น ดังนั้นเพื่อนๆ จะเลือกทำเลือกเก็บให้ครบหรือเมินไปเลยก็ได้เช่นกัน หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กันไปไม่มากก็น้อยนะครับ

Stray หนึ่งในเกมตัวใหม่ซึ่งพึ่งวางจำหน่ายออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ให้เหล่าผู้เล่นได้สวมบทบาทเป็นน้องแมวและกำลังเป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในขณะนี้ด้วยเช่นกัน โดยหนึ่งในกิจกรรมที่เราสามารถทำได้ภายในเกมนั่นก็คือการตามหา “ความทรงจำ” น่ะเองครับ วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าความทรงจำแต่ละที่ของน้องแมวนั้นอยู่ตรงไหนกันบ้าง ความทรงจำหรือ Memory คืออะไร? ในส่วนของ “ความทรงจำ” หรือ Memory นั้นถ้าอิงตามเนื้อเรื่องแล้วมันคือเศษชิ้นส่วนความทรงจำที่ตัวโดรนเพื่อนเรา B-12 ได้ทำขาดหายไป และเราจำเป็นต้องไล่ตระเวนไปยังจุดต่างๆ ภายในเกมเพื่อให้เจ้าโดรนตัวนี้สแกนแล้วกู้ข้อมูลที่ขาดหายไปกลับมาครับ แต่ถ้าว่ากับถึงระบบของเกมแล้วนั้นพวกความทรงจำเหล่านี้มาในลักษณะของ Collectible หรือ “ของสะสม” ที่ผู้เล่นจะเลือกไล่เก็บให้ครบหรือจะไม่ทำปล่อยมันตามเลยก็ได้เช่นกันครับ เพียงแต่เมื่อเราทำการรวบรวมครบทั้งหมดเราก็จะได้ของรางวัลสุดพิเศษบางอย่างมาจากตัวเกมด้วยล่ะนะ ชิ้นส่วนความทรงจำมีทั้งหมดกี่ชิ้น เก็บครบแล้วได้อะไร? ตัวชิ้นส่วนความทรงจำภายในเกมนี้จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 27 ชิ้นครับ โดยจะมีอยู่ 5 ชิ้นซึ่งเราจะได้มาอัตโนมัติจากเนื้อเรื่องในบทที่ 3, 5, 9, 10 และ 12 ครับ ในขณะที่อีก 22 ชิ้นเราต้องไปไล่ตระเวนตามหาตามโซนต่างๆ ภายในเกมอีกทีนึง ส่วนของรางวัลที่เราจะได้รับเมื่อรวบรวมเศษชิ้นส่วนความทรงจำทั้งหมดครบนั้นจะมี 2 อย่างด้วยกันคือ 1.ถ้วยรางวัลพิเศษ “I Remember” และ 2.ชุดสำหรับน้องแมวสีสันสดใสในธีม Holographic ซึ่งตัวชุดเนี่ยล่ะเป็นอะไรที่ดีงามแบบสุดๆ ทีเดียวช่วยเพิ่มความน่ารักให้กับเจ้านายได้อย่างมหาศาลเลย ดังนั้นใครไม่อยากพลาดชุดน่ารักๆ แบบนี้ก็ไปรวบรวมกันให้ครบนะ เอาล่ะทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าอีก 22 จุดที่เหลือนี้ซ่อนอยู่ตรงไหนกันบ้าง ตำแหน่งชิ้นส่วนความทรงจำภายในเกม Slum Memory 1: Dead Robot (1/22) ชิ้นส่วนแรกนั้นจะอยู่บนหลังคาครับ โดยจะอยู่บนหลังคาของตึกสูงๆ ตรงข้ามกับบ้านของ Clementine ซึ่งจะมีป้ายแปลกๆ อยู่ด้านบน ซึ่งตรงนี้ก็ให้เราหลบอุปสรรคต่างๆ แล้วหาทางขึ้นไปบนหลังคาที่ว่าบริเวณด้านหลังป้ายก็จะพกเข้ากับซากหุ่นยนต์ที่พังแล้วอยู่ตัวนึง เมื่อเข้าไปใกล้ B-12 ก็จะตอบสนองและเป็นการรวบรวมชิ้นส่วนความทรงจำนี้มา Slum Memory 2: Companion Portrait (2/22) ชิ้นส่วนนี้จะค่อนข้างต่างจากเพื่อนสักหน่อยเพราะเราไม่สามารถเก็บมันได้ทันทีและต้องหาของมาแลกน่ะเอง โดยเจ้าชิ้นส่วนนี้จะถูกวางขายอยู่กับพ่อค้า Barterman บริเวณโซนพื้นที่ด้านหน้าของสลัมน่ะเอง ซึ่งเราสามารถมาซื้อชิ้นส่วนที่ว่าได้ในราคา 3 Energy Drinks ครับผม Slum Memory 3: Robot Food (3/22) ให้เราเดินทางไปยัง Dufer Bar ซึ่งอยู่บริเวณใต้บันไดฝั่งตรงข้ามกับ Guardian พอดิบพอดี เมื่อเข้าไปยังบาร์ดังกล่าวแล้วก็ให้เรามองหาบันไดภายในนั้นอีกทีเพื่อขึ้นไปยังโซนพื้นที่นั่งเล่น พอขึ้นมาแล้วให้เรามองหาโต๊ะข้างบันไดซึ่งบนโต๊ะจะมีชามซุปที่มีชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ใส่ไว้อยู่ก็ให้เราเข้าไปใกล้แล้วตัว B-12 จะทำการสแกนให้เองครับ Slum Memory 4: Game Poster (4/22) ชิ้นส่วนนี้จะซ่อนอยู่ภายในบ้านของ Momo ซึ่งเราสามารถมายังบ้านหลังนี้ได้โดยการมองหาระเบียงที่มีป้ายสีทองขนาดใหญ่โดยจะอยู่บริเวณด้านบนของร้านซักรีดอีกทีนึง เมื่อเข้ามายังตัวบ้านแล้วก็ให้เราเดินไปยังห้องนอนที่อยู่หลังม่านลูกปัดพอเข้าไปจะเห็นป้ายโปสเตอร์เกมขนาดใหญ่ข้างกำแพงเด่นชัดเลยล่ะ ให้เราเดินไปคุยก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นแล้วครับ Slum Memory 5: RIP Humans (5/22) ให้เราเดินสำรวจตามทางเดินยาวที่อยู่เลยร้านซักรีดไปเรื่อยๆ จนเจอเข้ากับแสงไฟสีเหลืองซึ่งเป็นที่อยู่ของ Seamu แล้วเดินเลยต่อไปถึงทางตันของซอย เมื่อมาจนสุดทางเราก็จะเจอกำแพงขนาดใหญ่ที่เขียนว่า R.I.P HUMANS อยู่พอกดคุยปุบตัว B-12 จะเริ่มสแกนและเป็นการรวบรวมชิ้นส่วนนี้น่ะเองครับ Slum Memory 6: Happy Companion Art (6/22) ให้เราเดินไปบริเวณซุ้มประตูซึ่งต้องอยู่ทางซ้ายของเจ้า Morusque หุ่นยนต์เล่นดนตรี ซึ่งเมื่อเราไปถึงเราจะเจอทางนำเราขึ้นไปยังพื้นที่บริเวณขอบระเบียงด้านบนได้ ตรงกำแพงจะมีรูปวาดของหุ่นยนต์ที่กำลังโบกมืออยู่ก็ให้เราเข้าไปใกล้ก็จะเป็นการรวบรวมชิ้นส่วนนี้แล้วล่ะครับ Slum Memory 7: Neco Plant (7/22) ชิ้นส่วนต่อไปนั้นจะซ่อนอยู่ในร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าของ Elliott ร้านค้าซึ่งอยู่เลย Dufer Bar ไปและตั้งอยู่ทางซ้ายของร้านเสื้อผ้าคุณยาย เมื่อไปถึงร้านดังกล่าวก็ให้เอาเล็บข่วนประตูจากนั้นจะมีหุ่นยนต์มาเปิดประตูให้เราเข้าไป พอเข้าไปแล้วให้เราเดินขึ้นบันไดเพื่อไปยังชั้นสองจากนั้นก็ให้มองหาเก้าอี้ที่มีกระถางต้นไม้ตั้งอยู่พอกดคุยแล้วตัว B-12 จะสแกนเพื่อรวบรวมชิ้นส่วนนี้ครับ Rooftop Memory 1: Neon Sign (8/22) ชิ้นส่วนนี้จะพบได้ตั้งแต่เราเข้าเนื้อเรื่อง Chapter 5 - Rooftops ตั้งแต่แรกๆ เลยครับ หลังผ่านโซนต่างๆ ที่เต็มไปด้วยฝูงแมลง Zurks จนมาเจอท่อขนาดใหญ่ซึ่งสามารถไต่ขึ้นไปได้ก็ให้เราปีนขึ้นไปยังพื้นที่ด้านบนครับ พอขึ้นมาเราจะเจอซากสิ่งของเกลื่อนพื้นที่เต็มไปหมดให้เราเดินต่อมาเรื่อยๆ จนเจอเข้ากับป้ายนีออนขนาดใหญ่ พอเจอป้ายดังกล่าวให้เราเดินเข้าไปคุยเพื่อให้ตัว B-12 สแกนก็เรียบร้อยแล้วครับ Rooftop Memory 2: Neco Corp (9/22) เมื่อเราเข้ามายังหอวิทยุแล้วก็ให้เราปีนหอขึ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอชั้นที่มีพวก Zurks แอบอยู่หลังประตูครับ ซึ่งพอมาถึงชั้นนี้เราอย่าพึ่งรีบเดินเข้าไปเปิดประตูตรงกลางแต่ให้เราเดินไปยังหัวมุมห้องไกลๆ ก่อน มันจะมีอยู่มุมนึงซึ่งมีป้าย Neco Corp ตกไว้อยู่พอเจอแล้วให้เราเดินไปคุยก็ถือว่าเรียบร้อยแล้วครับ Dead End Memory 1: The Wall (10/22) ทันทีที่เราเข้าสู่เนื้อเรื่อง Chapter นี้หลังจากเราได้ทิ้งตัว Seamus เอาไว้ก็ให้เราเดินออกมาทางซ้ายครับ ซึ่งพอเดินมาเราจะเจอกับทางเข้าตึกอะไรสักอย่างกับประตูปิดไว้อยู่ก็ให้เราเข้าไปสแกนประตูตัวของ B-12 จะทำหน้าที่ของเขาเอง Dead End Memory 2: Fishing Hut (11/22) หลังจากหลบหนีฝูงแมลง Zurks กลุ่มแรกมาได้แล้วให้เราเดินทางต่อมาเรื่อยๆ จนกว่าจะหล่นไปในรถเข็นที่พาเราลงเหวไปครับ พอมาถึงตรงนี้ก็ให้เราออกจากเหวแล้วเดินตามทางไปจนกว่าเจอทางแยก เราอย่าพึ่งรีบปีนขึ้นไปที่สูงครับแต่ให้เราเดินตามทางต่อมาถึงรั้วตาข่าย ซึ่งตรงรั้วนี้จะมีอยู่จุดนึงซึ่งมันเป็นรูให้เราเดินออกไปได้ พอออกมาปุบเราจะเจอเหมือนกับท่าหรือแพอะไรสักอย่างที่เอาไว้ตกปลาและมีหุ่นยนต์ตัวนึงนอนพังอยู่ให้เราเดินไปสแกนซากหุ่นยนต์ที่ว่าก็เรียบร้อยแล้วครับ Dead End Memory 3: Human Child Mannequin (12/22) เมื่อเราเดินทางมาเรื่อยๆ จนเจอกับตัวของ Doc แล้วให้เรามองไปยังด้านหลังของเขาดูครับ เราจะพบเข้ากับเจ้าหุ่นลองเสื้อตัวหนึ่งที่มีถังใบหน้ายิ้มครอบหัวไว้อยู่ก็ให้เราเข้าไปใกล้แล้วกดคุยเท่านั้นเอง The Sewer Memory 1: Water Filtration (13/22) หลังจากเราแยกกับตัวของ Momo จนมาเจอทางแคบแห่งหนึ่ง ให้สังเกตบริเวณทางซ้ายจะเจอห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งที่มีไข่แมลงอยู่เต็มไปหมด ตรงนี้ให้เราทำการกำจัดไข่กับเจ้าพวก Zurks ภายในให้หมดครับ จากนั้นก็ให้เราเช็กกำแพงด้านซ้ายมืออีกทีนึงมันจะมีท่อที่พาเราไปยังห้องบำบัดนํ้าเสียอยู่ ให้เราโดดเข้าท่อไปจนเข้าไปถึงห้องที่ว่าแล้วทำการสแกนก็เรียบร้อยแล้วครับ The Sewer Memory 2: The Organism (14/22) เมื่อเราไปถึงโซนที่เริ่มมีลูกตาโผล่มาบนกำแพงแล้วเราจะถูกไล่ล่าโดยฝูง Zurks ค่อนข้างเยอะพอสมควรเลย ซึ่งเราก็ต้องหนีไปจนถึงโซนพื้นที่หนึ่งมีท่ออยู่เต็มไปหมด พอมาถึงตรงนี้เราอย่าพึ่งเดินไปทางขวาครับแต่ให้เลาะตามทางซ้ายมือไปเรื่อยๆ จนเจอห้องลับที่มีสสารบางอย่างอยู่ข้างใน พอเราเข้าไปใกล้พอตัว B-12 ก็จะทำงานขึ้นมาทันทีเลย Antvillage Memory: Companion Language (15/22) หลังจากที่เราคุยกับตัว Zbaltazar เรียบร้อยแล้วให้เราย้อนกลับลงมาชั้นแรกสุดของตัวอาคารครับ จากนั้นให้เราเดินมาตรงโซฟาที่มีหุ่นยนต์นั่งดูทีวีอยู่แล้วให้เรามองไปทางขวาของโซฟา ตรงกำแพงนั้นจะมีรอยพ่นสีกราฟิตี้บนกำแพงที่เราสามารถสแกนเพื่อให้ B-12 ระลึกความทรงจำได้ครับ Midtown Memory 1: Bookshelves (16/22) พอเราขึ้นบันไดออกมาจากสถานีรถไฟใต้ดินแล้ว ให้เรามองสังเกตทางขวาจะมีที่พักเล็กๆ และมีหุ่นยนต์นั่งอยู่ ซึ่งภายด้านในก็จะมีชั้นหนังสือวางอยู่ที่เราสามารถเข้าไปเพื่อกดคุยและเก็บชิ้นส่วนความทรงจำได้ครับ Midtown Memory...

Shikanoin Heizou ได้อัปเดตลงตู้กาชาของ Genshin Impact พร้อมกับแพทช์ 2.8 โดยนักเดินทางทุกท่านสามารถได้รับเขาทั้งจากตู้กาชา Kaedehara Kazuha และ Klee โดยรวมแล้วเขาเป็นตัวละครที่น่าสนใจมากตัวหนึ่ง เพราะเป็นตัวละครแรกในเกมที่มีสไตล์การต่อสู้เป็นศิลปะป้องกันตัวด้วยมือเปล่าเน้นการอัดพลังออกไปโจมตีใส่ศัตรูตรงหน้า  แนะนำตัวละคร และรูปแบบการเล่นของ Shikanoin Heizou แบบคร่าว ๆ สกิลธาตุจะเป็นการชกศัตรูอย่างรุนแรงหนึ่งครั้ง โดยความแรงจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนบัฟหมัดที่เขามี โดยเขาจะได้รับบัฟเพิ่มขึ้น 1 ระดับทุกครั้งที่ตนเองเป็นคนทำปฏิกิริยากระจาย (สูงสุด 4 ขั้น) หรือจะเพิ่มระดับขั้นของบัฟได้โดยการกดใช้สกิลแบบค้างเพื่อชาร์จบัฟแทน ท่าไม้ตายจะเป็นการเตะบอลลมไประเบิดข้างหน้าเพื่อทำความเสียหายลม หลังจากนั้นระเบิดจะดูดศัตรูรอบ ๆ ให้มาอยู่ตรงกลางของท่าไม้ตาย เป็นการดูดที่ไม่รุนแรงมากนัก แนะนำอาวุธ สำหรับอาวุธแนะนำจะมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ Hakushin Ring, Favonius Codex และ Oathsworn Eye Hakushin Ring เมื่อผู้ถือทำปฏิกิริยาธาตุที่เกี่ยวกับสายฟ้า จะได้รับโบนัสความเสียหายของธาตุที่เกี่ยวข้อง เป็นอาวุธที่ทรงพลังมาก ๆ หากใช้เล่นกับทีมที่เน้นทำปฏิกิริยาชาร์จไฟฟ้า เพราะจะสามารถบัฟโบนัสความเสียหายได้หลายธาตุให้ทีมพร้อม ๆ กัน Favonius Codex  อาวุธที่ช่วยสนับสนุนพลังงานของทีมได้ดี แต่ถ้าจะใช้อาวุธชิ้นนี้ ต้องมีอัตราคริที่สูงพอสมควรให้สกิลอาวุธทำงานด้วย เป็นอาวุธอีกชิ้นที่ดี เพราะทีมส่วนใหญ่ที่ Heizou ต้องไปอยู่นั้นต้องใช้พลังงานค่อนข้างเยอะ Oathsworn Eye อาวุธฟรีจากกิจกรรม เป็นตัวเลือกที่ดีของคนที่ยังไม่มีแปลนอาวุธ หรือไม่มี Favonius Codex เพราะช่วยเพิ่มทั้งค่าฟื้นฟูพลังงาน และค่าพลังโจมตี แนะนำอาร์ติแฟกต์ สำหรับอาร์ติแฟกต์ สามารถใส่อาร์ติแฟกต์ได้สองแบบ คือแบบแรกใส่ชำนาญธาตุทั้งหมด เพื่อเน้นความเสียหายจากปฏิกิริยาธาตุ เหมาะกับทีมชาร์จไฟฟ้า กับแบบที่สอง คือใส่นาฬิกาพลังโจมตี ถ้วยโบนัสความเสียหายลม หมวกอัตราคริ หรือความแรงคริ เพื่อเน้นรีดดาเมจจากสกิลธาตุแทนปฏิกิริยา ในทีมที่ไม่ได้เน้นการทำปฏิกิริยาธาตุด้วยตนเองเป็นหลัก ส่วนออฟรองควรเน้นค่าฟื้นฟูพลังงาน พลังโจมตี อัตราคริ ความแรงคริ และ ชำนาญธาตุ อาร์ติแฟกต์มีแนะนำอยู่เพียง 1 เซ็ต คือ 4 Viridescent Venerer Viridescent Venerer เพิ่มโบนัสความเสียหายลม 15% เพิ่มโบนัสความเสียหายของปฏิกิริยากระจาย 60% และลดต้านทานธาตุของศัตรูที่ได้รับผลกระทบลง 40% แนะนำสมาชิกทีม  ทีมที่แนะนำได้แก่ Xingqiu / Yelan + Xiangling + Bennett หรือ Xingqiu / Yelan / Beidou + Fischl  Xingqiu / Yelan + Xiangling + Bennet ทีมเน้นความเสียหายจากทั้งท่าไม้ตายของ Xiangling และการโจมตีของ Heizou ไปพร้อม ๆ กัน โดยตัวเขาสามารถทำหน้าที่อย่างดาเมจยืนสนาม ดีบัฟลดป้องกันธาตุ และบัฟค่าชำนาญธาตุให้ทีมได้ในช่องตัวละครเดียว Xingqiu / Yelan / Beidou + Fischl  ทีมชาร์จไฟฟ้าที่เน้นการทำปฏิริยากระจายธาตุน้ำ และสายฟ้าพร้อมกัน เพื่อทำดาเมจและลดความต้านทานธาตุน้ำ และไฟฟ้าของศัตรูพร้อมกัน พรสวรรค์ เน้นอัปเลเวลสกิลธาตุเป็นหลัก เพื่อความแรงในการใช้สกิลชก เนื่องจากเป็นส่วนที่มีความเสียหายสูงสุด รองลงมาจะเป็นท่าไม้ตาย และการโจมตีปกติ แต่เหนือสิ่งอื่นใดสำหรับสายชำนาญธาตุคือต้องอัพเลเวลให้สูงที่สุด เพราะความเสียหายของปฏิกิริยากระจายนั้นขึ้นอยู่กับเลเวลของตัวละคร แนะนำกลุ่มดาว กลุ่มดาวที่ปลดแล้วมีผลเยอะได้แก่กลุ่มดาว 1,3,4 และ 6 กลุ่มดาว 1 เมื่อสลับตัวเข้าสู่สนาม จะได้รับบัฟหมัดทันที 1 ขั้น และโจมตีปกติไวขึ้น 15% เป็นเวลา 5 วินาที โดยโบนัสนี้จะเกิดได้ทุก 10 วินาที กลุ่มดาว 3 เพิ่มเลเวลสกิลธาตุขึ้น 3 เลเวล กลุ่มดาว 4 เมื่อใช้ท่าไม้ตาย จะฟื้นฟูพลังงานธาตุ 9 หน่วย และจะฟื้นฟูเพิ่มขึ้นอีก 1.5 หน่วยการมีการระเบิดของการดูดซับธาตุ โดยจะฟื้นฟูพลังงานสูงสุดได้ 13.5 หน่วย กลุ่มดาว 6 เมื่อใช้สกิลธาตุ จะเพิ่มอัตราคริของสกิลธาตุขึ้นตามระดับของบัฟหมัด ขั้นละ 4% และเมื่อมีบัฟหมัดขั้นสูงสุด จะเพิ่มความแรงคริของสกิลธาตุขึ้นอีก 32%  Shikanoin Heizou นั้นเป็นตัวละครที่ยืดหยุ่นตัวหนึ่ง และสามารถทำหน้าที่ได้หลายหน้าที่ในทีม นอกจากนี้ยังเป็นตัวละครที่ดีอยู่แล้วที่ระดับไม่ปลดดาว แต่ถ้าปลดดาวเพิ่มก็จะยิ่งทำความเสียหายได้มากขึ้นไปอีก เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่น่าสนใจเอามาไว้ในทีมมากๆ หากเพื่อนๆ ยังไม่มี Sucrose หรือ Kazuha เครดิตผู้เขียนบทความ : ไกด์แมวๆ - Limemy Channel สามารถไปติดตามกันได้นะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

Rune Factory 5 หนึ่งในผลงานเกมชื่อดังจากฝั่ง Nintendo Switch ที่พึ่งจะได้พอร์ตมาลงให้กับฝั่ง PC เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งหนึ่งในระบบสำคัญประจำเกมนั้นก็คือ “การจีบหนุ่มจีบสาว” น่ะเอง โดยเราจะมาดูกันดีกว่าว่าการจีบตัวละครภายในเกมนี้ต้องทำยังไงกันบ้าง แล้วมีกี่คนให้เราสามารถไปสานความสัมพันธ์บ้าง ตลอดจนถึงเรื่องของขวัญเองด้วย การจีบตัวละครต้องทำยังไงบ้าง? สำหรับการจะจีบตัวละครภายในเกมนี้เราต้องอาศัยการ “สามความสัมพันธ์” ครับซึ่งสามารถทำได้จากหลายวิธีเช่น การพูดคุย, การใช้ Greeting Spells, ชนะการประกวด, การเพิ่มเลเวลสกิลบางอย่าง รวมถึงหนึ่งในวิธีที่เพิ่มได้ค่อนข้างเยอะแถมยังทำได้ไม่ยากเลยด้วยนั่นก็คือ “การให้ของขวัญ” น่ะเองครับ โดยระดับความสัมพันธ์นั้นแบ่งออกเป็น 10 ระดับ แต่จะมีอยู่ 4 ช่วงที่สำคัญคือ:  ความสัมพันธ์ระดับ 3 : สามารถชวน NPC ไปร่วมผจญภัยกับเราได้ ความสัมพันธ์ระดับ 5 : NPC จะมอบของขวัญให้เมื่อถึงวันเกิดเรา ความสัมพันธ์ระดับ 7 : ขอ NPC ออกเดทได้ (เฉพาะตัวละครที่จีบได้) ความสัมพันธ์ระดับ 10 : ขอ NPC แต่งงานได้ (เฉพาะตัวละครที่จีบได้) เอาล่ะทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่ามี NPC กี่คนนี่เราสามารถจีบและขอแต่งงานได้ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องวันเกิดและของขวัญที่จะมาช่วยเพิ่มค่าความสัมพันธ์นั่นเอง ตัวละครฝั่งหญิงที่เราสามารถจีบได้ (Bachelorettes) Beatrice วันเกิดฤดูหนาววันที่ 14สถานที่พบได้บ่อยLackadaisy, The Blue Moonของโปรดแยมสตรอเบอรี่, นมสตรอเบอรี่, นํ้าผลไม้สีทอง, สมูทตี้รวม, แยมสตรอเบอรี่ดาวตกของที่ชอบสตรอเบอรี่, สตรอเบอรี่ Sultan, สตรอเบอรี่ดาวตก, แยมโรล, นํ้าผลไม้รวม, แอปเปิ้ล, แอปเปิ้ลอบ, แยมแอปเปิ้ล, พายแอปเปิ้ล, เค้ก, แซนด์วิชผลไม้, ฟลาน, ฟลานฟักทอง, ขนมปังของที่ไม่ชอบดอเรีย (Doria), ดอเรียอาหารทะเล, กราแต็ง, กราแต็งอาหารทะเล, วัตถุปริศนา X, เศษเหล็ก, อาหารน่าขยะแขยง, อาหารที่ทำไม่สำเร็จ, หิน, กิ่งไม้, กระป๋อง, กระป๋องหายาก, รองเท้าบูทของที่เกลียดมากนมร้อน, ช็อกโกแลตร้อน, หม้อไฟรวมมิตร (Yosenabe / Union Stew) Beatrice นั้นเป็นหญิงสาวในตระกูลขุนนางที่ออกมาทำภารกิจลับยังเมืองของเรา โดยตัวของเธอมีความสามารถหลายอย่างแต่ที่จะเห็นเด่นชัดสุดคงเป็นเรื่องของการเล่นเครื่องดนตรีและการขี่มอนสเตอร์ ซึ่งด้วยการถูกดูแลเอาใจใส่ตั้งแต่เด็กจึงทำให้หลายคนต่างอดเป็นห่วงเธอไม่ได้ที่ต้องออกมาใช้ชีวิตภายนอก เดิมทีตัวเธอนั้นตั้งใจจะกลับไปยังบ้านของเธอหลังจากทำภารกิจเสร็จแต่ก็เกิดเปลี่ยนใจจนเลือกจะอยู่ต่อเมื่อเธอได้รู้จักและสนิทสนมกับตัวของเราน่ะเอง Fuuka วันเกิดฤดูร้อนวันที่ 29สถานที่พบได้บ่อยLackadaisyของโปรดแซลม่อนสีทอง, ปลาหมึกสีทอง, ปลาปากดาบ (Marlin), มรกต (Emerald)ของที่ชอบปลาทุกชนิด, ดอกไม้คริสตัลทุกชนิด, แพลตินัม, ทอง, เงิน, คริสตัลรูปหัวใจ, รูบี้, เพชร, อะความารีน, แอเมทิสต์, กระโหลกคริสตัลของที่ไม่ชอบแครอท, แครอทยักษ์, พริกหยวก, พริกหยวกยักษ์, ผักดอง, หัวผักกาดดอง, วัตถุปริศนา X, เศษเหล็ก, วัชพืช, หญ้าแห้ง,  อาหารน่าขยะแขยง, อาหารที่ทำไม่สำเร็จ, หิน, กิ่งไม้, กระป๋อง, กระป๋องหายาก, รองเท้าบูทของที่เกลียดมากหัวหอม, หัวหอมยักษ์, ผักดองแบบรวม Fuuka นั้นเป็นสาวน้อยเผ่าครึ่งสัตว์ที่ออกเดินทางไปยังประเทศต่างๆ มากมายก่อนจะมาลงเอยที่เมืองแห่ง Rigbarth นี้ ซึ่งตัวเธอเองก็ผ่านเรื่องเลวร้ายมามากมายและพึ่งจะเริ่มรู้จักกับรอยยิ้มได้ไม่นานนัก โดยปัจจุบันนั้นตัวของเธอได้ทำงานพาร์ทไทม์อยู่ในร้านอาหารของ Elsje และค่อนข้างสนิทกับ Priscilla อย่างมากเลยด้วย Lucy วันเกิดฤดูใบไม้ร่วงวันที่ 16สถานที่พบได้บ่อยOrphas Stone Bridge, Great Tree Plaza, Rigbarth Clinicของโปรดปลา Glitter Snapper, ปลาทูน่า, ข้าวปั้นแซลม่อน, เบ็ดตกปลาศักดิ์สิทธิ์ (Sacred Pole), เบ็ดตกปลาชื่อดังของที่ชอบปลาทุกชนิด, เบ็ดตกปลาทุกชนิด, ผลไม้ทุกชนิด, นม, ตุ๊กตาลิงยัดนุ่นของที่ไม่ชอบผ้าคลุมหัวผี, ใยแมงมุม, วัตถุปริศนา X, เศษเหล็ก, วัชพืช, หญ้าแห้ง,  อาหารน่าขยะแขยง, อาหารที่ทำไม่สำเร็จ, หิน, กิ่งไม้, กระป๋อง, กระป๋องหายาก, รองเท้าบูทของที่เกลียดมากเขาของปีศาจ, เลือดของปีศาจ, กระโหลกคริสตัล Lucy นั้นเป็นเพื่อนสมัยเด็กคนสำคัญของ Priscilla ผู้คอยให้กำลังใจและคอยปกป้องไม่ให้เพื่อนของเธอไปเจอเรื่องอันตราย โดยตัวของเธอนั้นจะเป็นคนที่ค่อนข้างกระตือรือร้น, เกลียดการพ่ายแพ้ และมักจะชอบมาท้าตัวของเราเพื่อแข่งขันโน่นนี่นั่นอยู่เป็นประจำ ตัวเธอนั้นเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ดีมากแต่เธอก็มักจะรู้สึกเหงาอยู่เสมอๆ เมื่อต้องอยู่ตัวคนเดียว Ludmilla วันเกิดฤดูหนาววันที่ 5สถานที่พบได้บ่อยRigbarth Outpostของโปรดดอกไม้ Emery, ดอกไม้ Emery ยักษ์, คริสตัลสีขาว, คริสตัลสีขาวขนาดยักษ์, ปลาเทราท์สีรุ้งย่างเกลือของที่ชอบดอกไม้ทุกชนิดที่ไม่มีคำว่า Grass ติดอยู่, เมล็ดดอกไม้ทุกชนิด, แหวนทุกชนิด, ปลาเทราท์สีรุ้ง, ซาชิมิปลาเทราท์สีรุ้ง, ผ้าพันคอถักมือ, ผ้าพันคอแบบนุ่มนิ่ม, เกล็ดมังกรสีชมพู (Love Scale), เครื่องดื่มแห่งความรัก (Prelude to Love)ของที่ไม่ชอบขนสัตว์ทุกชนิด, ขนเพนกวิ้น (Penguin Down), วัตถุปริศนา X, เศษเหล็กของที่เกลียดมากขนหมาป่าสีแดง (Crimson Fur), ขนหมาป่าสีขาว (Quality Fur) Ludmilla นั้นเป็นซัคคิวบัสที่อยู่เพื่อความรักและเกิดตกหลุมรักกับตัวของเรา โดยตัวเธอมักจะพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงอันตรายต่างๆ รวมทั้งตัวของเธอมักจะทำอะไรตามใจอยู่ตลอดเวลาและสร้างกฏเกณฑ์เป็นของตัวเองขึ้นมา เนื่องจากเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตมันเลยทำให้เธอหลีกเลี่ยงตนเองให้ห่างจากคนอื่นอยู่เสมอๆ เราจึงมักจะพบเธออยู่คนเดียวแทบตลอดเวลาเลยน่ะเอง Priscilla วันเกิดฤดูใบไม้ผลิวันที่ 27สถานที่พบได้บ่อยGreat Tree Plazaของโปรดเค้ก, เค้กช็อกโกแลต, คุกกี้ช็อกโกแลต, เค้กช็อกโกแลตแบบแอบ (Chocolate Sponge), แยมของที่ชอบช็อกโกแลต, ช็อกโกแลตร้อน, ชีสเค้ก, พายแอปเปิ้ล, นมร้อน, ฟลาน, แพนเค้ก, เฟรนโทสต์, ดอก Pink Cat, ดอกไม้ Pink Cat, ดอก King Pink Cat, ดอก Charm Blue, ดอก Great Charm Blue, ดอก Fireflower, ดอก Big Fireflower, ขนนกทุกชนิดของที่ไม่ชอบปลาทุกชนิดยกเว้นปลาหมึก (Squid), ของเหลวทุกชนิด, เห็ดทุกชนิด, วัตถุปริศนา X, เศษเหล็กของที่เกลียดมากปลาหมึกประเภท Squid ทั้งหมด...

Tower of Fantasy เกมแนว Open World ที่มีสถานที่ต่างๆ มากมายให้ได้ไปทำการค้นหาเพื่อทำภารกิจให้ลุลวงด้วยเหล่าตัวละครของเพื่อนๆ ที่สามารถใส่อาวุธทำคอมโบได้ถึง 3 ชิ้นด้วยกัน ซึ่งอาวุธแต่ละชนิดมีความสามารถต่างกัน แต่อาวุธชิ้นไหนมีความสามารถยังไง ชิ้นไหนควรหามาใช้มากที่สุด ในบทความนี้จึงได้จัดเทียร์ลิสอาวุธ (Weapon Tier List) เอาไว้แล้ว หมายเหตุ : การจัดเทียร์ลิสในครั้งนี้เกิดจากการได้ทดลองใช้จะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมเรื่อยๆ ตามแพทช์ที่เปลี่ยนไปในปัจจุบันของเซิร์ฟ Global Weapon Tier List TierภาพหมายเหตุS+Dual EM Starsโจมตีติด paralyzeโจมตี AOE กลางอากาศได้ติดคริติคอลจะสร้างระเบิดสายฟ้าS+Icewind Arrowโจมตี AOE ทำดาเมจน้ำแข็งบัฟดาเมจ (สแตคได้) ยิงโดนหัวยิ่งสแตคเร็วSScythe of the Crowโจมตีติดไฟตีตอนเกราะแตกแรงขึ้นศัตรูโดนดาเมจในอาณาเขตแรงขึ้นSChakram of the Seasโจมตีเป้าหมายเดิมทำดาเมจแรงขึ้นเพิ่มดาเมจและทำลายเกราะของสกิล Full Bloom แรงขึ้นเมื่อทำลายเกราะได้จะรีเซ็ตคูลดาวน์สกิลA+Red Lotus Bladeบัฟดาเมจและเพิ่มดาเมจกายภาพเมื่อใช้สกิล A+Thunderbladesโจมตีติด paralyze โดนช็อตทำดาเมจและลบบัพ กับบัฟไม่ได้ 6 วิโจมตีจากข้างหลังหรือเป้าหมายติดช็อตมีโอกาสติดคริสูงAMolten Shield V2โจมตีติดเผาไหม้ กับลดการฮิลเก็บสแตคสร้างโล่ที่แข็งแกร่งลดดาเมจที่ได้รับAAbsolute Zeroโจมตีติดแช่แข็ง กับน้ำแข็งกัด ลดความเร็วสลับอาวุธฮิลและสร้างเกราะกันสถานะผิดปกติได้APummelerชาร์จเต็มทำให้การศัตรูติดแช่แข็ง 2 วิ และสร้างน้ำแข็งกัด 6 วิ เมื่อน้ำแข็งแตกจะสร้างความเสียหาย ในขณะที่น้ำแข็งแตก การชาร์จอาวุธของศัตรูจะลดลงBThunderous Halberdชาร์จเต็มทำให้ศัตรูติด paralyze โดนช็อตทำดาเมจและลบบัพ กับบัฟไม่ได้ 6 วิโจมตีเจาะเกราะแรง หากทำลายเกราะจะบัพดาเมจทั้งทีมBNegating Cubeชาร์ตเต็มโจมตีเผาไหม้ทำดาเมจต่อเนื่องลดการฟื้นฟูสร้างลูกแก้วฟื้นฟูกับบัฟดาเมจลงบนสนามBThe Terminatorชาร์จเต็มจะแช่แข็งศัตรูได้ 6 วิ เมื่อน้ำแข็งแตกจะโดนดาเมจเพิ่มอีก 1 ฮิตหลังสลับเป็นอาวุธชิ้นนี้ โจมตีปกติ และเจาะเกราะเพิ่มขึ้น จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Tower of Fantasy สามารถกดดูได้ที่ลิ้งก์  >>Link<< ตัวเกมจะเปิดจริงทั้งระบบ IOS และ Android สามารถติดตามข่าวสารได้ทาง https://www.facebook.com/TowerofFantasy.Official.TH กลุ่มผู้เล่น Official ไทย https://www.facebook.com/groups/517222222982344

Kuki Shinobu ได้รับการอัปเดตลงตู้กาชาเกม Genshin Impact เรียบร้อยแล้วพร้อมกับลูกพี่ Arataki Itto ของเธอ นินจาสาวคนนี้มีจุดเด่นเป็นความสามารถในการฟื้นฟูพลังชีวิตของสมาชิกที่อยู่บนสนาม พร้อมกับทำความเสียหายธาตุสายฟ้ารอบตัวของสมาชิกทีมบนสนาม ในปัจจุบัน ความเก่งของเธอดูจะไม่ค่อยสูสีกับตัวละครเก่า ๆ เท่าไหร่ แต่ในอนาคตเธออาจจะเก่งขึ้นก็เป็นได้ แนะนำตัวละคร และรูปแบบการเล่นของ Kuki Shinobu แบบคร่าว ๆ สกิลธาตุจะเป็นการลดพลังชีวิตของตัวเอง แล้วเสกบัฟวงแหวนสายฟ้าให้กับสมาชิกที่อยู่บนสนาม วงแหวนสายฟ้าจะฟื้นฟูพลังชีวิตของตัวละครบนสนาม และโจมตีศัตรูรอบ ๆ ตัวละครตลอดระยะเวลาบัฟ ท่าไม้ตายจะเป็นการเสกพื้นที่สายฟ้าด้านหน้าของเธอ เพื่อโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่อง โดยหากพลังชีวิตของเธอเหลือต่ำกว่าครึ่ง หรือต่ำกว่า พื้นที่สายฟ้าที่เรียกออกมาจะอยู่นานขึ้น แนะนำอาวุธ สำหรับอาวุธแนะนำจะมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ Freedom-Sworn, Favonius Sword และ Iron Sting Freedom-Sworn เมื่อผู้ถือทำปฏิกิริยาธาตุครบสองครั้ง จะบัฟพลังโจมตี และโบนัสความเสียหายการโจมตีปกติ กระโดดโจมตี และชาร์จโจมตี นอกจากนี้อาวุธยังมีสเตตัสรองเป็นค่าชำนาญธาตุที่ช่วยเพิ่มความเสียหายของปฏิกิริยาธาตุ และความแรงในการฮิลเพื่อนด้วย Favonius Sword อาวุธที่ช่วยสนับสนุนพลังงานของทีมได้ดี แต่ถ้าจะใช้อาวุธชิ้นนี้ ต้องมีอัตราคริที่สูงพอสมควรให้สกิลอาวุธทำงานด้วย Iron Sting ถ้าได้เป็นคนปิดปฏิกิริยาธาตุบ่อย ๆ ดาบนี้ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้เล่นที่ไม่มี Freedom-Sword แนะนำอาร์ติแฟกต์ สำหรับเธอ สามารถใส่อาร์ติแฟกต์ได้สองแบบ คือแบบแรกใส่ชำนาญธาตุทั้งหมด เพื่อเน้นความเสียหายจากปฏิกิริยาธาตุ กับแบบที่สอง คือใส่พลังชีวิตทั้งหมด แล้วใส่หมวกโบนัสรักษา เพื่อเน้นไปที่การฟื้นฟูพลังชีวิตของทีมแทน ส่วนสเตตัสรองนั้นให้เน้น พลังชีวิต ชำนาญธาตุ และฟื้นฟูพลังงาน อาร์ติแฟกต์มีแนะนำอยู่เพียง 1 เซ็ต คือ 4 Tenacity Of The Millelith Tenacity Of The Millelith เพิ่มพลังชีวิตสูงสุด 20%  เมื่อสกิลธาตุโจมตีโดนศัตรู สมาชิกทั้งหมดของทีมจะได้รับบัฟเพิ่มพลังโจมตี 20% และเพิ่มประสิทธิภาพของโล่ขึ้น 30% เป็นเวลา 3 วินาที เอฟเฟกต์นี้สามารถเกิดขึ้นได้แม้ตัวละครจะไม่อยู่บนสนาม แนะนำสมาชิกทีม  คอมโบตัวละครแนะนำได้แก่ Eula, Arataki Itto และ Gorou Eula วงแหวนสายฟ้าจากสกิลธาตุจะช่วยทำปฏิกิริยาลดต้านทานความเสียหายกายภาพ และฟื้นฟูพลังชีวิตของ Eula ที่ต้องยืนสนามเป็นเวลานาน ๆ ไปพร้อมกัน Arataki Itto และ Gorou เมื่อใช้งานท่าไม้ตายของ Gorou ท่าไม้ตายจะทำการดูดโล่ตกผลึกเข้ามาตัวเรื่อย ๆ ซึ่ง Arataki Itto นั้นมีพลังป้องกันสูง จึงทำให้โล่ตกผลึกที่เก็บมาได้นั้นแตกได้ยาก และโล่ตกผลึกจะเก็บมาได้เรื่อย ๆ จากการทำปฏิกิริยาตกผลึกธาตุสายฟ้าของ Kuki Shinobu และ Arataki Itto / Gorou  นอกจากนี้ การมีโล่ยังช่วยเปิดใช้งานงานสั่นพ้องหินได้อีกด้วยนะ พรสวรรค์ เน้นอัปเลเวลสกิลธาตุเป็นหลัก เพื่อความแรงในการฟื้นฟูพลังชีวิต จากนั้นจึงอัปพรสวรรค์ท่าไม้ตายตาม  ส่วนการโจมตีปกตินั้นไม่จำเป็นต้องอัปเลยก็ได้ แนะนำกลุ่มดาว กลุ่มดาวที่ปลดแล้วมีผลเยอะกว่ากลุ่มดาวอื่นได้แก่กลุ่มดาว 2 และ 3 กลุ่มดาว 2 เพิ่มระยะเวลาของบัฟสกิลธาตุขึ้น 3 วินาที  กลุ่มดาว 3 เพิ่มเลเวลของสกิลธาตุ 3 เลเวล ตัวเธอนั่นเป็นตัวละครที่สามารถถูกแทนได้ด้วยตัวละครอื่น ๆ ในเกม จึงไม่มีทีมไหนที่เธอสามารถโดดเด่นได้มากนัก แต่โดยรวมแล้ว หากเน้นการเดินสำรวจโลกเรื่อย ๆ สกิลธาตุของเธอก็สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตของทั้งทีมให้เต็มได้สบาย ๆ เลย เพราะเงื่อนไขการฮิลนั้นไม่ยุ่งยาก เพียงแค่กดสกิลธาตุก็ใช้งานฮิลได้แล้ว เครดิตผู้เขียนบทความ : ไกด์แมวๆ - Limemy Channel สามารถไปติดตามกันได้นะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ เติมเงินเกม Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

Genshin Impact ได้อัปเดตศัตรูชุดใหม่ใน Spiral Abyss เข้ามาให้เพื่อน ๆ ท้าทายกัน โดยศัตรูในชั้น 12 รอบนี้ไม่เน้นจำนวนศัตรูเยอะแต่เน้นตัวใหญ่เดี่ยวๆ และมีเพียงโล่น้ำแข็งเท่านั้น บทความนี้จะมาแนะนำตัวละครใดจะเหมาะใช้ในการลง, จัดทีมไหนจะดี ตามมาดูกันได้เลย! สิ่งที่ต้องเจอใน Spiral Abyss ชั้น 12 ของแพทช์ 2.7 Spiral Abyss ชั้น 12 รอบนี้จะเน้นการทำความเสียสายแข่งกับเวลาด้วยดาเมจเป้าเดี่ยวเป็นหลัก เนื่องจากในรอบนี้จะเน้นไปที่ศัตรูที่มีจำนวนน้อย แต่พลังชีวิตเยอะ และส่วนใหญ่แล้วศัตรูจะไม่มีท่าโจมตีที่รุนแรงมากนัก ปัญหาส่วนใหญ่ของผู้เล่นที่จะเจอคือการกำจัด Maguu Kenki หรือ Perpetual Mechanical Array ไม่ทันเวลา ทำให้เก็บดาวได้ไม่ครบ ในส่วนต่อไปของบทความเราจะแนะนำทีมที่สามารถเก็บดาวครบได้แบบไม่ยากเย็นกัน Raiden National (ทีมชาติ + Shogun Raiden) ทีมประจำของหลาย ๆ คน เพราะว่าเล่นง่าย และทำความเสียหายได้รุนแรง เป็นทีมที่แนะนำทั้งครึ่งบน  และครึ่งล่าง โดยเหมาะกับครึ่งล่างเป็นพิเศษ เนื่องจากทีมสามารถทำความเสียหายเป้าเดี่ยวได้รุนแรง ทำให้กำจัดบอสได้รวดเร็ว ความเสียหายหลักของทีมจะมาจากไม้ตายของ Xiangling ที่ได้บัฟจาก Bennett ใส่อาร์ติแฟกต์ Noblesse Oblige 4 ชิ้น แล้วเสริมด้วยดาบน้ำของ Xingqiu เพื่อทำดาเมจจากปฏิกิริยาระเหยได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในแพทช์ 2.7 นี้ เพื่อน ๆ สามารถใช้ Yelan เข้ามาแทน Xingqiu ได้หากต้องการใช้ Xingqiu ในทีมอื่น สามารถจัด Shogun Raiden ลงคอยเป็นดาเมจหลักในตอนกดท่าไม้ตายของตัวละครที่เหลือในทีมครบแล้ว International (ทีมชาติ + Childe) เป็นอีกทีมที่สามารถทำดาเมจได้ดีไม่แพ้ทีมชาติของ Raiden โดยจะมีข้อเสียตรงวนพลังงานได้ยากกว่า แต่เป็นทีมที่ไม่ใช้ Xingqiu / Yelan ทำให้สามารถใช้ Xingqiu / Yelan ในอีกห้องได้ นอกจากนี้ยังกำจัด Maguu Kenki และ Perpetual Mechanical Array ได้ไว ทำให้ผ่านครึ่งล่างได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มี Kazuha สามารถใช้ Sucrose แทนในตำแหน่งลมได้  ทีมจะเน้นไปที่ความเสียหายจาก Childe และ Xiangling เป็นหลัก โดยจะเริ่มจากการกระจายธาตุไฟ / น้ำด้วย Kazuha หรือ Sucrose แล้วกดไม้ตายของ Xiangling ในวงบัฟของ Bennett จากนั้นจึงสลับ Childe ออกมาโจมตีเพื่อทำความเสียหายจากปฏิกิริยาระเหย Geo Vapetao (ทีม Hutao ระเหย + สั่นพ้องหิน) ตัวทีมสามารถทำความเสียหายได้สูงในระยะเวลาสั้น ๆ จากการทำปฏิกิริยาระเหย โดยไม่ต้องเสียเวลามากนัก แต่ข้อเสียหลักๆ เป็นทีมที่ไม่มีตัวละครสายฮิลแท้ แต่ในอบิสรอบนี้ ศัตรูไม่อันตรายมากนัก สามารถพึ่งพาโล่ของ Zhongli เพื่อรับความเสียหายได้แบบไม่ต้องกังวลจนเกินไป ถ้าหากเพื่อน ๆ ไม่มี Hu Tao แต่มี Yoimiya ก็สามารถใช้ Yoimiya แทน Hu Tao ได้เหมือนกัน Hu Tao Double Hydro (ทีมระเหยของ Hu Tao) สายระเหยทีมใหม่ของ Hu Tao พัฒนาขึ้นมาใหม่โดยใช้ตัวสนับสนุนธาตุน้ำตัวท๊อปอย่าง Xingqiu และ Yelan ทั้งสองตัว เป็นทีมที่ทำความเสียหายเป้าเดี่ยวได้สูง และมีความง่ายในการใช้งานสูง เนื่องจากไม่ต้องกังวลเรื่องกระจายธาตุ เหมาะสำหรับครึ่งล่างสุด ๆ National (ทีมชาติ) เป็นอีกทีมที่สามารถเลือกเล่นได้ดีแม้จะไม่มีตัวละคร 5 ดาว และยังสามารถทำความเสียหายได้สูงเมื่อเทียบกับทีมอื่น ๆ หากเพื่อน ๆ มี Kazuha ก็สามารถใช้แทน Sucrose ได้ เหมาะสำหรับทั้งครึ่งบน เป็นพิเศษ เพราะ Sucrose สามารถช่วยรวบศัตรูได้ ทีมจะมีความคล้ายกับ National Raiden โดยเปลี่ยนจาก Raiden มาเป็น Sucrose แทนในช่วงที่กดท่าไม้ตายของ Bennett, Xingqiu และ Xiangling ครบแล้ว เพื่อทำการดีบัฟต้านทานธาตุ และเพิ่มค่าชำนาญธาตุให้กับทีม Itto Quad Geo (ทีม 4 หิน) ทีมที่สามารถทำเวลาครึ่งบนได้แบบสบาย ๆ เพราะการโจมตีของ Itto ช่วงเปิดใช้ท่าไม้ตายนั้นทั้งแรง กว้าง และยังทำให้ศัตรูชะงักตลอดเวลา จึงทำให้เก็บดาวได้ชิล ๆ  Geo Xiao (ทีม Xiao + สั่นพ้องหิน) เป็นอีกทีมที่สามารถเก็บดาวได้อย่างไม่ยากเย็น เพราะการกระโดดโจมตีของ Xiao จะทำศัตรูทุกตัวในครึ่งบนชะงักตลอด ทำให้สามารถโจมตีศัตรูหลายตัวได้พร้อมกันได้เรื่อย ๆ หากว่าไม่มี Jean เพื่อน ๆ สามารถใช้ตัวละครธาตุลมตัวอื่นได้ เช่น Sayu หรือใช้ Sucrose แทนได้ถ้าคิดว่าสามารถผ่านได้โดยไม่ต้องใช้ฮิล สรุป จะเห็นได้ว่าความยากของ Spiral Abyss ชั้น 12 ในแพทช์นี้จะเน้นไปที่การทำดาเมจมากเป้าเดี่ยวมากกกว่าการทำลายโล่ธาตุ หรือการรับมือกับศัตรูจำนวนมาก หากทีมของเพื่อนๆ ดาเมจถึงขอแค่ไม่ตายในขณะต่อสู้ก็สามารถจบแบบดาวครบได้สบายๆ เลย เครดิตผู้เขียนบทความ : ไกด์แมวๆ – Limemy Channel สามารถไปติดตามกันได้นะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Genshin Impact สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ เติมเงินเกม Genshin Impact สุดคุ้มผ่าน Razor Gold คลิก : https://gold.razer.com/gold/catalog/genshin-impact

จากในคราวก่อนผมได้มารีวิวเกม Roller Champions กันไปแล้ว ผมก็เลยมั่นใจว่าจะต้องมีเพื่อนๆ บางคนที่สนใจแล้วเข้ามาลองเกมนี้กันอย่างแน่นอนเลย ดังนั้นในวันนี้ผมเลยจะมาแนะนำในส่วนของ “เทคนิคต้องรู้” เรามาดูดีกว่าว่ามีเทคนิคอะไรบ้างที่จะช่วยทำให้เราเก่งไวและสามารถพาทีมไปสู่ชัยชนะ เอาเป็นว่าเรามาดูกันเลยดีกว่าครับ 1.คอยเร่งความเร็วให้สูงอยู่เสมอ หนึ่งในตัวแปรสำคัญอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อการเล่นมากเลยทีเดียวนั่นก็คือเรื่องของ “ความเร็ว” ครับ ซึ่งความเร็วนี้มันก็เป็นตัวกำหนดอะไรได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการแย่งบอลหรือการทำคะแนนก็ตามที เราจึงควรพยายามทำความเร็วของเราให้สูงไว้อยู่เสมอครับ โดยสามารถทำได้สองวิธีหลักก็คือ การทิ้งตัวลงจากที่สูง - ภายในด่านที่เราเล่นนั้นจะมีพื้นที่ซึ่งเป็นทางลาดไว้อยู่เสมอครับ ไม่ว่าจะเป็นเนินที่ยกระดับขึ้นมาหรือแม้แต่กำแพงฉากก็ตามที เราสามารถใช้ประโยชน์จากตรงนั้นในการไต่ขึ้นไปก่อนจะทิ้งตัวลงมาเพื่อเพิ่มความเร็วได้ แถมถ้าเล่นกันจนชำนาญแล้วยังสามารถทำได้แทบทุกขอบทุกมุมกำแพงเลยด้วย การใช้ท่า Drafting - เวลาที่เราวิ่งตามหลังเพื่อนร่วมทีมแล้วเข้าไปใกล้พอมันจะมีเมนูให้เรากดปุ่มขึ้นมาครับ ซึ่งเมื่อกดแล้วมันจะเป็นการใช้ท่า Drafting โดยเป็นการเกาะเพื่อนของเราก่อนจะดีดตัวเราเองเพื่อนพุ่งไปด้านหน้า เป็นหนึ่งในท่าที่ดีมากสำหรับการไล่ตามอีกฝ่ายหรือเวลาต้องการหนีนั่นเอง แถมยังเป็นการเพิ่มสปีดได้ไวโดยไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่สูงช่วยเลยอีกต่างหาก นอกจากการเพิ่มความเร็วแล้วเราก็ควรรักษาความเร็วนี้ไว้เสมอครับ เพราะถ้าเกิดเราช้าลงไปเพียงเสี้ยววินาทีมันก็อาจทำให้อีกฝ่ายตามเรามาทำได้ หรือไม่พวกเขาก็อาจหนีเราไปไกลได้ในเสี้ยววินาทีนั้นด้วยเช่นกัน  2.รู้จักการหลบและส่งบอล การจะทำแต้มภายในเกมนี้ได้เราจำเป็นต้องถือลูกบอลแล้ววิ่งผ่านจุดเช็คพอยต์ทั้ง 4 จุดให้ครบก่อนประตูจึงจะเปิดเพื่อปาบอลใส่ได้ ซึ่งมันก็สำคัญมากทีเดียวที่เราจำเป็นต้องรักษาลูกบอลนั้นไว้ให้ได้ โดยวิธีแรกนั้นก็คือการ “หลบ” เราไม่จำเป็นต้องวิ่งเป็นเส้นทางตรงเสมอไป อาจมีวิ่งโยกซ้ายบ้างขวาบ้างเพื่อทำให้อีกฝ่ายสับสนและทำให้ไม่สามารถดักทางเราได้ หรือแม้แต่อย่างการ “กระโดด” ที่นอกจากใช้สำหรับการปีนกำแพงแล้วถ้าเรากะจังหวะดีๆ เรายังใช้โดดหลบฝ่ายตรงข้ามได้อีกด้วย ตลอดไปจนถึงการวิ่งถอยหลังเองก็เช่นกัน คือทำยังไงก็ได้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายแย่งบอลของเราไป วิธีถัดมานั่นก็คือ “การส่งบอล” ตัวเกมมีการะบุไว้ชัดเจนว่าเราต้องทำการฝ่าให้ครบเช็คพอยต์ทั้ง 4 จุดก่อนถึงจะทำคะแนนได้ แต่ตัวเกมก็ไม่ได้บังคับว่าจำเป็นต้องให้ทำคนเดียวซะหน่อยนิ เราสามารถส่งบอลไปมาระหว่างเพื่อนร่วมทีมได้ครับ ซึ่งตรงนี้มันจะใช้ได้ดีมากๆ เวลาที่เราโดนรุมหรือตามประกบจนหนีไม่พ้น เพราะมันจะช่วยทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถเอาบอลของเราไป แต่ก็ต้องระวังด้วยว่าการส่งไม่ได้สำเร็จ 100% เสมอ มีโอกาสปาติดกำแพงแล้วบอลหล่นอยู่ด้วยยังไงก็ระวังๆ กันไว้ด้วยล่ะ ผู้เล่นมือใหม่หลายคนยํ้าเลยครับว่าหลายคน! เวลาได้มาชอบกั๊กลูกบอลไว้คนเดียวไม่ยอมส่งให้คนอื่นผลสุดท้ายก็คือโดนแย่งแล้วอีกฝ่ายเอาไปทำคะแนนแทน ถ้าไม่อยากโดนเพื่อนร่วมทีมทัวร์ลงก็พยายามหลบพยายามส่งกันด้วยล่ะ 3.คอยซัพพอร์ตเพื่อนที่ถือบอลอยู่ จากหัวข้อก่อนหน้านี้เราพูดถึงเวลาที่ถือบอลกันไปแล้ว ในหัวข้อนี้เราจะมาพูดถึงเวลาที่เราไม่ถือบอลกันบ้างว่าควรทำอะไร หลักๆ เลยนั่นก็คือพยายามซัพพอร์ตเพื่อนที่ถือบอลอยู่นั่นเองครับ คือทำทุกทางที่สามารถทำให้เพื่อนเราเลี้ยงลูกบอลรอดได้ไปจนปาเข้าประตูน่ะแล่ะ สิ่งที่เราสามารถทำได้เวลาไม่ถือบอลนั่นก็คือการ Tackle เราสามารถวิ่งไปไล่ชนผู้เล่นอีกฝ่ายที่เข้าใกล้คนถือบอลประจำทีมเราได้ หรือถ้าเกิดอีกทีมมีใครวิ่งมาใกล้เราเราก็วิ่งชาร์จเสียบให้เขาล้มตรงนั้นไปเลยก็ทำได้ด้วยเช่นกันครับ เป็นเหมือนการตัดกำลังอย่างนึงได้ดีทีเดียว แถมหน่วยพลีชีพสายพุ่งชนเนี่ยบางครั้งเป็นตัวแบกทีมยิ่งกว่าไอคนเลี้ยงบอลด้วยซํ้าไปนะ หรืออีกหนึ่งวิธีที่อยากแนะนำก็คือ “วิ่งตามเพื่อนที่ถือบอล” ในวิ่งตามที่นี้คือให้วิ่งไปด้วยกันครับ ไม่จำเป็นต้องไปยืนชิดประกบแนบเนื้อแต่อย่างใด อาจให้มีช่องว่างสักเล็กน้อยเผื่อเพื่อนจะส่งบอลมาทางเราได้ หรือไม่ก็ทิ้งระยะพอจะเข้าไปช่วยเพื่อนได้ทันเวลาตอนโดนรุมนั่นเอง โดยวิธีนี้ช่วงแรกหลายคนอาจยังกะระยะไม่ค่อยแม่นนักอาจต้องใช้เวลาฝึกฝนกับไปสักพักนึงเลยล่ะ 4.ฝึกการใช้ Uppercut ให้คล่อง นอกเหนือจากการวิ่ง, กระโดด, Tackle, ส่ง-ปาบอล แล้วนั้นอีกหนึ่งท่าทีเราสามารถใช้ได้ภายในเกมนั่นก็คือ Uppercut ท่าพุ่งตัวกระโดดสูงเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่ถ้าเรารู้จังหวะใช้งานมันสามารถนำมาพลิกเกมได้ง่ายๆ เลยทีเดียว โดยปกติแล้วท่า Uppercut นี้ส่วนใหญ่จะใช้ในการ “ขึ้นที่สูง” ครับ อย่างจังหวะที่เราวิ่งเข้ากำแพงแล้วใช้ท่าดังกล่าวตัวเราจะไหลขึ้นไปบนกำแพงค่อนข้างสูงทำให้จังหวะขาลงเราสามารถเร่งสปีดขึ้นได้อย่างมาก ต่อมาคือการ “บล็อคบอล” ถ้าเราใช้ท่านี้ตอนอยู่หน้าแป้นทำประตูเราสามารถกระโดดขึ้นไปปัดบอลที่อีกฝ่ายปามาทิ้งได้ เป็นวิธีป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายทำคะแนนได้นั่นเอง แถมในจังหวะที่ปัดบอลทิ้งทีมเรายังมีโอกาสเก็บลูกบอลขึ้นมาแทนได้อีกต่างหาก อย่างสุดท้ายที่เห็นใช้กันนั้นก็คือใช้สำหรับ “การรับบอล” โดยการรับบอลนี้เราสามารถใช้รับตอนลูกบอลลอยอยู่กลางอากาศได้ หรือใช้ในจังหวะเวลาเพื่อนโดนล้อมหาจังหวะส่งออกด้านข้างไม่ได้ เราก็สามารถกระโดดขึ้นบนฟ้าเพื่อให้เพื่อนโยนขึ้นมาหาก็ได้เช่นกันครับ  เป็นหนึ่งในท่าที่ค่อนข้างแนะนำให้ฝึกไว้จะดีมากครับเพราะมันเอามาใช้ได้หลายสถานการณ์เลยทีเดียว ถ้าใช้จนชินแล้วยังไงก็มั่นใจเลยว่าจะเก่งขึ้นอย่างแน่นอน แต่ต้องระวังไว้ว่าท่า Uppercut เนี่ยเวลาถือบอลเราทำไม่ได้นะ เกิดใครสงสัยทำไมถือบอลแล้วโดดไม่ขึ้น 5.ไม่จำเป็นต้องวิ่งไล่อีกฝ่ายเสมอไป ผู้เล่นส่วนใหญ่เวลาทำการเลี้ยงลูกบอลนั้นมักวิ่งไปรอบสนามในลักษณะวนขวาอยู่เสมอหรือไม่ก็วิ่งตามลูกศรที่แสดงอยู่บนพื้นเป็นหลัก แต่เพื่อนๆ รู้รึเปล่าว่าเราไม่จำเป็นต้องไปวิ่งตามคนส่วนใหญ่เสมอไปหรอกนะ เพราะบางครั้งการวิ่งที่ต่างไปมันก็ทำให้เกิดอะไรดีๆ ขึ้นได้เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นถ้าสมมุติเรากำลังวิ่งไล่คนที่ถือบอลอยู่แต่เกิดเราไล่ไม่ทันจริงๆ เราอาจเลือกย้อนสวนทางเพื่อกลับไปดักข้างหน้าของอีกฝ่ายแทนก็ได้ เพราะสนามแข่งขันในเกมนี้มีลักษณะเป็นวงกลมยังไงเขาก็ต้องวิ่งกลับมาทางเดิมอย่างแน่นอน สู้เอาเวลาที่เราวิ่งตามไม่ทันไปขวางไว้ข้างหน้ามันจะช่วยประหยัดได้ดีกว่าเยอะเลย หรือถ้าเราเป็นคนถือบอลบางครั้งเราก็จะเจอคนเป็นงานที่เขาไปยืนรอดักข้างหน้าเรา ในจังหวะนั้นเราก็ไม่ต้องวิ่งไปหาเราสามารถกดเบรคแล้ววิ่งสวนไปอีกทางนึงก็ได้ ไม่จำเป็นต้องวิ่งไปตามเกมของพวกเขาเสมอไป รวมถึงเวลาโดนไล่ตามอยู่บางครั้งวิ่งสวนทางกลับไปดื้อๆ เลยก็ทำให้อีกฝ่ายมึนหัวได้เหมือนกัน ตามที่บอกไปเลยครับบางครั้งการทำอะไรที่มันฉีกไปจากปกติมันก็ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า แต่ก็ใช่ว่ามันจะใช้ได้ทุกสถานการณ์นะเราต้องดูจังหวะด้วยไม่งั้นเกิดไปทำอะไรแผลงๆ ตอนไม่ควรรับรองโดนทีมด่ายับแน่เลย 6.วนด่านหลายรอบทำให้ได้แต้มมากกว่า เผื่อใครที่ยังไม่รู้หรืออาจไม่ได้ดูตอนเขาแนะนำในหน้าคัทซีน การที่เราเลี้ยงลูกบอลให้ครบรอบสนามหลายรอบเนี่ยมันจะทำให้แต้มที่เราได้จากการปาบอลเข้าประตูเพิ่มสูงขึ้นด้วย ชนิดที่ว่าสามารถปาครั้งเดียวแล้วจบเกมได้เลย โดยแต้มที่ทำได้จะเป็น 1 รอบ 1 แต้ม, 2 รอบ 3 แต้ม และ 3 รอบ 5 แต้ม ซึ่งถ้าใครสามารถวนครบได้ทั้งสามรอบแล้วปาเข้าประตูปุปเกมก็จะจบทันทีเลยเพราะเกมนี้ทีมไหนที่ได้ครบ 5 แต้มก่อนจะเป็นฝ่ายชนะไป จึงไม่ค่อยหน้าแปลกใจนักทำไมเราจึงเจอผู้เล่นหลายคนเวลาวนครบสนามแล้วไม่ค่อยยอมปาบอลเข้าประตูนั่นเอง แต่ก็ต้องระวังด้วยว่าเกมนี้ไม่ได้มีแค่ทีมเราเท่านั้นมันยังมีฝ่ายตรงข้ามอยู่ด้วย ทำให้การเลี้ยงให้ครบ 3 รอบได้นั้นเป็นอะไรที่ยากมากทีเดียวนอกจากฝีมือทีมคุณจะเหนือกว่าแบบเห็นได้ชัด บางครั้งเราจึงไม่ควรโลภจนเกินไปครับเพราะมันอาจส่งผลเสียกลับมาด้วยซํ้าไป ถ้าให้แนะนำจริงๆ ประมาณ 2 รอบให้ได้ 3 แต้มก็ถือว่าคุ้มค่ามากพอแล้ว 7.การวิ่งไวกว่าการปาบอล สำหรับเทคนิคสุดท้ายนี่จะว่าถึงเรื่องของการทำคะแนนครับ โดยปกติแล้วเพื่อนๆ ทำคะแนนกันยังไงใช่การยืนชาร์จแล้วปาเข้าห่วงรึเปล่า? แต่สิ่งที่ผมอยากแนะนำก็คือการวิ่งไปปาใกล้ห่วงน่ะมันดีกว่าการยืนชาร์จปาอีกนะ เหตุผลว่าทำไมการวิ่งไปปาดีกว่ายืนชาร์จนั้นเพราะ “การวิ่งไวกว่าการปาบอล” ตามที่เขียนไว้เลยครับภายในเกมนี้ถ้าเราวิ่งจริงๆ มันจะไวกว่าการปาบอลอย่างมากเลย ยิ่งในช่วงการทำประตูที่ใครมายืนชาร์จปาเนี่ยอีกฝ่ายถ้าเขาเข้าถึงตัวเขาสามารถชนเรากระเด็นได้เลยนะ หรือใครที่เล่นเป็นหน่อยเห็นเรายืนชาร์จเขาก็ไปยืนรอ Uppercut ปัดบอลตรงหน้าประตูได้อีกด้วย ถึงแม้ฟังดูแล้วมันอาจจะง่ายแต่ทำจริงๆ ก็ยากเอาการเลยล่ะ เพราะเวลาเรายิ่งใกล้ประตูมากขึ้นเท่าไหร่พวกองศามุมยิงยิ่งต่างไปเท่านั้น ทำให้ใครที่คิดเข้าไปปาอัดแต้มแบบระยะประชิดจริงๆ อาจต้องใช้เวลาฝึกฝนเพื่อจำมุมต่างๆ ให้ได้น่ะเอง แต่การันตีเลยครับว่าถ้าใครฝึกเทคนิคนี้ไว้มันทำให้เราทำแต้มได้ง่ายขึ้นมากจริงๆ แถมไม่ต้องมากังวลว่าจะโดนบล็อคกลางอากาศอีกต่างหาก ขอแค่เลี้ยงลูกบอลหลบไปใกล้ประตูได้ก็แทบชนะแล้วล่ะ