Mobile Guide

Mage เป็นสายอาชีพที่เน้นการโจมตีและใช้สกิลในระยะไกล โดยจัดว่าเป็นอาชีพที่สามารถทำดาเมจได้สูงมากๆ ภายในเกม AxE แต่ก็แลกมากับความบอบบางที่ถ้าหากโดนอีกฝ่ายเข้าประชิดตัวก็อาจจะลงไปนอนกองกับพื้นเอาได้ง่ายๆ แถมมีข้อเสียคือสกิลที่ร่ายค่อนข้างจะช้าแต่ก็แลกมากับความรุนแรงมากๆ นั่นเองครับ ในเรื่องการเล่นจริง อาชีพ Mage จัดว่าเก็บเลเวลค่อนข้างง่ายครับ ส่วนการ PVP ถ้าแบบ 1 ต่อ 1 อาจจะลำบากหน่อยหากเทียบกับอาชีพอื่นๆ เพราะระยะเวลาร่ายสกิลเรานาน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเล่นยากเกินไป แต่ถ้าหากว่าเป็น PVP แบบกลุ่ม Mage จัดว่าน่ากลัวมากเพราะสกิลกว้างสุดๆ *ข้อมูลอ้างอิงจาก Server Global จะมีการเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับไทยในภายหลัง https://www.youtube.com/watch?v=8xrbWDzi_tc Active Skill ชื่อสกิล ความสามารถ ผลของสกิล CD Arcane Fire ร่ายเปลวเพลิงออกมาโจมตีศัตรูเบื้องหน้า ทำความเสียหาย 1 ครั้ง 181% ของความเสียหายทั้งหมด 15 Meteor Shower เรียกดาวตกลงมาจากท้องฟ้าเพื่อทำลายศัตรู ทำความเสียหาย 5 ครั้ง 196% ของความเสียหายทั้งหมด 19 Frost Wave สร้างคลื่นน้ำแข็งซัดใส่ศัตรู ทำความเสียหาย 2 ครั้ง 219% ของความเสียหายทั้งหมด 23 Mana Burst ระเบิดพลังเวทย์ที่สะสมไว้ออกมา ทำความเสียหาย 2 ครั้ง 254% ของความเสียหายทั้งหมด 30 Cometfall I เรียกอุตกาบาตขนาดใหญ่ลงมาโจมตี ทำความเสียหาย 1 ครั้ง 311% ของความเสียหายทั้งหมด 40 Cometfall II เพิ่มระยะเวลาร่ายสกิล และเพิ่มความเสียหายมากขึ้น ทำความเสียหาย 1 ครั้ง 265% ของความเสียหายทั้งหมด 40 Ravneous Void I สร้างหลุมดำเพื่อโจมตีศัตรู ทำความเสียหาย 1 ครั้ง 386% ของความเสียหายทั้งหมด 45 Ravneous Void II เพิ่มระยะเวลาร่ายสกิล และเพิ่มความเสียหายมากขึ้น ทำความเสียหาย 5 ครั้ง 308% ของความเสียหายทั้งหมด 45 Blizzard I เรียกพายุหิมะถาโถม แช่แข็งศัตรูทั้งหมด ทำความเสียหาย 7 ครั้ง 415% ของความเสียหายทั้งหมด 50 Blizzard II เพิ่มระยะเวลาร่ายสกิล และเพิ่มความเสียหายมากขึ้น ทำความเสียหาย 4 ครั้ง 332% ของความเสียหายทั้งหมด 50 *สกิลทั้งหมดมีเลเวลสูงสุดที่เลเวล 10* Passive Skill ชื่อ Passive ผลของ Passive Enhance ATK เพิ่มพลังโจมตี 30 Enhance ATK Improvement เพิ่มพลังโจมตี 0.2% Enhance DEF เพิ่มพลังป้องกัน 30 Enhance DEF Improvement เพิ่มพลังป้องกัน 0.2% *พาสซีสสกิลทั้งหมดมีเลเวลสูงสุดที่เลเวล 25* Attributes ► ฝั่งซ้าย เลเวล ชื่อ Attribute ผลของ Attribute CD 10 Word of Withering I ข่มขู่ศัตรูรอบตัวทั้งหมดในรัศมี ลดพลังโจมตีพวกมันลง 39% เป็นเวลา 18 วินาที ระยะทำการ 9 เมตร 110 20 Short Grip ทำให้เป้าหมายเคลื่อนที่ช้าลง 80% เป็นเวลา 5 วินาที 10 25 No Mercy I สมาชิกในปาร์ตี้จะทำความเสียหายคริติคอลแรงขึ้น 81% เป็นเวลา 10 วินาที ระยะทำการ 50 เมตร 140 30 Short Run เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ 40% เป็นเวลา 5 วินาที 30 40 Word of Withering II ข่มขู่ศัตรูรอบตัวทั้งหมดในรัศมี ลดพลังโจมตีพวกมันลง 52% เป็นเวลา 18 วินาที ระยะทำการ 50 เมตร 110 50 No Mercy II สมาชิกในปาร์ตี้จะทำความเสียหายคริติคอลแรงขึ้น 108% เป็นเวลา 10 วินาที ระยะทำการ 50 เมตร 140 70 Word of Withering III ข่มขู่ศัตรูรอบตัวทั้งหมดในรัศมี ลดพลังโจมตีพวกมันลง 65% เป็นเวลา 18 วินาที ระยะทำการ 50 เมตร 110 80 No Mercy III สมาชิกในปาร์ตี้จะทำความเสียหายคริติคอลแรงขึ้น 135% เป็นเวลา 10 วินาที ระยะทำการ 50 เมตร 140   ► ฝั่งขวา เลเวล ชื่อ Attribute ผลของ Attribute CD 10 Psychic Assault I ข่มขวัญศัตรูทั้งหมดในรัศมี ลดพลังป้องกันพวกมันลง 27% เป็นเวลา 10 วินาที ระยะทำการ 9 เมตร 110 20 Long Grip ทำให้เป้าหมายเคลื่อนที่ช้าลง 80%...

Speed Drifters แค่ชื่อเกมก็บอกว่าต้องดริฟต์แล้ว การทำความเข้าใจในการดริฟต์จึงเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ เพราะมีเทคนิคการดริฟต์อยู่หลายประเภท และต้องใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน หากใช้ผิดแทนที่จะไวขึ้นจะกลับกลายเป็นช้าลงไปเลย ในบทความนี้เราจะมาลงลึกวิธีการดริฟต์ที่ใช้บ่อยในแรงค์สูงๆ กันครับ 1. Snap Drift https://youtu.be/WJ-I02vdXv8 ความถี่ในการใช้: ★★★★★ ความยากในการกด: ★★ Snap Drift เป็นเทคนิคที่ใช้กันค่อนข้างบ่อย และกดง่ายมากหาจับเทคนิคได้ครับ โดยจะแบ่งจุดประสงค์ในการกดออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ ใช้ Snap Drift ตั้งแต่เริ่มแข่งขันเพื่อเก็บ N-Tank และเร่งความเร็วจากการทำ Snap Boost 1.กดเพื่อหวังผลในการทำ Snap Boost เพื่อเพิ่มความเร็ว การใช้งานลักษณะนี้จะพบเห็นค่อนข้างมากครับ เนื่องจากการทำ Snap Drift นั้นจะทำให้หน้ารถของเราหักมาในทิศทางตรงกันข้ามเร็วกว่าการกดดริฟต์ปกติซ้ายไปขวา ช่วยให้เราสามารถตั้งลำ และกด Mini Boost ได้ไวกว่าการกด Drift แบบปกติครับ โดยถ้าเราทำ Double Boost ในระหว่างการทำ Snap Drift มันจะถูกเรียกว่า Snap Boost นั่นเองครับ 2.กดเพื่อเก็บ N-Tank เพื่อให้ใช้ Nitro ได้ไวที่สุด ส่วนใหญ่นิยมในกรณีทีออกจากจุดเริ่มต้นเพื่อทำให้เรามี Nitro ไว้ใช้งานในโค้งแรก หรือกรณีที่อยู่ในช่วงทางตรงยาวแล้วไม่มี Nitro ไว้ใช้งาน เราสามารถเลือกใช้ Snap Drift เพื่อทำการปั้ม N-Tank เพื่อเอา Nitro ได้ครับ วิธีการกด กรณีทางตรงดริฟต์ไปยังทิศทางที่ต้องการ (เกือบ 45 องศาจากตัวรถเดิม) จากนั้นกดดริฟต์กลับไปในทิศทางตรงข้าม ไม่ควรทำขณะอยู่กึ่งกลางของถนนอาจจะทำให้พุ่งชนข้างทางได้ กรณีโค้งเราไม่ต้องห่วงเรื่ององศาจากตอนเริ่มดริฟต์ แค่เชิดหน้ารถให้ตรงก็จะสามารถกดได้แล้วครับ 2. Breaking Drift https://youtu.be/GV6qu8uP2gs ความถี่ในการใช้: ★★ ความยากในการกด:★ Breaking Drift นั้นผู้เขียนมองว่าเป็นเทคนิคที่ต้องอาศัยความชำนาญและ ทักษะในการตัดสินใจค่อนข้างมาก แม้มันจะเป็นเทคนิคการดริฟต์ที่กดง่ายที่สุดก็ตาม การใช้สุ่มสี่สุ่มห้ามันจะกลายเป็นการลดความเร็วของเราแทนครับเทคนิคนี้จะใช้ในกรณีที่เราดริฟต์ไวเกินไปและกำลังจะชนเข้ากับข้างทาง เมื่อทำการใช้งาน Breaking Drift หน้ารถเราจะอยู่ที่เดิม แต่ตัวรถของเราจะไถลออกด้านข้างทำให้ไม่ชนกับข้างทางครับ ยิ่งกดนานยิ่งไถลไกล และยิ่งทำให้ความเร็วต่ำลง อยากเข้าโค้งจนแทบจะจูบโค้งด้านในแบบนี้ ใช้ Breaking Drift ช่วยได้ แต่อย่าแตะเบรคนานเกินไปล่ะ ไม่งั้นไหลออกหลังไปเลยนะ วิธีการกด ในขณะที่ทำการดริฟต์อยู่ ให้กดแตะไปที่เบรค ถ้าแตะสั้นๆ จะทำ Breaking Drift แค่ครู่เดียวทำให้เราไถลผ่านทางลัดเล็กมากๆ ได้ง่ายขึ้น 3. Over Drift https://youtu.be/IZZ2n7_qiFY ความถี่ในการใช้: ★★★★ ความยากในการกด: ★★★★ Over Drift เหมาะสำหรับใช้ โค้งด้านในที่ค่อนข้างกว้าง และถ้าใช้คู่กับ Boost ประเภทต่างๆ จะทำให้แสดงประสิทธิภาพสูงสุดครับ เนื่องจากเทคนิคนี้จะทำให้ องศาการดริฟต์ของเรานั้นน้อยกว่าปกติ และก็จะทำให้ความเร็วของเราลดน้อยกว่าการดริฟต์แบบปกติด้วย จึงเหมาะแก่โค้งกว้างหรือโค้ง 90 องศาที่เรามีพื้นที่ในการเลี้ยวตัดเข้าเส้นทางมากกว่าโค้งตัว U นั่นเองครับ เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ใช้ยากเพราะการกดนั้นหากค้างนานเกินไปจะทำให้รถเข้าสู่สถานะการดริฟต์ทันที แต่ถ้าหากคล่องแล้ว คุณจะผ่านโค้งที่ไม่ใช้ตัว U ไวกว่านักแข่งคนอื่นอย่างแน่นอนครับ สังเกตแผนที่จะเห็นได้ว่าทางที่ผ่านมาไม่ใช่ทางโค้งที่โค้งเยอะ ดังนั้นเพื่อรักษาความเร็วที่มี Over Drift จึงถูกเลือกใช้ และเตรียมใช้ Nitro เพื่อทำความเร็วเมื่อพ้นโค้ง วิธีการกด เมื่อเจอโค้งที่ต้องใช้ Over Drift ให้ทำการกดดริฟต์ค้างไว้ และกดทิศทางที่ต้องการเลี้ยว 2 ครั้งติดกัน อย่ากดดริฟต์ค้างนานเกินไป ไม่งั้นรถจะเข้าสู่การดริฟต์แบบปกติซึ่งมันจะหักหน้ารถเยอะมากๆ 4. Quick Turn https://youtu.be/7UxRuvOjEIM ความถี่ในการใช้: ★★★ ความยากในการกด: ★★★ ชื่อท่าเป็น Turn ก็จริงแต่มันถือว่าอยู่ในหมวดหมู่นี้ครับ เพราะ Quick Turn นั้นเป็นเทคนิคที่ทำให้การดริฟต์จบลงในทันที ข้อเสียของ Quick Turn คือเราไม่สามารถใช้ Double Boost ได้ ดังนั้นควรสำรอง Nitro เพื่อทำการเร่งความเร็วไว้ด้วยนะครับ เทคนิคนี้จะเหมาะมากเวลาเจอโค้งหักศอกและเราต้องการที่จะตัดหน้ารถคันอื่นที่เร่งเข้ามาในไลน์การวิ่งของเรา ใช้ Quick Turn เพื่อจบการดริฟต์ในทันทีเพื่อเตรียมพุ่งลงเพื่อเข้าทางลัด การใช้ Quick Turn จะช่วยให้รถหยุดดริฟต์และไม่ไถลออกไปด้านข้าง อีกทั้งข้างหน้ายังเป็นทางกระโดดทำให้สามารถใช้ Flying Boost ทดแทนความเร็วที่ไม่สามารถใช้ Double Boost ได้ วิธีการกด เมื่ออยู่ในการดริฟต์ให้ปล่อยปุ่มทิศทางพร้อมกับกดปุ่มดริฟต์ 2 ครั้ง

ระบบสกิลภายในเกม AxE จัดว่าค่อนข้างจะโดดเด่นเลยทเดียวครับ เพราะสกิลนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ด้วยกันถึง 3 ประเภท ซึ่งภายในบทความนี้เราจะไปทำความรู้จักกับสกิลประเภทต่างๆ ของเกมนี้ *ข้อมูลกับภาพ UI อ้างอิงจากเซิร์ฟ Global อาจแตกต่างจากไทยเล็กน้อย Skill ระบบสกิลของเกมนี้ค่อนข้างแปลกใหม่ โดยจะแบ่งสกิลออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ Standard Skill, Class Skill และ Weapon Skill เราจะเห็นได้ว่าผู้เล่นสามารถเลือกใช้สกิลได้มากถึง 7 สกิลใน 1 ตัวละคร ซึ่งจากภาพด้านบนนี้จะทำการวงแสดงประเภทของสกิล และตำแหน่งที่ช่องสกิลจะแสดงบนหน้าจอผู้เล่นไว้ให้ดังนี้ หมายเลข 1: Weapon Skill slots ในอาวุธแต่ละประเภท (เฉพาะเกรด Epic หรือสูงกว่า) จะมี Weapon Skill หรือสกิลจากตัวอาวุธ ซึ่งบางชิ้นจะต้องสวมใส่ก่อนจึงจะสามารถกดใช้สกิลได้ หมายเลข 2: Standard Skill slots สกิลประเภทนี้ผู้เล่นจะได้รับโดยอัตโนมัติเมื่อเลเวลถึงตามที่กำหนด โดยจะมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ Active และ Passive - Active Skill นั้นเป็นสกิลที่ผู้เล่นจะต้องทำการแตะเพื่อใช้งาน โดยปกติแล้วในสายอาชีพหนึ่งจะมี Active Skill ให้เลือกใช้อยู่ 10 สกิลด้วยกัน - Passive Skill จะเป็นสกิลที่จะส่งผลหลังจากได้รับมา ซึ่งตัวละครทุกตัวจะมี Passive Skill ที่เหมือนกันหมด หมายเลข 3: Class Skill slots Class skill จะเป็นสกิลที่มีเฉพาะในสายอาชีพเท่านั้น โดยแต่ละอาชีพจะถูกแบ่งออกเป็นด้วยกัน 2 หมวดหมู่ได้แก่ Character Class Detail Valkyrie/Archer Heler, Support Blademaster/Mage Attacker Warrior/Titan Crownd Controller Support, Healing - มีความสามารถในการเอาตัวรอดและช่วยเหลือสมาชิกในปาร์ตี้ Attacker, Controller - มีความสามารถในการใช้เพื่อโจมตีศัตรูและมอนสเตอร์ เมื่อเลเวลของตัวละครถึงที่กำหนด Class Skill จะถูกปลดล็อคออกมาให้ผู้เล่นใช้งานซึ่งจะมีทั้ง Active และ Passive โดยผู้เล่นจะต้องเลือก 1 ใน 2 สายที่กำหนดเอาไว้ (กรอบสีแดง) และที่สำคัญ Class Skill ไม่สามารถอัพเกรดได้เพราะไม่มีเลเวลนั่นเอง หมายเหตุ: 1. ในการเลือก Class Skill ครั้งแรกจะไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าหากต้องการอัพอีกสายจะต้องทำการจ่าย Rubies เพื่อปลดล็อค 2. ถึงแม้จะมีทั้ง 2 สาย แต่ผู้เล่นสามารถเลือกใช้งานได้เพียงแค่สายเดียวเท่านั้น เงื่อนไขในการปลดล็อคช่องสกิล Skill Type Unlock Level Standard Skill 2/7/16/20 Class Skill 10/20/30/.../80 แต้มสกิล (SP) Standard Skill นั้นสามารถอัพเลเวลได้โดยการใช้แต้มสกิลเพื่ออัพเกรด โดยจะได้รับแต้มสกิลทุกๆ 2 เลเวล โดยจะได้ครั้งแรกเมื่อตัวละครมีเลเวล 8 นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Rubies ซื้อแต้มสกิลได้ด้วย โดยการกดเครื่องหมาย + ตามภาพด้านบน ในแถบเมนู Skill Management หมายเหตุ: สามารถรีเซ็ตสกิลได้ตลอดและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ วิธีการใส่และถอดสกิลลงใน Slot ไปที่หน้า จาก Menu จากนั้นเลือกกด สกิลที่ต้องการและเลือกไปยัง Slot ที่ต้องการสวมใส่ สำหรับวิธีการถอดนั้นเพียงแค่แตะ สกิลที่เราต้องการจะเอาออกก็เป็นอันเสร็จ วิธีการเปิดการใช้งาน Class Skill อันดับแรกให้เลือกสายของ Class Skill ที่ต้องการก่อน จากนั้นแตะไปที่ จะเป็นการสวมใส่สกิลนั้นลงในช่อง Class Skill (กรอบสีแดง) ทันที  

Preset เป็นระบบอำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่นเกม AxE ในกรณีที่มีอุปกรณ์และสกิลหลายเซ็ตเพื่อไว้ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งการที่จะมานั่งเปลี่ยนทีละอย่างมันเป็นอะไรที่เสียเวลามากครับ ระบบนี้จะให้ผู้เล่นตั้งค่าเอาไว้เลยทำให้เปลี่ยนอุปกรณ์และสกิลได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น preset จะปลดล็อคเมื่อ ผ่าน Main Quest 2-6  Note: ตัวภาพและข้อมูลอ้างอิงจากเซิร์ฟ Global ดังนั้นรายละเอียดอาจต่างกันเล็กน้อย ประโยชน์ของ Preset เนื่องจากสกิลของตัวละครจะมีค่อนข้างเยอะ การที่เราตั้ง Preset เอาไว้จะช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาในการจัดสกิลที่เหมาะสำหรับสถานการ์ณต่างๆ ซึ่งตามปกติแล้วแต่ละตัวละครจะมีสกิลที่เหมาะกับการ PVP หรือการ PVE แตกต่างกันออกไปครับ ซึ่งหากเราปรับแต่งเอาไว้แต่แรกจะช่วยลดระยะเวลาได้เยอะมาก ตั้งค่า Preset อย่างไร ไปที่ และแตะที่ ซึ่งจะพบกับหน้าจอการตั้งค่า Preset ตามรูปด้านล่าง โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งได้แก่ ฝั่งอุปกรณ์ และฝั่งสกิล ในฝั่งสกิล(ด้านซ้าย)จะมีรายละเอียดคร่าวๆ ของเซ็ตที่เราตั้งค่าไว้ได้แก่ 1. ค่าพลังโจมตีรวมและค่าพลังป้องกันรวม 2. Weapon Skill (ถ้ามี) ผู้เล่นสามารถแตะที่ปุ่ม ได้ เพื่อย้ายไปยังหน้าอุปกรณ์สวมใส่และปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ต้องการได้ ในฝั่งสกิล(ด้านขวา)จะเป็นการตั้งค่าในส่วนของ และ หรือที่เราเรียกว่า Attribute นั่นแหละ ซึ่งจะมีข้อมูลรายละเอียดที่แสดงดังนี้ 1. ชื่อและเอฟเฟคของทั้ง Active, Passive Skill และ Attribute ที่ตั้งค่าไว้ในขณะนั้น 2. ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมของสกิลนั้นๆ โดยผู้เล่นสามารถแตะเพื่อตรวจสอบข้อมูลได้ ผู้เล่นสามารถแตะที่ปุ่ม และ เพื่อไปยังหน้าสกิลและทำการตั้งค่าสกิลต่างๆ ได้ การเพิ่มหน้า Preset ผู้เล่นสามารถเพิ่ม preset ได้สูงสุด 5 preset โดยตัวเกมจะให้ preset มา 2 หน้า หากต้องการเพิ่มจะต้องซื้อเอาโดยการแตะเครื่องหมาย "+" ที่ด้านขวาของหน้า preset โดยจะมีค่าใช้จ่าย 600 เพชร และสำหรับในครั้งแรกนั้น preset จะไม่ได้ตั้งค่าอะไรไว้เลยจนกว่าจะถูกตั้งค่าโดยผู้เล่น ดังนั้นอย่าลืมไปตั้งค่า preset กันด้วยนะ การสลับ Preset ที่ใช้อยู่ การสลับ Preset เราสามารถสลับได้ 3 วิธีได้แก่ สลับที่หน้า preset page - อันนี้จะเป็นวิธีการปกติ โดยจะอยู่ที่ด้านบนขวาของหน้า preset page ใกล้ๆ เครื่องหมาย "+" นั่นแหล สลับที่หน้าอุปกรณ์ - ดูจากภาพด้านบนซ้าย ที่หน้าอุปกรณ์จะมีปุ่ม preset ให้สลับอยู่ สลับในแผนที่ปกติ - อันนี้เป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดแล้ว โดยปุ่มจะอยู่ใกล้ๆ กับตัว Auto Battle หมายเหตุ: ไม่สามารถสลับ preset ได้เมื่อกำลังทำสิ่งเหล่านี้อยู่ กำลังโจมตี อยู่ใน PvP Battle อยู่ในดันเจี้ยน, attribute ดันเจี้ยน, raid ดันเจี้ยน, ดันเจี้ยนรายวัน, Eternal Sactum อยู่ใน Arena อยู่ใน Field of Honor อยู่ใน Guild Elimination อยู่ใน Guild Battle

ระบบฉายาหรือ Title ในเกม AxE  จะได้มาจากหลากหลายช่องทาง ซึ่งก็จัดว่าเป็นอีกหนึ่งที่น่าค้นหาและเป็นคล้ายๆ กับรางวัลความสำเร็จในการทำสิ่งต่างๆ นอกจากจะเป็นฉายาแสดงอยู่ที่ข้างชื่อของตัวละครเท่ๆ แล้ว ยังช่วยเพิ่มค่า Status ให้กับตัวละครที่สวมใส่ฉายานั้นอีกด้วย *หมายเหต: ฉายาจะติดตัวแยกเป็นรายตัวละคร *หมายเหตุ2: ตัวภาพและข้อมูลอ้างอิงจากเซิร์ฟ Global ดังนั้นรายละเอียดอาจต่างกันเล็กน้อย การเปลียนฉายา เราสามารถเข้าไปยังหน้าฉายาได้โดยการกดไปที่โลโก้ฝ่ายมุมซ้ายบนของเกม จากนั้นเลือกไปที่ Titles จากนั้นเลือกไปที่ฉายาที่ต้องการ เกี่ยวกับฉายา ► ชนิดของฉายา ฉายาทั่วไป : ได้จากการทำตามเงื่อนไขที่ตัวเกมระบุไว้ ฉายาจำกัดเวลา : ได้จากการทำตามเงื่อนไขที่ตัวเกมระบุไว้ และใช้ได้เฉพาะช่วงเวลาที่มีการระบุไว้เท่านั้น ตัวฉายาแบบจำกัดเวลานั้น บางชนิดจะสามารถยืดหรือรีเซ็ทเวลาของฉายาได้โดยการทำตามเงื่อนไขที่ได้รับฉายามา อย่างไรก็ตาม ฉายาแบบจำกัดเวลาจะถูกนับเวลาทันทีเมื่อได้รับตัวฉายานั้นๆ มา และเวลาจะเดินตลอดเวลาไม่ว่าเพื่อนๆ จะเล่นเกมอยู่หรือไม่ก็ตาม ► ค่า Status ของฉายา ฉายาแต่ละชนิดนั้นจะมีค่า Status อยู่ 1-4 อย่างขึ้นกับตัวฉายานั้น เพื่อนๆ สามารถตรวจสอบว่าฉายานั้นเพิ่มอะไรได้บ้างในหน้าจอฉายาของตัวเกม ซึ่งเมื่อทำการติดตั้งฉายาให้กับตัวละครแล้ว ค่า Status ของฉายานั้นๆ จะถูกเพิ่มให้กับตัวละครของเพื่อนๆ จนกว่าจะทำการเปลี่ยนฉายาหรือหมดเวลาลงในกรณีที่เป็นฉายาแบบจำกัดเวลา

กิจกรรมนิทานภูติเหมันต์: มหากาพย์เหมันต์ได้ผ่านมาอย่างยาวนานจนในที่สุด บัดนี้ได้มาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของกิจกรรมนี้แล้วในบทที่ 3 มิติกาลเวลาได้เปิดให้เล่นกันตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. 2562 เพื่อยุติเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในดินแดนแห่งนี้เพื่อหาทางกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงพร้อมเนื้อเรื่องกินใจในช่วงสุดท้ายนี้ ในแต่ละด่านจะต้องมีเงื่อนไขอย่างไรจึงจะผ่านไปได้มาดูกันเถอะ! มหากาพย์นิทานภูติเหมันต์ เธอพูดกับฉัน สิ่งประหลาดทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนั้น เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยของเสียงหัวเราะและน้ำตา มหากาพย์เหมันต์ จะประกอบไปด้วย 3 บท โดยในแต่ละบทจะปลดล็อคตามเวลาดังนี้: แดนเหมันต์นิรันดร์: 23 ม.ค. 09:00 น. ~ 20 ก.พ. 03:00 น. ดินแดนของราชินี: 28 ม.ค. 09:00 น. ~ 20 ก.พ. 03:00 น. (ต้องปลดล็อค บทที่ 2 ก่อน) มิติกาลเวลา: 3 ก.พ. 09:00 น. ~ 20 ก.พ. 03:00 น. (ต้องปลดล็อค บทลับก่อน) กัปตันจะต้องมีเลเวล 20 ขึ้นไปจึงจะสามารถเข้าเล่นในกิจกรรมนี้ได้ ในการจะเข้าเล่นในแต่ละพื้นที่ของกิจกรรมจะต้องใช้คำท้าทายจากต่างโลกปลดล็อคพื้นที่ ที่ละ 70 ชิ้น บทที่ 1 แดนเหมันต์นิรันดร์ <<< คลิ๊ก บทที่ 2 ดินแดนของราชินี <<< คลิ๊ก และเช่นเคยก่อนที่จะสามารถเริ่มเล่นในบทที่ 3 ซึ่งเป็นบทสุดท้ายได้จะต้องไปรับไอเทม ความลับ จากหน้าภารกิจกิจกรรมมหากาพย์นิทานภูติเหมันต์เสียก่อนจึงจะสามารถเริ่มเล่นด่านในบทที่ 3 ได้ บทที่ 3 มิติกาลเวลา มิติกาลเวลามี 5 พื้นที่ให้ปลดล็อคได้: , , , และ  สิ่งสำคัญสำหรับการเล่นในกิจกรรมนี้ก็คือการอ่านป้ายคำใบ้และคำพูดของตัวละครในเนื้อเรื่องจะเป็นคีย์สำคัญในการผ่านในแต่ละจุดและพื้นที่ต่างๆ เพื่อไปเก็บไอเทมสำคัญและตามหาวาลคิเรียคนอื่นมาเข้าทีม (ในแต่ละพื้นที่จะมีจำนวนตัวละครและไอเทมที่ต่างกันไป) ★ หอคอยแห่งความชัดแจ้ง (มี 2 ชั้น) Hind of Noel ชั้นที่ 1 ให้เราเดินสำรวจทางจนกระทั่งเจอกลไกลน็อตรูปดาวสีทองให้กดสำรวจนาฬิกาบางเรือนจะเปลี่ยนเป็นสีเงิน เมื่อเราไปกดนาฬิกาสีเงินจะเปิดทางให้เราไปต่อได้ให้เราเดินเปิดพื้นที่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอเงาของ Mei ให้กดเพื่อเข้าสู้ทันที หลังจากชนะมาได้แล้วร่างเงาของ Mei จะหนีไปและเปลี่ยนพื้นที่ใหม่ทั้งหมดฝนรอบนี้จะเจอกลไกลน็อต รูปดาวสีเงิน เมื่อทำการสำรวจนาฬิกาในบางเรือนจะกลายเป็นสีทองแทนสามารถกดสำรวจที่นาฬิกาสีทองเพื่อเปิดทางไปต่อได้เพื่อลงไปหาร่างเงา Mei ที่อยู่ล่างสุดของพื้นที่ หลังจากถึงตัวกดคุยจะเข้าสู่เกมเพลง เมื่อสู้ชนะร่างเงา Mei จะหนีไปอีกครั้งพร้อมเปลี่ยนพื้นที่ใหม่ครั้งสุดท้ายเมื่อเราคุยกับปีศาจหลงทางจะบอกใบ้เรื่องของนาฬิกาที่หันผิดทางและการหมุนทวนเข็มนาฬิกาซึ่งอันที่ 2 นี้จะเป็นคำใบ้ใช้ในด่านต่อๆ ไป ให้สังเกตว่านาฬิกาบางเรือนในจุดต่างๆ ตามวงสีแดงในภาพจะหันทิศทางไม่เหมือนกันในแถวนั้นเมื่อเรากดสำรวจจะเปิดเส้นทางให้เราสามารถไปต่อได้ หลังจากเดินเก็บไอเทมครบทุดจุดแล้วก็ให้ไปยังร่างเงา Mei เพื่อเข้าสู้อีกครั้งแต่รอบนี้จะมี Mei ร่างแยกออกมา 3 คนคลาสต่างกันออกไป แนะนำให้หยิบ Himeko : Vermilion Knight: Eclipse ( VK ) เพื่อสู้จะง่ายที่สุดโดยเน้นใช้ท่าชาร์จคอมโบบูสดาเมจไฟ เมื่อกดใช้ครั้งที่ 2 จะติดคูลดาวน์ให้เรากดท่าไม้ตายต่อทันทีจะเป็นการรีท่าชาร์จคอมโบให้กลับมาใช้ได้อีกครั้งแถมท่าที่แนะนำนั้นจะไม่โดนการโจมตีทั้งหมดอีกด้วย (สามารถใช้ได้ยาวจนถึงบอสสุดท้ายของบทนี้) ชั้นที่ 2 ในพื้นที่นี้จะมี Mei ( Hind of Noel ) อยู่ในสุดเดินมาสำรวจฟันเฟืองสีทองเราจะได้ใช้ไอเทมที่มีอยู่ในตัวเพื่อเปิดทางเข้าไปสู้กับเธอ หลังจากที่ชนะแล้วให้กดคุยอีกครั้งจะได้มาร่วมเดินทางเป็นคนสุดท้ายของกิจกรรมนี้และจะเปิดฟันเฟืองสีเงินทั้งหมดให้เข้าไปเอาไอเทมได้จากนั้นให้ไปยังทางออกเพื่อเปิดพื้นที่ต่อไป ★ หอคอยแห่งการแตกสลาย  (มี 3 ชั้น) ชั้นที่ 1 ในชั้นนี้เมื่อกดสำรวจที่นาฬิกาสีเงินเพื่อเปิดทางเข้าไปยังกลไกลไขลานสีเงินเมื่อกดสำรวจจะมีช้อยตัวเลือกมาให้กดทั้งหมด 4 ตัวเลิกด้วยกันให้อ้างอิงจากคำใบของปีศาจหลงในพื้นที่หอคอยแห่งความชัดแจ้งกดเลือกข้อที่ 3 หมุนทวนเข็มนาฬิกาทั้งสองอันจะเปิดทางทั้งหมดให้เราไปยังชั้นต่อไปได้ทันที ชั้นที่ 2 ในชั้นนี้อาจจะรู้สึกงงเล็กน้อยและใช้เวลาพอสมควรในการผ่านไปยังจุดต่างๆ ให้ทำการกดสำรวจที่นาฬิกาสีเงินเพื่อเปิดทางเข้าไปข้างในไม่ต้องสนใจศัตรูเนื่องจากเราไม่สามารถสู้ได้ มากดสำรวจที่กลไกลไขลานสีเงินแล้วตอบหมุนทวนเข็มนาฬิกาเหมือนเดิม (ตอบแบบนี้ทุกข้อ) ศัตรูจะมีสัญลักษณ์ขึ้นที่หัวคือมันได้หลับไปแล้วให้เลาะขึ้นไปทางขวาบนจะพบกับกลไกลน็อตสีเงินอยู่หลังจากกดสำรวจจะได้รับไอเทมค้อนทองคำสุดวีไอพีเพื่อใช้ทุบนาฬิกาสีทองเพื่อเปิดทางต่อ เมื่อไปถึงทางซ้ายสุดของแมพจะเจอกับกลไกลน็อตสีเงินอีกอันหลังจากกดสำรวจนาฬิกาสีทองที่อยู่ในแมพทั้งหมดจะหายไปทันทีเหลือเพียงนาฬิกาสีเงินเอาไว้ให้เรากดเล่นและจะปรากฏเป็นเหมือนไฟสปอร์ตไลท์มาแทนที่เมื่อกดสำรวจจะมีปีศาจจอมง่วงปรากฏขึ้นอยู่ใกล้กับปีศาจตัวแรกของที่เราเจอทางซ้ายล่าง ให้กดคุยจะปรากฏทางลับออกมาแทนให้เราเข้าไปข้างใน เมื่อเข้ามาแล้วให้ทำการปลดกลไกลในด่านทั้งหมดเพื่อเข้าไปหาปีศาจจอมง่วงทำการคุยจะต้องเล่นเกมเพลง 1 ครั้งเมื่อชนะแล้วจะมีช้อยให้เลือก 3 ช้อยว่าจะเอากล่อง สมบัติ หรือทั้งสองอย่างขึ้นมา เมื่อกดข้อใดข้อนึงจะมีกล่องไอเทมออกมาให้เราเก็บ (ตอบแบบไหนก็จะได้ของเหมือนกันหมด) แล้วกลับออดมาที่แมพเดิม กลับออกมาแล้วให้เดินไปหาปีศาจง่วงตัวใหญ่ที่อยู่บนสุดและต่อสู้ให้ชนะ เมื่อสู้ชนะแล้วปีศาจจะหายไปให้ “กลับไปคุย” ปีศาจทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่จะมีช้อยขึ้น 2 ข้อ ให้เรากดข้อที่ 2 เพื่อเลือกสู้พวกปีศาจจะยอมแพ้และให้ไอเทมแก่เราทุกตัว หลังจากคุยเอาไอเทมครบแล้วให้ไปยังชั้นต่อไปได้เลย ชั้นที่ 3 ชั้นสุดท้ายให้คุยกับฟันเฟืองสีทองเหมือนเดิมเพื่อใช้ไอเทมที่มีในตัวผ่านทางไปสู้กับ Fu Fu เป็นร่างโลกคู่ขนานของ Fu Hua หลังจากสู้ชนะแล้วให้กดคุยอีกครั้งจะได้ไอเทมและเปิดทางฟันเฟืองสีเงินเพื่อเข้าไปเก็บไอเทมทั้งหมดแล้วไปยังทางออกได้เลย ค้อนทองคำสุดวีไอพี ★ หอคอยแห่งอคติ  (มี 3 ชั้น) ชั้นที่ 1 ในด่านนี้จะมีกลไกลไขลานสีทองอยู่ใกล้กับป้ายบอกทางเป็นตัวเปลี่ยนทิศทางของด่านให้เราขึ้นไปเก็บกล่องไอเทมบนขวาให้เรียบก่อนจากนั้นเมื่อกดสำรวจให้ตอบข้อที่ 2 จะทำการเปลี่ยนทิศทางให้ทันทีและตัวกลไกลจะเปลี่ยนเป็นสีเงินแทน (สามารถกดสลับไปมาได้) ชั้นที่ 2 แมพนี้จะเป็นทางยาวมีกลไกลไขลานสีทองและสีเงินใช้ในการเปลี่ยนเส้นทางเหมือนเดิมเมื่อเข้ามาให้กดที่กลไกลสีทองตามวงสีแดงในภาพเพื่อเปลี่ยนเส้นทางไปหาศัตรูเพราะกลไกลสีเงินถูกศัตรูบังทิศทางเอาไว้เมื่อกำจัดเรียบร้อยให้เดินไปยังกลไกลไขลานสีทองที่อยู่ล่างขวาเพื่อเปิดทางไปเอาไอเทมก่อนค่อยกลับไปทางขวาบนที่มีกลไกลไขลานสีเงินอยู่เปลี่ยนทางไปยังชั้นต่อไปได้ ชั้นที่ 3 ให้เดินไปคุยกับฟันเฟืองสีทองเช่นเดิมเพื่อเข้าไปสู้กับ Himeko โลกคู่ขนานหลังจากชนะแล้วกดคุยอีกครั้งเพื่อเปิดฟันเฟืองสีเงินเข้าไปเอาไอเทมทั้งหมด ★ หอคอยแห่งความจริง  (มี 6 ชั้น) ชั้นที่ 1 – 5 เริ่มชั้นมาจะเจอตัวตัวละครยืนเรียงกันอยู่ 5 ช่องด้วยกันเมื่อเดินเข้ามาจะเจอ Judah ออกมาขว้างเอาไว้ให้กดคุยจะเปิดทางให้พร้อมมีสัญลักษณ์เครื่องหมายคำถาม (?) ปรากฏขึ้นมาเมื่อคุยจะมีเสียง Theresa ปรากฏและถามคำถามให้เราเลือกตอบ Theresa ร่าง Valkyrie Pledge ทุกข้อ ตั้งแต่ชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 4 จะสามารถผ่านได้อย่างง่ายดาย เมื่อไปยังชั้นที่ 5 จะเจอศัตรูปรากฏอยู่เมื่อกดคุยจนจบจะเปิดทางให้ไปยังชั้นสุดท้าย ชั้นที่ 6 รอบนี้เราจะต้องสู้กับ Theresa โลกคู่ขนานเมื่อชนะแล้วให้คุยอีกครั้งจะเปิดฟันเฟืองสีเงินให้เข้าไปเก็บไอเทมเมื่อครบแล้วกลับมาคุยที่ฟันเฟืองสีทองอีกครั้งเพื่อใช้ไอเทมที่มีเปิดทางออกเพื่อไปยังพื้นที่สุดท้าย ★ วิหารกาลเวลา  (มี 2 ชั้น) God Kiana หรือตามเรื่องก็คือแม่มดขาวเป็นบอสสุดท้ายที่เราจะได้เจอเมื่อเดินเข้ามาจะถูกปิดทางทันทีให้เรากดคุยจะเข้าสู่การต่อสู้กับเธอ หลังจากที่เอาชนะได้แล้วแม่มดขาวจะหายไปเหลือไว้เพียง Kiana เท่านั้น หลังจากเรากดคุยครั้งแรก Kiana จะให้เราไปตามหาไอเทมทั้ง 49 ชิ้นมาให้ครบเพื่อแลกกับเพชร 60 เม็ดและเปิดพื้นที่มีฟันเฟืองสีเงินกั้นทางอยู่ออกให้เราสามารถเข้าไปเก็บไอเทมได้ หากมีไอเทมครบทั้ง 49 ชิ้นแล้วให้คุยกับ Kiana อีกครั้งเพื่อรับเพชร 60 พร้อมกับบัตรเสบียงพิเศษ 1 ใบ แล้วไปยังชั้นต่อไปได้เลย (สามารถเช็คไอเทมทั้งหมดได้ดังนี้ ) ชั้นที่ 2 ชั้นสุดท้ายจะพบกับ Seele ต้นเหตุของเรื่องนี้ทั้งหมดเธอทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้พบกับ Bronya อีกครั้งหลังจากที่ได้อ่านเนื้อเรื่องจนจบแล้วให้เดินเก็บของไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงทางออกเป็นการจบนิทานภูติเหมันต์: มหากาพย์เหมันต์อย่างสมบูรณ์...

เรียกว่าใกล้จะเปิดให้เล่นกันเต็มทีแล้วกับเกม Action MMORPG ที่หลายคนรอคอยอย่าง AxE หรือที่มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า Alliance Vs Empire นั่นเองครับ ภายในบทความนี้เราจะมารีวิวและแนะนำตัวเกมในเบื้องต้น เพื่อให้เข้าใจในภาพรวมของตัวเกมกันก่อนว่าเป็นยังไง ซึ่งเราจะมาทำข้อมูลเกมนี้กันแบบเจาะลึกในบทความถัดๆ ไปครับ สามารถรออ่านกันได้เลย 1.การแบ่งฝ่ายของตัวละคร เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของเกมเลยทีเดียวครับกับระบบการแบ่งฝ่ายของตัวละครภายในเกมนี้ ซึ่งก็จะอ้างอิงตามเนื้อเรื่องของสองฝั่งนั่นก็คือ Alliance กับ Empire ที่มีความขัดแย้งกันชนิดที่ว่าเห็นหน้ากันเป็นไม่ได้ต้องใส่ให้ยับอะไรทำนองนั้นเลยล่ะครับ ซึ่งเมื่อมีการแบ่งฝ่ายก็แน่นอนว่าถ้าหากเราพบเห็นผู้เล่นอื่นเราก็สามารถที่จะโจมตีได้เลย แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะตีกันได้ทุกที่นะครับ ในบางจุดเราก็ไม่สามารถเข้าไปตีได้เหมือนกัน ดังนั้นก็สบายใจกันไปได้เปราะนึงว่าเราไม่ได้โดนฆ่าตายตั้งแต่แรกหรือช่วงที่หัดเล่นใหม่ๆ แน่นอน เพราะกว่าจะเจอกันจริงๆ ก็ต้องเล่นไปแล้วสักพักนึงเลยแหละ 2.ตัวละคร เมื่อสักครู่เราได้พูดกันถึงเรื่องฝ่ายไปแล้ว ทีนี้มาขอพูดถึงเรื่องของตัวละครกันบ้างครับ ความพิเศษของเกมนี้อย่างนึงเลยคือตัวละครของแต่ละฝ่ายจะมีอาชีพไม่เหมือนกันเลย ย้ำนะครับว่าไม่เหมือนกันครับหมายความว่าสกิลและความสามารถก็แตกต่างกันไปด้วย แม้ว่าอาจจะมีโรลหรือหน้าที่คล้ายกันอยุ่บ้าง แต่เรียกได้ว่าเป็นคนละอาชีพกันเลยดีกว่าครับ สำหรับคนที่ถามว่าอยากจะเล่นตัวละครของทั้งสองฝ่ายเลยได้ไหม? คำตอบคือได้ครับ เราสามารถสร้างตัวละครได้ทั้งสองฝ่ายเลยครับ สำหรับอาชีพในแต่ละฝ่ายจะมีดังนี้ Alliance Empire Archer Valkyrie Titan Warrior Blade Masdter Mage 3.การเก็บเลเวลและลงดัน แผนที่ในเกมนี้จะค่อนข้างเปิด โดยเราสามารถเดินไปมาหรือทำเควสในแผนที่ได้อย่างอิสระครับ ข้อดีของเกมนี้คือไม่มีการจำกัด EXP และเงินที่ได้จากการล่ามอนสเอร์ในแต่ละวัน นั่นก็หมายความว่าเราสามารถที่จะเปิดเกมทิ้งไว้เพื่อฟาร์มหาของได้นั่นเองครับ แม้ว่า EXP จะได้ไม่เยอะมากแต่ก็เรียกว่าเก็บได้เรื่อยๆ แถมยังมีเควสประเภท Repeatable หรือทำซ้ำได้เรื่อยๆ ที่เราเปิดเกมทิ้งไว้ให้ตัวละครทำซ้ำเรื่อยๆ ได้ด้วยครับ แม้ว่า EXP จะได้น้อยกว่าเควสปกติเยอะก็ตาม แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยใช่ไหมล่ะครับ? แน่นอนว่าถ้าใครอยากเลเวลอัพแบบไวๆ ก็ไปทำเควสตามปกติในแต่ละวันแทน ในส่วนของการลงดันเจี้ยนก็มีให้เราได้เล่นกันครับ โดยตัวดันเจี้ยนก็มีอยู่หลายแบบซึ่งหลักๆ แล้วจะเอาไว้ใช้ฟาร์มหาของมาอัพเกรดซะมากกว่า ซึ่งก็จะมีทั้งดันเจี้ยนปกติหรือ Raid ดันเจี้ยนที่เอาไว้สู้กับบอสและเล่นพร้อมกันกับเพื่อนๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีโหมดต่างๆ ให้เราเล่นอีกเช่น Invasion ให้รวมตี้บุกดินแดนของศัตรูหรือ Field of Hornor ที่เป็นการต่อสู้แบบ 3 Vs 3 กับอีกฝ่าย 4.ระบบสกิล ในส่วนของระบบสกิลเกมนี้ต้องบอกเลยว่าโดดเด่นมากๆ เพราะนอกจากสกิลประจำอาชีพแต่ละสายอาชีพแล้ว ยังมีสกิลที่ติดมากับอาวุธอีกด้วยครับ นอกจากนี้แล้วยังมีในเรื่องของการปรับแต่งสกิลและการปรัแต่ง Attributes อีก ซึ่งถ้าเล่นไปลึกๆ แล้วเราสามารถปรับแต่งได้เยอะพอสมควร โดยทางเราจะมาเจาะลึกให้ฟังในบทความถัดๆ ไปครับไม่อย่างนั้นเกรงว่าจะยาวเกินไป 5.เซิร์ฟเวอร์ของตัวเกม หลายคนอาจจะงงว่าทำไมเกมนี้มีหลายเซิร์ฟจัง ซึ่งถ้าให้อธิบายแบบละเอียดนิดนึงคือตัวเกานี้เปิดเป็นประเทศแรกที่เกาหลีครับ หลังจากนั้นก็มาเปิดในเซิร์ฟ Global ต่อ ส่วนของไทยเราคาดว่าน่าจะได้เล่นกันในช่วงของเซิร์ฟเวอร์ SEA หรือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั่นเองครับ ซึ่งตัวเกมนั้นจะมีภาษาไทยแต่เราจะเล่นรวมกับผู้เล่นในชาติอื่น ดังนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าเกมจะเงียบเหงารับรองว่าตีกันมันส์แน่นอน ส่วนในช่วงนี้ใครที่ลองไปเล่นของประเทศอื่นแล้วเข้าไม่ได้ก็ไม่ต้องแปลกใจไป เพราะว่าเค้าบล็อคประเทศไทยเอาไว้นั่นเองครับ หากไม่รีบอะไรเรามารอเล่นเซิร์ฟไทยกันก็ได้จ้า

เช่นเดียวกับเกมอื่นๆ ที่มีระบบสังคม ในเกมที่ต้องต่อสู้กันสองฝ่ายอย่าง AxE เองก็มีระบบ Guild สำหรับรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนๆ เช่นเดียวกัน และก็เป็นอีกหนึ่งระบบที่จำเป็นไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งบทความนี้ก็จะมาอธิบายเกี่ยวกับระบบ Guild ให้เพื่อนๆ ทราบกันจ้า *บทความนี้อ้างอิงจาก Global เป็นหลัก ระบบ Guild ► การเข้าร่วมและออกกิล เพื่อนๆ สามารถค้นหากิลที่ต้องการเข้าร่วมได้ผ่านทางปุ่ม ในหน้าจอเมนูหลัก หรือตรวจผ่านระบบประกาศหาคนของแต่ละกิลได้ในส่วนของ ซึ่งในส่วนของประกาศหาคนนั้นก็จะมีเงื่อนไขต่างๆ ที่แต่ละกิลได้กำหนดเอาไว้ให้ทราบ หากเพื่อนๆ ผ่านเงื่อนไขของกิลนั้น เมื่อสมัครเข้าไปหัวหน้ากิลก็จะต้องกดยืนยันก่อนอีกทีหนึ่งถึงจะเข้ากิลได้ แต่หากว่ากิลไหนไม่มีเงื่อนไขอะไรพิเศษ ก็จะสามารถกด เพื่อเข้ากิลได้ในทันที ส่วนในด้านการออกกิลนั้นไม่มีอะไรมากนัก เพียงแค่ไปที่ ของหน้าสมาชิกกิลและกด เพื่อนๆ ก็จะสามารถออกจากกิลได้เลย ► การสร้างกิล เพื่อนๆ จะสามารถสร้างกิลได้เมื่อมีตัวละครที่ผ่าน Main Quest 2-8 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการสร้างกิลนั้นก็จะการต้องการหลายๆ อย่างดังนี้ ใช้ค่าใช้จ่าย 100 Diamonds ในการสร้าง ต้องเลือก Guild Focus Area 2 แห่ง (สามารถเปลี่ยนทีหลังได้) ชื่อกิล 2-10 ตัวอักษร ใช้ตัวเลขได้ ข้อมูลเกี่ยวกับกิล ► Guild Status ในหน้า นั้น เพื่อนๆ จะสามารถตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานของกิลตัวเองได้ดังนี้ ข้อมูลกิล เช่นเลเวลของกิล, ค่าชื่อเสียง, หัวหน้ากิล, สถานะการบริจาค รวมเงินทุนของกิล ลำดับประจำแต่ละอาทิตย์ สมาชิกกิล ระบบเช็คชื่อสมาชิกในกิล เข้าสู่หน้า Guild Battle   ดิสอิส Guild Relic Shard ► เลเวลของกิล สมาชิกในกิลสามารถเพิ่มชื่อเสียงของกิลและอัพเลเวลกิลได้ด้วยการบริจาค Guild Relic Shard โดยไอเทมชิ้นนี้จะได้จากการเล่นในส่วนของ Invasion, Elite Dungeon เป็นหลัก นอกจากนี้แล้วยังสามารถบริจาค Gold ให้กับกิลได้ด้วย การบริจาคให้กิลนอกจากจะช่วยเหลือกิลแล้วยังมีระบบรางวัลเป็นของตอบแทนให้กับสมาชิกกิลที่ทำการบริจาค เพื่อนๆ สามารถบริจาคให้กิลได้ด้วยการไปที่ และเลือก โดยตัวระบบจะทำการบันทึกว่าในแต่ละอาทิตย์นั้น สมาชิกแต่ละคนบริจาคอะไรเป็นอัตราส่วนเท่าไหร่ของการบริจาคทั้งหมด (บันทึกรายอาทิตย์จะรีเซ็ตใหม่ทุกๆ วันจันทร์ตอนเที่ยงคืน) และสามารถตรวจสอบได้ผ่านทางรายชื่อสมาชิกในกิล ► ระบบเช็คชื่อ ระบบเช็คชื่อนี้จทำหน้าที่แจกรางวัลให้กับสมาชิกที่คอยช่วยเหลือกิลทุกๆ วันเหมือนกับรายการสะสมสแต๊มป์ Login นั่นเอง แต่ที่ออกจะยุ่งยากกว่านั้นก็จะอยู่ที่ระบบนี้จะนับจากจำนวนสมาชิกที่มาเข้าร่วมด้วย และมีรางวัลแตกต่างกันไปตามจำนวนสมาชิกดังกล่าว ทำให้เป็นระบบที่แอบชวนให้ตีกันอยู่ไม่น้อย รางวัลของการเช็คชื่อนั้นจะได้รับในวันรุ่งขึ้น ► บัพกิล เพื่อนๆ สามารถได้รับบัพของกิลหลากหลายชนิดได้ โดยขึ้นกับการเปิดใช้งานและเลเวลของกิลในขณะนั้น และบัพนั้นจะเปิดปิดการใช้งานได้โดยหัวหน้ากิลหรือคนที่ได้รับมอบอำนาจไว้ บัพที่ไม่ได้ถูกเปิดใช้งานยังสามารถใช้งานได้ผ่าน Buff Scroll โดยสมาชิกในกิลจะต้องมี Guild Marks เสียก่อนจึงจะซื้อ Buff Scroll ได้

ด่าน Rose Race เป็นด่านแรกๆ เลยที่แทบทุกคนน่าจะได้เล่นกันในเกม Speed Drifters เพราะว่าเป็นด่านที่เหมาะกับการที่จะเอาไว้ฝึกการเข้าโค้งและมีทางตรงค่อนข้างเยอะ เราสามารถที่จะสุ่มเจอด่านนี้ได้ตั้งแต่ต้นเกมเลยด้วย โดยเราจะมีเทคนิคที่แนะนำในด่านนี้และจุดสำคัญต่างๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ https://www.youtube.com/watch?v=3Vvjh-Z98mI&feature=youtu.be เทคนิคที่ใช้บ่อย CWW Snap Drift แนวทางการเล่น Rose Race ส่วนแรกเลยเป็นจุดที่พ้นจุดออกตัวมาแล้ว  ซึ่งจุดที่เราจะต้องระวังเลยคือจุดหมายเลข 3 ซึ่งจะเป็นทางลัดก่อนที่จะเข้าโค้ง โดยจุดนี้หากเรากดเร่งสปีดมากเกินไปอาจะทำให้พ้นจุดลัดไปได้ดังนั้นแนะนำว่าหลังจากที่โดดลงตรงจุด 2 แล้วควรกด Mini Boost แค่ทีเดียวพอ แล้วค่อยกดอีกทีตอนกำลังจะเลี้ยวพ้นทางลัดตรง 3 ครับ หลังจากพ้นโค้งมาแล้วแนะนำว่าให้วิ่งเลาะตรงกลางถนน เนื่องจากตรงกลางอุโมงค์ที่เรากำลังจะเข้าไปจะมีตัวเร่งความเร็วอยู่ซึ่งจะทำให้เราวิ่งไวขึ้นมากๆ นอกเหนือจากนั้นภายในแผนที่นี้ก็จะวนไปเรื่อยๆ คล้ายๆ เดิมคือมักจะมีทางลัดอยู่ตรงบริเวณก่อนจะเลี้ยว จุดที่สำคัญอีกอย่างของการเล่นแผนที่นี้คือให้เราพยามกด CWW ให้คล่อง โดยแนะนำว่าให้ใช้ทุกครั้งที่เป็นทางยาวให้ได้ครับ แต่ถ้าหากว่าเราพลาดอาจจะใช้เป็น WCW แทนไปก่อนก็ได้ครับ สำคัญคือการพยามเก็บบูสเตอร์เอาไว้ให้มีใช้ตลอดเวลาโดยเฉพาะทางตรง