Mobile Guide

วันนี้ผู้เขียนจะได้มาแนะนำพาร์ท Sokai ใหม่นั่นก็คือ Gundam Barbatos Lupus Rex, Gundam Kimaris Vidar และ พาร์ทกิจกรรมคือเจ้า Bertigo ที่มาพร้อมกับกาชาในเกม GUNDAM BATTLE: GUNPLA WARFARE ครั้งนี้จะได้นำข้อมูลของพาร์ทกับความน่าใช้งานว่าชิ้นไหนน่าใช้งานหรือเหมาะกับการโมหุ่นของเราครับ 1.Gundam Barbatos Lupus Rex ข้อมูลพื้นฐาน ชื่อ Gundam Barbatos Lupus Rex Model number ASW-G-08 ซี่รี่ Mobile Suit Gundam Iron-Blooded Orphans ความหายาก ✦✦✦✦✦ Attribute Speed EX Skill Part Head Mobile Suit Gundam Barbatos Lupus Rex EXskill Alaya-Vijnana Limit Breaker ประเภท Awakening ระยะเวลา 25 วินาที Cooldown 90 วินาที (เริ่ม 18 วินาที) คำอธิบาย ทำลายลิมิตของระบบ Alaya-Vijnana เพื่อเพิ่มพลังให้กับตัวเองเป็นเวลาชั่วคราว เพิ่ม Speed ให้ตัวเอง 20% เพิ่มพลังโจมตีระยะประชิดให้ตัวเอง 30% ตลอดระยะเวลาการใช้งาน Gunpla เมื่อถูกโจมตีแล้วจะไม่ทำให้ชงักหรือสะดุ้ง Alteration เพิ่ม Speed ให้ตัวเอง 20% (เท่าเดิม) เพิ่มพลังโจมตีระยะประชิดให้ตัวเองจาก 30% เป็น 40% Part Arms Mobile Suit Gundam Barbatos Lupus Rex EXskill Screw Fang ประเภท Physical Melee Penetration B power B- Cooldown 30 วินาที (เริ่ม 3 วินาที) คำอธิบาย โจมตีศัตรูด้วยกงเล็บทั้งสองมือแล้วทำการเตะ Alteration Penetration เพิ่มจาก B เป็น A- Power เพิ่มจาก B- เป็น B+ Part Back Mobile Suit Gundam Barbatos Lupus Rex EXskill Thil Blade ประเภท Physical Melee Penetration D power A Cooldown 120 วินาที (เริ่ม 30 วินาที) คำอธิบาย เตรียมการรบโดยปรับเปลี่ยนใบมีดที่หางจากนั้นพุ่งเข้าจู่โจมตีศัตรูระยะประชิดอย่างบ้าคลั่ง เพิ่ม Speed ให้กับทีม 20% เพิ่มพลังโจมตีระยะประชิดให้กับทีม 40% Alteration Power เพิ่มจาก A เป็น S- เพิ่ม Speed ให้กับทีม 20% (เท่าเดิม) เพิ่มพลังโจมตีระยะประชิดให้กับทีมจาก 40% เป็น 50% Part Mace Mobile Suit Gundam Barbatos Lupus Rex EXskill Mace Rush ประเภท Physical Melee Penetration A- power B Cooldown 30 วินาที (เริ่ม 3 วินาที) คำอธิบาย ทำลายศัตรูด้วย Wrench Mace จากนั้นกระโดดขึ้นไปในอากาศแล้วฟาดลงมาที่พื้นดิน เพิ่มพลังป้องกันการโจมตีระยะประชิดขึ้น 15% Alteration Power เพิ่มจาก B เป็น B+ Part Traits Part Part Traits Head - Body เพิ่มระยะเวลาของ Cooldown ขึ้น 10% เพิ่มพลังโจมตีระยะประชิดขึ้น 20% Arms – Legs พลังโจมตีการยิงเพิ่มขึ้น 20% เพิ่มพลังโจมตีของ Ex Skill ขึ้น 20% Back – Mace  – Alteration Part Part Traits (Slot 2) Head - Body ชิ้นส่วนหลัง เพิ่มพลังโจมตีของ Ex Skill ขึ้น 20% Arms – Legs เมื่อทำการโจมตีเป็นประเภทกายภาพ เพิ่มพลังโจมตีของ Ex Skill ขึ้น 20% Back – Mace  – Word Tag Part Tag 1 Tag 2 Head Protag High Mobility Body Protag High Mobility Arms Protag Close Combat Legs Protag High Mobility Back Protag Close Combat Super-Large Mace  Protag Close Combat Protag เมื่อเปิดใช้งานเพิ่มพลังการโจมตีระยะประชิดขึ้น 10% High Mobility เมื่อเปิดใช้งานการป้องกันการยิงจะเพิ่มขึ้น...

ในแพทช์ 1.2 ของเกม Genshin Impact นอกจากจะมีแมพพื้นที่ใหม่อย่างภูเขาน้ำแข็งมาให้ผู้เล่นได้ไปสำรวจกันแล้ว ยังมีดันเจี้ยนใหม่ที่เพิ่มเข้ามาด้วยนั้นก็คือดัน "ยอดสูงสุดแห่ง Vindagnyr" ที่จะมีอาร์ติแฟกต์ใหม่เพิ่มเข้ามาด้วยสองเซ็ตเป็นเซ็ตน้ำแข็ง Icebreaker และเซ็ตน้ำ Ocean Conqueror แต่การจะไปลงได้นั้นต้องปลดล็อคตามเงื่อนไขเสียก่อน จะต้องปลดยังไงถึงจะสามารถลงดันเจี้ยนนี้ได้ ไปดูกัน! วิธีปลดดันเจี้ยนยอดสูงสุดแห่ง Vindagnyr ผู้เล่นจะต้องตามหาตามหาคริสตัลทั้ง 3 จุด และทำลายเพื่อเอาก้อนพลังงานกลับไปยังใจกลางของภูเขาหิมะให้ครบ แต่ละจุดจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไปอีก โดยแต่ละจุดและวิธีเข้าไปทำลายคริสตัลมีดังนี้ จุดแรก จะอยู่ไม่ห่างจากทางเข้าแมพภูเขาหิมะเท่าไหร่ ตรงนั้นจะมีศัตรูคอยเฝ้าอยู่ด้วยต้องกำจัดให้หมดก่อนจึงไม่เช่นนั้นอาจจะโดนมันฆ่าตายแทน หลังจากที่เคลียร์พื้นที่หมดแล้วให้ตามหาหินสีแดง Scarlet Quartz ที่อยู่บริเวณรอบๆ ให้เจอ ตีให้แตกแล้วกดเก็บมาจากนั้นวิ่งไปตีตัวคริสตัลเลือดจะลดไป 1 ส่วน ต้องใช้หินแดงทั้งหมด 4 ก่อน สำหรับจุดแรกหาได้ไม่ยากนัก เมื่อทำลายคริสตัลแล้วจะพบกับพลังงานทรงกลมข้างใน ให้กดสำรวจมันจะกลับไปยังภูเขาหิมะเองทันที แล้วต้นไม้สีแดง Frostbearing Tree จะปรากฏขึ้นมา จุดที่สอง ไปที่ Wyrmrest Valley ตรงนั้นจะมีลานกลมขนาดใหญ่อยู่พร้อมหุ่น 2 ตัวให้กำจัดให้เรียบร้อยก่อนเพื่อเตรียมแก้ไขปริศนากันต่อ ซึ่งตรงลานจะมีกลไกให้กดพร้อมน้องผี 1 ตัว หลังจากกดให้ดูจุดที่น้องบินไปตามลำดับ พอน้องกลับมาตรงกลไกให้เอาธาตุน้ำแข็งยิงเรียงตามลำดับให้ครบจะมีศัตรูปรากฏออกมา ในส่วนนี้ศัตรูจะเป็นพวกหุ่นทั้งหมดพร้อมกับพายุหิมะที่จะทำให้โดนแช่แข็งได้เร็วขึ้น ตรงแท่นกลไกทำความอุ่นรอบๆ จะไม่ได้เปิดตลอดมันจะคอยสลับเปิดไปเรื่อยๆ ให้คอยสังเกตุแสงสีแดงในพายุเอาไว้แล้ววิ่งไปทางนั้นเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นแล้วสู้กับศัตรูต่อ หลังจากที่ศัตรูตายหมดแล้วลานน้ำแข็งตรงกลางจะแตกออกให้ลงไปยังข้างล่างได้ก็จะพบกับคริสตัลจุดที่สองและเงื่อนไขการปลดลำดับต่อไป ให้ตามหาน้องผีแล้วพาไปยังแท่นพำนักเพื่อเปิดกรงขัง ในนั้นจะมีหินสีแดงอยู่ 1 อันเอาไปตีคริสตัล อีก 3 อันที่เหลือจะอยู่รอบๆ หาได้ไม่ยากเอาไปตีให้ครบแล้วส่งก้อนพลังงานกลับไปยังภูเขาหิมะ หลังน้ำแข็งในถ้ำละลายหุ่น 2 ตัว จะตื่นขึ้นมาแต่เลือดมีนิดเดียวเท่านั้นกำจัดได้ไม่ยาก จุดที่สาม เข้าไปในถ้ำน้ำแข็ง Starglow Cavern ใครเปิดเสาวาร์ปตรงเหนือชื่อ Skyfrost Nail เอาไว้แล้วก็ไปที่นั้นได้เลย เข้าไปส่วนลึกสุดจะเจอกับคริสตัลอันสุดท้าย (หากใครยังไม่เคยเปิดเสาข้างในเอาไว้ให้ เข้าทางหัวตัว S ของ Starglow Cavern ที่มีจุดวาร์ปอยู่ตรงนั้นให้เดินเข้าไปเลย) คริสตัลตรงนี้จะยังไม่สามารถเข้าไปได้เพราะมีบาเรียป้องกันอยู่ ตรงบริเวณนั้นจะมีชาเลนต์ให้กดท้าทายอยู่ จะเจอศัตรูประเภทน้ำแข็งออกมาหลายชุดพร้อมระยะเวลาในการสู้ หลังจากสิ้นสุดการท้าทายแล้วบาเรียจะถูกปลดออกให้เข้าไปทำลายได้ หินแดง 2 จุดแรกจะอยู่ใกล้ๆ จุดท้าทายและเสาพำนักของน้องผี ส่วนจุดที่สามให้อ้อมไปข้างหลังคริสตัลจะมีหินบังอยู่ทำการทำลายหินทิ้งจะเจอน้องผีและหินแดงอยู่ข้างใน และจุดสุดท้ายให้วิ่งไปข้างหลังเหมือนเดิมแล้วเลี้ยวไปทางขวามีมือข้างในสุดจะเจอหินแดงอยู่เอามาตีใส่คริสตัลเพื่อเก็บก้อนพลังงานข้างในอันสุดท้าย หลังจากทั้งก้อนพลังงานทั้งสามกลับไปยังภูเขาหิมะแล้วให้วาร์ปกลับไปที่เสา Statue of Seven หันไปข้างหลังจะเจอทางเข้าไปข้างในจะมีศัตรูอยู่ตามทาง และจะเจอน้องผีในนั้นตามน้องขึ้นไปเรื่อยๆ จะเข้าไปยังใจกลางของภูเขาหิมะ พร้อมกับปริศนาสุดท้ายที่ต้องทำการปลดล็อค รวมซากเสาทั้ง 3 จุด ครั้งนี้จะต้องทำการรวมซากเสาให้มารวมเป็น 1 เดียว โดยจะต้องตีคริสตัลแดงอีก 3 ครั้ง (คริสตัลทุกอันจะมีเลือดแค่ 1 ใน 4 เท่านัั้น) จะต้องตามหาหินสีแดงให้เจอเพื่อเอาไปทำลายคริสตัล จุดแรก ให้เดินตามน้องผีไปทางขวาจะเจอศัตรูทั้งหมด 3 ตัว กำจัดทิ้งให้หมดบาเรียที่ครอบหินแดงไว้จะเปิดออก นำไปตีคริสตัลบนซากเสาลอยฟ้าจะปรากฏอันต่อไป (หลังตีเก็บหินแดงแล้วเอาตัวธนูยิงจากจุดนั้นได้เลย) จุดที่สอง จุดที่สองจะอยู่สูงขึ้นอีกชั้น จากตรงจุดแรกที่ยืนอยู่ให้วิ่งชิดขอบทางขวาขึ้นไปเรื่อยๆ จะเจอลานกว้างมีศัตรูเฝ้าอยู่ กำจัดให้หมดตรงนั้นจะมีหินแดงอยู่ หยิบมาแล้วเอาไปคริสตัลกันได้เลย จุดที่สาม จุดสุดท้ายจะขึ้นไปอีกระดับเลย ตรงจุดลานกว้างเมื่อกี้จะมีน้องผีอยู่ด้วยให้เดินตามน้องไปจะพาปีนขึ้นไปบนเสาข้างบน ข้างบนมีแท่นธาตุลมอยู่ให้เอาธาตุลมยิงใส่จะมีลมและวงความเร็วพาไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเก็บหินแดงอันสุดท้าย เพียงเท่านี้เศษเสาทั้งสามจุดจะรวมกันเป็นเสาขนาดใหญ่ลอยขึ้นไปบนฟ้าพร้อมทำให้น้ำแข็งตรงพื้นหายไปเผยให้เห็นชั้นข้างล่างจะพบกับดันเจี้ยนที่ตามหากันอยู่! ที่นี้ก็ได้เวลาฟาร์มอาร์ติแฟกต์ใหม่กันแล้วละ ตัวของดันเจี้ยนนั้นจะมีช่องน้ำแข็งและไฟปรากฏขึ้นมาแบบสุ่ม หากอยู่ในช่องน้ำแข็งหรือนอกช่องความหนาวจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องคอยหาช่องไฟแล้วไปสู้กับศัตรูตรงนั้นเพื่อลดความหนาวไปในตัวไม่ให้ถูกความหนาวกัดกิน จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact Thailand

เปิดตัวชุดคอสตูมใหม่ สำหรับชุดสูทคอร์เสริมพลังของ Fu Hua ร่าง Hawk of the Fog กับคอนเซ็ปอาภรณ์แห่งเพลิงทมิฬและแรงปรารถนาอันดำมืด ที่พร้อมให้เป็นเจ้าของในช่วงเวลาจำกัดคือ 24 ธ.ค. 2020 11:00 น. ถึง 7 ม.ค. 2021 11:00 น. 2564 นี้เท่านั้น Onyx Simurgh คอมตูมชุดของ Fu Hua ร่าง Hawk of the Fog ชุดมีอะไรต่างไปจากเดิม? เริ่มที่ชุดกี่เพ้าธีมจีนสีโทนดำตัดกับลูกเล่นขนเฟอร์สีขาวรอบคอและไหล่ เครื่องประดับสีน้ำตาลตรงคอคลุมโทนสีเดียวกับสนับไหล่และสนับขา ฟูกะสวมถุงมือยาวทั้งสองข้างฝั่งนึงสีดำและอีกฝั่งสีขาวที่ตัดกันคล้ายสัญลักษณ์ของหยินหยาง กระโปรงด้านหลังปล่อยชายยาวโทนสีดำตัดกับแดงดั่งเปลวเพลิงที่ครุกรุ่น ถุงน่องยาวที่เผยให้เห็นต้นขาเล็กน้อยเผยความเซ็กซี่นิด ๆ ทรงผมเป็นสีขาวตัดกับสีเทาดำที่เป็นทรงดั้งเดิมของ Valkyrie Accipiter เปรียบเสมือนสายหมอกที่เย็นยะเยือก ประดับด้วยปิ่นปักผมขนาดใหญ่ที่มีเปลวไฟสีดำแดงลอยอยู่รอบ ๆ ทรงผมปล่อยยาวถูกรวบด้วยที่รวบผมรูปร่างคล้ายมังกร เอฟเฟคของสกิล เมื่อใช้งานจะมีประกายไฟออกรอบๆชุด และสีของเอฟเฟคเมื่อทำการโจมตีจะเปลี่ยนไปจากเดิมที่เป็นสีทอง ถูกเปลี่ยนให้เป็นสีแดงอมดำพร้อมกับเอฟเฟคประกายเพลิงเมื่อโจมตี มาดูภาพสวยๆ จากคอมตูมกันเถอะ! ใครชอบเห็นแล้วโดนถูกใจสามารถหามาจับจองได้แล้วกับในกิจกรรมคลังสมบัติโฮมุคริสต์มาส เป็นกิจกรรมให้เราเปิดช่องตามหาชุดของเธอ จะมีโอกาสได้รับชุด Onyx Simurgh ตั้งแต่รอบ 4 เป็นต้นไป และจะการันตีได้รับชุดอย่างแน่นอนในรอบที่ 6 สามารถซื้อได้ถึงวันที่ 24 ธ.ค. 2020 11:00 น. ~ 7 ม.ค. 2021 11:00 น. ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Honkai Impact 3 TH

วันนี้ผู้เขียนจะได้มาแนะนำตู้พิเศษที่เป็น Limited ในเทศกาลคริสมาสต์อีฟ นั่นคือ Destiny Gundam และนักบิน Haine Westenfluss ที่มาพร้อมกับกาชาในเกม GUNDAM BATTLE: GUNPLA WARFARE เราไปดูกันเลยว่ามีชิ้นไหนหน้าใช้งานกันบ้างครับ Destiny Gundam ข้อมูลพื้นฐาน ชื่อ Destiny Gundam Model number ZGMF-X42S-REVOLUTION ซี่รี่ Mobile Suit Gundam SEED DESTINY ความหายาก ✦✦✦✦✦ Attribute Speed EX skill Part Arms Mobile Suit Destiny Gundam EXskill Palma Flocina ประเภท Beam Shot Penetration D power B+ Cooldown 30 วินาที (เริ่ม 8 วินาที) คำอธิบาย ทำลายศัตรูด้วยบูมเมอแรงจากไหล่และยิงลำแสงกำลังสูงจากฝ่ามือ Alteration Power จาก B+ เป็น A- Part Back Mobile Suit Destiny Gundam EXskill Arondight & Long-Range Beam Cannon ประเภท Beam Shot Penetration D power A Cooldown 120 วินาที (เริ่ม 30 วินาที) คำอธิบาย ทำการคอมโบโจมตีศัตรูด้วยดาบใหญ่ที่ด้านหลังและทำการยิงลำแสงกำลังสูงจากท้องฟ้าหลังจบการคอมโบโจมตีศัตรู เพิ่มความเร็วให้กับทีม 20% เพิ่มพลังโจมตีการยิงให้กับทีม 30% Alteration Power จาก A เป็น S- เพิ่มความเร็วให้กับทีม 20% (เท่าเดิม) เพิ่มพลังโจมตีการยิงให้กับทีมจาก 30% เป็น 40% Part Arondight Mobile Suit Destiny Gundam EXskill Maelstorm ประเภท Beam Melee Penetration D power B+ Cooldown 40 วินาที (เริ่ม 10 วินาที) คำอธิบาย ทำการฟาดฟันศัตรู จากนั้นทำการหมุนตัวฟันโจมตีศัตรูด้วยดาบที่ติดตั้ง Alteration Power B+ เป็น A Part Traits Part Part Traits Head เมื่อศัตรูจำนวน 1 เครื่องถูกทำลายจะลด Cooldown ลง 35% จำนวน 1 ครั้ง Body เมื่อพลังโจมตีการยิง มากกว่า 5000 ขึ้นไปจะเพิ่มพลังโจมตีการยิงขึ้น 17% Arms - Legs พลังโจมตีระยะประชิดเพิ่มขึ้น 20% เพิ่มพลังโจมตีของ Ex Skill ขึ้น 20% Back – Arondight - Beam Rifle เมื่อทำการโจมตีเป็นประเภทลำแสงจะเพิ่มพลังโจมตีการยิงขึ้น 17% Shield เมื่อคุณสมบัติเครื่องตัวเองคือ Speed จะลดพลังโจมตีการยิงของศัตรูลง 17% Alteration Part Part Traits (Slot 2) Head เมื่อได้รับสถานะ Buff จะเพิ่มพลังโจมตีการยิงขึ้น 20 Body เมื่อคุณสมบัติเครื่องตัวเองคือ Speed จะเพิ่มระยะเวลาของ Ex Skill ประเภท Buff ขึ้น 15% Arms - Legs เมื่อได้รับสถานะ Buff จะลดพลังโจมตีระยะประชิดของศัตรูลง 17% Back – Arondight - Beam Rifle เมื่อคุณสมบัติเครื่องตัวเองคือ Speed จะเพิ่มเกจเริ่มต้นของ Ex Skill ขึ้น 6% Shield ชิ้นส่วนหลัง เพิ่มพลังโจมตีของ Ex Skill ขึ้น 20% Word tag Part Tag 1 Tag 2 Head Commander Gundam Type Body Commander Gundam Type Arms Commander Gundam Type Legs Commander Ace Excal. Back Commander Ace Excal. Arondight Commander Gundam Type High-Energy Beam Rifle Commander Ace Excal. Anti-Beam Shield Commander Ace Excal. Commander เมื่อเปิดใช้งานพลังโจมตีของการยิงจะเพิ่มขึ้น 5% ความต้านทานของลำแสงบีมเพิ่มขึ้น 5% Gundam Type เมื่อเปิดใช้งานความทนทานเพิ่มขึ้น 5% ความต้านทานทางกายภาพเพิ่มขึ้น 5% Ace Excal. เมื่อเปิดใช้งาน เพิ่มพลังโจมตีของการยิง 10% ระดับความน่าใช้งาน S+ S+ S+ SS S+ S+ SS SS https://www.facebook.com/gbmobilehk/videos/241811470673376 Heine Westenfluss Part...

ครั้งก่อนแจกตัวละครกันไปแล้ว ในครั้งนี้มาแจกอาวุธกันบ้างกับกิจกรรมใหม่ต้อนรับ Patch 1.2 ของ Genshin Impact "ชอร์กขาวและมังกรดำ" ที่จะพาเพื่อนๆ ไปรับดาบต้องสาปสีดำและเรื่องราวของเบื้องหลังของดาบเล่มนี้กัน แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ดาบนะจ๊ะ ยังมีไอเทมอื่นๆ แจกเหมือนกัน! Event ชอร์กขาวและมังกรดำ ► เงื่อนไขการเข้าร่วม Event : มีระดับนักผจญภัยเลเวล 20 เป็นต้นไป, ผ่านเควสในตำนาน บทแห่งองค์ชายชอร์กขาวฉากที่ 1 แล้ว ► เกี่ยวกับตัว Event ในส่วนของ Event นี้ก็จะมีทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน จะสามารถเริ่มทำได้หลังจากที่เพื่อนๆ ผ่านตัวเควสในตำนาน บทแห่งองค์ชายชอร์กขาวฉากที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ก็จะเปิดเควสใหม่ขึ้นมา ชอร์กขาวและมังกรดำ ซึ่งเป็นเควสที่จะพาเพื่อนๆ มาหาตัว Albedo อีกครั้งและเริ่มต้นทดลองดาบมังกรดำ Festering Desire กันไป ในช่วงกิจกรรมนี้ หากเพื่อนๆ ผ่านความท้าทายได้สำเร็จ จะปลดล๊อคพลังของดาบออกมาเพิ่มเติม (มีผลเฉพาะในช่วงกิจกรรมและในพื้นที่ Dragonspine) ทำให้ตัวดาบนี้โหดขึ้นเป็นอย่างมากเลยทีเดียวล่ะ แถมระหว่างกิจกรรมยังสามารถอัพเลเวลดาบได้มากกว่าปกติ 50% ด้วยนะ! ปลดล๊อคผ่านกิจกรรมฉากที่ 1 ระยะเวลาของกิจกรรมนี้ก็ยิงยาวเกือบสองอาทิตย์ โดยแต่ละช่วงจะมีดังนี้ ฉากที่ 1 เริ่มวันที่ 23/12 ฉากที่ 2 เริ่มวันที่ 25/12 ฉากที่ 3 เริ่มวันที่ 28/12 ฉากที่ 4 เริ่มวันที่ 31/12   ส่วนตัวร้านค้ากิจกรรมที่ใช้แลกดวงดาวนั้นจะเปิดให้แลกตามระยะของช่วงเวลาในกิจกรรมฉากที่ 2/3/4 ตามลำดับเป๊ะๆ ของที่แนะนำให้แลกจริงๆ ก็จะมีส่วนของตัวหิน Festering Dragon Morrow ที่ใช้ขัดเกลาตัวดาบ, ไอเทมเลื่อนระดับและพรสวรรค์ รวมถึงตัวมงกุฎ ที่เหลือค่อนข้างจะฟรีสไตล์เหมือนเดิมจ้า ► ของที่แลกได้ด้วย Glimmering Essence ของที่แลกได้ ใช้ Essence จำนวนสูงสุด Festering Dragon Morrow 600 1 Chain of Dandelion Gladiator 25 6 Debris of Decarabian's City 25 6 Boreal Wolf's Cracked Tooth 25 6 Lustrous Stone from Guyun 25 6 Mist Veiled Mercury Elixir 25 6 Piece of Aerosiderite 25 6 Hero's Wit 20 20 Mystic Enhancement Ore 10 60 Mora x 10,000 20 30 รวมทั้งหมด 3,100 Essence   ► ของที่แลกได้ด้วย Warm Essence ของที่แลกได้ ใช้ Essence จำนวนสูงสุด Festering Dragon Morrow 600 1 Hero's Wit 20 20 Adventurer's Experience 5 20 Mystic Enhancement Ore 10 120 Mora x 10,000 20 30 รวมทั้งหมด 2,900 Essence   ► ของที่แลกได้ด้วย Miraculous Essence ของที่แลกได้ ใช้ Essence จำนวนสูงสุด Festering Dragon Morrow 600 2 Crown of Insight 400 1 Guide to "Freedom" 20 9 Guide to "Resistance" 20 9 Guide to "Ballad" 20 9 Guide to "Prosperity" 20 9 Guide to "Diligence" 20 9 Guide to "Gold" 20 9 Hero's Wit 12 20 Mora x 10,000 12 30 รวมทั้งหมด 3,280 Essence   ► ฉาก 1 ในฉากที่หนึ่งนี้จะเป็นการเปิดใช้งานตัวดาบนี้ เพื่อนๆ สามารถรับเควสจาก Sucrose ที่เชิงเขาของ Dragonspine และไล่ทำตัวเควสได้เลย จะมีเพียงศัตรูไม่ยากอย่างเช่นฝูงสไลม์และเหล่านักล่าสมับิตเท่านั้น มั่นใจได้ว่าไม่เกินกำลังของเพื่อนๆ แน่นอน แค่เผื่อใจว่าต้องฟัดกับพวกลูกอีช่างปาขวดก็พอ ในช่วงนี้จะเป็นการสะสม Rime Crystal จากการกำจัดศัตรูที่สามารถพบเจอได้ในเขต Dragonspine ทุกตัว เพื่อรวบรวมจำนวน Crystal ให้ครบและปลดล๊อคความสามารถของดาบออกมานั่นเอง แน่นอนว่าการตีศัตรูตามฉากนั้นไม่เสียค่า Resin เพราะงั้นก็สามารถไล่ฟาดให้สิ้นได้เลยจ้า   ► ฉากที่ 2 ในฉากที่สองนี้เพื่อนๆ จะได้เริ่มต้นในเควส การท้าทายของเทพเจ้า ในช่วงแรกของเควสก็จะเป็นการตีมอนทั่วไปเล็กน้อยกับเจ้า Fatui น้ำแข็ง น้ำและลมพร้อมกัน ตามด้วยการตบตีป้องกันเสาเล็กๆ น้อยๆ ในอีกจุดหนึ่ง ก็เป็นอันเปิดตัวเควสเสร็จสิ้น เข้าสู่การฟาร์มช่วงที่สองกัน การฟาร์มในช่วงที่สองนี้ก็จะเป็นการที่เพื่อนๆ ต้องไปทำการท้าทายจุดต่างๆโดยจะปรากฎขึ้นมาในแผนที่ให้ทราบ ตัวการท้าทายจะให้เพื่อนๆ สู้กับมอนสเตอร์ต่างๆ 3...

วันนี้ผู้เขียนจะได้มาแนะนำพาร์ทใหม่นั่นก็คือ Astray Gold Frame Amatsu Mina, Musha Godmaru และ พาร์ทกิจกรรมคือเจ้า Blue Destiny Unit-2, Blue Destiny Unit-3 ที่มาพร้อมกับกาชาในเกม GUNDAM BATTLE: GUNPLA WARFARE ครั้งนี้จะได้นำข้อมูลของพาร์ทกับความน่าใช้งานว่าชิ้นไหนน่าใช้งานหรือเหมาะกับการโมหุ่นของเราครับ 1.Astray Gold Frame Amatsu Mina ข้อมูลพื้นฐาน ชื่อ Astray Gold Frame Amatsu Mina Model number MBF-P01-Re2 ซี่รี่ Mobile Suit Gundam SEED X ASTRAY ความหายาก ✦✦✦✦✦ attribute Speed EX skill Part Head Mobile Suit Astray Gold Frame Amatsu Mina EXskill Mirage Colloid ประเภท Awakening ระยะเวลา 30 วินาที Cooldown 90 วินาที (เริ่ม 18 วินาที) คำอธิบาย เปิดการใช้งานการล่องหนด้วยอนุภาคคอนลอยด์จากเกราะ เพิ่มพลังโจมตีระยะประชิดและโจมตีการยิงขึ้น 10% ตลอดการเปิดใช้งานจะมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะตกเป็นเป้าหมายของศัตรู Part Arms Mobile Suit Astray Gold Frame Amatsu Mina EXskill Okitsu ni kagami ประเภท Beam Melee Penetration C power B+ Cooldown 30 วินาที (เริ่ม 3 วินาที) คำอธิบาย ใช้ดาบลำแสงกำจัดศัตรูที่จับได้โดยตัวปล่อยลำแสงที่แขนซ้าย (ฉมวก) ศัตรูที่โดนโจมตีจะถูกลดการต้านทานกายภาพลง 20% Part Leg Mobile Suit Astray Gold Frame Amatsu Mina EXskill Totsuka no tsurugi ประเภท Physical Melee Penetration D power A- Cooldown 30 วินาที (เริ่ม 8 วินาที) คำอธิบาย ใช้ดาบลำแสงในมือทั้งสองข้างทำการกระหน่ำโจมตีศัตรู Part Traits Part Part Traits Head - Body เมื่อคุณสมบัติเครื่องตัวเองคือ Speed จะเพิ่มระยะเวลา Effect ของ Ex Skill ประเภท Buff ขึ้น 4% Arms - Legs – Back เมื่อติดตั้ง Tag Close Combat จะเพิ่มพัลงโจมตีระยะประชิดขึ้น 17% Word Tag Part Tag 1 Tag 2 Head Close Combat For Computer Body Close Combat For Computer Arms Close Combat For Computer Legs Close Combat Gundam Type Back Close Combat Gundam Type Close Combat เมื่อเปิดใช้งานความทนทานเพิ่มขึ้น 5% พลังการโจมตีเเพิ่มขึ้น 5% For Computer เมื่อเปิดใช้งานค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 1% และจะเพิ่มขึ้นอีก 3% หากฉากต่อสู้เป็น Cyber Gundam Type เมื่อเปิดใช้งานความทนทานเพิ่มขึ้น 5% ความต้านทานทางกายภาพเพิ่มขึ้น 5% ระดับความน่าใช้งาน A+ A+ S A+ S-   2.Musha Godmaru ข้อมูลพื้นฐาน ชื่อ Musha Godmaru Model number MUSHA GODMARU ซี่รี่ SD Gundam BB Warrior ความหายาก ✦✦✦✦✦ attribute Technique EX skill Part Body Mobile Suit Musha Godmaru EXskill SD-Tackle ประเภท Physical Melee Penetration B power B- Cooldown 20 วินาที (เริ่ม 2 วินาที) คำอธิบาย พุ่งเข้าโจมตีศัตรูด้วยการแทงเต็มรูปแบบ ศัตรูที่โดนโจมตีจะถูกลดพลังโจมตีระยะประชิดลง 10% Part Back Mobile Suit Musha Godmaru EXskill Scorching Spin Slash ประเภท Physical Melee Penetration D power B+ Cooldown 30 วินาที (เริ่ม 8 วินาที) คำอธิบาย ห่อหุ้มไฟไว้ที่ดาบทั้งสองและปล่อยเปลวไฟเพื่อโจมตี Part Sekiha Tenkyou Sword Mobile Suit...

มาถึงวันหยุดอันแสบอบอุ่นที่ทุกคนรอคอยและเกม FAIRY TAIL: Force Unite! ก็ไม่พลาดที่จะจัดกิจกรรม "คริสต์มาสอันอบอุ่น" ที่ให้ผู้เล่นทุกคนได้ร่วมกันตกแต่งต้นคริสต์มาสให้สวยงาม พร้อมรับของรางวัลจากกิจกรรมมากมาย เช่น ตราจันทรา การ์ดอัปเกรดความสามารถ หรือรางวัลใหญ่อย่างชุดคอสตูมคริสต์มาส สำหรับกิจกรรมนี้มีอะไรให้เราทำบ้างไปดูกัน! วิธีเข้าร่วมกิจกรรม เมื่อเข้ามาภายในเกมแล้วจะมีรูปต้นคริสต์มาสอยู่ด้านบนซ้ายตรงแถบกิจกรรมต่างๆ สามารถเห็นได้ชัดเจนให้เลือกจิ้มไปที่ต้นคริสต์มาสจะทำการเข้าสู่หน้ากิจกรรม เมื่อเข้ามาแล้วเรราจะเจอกับหน้าต่างแบบนี้ รายละเอียดกิจกรรม ระยะเวลากิจกรรม 23 ธันวาคม - 29 ธันวาคม เมื่อเช็กอินในช่วงเวลากิจกรรมจะได้รับของรางวัลประจำเทศกาล เมื่อทำเควสประจำวันเศร้จจะได้รับของรางวัลตามแต้มกิจกรรม สามารถรับแพ็กคริสต์มาสอีฟได้ที่ภูติคริสต์มาสหลังวันที่ 24 ธันวาคม เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป กิจกรรมแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ตกแต่งต้นคริสต์มาส ตั้งทีมพิทักษ์ของขวัญ และเข้าร่วมทีมพิทักษ์ของขวัญ สามารถใช้กระดิ่งคริสต์มาสเพื่อลุ้นรางวัลคอสตูมแบบลิมิเต็ดได้ในโรงงานซานต้า คืนฉลองวันคริสต์มาส จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้แก่ ตกแต่งต้นคริสต์มาส ไปท้าดวล และช่วยเหลือท้าดวล 1. ตกแต่งต้นคริสต์มาส กิจกรรมที่จะให้เราร่วมกันตกแต่งต้นคริสต์มาสประจำเซิร์ฟเวอร์ด้วยตุ๊กตาภูติจิ๋วและบอลคริสต์มาส ซึ่งจะได้รับตามแต้มกิจกรรมที่เราสามารถทำได้ในแต่ละวัน เมื่อแต้มตกแต่งถึงตามที่กำหนดจะสามารถกดรับของรางวัลได้ ของรางวัลก็มีตั้งแต่ คริสตัลปลุกพลัง บัตรฝึกฝน ตราจันทรา และตราสุริยัน 10 ถึง 30 แต้ม ได้รับตุ๊กตาภูติจิ๋ว 30 แต้ม ได้รับถุงเท้าคริสต์มาส 50 แต้ม ได้รับบอลคริสต์มาส 2. ไปท้าดวล กิจกรรมนี้จะให้เราตั้งทีมท้าดวลร่วมกับเพื่อนๆ 3 คนขึ้นไป ช่วยกันดวลกับมอนสเตอร์ เมื่อถึงจำนวนที่กำหนดจะได้รับของรางวัลเป็นกระดิ่งคริสต์มาสที่เอาไว้ใช้จับสลาก และบอลคริสต์มาสสำหรับตกแต่งต้นคริสต์มาส 3. ช่วยเหลือท้าดวล กิจกรรมที่จะให้เราไปช่วยเหลือคนอื่นในการท้าดวล 10 ครั้งต่อวัน เมื่อช่วยเหลือครบจะได้รับตุ๊กตาภูตจิ๋วสำหรับตกแต่งต้นคริสต์มาส โรงงานซานต้า จุดนี้จะเป็นจุดที่ให้เราจับสลากของขวัญโดยการนำกระดิ่งคริสต์มาส ของรางวัลมีตั้งแต่เล็กไปจนใหญ่อยู่ที่ว่าเราจะสุ่มได้อะไร และของรางวัลใหญ่สุดก็คือคอสตูมคริสต์มาสนั่นเอง

สวัสดีอีกเช่นเคยกับแฟนเกม Fairy Tail: Force Unite! ในวันนี้ผมก็จะมานำเสนออีกเรื่องน่าสนใจที่หลายๆ คนมองข้ามกันไป และไม่รู้ว่ามันสำคัญยิ่งยวดขนาดไหนกับระบบ "รูปแบบทีม" เอาเป็นว่าเราอย่าเสียเวลาเลย เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า มา! รูปแบบทีม คืออะไร?  คือรูปแบบการวางตำแหน่งกลยุทธ์ของทีมเราหรือจะมองว่าเป็นตำแหน่งการยืนตัวละครก็ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นรูปแบบพื้นฐานที่พบได้มากในเกมเทิร์นเบสและเกมมือถือสมัยนี้ แต่รู้รึเปล่าว่าภายในเกมนี้จะมีรูปแบบให้ได้เลือกกันถึง 10 แบบเลยด้วย โดยสามารถปลดล็อคได้ด้วยการซื้อหนังสือเล่มละ 1,000,000 เงินจีเวล พร้อมทั้งยังสามารถอัปเกรดขั้นได้อีกต่างหาก นอกจากนี้แต่ละรูปแบบไม่ใช่เพียงแค่ตำแหน่งการยืนที่แตกต่างกันเท่านั้นนะ ยังมีบัฟแต่ละตำแหน่งแตกต่างกัน พร้อมด้วยรูปแบบแพ้-ชนะทางกันอีกด้วย จึงทำให้ “รูปแบบทีม” นี่ล่ะเป็นอีกหนึ่งตัววัดผลแพ้-ชนะกันได้เลย ส่วนมีรูปแบบอะไรบ้างนั้นเราก็มาดูกันเลยดีกว่า รูปแบบทีมทะลวง จุดเด่น : เพิ่มพลังโจมตีเท่ากันในทุกตำแหน่ง ชนะทาง : แยกเงา กลยุทธ์ พริบตา แพ้ทาง : ปิดล้อม ปีกราชา หลุมพราง นี่คือรูปแบบแรกที่ตัวเกมจะปลดล็อคให้เราเมื่อทำเควสถึง มีจุดเด่นคือการเพิ่มดาเมจให้กับทุกตำแหน่ง โดยแลกมากับค่าความเร็วที่ลดลงไป เป็นรูปแบบการเพิ่มพลังโจมตีสูงสุดจากรูปแบบทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้าหากว่าอัปไปจนถึงเลเวลสูงสุดจะช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้ถึง 12% เลย เหมาะสำหรับทีมเน้นพลังโจมตีเข้าแลกนั่นเอง รูปแบบทีมแยกเงา จุดเด่น : เพิ่มพลังโจมตีเวท M.ATK อย่างมากให้กับตัวละครผู้เล่น  ชนะทาง : โยกย้าย ปีกราชา ปิดล้อม แพ้ทาง : ทะลวง หลุมพราง พริบตา เป็นรูปแบบเด่นชัดมากเรื่องการเพิ่มค่า M.ATK ให้กับตัวละครหลักของเรา โดยจะแลกมากับการลดค่าพลังป้องกัน  ในขณะเดียวกันก็ทำการเพิ่มพลังโจมตีในระดับนึงให้กับสองตำแหน่งด้านข้าง ความเร็ว และพลังป้องกันอีกอย่างละตำแหน่ง เหมาะสำหรับคนที่เลือกเล่นคลาสจำพวกเวทคลื่นเสียงหรือเวทหิมะ พวกใช้พลังโจมตีเวทนั่นเอง เมื่อเลเวลสูงสุดจะเพิ่มค่าพลังเวทให้สูงถึง 15.3% เลย รูปแบบทีมเสมอภาค จุดเด่น : เพิ่มพลังโจมตีกายภาพ P.ATK อย่างมากให้กับตัวละครผู้เล่น ชนะทาง : หลุมพราง โยกย้าย พริบตา แพ้ทาง : กลยุทธ์ ปิดล้อม ผจญภัย อาจเรียกว่า “สายสมดุล” ตามชื่อก็ว่าได้ แต่เอาจริงๆ รูปแบบนี้จะเน้นไปทางการเพิ่มค่า P.ATK อย่างมากให้กับตัวละครหลักของเรา พร้อมด้วยการเพิ่มดาเมจกายภาพ ดาเมจโดยรวม ค่าพลังฟื้นฟู และต้านทานผนึก อีกอย่างละตำแหน่ง เหมาะสำหรับคลาสจำพวกสายเวทปืนหรือเวทเสริมพลัง โจมตีดาเมจแบบกายภาพ พร้อมตัวฮีลประจำทีมอีกหนึ่ง โดยเลเวลสูงสุดจะเพิ่มค่า P.ATK สูงถึง 15.3% รูปแบบทีมกลยุทธ์ จุดเด่น : เพิ่มพลังป้องกันกายภาพ P.Resist ให้กับตัวละครผู้เล่น ชนะทาง : พริบตา โยกย้าย เสมอภาค แพ้ทาง : ปีกราชา ทะลวง ผจญภัย สำหรับรูปแบบ กลยุทธ์ จะคล้ายกับสองรูปแบบก่อนหน้านี้ แต่เปลี่ยนจากการเสริมพลังโจมตีมาเป็นเพิ่มพลังป้องกันกายภาพ หรือ P.Resist แทน ไม่ได้เพิ่มเยอะขึ้นแบบโดดเด่นแต่จะเป็นการเพิ่มเฉลี่ยไล่เลี่ยกันในแต่ละตำแหน่ง ในขณะเดียวกันก็ยังคงเพิ่มดาเมจและความเร็ว ให้กับตำแหน่งโดยรอบไปในตัวด้วย รูปแบบนี้ค่อนข้างจะเหมาะกับคลาสจำพวกสายดาเมจที่พลังป้องกันน้อย ซึ่งสามารถช่วยทำให้เอาตัวรอดได้นานขึ้นนั่นเอง รูปแบบทีมโยกย้าย จุดเด่น : เพิ่มความเร็ว SPD อย่างมากให้สองตำแหน่ง และเพิ่มค่าฮีลรองลงมา ชนะทาง : ผจญภัย หลุมพราง ปิดล้อม แพ้ทาง : แยกเงา เสมอภาค กลยุทธ์ ตามชื่อของรูปแบบกับ โยกย้าย คือเน้นการเพิ่มความเร็วของตัวละคร SPD อย่างมากโดยเน้นให้กับตัวละครผู้เล่น และในตำแหน่งตัวละครที่ 3 แลกมากับค่าพลังป้องกันกายภาพและเวทมนต์ที่เสียไป ซึ่งรูปแบบนี้ค่อนข้างจะเหมาะกับคลาสจำพวกเน้นการดีบัฟตัวละครอย่างเวทผนึกหรือคลาสจำพวกต้องเซ็ตอัปหลายๆ อย่างก่อนต่อสู้ ซึ่งต้องพึ่งความเร็วในการลงมือก่อนนั่นเอง รูปแบบทีมผจญภัย จุดเด่น : เพิ่มความเร็ว SPD อย่างมากให้หนึ่งตำแหน่ง และระดับปานกลางรองลงมา ชนะทาง : หลุมพราง เสมอภาค กลยุทธ์ แพ้ทาง : โยกย้าย ปีกราชา พริบตา  จะมาในลักษณะของรูปแบบตัว T โดยตำแหน่งที่ 3 อยู่บริเวณกึ่งกลางด้านหน้าจะได้รับความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แลกมาด้วยพลังป้องกันเวทมนต์ลดลงไป ในขณะเดียวกันอีกสองตำแหน่งก็จะได้ค่าความเร็วเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่จะไม่ได้เพิ่มเยอะเท่าด้านหน้า และมีการเพิ่มพลังโจมตีกายภาพและเวทมนต์ตามลำดับ รูปแบบนี้จะดูคล้ายกับ โยกย้าย เพียงแต่จะเป็นการโฟกัสตัวละครเพียงตัวเดียว เหมาะสำหรับคนที่มีตัวโจมตีหนักๆ ภายในทีมแล้วต้องการใช้เปิดเริ่มการโจมตี รูปแบบทีมปิดล้อม จุดเด่น : เพิ่มความเร็ว SPD อย่างมากให้กับตัวละครผู้เล่น และเพิ่มค่าผนึกอย่างมากให้อีกหนึ่งตำแหน่ง ชนะทาง : ปีกราชา ทะลวง เสมอภาค แพ้ทาง : พริบตา แยกเงา โยกย้าย แทบจะเหมือนกันกับสองแบบก่อนหน้านี้เลยก็ว่าได้ กับการเพิ่มความเร็ว SPD อย่างมากให้หนึ่งตำแหน่ง แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีการเพิ่มค่าผนึก Seal ขึ้นมาอย่างมากเลยด้วยเช่นกัน ส่วนตำแหน่งที่เหลือก็จะมีการเพิ่มค่าดาเมจ และค่าพลังป้องกันขึ้นมาเป็นลำดับ เหมาะสำหรับทีมที่มีตัวละครจอมเวทสายผนึกรวมอยู่ในทีมนั่นเอง รูปแบบทีมปีกราชา จุดเด่น : เพิ่มพลังป้องกันโดยรวมให้กับในทีม ชนะทาง : กลยุทธ์ ทะลวง ผจญภัย แพ้ทาง : ปิดล้อม แยกเงา หลุมพราง รูปแบบชัดเจนของเป้าหมายนี้คือการเพิ่มความถึกให้กับทีมของเรา โดยจะมีการเพิ่มพลังป้องกันให้ตัวละครเราสูงมาก แลกมากับค่าสปีดที่ลดลง ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มค่าฮีลไปด้วย แสดงให้เห็นว่าเป็นรูปแบบเน้นการเอาตัวรอดแท้จริง สำหรับ ปีกราชา นี้ก็เหมาะกับทีมที่มีพลังโจมตีพอแล้วแต่รู้สึกตัวเองยังเปราะอยู่ตายง่ายเกินไป หรือไว้เลือกใช้เฉพาะหน้าเวลาเจออีเวนท์หรือบอสตบหนักๆ ได้ด้วยเช่นกัน รูปแบบทีมพริบตา จุดเด่น : เพิ่มค่าฮีลอย่างมากให้กับตัวละครผู้เล่น ชนะทาง : ปิดล้อม แยกเงา ผจญภัย แพ้ทาง : กลยุทธ์ เสมอภาค ทะลวง ค่อนข้างจะขัดแย้งจากชื่อรูปแบบพอสมควรเลยกับพริบตา ซึ่งน่าจะสื่อถึงความรวดเร็วเสียมากกว่า แต่จุดเด่นของรูปแบบคือการเพิ่มค่าฮีลอย่างมากให้กับตัวละครเราแทนและแบบปานกลางให้กับอีกหนึ่ง นี่จึงเป็นรูปแบบประเภทการรักษาโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับคลาสจำพวกเวทฟื้นฟูและเวทยาที่สามารถรักษาคนอื่นภายในทีมได้นั่นเอง รูปแบบทีมหลุมพราง จุดเด่น : เพิ่มค่าต้านทานผนึกให้สามตำแหน่งแรก ชนะทาง : ปีกราชา ทะลวง แยกเงา แพ้ทาง : ผจญภัย เสมอภาค โยกย้าย เป็นอีกรูปแบบที่แตกต่างจากรูปแบบอื่นๆ ทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ด้วยรูปแบบอื่นจะมีการเพิ่มค่าโจมตี พลังป้องกัน ความเร็วไม่ก็การรักษา แตกต่างจากหลุมพรางจะเป็นการเพิ่มค่าต้านทานผนึกหรือ Seal Resis. ถึงสามตำแหน่ง ทำให้รูปแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะจะใช้ทั่วไป เหมาะสำหรับในโอกาศหรืออีเวนท์เฉพาะหน้าเท่านั้น อย่างในการต่อสู้ PVP หรือท้าชนบอสที่มีพวกสกิลผนึกเยอะๆ...

อัปเดต 1.2 กันมาแล้วกับ Genshin Impact ซึ่งก็มีทั้งพื้นที่ใหม่ ของใหม่ ศัตรูใหม่ ปริศนาใหม่ และความเหนื่อยตาแตกในการพยายามไขมันใหม่ๆ กันอีกเช่นเคย ในวันนี้ก็จะมากล่าวถึงวิธีการปลดล๊อคเจ้าดาบใหญ่แห่ง Dragonspine ที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ กับดาบใหญ่ Snow-Tombed Starsilver กันจ้า https://www.youtube.com/watch?v=mKHkeRvleaU&ab_channel=Myplaypost วิธีการปลดล๊อคดาบใหญ่ Snow-Tombed Starsilver ตัวดาบใหญ่เล่มนี้จะไม่มีการใบ้ปริศนาตรงๆ แต่จะกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ในเขตภูเขา Dragonspine แห่งนี้ผ่านทางแท่นศิลาจารึกต่างๆ ที่มีอยู่ทั้งสิ้น 8 จุดด้วยกัน ซ้ำร้าย บางจุดยังซ่อนอยู่ในปริศนาอย่างอื่นอีกต่างหาก เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้สนใจคำพูดของ Paimon ที่บอกถึงการรวบรวมแล้วก็แทบจะเมินแล้วก็เผลอยาวเลยล่ะ แน่นอน ต่อให้สนใจแต่ถ้าหาตำแหน่งไม่เจอก็ปลดล๊อคออกมาไม่ได้อยู่ดีแง สำหรับบทความนี้ในส่วนด้านล่างก็จะชี้เป้าของตำแหน่งแท่นศิลาจารึกทั้ง 8 จุดกันจ้า เพื่อนๆ จะได้ปลดล๊อคกันได้ง่ายซักหน่อย หรือถ้าคนไหนอยากค้นหาด้วยตัวเองก็ขอเป็นกำลังใจให้น้า สู้ๆ ดูตำแหน่งในแผนที่ประกอบเพื่อเช็คตำแหน่งของแต่ละจุดได้จ๊ะ (ไอคอนสีเหลืองคือตำแหน่งของกล่องในการเปิดห้องนิรภัยจ้า) ► การเปิดห้องนิรภัย ในแท่นศิลาจุดที่ 3 นี้ จะต้องผ่านด่านปริศนาห้องนิรภัยเสียก่อน โดยการเปิดห้องนี้จะต้องใช้หีบสีทองทั้งหมด 3 ใบจากที่ต่างๆ ที่กระจายไปทั่วภูเขาแห่งนี้ และก็เป็นปริศนาการท้าทายในรูปแบบต่างๆ กันไปหมด มีเป็นตีมอนสุดกวน หาของมาประดับ และปิดท้ายด้วยการซ่อนมันในภูเขาสูง Princess's Box : ได้จากการดึงดาบที่อยู่กลางแม่น้ำและทำการท้าทายกำจัดศัตรูภายใน 60 วินาทีให้ผ่าน (Abyss Mage สองตัวน้ำและน้ำแข็งหัวอุ่นแน่นอนจ้า แนะนำเล่นตัวน้ำแข็งก่อนเลย) Scribe's Box : ได้จากการนำดอก Cecilia วางบนหลุมศพ 3 ดอก จะปรากฎหีบออกมา Priest's Box : จะอยู่บนซากหอคอย กล่องหรูหราไฮโซที่เพื่อนๆ คุ้นเคยกัน (ทีมงานเผลอเปิดไปแล้ว เสียใจมากไม่มีรูปกล่องให้เพื่อนๆ ดู) เมื่อได้กล่องครบทั้ง 3 ใบแล้วก็จะสามารถเปิดห้องนิรภัยเข้าไปลูทของได้ตามสะดวก พร้อมกับสำรวจแท่นศิลาได้ด้วยเลย (อย่าลืมสำรวจล่ะ! เดี๋ยวเก็บของเพลินลืมแล้วต้องย้อนมาใหม่อีก) ส่วนด้านล่างนี้ก็จะเป็นตำแหน่งของแท่นศิลาทั้งหมดจ้า จุดที่ 1 : บริเวณด้านบนขวาของภูเขาริมน้ำ จุดคบไฟด้วยล่ะ จุดที่ 2 : อยู่บริเวณหน้าห้องเป้าหมายของเราเลยจ้า จุดที่ 3 : ภายในห้องนิรภัย ให้มายังวาร์ปในถ้ำน้ำแข็ง Starglow Cavern แล้ววิ่งขึ้นไปข้างบน 1 รอบ จะเห็นสะพาน ก่อนถึงสะพานให้หันไปทางซ้ายมือ แล้วร่อนข้ามไป วิ่งต่อไปทางซ้าย (ไปผิดทางจะเจอศัตรู) ก็จะมาถึงห้องนิรภัยอันหายาก จุดที่ 4 : อยู่ด้านบนสุดของ Starglow Cavern จุดที่ 5 : อยู่ใต้ปริศนา Seelie วิ่งไล่จับ โดยต้องผ่านปริศนาสองชุด ชุดแรกจะเป็น Seelie 2 ตัว และตามด้วย Seelie 3 ตัวที่ต้องเว้นระยะห่างให้เท่ากันถึงจะผ่านได้ จุดที่ 6 : อยู่ในถ้ำน้ำแข็งที่ใช้ปลดผนึกสายลมด้านบนสุด จุดนี้จะต้องสู้กับ Ruin Guard และ Ruin Grader ด้านบนที่มีแท่นธาตุน้ำแข็ง 5 จุดให้ชนะก่อนถึงจะลงมาได้ จุดที่ 7 : บนหน้าผาของ Wyrmrest Valley สังเกตุจากเส้นถนน จุดที่ 8 : อยู่หน้า Domain น้ำแข็ง ในจุดนี้เพื่อนๆ ต้องทำเควสโลกปลดล๊อคเส้นทางที่มีสายลมพัดผ่านก่อน (ปลดผนึกน้ำแข็งทั้ง 3 จุด) จากนั้นต้องแก้ปริศนาปลดล๊อคทางเข้า Domain ที่เป็นการละลายผนึกน้ำแข็งอีกเช่นกัน ตรงจุดนี้แนะนำให้มีตัวละครที่ใช้ธนูด้วย 1 คนจะละลายน้ำแข็งได้สะดวกมาก หลังจากที่เพื่อนๆ เจอแท่นศิลาครบทั้ง 8 แห่งแล้ว ก็จะสามารถเข้าถึงตัวดาบได้ซักที แต่ทว่ายังไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ ให้เพื่อนๆ ใช้ตัวละครที่มีธาตุไฟทำการจุดคบไฟที่อยู่รอบๆ ให้ครบ 4 อันเสียก่อน เท่านี้ก็จะสามารถปลดล๊อคตัวดาบกันได้เสียที นักเดินทางเอ๋ย ความพยายามของเจ้าสัมฤทธิ์ผลแล้ว (ทำเสียงเลียนแบบบอสหมาป่า) หลังได้แบบแปลนมาก็กดใช้และไปคราฟตัวดาบกันได้เลยที่ช่างตีเหล็กเจ้าเก่าของเรา สำหรับตัวดาบนี้ก็จะเด่นในด้านของค่าสเตตัสที่เป็นโบนัสความเสียหายกายภาพ และก็อาจจะเป็นข้อเสียในเวลาเดียวกัน เนื่องจากหลายๆ คนที่ใช้ดาบใหญ่ จะมีการแปลงธาตุในการโจมตีเสมอ ซึ่งในระหว่างที่แปลงธาตุ ผลโบนัสกายภาพนี้จะไม่ทำงานหรือทำงานไม่เต็มที่ ก็จะไม่ค่อยเหมาะกับตัวละครเหล่านี้เท่าไหร่นัก อย่างไรก็ดีถ้าไม่ได้มีการแปลงธาตุแล้ว ก็เรียกได้ว่ามีความแรงในระดับที่น่าสนใจเลยทีเดียวล่ะ! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

หลังจาก Genshin Impact อัปเดต 1.2 กันมาแล้ว เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ หลายคนได้สั่นสะท้านกับความเย็นยะเยือก (Sheer Cold) บนพื้นที่หิมะตกของ Dragonspine กันเป็นแน่แท้ หลายคนอาจจะทราบเกี่ยวกับการรับมือความหนาวกันแล้ว ส่วนใครที่ยังไม่ทราบก็ลองมาดูวิธีการรับมือความหนาวกันได้จ้า ความเย็นยะเยือกและการรับมือ เมื่อเข้าสู่พื้นที่ของ Dragonspine ที่มีหิมะปกคลุมแล้ว ตัวละครจะมีเกจความหนาวปรากฎขึ้นที่ด้านบนของหลอดพลังชีวิตทันที เกจนี้จะค่อยๆ ขึ้นอย่างช้าๆ และเร็วขึ้นหากเจอสภาวะบางอย่าง เช่นพายุหิมะ (ลมแรงบนที่สูงๆ) การลงไปว่ายน้ำเล่น ซึ่งถ้าหากเกจนี้เต็มแล้วล่ะก็ จะปรากฎน้ำแข็งเกาะที่ขอบหน้าจอพร้อมกับพลังชีวิตของตัวละครที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ฮีลสู้กันตาแหกไปข้าง หมดแรงฮีลก็ตายสนิทจ้า พอใกล้เต็มหลอดก็จะมีเสียงเตือนชวนระทึกด้วยล่ะ สภาวะนี้จึงเป็นอุปสรรคที่ค่อนข้างอันตรายมากในการวิ่งเล่นด๊องๆ ใน Dragonspine แห่งนี้ แน่นอนว่าตัวเกมก็ทำวิธีการรับมือมาให้แล้ว แม้จะดูยุ่งยากไปซักนิด นั่นคือการใช้เหล่าไฟต่างๆ มาเป็นจุดสร้างความอบอุ่นให้กับตัวเองนั่นเอง โดยสิ่งที่สามารถใช้ได้นั้นก็จะมีดังนี้ คบไฟต่างๆ (ต้องติดไฟอยู่นะ) เตาปรุงอาหาร (ใช่แล้ว ต้องติดไฟอยู่เช่นกัน) จุดวาร์ปทั่วไปและเสา Statue of Seven (มีต้นเดียว) การอยู่ใกล้กับ Warming Seelie และ Seelie Garden ที่เจ้าตัวไปพำนักแล้ว อยู่ใกล้กับเสาที่ปลดปล่อยพลังของไฟออกมาได้ เก็บ Scarlet Quartz ติดตัวไว้ (การอยู่ใกล้กับจุดวาร์ปและ Statue of Seven จะทำให้หายไป) การใช้ไอเทมบางชนิด เช่น Warming Potion จะสามารถหาได้จากการปลดล็อค Frostbearing Tree เลเวล 4 อยู่ใกล้ๆ Frostbearing Tree กางโล่ไม่ช่วยจ๊ะ CEO ธาตุดินก็เอาไม่อยู่นะ แน่นอนว่าต้องขอเตือนเพื่อนๆ ก่อนว่าความเย็นยะเยือกนี้เป็นสถานะพิเศษที่อยู่กับพื้นที่ของ Dragonspine ไม่ได้เป็นสถานะติดตัวละคร ทำให้ไม่สามารถลบล้างออกได้ รวมถึงการทำให้ตัวเองติดสถานะเผาไหม้, สร้างโล่ป้องกันไม่ทำให้ความเย็นยะเยือกลดลงหรือหยุดไว้ชั่วคราวแต่อย่างใด ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ ต้องการออกสำรวจพื้นที่ในเขตนี้หรือวิ่งเล่นแล้วนั้น พยายามมองหาคบไฟต่างๆ มีตัวละครธาตุไฟไว้สำหรับจุดคบไฟเหล่านั้นกลับมาใหม่ (ระวังปฎิกิริยาธาตุที่จะทำให้ไฟดับด้วย ดับไปต้องจุดใหม่น้า) เปิดจุดวาร์ปต่างๆ จะช่วยให้สามารถเดินในพื้นที่หนาวจัดแห่งนี้ได้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ส่วนนี้ก็เป็นทิปเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการท่องเที่ยวบนภูเขาหิมะนี้ ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้าจ้า กำลังหาเพื่อนเล่นด้วยกันหรือข้อมูลอยู่ ลองมาติดตามกลุ่มของเราได้ที่