PC Guide

ใน Monster Hunter World นั้น ตัวแผนที่ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปจากภาคก่อนๆ ในแต่ละแผนที่เองก็มีการเพิ่ม Camp ที่เป็นเหมือนกับจุดเริ่มต้นของการล่าให้ ซึ่งแต่ละฉากนั้นก็มีจำนวน Camp ให้แตกต่างกันไป บ้างก็ปลดล๊อคให้จากเนื้อเรื่อง บ้างก็ต้องหาเอง ในบทความนี้ก็จะมาชี้ตำแหน่งของ Camp ทั้งหมดที่เพื่อนๆ สามารถปลดล๊อคกันได้จ้า ขอบอกได้เลยว่าปลดไว้ไม่ผิดหวัง และทำให้การล่าครั้งต่อๆ ไปนั้นสะดวกขึ้นเป็นอย่างมากเลยล่ะจ้า ข้อดีของการปลดล๊อค Camp การปลดล๊อค Camp นั้นจะช่วยให้เพื่อนๆ สามารถเลือก Camp ตอนสร้างเควสได้ (ยกเว้นเควสเนื้อเรื่องส่วนมาก) หากไม่ตกนก (เกิดขึ้นแบบสุ่ม) ก็จะสามารถเข้าถึงจุดต่างๆ ของแผนที่นั้นๆ ได้ไวขึ้น รวมถึงในตอนที่ไม่ตกเป็นเป้าการโจมตีของมอนสเตอร์ใดๆ อยู่ (แผนที่ย่อยกรอบเป็นสีแดง) จะสามารถเปิดแผนที่และเลือก Fast Travel ไปยัง Camp ที่เปิดไว้แล้วได้ เรียกว่าสะดวกสุดๆ กันเลยทีเดียว โดยเฉพาะแผนที่กว้างๆ นั้น การมี Camp จะประหยัดเวลาเดินทางในเควสได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว การเปิด Camp ไว้ยังช่วยให้คนที่เข้ามาช่วยเควสของเราสะดวกในการช่วยได้มากขึ้นด้วย เย้   Ancient Forest - 4 แห่ง Southwest Camp (1) ปลดล๊อคผ่านเนื้อเรื่อง Assignment: Jagras of the Ancient Forest Northwest Camp (8) ปลดล๊อคเอง 50 Research Point 2 x Iron Ore 1 x Ancient Bone Northeast Camp (11) ปลดล๊อคผ่านเนื้อเรื่อง Assignment: Bird-Brained Bandit Ancient Forest Camp (17) ปลดล๊อคเอง 1000 Research Point 1 x Anjanath Pelt 2 x Monster Bone L Camp 17 จะอยู่บนยอดไม้ซึ่งเดินทางไปถึงค่อนข้างลำบาก และมีหลายเส้นทางในการเดินทางไปถึงได้มาก การเริ่มจาก Camp 8 และขึ้นที่สูงไปเรื่อยๆ จนถึงรัง Anjanath และขึ้นไปอีกตามทางที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นวิธีที่ค่อนข้างง่ายในการไปมาก และเป็น Camp ที่ทำให้ไปถึงรังของ Rathalos, ที่นอนของ Kushala Daora ได้ไวมากๆ   Wildspire Waste - 4 แห่ง Southwest Camp (1) ปลดล๊อคผ่านเนื้อเรื่อง Assignment: The Best Kind of Quest Central Camp (6) ปลดล๊อคเอง 300 Research Point 2 x Vespoid Shell 1 x Monster Bone M Eastern Camp (11) ปลดล๊อคผ่านเนื้อเรื่อง Assignment: Sinister Shadows in the Swamp Northeast Camp (15) ปลดล๊อคเอง 800 Research Point 1 x Rathian Scale 1 x Monster Bone L Camp 15 เข้าได้ด้วยการไปที่ทะเลทรายใหญ่ด้านบนขวา เดินไปด้านบนสุด มองหาทางเดินมด จะเจอโพรงให้กระโดดลงไป จะเจอที่ตั้ง Camp ในบริเวณนั้น    Coral Highland - 2 แห่ง Southern Camp (1) ปลดล๊อคผ่านเนื้อเรื่อง Assignment: Ballooning Problems Northest Camp (12) ปลดล๊อคเอง 1000 Research Point 1 x Tzitzi-Ya-Ku-Hide 1 x Monster Bone M ในระหว่างการเล่น NPC ที่ Research Base จะมีให้เควสในการปลดล๊อคเชือกโหนข้ามพื้นที่ในเขต Coral Highland ด้วย   Rotten Vale - 2 แห่ง Southern Camp (1) ปลดล๊อคผ่านเนื้อเรื่อง Assignment: Radobaan Roadblock Central Camp (11) ปลดล๊อคผ่านเนื้อเรื่อง Assignment: Into the Bowels of the Vale   Elder's Recess - 3 แห่ง Southern Camp (1) ปลดล๊อคผ่านเนื้อเรื่อง เมื่อมาถึง Elder Recess Eastern Camp (8) ปลดล๊อคเอง 750 Research Point 2 x Barnos Hide+ 1 x Monster Bone+ Northwest Camp (16) ปลดล๊อคเอง 1200 Research Point 1 x Dodogame Hide+ 2 x Wingdrake Hide...

โหมดซอมบี้ในเกมแนว Shooting FPS ส่วนใหญ่มักจะมีรูปแบบการเล่นคล้ายกัน ซึ่งแบ่งการเล่นหลักๆ ออกเป็น 2 แบบคือ PVP และ PVE โดยรูปแบบของ PVP คือผู้เล่นแบ่งทีมเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเป็นซอมบี้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นคน ส่วนรูปแบบ PVE จะเป็นเหมือนกับการตะลุยด่าน ผู้เล่นคนเดียวหรือหลายคนบุกตะลุยไปทีละด่าน คอยช่วยเหลือกัน และเคลียภารกิจไปทีละลำดับ จนสุดท้ายจึงปะทะกับบอสและปราบมันลงให้ได้ โดยโหมดต่างๆ เหล่านี้ บางเกมก็มีแค่แบบเดียวบางเกมก็มีทั้ง 2 แบบ ซึ่ง “Special Force 2” เป็นแบบหลังที่มีโหมดซอมบี้ให้เราได้เล่นอยู่ถึง 2 แบบด้วยกัน เกี่ยวกับโหมด Zombie ในเกม Special Force 2 ใน Special Force 2 ตัวเกมมีโหมด Zombie ให้เราได้เล่นอยู่ทั้งหมด 2 โหมดด้วยกัน คือโหมด Zombie ใน AI mode และ Zombie Hunting ใน Casual mode โหมด Zombie ใน AI mode เป็นโหมดรูปแบบ PVE ที่เราจะต้องตะลุยตามด่านต่างๆ ของแมป ทำภารกิจให้สำเร็จก่อนจะตบบอสให้หมอบในด่านสุดท้าย โหมดนี้สามารถเล่นได้ตั้งแต่ 1 ถึง 4 คน ตัวเกมมีแมปให้เล่น 2 แบบเป็นแมปง่ายหนึ่งแมปและเป็นแมปความยากระดับกลางอีกหนึ่งแมป โหมด Zombie Hunting ใน Casual mode เป็นโหมดรูปแบบ PVP ที่จะแบ่งทีมผู้เล่นออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นซอมบี้อีกฝั่งเป็นคน กฎการเล่นง่ายๆ หาอีกฝั่งให้เจอแล้วจัดการซะ ตัวเกมสามารถเล่นได้ตั้งแต่ 2 คนไปจนถึง 16 คน มีแมปให้เล่นแค่แมปเดียว ถือเป็นโหมดการเล่นที่วุ่นวายมากๆ โหมด Zombie ใน AI mode : โหมดแห่งทีมเวิร์ค เพื่อนร่วมทีมคือตัวแปรสำคัญ ในโหมด Zombie ใน AI mode จุดเด่นของโหมดนี้คือ หากเราโดนซอมบี้ตบจนล้มเพื่อนของเราสามารถวิ่งเข้ามาชุบได้ทันที โดยที่การชุบไม่มีการโหลดใดๆ ทั้งสิ้น พูดง่ายๆ แค่เราวิ่งไปที่เพื่อนแล้วกด E เพื่อนภายในทีมของเราก็จะฟื้นกลับมาอีกครั้ง ดังนั้นต่อให้โหมดนี้ยากขนาดไหนหรือวิกฤตขนาดไหน หากยังมีเพื่อนเราอยู่เราก็ยังมีโอกาสที่จะฟื้นกลับมาได้เสมอ รวมไปถึงหากไม่มีใครมาชุบเราจริงๆ พอหมดเวลา เราจะสามารถฟื้นกลับมาเองได้อีกด้วย ดังนั้นถ้าคนในทีมไม่ล้มลงไปทั้งหมดเราก็ไม่มีวันแพ้อย่างแน่นอน เกร็ดการเล่นเล็กๆ น้อยๆ ในโหมด Zombie ใน AI mode ไม่ควรเล่นคนเดียว เพราะจะไม่มีคนช่วยชุบและตัวเกมจะยากขึ้นมากๆ ควรแบ่งจุดหน้าที่ยืนในจุดที่ซอมบี้จะเกิดและคอยดักจัดการซอมบี้ที่เกิดขึ้นมาเรื่อย เวลาที่ซอมบี้เริ่มบุกมาเยอะๆ ไม่ควรยืนอยู่กับที่หรือไปยืนอยู่ตรงมุม เพราะสามารถโดนซอมบี้รุมแล้วจะไม่สามารถหนีออกมาได้ ไม่ควรอยู่ห่างกับเพื่อนมากนัก เพราะเพื่อนจะช่วยเหลือเราได้โดยง่ายเมื่อเราล้มหรือมีซอมบี้เข้ามารุมรอบตัว มีจุดซื้อเลือดและซื้ออาวุธ โดยปืนพกเป็นอาวุธที่ควรซื้อเก็บเอาไว้เพราะมีกระสุนไม่จำกัด ควรบริหารจัดการเงินที่ฟาร์มมาให้ดีๆ เพราะช่วงหลังอาวุธที่ขายโหดมาก โดยเฉพาะตอนสู้กับบอส อาวุธโหดเป็นสิ่งสำคัญ เหตุการณ์รอบตัวเป็นสิ่งสำคัญ เช่น มีเพื่อนคนไหนล้มก็ควรรีบวิ่งเข้าไปช่วย หรือถ้าอยู่ในช่วงที่คนในทีมล้มกันหมดเหลือแค่เราคนเดียวเราก็ควรรักษาชีวิตของเราให้ดี เพราะถ้าเราล้มนั่นหมายถึงการจบเกมนั่นเอง โหมด Zombie Hunting ใน Casual mode : หลอกลวง หรือลวงหลอก ในโหมด Zombie Hunting ผู้เล่นฝั่งซอมบี้จะต้องทำตัวเนียนไม่ให้ฝั่งมนุษย์จับตัวได้ และรอเวลากลางคืนเพื่อที่ตนเองจะสามารถบุกถล่มฝั่งมนุษย์ได้โดยง่าย หรือตอนกลางวันหากฝั่งมนุษย์เผลอก็สามารถแว้งกัดได้ทันที ส่วนฝั่งมนุษย์แม้จะดูแข็งแกร่งกว่าฝั่งซอมบี้แต่ฝั่งมนุษย์จะไม่สามารถฆ่าซอมบี้มั่วๆ ได้ เพราะถ้าฆ่าซอมบี้ผิดเลือดเราจะลดลงทันทีจะทำก็ทำได้แค่เสียบเข็มฉีดยาเท่านั้น ดังนั้นฝั่งซอมบี้ภายในเกมจึงเรียกได้ว่าได้เปรียบมากๆ เกร็ดการเล่นเล็กๆ น้อยๆ ในโหมด Zombie Hunting ใน Casual mode ช่วงเวลาเป็นคีย์สำคัญในการเอาชนะของทั้ง 2 ฝั่ง ควรดูให้ดีว่าแต่ละช่วงเวลาตนควรทำอะไร ซอมบี้ทั่วไปมีประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย เราสามารถอัปเกรดความสามารถจากการฟาร์มซอมบี้พวกนี้ได้ การเคลื่อนไหวของซอมบี้เป็นจุดสำคัญของการแพ้ชนะ ฝั่งมนุษย์ควรรู้ว่า AI ซอมบี้เคลื่อนที่อย่างไร ฝั่งซอมบี้ควรฝึกควบคุมตัวเองให้เนียนไม่ให้แตกต่างจากซอมบี้

ใน Ragnarok Online อาชีพคลาสสามนั้นเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าทรงพลังเป็นอย่างมาก สมกับที่เพื่อนๆ ต้องตะลุยเก็บเลเวลกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะคนที่ผ่านการจุติมา Ranger นั้นเป็นอาชีพปลายทางที่ยิงยาวมาจาก Archer และ Sniper โดยในครั้งนี้พวกเขานั้นมีหมาป่าคู่ใจและกับดักมากมายที่พร้อมรับมือกับศัตรูต่างๆ Ranger Ranger นั้นต่อยอดมาจาก Hunter / Sniper และมาพร้อมกับคู่หูใหม่จากเจ้าเหยี่ยว Falcon ตัวเดิม ในครั้งนี้พวกเขามาพร้อมกับหมาป่ายักษ์ Warg ที่สามารถช่วยโจมตีได้เหมือนกับเจ้าเหยี่ยว (แต่ต้องมีพื้นที่ให้มันวิ่งไปแทน) และรุนแรงกว่า มีสกิลที่ช่วยเหลือการต่อสู้ได้ดีกว่า แถมยังขี่ได้ด้วย! ในด้านของสกิลนั้นก็มีสกิลโจมตีหมู่ที่รุนแรงมากขึ้นอย่าง Arrow Storm มา รวมถึงมีกองทัพกับดักจำนวนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังสามารถเปลี่ยนธาตุของมอนสเตอร์ลูกกระจ๊อกให้เป็นธาตุที่ต้องการได้ ทำให้สามารถใช้ร่วมกับลูกธนูธาตุต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ด้วยแนวทางของสกิลกระจายๆ กันไปเช่นนี้ก็ทำให้สามารถเล่นได้ทั้งสายสกิลแนวใดแนวหนึ่ง หรือไปทางสายผสมก็ได้ เกี่ยวกับค่า Status ของ Ranger ► Bonus Status (ได้รับเมื่อมี Job level ถึงที่กำหนด) Stat\Amount +1 +2 +3 +4 +5 +6 +7 +8 +9 +10 STR 26 27 AGI 4 7 18 31 39 43 45 50 55 60 VIT 12 13 14 22 32 57 INT 2 3 9 21 36 37 38 49 54 DEX 1 8 17 23 30 44 52 59 LUK 51 58 รวม Bonus Status STR AGI VIT INT DEX LUK +2 +10 +6 +9 +8 +2   ► ความเร็วการโจมตี Equip Attack Speed (เทียบกับคลาสสอง) Bare Handed 156 0 Shield -8 +1 Dagger -10 +3 Bow -9 −1   สกิลของ Ranger ชื่อสกิล ผลของสกิล เลเวล ชนิด Main Ranger เพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกัน(เป็นหน่วย) เมื่อสู้กับศัตรูชนิด Brute, Plant, Fish 10 Passive Aimed Bolt ยิงเป้าเดี่ยว เพิ่มจำนวนครั้งของการโจมตีนี้หากศัตรูขยับไม่ได้ (Immobilize) แต่จะยกเลิกสถานะไปด้วย 10 Offensive Arrow Storm ใช้ลูกธนู 10 ดอกยิงฝนลูกธนูขึ้นใส่เป้าหมาย พร้อมทำความเสียหายใส่เป้าหมายรอบๆ ด้วย 10 Offensive Camouflage ทำการซ่อนตัว ระหว่างที่ซ่อนตัวพลังป้องกันจะค่อยๆ ลดลง แต่เพิ่มโอกาสคริติคอลและพลังโจมตีสำหรับการโจมตีครั้งต่อไป ยกเลิกผลการซ่อนตัวเมื่อโจมตี การซ่อนตัวไม่มีผลกับ Insect, Demon, Boss สำหรับผู้เล่นด้วยกันจะมองเห็นตัวแต่โจมตีปกติไม่ได้ ต้องใช้สกิลใส่ 5 Active No Limits บัพตัวเอง ทำให้พลังป้องกันทั้งหมดเหลือ 1 แต่เพิ่มความเสียหายเป็นอย่างมากชั่วคราว 5 Active Fear Breeze บัพตัวเอง การโจมตีระยะไกลด้วยธนูจะมีโอกาสโจมตี 2-5 ครั้งและเสียลูกะนูตามจำนวนที่ยิงไปชั่วคราว 5 Active Warg Mastery เรียก Warg มาช่วยต่อสู้ ใช้กับ Falcon ไม่ได้ 1 Active Warg Ride ทำการขี่ Warg เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่แต่จำกัดการโจมตีและการใช้สกิล 3 Active Warg Dash ขี่ Warg : ทำการวิ่งไปข้างหน้า เมื่อหยุดจะทำความเสียหายรอบตัว หากชนผนังหรือศัตรูจะหยุด 1 Active Warg Teeth เพิ่มพลังโจมตีของสกิลต่างๆ ของ Warg 10 Passive Warg Strike สั่ง Warg โจมตี สามารถใช้งานเองอัตโนมัติเมื่อทำการโจมตีได้เหมือน Blizt Beat 5 Offensive Warg Bite สั่ง Warg โดดกัดเป้าหมาย ทำให้เป้าหมายขยับไม่ได้ ใช้ไม่ได้ตอนขี่ Warg 5 Offensive Keen Nose ทำความเสียหายรอบตัวและเผยตำแหน่งศัตรูที่ล่องหน, ปลดกับดักทั้งหมดรวมถึงของตัวเองในรัศมี มีโอกาสใช้ Warg Bite โดยอัตโนมัติ 5 Active Electric Shock วางกับดักที่จะทำให้เป้าหมายขยับไม่ได้ และลดค่า SP อย่างต่อเนื่อง 5 Active Trap Research เพิ่มความเสียหายของกับดัก, ระยะการวางกับดัก, INT และ Max SP 5 Passive Magenta Trap เมื่อทำงาน เปลี่ยนธาตุของมอนสเตอร์ที่ไม่ใช่บอสในรัศมี 5*5 รอบกับดักเป็นธาตุ Fire ไปจนกว่าจะถูกกำจัด 1 Active Cobolt Trap เมื่อทำงาน เปลี่ยนธาตุของมอนสเตอร์ที่ไม่ใช่บอสในรัศมี 5*5...

ใน Ragnarok Online อาชีพคลาสสามนั้นเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าทรงพลังเป็นอย่างมาก สมกับที่เพื่อนๆ ต้องตะลุยเก็บเลเวลกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะคนที่ผ่านการจุติมา ลูกอีช่างระเบิดจอมกวาด MVP อย่าง Biochemist นั้นก็เติบโตมาเป็น Geneticist ที่ดุขึ้น โหดขึ้นทั้งด้านการปรุงยาและการใช้รถเข็น แถมยังมีสกิลช่วยอย่างการทำอาหารเพิ่มอีก เป็นสายที่รวยแล้วจะเล่นฟินมาก Geneticist จากการถล่มด้วยขวดยามายาวนานของ Alchemist / Biochemist นั้น ในอาชีพขั้นต่อมาของพวกเขา Geneticist ก็ได้มีการอัพเกรดสกิลขึ้นมาหลายอย่างเช่นกัน และเป็นหนึ่งในอาชีพที่จัดว่าค่อนข้างยุ่งยากวุ่นวายในการเล่นไม่แพ้สมัยยังเป็น Class 2 เลย เช่นเดียวกันถ้าจัดการความวุ่นวายได้จะเป็นอาชีพที่ค่อนข้างทรงพลัง รวมถึงตะลุยกวาด MVP ได้ดีเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว ถ้ารับค่าใช้จ่ายได้ การเป็น Geneticist จะถูกพัฒนามาจาก Biochemist เกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีเป็นกลุ่มที่ดี การโจมตีธาตุวิญญาณได้ง่ายขึ้น มีการเรียกพืชที่ดีกว่าเดิม สร้างยาและระเบิดได้ดีกว่าเดิม Homunculus ที่แจ่มกว่า อยากได้อะไรอีก!? รถเข็นที่ดีขึ้น จัดไป! พูดถึงรถเข็นแล้ว แม้ว่าทาง Mastersmith จะมีสกิลอย่าง Cart Boost แต่ทาง Geneticist นั้นก้าวเหนือกว่าด้วยการปรับเปลี่ยนรถเข็นได้ มี Cart Boost ของตัวเองและแทบจะกลายเป็นอาวุธคู่ใจไปเลยก็ว่าได้   เกี่ยวกับค่า Status ของ Geneticist ► Bonus Status (ได้รับเมื่อมี Job level ถึงที่กำหนด) Stat\Amount +1 +2 +3 +4 +5 +6 +7 +8 +9 +10 +11 +12 STR 34 51 56 AGI 8 20 29 40 47 55 VIT 15 18 24 25 52 57 INT 1 2 7 12 23 35 36 41 44 45 50 60 DEX 3 6 13 19 28 39 53 59 LUK 31 58 รวม Bonus Status STR AGI VIT INT DEX LUK +3 +6 +6 +12 +8 +2   ► ความเร็วการโจมตี Equip Attack Speed (เทียบกับคลาสสอง) Bare Handed 156 0 Shield -4 0 Dagger -10 0 Sword (One Handed) -4 +1 Axe (One Handed) -11 −6 Axe (Two Handed) -11 +1 Mace -5 0   สกิลของ Geneticist ชื่อสกิล ผลของสกิล เลเวล ชนิด Blood Sucker ใช้ Bloodsuck Plant Seed : ปล่อยต้นไม้ดูดเลือดไปเกาะเป้าหมาย ทำความเสียหายตายตัวและดูดเลือดมาให้ส่วนหนึ่ง ปล่อยต้นไม้ได้ 3 ต้นแต่ว่าจะเกาะเป้าหมายเดียวกันได้แค่ต้นเดียว 5 Offensive Bomb Creation สร้างระเบิดผลไม้ชนิดต่างๆ ต้องมีคู่มือสร้างระเบิดด้วย 2 Active Cart Boost (Geneticist) เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่เป็นอย่างมาก รวมถึงเพิ่มพลังโจมตี ชั่วระยะเวลาสั้นๆ 5 Active Cart Cannon ยิงกระสุน Cannon Ball ใส่เป้าหมาย สร้างความเสียหายเป็นกลุ่ม พลังป้องกันจะหักลบเป็นหน่วยตรงๆ กับสกิลนี้เท่านั้น โดนเป้าหมายอย่างแน่นอน 5 Offensive Cart Remodeling เพิ่มความจุของรถเข็น และความแม่นยำของสกิลโจมตีที่ใช้รถเข็น 5 Passive Cart Tornado ควงรถเข็นโจมตีเป็นกลุ่ม 5*5 รอบตัวและผลักศัตรูให้ปลิวออกไป 3 ช่อง 5 Offensive Change Material ทำการแปรธาตุ เปลี่ยนไอเทมวัตถุดิบสองชนิดที่ใช้ทำยาให้กลายเป็นวัตถุดิบอื่น ถ้าสูตรที่ใช้ไม่ถูกต้องจะได้รับไอเทมกลับมาเหมือนเดิม 1 Active Crazy Vines ใช้ Thorn Plant Seed : เรียกเถาวัลย์จำนวนมากออกมาปกคลุมรอบตัวผู้ใช้สกิล เถาวัลย์แต่ละเถาจะทำความเสียหายกายภาพธาตุ Earth และลบล้างสกิลที่อยู่บนพื้นตรงนั้นออก สามารถโดนเป้าหมายเดิมซ้ำได้จากเถาหลายๆ เถา 10 Offensive Demonic Fire ใช้ Bottle Grenade : ปาระเบิดไฟลงไปยังพื้นที่ที่กำหนด สร้างเปลวไฟขนาด 5*5 และทำความเสียหายอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสทำให้ติด Burning 5 Offensive Fire Expansion ปาวัตถุดิบบางชนิดลงไปบน Demonic Fire เพื่อทำให้เกิดผลพิเศษ เช่นไฟลุกนานขึ้น เปลี่ยนเป็นควันที่ลดอัตราการหลบหลีก หรือระเบิดทันที 5 Offensive Full Throttle เติม HP เต็ม, เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่เป็นสองเท่า และเพิ่มค่า Base Status (ไม่รวม...

อาชีพใหม่ๆ มักจะเกิดขึ้นในโลกของเกม Online เสมอ ซึ่งใน Ragnarok Online เองนอกจากจะมีอาชีพใหม่ๆ อย่าง Class 3 ที่ต่อยอดมาจากอาชีพเดิมเรื่อยๆ แล้ว ก็ยังมีอาชีพเสริมมากมายที่เป็นสายที่แยกออกมาด้วย ในครั้งนี้ก็จะพูดถึงอาชีพ Summoner ที่แตกเป็นอาชีพใหม่พร้อมทั้งเป็นเผ่าพันธุ์ใหม่อย่าง Doram กันหน่อย Summoner Doram นั้นเป็นเผ่าใหม่ที่พึ่งปรากฎตัวขึ้นในโลกแห่ง Ragnarok Online โดยมีลักษณะเป็นเผ่าสัตว์คล้ายมนุษย์ แต่มีขนาดตัวที่เล็กกว่า อาชีพเฉพาะของพวกเขาที่มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่เป็นได้นั่นคือ Summoner จุดเด่นของอาชีพนี้ก็จะไม่พ้นการเป็นได้หลายหลาก ไม่ว่าจะเป็นกรสร้างความเสียหายทางกายภาพ การสร้างความเสียหายด้วยเวทย์มนตร์ แม้แต่การซัพพอร์ทเพื่อนร่วมทีมในปาร์ตี้ด้วยบัพชนิดต่างๆ ก็ยังได้ ข้อเสียของอาชีพนี้ก็คงไม่พ้นการที่ถูกจำกัดอุปกรณ์สวมใส่ต่างๆ ค่อนข้างมาก ทำให้ตัวเลือกนั้นอาจจะไม่อิสระเท่าอาชีพอื่นที่มีความอิสระของสกิลใกล้เคียงกันเท่าไหร่นัก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าสกิลของ Summoner จะด้อยกว่าแต่อย่างใด แต่ละสกิลก็ยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์ที่จะแตกต่างจากอาชีพอื่นได้อย่างมากอยู่ เกี่ยวกับค่า Status ของ Summoner ► Bonus Status (ได้รับเมื่อมี Job level ถึงที่กำหนด) Stat\Amount +1 +2 +3 +4 +5 +6 +7 +8 +9 +10 STR AGI 8 11 15 19 27 39 48 VIT 3 6 24 43 47 INT 9 12 16 20 31 36 42 DEX 1 5 13 17 21 25 32 41 45 50 LUK 23 29 34 37 46 รวม Bonus Status STR AGI VIT INT DEX LUK +0 +7 +5 +7 +10 +5   ► ความเร็วการโจมตี Equip Attack Speed Bare Handed 156 Shield -7 Rod (One Handed) -20   สกิลของ Summoner ► สกิลพื้นฐาน ชื่อสกิล ผลของสกิล เลเวล ชนิด Basic Skill (Doram) สกิลพื้นฐานที่เทพกว่ามนุษย์เพราะแต้มเดียวจบ 1 Passive Bite ทำความเสียหายกายภาพ 200% ใส่เป้าหมาย 1 Offensive Hide หลบในพุ่มไม้ สกิลที่เปิดเผยเป้าหมายจะไม่เปิดเผยตัวกับสกิลนี้ ใช้กับ Insect, Demon, Boss ไม่ได้ 1 Active Scratch ข่วนทำความเสียหายและมีโอกาสทำให้เป้าหมายติด Bleeding 3 Offensive Lope กระโดดข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ ใช้ในแผนที่ที่ใช้ Fly Wing ได้เท่านั้น 3 Active Stoop บัพตัวเอง ได้รับความเสียหายน้อยลง 90% เป็นเวลา 6 วินาที 1 Supportive Sprite Marble เพิ่มค่า Max HP 1000, Max SP 100 1 Passive Soul Attack ทำให้การโจมตีปกติ กลายเป็นการโจมตีระยะไกลด้วยระยะ 15 ช่อง 1 Passive   ► สกิลอาหารทะเล ชื่อสกิล ผลของสกิล เลเวล ชนิด Fresh Shrimp บัพเป้าหมาย ฟื้นฟูพลังชีวิตเท่ากับ Heal lv 5 หารสอง (สูตรคำนวนเดียวกัน) ทุกๆ 10~6 วินาที เป็นเวลา 2 นาที 5 Supportive Bunch of Shrimp ใช้ Shrimp : ฟื้นฟูพลังชีวิตของทุกคนในหน้าจอ และบัพเพิ่มพลังโจมตีกายภาพและเวทย์ 10% เป็นเวลา 180 วินาที 5 Supportive Tuna Belly ฟื้นฟูพลังชีวิตตามค่า Max HP 10-90% สามารถใช้กับคนที่ติด Frenzy และอยู่ใน Madogear ได้ 5 Supportive Tuna Party บัพเป้าหมาย สร้างโล่รับความเสียหายตามอัตราส่วนพลังชีวิต 10-50% ของผู้ใช้สกิลนี้ ไม่สามารถ Dispel ได้ 5 Supportive Power of Sea เพิ่มผลการฮีลต่างๆ 10% หากมีการอัพสกิลสายอาหารทะเลเกิน 20 แต้มจะเพิ่มผลฮีลเป็น 20% แทน 1 Passive Advanced Skills Grooming บัพเป้าหมาย เพิ่มค่า Flee 100 เป็นเวลา 3-7 วินาที และลบล้างสถานะ Poison, Frozen, Stun, Sleep, Bleeding, Silence, Crystallization, Deep Sleep, Fear, Mandragora...

ใน Ragnarok Online นั้น อาชีพคลาสสามนั้นเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าทรงพลังเป็นอย่างมาก สมกับที่เพื่อนๆ ต้องตะลุยเก็บเลเวลกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะคนที่ผ่านการจุติมา สำหรับ Champion ที่ผ่านการต่อยมาอย่างโชคโชน เมื่อจอมมาร Morocc ตื่นขึ้น พวกเขาก็ได้ทิ้งตัวเองสู่หนทางแห่งพลัง กลายเป็น Sura Sura Sura เป็นอาชีพที่ต่อมาจาก Monk และ Champion โดยเน้นในการเสริมจุดเด่นทั้งหมดที่เคยมีมา และเพิ่มสิ่งที่สายอาชีพตัวเองขาดไปที่สุดอย่างสกิลหมู่ทั้งหลาย พร้อมกับการบัพที่มากมาย ทำให้เป็นอาชีพที่มีความเข้ากันได้กับทุกปาร์ตี้ได้เป็นอย่างมาก สามารถถมที่ที่ขาดไปได้ในหลายๆ ส่วน จะยกเว้นก็แค่ความเสียหายเวทย์ก็เท่านั้นเอง ส่วนที่มาที่ไปนั้น ก็ต้องย้อนไปเมื่อตอน Satan Morocc ปรากฎตัวขึ้นมา Monk จำนวนมากก็ได้ละทิ้งหน้าที่ในการเป็นสาวกของพระเจ้า และทุ่มเทฝึกตนให้มากขึ้น แม้จะโดนดูถูกว่าเป็นพวกโหยหาพลังแต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก ก่อนจะมุ่งมั่นฝึกตัวและฝึกฝนให้ควบคุมพลังใหม่ได้ สิ่งที่พวกเขาต้องเสียไปกับพลังใหม่คือความเป็นมนุษย์ที่น้อยลง แต่ก็แลกมาด้วยพลังที่พวกเขาจะใช้ในทางที่ถูกที่ควร และปกป้องสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ต่อไป เกี่ยวกับค่า Status ของ Sura ► Bonus Status (ได้รับเมื่อมี Job level ถึงที่กำหนด) Stat\Amount +1 +2 +3 +4 +5 +6 +7 +8 STR 4 5 9 16 20 30 51 59 AGI 1 10 23 24 35 43 44 53 VIT 14 15 19 31 42 56 INT 28 29 41 48 54 60 DEX 2 11 25 36 37 49 50 58 LUK 55 รวม Bonus Status STR AGI VIT INT DEX LUK +8 +8 +6 +6 +8 +1   ► ความเร็วการโจมตี Equip Attack Speed (เทียบกับคลาสสอง) Bare Handed 158 +2 Shield -5 0 Mace -5 −2 Rod (One Handed) -10 +10 Rod (Two Handed) -12 +6 Knuckle -1 −1   สกิลของ Sura ชื่อสกิล ผลของสกิล เลเวล ชนิด Gentle Touch-Cure ใช้ 1 Spirit Sphere : ฟื้น HP เป้าหมายและมีโอกาสรักษาสถานะผิดปกติ 5 Supportive Gentle Touch-Convert ใช้ 2 Spirit Sphere : บัพเพิ่มพลังโจมตีและความเร็วการโจมตีให้กับเป้าหมาย แต่ลดพลังชีวิตและพลังป้องกันเวทย์ลง ใช้กับ Gentle Touch-Revitalize, Gentle Touch-Energy Gain ไม่ได้ 5 Supportive Gentle Touch-Revitalize ใช้ 2 Spirit Sphere : บัพเพิ่มพลังชีวิต, อัตราการฟื้นฟูพลังชีวิต, พลังป้องกัน ทำให้พลังชีวิตฟื้นฟูได้แม้จะเคลื่อนที่อยู่ ใช้กับ Gentle Touch-Convert, Gentle Touch-Energy Gain ไม่ได้ 5 Supportive Gentle Touch-Silence โจมตีเป้าหมาย มีโอกาสทำให้ติด Silence 5 Supportive Gentle Touch-Energy Gain บัพเป้าหมาย ทำให้มีโอกาสได้รับ Spirit Sphere เมื่อโจมตีหรือถูกโจมตี ใช้กับ Gentle Touch-Revitalize, Gentle Touch-Convert ไม่ได้ 5 Supportive Power Absorb ดูด Spirit Sphere จากผู้เล่นทุกคนในรัศมี 5*5 มาฟื้นค่า SP ของตัวเอง 1% ต่อลูก 1 Supportive Power Implantation โอนถ่าย Spirit Sphere ทั้งหมดที่ตัวเองมีให้กับเป้าหมาย 1 Supportive Lightning Walk บัพตัวเอง ทำให้มีโอกาสหลบการโจมตีระยะไกลได้และพุ่งเข้าไปหาเป้าหมายที่โจมตีใส่ทันที 5 Supportive Cursed Circle ร่ายคำสาปเพื่อทำให้ศัตรูรอบตัวถูกจับ ขยับไม่ได้และติด Silence โดยจะเสีย Spirit Sphere 1 ลูกและ 120 SP ต่อศัตรูที่จับได้ 1 ตัว 5 Active Full Throttle เติม HP เต็ม, เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่เป็นสองเท่า และเพิ่มค่า Base Status (ไม่รวม +) 20% แต่เมื่อหมดเวลาจะเคลื่อนที่ช้าลง 25% และไม่ฟื้นฟู HP / SP อัตโนมัติ 10 วินาที 1 Active Crescent...

ใน Ragnarok Online นั้น อาชีพคลาสสามนั้นเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าทรงพลังเป็นอย่างมาก สมกับที่เพื่อนๆ ต้องตะลุยเก็บเลเวลกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะคนที่ผ่านการจุติมา อาชีพในครั้งนี้ก็จะมาพูดถึง Royal Guard ที่อัพเกรดความเป็นตู้เย็นสู่ตู้เย็นระดับโหดเถื่อน ไม่ได้เป็นแค่ Tank มอนแต่ฟาดมอนไม่ยั้งกันเลย Royal Guard อาชีพ Royal Guard เป็นสายต่อมาจาก Crusader และ Paladin ซึ่งตามท้องเรื่องนั้นเป็นอัศวินของราชา Schmidtz ใน Glast Heim ซึ่งตัวราชานั้นได้รู้ว่าการจะปกป้องอาณาจักรของเขาจากความชั่วร้ายที่กัดกินโลกใบนี้ เขาต้องการกองอัศวินที่แข็งแกร่งกว่านี้และจงรักภักดีกับเขาเพียงผู้เดียว และนั่นคือที่มาของเหล่า Royal Guard ที่ขี่กริฟฟินเหล่านี้ อาชีพนี้มีพลังชีวิตที่สูงและค่า SP ที่มาก การเปลี่ยนเป็น Royal Guard นั้นจะทำให้เข้าถึงสกิลที่มีทั้งในด้านการโจมตีและการป้องกันที่มากขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน และมีสกิลที่สนับสนุนการเล่นเป็นทีมมากกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ Rune Knight ที่เน้นไปทางพลังของตัวเองโดยตรง (และการเผาด้วย Dragon Breath) ทำให้เป็นอาชีพที่มีความหลากหลายในการเล่นค่อนข้างมากและรับหน้าที่ได้ค่อนข้างหลายตำแหน่งเลยทีเดียว   เกี่ยวกับค่า Status ของ Royal Guard ► Bonus Status (ได้รับเมื่อมี Job level ถึงที่กำหนด) Stat\Amount +1 +2 +3 +4 +5 +6 +7 +8 +9 +10 STR 4 13 30 40 45 48 58 AGI 23 34 51 VIT 2 9 27 41 42 53 59 INT 3 5 11 19 24 26 37 38 46 60 DEX 6 14 20 31 44 49 56 LUK 16 33 54 รวม Bonus Status STR AGI VIT INT DEX LUK +7 +3 +7 +10 +7 +   ► ความเร็วการโจมตี Equip Attack Speed (เทียบกับคลาสสอง) Bare Handed 156 0 Shield -5 0 Dagger -7 +1 Sword (One Handed) -5 −2 Sword (Two Handed) -9 +6 Axe (One Handed) -8 +2 Axe (Two Handed) -12 +3 Mace -4 +1 Spear (One Handed) -10 +3 Spear (Two Handed) -10 +2   สกิลของ Royal Guard ชื่อสกิล ผลของสกิล เลเวล ชนิด Moon Slasher โจมตีศัตรูรอบตัวเป็นวงกว้าง หากเป้าหมายเป็นผู้เล่นจะมีโอกาสทำให้ต้องนั่งลงอัตโนมัติ แต่หากเป็นมอนสเตอร์จะทำให้ขยับไม่ได้ 1-4 วินาทีแทน 5 Offensive Exceed Break สร้างบัพที่จะทำให้การโจมตีครั้งต่อไปแรงขึ้นเป็นหลายเท่าตัว บัพนี้จะหายไปเมื่อโจมตีไม่ว่าจะพลาดหรือโดนก็ตาม ไม่สามารถถูกลบล้างได้ ระหว่างร่ายสามารถเคลื่อนที่ได้ แต่จะขยับได้ช้าลง หากใช้กับ Martyr's Reckoning จะเกิดผลเมื่อผลของ Martyr สิ้นสุดแล้ว 5 Offensive Cannon Spear หอก : แทงไปใส่ศัตรู สร้างความเสียหายเป็นเส้นตรงเหมือนกระสุนปืนใหญ่ กินพื้นที่กว้าง 3 ช่องยาว 11 ช่อง 5 Offensive Vanishing Point หอก : (Range) แทงระยะไกลศัตรู มีความแม่นสูงขึ้นและความแรงมากขึ้นตามเลเวลของ Bash 10 Offensive Pinpoint Attack หอก : (Range) พุ่งแทงจุดตายของเป้าหมาย สร้างความเสียหาย Critical อย่างแน่นอน มีโอกาสทำให้ Bleeding หรือทำลายอุปกรณ์ของศัตรูขึ้นกับเลเวลของสกิลที่ใช้ 5 Offensive Overbrand ฟาดศัตรูอย่างรุนแรง 2 ครั้งเป็นวงกว้างมาก ครั้งแรกจะแทงไปด้านหน้าเป็นทางยาว ครั้งที่สองจะตวัดข้างเป็นวงกว้าง พื้นที่ด้านหน้าจะโดนโจมตีทั้ง 2 ครั้ง และสร้างคลื่นกระแทกผลักศัตรูออกไป ถ้าศัตรูกระแทกกับสิ่งกีดขวางจะได้รับความเสียหายเพิ่มเติม 5 Offensive Vanguard Force สร้างบัพที่จะเพิ่มค่า HP สูงสุดและพลังป้องกันโดยจะเสีย SP ไปเรื่อยๆ ระหว่างนี้จะมีโอกาสได้รับแต้ม Rage เมื่อถูกโจมตี 5 Supportive Burst Attack ใช้แต้ม Rage ทั้งหมดที่มีโจมตีออกไป ยิ่งแต้ม Rage เยอะและค่า HP เหลือน้อย ท่านี้จะยิ่งแรงขึ้น 1 Offensive Banding สร้างบัพที่จะช่วยเพิ่มพลังโจมตี พลังป้องกัน และแชร์เลือดของ Royal Guard ทุกคนที่มีบัพนี้ในระยะ 7*7 ช่องรอบตัว สกิลนี้จะแสดงผลต่อเมื่อมี...

พึ่งเปิดตัวกันไปสำหรับ Legends of Runeterra จากผู้พัฒนา Riot เจ้าเดียวกับ League of Legends ที่เรารู้จักกันดี ซึ่งเกมนี้มาในรูปแบบเกมการ์ดค่ะ แนว ๆ Hearthstone อะไรทำนองนั้น แต่ขอบอกก่อนเลยว่าแนวการเล่นต่างกันมาก ๆ ค่ะ ถ้าใครเป็นน้องใหม่สำหรับเกมการ์ดอาจจะงงนิดหน่อย วันนี้จูลเลยจะมาบอกวิธีการเล่นเบื้องต้นของ Legends of Runeterra พร้อมแล้วไปกันเลยค่ะ! อินเทอร์เฟส ก่อนจะเล่นเรามาดูอินเทอร์เฟสกันคร่าว ๆ ก่อนค่ะ วิธีการเล่น ถ้าหากเพื่อน ๆ เคยเล่นเกม Hearthstone หรือเกมการ์ดอื่น ๆ มาก่อน จะทำให้เข้าใจการเล่นเกมนี้ได้ง่ายขึ้นค่ะ กฎหลักของเกมคือการทำลาย Nexus ของเป้าหมายเพื่อที่จะชนะ โดยใช้มานาของเราในการวางการ์ดแต่ละเทิร์น เพื่อร่ายคาถาและซัมมอนการ์ดนั้นมาทำดาเมจแก่ฝ่ายตรงข้าม เราจะเริ่มต้นด้วยเลือดของ Nexus 20 health ถ้าลดเหลือ 0 เมื่อไรจบเกมทันที ในช่วงเริ่มต้นตัวเกมจะจั่วการ์ดให้เรา 4 ใบ เราสามารถกด Replace การ์ดที่ไม่ต้องการได้และตัวเกมจะทำการสุ่มการ์ดใบใหม่ให้ อยากที่บอกเราต้องใช้มานาในการวางการ์ดค่ะ ช่วงแรกอาจจะต้องอดทนนิดหน่อยเพราะมานาน้อย แต่เลทเกมเราจะมีมานาเพิ่มมากขึ้นซึ่งมานาจะเต็มที่ 10 มานาในตอนนี้แหละค่ะที่เราจะสามารถลงการ์ดโหด ๆ ในเด็คของเราและลงการ์ดได้หลายใบในเวลาเดียวกัน การ์ด Allies ในเกมนี้นั้นเหมือนกัน minions ในเกม Hearthstone คือมีทั้งพลังโจมตี เลือด และสามารถใช้โจมตีคู่ต่อสู้หรือโจมตี Nexus ของอีกฝ่ายได้ การ์ด Spells มีเอฟเฟกต์ที่เอาไว้ใช้กับการ์ด Allies เช่น บัฟพลังโจมตีหรือฮีลเลือด บางการ์ดสามารถโจมตีใส่คู่ต่อสู้เพื่อลดเลือดและบางการ์ดก็มีสกิลพิเศษ เช่น stun การ์ด Allies ของฝ่ายตรงข้าม สิ่งที่แตกต่างแบบมาก ๆ เลยจากเกมการ์ดเกมอื่นก็คือ Rounds play ค่ะ ในแต่ละรอบเราจะถูกสลับระหว่างฝ่ายโจมตีและฝ่ายป้องกัน ทุกครั้งที่ฝ่ายโจมตีลงการ์ด ฝ่ายป้องกันจะสามารถลงการ์ดป้องกันการโจมตีและสามารถตอบโต้ได้ แต่ฝ่ายโจมตีต้องลงการ์ดก่อนนะไม่งั้นฝ่ายป้องกันจะทำอะไรไม่ได้เลยค่ะ ลำดับในการเล่น เทิร์นที่ 1 ฝ่ายโจมตีและฝ่ายป้องกันผลัดกันจั่วไผ่และร่ายการ์ด เทิร์นที่ 2 ฝ่ายโจมตีเลือกการ์ดที่จะต่อสู้ลงสู่กระดาน เทิร์นที่ 3 ฝ่ายป้องกันเลือกการ์ดเพื่อบล็อคการโจมตี และทั้งสองฝ่ายสามารถลงการ์ด Spells ได้ เทิร์นที่ 4 เริ่มการต่อสู้ เทิร์นที่ 5 ถ้าหากมีมานาเหลือทั้งสองฝ่ายจะสามารถเลือกการ์ดมาวางไว้นอกกระดานได้จนกว่าจะกด Pass จบเทิร์นทั้งสองฝ่ายจะสลับตำแหน่งกันระหว่างฝ่ายโจมตีและฝ่ายป้องกัน ระบบการต่อสู้ ระบบการต่อสู้ของ Legends of Runeterra คือการเผชิญหน้ากันของฝ่ายโจมตีและฝ่ายป้องกัน ทั้งสองฝ่ายต้องทำลาย Nexus ของฝ่ายตรงข้ามเพื่อชนะ ฝ่ายโจมตีจะต้องเริ่มการต่อสู้โดยการลากการ์ดลงสู่กระดาน หลังจากนั้นฝ่ายป้องกัยจะทำการเลือกการ์ดเพื่อมาบล็อคการโจมตี ต้องบอกก่อนว่าการลงการ์ดไปบนกระดานสามารถเลือกช่องที่จะวางได้ค่ะ สมมุติฝ่ายโจมตีลงการ์ดมาบนกระดาน 6 ใบ ฝ่ายป้องกันสามารถเลือกช่องที่จะลงการ์ดเพื่อบล็อคการโจมตีได้ค่ะ เช่น การ์ดของฝ่ายโจมตีใบด้านซ้ายสุดมีพลังการโจมตีที่เยอะที่สุดบนกระดานเราก็เลือกลงการ์ดไปที่ซ้ายสุดเพื่อบล็อคการโจมตีการ์ดใบนั้น เมื่อทั้งสองฝ่ายร่ายการ์ดโจมตีซึ่งกันและกันจน Nexus ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกทำลายก็เป็นอันจบเกม การ์ดในเกมมีคำคีย์เวิร์ดซึ่งเป็นเอฟเฟกต์ที่ใช้ในการต่อสู้ เดี๋ยวเราจะอธิบายในข้อต่อไปค่ะ ระบบมานา ระบบมานาของ Legends of Runeterra เหมือนกับเกม Hearthstone เลยค่ะ คือการ์ดทุกใบที่ถูกหยิบมาใช้จะมีจำนวนมานาบอกที่มุมซ้ายของการ์ด ทุกเทิร์นจะมีจำนวนมานากำหนดไว้และจะเพิ่มขึ้นทุกเทิร์นที่เล่น และยังมี Spell Mana ซึ่งจะเอาไว้ใช้กับการ์ด Spell เมื่อเราลงการ์ด Spell มันจะดึงมานาตัวนี้มาใช้โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้มานาหลักและเราจะได้รับเพิ่มขึ้นในเทิร์นต่อไป Spell Mana จะเต็มที่ 3 ส่วนมานาหลักจะเต็มที่ 10 ค่ะ Spells Spells ของ Legends of Runeterra มีการทำงานเหมือนกับเกมการ์ดอื่น ๆ แต่ความแตกต่างของมันก็คือทุก ๆ Spells มีคุณสมบัติความเร็วที่กำหนดเอาไว้และจังหวะการตอบโต้ของคู่ต่อสู้ต่างกัน ดังนี้ Icon Spells Details Burst เป็น Spell ที่เร็วที่สุดในเกม สามารถลงได้ตลอดเวลา เวลาลงการ์ดที่มี Burst จะทำงานทันทีโดยที่คู่ต่อสู้ยังไม่ทันได้ตอบโต้ Fast เป็นอีก Spell ที่สามารถลงได้ตลอดเวลา แต่สามารถถูกเค้าท์เตอร์ได้ด้วย Burst หรือ Fast ของคู่ต่อสู้ Slow เป็น Spell ที่ลงได้เฉพาะตอนที่ไม่ได้ต่อสู้เท่านั้นและคู่ต่อสู้สามารถเค้าทฺเตอร์ได้ Fleeting Spell นี้ เป็น Spell ชั่วคราวและจะหายไปหากเราไม่ได้หยิบมันมาใช้ในเทิร์นนั้น   Keywords Allies และ Champions มีคำคีย์เวิร์ดที่เอาไว้ใช้เรียกความสามารถพิเศษต่าง ๆ ถ้าต้องการดูรายละเอียดของคีย์เวิร์ดเหล่านั้นว่ามีอะไรบ้างให้กดไปที่การ์ดนั้นแล้วรายละเอียดการ์ดทั้งหมดจะขึ้นมาบนหน้าจอเราค่ะ ด้านล่างคือคีย์เวิร์ดที่ใช้ในเกมค่ะ Icon Keywords Details Allegiance เมื่อเรียกยูนิตที่มี Keyword Summoned ออกมา จะได้รับโบนัสถ้าการ์ดนั้นอยู่ใน Region เดียวกัน Attune เมื่อใช้จะเพิ่ม 1 Spell มานา Aura เอฟเฟกต์ที่ส่งผลกับการ์ดอยู่ตลอดเวลาที่อยู่บนกระดาน สามารถเลือกการ์ดที่จะใช้เอฟเฟกต์ได้ Barrier กันดาเมจทั้งหมดได้ 1 ครั้ง ใช้เวลา 1 เทิร์นและไม่ทับซ้อนกับการ์ด Barrier อื่น ๆ Can't Attack ยูนิตนี้ไม่สามารถถูกโจมตีได้ด้วยการโจมตีแบบปกติ Can’t Block ไม่สามารถบล็อคการโจมตีได้ Capture ยูนิตที่ถูกการ์ด Capture จะโดนลบออกจากกระดาน และการ์ด Capture จะไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น Challenger ยูนิตที่มี Challenger จะสามารถบังคับให้ยูนิตของอีกฝ่ายบนกระดานเข้ามาบล็อคการโจมตี รวมถึงการ์ดที่ไม่สามารถบล็อคได้ Deep เมื่อเด็คของเรามีการ์ด 15 ใบหรือน้อยกว่า ยูนิตจะบวกพลังการโจมตีและเลือด 3 (+3|+3) Discard ลบการ์ดทุกอย่างออกจากเด็คและบนมือของเรา Double Attack ทำให้ยูนิตที่มี Strike สามารถโจมตีได้ 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็น Quick Attack ครั้งที่สองเป็นการโจมตีธรรมดา Drain สร้างความเสียหายกับฝ่ายศัตรูและเพิ่มเลือดให้ Nexus ตามจำนวนที่ระบุบนการ์ด Elusive สามารถถูกบล็อคจากการโจมตีได้เฉพาะยูนิตที่มี Elusive เหมือนกัน Enlightened เมื่อมานาเต็ม 10 การ์ดที่มีเอฟเฟกต์นี้จะเป็นอมตะ Ephemeral ยูนิตนี้จะตายหลังการโจมตี...

หลังจากได้มีการปล่อย Cinematic Trailer ออกมาให้เหล่าแฟนเกมได้ชมกันกับ Assassin’s Creed Vahalla ได้แสดงให้เห็นถึงธีมและภาพรวมของตัวเกมว่าเป็นแบบใด สิ่งที่เรารู้จากวีดีโอดังกล่าวคือในภาคนี้จะมีการดำเนินเนื้อเรื่องอยู่ในยุคสมัยของเหล่าไวกิ้ง โดยทางฝั่งของผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Eivor ชาวไวกิ้งผู้นำพาคนของเขาอพยพจากนอร์เวย์มายังหาดของอังกฤษในช่วงยุคสมัยแห่งสงครามนั่นเอง https://youtu.be/L0Fr3cS3MtY นอกเหนือจากภาพรวมของตัวเกมแล้ว เรายังจะได้เห็นตัวละครสำคัญตัวหนึ่งซึ่งมีบทบาทต่อเหตุการณ์มากมายในเกม ตัวละครนั้นก็คือ Alfred the Great หรือ พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช หนึ่งในผู้นำอันยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัยนั้น แน่นอนว่าเขาเป็นบุคคลสำคัญผู้จะมาต่อกรกับทางฝั่งของชาวไวกิ้งที่หมายจะบุกรุกอังกฤษนั่นเอง ถ้าหากเปรียบเทียบในมุมมองของ Assassin’s Creed แล้วละก็ เขาคนนี้อาจจะมีเบื้อหลังความเกี่ยวข้องกับองค์กร Templar อยู่ก็เป็นได้ และนั่นก็อาจจะทำให้เขากลายเป็นบอสใหญ่ของเกมไปเลยก็ว่าได้ สำหรับตัวของชายผู้นี้นอกเหนือจากการเป็นตัวละครสำคัญในตัวเกมภาคนี้แล้ว ในประวัติศาสตร์จริงตัวของเขาก็ยังมีความสำคัญอย่างมากเลยทีเดียว ดังนั้นในบทความนี้เราก็ลองมาดูกันดีกว่าว่าบุคคลผู้นี้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเกมบ้าง ช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ในเกม Assassin’s Creed Vahalla จะมีการดำเนินเนื้อเรื่องในช่วยของยุคไวกิ้ง ถ้าหากนับตามไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์จริงๆ แล้วเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในช่วง คริสต์ศตวรรษที่ 9 (ช่วงปี ค.ศ. 801 - 900) ตรงกับช่วงยุคกลางอันเต็มไปด้วยทั้งความรุนแรงและความโหดร้ายจากการปะทะกันของชาวไวกิ้งกับ Anglo Saxon หรือก็คือประเทศอังกฤษและสก็อตแลนด์ในปัจจุบันนั่นเอง ช่วงเวลานั้นจะยังไม่ได้มีการรวมแผ่นดินโดยรอบให้เป็นปึกแผ่นเหมือนอย่างปัจจุบัน จึงทำให้มีการแบ่งออกเป็น 4 อาณาจักรใหญ่คือ Northumbria East Anglia Mercia และ Wessex  ช่วงเวลาที่ตัวเกมมีการดำเนินเนื้อเรื่องนั้น การปะทะกันของทั้งสองฝ่ายก็ได้เกิดมากว่าร้อยปีแล้ว ซึ่งทางผู้เล่นจะได้รับหน้าที่นำกลุ่มไวกิ้งชุดใหม่ไปโจมตีทั้ง 4 อาณาจักร พร้อมด้วยหัวเมืองใหญ่ต่างๆ แต่ว่ามันก็ไม่ได้ง่ายเลยเพราะแต่ละแห่งนั้นจะมีผู้นำคอยสั่งการและพร้อมรับมือกับเราอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณทางใต้อันเป็นที่ตั้งของอาณาจักร Wessex อันถูกกล่าวขานว่าแข็งแกร่งกว่าใคร ด้วยการได้ผู้นำอันมีความสามารถซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยเขาก็คือ Alfred the Great นั่นเอง สรุปแล้วชายผู้นี้คือใคร Alfred the Great หรือ พระเจ้าอัลเฟรดมหาราช เป็นบุตรชายคนที่ 5 ของกษัตริย์ AethelWulf แห่งอาณาจักร Wessex ตัวของท่านได้ขึ้นครองราชในช่วงปี ค.ศ. 871 ตามหลังจากพี่ชายของท่าน หลังจากขึ้นครองราชท่านก็ยังคงสืบทอดหน้าที่ต่อจากตระกูลนั่นคือการขับไล่เหล่าผู้รุกรานชาวไวกิ้ง ด้วยการใช้กลยุทธหลากหลายรูปแบบจึงทำให้เหล่าไวกิ้งไม่สามารถทำอะไรกับอาณาจักรแห่งนี้ได้เลย ในขณะที่ Mercia และ East Anglia กลับถูกยึดครองไปเรียบร้อยแล้ว ไม่เพียงแต่คอยขับไล่เท่านั้น ในช่วงหลังตัวของท่านยังสามารถเอาชนะเหล่าไวกิ้งได้อีกหลายครั้งทีเดียวซึ่งนั่นก็รวมไปถึงการรบครั้งใหญ่ใน Battle of Edington เองด้วยเช่นกัน เนื่องด้วยจากการพ่ายแพ้ติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้ทางฝั่งของไวกิ้งต้องออกมาทำการยุติการรุกราน พร้อมทั้งเซ็นสัญญาสงบศึกระหว่างทั้งสองฝ่ายอีกด้วย ซึ่งถึงแม้จะมีการเซ็นสัญญาอย่างถูกต้องแต่ก็ยังมีเหตุปะทะเกิดขึ้นบ้างเป็นครั้งคราว ต่อมาตัวของพระเจ้าอัลเฟรดและลูกหลานของท่านก็สามารถทวงคืนหัวเมืองใหญ่ York กลับมาจากเหล่าไวกิ้งได้ ก่อนในภายหลังสถานที่แห่งนี้จะกลายมาเป็นรากฐานแห่งการกำเนิดประเทศอังกฤษในปัจจุบันนั่นเอง  นอกเหนือจากการขับไล่ชาวไวกิ้งแล้วตัวของท่านยังได้ถูกยกย่องว่าเป็นกษัตริย์ที่ใฝ่รู้และมีความเมตตาอย่างยิ่ง ในขณะที่ตัวของท่านยังปกครองอยู่ก็ยังได้มีการสร้างทั้งระบบกฏหมาย,การจัดระเบียบกองทัพ ไปจนถึงการส่งเสริมให้มีการสอนภาษาให้กับชาวเมืองอีกด้วย โดยตัวของท่านได้เสียชีวิตลงเมื่อมีอายุได้ 50 ปี ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นก็ยังคงเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ และด้วยผลงานความสามารถอันมากมายของท่าน จึงทำให้เหล่าผู้คนต่างยกย่องท่านว่าเป็น บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ หรือ The Great และนั่นก็เลยกลายนเป็นที่มาของนามว่า Alfred the Great นั่นเอง จากประวัติแล้วท่านถือว่าเป็นบุคคลผู้มีความสามารถอย่างมากคนนึงเลยทีเดียว แต่ด้วยการที่ว่าตัวเกม Assassin’s Creed Vahalla นั้นทางฝั่งของผู้เล่นจะได้รับบทเป็นฝ่ายไวกิ้งและต้องทำสงครามกับตัวของท่าน เราเลยไม่รู้ว่าทางตัวเกมจะมีการแต่งเติมเนื้อหาอะไรเข้ามาเพื่อให้ท่านดูเป็นตัวร้ายเพิ่มขึ้นรึเปล่า แต่ถ้าให้ผมคาดเดาละก็ บอสใหญ่ แห่งเกมก็คงจะไม่พ้นกษัตริย์องค์นี้อย่างแน่นอน ถือว่าเป็นประวัติและข้อมูลอีกหนึ่งตัวละครสำคัญภายในเกมภาคนี้ก็ว่าได้ ถ้าเกิดว่ามีข้อมูลอะไรน่าสนใจ ไว้คราวหน้าผมก็จะหามาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันอีกอย่างแน่นอน สำหรับ Assassin’s Creed Vahalla ก็ยังไม่ได้มีการระบุวันวางจำหน่ายที่แน่ชัด รู้เพียงแค่ว่าจะอยู่ในช่วงสิ้นปีนี้ ยังไงก็ทนรอกันไปก่อนนะอีกครึ่งปีกว่าๆ เอง

ใน Ragnarok Online นั้น อาชีพคลาสสามนั้นเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าทรงพลังเป็นอย่างมาก สมกับที่เพื่อนๆ ต้องตะลุยเก็บเลเวลกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะคนที่ผ่านการจุติมา ในบทความนี้ก็จะกล่าวถึงอีกหนึ่งในอาชีพที่มีสกิลยุ่บยั่บจนไม่รู้จะเลือกใช้อะไรกันเลยอย่าง Mechanic กันบ้าง Mechanic ผู้ดูแลจักรกล, ช่างกล, Mechanic เป็นอาชีพที่พัฒนามาสุดทางของทาง Blacksmiths / Mastersmiths ที่ดึงขีดความสามารถในการสร้างเกี่ยวกับโลหะสำหรับอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ มาสร้างเป็นเครื่องจักรกลที่ผสมทั้งการโจมตีและการป้องกันเข้าด้วยกัน เป็นชุดเกราะที่ทรงพลัง รวมไปถึงความรู้ความสามารถในการใช้อาวุธเป็นอย่างดี ชุดเกราะจักรกลนั้นจะถูกเรียกว่า Madogear ที่สามารถโจมตีระยะไกล, สนับสนุนคนอื่นในปาร์ตี้ รวมถึงการโจมตีเป็นวงกว้าง ทำให้เหมาะสมในการปะทะกับมอนสเตอร์ต่างๆ รวมไปถึงสงครามแบบ WoE ก็เช่นกัน เรียกว่าเป็นตัวเชิงรุกรับที่น่ากลัวไม่แพ้ใครเลยทีเดียว ในทางเดียวกันหากไม่ไปทางสายชุดเกราะแล้วนั้น ในด้านการใช้อาวุธอย่างขวานเป็นหลักนั้นก็ไม่ได้ด้อยลงไปเลยด้วยสกิลต่างๆ ที่สนับสนุนทั้งสองด้านนี้ อย่างไรก็ดี จุดอ่อนสุดของ Mechanic ก็ยังคงไม่พ้นการเป็นอาชีพสายพ่อค้าแม่ขาย ที่ต้องใช้เงินในเกมตลอดเวลาในการเล่น ทำให้ไม่ค่อยจะเหมาะกับมือใหม่เท่าไหร่นัก แม้แต่มือเก่ายังมีลังเลคำนวนความคุ้มในการบวกแต่ละรอบกันก็ว่าได้   เกี่ยวกับค่า Status ของ Mechanic ► Bonus Status (ได้รับเมื่อมี Job level ถึงที่กำหนด) Stat\Amount +1 +2 +3 +4 +5 +6 +7 +8 +9 +10 STR 2 5 31 32 44 45 52 60 AGI 8 17 49 57 VIT 19 20 25 29 33 42 43 56 INT 10 13 21 37 38 55 DEX 9 22 48 53 59 LUK 1 7 14 26 34 51 รวม Bonus Status STR AGI VIT INT DEX LUK +8 +4 +8 +6 +5 +6   ► ความเร็วการโจมตี Equip Attack Speed (เทียบกับคลาสสอง) Bare Handed 156 0 Shield -6 −1 Dagger -20 −10 Sword (One Handed) -25 −15 Axe (One Handed) -5 +1 Axe (Two Handed) -8 +5 Mace -8 0   สกิลของ Mechanic ชื่อสกิล ผลของสกิล เลเวล ชนิด Acceleration Madogear - เพิ่มความเร็วของ Madogear ชั่วคราว 3 Supportive Analyze Madogear - ลดพลังป้องกันกายภาพและพลังป้องกันเวทย์ของเป้าหมาย 3 Active Arm Cannon Madogear - โจมตีเป็นวงกว้าง ศัตรูที่มีขนาดตัวเล็กจะโดนแรงขึ้น ความกว้างจะลดลงตามเลเวลสกิลแต่เพิ่มความแรงขึ้น 3 Offensive Axe Boomerang ปาขวานใส่จากระยะไกล ความหนักของขวานมีผลต่อความแรงมาก ยิ่งเลเวลสูงยิ่งกระแทกเป้าหมายออกไปไกล 5 Offensive Axe Mastery (Mechanic) เพิ่มพลังโจมตีและความแม่นยำเมื่อถืออาวุธชนิดขวาน (หรือกระบอง แต่จะเพิ่มน้อยกว่า) 10 Passive Axe Tornado โจมตีรอบตัวเป็นวงกว้าง ต้องใช้ขวานเป็นอาวุธ ค่า VIT ช่วยเพิ่มความแรงของท่านี้ และถ้าอาวุธเป็นธาตุลมจะแรงยิ่งขึ้นไปอีก ใช้ได้แม้จะอยู่ใน Madogear 5 Offensive Back Slide (Mechanic) Madogear - ถอยหลังอย่างรวดเร็ว 7 ช่อง 1 Active Cooldown Madogear - ลบสถานะ Overheat ออกจาก Madogear 1 Supportive Divest FAW ทำการแกะ FAW ที่พื้นออก (ใช้กับของศัตรูได้เช่นกัน) 1 Active Elemental Shift Madogear - เปลี่ยนธาตุของ Madogear เป็น ไฟ, ดิน, ลม หรือ น้ำ ตามแต่เลเวลของสกิล 4 Active FAW Magic Decoy สร้าง FAW ที่ใช้สกิลเวทย์โจมตีขึ้นมาเพื่อช่วยในการโจมตี มีระยะเวลาและพลังชีวิตจำกัดก่อนจะหายไป ติดตั้งได้สูงสุด 2 อัน 5 Active FAW Silver Sniper สร้าง FAW ที่ใช้การโจมตีกายภาพระยะไกลขึ้นมาช่วยในการโจมตี มีระยะเวลาและพลังชีวิตจำกัดก่อนจะหายไป ติดตั้งได้สูงสุด 2 อัน 5 Active Fire Earth Research เพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกันต่อมอนสเตอร์ธาตุไฟและดิน (เพิ่มน้อยมาก ไม่ควรแตะต้อง) 5 Passive Flame Launcher Madogear - ยิงปืนไฟจำกัดระยะใส่เป้าหมาย มีโอกาสทำให้ติดสถานะ Burn (ถ้าอยู่ใกล้ไปจะไม่โดน) 3 Offensive...