Review

รวมรีวิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเกม หรือสิ่งบันเทิงที่น่าสนใจ โดยมุ่งเน้นไปที่เกม เป็นหลัก

Like a Dragon: Infinite Wealth เป็นภาคต่อของซีรีย์ Ryu Ga Gotoku หรือที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันมากกว่าในชื่อ Yakuza โดยภาคนี้ถือว่าเป็นภาคหลักลำดับที่ 8 ของเกมในซีรีส์นี้ครับ โดยในคราวนี้มาในรูปแบบของเกม Turn-Base RPG ซึ่งหากใครเคยเล่นภาค 7 มาก่อนจะอารมณ์คล้าย ๆ กัน ซึ่งบอกเลยว่าตัวเกมในภาคนี้ทำออกมาได้ดีเกินความคาดหวังไปมาก ๆ ซึ่งจะมีอะไรน่าสนใจเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง Table of contentsว่าด้วยเนื้อเรื่องใน Infinite Wealthระบบการต่อสู้ที่ดีกว่าเดิมเรื่องที่ทำได้มีเยอะมากกกก ใน Infinite Wealthเกาะสวรรณ์ Dondoko Islandไปเป็น Sujimon Master กันเถอะเกมที่มีความขี้เล่นและจริงจังไปด้วยกันเกาะฮาวายและญี่ปุ่นที่สวยงามระบบอาชีพข้อเสียของเกมสรุป https://www.youtube.com/watch?v=AJhqN7R_oAg ว่าด้วยเนื้อเรื่องใน Infinite Wealth ก่อนจะเข้าไปที่เกมเพลย์ขอเล่าถึงเนื้อเรื่องนิดนึงแต่บอกไว้ก่อนว่าสำหรับใครที่ไม่เคยเล่นภาคเก่ามาก่อนก็พอจะเข้าใจครับ เพราะตัวเกมมีการเท้าความกับเล่าย้อนให้เราได้อ่าน แต่คนที่เคยเล่นมาก่อนน่าจะได้อรรถรสมากกว่า โดยผมขอเล่าโดยสรุปคร่าว ๆ ดังนี้ครับ เรื่องราวของเกมจะเล่าถึงอิจิบัง คาสึกะ ที่วางมือออกจากวงการยากุซ่า โดยเค้าได้ไปทำงานที่บริษัทจัดหางานที่ชื่อว่า Hello Work โดยเค้าได้พยายามช่วยเหลือเหล่ายากูซ่าเก่า ที่ไม่มีที่ไป และอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซึ่งเรื่องราวชีวิตของเค้าดูราบรื่นและเป็นไปได้ด้วยดี ทั้งเรื่องงานและเรื่องเพื่อน ๆ แม้แต่ความรักที่ก็ดูจะเริ่มไปได้ดี แต่แล้ววันนึงก็มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น คาสึกะโดน Vtuber โจมตีโดยกล่าวว่าร้ายว่าตัวเค้าเองช่วยเหลือยากูซ่าเก่าทำเรื่องที่ผิด ส่งผลให้เค้าต้องออกจากงาน แถมเรื่องความรักก็ดันสะดุด เพราะสาวที่แอบชอบดันไม่ยอมตอบอะไรเลย ประกอบกับมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดคือ คาสึกะได้รับ ข่าวสารของแม่ตัวเองที่ไม่เคยได้พบมาก่อน และได้ทราบมาว่าแม่อยู่ที่ฮาวาย และเธอต้องการพบคาสึกะสักครั้ง ดังนั้นคาสึกะเลยตัดสินใจไปตามหาแม่ที่ฮาวาย พร้อมกับจดหมายของแม่ แต่ทว่าหลังจากที่ไปถึงก็พบว่าแม่ของเค้ากำลังเป็นที่หมายตาของยากูซ่าและมาเฟียแกงค์ต่าง ๆ ทำให้ภารกิจตามหาแม่เป็นไปได้ยากกว่าที่คิด ในภาคนี้นอกจากคาสึกะแล้ว เรายังได้เจอกับคิริวที่มาทำภารกิจอยู่ที่ฮาวายเช่นกัน ใครที่ไม่ทราบคิริว คาสึมะ คือพระเอกในภาคก่อน ๆ ของเกมซีรีส์นี้ครับ โดยเค้าได้มาช่วยเหลือคาสึกะโดยบังเอิญและได้เดินทางไปด้วย สำหรับเรื่องราวในภาคนี้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการตามหาแม่ของคาสึกะ ที่ไปเจอกับเรื่องวุ่นวายสารพัด ที่เกมค่อย ๆ เปิดเผยปมเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ออกมา แถมต้องไปพัวพันกับแกงค์มาเฟีย กับ เจ้าถิ่นอีกเพียบ โดยเราจะได้เจอกับตัวละครเก่า ๆ ที่คิดถึงจากในภาค 7 รวมไปถึงตัวละครบางตัวในภาคก่อนหน้า ซึ่งนอกจากเรื่องราวของคาสึกะแล้ว ทางฝั่งของคิริวเองก็ดุเดือดไม่แพ้กัน ระบบการต่อสู้ที่ดีกว่าเดิม ระบบต่อสู้ในเกมภาคนี้จะต่อยอดมาจากเกมภาคเก่าอย่าง Yakuza: Like a Dragon โดยได้มีการพัฒนาให้มีลูกเล่นมากขึ้น และสามารถทำอะไรได้หลากหลายขึ้น จากเดิมที่จะเป็นการสลับกันตีเฉย ๆ แต่ในภาคนี้เราจะสามารถเคลื่อนที่ตัวละครไปยังตำแหน่งต่าง ๆ ก่อนที่จะทำการโจมตีได้ ซึ่งตำแหน่งของตัวละครก็จะมีผลกับการต่อสู้มาก เช่นหากโจมตีจากด้านหลังจะได้โบนัสพิเศษ หรือหากโจมตีผลักไปยังตำแหน่งที่เพื่อนอยู่ก็จะทำให้เพื่อนช่วยเราโจมตีได้ หรือแม้แต่การโจมตีประสานหากอยู่ใกล้ ๆ เพื่อนก็ทำได้เช่นกัน ที่พิเศษคือเราสามารถใช้สภาพแวดล้อมในการช่วยให้ได้เปรียบได้ เช่นหากว่าข้าง ๆ เรามีสิ่งของอยู่ ตัวละครจะทำการหยิบสิ่งของมาโจมตี หรือหากเราโจมตีและศัตรูกระเด็นไปชนกับกำแพงหรือสิ่งของก็จะได้ดาเมจเพิ่มเติม แม้กระทั่งหากศัตรูกระเด็นไปโดนพวกเดียวกันเองดาเมจก็จะโดนไปถึงตัวนั้นด้วยเป็นต้น เรียกว่ามีลูกเล่นเยอะมากในเรื่องของการต่อสู้ การโจมตีศัตรูจากด้านหลังจะได้ดาเมจมากกว่าปกติ สามารถผลักศัตรูให้กระเด็นไปโดนพวกเดียวกันเอง เพื่อทำดาเมจเพิ่มได้ ยังไม่นับรวมระบบที่ช่วยเหลือการต่อสู้อื่น ๆ อย่างการเชิญ Pround Master ที่เราสามารถเชิญมาได้ด้วยเงิน เพื่อให้มาช่วยสู้ได้ระยะเวลานึง หากว่าใครที่ติดภาพมาจากภาคเก่า ๆ ที่เป็นเกมแอคชั่นอาจจะรู้สึกผิดหวังไปบ้างในตอนแรก แต่เชื่อเถอะครับหลังจากที่ลองไปสักพักนึงแล้วระบบแบบนี้ก็ไม่เลวเลย เรื่องที่ทำได้มีเยอะมากกกก ใน Infinite Wealth คนที่เคยเล่นเกมซีรีส์นี้อาจจะรู้อยู่แล้วว่าเจ้านี้จริงจังเรื่องมินิเกม กับ เรื่องบ้า ๆ บอ ๆ ภายในเกมมาก ในภาคนี้ก็เหมือนกันครับ มินิเกมบางตัวเรียกว่าเป็นอีกเกมนึงเลยก็ไม่ผิด อย่างเช่น Dondoko Island ที่ให้เราไปสร้างเกาะและหานักท่องเที่ยว เรียกว่าเป็นความบ้าแบบจัดเต็มของทีมงานเลยก็ว่าได้ ไม่นับรวมมินิเกมบ้า ๆ อันอื่นที่ให้เราเล่น ซึ่งผมขอยกตัวอย่างให้ดูเฉพาะบางอันที่พึ่งมีเข้ามาในภาคนี้นะครับ เช่น Sujimon : มินิเกมที่ได้ไอเดียมาจากโปเกม่อน แต่จะเปลี่ยนเป็นรวบรวมพวกนักเลงมาสู้กันแทน โดยเราสามารถจัดทีมได้ถึง 6 ตัวในทีม ซึ่งจะเอามาสู้กันทีละ 3 ตัวจนกว่าจะจัดการกับ Sujimon ของอีกทีมได้หมด Dondoko Island : มินิเกมที่ให้เราพัฒนาเกาะจากเดิมที่ไร้นักท่องเที่ยว ไปเป็นรีสอร์ทระดับ 5 ดาว เป็นมินิเกมที่ดูดเวลาและสนุกไม่แพ้เกมหลักเลย โดยตัวเกมจะเปลี่ยนจากแนว Trun Base มาเป็นเกมแอคชั่น RPG ผสมกับเกมเอาตัวรอด เราจะต้องรวบรวมวัตถุดิบต่าง ๆ และคราฟของ รวมถึงหานักท่องเที่ยวมาเติมเต็มเกาะให้กลับมามีสีสันอีกครั้ง โดยเป้าหมายของเราคือทำให้เกาะนี้กลายเป็นรีสอร์ทระดับ 5 ดาว Sicko Snap : มินิเกมถ่ายรูปพวก Sicko ในระหว่างที่นั่งรถชมเมือง เป็นมินิเกมที่บ้ามาก ๆ โดยแต้มที่ได้เอาไปแลกของเทพ ๆ ได้หลายชิ้นเลย Crazy Eat: มินิเกมส่งอาหารที่เราจะต้องทำการส่งอาหารให้ได้คะแนนมากที่สุด สามารถเอาแต้มไปแลกเป็นเงินหรือไอเทมเทพ ๆ ได้ จีบสาว: เราจะสามารถเล่นแอพคล้าย ๆ ทินเดอร์เพื่อจีบสาว ได้ หากแชทและตอบถูกใจสาว เราจะได้เจอรวมถึงมี Event และ Cut Scene น่ารัก ๆ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วที่เจอเนี่ยมักจะไม่ใช่สาวเนี่ยอะสิ... นอกเหนือจากนี้แล้วมินิเกมเดิม ๆ ที่มีอยู่ในภาคก่อน ๆ ก็ยังมีเช่นกันครับ แต่เดี๋ยวเยอะเกิน เช่น โชงิ / แบล็กแจ๊ค / ไพ่นกกระจอก / เกมตู้ / ปาลูกดอก ฯลฯ ที่มีเยอะจนแทบจะนับไม่หมด เกาะสวรรณ์ Dondoko Island ที่ผมยกมาพูดถึงต่างหากเพราะมันเป็นมินิเกมที่เหมือนเป็นอีกเกมแยกออกมาเลย โดยเราจะได้ไปบริหารและดูแลเกาะ ที่เคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเก่า แต่ตอนนี้แทบจะไม่มีคนมาแล้ว โดยภายในเกาะนี้ตัวเกมจะเปลี่ยนไปเป็นแนวบริหารจัดการผสมกับเกมแอคชั่น เราจะต้องรวบรวมวัสดุต่าง ๆ เช่นหิน ไม้ พลาสติก เอามาคราฟของ DIY สารพัด ซึ่งพอเลเวลอัปก็จะได้แบบแปลนใหม่ ๆ พอเล่น ๆ ไปก็จะสามารถโปรโมทเพื่อเชิญนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ มาได้ ภายในเกาะเองก็มีมินิเกมย่อย ๆ อีกสารพัดเลย เช่น ตกปลา / จับแมลง / ดูแลนักท่องเที่ยว และอีกเพียบ เป็นอีกหนึ่งโหมดที่สนุกมาก แถมเรายังสามารถเอาหน่วยเงินภายในเกาะไปแลกเป็นเงินใช้ในเกมหลักได้ด้วยครับ ที่พิเศษอีกนิดนึงคือการต่อสู้กับศัตรูภายในเกาะจะไม่ใช่ Turn Base แต่จะเป็นเกม Action ที่เราจะต้องควงกระบองไปฟาดศัตรูแทน เผื่อใครเบื่อ ๆ กับเทิร์นเบสมาในเกาะนี้ก็สมใจเลย ไปหวดมันให้หมด ไปเป็น Sujimon Master กันเถอะ อีกมินิเกมนึงที่เป็นมินิเกมใหญ่ของภาคนี้ หากเราเริ่มเบื่อกับการทำเนื้อเรื่องหลัก ก็นี่เลยไปนั่งไล่จับพวก...

Read more

ใครที่คิดว่าสนิธกับเพื่อนเกินไป ลองหยิบเกมนี้มาเล่นกันดูครับเป็นเกมเล่น Free บนสตรีมชื่อว่า Bronzebeard's Tavern เราจะรับบทเป็นเผ่าดวาร์ฟที่เปิดโรงเตี๊ยม เพื่อรับแขกสารพัดประเภท ไม่ว่าจะเป็นก็อบลิน / คนธรรมดา/ มนุษย์กิ้งก่า ฯลฯ ซึ่งตัวเกมเหมาะที่จะเล่นเป็นตี้มาก ๆ แถมยังรองรับการเล่นได้ถึง 8 คนเลย https://www.youtube.com/watch?v=Cax6OVSLf0o ใน Bronzebeard's Tavern ต้องทำอะไรบ้าง ภายในเกมจะต้องแบ่งหน้าที่กับเหล่าเพื่อน ๆ เพื่อช่วยกันบริหารจัดการโรงเตี๊ยม ซึ่งหากว่าเราเสริ์ฟอาหารไม่ทันลูกค้าก็จะไม่พอใจ และทำลายข้าวของ โดยในการเปิดร้านตัวเกมจะมีเวลาให้เรา 5 นาที ในระหว่างนี้จะต้องรับลูกค้าให้ได้มากที่สุด สำหรับเรื่องที่จะต้องทำในร้านจะมีดังนี้ครับ สต็อกวัตถุดิบ : ก่อนจะเปิดร้านในแต่ละวัน เราจะต้องคอยสั่งวัตถุดิบมาเตรียมเอาไว้ โดยในแต่ละวันวัตถุดิบก็จะมีราคาต่างกันไป หมายความว่าเราควรจะหาจังหวะสั่งวัตถุดิบที่ราคาถูกเข้ามาเก็บเอาไว้ก่อนถ้าทำได้ โดยการเติมสต็อกหากก่อนร้านเปิดจะได้รับเลย แต่หากช่วงเปิดร้าน จะต้องใช้เวลาสักครู่ เตรียมอาหาร : อาหารหลัก ๆ จะมีเบียร์กับอาหารที่ป็นจาน โดยอาหารที่เป็นจานโดยส่วนใหญ่สามารถทำได้โดยการเอาวัตถุดิบไปใส่เตาไฟ และรอมันสุก แต่ก็จะมีลูกค้าบางคนที่ชอบแบบไหม้ไปเลย หรือในส่วนของเบียร์ บางทีก็จะมีเบียร์แบบพิเศษที่เราต้องเอาไปปั่นก่อนแล้วค่อยเอาไปผสมกับเบียร์ธรรมดา เป็นเบียร์แบบผสม เสิร์ฟ : หลังจากที่ทำอาหารเสร็จแล้วจะต้องไปเสิร์ฟให้ลูกค้า ในร้าน คอยเติมไฟ : ภายในร้านจะมีเตาอยู่ หากว่าเตามอดลงเมื่อไหร่มอนสเตอร์จะบุกเข้ามา ดังนั้นจะต้องคอยแบ่งคนลงไปเติมไฟที่ชั้นล่างของโรงเตี๊ยมไม่อย่างนั้นมอนสเตอร์มาแน่! รับแขกและออเดอร์ : ลูกค้าใหม่จะมายืนรอหน้าร้าน จะต้องส่งคนไปเชิญเข้ามาและเลือกที่นั่งให้ หลังจากได้ที่นั่งแล้วพวกเค้าจะสั่งออเดอร์ คนที่รับออเดอร์จะต้องเอามาส่งที่เคาท์เตอร์เพื่อให้รายการอาหารเด้งขึ้นมาบนจอและคนที่อยู่ในครัวจะได้ทำอาหารถูก เก็บจานและล้างจาน รวมไปถึงทำความสะอาดต่าง ๆ: หลังจากลูกค้าทานเสร็จแล้วจะต้องเก็บจานมาล้าง ไม่อย่างงั้นจานจะไม่พอ หรือถ้าหากว่ลูกค้าไม่พอใจก็จะทำลายข้าวของเราจะต้องซ่อมถึงจะใช้งานต่อได้ งานภาพและเสียง เกมนี้ไม่ใช่เกมที่มีกราฟิกสวยระเบิดระเบ้อ แต่เน้นเกมเลพย์ที่เอาไว้เล่นกับเพื่อน ๆ เป็นหลักครับ ดังนั้นในส่วนนี้ผมเลยไม่ขอพูดถึงอะไรมากนัก สำหรับเพลงประกอบก็เพลิน ๆ ไม่ได้ดีหรือว่าแย่อะไรเป็นพิเศษ ส่วนภาพก็มีปัญหาบ้างบางจุด แต่ทั้งนี้ทางผู้เขียนมองว่าไม่สำคัญเท่าไหร่ สรุปเกม Bronzebeard's Tavern เกมนี้เรียกว่าเป็นเกมที่โคตรจะวุ่นวายเลยแต่ก็สนุกมาก ๆ ในการเล่นกับเพื่อน โดยเบื้องต้นแนะนำว่าควรเล่นอย่างน้อย 4 - 5 คนกำลังดีครับ เพราะหลังจากเล่นไปสักพักลูกค้าจะเยอะมาก ๆ เสียดายที่ตัวเกมค่อนข้างจะสั้นไปสักหน่อย หากเล่นกันดี ๆ สัก 3 - 4 ชั่วโมงก็เก็บเนื้อหาได้แทบจะครบแล้ว แต่โดยรวม ๆ แล้วถือว่าเป็นเกมที่เล่นสนุกมากเลยทีเดียวครับ แม้ว่าจะมีบัคจุกจิกมารบกวนอยู่บ้าง สำหรับใครที่หาเกมเล่นสามารถลองดูรีวิวเกมอื่น ๆ ได้ที่นี่ >>Click<<

Read more

DanMachi BATTLE CHRONICLE คือ เกมแนว Action-RPG จากผู้พัฒนา Aiming Inc ตัวเกมได้นำเนื้อเรื่องของอนิเมะเรื่อง "มันผิดรึไงถ้าใจอยากจะพบรักในดันเจี้ยน" มาเป็นเนื้อเรื่องหลัก และเราจะได้สวมบทบาทเป็นตัวละครจากอนิเมะเรื่องนี้ไปตะลุยดันเจี้ยนภายในเกม โดยวันนี้เราจะมารีวิวเกมนี้กันว่าตัวเกมมีความน่าสนและน่าโหลดมาลองเล่นหรือไม่ หากพร้อมแล้วก็มาดูกันได้เลย! เนื้อเรื่องของ DanMachi BATTLE CHRONICLE เริ่มจากตัวเนื้อเรื่องภายในเกมนี้กันก่อน โดยเนื้อเรื่องของเกมนี้ได้เอาเนื้อหาจากอนิเมะเรื่อง "มันผิดรึไงถ้าใจอยากจะพบรักในดันเจี้ยน" มาเกือบทั้งหมด พร้อมกับทำบทพูดเป็นแบบ Full-Voice ทำให้รู้สึกว่าเราเหมือนได้ดูอนิเมะอีกรอบเลย ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่เคยดูอนิเมะก็สามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้แบบสบายๆ แถมยังอินกับตัวละครมากยิ่งขึ้น แต่ใครที่ดูอนิเมะมาก่อนอาจจะทำให้รู้สึกค่อนข้างน่าเบื่อกันนิดนึง ระบบ Gameplay ตัวเกมจะให้เราจัดทีมโดยใช้ตัวละครทั้งหมด 6 ตัว แบ่งเป็นตัวละครหลัก 3 ตัว กับตัวละครช่วยเหลือ 3 ตัว และใส่ Scene Card เพื่อความสามารถให้กับตัวละคร โดยพวกตัวละครสายช่วยเหลือจะไม่สามารถเอามาควบคุมเล่นได้ ทำได้แค่ปล่อยสกิลหลังกดใช้งานเท่านั้น หลังจากจัดทีมพร้อมลุยเสร็จ เราก็จะได้เข้ามาในด่านการเล่นพร้อมกับควบคุมตัวละครทำภารกิจที่ได้มอบหมายทางด้านซ้ายบน ซึ่งรูปแบบการเล่นก็ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่คุมตัวละครเดินทางไปยังจุดหมายของด่าน และกำจัดศัตรูที่โผล่มาขวางระหว่างให้หมด โดยในระหว่างการต่อสู้กับศัตรูเราสามารถสลับการควบคุมตัวละคร 3 ตัวที่เตรียมไว้ได้อย่างอิสระ พอเดินมาถึงจุดหมายที่กำหนดพร้อมกับกำจัดศัตรูครบแล้ว เกมก็จะถือว่าเป็นการจบด่านทันที ตัวเกมมาในรูปแบบของ Action เหมือนกับเกมอื่นๆ ปุ่มโจมตีและสกิลอยู่ที่ด้านขวาของหน้าจอ ส่วนด้านซ้ายจะเป็นการบังคับทิศทาง แต่ก็ทำออกมาไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนที่ไม่เคยเล่นเกม Action เท่าไหร่ เพราะว่า ตัวเกมไม่มีระบบล็อคเป้าเหมือนเกม Action เกมอื่นๆ ทำให้เวลาใช้สกิลแต่ละทีพลาดได้ง่ายมาก ซึ่งตัวเกมก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นเพราะใส่ระบบ Auto มาเพื่อทำให้คนที่เล่นไม่เก่งผ่านได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ทว่าระบบ Auto ที่เกมใส่มามันทำได้แค่กดสกิลแบบ Auto แม่นๆ กับพาตัวละครเราไปยังจุดหมายแบบอัตโนมัติเท่านั้น ตัวของระบบ Auto จะไม่ทำการสลับตัวละครหลัก หรือใช้สกิลของพวกตัวละครช่วยเหลือ เราจำเป็นต้องคอยกดสลับตัวหรือใช้สกิลเอง นอกจากนี้หากทีมของเรามีค่าพลังที่ไม่ถึงตามที่ด่านกำหนด ตัวเกมจะทำการบัฟให้ศัตรูเก่งขึ้น ซึ่งทำให้เล่นผ่านได้ยากมากกว่าเดิม ดังนั้นเวลาจะเข้าไปเล่นด่านต่างๆ ในแต่ละครั้ง ก็ควรจะทำค่าพลังให้ถึงตามที่เกมกำหนดด้วย ระบบตัวละคร & Scene Card ในส่วนของระบบตัวละครภายในเกม เราจะสามารถอัปเลเวล, เพิ่มขั้น Awaken (หาของได้จากการตัวละครซ้ำ) หรืออัปเลเวลสกิล เพื่อเพิ่มค่าพลังให้แก่ตัวละครได้ ซึ่งเวลาอัปเลเวลจนติด Cap แล้ว จำเป็นต้อง Limit Break เพื่อปลดล็อค Cap เลเวลให้สามารถอัปไปต่อได้ และการ Limit Break แต่ละครั้งยังสามารถเพิ่มช่อง "ไอเทมช่วยการต่อสู้" กับช่อง Scene Card ได้อีกด้วย นอกจากการอัปเลเวลเพื่อเพิ่มค่า Stats ให้ตัวละครแล้ว ยังมีในส่วนของระบบ Scene Card ที่จะช่วยเพิ่มค่า Stats ซึ่งแต่ละใบจะมีค่า Stats และความสามารถที่แตกต่างกันออกไป โดยหนึ่งตัวละครสามารถใส่ได้สูงสุด 3 ใบ ระบบ Gacha หลังจากที่เล่นด่านเนื้อเรื่องจบบท 1 เรียบร้อยแล้ว เกมจะทำการปลดระบบกาชามาให้เราได้สุ่มหาตัวละครและ Scene Card เสริมแกร่งให้กับทีม โดยตู้กาชาแบบแรกที่เราจะได้สุ่มเลยนั้นก็คือ ตู้กาชาแบบ Infinite Reroll ซึ่งตู้กาชาแบบนี้จะสามารถสุ่มกาชาได้เรื่อยๆ จนกว่าจะได้ตัวละครหรือ Scene Card ที่เราต้องการ พอเลือกตัวละครกับ Scene Card ที่อยากได้จากตู้ Infinite Reroll แล้ว เราจะได้เจอหน้าตู้กาชาที่แบ่งเป็นตู้การันตี UR กับตู้กาชาทั่วไป สิ่งที่แตกต่างก็คือ พวกตู้กาชาแบบการันตี UR ต้องใช้เพชรเติมในการเปิดเท่านั้น ซึ่งจะใช้เพชรทั้งหมด 2800 ต่อการเปิด 1 รอบ ก็จะตีเป็นเงินบาทได้ประมาณ 1200 - 1300 บาท ต่อ 1 ตู้ โดยของในตู้นั้นก็จะมีทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ตัวละครหลัก, ตัวละครช่วยเหลือ และ Scene Card ซึ่งเรทการออกของระดับ UR พวก Scene Card จะมีเรทออกมากกว่า ทำให้เราได้พวกตัวละครต่างๆ ยากมากยิ่งขึ้น โหมดการเล่นต่างๆ ด่านเนื้อเรื่อง, ดันเจี้ยนประจำวัน และด่านฝึกซ้อม สำหรับโหมดการเล่นภายในเกมนี้นั้น พวกคอนเทนต์แบบ PVE จะมีให้เราเลือกเล่นได้เพียง 3 โหมดเท่านั้น คือ ด่านเนื้อเรื่อง ดันเจี้ยนประจำวัน ด่านฝึกซ้อม โดยโหมดที่เราจะต้องไปเล่นบ่อยมากสุด คือ ด่านเนื้อเรื่อง เพราะว่าเกมนี้มีจุดขายตรงเนื้อเรื่องอยู่แล้ว ซึ่งเวลาฟาร์มหาพวกยา EXP หรือทรัพยากร Limit Break ตัวละคร จะต้องพึ่งการกด Skip ด่านต่างๆ ในเนื้อเรื่องเพื่อหาทรัพยากรที่ต้องการ ส่วนดันเจี้ยนประจำวันก็จะเป็นด่านที่ให้ทรัพยากรในการอัปค่าพลังตัวละครได้เยอะ แต่ว่าเล่นได้แค่ครั้งเดียวต่อวัน และด่านฝึกซ้อมก็เป็นแค่ด่านสอนเกี่ยวกับระบบการเล่นต่างๆ ให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น โหมด Arena เกมนี้มีคอนเทนต์ PVP สำหรับคนที่อยากซัดกับผู้เล่นคนอื่นด้วยนะ ซึ่งก็คือโหมด Arena นั่นเอง โดยโหมดนี้จะแบ่งได้เป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ Magic Stone Scramble โหมดนี้จะเป็นแบบ Real-Time Arena คือ เราจะได้เจอกับผู้เล่นคนอื่นแบบจริงๆ ไม่ใช่บอท โดยรูปแบบการเล่นโหมดนี้จะเป็นการฆ่ามอนหรือผู้เล่นคนอื่น เพื่อเก็บคะแนนให้ได้เยอะๆ ซึ่งจะมีเวลาจำกัดในการเล่นด้วย และยิ่งเวลาผ่านไปนานก็จะมีการบีบพื้นที่เล่นให้น้อยลงตามไปด้วย ทำให้การต่อสู้นั้นมีความตื่นเต้นและตึงมือพอสมควรเลย Battle Arena โหมดนี้จะเป็นการจัดทีมตัวละครลงไปสู้กันแบบ 3 vs 3 ซึ่งมันจะเป็นการสู้แบบ Auto 100% ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถควบคุมการต่อสู้อะไรได้เลย ทำได้แค่กด x2 เพื่อเพิ่มความเร็วการต่อสู้ให้สรุปผลได้ไวขึ้น สรุปการรีวิว DanMachi BATTLE CHRONICLE หลังที่ได้ลองเล่นไปสักพักหนึ่งแล้ว ตัวเกมจะมีจุดเด่นแค่เรื่องของการเอาเนื้อเรื่องของอนิเมะ "มันผิดรึไงถ้าใจอยากจะพบรักในดันเจี้ยน" มาอยู่ในรูปแบบของเกมเท่านั้น เรื่องของระบบ Gameplay และโหมดการเล่นต่างๆ จะเหมือนกับเกม Action-RPG ทั่วไปไม่มีอะไรเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้คนที่ต้องการเล่นเกม Action มันส์ๆ และไม่ได้เป็นแฟนอนิเมะเรื่องนี้ อาจจะไม่ค่อยโดนใจซักเท่าไหร่ Link ดาวน์โหลดเกม PC: >>Link<<Android: >>Link<<iOS: >>Link<<

Read more

Coral Island เป็นเกมแนวทำฟาร์มที่เกิดขึ้นจากการระดมทุนผ่าน Kickstarter ตั้งแต่ช่วงปี 2021 และด้วยคอนเซ็ปของตัวเกมที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากเกมทำฟาร์ม อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นต็มของตัวเกม ที่เราจะอยู่ในเกาะเขตร้อน ซึ่งแทบจะไม่มีเกมแนวทำฟาร์มเกมไหนที่โฟกัสในเกาะแบบนี้มาก่อน รวมไปถึงระบบชูโรงอย่างการฟื้นฟูทะเล และการดำน้ำ ซึ่งโดยรวมแล้วทำให้เกมนี้เป็นเกมทำฟาร์มที่มีเอกลักษณ์และน่าสนใจมาก ๆ นอกเหนือจากเรื่อง ปลูกผัก จีบสาว/หนุ่ม แต่งงาน และเลี้ยงสัตว์ไปวัน ๆ https://www.youtube.com/watch?v=iyRUBNF7-k4 เนื้อหาของ Coral Island ผู้เล่นจะรับบทเป็นชาวสวนที่มาอาศัยอยู่ภายในเกาะ หลังจากการทำงานอย่างหนักในเมืองใหญ่มานานและเบื่อหน่าย ซึ่งสภาพที่เราพบคือเกาะกำลังอยู่ในช่วงขาลงอย่างรุนแรง ทั้งเมืองที่ไม่มีนักท่องเที่ยว ทะเลและธรรมชาติที่เต็มไปด้วยขยะและสิ่งสกปรก เนื่องจากการขยายกิจการของบริษัทน้ำมัน ส่งผลให้เมืองขาดชีวิตชีวา ซึ่งเราจะเป็นตัวแปรสำคัญในการฟื้นฟูเมืองแห่งนี้ และไขปริศนาต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเกาะ กราฟิกและภาพ/เสียง การออฟแบบแผนที่ ตัวเกมจะมีการอ้างอิงแผนที่ภายในเกาะมาจากเกาะเขตร้อน ซึ่งเราจะพบเห็นทะเลและแม่น้ำได้ในหลาย ๆ แห่งของเมือง โดยเฉพาะทะเลที่เต็มไปด้วยปะการัง ซึ่งในช่วงแรกของเกมที่เราพึ่งเข้ามาจะเต็มไปด้วยคราบน้ำมันและสภาพที่เสื่อมโทรม และจะดีขึ้นหลังจากที่เรามีส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง สภาพของบ้านภายในเมืองและ NPC ตัวเกมทำออกมาเป็นภาพ 3 มิติซึ่งเราจะได้สัมผัสถึงความแตกต่างทางเชื้อชาติ และ ความชอบของชาวเมืองแต่ละคน โดยชาวเมืองบางคนก็จะมีการตกแต่งบ้านและการใช้ชีวิตไปทาเอเชีย หรือบางคนก็จะออกแนวไปทางตะวันตก ซึ่งโดยรวมแล้วเราจะสัมผัสได้ถึงการผสมผสานในหลาย ๆ เชื้อชาติมารวมกันอยู่ที่เกาะแห่งนี้ ในส่วนของสถานที่ต่าง ๆ นอกจากภายในเมือง ก็จะมีส่วนของทะเลที่ทำออกมาได้สวยงามมาก โดยในใต้ทะเลช่วงแรกเราจะได้สัมผัสกับทะเลที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรก แต่หลังจากที่เราเล่นไปและช่วยเหลือในการฟื้นฟู มันก็จะค่อย ๆ กลับมาสวยงามอีกครั้ง และมีสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ปรากฏตัวออกมาให้เราเห็นมากขึ้น Gameplay ส่วนของการเล่นและชีวิตภายในฟาร์ม โดยรวมก็ไม่แตกต่างจากเกมอื่นมากนัก คือเราปลูกผักและคอยเก็บ แต่ก็จะมีเครื่องอำนวยความสะดวกในการเล่น เช่น อุปกรณ์อัตโนมัติต่าง ๆ ผ่านอุปกรณ์เสริมของสปริงเกอร์ทำให้หลังจากเราเล่นไปไกล ๆ แล้วสามารถเล่นได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรดน้ำอัตโนมัติ, เครื่องเก็บเกี่ยวผลผลิตอัตโนมัติ, เครื่องให้อาหารสัตว์ ฯลฯ การปลดล็อกของเหล่านี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทายภายในเกมเลย ซึ่งทั้งนี้ผู้เล่นสามารถทำการวิจัยและปลดล็อกสูตรได้ที่ Lab ซึ่งจะแตกต่างกับการอัปเกรดอุปกรณ์ที่เราจะต้องไปที่ร้านค้าของ Blacksmith ภายในเมืองครับ นอกจากชีวิตในฟาร์มแล้วเราจะมีภารกิจที่ต้องคอยช่วยเหลือชาวเมืองในด้านอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการฟูทะเล หรือ ช่วยเหลือในการหาของให้เทพธิดา และอีกหนึ่งภารกิจคือการกอบกู้พิพิธภัณฑ์เพื่อเป็น Landmark ให้เมือง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลจะมีผลคือทำให้สภาพในเมืองพัฒนาขึ้น หลังจากที่เราทำการช่วยเหลือในแต่ละด้าน เมืองก็จะพัฒนาไป เช่น หากเราฟื้นฟูทะเล ตัวทะเลจากที่เคยเต็มไปด้วยคราบน้ำมันก็จะสวยงามขึ้น หรือ หากเราทำภารกิจเทพธิดา เมืองก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมาเพิ่มและเปิดพื้นที่ใหม่ ๆ ได้ เป็นต้น ในส่วนขององค์ประกอบของเกมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงเหมือง และการต่อสู้กับมอนสเตอร์ก็มีในเกมนี้เหมือนกัน เรียกว่าในช่วงหลังเกมทำฟาร์มส่วนใหญ่แทบจะใส่ระบบนี้มาเกือบทุกเกมเลย โดยเฉพาะการสู้กับมอนสเตอร์ โดยเราจะสามารถหาแร่มาอัปเกรดอุปกรณ์ และทำสิ่งของได้ แต่ทั้งนี้ภายในเหมืองก็จะมีมอนสเตอร์มาคอยเฝ้าทำให้เราต้องหยิบอาวุธเพื่อเตรียมบวกกับพวกมันด้วย ซึ่งอาวุธภายในเกมก็จะมีอยู่หลายอย่างแถมแต่ละอย่างก็จะมีสกิลเฉพาะด้วย หากว่าใครเบื่อ ๆ จากการทำฟาร์มภายในเกมเราก็สามารถไปนั่งตกปลาหรือจับแมลงแบบชิล ๆ ได้ โดยเราสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ของเกาะและไปนั่งตกปลาได้เลย หรือสำหรับแมลงระหว่างทางก็จะเจอตามสถานที่ต่าง ๆ ก็สามารถใช้สวิงไปช้อนได้เลย! สำหรับใครที่ชอบสะสมหรือหาอะไรทำ การรวบรวมแมลงกับปลาให้ครบก็เป็นจุดนึงที่สนุกมากครับ อีกจุดที่ตัวเกมทำออกมาได้น่าสนใจคืองานเทศกาลภายในเกม ซึ่งบางเกมก็อาจจะมีแค่การโชว์เล็ก ๆ น้อย ๆ และมินิเกมนิดหน่อย แต่ของเกมนี้ในทุกงานเทศกาลจะมีมินิเกมให้เราเล่น! รวมไปถึงของบรรยากาศของแต่ละงานเทศกาลที่ทำออกมาได้สวยมาก และที่สำคัญมินิเกมแต่ละอย่างไม่ซ้ำกันเลย ในในส่วนของเรื่องเลเวลกันนิดนึง หลังจากที่เราทำสิ่งใด ๆ ก็ตามในเกม เราจะได้ค่าประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับในหมวดนั้น ๆ เช่นหากเก็บของป่าก็จะได้ค่าประสบการณ์ของการเดินป่าเป็นต้น โดยเมื่อเลเวลอัปถึงที่กำหนดเราก็จะได้แต้มสกิลเอามาอัปเกรดสกิลในสายนั้น ๆ ที่ต้องการได้ จุดนึงที่ผมค่อนข้างประทับใจแม้ว่าจะเป็นจุดเล็ก ๆ คือหลังจากที่เราเล่นไปสิ่งที่เราทำจะส่งผลกับสภาพแวดล้อมภายในเกม อาทิเช่น ในช่วงแรกหากเราตกปลาจะแทบไม่เจอปลาคุณภาพระดับดาวสูง ๆ เลย ซึ่งเกมนี้จะแบ่งคุณภาพของที่เก็บได้เป็น ปกติ> ดาวทองแดง > เงิน > ทอง > และออสมิกหรือสีม่วง ซึ่งช่วงแรกหากเรายังไม่เคยฟื้นฟูทะเลเลยเราจะได้แต่ปลาธรรมดาแทบจะ 100% แต่หลังจากที่ทะเลเริ่มกลับมาสวยงามแล้ว เราจะเริ่มได้ปลาระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ การแต่งตัวภายในเกม เราก็สามารถแต่งตัวได้ค่อนข้างหลายแบบครับ ใครที่ชอบแต่งตัวหรือปรับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเราก็สามารถไปซื้อชุดจากร้านขายเสื้อผ้าภายในเมือง และเอามาแต่งตัวละครของเราได้ ซึ่งชุดพิเศษเราก็จะสามารถซื้อได้ตามงานเทศกาล หรือ ได้จากการปลดล็อกสิ่งต่าง ๆ เอาภายในเกม เปรียบเทียบกับเกมอื่นในแนวใกล้เคียงกัน หากเปรียบเทียบเกมนี้กับเกมอื่นที่ใกล้เคียงกัน ตัวเกมนี้เรียกว่าระบบต่าง ๆ หยิบมาจากเกมทำฟาร์มอื่น ๆ และนำมาต่อยอดได้น่าสนใจ รวมถึงมีระบบที่เกมอื่นไม่มีและที่น่าสนใจที่สุดเลยคือการปรับปรุงคุณภาพชีวิตในการเล่นเกมที่ทำได้ดีมาก เช่น ระบบการคราฟของที่ปกติแล้วเราจะต้องเก็บของไว้ในตัว แต่เกมนี้เราสามารถคราฟจากที่ไหนก็ได้ โดยไอเทมจะโดนดึงมาจากภายในกล่อง ซึ่งสะดวกมาก ๆ ในส่วนของเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ถือว่าทำได้ดีเช่นเราสามารถกดมองหา NPC ได้ทำให้ไม่ต้องนั่งเดาว่าแต่ละคนอยู่ที่ไหน แถมมีบันทึกให้ด้วยว่าชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไรหลังจากที่ให้ไปแล้ว รวมถึงระบบคำใบ้ที่แค่เอาเมาส์ไปชี้ก็จะบอกว่าของชิ้นนี้เป็นของจำเป็นในการทำเควสไหม เช่นหากชิ้นไหนนำไปบริจาคให้พิพิธภัณฑ์ได้ก็จะขึ้นว่าเราส่งของชิ้นนี้ไปหรือยัง เป็นต้น โดยรวมแล้วเกมนี้แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีอะไรใหม่ถอดด้ามเยอะแยะหากเทียบกับเกมทำฟาร์มอื่น ๆ แต่ก็เป็นเกมที่หยิบเอาส่วนดีของเกมอื่น ๆ มาและต่อยอดพัฒนาให้ดีขึ้น แม้ว่าตอนนี้อาจจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ตัวเกมก็มีการอัปเดตและพัฒนาการที่ค่อนข้างเร็วมาก ๆ และดูยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพัฒนาในเร็ว ๆ นี้ ถ้าหากจะพูดถึงจุดด้อยน่าจะเป็นในส่วนของระบบ Combat ของเกมที่ทางผู้เขียนรู้สึกว่ายังทำออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แม้ว่าจะเป็นจุดที่ไม่ใช่จุดสำคัญ แต่การที่ต้องไปลงเหมืองเพื่อหาของก็แอบเป็นอะไรที่แอบน่าเบื่อเล็ก ๆ เพราะการต่อสู้ภายในเกมนี้ดูไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่นัก และการควบคุมในส่วนของการต่อสู้แอบรู้สึกว่ายากนิดหน่อย ความคุ้มค่า ด้วยราคาของตัวเกมเต็มที่ 464 บาท ซึ่งถือว่าถูกมากหากเทียบกับ Content และเนื้อหาภายในเกม ซึ่งโดยประมาณแล้วหากเราจะเล่นเกมนี้ให้จบปีแรกแบบชิล ๆ หากไม่ได้ข้ามวันรัว ๆ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาต่ำ ๆ 30 - 50 ชั่วโมงเลยครับ ซึ่งถ้าเราต้องการเก็บภารกิจหลักของเกมให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูทะเล หาของส่งเทพธิดา หาของส่งพิพิธภัณฑ์ หากทำหมดรวมแล้วก็น่าจะ 100 ชม ++ ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็ใกล้เคียง 100 แล้ว ซึ่งถือว่าคุ้มมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบเกมแนวทำฟาร์ม แถมตัวเกมยังมีการอัปเดตสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งในอนาคตก็จะมีระบบ Co-Op และ เนื้อเรื่องใหม่ ๆ ของเมืองใต้ทะเลเข้ามาให้เล่นด้วย สรุป Coral Island ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมทำฟาร์มที่ดีที่สุดในช่วงปี 2023 ที่ผ่านมาเลยครับ ซึ่งตัวเกมก็ยังมีการอัปเดตเรื่อย ๆ และมีอะไรให้เราทำเพิ่ม เป็นเกมที่เล่นแล้วรู้สึกถึงได้ความพยายามและใส่ใจของผู้พัฒนา รวมถึงบรรยากาศภายในเกมที่อบอุ่นและภาพของชาวเมืองที่พยายามหาทางฟื้นฟูเมืองในรูปแบบของตัวเอง ซึ่งเอาแค่เฉพาะตอนนี้สิ่งที่เราสามารถทำได้ภายในเกมก็เล่นแทบไม่หวาดไม่ไหวแล้ว เอาเป็นว่าใครที่เป็นคอเกมทำฟาร์มผมแนะนำเกมนี้เป็นหนึ่งในเกมที่ควรจะต้องหามาเล่นเลยครับ

Read more

ใครที่คิดถึงคุณพี่คิริว คาซึมะ (Kiryu Kasuma) พระเอกแทบจะตลอดกาลของ Series Like a Dragon น่าจะได้สมใจกัน เพราะใน Like a Dragon Gaiden: The Man Who Erased His Name นี้เราจะได้กลับมารับบทเป็นคิริวอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปในภาค 7 ที่ไม่มีบทเลย โดยตัวเกมจะเป็นยังไงกบขอพาทุกคนเข้าไปชมกันครับ https://www.youtube.com/watch?v=Fxkn-dcy01k เนื้อเรื่อง (ไม่มีสปอย) Like a Dragon Gaiden: The Man Who Erased His Name ในภาคนี้เนื้อเรื่องจะต่อเนื่องจากในภาคที่ 6 โดยหลังจากที่จบเนื้อเรื่องในภาคนั้นแล้ว คาซึมะ คิริว ได้ขอให้ลบชื่อตัวเองออกและทำแสร้งทำเป็นว่าตาย และได้แอบกบดานอยู่เงียบ ๆ โดยใช้ชื่อโค้ดเนมว่า "โจริว" (Joryu) แต่ก็มีเหตุไม่คาดฝัน ทำให้เค้าต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องยุ่งยากระหว่างเหล่ายากูซ่าอีกครั้ง โดยเริ่มจากการถูกลักพาตัวของ Hanawa ที่เป็นผู้ดูแลคิริว ทำให้เค้าต้องเข้าไปช่วยเหลือ และยุ่งกับสงครามของยากูซ่าอย่างช่วยไม่ได้ Kiryu Kasuma ชายหนุ่มที่ลบตัวเองออกและซ่อนตัวอยู่กับกลุ่มไดโดจิ โดยใช้โค้ดเนมในภาคนี้ว่า "โจริว" Kihei hanasawa ผู้ที่เป็นคนคอยดูแลคิริวในระหว่างที่หลบซ่อนตัวอยู่ เป็นหนึ่งในสมาชิกของไดโดจิแคลน และเป็นคนคอยดูแล Agent ต่าง ๆ รวมถึงคิริว เกมเพลย์และระบบการต่อสู้ Like a Dragon Gaiden: The Man Who Erased His Name สำหรับ Gameplay หลักในภาคนี้เราจะได้สำรวจเมือง Sotenbori ที่เป็นเมืองสมมุตใน Osaka ซึ่งเราจะได้เห็นบรรยากาศที่สวยงามของเมืองทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ซึ่งมีความแตกต่างกันไป นอกจากในส่วนของเนื้อเรื่องหลักแล้วเราจะต้องคอยช่วยเหลือ Akane เพื่อช่วยพัฒนาเครือข่ายของเธอ ผ่านการทำภารกิจต่าง ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วเมือง ซึ่งจะมีทั้งที่กระจายอยู่ตามเมือง หรือรับจากเธอตรง ๆ เป็นอีกจุดนึงที่ค่อนข้างสนุกเลย โดยหลังจากที่เราทำภารกิจไปเรื่อย ๆ ระดับของเครือข่ายก็จะมากขึ้น เราสามารถนำแต้มไปแลกสิ่งของใหม่ ๆ หรือซื้อของแปลก ๆ มาใช้งานได้ ในส่วนของตัวภารกิจก็จะมีตั้งแต่ง่าย ๆ เช่นหาของที่หายไป ไปจนถึงจัดการกับเหล่านักเลงเพื่อช่วยเหลือเมือง หรือแม้แต่ภารกิจแปลก ๆ อย่างการช่วยถ่ายรูปสิ่งของก็มีให้ได้ทำ ซึ่งตรงนี้เราไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมดก็ได้ สำหรับการต่อสู้ภาคนี้จะกลับไปใช้ระบบการต่อสู้แบบเกม Action ซึ่งหากใครที่เล่นภาค 7 มาแล้วคิดว่าจะเป็น Turn Base รึเปล่า ตอบเลยว่าไม่ใช่ครับ ภาคนี้จะกลับไปเป็นเกมแนว Beat them up แบบภาคก่อน ๆ โดยเราจะได้ควบคุมคิริวเป็หลัก การต่อสู้ในภาคนี้จะแบ่งออกเป็น 2 สไตลด์หลัก ๆ คือรูปแบบของ Agent ที่เน้นความฉับไวและมีลูกเล่นที่หลากหลาย ออกแนวนักสืบไฮเทค มีอุปกรณ์ช่วยมากมาย และอีกแบบนึงเลยคือรูปแบบ Yakuza ที่เน้นการต่อสู้แบบดิบเถื่อนทรงพลัง และยากต่อการป้องกัน แต่ว่าค่อนข้างเชื่องช้า หลังจากที่เล่นไปเรื่อย ๆ เราจะสามารถทำการอัปเกรดสกิการต่อสู้ได้โดยใช้เงินและแต้ม Akane Point ยิ่งเล่นไปไกลเท่าไหร่ก็จะปลดล็อกความสามารถใหม่ ๆ ได้มากขึ้นเท่านั้น ในส่วนของระบบการต่อสู้อาจจะมีน่าขัดใจอยู่บ้างคือบางครั้งศัตรูก็อาจจะมีการลอยไปไกลเกินไป หรือเล็งตีอย่างดีแต่ตีวืดเอาบ่อย ๆ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าเล่นเพลิน ๆ ดีครับ มีน่าขัดใจบ้างแต่ถือว่าเล่นได้ไม่ติดขัดอะไร มินิเกมที่มีให้เล่นมหาศาล บอกเลยว่าเกมนี้ที่ทำให้เราเสียเวลาเล่นนานไม่ใช่เนื้อเรื่องหลักเลยครับ แต่เป็นพวกมินิเกมนี่แหละที่มีให้เราเล่นเยอะมากกกกกกกกก (ก ไก่ ล้านตัว) เฉพาะมินิเกมอย่างเดียวก็มีนับไม่ถ้วนแล้ว และแต่ละอย่างก็สนุก ๆ ทั้งนั้นเลยด้วย ไม่ว่าจะเป็นไพ่นกกระจอก / โคลอสเซียม / แข่งรถจิ๋ว ฯลฯ เรียกว่าถ้าจำเก็บให้หมดน่าจะใช้เวลาเยอะกว่าการเล่นเกมให้จบหลายรอบเลย ผมเองก็โดนเฉพาะมินิเกมไพ่นกกระจอกไปเกือบ 10 ชั่วโมง มันเพลินจริง ๆ นะ ผมจะขอยกตัวอย่างมินิเกมที่เราเจอได้ในเกมให้ดู ไพ่นกกระจอก มินิเกมที่อยู่ในซีรีย์นี้มาแทบจะตลอด เราสามารถเข้ามาเล่นไพ่นกกระจอกภายในร้านได้ โดยจะมีค่าธรรมเนียมนิดหน่อย แล้วแต่ระดับ ซึ่งหากชนะก็จะได้เงินรางวัล แถมหากเราอยากท้าทายฝีมือตัวเองก็สามารถลงสมัครการแข่งแบบทัวร์นาเมนต์ได้ด้วย (บอกเลยว่าบอทโหดมากอยู่นะ) โคลอทเซียม ในโหมดนี้จะปลดหลังจะเล่นถึงราว ๆ บทที่ 2 เราจะได้เข้าไปสู้ภายในโคลอทเซียม ซึ่งนอกเหนือจากการสู้ปกติแล้ว เรายังสามารถหาพรรคพวกเพื่อสู้แบบทีมได้ด้วย แถมยังสามารถพัฒนานักสู้และหยิบมาใช้งานนอกเหนือจากการเล่นคิริวได้อีกต่างหาก เป็นอีกโหมดนึงที่สนุกมาก ทั้งจากการหานักสู้ใหม่ ๆ มาใช้งานและเก็บเลเวลให้พวกเค้า หรือใครที่ชอบความท้าทายก็มีศัตรูเก่ง ๆ ให้ได้สู้ แถมได้ จุดสำคัญเลยคือเป็นโหมดที่เหมาะมากสำหรับการปั๊มเงิน รถจิ๋ว อีกมินิเกมนึงที่ชวนให้นึกถึงวัยเด็กมาก เราสามารถที่จะมาแต่งรถและเข้ามาแข่งกับ NPC ในเกมได้ มีตั้งแต่การแข่งแบบทัวร์นาเมนต์ ไปจนถึงประลองแบบ 1-1 กับนักแข่งที่เป็น NPC คนอื่น ๆ ภายในเกม จีบสาว เราสามารถไปเที่ยวและพบเจอกับเหล่าสาว ๆ สุดสวยได้ ซึ่งในคลับแต่ละแห่งก็จะมีสาว ๆ ไม่เหมือนกันด้วยครับ โดยหลังจากที่เราได้จีบสาวจนสนิธถึงระดับนึงแล้วจะสามารถปลดล็อกเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ แถมดูย้อนหลังได้ด้วยนะ ตู้เกม ภายในเมืองจะมีตู้เกมเก่า ๆ จากทาง Sega ให้เราเล่นกันด้วยครับ เผื่อใครอยากย้อนรำรึกความหลัง ก็ลองเดินไปร้านเกม Arcade ในเมืองดูได้ มีให้เล่นหลายเกมเลย จริง ๆ แล้วยังมีมินิเกมอื่น ๆ ให้เราเล่นอีกเพียบเลยครับ แต่ถ้าเล่าหมดน่าจะเยอะเกินไป ซึ่งมันมีให้เล่นเยอะจริง ๆ ใครกลัวเล่นไม่คุ้มผมบอกเลยว่าแค่มินิเกมอย่างเดียวก็คุ้มมากแล้วล่ะ การสำรวจภายในเมือง อันนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่ผมค่อนข้างชอบเลย คือตัวเกมจะมีของเล็ก ๆ น้อย ๆ ซ่อนไว้ตามจุดต่าง ๆ และมีอะไรให้เราทำในเมืองหลายอย่างมาก ร้านค้าแต่ละร้าน หลาย ๆ แห่งเราก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้ เช่นสารพัดร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นฟาร์สฟู้ด หรือร้าน ต่าง ๆ เราเข้าไปซื้ออาหารเพื่อฟื้นฟูเลือดได้ แต่ว่าจะไม่ได้ต่างอะไรกันมาก แต่ก็เป็นกิมมิกเล็ก ๆ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนเราไปเดินในญี่ปุ่น ในการสำรวจเมือง นอกเหนือจากร้านค้าต่าง ๆ เราจะสามารถหาไอเทมที่ซ่อนอยู่ตรงนั้นตรงนี้ หรือทำภารกิจที่ชาวเมืองต้องการขอความช่วยเหลือได้ เรียกว่ามีอะไรให้ค้นหาเยอะเลยครับ และภายในเมืองจะมีกุญแจล็อกเกอร์ที่ซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ หากเราหาเจอจะเอมาปลดล็อกไอเทมที่ตู้ได้ด้วย สำหรับคนที่อยากบู๊ ในระหว่างที่เราเดิน ๆ อยู่ในเมืองจะมีโอกาสเจอพวกจิ๊กโก๋เข้ามาสู้กับเรา ซึ่งการจัดการพวกมันก็จะได้รับเงินเป็นการตอบแทนด้วย บางทีหากขาดเงินในช่วงแรกของเกมก็มาไล่ฟาดพวกนี้แหละ อะไรคือ Akane Network Akane Network หรือเครือข่ายของอากาเนะ ที่เป็นตัวละครหลักอีกตัวในภาคนี้...

Read more

บอกตามตรงว่าทางผู้เขียนในตอนแรกไม่ได้อยากจะลองมาจับเกม World of Horror นี้เท่าไหร่ด้วยความที่ค่อนข้างขี้ตกใจง่ายเป็นทุนเดิมและไม่ค่อยได้เล่นเกมแนวสยองขวัญเท่าไหร่ แต่ด้วยตัวเกมที่แปลกมากๆ เลยคิดว่าต้องลองหยิบมาดูสักนิด ซึ่งตัวเกมนี้ค่อนข้างต่างจากที่คิดเอาไว้เยอะเลยทีเดียว และมีหลายจุดที่ถือว่าน่าสนใจเอามากๆ เพราะเกมนี้เนี่ย จะมีตีมของเรื่องเป็นยุคช่วงปี 80 ของญี่ปุ่น โดยเราจะได้พบกับผีในตำนานเมืองต่างๆ และปริศนาต่างๆ มากมายในเกม แถมพอเริ่มเล่นที่ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเกมแนวต้องหนีผีรึเปล่า สรุปเป็นที่เราต้องวางแผนใช้ทรัพยากร แถมมีการสู้กับผีอีก!! เอากะพี่แกสิ เอาเป็นว่าใครสนใจเกมนี้ลองฟังผมเล่าประสบการ์ณที่ได้สัมผัสมากันครับ https://www.youtube.com/watch?v=p6i-JQjqeLU เนื้อหาของเกม ขอขยายจากที่เกริ่นไว้สักหน่อย คือเกมนี้เราจะรับบทเป็นตัวละครต่างๆ ที่อยู่ในเมือง Shiokawa ในช่วงปี 80 จุดประสงค์หลักของตัวเกมคือเราจะต้องไขปริศนา 5 คดีให้ได้เพื่อเดินทางเข้าไปยังประภาคารต้องสาปเพื่อหยุดการตื่นขึ้นมาของเทพเจ้าในตำนาน เนื้อเรื่องจะมีบางส่วนที่อ้างอิงมาจากตำนานของ Lovecraft ผสมกับการเล่าเรื่องแนวสยองขวัญที่ชวนสยองและชวนอี๋ อารมณ์คล้ายผลงานของคุณ จุนจิ อิโตะ เจ้าของผลงานคลังสยองขวัญ ซึ่งทางผู้สร้างก็ได้บรรยายเกี่ยวกับเกมเอาไว้ว่า เกมนี้เป็นจดหมายรักถึง คุณจุนจิ อิโตะ และ H.P.Love Craft World of Horror เกมเพลย์ ก่อนอื่น ในการเข้าเล่นครั้งแรกหลายคนอาจจะงงแบบผู้เขียนว่า แต่ละอันมันต่างกันไงวะ! คือในส่วนของข้อแรก จะเป็นแนวๆ Tutoriol เป็นบทง่ายๆ ให้เราลองสำรวจสิ่งต่างๆ นิดหน่อย ส่วนการเล่นจริงจะอยู่ในส่วนของ Extracutticular Activity กับ Quick Play ที่เราจะต้องทำการไขคดีทั้งหมด 5 คดี ดังนั้นหาก อยากสัมผัสความท้าทายเลยแนะนำให้ลองเลือก Quick Play ดูครับ หรือหากเล่นครั้งแรกๆ ยังไม่ชินก็อาจจะเลือกเป็นข้อ 2 ก่อนได้ และถ้าชำนาญแล้วค่อยเลือกCustomize การเล่นเอา และหากใครที่คิดว่าภาพของเกมมันดูยาก เพราะเหมือนต้องมองผ่านจออีกต่อ สามารถปรับ Size ของตัวภาพให้เต็มจอได้นะครับในSetting เพราะผมก็เจอปัญหานี้เหมือนกัน ในส่วนของเกมเพลย์จะแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ๆ เลยคือส่วนของการเตรียมตัว การสำรวจ และการต่อสู้ โดยการเตรียมตัวเนี่ยเราก็จะสามารถเข้าไปซื้อของต่างๆ ไปพักผ่อนเพื่อเพิ่มค่าพลังชีวิตและค่าสมอง หรืออาจจะเข้าไปยังห้องสมุดเพื่อเรียนรู้คาถาใหม่ๆ มาใช้งาน หรือจะไปหาอาวุธและอุปกรณ์จากร้านค้าก็ได้ ซึ่งเราจะสามารถเลือกกดไปที่สถานที่ต่างๆ และไปยังจุดที่ต้องการได้ แต่การ Action แต่ละครั้งจะเป็นการเพิ่มค่า "Doom" ถ้าหากว่าค่านี้เต็ม 100% เมื่อไหร่เราจะแพ้ทันที ดังนั้นการเลือกจะทำอะไรก็ต้องคิดให้ดีก่อน เมื่อเราเตรียมตัวพร้อมแล้ว จะต้องทำการ "สำรวจ" สถานที่ต่างๆ ในเกม ซึ่งโดยปกติแล้วเกมจะมาร์คเอาไว้ให้ว่าในคดีที่เรากำลังทำอยู่จะต้องไปสำรวจที่ไหนถึงจะได้ความคืบหน้าเพิ่ม และในส่วนของการเตรียมตัวที่หลายคนอาจจะไม่ทราบตอนพึ่งเล่นคือเราสามารถหาพรรคพวกเพิ่มได้ โดยหลักๆ แล้วจะหาได้จากการไปชักชวนเพื่อนๆ ที่อยู่ที่โรงเรียน หรือในบางเหตุการณ์ก็อาจจะได้ตัวละครที่มาเดินทางไปพร้อกับเราได้หากทำตามเงื่อนไขหรือเลือกตอบช้อยถูก ซึ่งการมีเพื่อนมาร่วมเดินทางเนี่ยจะทำให้เราได้ค่าสเตตัสหรือสกิลพิเศษในการเล่นด้วย (แต่บางตัวก็ลบสเตตัสนะ) ทีนี้มาส่วนที่สองของตัวเกมคือการสำรวจ หลังจากที่เรากดสำรวจไปแล้ว เราจะสุ่มเจอเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งจะมีอยู่เยอะมากที่เราอาจจะได้เจอ ซึ่งผมเล่นไปหลายชั่วโมงก็ยังเจอไม่ครบ โดยเราจะต้องใช้การคิดและตัดสินใจว่าจะทำอะไร ซึ่งหลังการเลือกไปแล้ว จะมีการสุ่ม ว่าจะ Success หรือเปล่า โดยการเลือกแต่ละอย่างจะใช้สเตตัสต่างกันออกไป เช่นการเลือกแนวที่ต้องใช้กำลัง จะสุ่มจากค่า STR หรือ แนวคิดวิเคราห์ก็จะใช้ค่า PER ไม่ก็ KNW หรือถ้าเป็นการพูดคุยหรือเกลี้ยกล่อมจะใช้ CHR เป็นต้น โดยการที่เราผ่าน Event ได้อาจจะได้รับของตอบแทนหรือ อาจจะโดนลงโทษก็ได้อยู่กับว่าเราสุ่มเจอ Event อะไร หรือบางครั้งหากเราดวงไม่ดีก็จะมาเจอกับอีกส่วนของเกมคือเราจะต้องสู้กับผี! หรือไม่ก็ตัวประหลาดอะไรสักอย่างในเกม ซึ่งอินเตอร์เฟสในการต่อสู้เกมนี้บอกตรงๆ ว่าค่อนข้างจะดูยากสักหน่อยในตอนแรกๆ ต้องทำความคุ้นเคยสักระยะ โดยศัตรูที่เราจะเจอได้หลักๆ จะเป็นพวกผี / คน และสัตว์ประหลาด รวมถึงแต่ละตัวก็จะมีจุดอ่อนต่างกันออกไป ซึ่งเราอาจจะเลือกสู้หรือหนีก็ได้ เพียงแต่การหนีจะเป็นการเพิ่มค่า DOOM ครับ ทั้งนี้ในการต่อสู้จะแบ่ง Action ออกเป็นหลักๆ 4 หมวกคือ การโจมตี / ซัพพอร์ต / ป้องกัน / วิญญาณ มอนสเตอร์บางตัวเราจะใช้คำสั่งโจมตีปกติไม่ได้ ต้องใช้คำสั่งทางวิญญาณ หรือบางตัวอาจจะมีคำสั่งพิเศษปรากฏออกมาให้เราเลือกก็ได้ ซึ่งในส่วนของซัพพอร์ตก็จะมีการตรวจสอบศัตรู รวมไปถึงการหาอาวุธแถวๆ นั้นมาใช้ด้วย โดยหลักๆ แล้ว Action แต่ละอย่างจะมีเวลาที่ต้องใช้ เราสามารถเลือกรวมได้ 200 โดยอาวุธ หรือ Action บางชนิดหากค่าสเตตัสบางอย่างเราสูงก็จะทำให้ใช้ค่าเวลาน้อยลง สำหรับตัวละครของเราจะมีในส่วนของการพัฒนาและเติบโตได้ด้วย เมื่อเราผ่านเหตุการณ์ต่างๆ หรือสู้กับสิ่งลี้ลับชนะ เราจะได้รับค่า EXP มาเป็นสิ่งตอบแทน โดยเราสามารถเอาไปแลกเป็นเงินได้ที่สถานีตำรวจ หรือจะเก็บเอาไว้เลเวลอัป เพื่อเพิ่มค่าสเตตัสและสุ่มหา Perk ใหม่ๆ มาใช้งานได้ ซึ่งค่าสเตตัสของเกมนี้จะส่งผลกับการต่อสู้ และการสุ่มในการเลือกตอบคำถามต่างๆ ส่วน Perk จะเป็นสิ่งที่สุ่มได้หลังเลเวลอัป ให้เราเลือก แต่ละ Perk ความสามารถจะต่างกันออกไป ซึ่งในบางครั้งหากมี Perk ที่กำหนด จะมีตัวเลือกพิเศษออกมาให้เราตอบตอนเจอกับ Event ด้วย จุดที่บีบคั้นหัวใจมากๆ เลยคือภายในการเล่นเมื่อเราตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง หรือกด Action ไปแล้ว จะทำให้ค่า Doom เพิ่มขึ้น โดยเจ้าค่านี้จะค่อยๆ ขึ้นตาม Action ที่เราทำภายในเกม หากค่านี้มีมากถึง 100% เมื่อไหร่เกมจะจบลงทันที ทำให้เราต้องวางแผนการเล่นอย่างรอบอบว่าจะทำอะไร และแถมยังต้องมาลุ้นอีกว่า การที่เราเลือกไปจะออกหัวหรือก้อย เพราะเราไม่สามารถเดาได้เลยว่าการออกสำรวจในเกมนี้จะเจอ Event อะไรบ้าง อาจจะเป็นประโยชน์กับเราหรือทำให้เราแพ้เร็วขึ้นก็ได้เหมือนกัน จุดน่าปวดหัวของเกมอีกอย่างคือ สถานะผิดปกติต่างๆ ที่เราอาจจะได้เจอ ซึ่งบางค่าสถานะก็อาจจะไม่สามารถรักษาได้ ค่าสถานะผิดปกติส่วนใหญ่เราจะได้รับมาจากการต่อสู้ หรือบางครั้งอาจจะได้มาจาก Event ที่เราดวงซวย โดยเราสามารถรักษาสถานะผิดปกติส่วนใหญ่ได้โดยไปที่โรงพยาบาล แต่บางอย่างเช่นพวกคำสาปก็ไม่สามารถรักษาได้ หรือมีวิธีที่ค่อนข้างพิเศษ เหตุการ์ณที่เป็นไปได้หลายแบบ ในฉากจบของแต่ละคดี หรือฉากจบของเกมมีอยู่หลากหลายให้เราได้ลองค้นหากัน ในบางคดีหากเราไขปริศนาพิเศษได้ หรือทำตามเงื่อนไขพิเศษ จะเจอกับฉากจบของ Event ที่แตกต่างกันออกไป เช่นบางทีอาจจะเบอกับบอสลึกลับ หรือ เหตุการณ์แปลกๆ แถมในแต่ละคดีก็มีฉากจบอยู่ค่อนข้างเยอะด้วย ใครที่ชอบค้นหาความลับของเกมอันนี้ก็เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นดี สรุป World of Horror เกมนี้เป็นเกมที่ต้องใช้การวางแผนในระดับนึง ต้องคอยบริหารทรัพยากร และเลือก Action ต่างๆ ซึ่งความสนุกของเกมคือการที่เราแทบจะไม่สามารถคาดเดาอะไรภายในเกมได้เลย ด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ที่สุ่มมาให้ยากที่จะเดาได้ แต่ทั้งนี้จุดมุ่งหมายหลักๆ คือการที่เราจะต้องไขปริศนาเรื่องเล้นลับให้ได้ ซึ่งถ้าใครที่ชอบเกม RPG และเรื่องราวสยองขวัญคิดว่าเกมนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ

Read more

SYNCED คือ เกมแนว Looter Shooter แบบ Rougelike จากผู้พัฒนา NExT Studios ที่เราจะได้สวมบทบาทเป็น Runner ต่อสู้กับศัตรูที่เรียกว่า "Nano" ซึ่งตัวเกมพึ่งได้เปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 นี้เอง โดยเราก็ได้มีโอกาสไปลองเล่นแล้วในวันนี้ก็จะมารีวิวให้เพื่อนๆ ดูกันว่าตัวเกมมีอะไรน่าสนใจบ้าง หากพร้อมแล้วก็มาดูกันได้เลย! Gameplay ของ SYNCED เริ่มต้นจากตัว Gameplay ของเกมกันเลย โดยตัวเกมจะมีมุมมองการเล่นเป็นแบบ Third-Person Shooter ที่จะเข้าเป็นโหมด First-Person ก็ต่อเมื่อกดเข้า Scope ตัวปืน ภายในเกมเราจะสามารถเล่นได้ทั้งแบบ Solo หรือแบบจับทีมกับเพื่อนอีก 2 คน แล้วไปตะลุยด่านด้วยกัน เพื่อลงไปทำภารกิจกำจัดศัตรูล่าของมาเสริมพลังให้กับตัวละคร ซึ่งเรายังมีตัวช่วยที่ทำให้เล่นผ่านได้ง่ายมากขึ้นด้วยการ Sync ศัตรู Nano ระดับ Prime ให้มาเป็นคู่หูของเราได้อีกด้วย แต่ว่าเราก็ไม่สามารถลุยได้ยาวๆ เพราะว่าระหว่างทำภารกิจตัวเกมจะมีระบบที่เรียกว่า "Surge Difficulty" มาเพิ่มความยากในการเล่นของเรา โดยมันจะตัวเกจของค่า Surge ยิ่งสูงก็จะทำให้ได้รับดาเมจมากขึ้น หากค่า Surge ขึ้นถึง 100% เราก็จะได้รับดาเมจตลอดเวลา นอกจากการลงไปล่าของตามปกติแล้ว เกมยังมีโหมดการเล่นแบบ PvP ที่มีรูปแบบการเล่นแบบยึดฐาน ฆ่าศัตรู เพื่อสะสมคะแนนให้ได้มากที่สุดจนกว่าจะหมดเวลา ซึ่งหลังจากที่ได้เล่นมาตัวของโหมด PvP ทำออกมาค่อนข้างสนุกไม่แพ้โหมด PvE เลยทีเดียว หากเป็นคนที่ชืนชอบในการเข้าปะทะกับคนอื่นๆ แล้วละก็บอกได้เลยว่ามันส์แน่นอน ระบบ Armband มาต่อกันที่ระบบ Armband หรือระบบหน้า Loadout ก่อนเข้าเล่น ซึ่งในระบบนี้เราจะสามารถเลือกตัวละครหรือที่เกมนี้เรียกว่า Runner เล่นได้ถึง 6 ตัวละครด้วยกัน ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีความสามารถโดดเด่นต่างกันออกไป อย่าง Deadcut ที่เด่นในเรื่องของการปาระเบิดไฟ พร้อมทำให้บริเวณนั้นเกิดไฟไหม้สร้างได้ดาเมจต่อเนื่องได้ค่อนข้างแรง อีกทั้งในระบบนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่า "Runner Mod" ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถของตัวละครและอาวุธปืนให้ดียิ่งขึ้นด้วย และตัวในตัวของ Runner Mod ยังมีค่าพลังช่วยให้เราได้ยิงแรงและยืนรับดาเมจจากศัตรูได้อีกด้วย แล้วในระบบนี้เราจะสามารถเลือกชนิดคู่หู Nano ที่จะได้มาเป็นคู่หูคอยช่วยในการโจมตีหรือซัพพอร์ตต่างๆ ให้เราได้อีกด้วย โดยเจ้าหุ่น Nano นี้ตอนเข้าไปเล่นในด่านจะยังไม่มีให้ใช้ เราจำเป็นต้องฆ่า Nano ระดับ Prime ก่อน แล้ว Sync มันมาเป็นพวกเรา ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งระบบที่มีเสน่ห์ของเกมนี้เลย ระบบ Guntech ในส่วนของระบบ Guntech นี้จะเรียกแบบให้เข้าใจง่ายๆ ว่าก็คือ ระบบปืน โดยอาวุธปืนภายในเกมนี้จะมีทั้งหมด 4 ระดับ ไล่จากระดับต่ำสุดไปสูงสุดดังนี้ เทา > ฟ้า > ม่วง > ทอง ซึ่งอาวุธปืนทุกกระบอกภายในเกมนี้จะสามารถ Custom แต่งได้หมดเลยไม่ว่าจะเป็น กล้อง, ปลายกระบอก หรือ Magazine ซึ่งอุปกรณ์แต่ละอย่างก็จะช่วยให้เล่นง่ายมากขึ้น เช่น ลด Recoil ของตัวปืนลง, Reload กระสุนได้ไว้ขึ้น หรือ Zoom เล็งได้ไกลมากยิ่งขึ้น เป็นต้น แล้วพวกปืนตั้งแต่ระดับสีฟ้า ขึ้นไปก็จะมีความสามารถเสริมเข้ามา เพื่อทำให้การเล่นของเราทั้งในโหมด PvE และ PvP เล่นได้อย่างมากขึ้น อย่างปืน Supernova ที่เวลายิงไปแล้วจะสร้าง Blackhole ขึ้นมาทำดาเมจระเบิดแบบต่อเนื่องใส่พวก Nano ที่อยู่ในระยะของ Black Hole ระบบกาชา ในเกมนี้นอกจากปืนทั่วไปที่เราสามารถฟาร์มได้จากการเล่นแล้ว ยังมีกาชาให้ได้ลุ้นปืนระดับสีม่วง - สีทอง ที่มีความสามารถค่อนข้างดี มาให้เราได้เล่นง่ายมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเรทกาชาของเกมนี้ก็ถือว่าไม่แย่มากเท่าไหร่นัก ซึ่งพวกปืนระดับสีทอง จะมีเรทอยู่ที่ 0.20% หากมองผ่านๆ จะดูเหมือนว่าเรทการออกน้อยมาก แต่ว่าเกมได้ใส่ระบบ Soft Pity ที่จะเพิ่มเรทการออกขึ้นมาถึง 1.9% หลังจากสุ่มครบ 45 Roll และมีการันตีการออกหลังจากสุ่มครบ 60 Roll ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ค่อนข้างน้อยมาก สำหรับการได้ปืนทองมาเล่นกระบอกหนึ่ง สรุปการรีวิว สำหรับตัวเกม SYNCED ก็เป็นเกมแนว Shooter อีกหนึ่งเกมที่น่าโหลดมาลองเล่นมากๆ ด้วย Concept เกมที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์อย่างการทำให้ศัตรูมาเป็นพวกเรา หรือในเกมจะเรียกว่า "Syncing" ทำให้การเล่นของเรามีลูกเล่นแล้วดูมีมิติมากขึ้นพอสมควร และอีกหนึ่งระบบที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั้นก็คือ "ระบบ Guntech" หรือระบบปืน โดยปืนของเกมนี้แต่งได้หลายหลากมาก สายแต่งปืนรับรองว่าชอบแน่นอน สำหรับคนที่สนใจอยากลองเล่น สามารถโหลดมาเล่นได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลย PC: >>Link<<Steam: >>Link<<Epic: >>Link<< สามารถเข้าร่วมกลุ่มผู้เล่นทาง Facebook ได้ที่: SYNCED Thailand สามารถเข้าร่วมกลุ่มผู้เล่นทาง Discord ได้ที่: Discord SYNCED Thailand

Read more

หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ Holocure ผ่านหูกันมาบ้างแต่ไม่ทราบว่าเป็นเกมยังไง วันนี้ก็จะมาขอ รีวิว ตัวเกม Holocure ให้เพื่อนๆ กันเผื่อใครสนใจเกมแนวเล่นเพลินๆ เล่น ฟรี ผ่าน Steam จะสนใจกันจ้า ซึ่งตัวเกม Holocure นั้นเป็นเกมแนวเดินหน้ายิงแหลกเหมือนกับรุ่นพี่อย่าง Vampire Survival แต่เปลี่ยนตัวละครเป็นเหล่า Talent ของทางสังกัด Vtuber Hololive นั่นเอง พร้อมกับใส่เอกลักษณ์ของตัวเองลงไปแน่นๆ เต็มเปี่ยมให้มีความต่างจากเกมรุ่นพี่พอควรเลยทีเดียว ด้วยความที่มีอะไรให้เล่นให้ทำพอสมควร จึงกลายเป็นอีกหนึ่งในเกมสายไทม์แมชชีนที่เล่นเพลิน รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้วเฉยเลย รีวิว Holocure เลือกไอดอลที่ชอบแล้วลุย 20 นาทีให้ผ่าน! หลักๆ แล้วการเล่น Holocure ก็จะไม่ค่อยต่างกับเกมแนวนี้เท่าไหร่นัก ที่เราจะเลือกตัวละครเริ่มต้นที่เราต้องการเข้าไปลุยในด่าน ที่จะค่อยๆ มีศัตรูปรากฎขึ้นมารอบๆ พร้อมกับเข้ามารุมยำเรา ตัวละครจะยิงอาวุธออกไปโดยอัตโนมัติ เมื่อกำจัดศัตรูได้ก็จะมีค่าประสบการณ์หล่นมาให้เก็บเพื่ออัปเลเวล หาอาวุธหรือไอเทมมาเพิ่มความสามารถในการเคลียร์มอน เมื่อเวลาผ่านไป มอนก็จะเริ่มโหดขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราต้องพยายามหาอาวุธที่เหมาะสมหรืออัปเกรดอาวุธให้โหดเพียงพอที่จะรับมือกับเหล่ามอนได้นั่นเอง ระหว่างที่เล่นก็จะมีมินิบอสและบอสออกมาให้เราปราบที่จะการันตีได้โบนัสไอเทมอย่างแน่นอน หากเอาตัวรอดได้จนถึงเวลาที่กำหนดและกำจัดบอสใหญ่ได้ ก็จะได้จบเกมด้วยชัยชนะ ซึ่งในแต่ละรอบการเล่นก็จะมีเวลาที่ 20 นาทีก่อนที่บอสใหญ่ของด่านจะปรากฎออกมา เรียกว่าเป็นระยะเวลาที่กำลังดี ไม่นานหรือสั้นเกินไปเลยล่ะ หลังจบด่านไม่ว่าแพ้หรือชนะ เราจะได้รับเหรียญ Holocoin สำหรับใช้ในการอัปเกรดค่าสเตตัสให้เราเล่นได้ง่ายขึ้น หรือปลดล๊อคตัวละครใหม่ๆ ได้ อันเป็นเอกลักษณ์เกมแนวนี้ที่เราจะ power creep หรือเก่งขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อผ่านได้ชิวๆ ก็จะเพิ่มความท้าทายด้วยการเพิ่มจำนวนมอนในด่านให้มากขึ้นหรือเลือกด่านที่โหดขึ้นท้าทายความสามารถกันไป แน่นอนว่าการจะอัปค่าสเตตัสต่างๆ ต้องใช้เหรียญจำนวนมาก ทำให้เราต้องเล่นกันหลายรอบเพื่อฟาร์มเหรียญนั่นเอง! เอกลักษณ์ในรูปแบบไอดอล เพื่อให้มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง Holocure นั้นก็ได้เปลี่ยนรูปแบบหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นการปลดล๊อคตัวละคร แทนที่จะใช้เหรียญซื้อตรงๆ ก็เป็นการสุ่มกาชาตัวละครที่หากได้ตัวซ้ำก็จะได้หยอดนำตา สะสมไว้แลกซื้อตัวละครที่ต้องการหรือชุดใหม่ของตัวละครนั้นๆ ได้ และการได้ตัวละครซ้ำก็จะช่วยบัพเพิ่มค่าสเตตัสให้อีกด้วย (มีขีดจำกัดสูงสุดอยู่) นอกจากนี้ตัวละครแต่ละตัวเองก็จะมีอาวุธเฉพาะของตัวเองและสกิลรวมถึงท่าไม้ตายที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน ทำให้การเลือกตัวละครอื่นไม่ได้มีแค่ค่าสเตตัสพื้นฐาน (เลือด, พลังโจมตี) ที่แตกต่างไป เพราะอาวุธเริ่มต้นและสกิลที่ต่างไปนั้นทำให้แต่ละตัวละครนั้นเล่นแตกต่างกันไป เช่นบางคนเด่นด้านโจมตีประชิดและการหลบหลีก ในขณะที่อีกตัวละครอาจจะเน้นค่อยๆ สะสมไอเทมพิเศษบัพตัวเองไปเรื่อยๆ บางตัวอาจจะไม่เก่งโจมตีแต่เอาตัวรอดดีมากๆ เป็นต้น จุดนี้ทำให้เราอยากจะลองตัวละครหลายๆ ตัวเพื่อหาคนที่ถูกใจที่สุดนั่นเอง ในด้านของอาวุธหรือไอเทมนั้นก็ค่อนข้างจะเรียบง่ายไม่ยุ่งยากมากนัก แต่ละอาวุธก็มีลูกเล่นการใช้งานที่แตกต่างกัน  อาวุธบางชนิดยังสามารถนำมารวมกัน (Collab) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้นและมีช่องให้เราเลือกอาวุธอื่นเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวละครมากขึ้นได้อีก ในตอนแรกที่เล่นจะรู้สึกว่ากำจัดศัตรูได้ยาก แต่พอเวลาผ่านไปเหล่าไอดอลจะเริ่มมีอาวุธทรงพลัง ทำลายล้างจอมากขึ้น ระเบิดตูมตาม การรวมอาวุธก็เป็นอีกจุดที่ทำให้เราอยากรู้ว่าอะไรรวมกันได้บ้างและพยายามหาคอมโบสนุกๆ เข้ากับตัวละครนั้นอีกด้วย Holohouse รวมมินิเกมเล่นเพลินๆ ไม่เพียงแค่เกมหลักที่ให้เหล่าไอดอลของเพื่อนๆ ได้ไปโลดแล่นในด่านแล้ว ทางผู้พัฒนายังได้เพิ่มส่วนของ Holohouse ที่เป็นบ้านแสนสุขไว้พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย โดยในส่วนของ Holohouse จะเป็นแหล่งรวมมินิเกมที่ไว้เปลี่ยนบรรยากาศในการเล่นและเป็นไทม์แมชชีนหนักกว่าเดิม (ฮา) ไม่ว่าจะเป็นการตกปลาที่ใช้หาเงินได้ การปลูกผักเล็กๆ น้อยๆ ไว้หาวัตถุดิบเพิ่มเติม เอาปลาและผักไปปรุงอาหารบัพความสามารถในการเล่นเกมหลัก หรือบริการเหล่าแฟนๆ น่ารักของเหล่าไอดอลให้ช่วยหาเงินก็ได้ทั้งนั้น แน่นอนว่าชื่อบ้านแล้วจะไม่มีการแต่งบ้านก็คงไม่ได้ ทางผู้พัฒนาก็ยังได้ใส่บ้านหลังน้อยให้เพื่อนๆ ได้เอาเงินที่หาได้จากการเล่นมาซื้อเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านในแบบที่ตัวเองต้องการกันได้เต็มที่อีกด้วย (แต่แพงนะเอ้อ บอกก่อนเลย หมดตัวกันง่ายๆ) โดยเฟอร์นิเจอร์เมื่อซื้อมาแล้วจะวางได้ไม่อั้นในบ้านเลย ยัดกันให้สะใจได้ว่างั้น! แต่ว่าการแต่งบ้านไม่ส่งผลอะไรกับการเล่นนะจ๊ะ เอาสวยๆ อย่างเดียว มินิเกมต่างๆ ใน Holohouse นั้นถ้าว่ากันตามตรงแล้วก็สามารถหาเหรียญได้ไม่น้อยไปกว่าการเล่นตามด่านปกติเลยด้วยซ้ำ แถมเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการฟาร์มด่านไปในตัวอีกด้วย ความเล่นง่ายที่ดึงดูด จุดเด่นอย่างหนึ่งของตัวเกมแนวนี้ก็คงต้องบอกว่าเป็นการเล่นที่เข้าใจง่าย วิธีควบคุมมีไม่เยอะ แค่เดิน กดเล็งกดสกิลแค่นั้นเอง กับเอาตัวรอดเดินหนีมอนแล้วยิงจนกว่าพวกมันจะตาย เวลาก็มีกำหนดให้เสร็จสรรพ ไม่มากไม่น้อยเกินไปต่อรอบ ทำให้มันเป็นเกมที่เข้าถึงได้ง่ายมากๆ ในช่วงต้นอาจจะรู้สึกงงว่า เอ๊ะ เราควรเลือกอาวุธอะไรดี ไอ้กล่องนี้คืออะไร แต่ถ้าไม่คิดมากอยากเทพตั้งแต่ตาแรกเลย เราก็ค่อยๆ ลองผิดลองถูกประสาเกมเมอร์ ดูว่าอาวุธนี้มันเก็บแล้วยิงออกมายังไง น่าใช้ไหม พอเราอัปเกรดอาวุธ ค้นพบว่ามันเอามารวมกันได้ เล่นจบเอาเงินมาไปสุ่มกาชาหาตัวละครอื่นที่มีสกิลที่แปลกไปได้ หรือมาเลือกอัปเกรดสเตตัสให้เล่นได้ง่ายขึ้น ก็จะทำให้เรารู้สึกว่าตัวเกมมีอะไรให้เราเล่นเยอะ อยากลองนู่นนี่ค้นหาคอมโบแปลกๆ มากขึ้น เป็นจุดดึงดูดของเกมมันเลยทีเดียว ชนิดที่ถ้าใครไม่ได้เกลียดเกมแนวนี้ก็สามารถติดและเพลินไปกับมันได้ง่ายๆ แต่ในขณะเดียวกันคนที่ไม่ชอบแนวนี้ก็จะรู้สึกว่ามันจำเจไปหน่อยได้เช่นกัน แน่นอนด้วยความที่เป้าหมายของการเล่นอยู่ที่ผ่านด่านหาเหรียญมาอัปเกรดหรือปลดตัวละคร ก็เป็นเหมือนข้อเสียของเกมกลายๆ ว่าเราจะอยากหาทางฟาร์มเหรียญให้ได้เยอะๆ มากกว่าจะเล่นแบบอื่นในช่วงแรก ทำให้รูปแบบการเล่นอาจจะจำกัดหรือรู้สึกเซ็งๆ ที่ไม่ได้ของสำหรับปั้มเหรียญก็เป็นได้ แบบรู้สึกเก่งกว่าแต่ได้เหรียญซะน้อยเลยรอบนี้อะไรทำนองนั้น ซึ่งถ้าเกิดเพื่อนๆ ไม่รู้สึกติดตรงนี้ก็จะสนุกกับตัวเกมได้มากขึ้นเป็นอย่างมากเลยทีเดียว สรุป รีวิว Holocure  ต้องบอกว่า Holocure เป็นอีกหนึ่งในเกมแนว Survival ยิงแหลกแหกด่านที่น่าสนใจ แม้ว่าจะอยู่ในแนวเดียวกันกับหลายเกมที่เคยเป็นกระแส แต่ก็มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง มี replayability สามารถเอามาเล่นซ้ำเรื่อยๆ ได้มากจากตัวละครที่มีความแตกต่างกัน แม้ว่าตัวด่านอาจจะยังไม่เยอะเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังสามารถอัปเดทเพิ่มเรื่อยๆ ในอนาคตได้อีก แม้ว่าตัวเกมจะอ้างอิงจากทางค่ายไอดอล Vtuber อย่าง Hololive แต่คนที่ไม่รู้จักหรือไม่ได้ติดตาม Hololive ก็สามารถสนุกกับตัวเกมได้เต็มที่ ด้วยรูปแบบการเล่นที่เข้าใจง่ายและชวนให้เสพติดมากมาย (แค่อาจจะสงสัยว่าทำไมต้องเป็นตัวนี้ๆ แต่ถ้าเราคิดในเกมอื่นๆ ที่พึ่งเคยเล่นก็คงไม่ต่างกันนัก) ในขณะที่คนที่ติดตามก็จะอดอมยิ้มกับ easter egg เกือบทั้งเกมที่อ้างอิงกับเหล่าแฟนคลับหรือไอดอลแต่ละคนไม่ได้ นอกจากนี้แล้วตัวเกม Holocure เองก็ยังเป็นเกมฟรีบน Steam และใช้พื้นที่กับ spec ไม่ได้สูง ทำให้สามารถลองโหลดมาเล่นฆ่าเวลาขำๆ ระหว่างพักเที่ยง เลิกเรียนได้สบายๆ เลยทีเดียว เพราะงั้นอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ลองโหลดมาเล่นขำๆ กันก่อนได้ เกมฟรีไม่กินที่ใช้เวลาเล่นต่อรอบไม่นานแบบนี้ ไม่ถูกใจค่อยว่ากันก็ยังได้ ส่วนใครที่เป็นสายติดตามเหล่า Vtuber จากทาง Hololive ก็เป็นหนึ่งในเกมที่พลาดไม่ได้อย่างแน่นอนเลยล่ะ การันตีความสนุกสำหรับคนที่ชอบเกมแนวนี้เลยทีเดียว ถ้าเพื่อนๆ คนไหนยังไม่ได้เล่น Holocure แล้วสนใจอยากเล่น ก็สามารถเล่นได้ฟรีบน Steam ได้เลย! ► https://store.steampowered.com/app/2420510/HoloCure__Save_the_Fans/

Read more

Metal Slug: Awakening คือ เกมมือถือซีรี่ย์เมทัลสลั๊กแนว Side Scrolling Shooter จากค่ายผู้พัฒนา TiMi Studios โดยในรอบนี้ตัวเกมได้มีการ Remake ยกระดับภาพกราฟิกเป็นแบบ 2.5D สวยงามมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการปรับปรุงระบบการเล่นให้น่าเล่นมากกว่าต้นตำรับด้วย ซึ่งในวันนี้เราจะมารีวิวตัวเกมกันว่ามีความน่าสนใจมากแค่ไหน วันนี้ทาง Playpost ก็ขอหยิบเกมนี้มารีวิวให้ฟัง หากพร้อมแล้วก็มาดูกันได้เลย! Gameplay ของ Metal Slug: Awakening เริ่มต้นกันด้วยเรื่องของ Gameplay หลักของเกมนี้กันก่อนเลย โดยรูปแบบการเล่นของ Metal Slug ภาคนี้นั้นยังคงความเป็น Original ของเกม Metal Slug ไว้ได้เป็นอย่างดี แต่ก็ได้มีปรับปรุงระบบบางอย่างให้ดีขึ้นจากภาคต้นฉบับเช่น การเล็งเป้าของภาคนี้สามารถเลือกได้ว่าอยากให้เล็งแบบ Auto หรือลากเล็งทิศทางเองได้ เรื่องของพลังชีวิตตัวละครที่ภาคต้นฉบับโดนการโจมตีของศัตรูเพียงครั้งเดียวก็จะตายเลย แต่ว่าภาคนี้จะมีหลอดเลือดขึ้นมาทำให้ไม่โดนโจมตีครั้งเดียวถึงตาย จึงทำให้ผู้เล่นที่ไม่เคยเล่นเกมประเภทนี้มาก่อนเล่นได้อย่างมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ตัวเกมในภาคนี้ได้เพิ่มระบบ "สกิลท่าไม้ตาย" ตัวละครมาให้เราได้ใช้สาดสกิลหรือยิงพวกศัตรูแบบมันส์ๆ อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งระบบการเล่นที่ทำให้ตัวเกมเล่นสนุกกว่าภาคต้นฉบับพอสมควรเลย ระบบอีกหนึ่งอย่างที่ภาคต้นฉบับไม่มีและทำให้เล่นสนุกขึ้นมาคือ ระบบสลับตัวละครเล่นระหว่างทาง ซึ่งตัวระบบนี้จะทำเราสามารถสลับตัวละครเป็นตัวอื่นได้ระหว่างตะลุยยิงศัตรู จึงทำให้การเล่นในแต่ละรอบนั้นไม่ซ้ำซากจำเจจนเกินไป มีเสียงพากย์ไทยให้ฟังเพลินๆ ในเรื่องของเสียงพากย์ของตัวเกมกัน โดย Metal Slug ภาคนี้ได้มีการเพิ่มเสียงพากย์ภาษาไทยลงไปด้วย ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างว้าวพอสมควร เพราะว่าเกมที่มีเสียงพากย์ไทยนั้นน้อยมากๆ ส่วนเรื่องน้ำเสียงการพากย์บางประโยคหรือบางคำก็อาจจะฟังดูแปลกเล็กน้อย แต่โดยรวมก็ถือว่าพากย์ได้ดีพอสมควร ระบบตัวละคร เรื่องของระบบตัวละครนี้นั้นแต่ละตัวละครจะมีสกิลเฉพาะตัวกับท่าไม้ตายแตกต่างกันออก และในหนึ่งตัวละครจะสามารถใส่ Gear, Accessory, อาวุธปืน แยกกัน ซึ่งพวกของสวมใส่ที่ไม่ใช่ปืนเราจะหาได้จากการเล่นด่านเนื้อเรื่องภายในเกม หรือโหมดการเล่นต่างๆ ส่วนอาวุธปืนจะหาได้จากกาชา, เควส, กิจกรรม ทำให้เราสามารถปรับเปลียนรูปแบบการเล่นได้ หลากหลาย นอกจากนี้ตัวละครแต่ละตัวก็ยังมีสกิลที่แตกต่างกันอกไปอีกด้วย โดยเราจะสามารถปลดล็อกตัวละครใหม่มาใช้งานได้ภายในเกม นอกจากนี้สำหรับคนที่ไม่ชอบชุดตัวละครแบบเดิมๆ ภายในเกมยังสามารถซื้อสกิน เพื่อเพิ่มความหล่อ สวย ให้กับตัวละครได้อีกด้วย ซึ่งเท่าที่ลองไล่ดูพวกสกินก็มีหลายสกินเลยที่ทำให้ตัวละครเดิมๆ ของเราเปลี่ยนภาพลักษณ์ไปจนจำไม่ได้ โหมดการเล่นใน Metal Slug: Awakening นอกเหนือจากการโหมดตะลุยด่านเนื้อเรื่องแล้ว ภายในเกมยังมีโหมดการเล่นอื่นๆ อีกมากมายให้เราได้เลือกเล่น อย่าง โหมด "แผนไล่ล่า" ที่จะเป็นโหมดการเล่นแบบ Rougelike คือ นอกจากการพาตัวละครไปตะลุยด่านปกติ โหมดนี้จะมีบัฟช่วยให้เล่นได้อย่างสนุกมากขึ้นด้วย ซึ่งพวกบัฟพวกนี้จะสุ่มใหม่ทุกครั้งที่เล่น ทำให้สามารถเล่นได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อ โหมด "แผนไล่ล่า" ระบบกาชาปืนสุดเท่ เมื่อ Metal Slug ภาคนี้ถูกทำมาเป็นเกมมือถือสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "ระบบกาชา" โดยกาชาของเกมนี้นั้นจะเป็นการเปิดสุ่มหา "อาวุธ" เพื่อนำมาใส่ให้กับตัวละครเรา ซึ่งระดับความแรร์ของอาวุธก็จะไล่จากต่ำสุดไปสูงสุดดังนี้ สีเขียว >สีฟ้า>สีม่วง > สีส้ม > สีทองหรือสีเหลือง ยิ่งระดับสูงความสามารถในการทำลายล้างก็ยิ่งสูงตามไปด้วย นอกจากพลังทำลายล้างที่สูงแล้ว รูปลักษณ์ของปืนระดับความแรร์สูงๆ นั้นก็มีความเท่ และน่าเกรงขามอย่างมาก บอกเลยว่าสายสะสมปืนเท่ๆ นี่ถูกใจแน่นอน สรุปการรีวิว สำหรับตัวเกม Metal Slug ภาคนี้นั้นก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าสนใจสำหรับการโหลดมาเล่นพอสมควรเลย เนื่องจากตัว Gameplay ของภาคนี้ถูกปรับปรุงมาให้เล่นได้อย่างสนุกมาก และภาพกราฟิกของเกมก็ทำมาเป็นแบบ 2.5D ก็ค่อนข้างดูดีอยู่ ทำให้เกิดความรู้สึกอยากเล่นต่อ ยิ่งเป็นแฟนเกมซีรี่ย์ Metal Slug อยู่แล้วควรโหลดมาเล่นเลย ทั้ง Google Play และ iOS Link ดาวน์โหลดเกม Android: >>Link<<iOS: >>Link<<APK: >>Link<<

Read more
Page 1 of 5 1 2 5