PC Game Review

รวมรีวิวเกม PC ต่างๆ ที่น่าสนใจ

Chinese Parents review playpost

หากพูดถึงสังคมจีน หลายๆ คนคงคิดถึงความเข้มงวดในการอบรมสั่งสอน สร้างชื่อเสียงในวงตระกูลและเป้าหมายการเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังตามที่ต่างๆ เพื่อสร้างรากฐานในอาชีพที่ดีในอนาคต ในบริบทที่ว่ามาเหล่านี้ ทำให้เกิดแรงบันดาลใจให้ค่าย Moyuwan Games (墨鱼玩游戏) กลุ่มนักพัฒนาเกมอินดี้จากจีนสร้างเกม Chinese Parents ออกมาให้ผู้เล่นทั่วไปได้สัมผัสและได้รู้บริบทต่างๆ ทั้งการเรียนและการใช้ชีวิต ตัวเกมจะมีรายละเอียดเช่นไร สนุกตรงไหน เรามาดูกัน วันวางจำหน่าย: 29 ก.ย. 2018 ผู้พัฒนา: Moyuwan Games (墨鱼玩游戏)ผู้จัดจำหน่าย: Moyuwan Games (墨鱼玩游戏) ผู้รีวิวเล่นเส้นทางแบบเด็กดี, ขยันเรียนเข้ามหาลัยได้, เป็นคนชอบโดดเดี่ยว, ไม่เข้าสังคม, ตอนจบได้คะแนน 441, ตอนจบได้ทำเป็นอาชีพ Computer Science สาย Back-end Developer และจีบสาวไม่สำเร็จ ผู้รีวิวเล่นตัวเกม Ver. 2.0 อัพเดทเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2021  ความเห็นของผู้เขียนให้คะแนน 8/10 “เป็นเกมจำลองให้ผู้เล่นได้เกิดมาเป็นลูกคนจีน ขออวยพรให้ผู้เล่น จงสู้ชีวิตซะ”“แบบจำลองการปั้นเด็กหนึ่งคนเพื่อเข้าสู่มหาลัยชื่อดัง จำลองได้ดีจนผู้รีวิวเล่นครั้งแรกแล้ว ลูกสอบไม่ติด!!!” Nong sod sai Table of contentsบทนำเนื้อเรื่องเกมเพลย์1. ส่วนของการพัฒนาการของเด็ก2. ส่วนของพ่อแม่3. ส่วนอื่นๆจุดด้อยของเกมภาพรวมทั้งหมด https://youtu.be/rdiYnBz484Y บทนำ Chinese Parents เป็นเกมจำลอง Simulator ผสมกับ Puzzle เล็กน้อย ที่ผู้เล่นรับบทเป็นเด็กคนหนึ่งที่เกิดมาในสังคมจีน เป้าหมายหลักๆ ของเราคือการเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังเพื่อให้พ่อแม่ได้รู้สึกภูมิใจ นอกจากเกมเพลย์แล้ว ตัวเกมยังสอดแทรกความเป็นสังคมจีนผสมกับประสบการณ์ต่างๆ ที่ทุกคนเคยสัมผัสมาในช่วงวัยเด็กไม่ว่าจะเป็น เพื่อนแกล้งเรา เป็นคนชอบอยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อนคบ เข้าสังคมไม่เก่ง หรืออื่นๆ ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ หากผู้เล่นสัมผัสแล้ว อาจจะนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยประสบมา ซึ่งทำให้เกิด Flashback ในระหว่างการเล่นของเราได้อีกด้วย ดังนั้นผู้เล่นต้องควบคุมจัดสรรเวลาดีๆ อย่าให้ตัวละครเราซึมเศร้าล่ะ เนื้อเรื่อง ผู้เล่นรับบทเป็นเด็กคนหนึ่งที่เกิดในสังคมคนจีน โดยเรามีหน้าที่ใช้ชีวิตไปเรื่อยและเป้าหมายของเราคือ "การเข้ามหาวิทยาชื่อดังให้สำเร็จ" เพื่อให้พ่อแม่ได้รู้สึกภูมิใจ แต่ในระหว่างทางเรายังต้องควบคุมความสมดุลของชีวิตระหว่างความสุขกับการเรียนอีกด้วย เส้นทางการเรียนจะเป็นเช่นไร เราเล่นจบแล้วจะได้ทำอาชีพไหน ขึ้นอยู่กับเส้นทางการเล่นของผู้เล่นแต่ละคน เกมเพลย์ Chinese Parents เป็นเกมออกแนวการจำลองการใช้ชีวิตในสังคมตั้งแต่ช่วงวัยเด็กจนถึงวัยรุ่น โดยเรานั้นต้องควบคุมจัดสรรเวลาต่างๆ ให้มีความสมดุลระหว่างความสุขและการเรียนให้ไปด้วยกันอย่างราบรื่นที่สุด ห้ามให้แต้มสุขภาพจิตติดลบถึง -100 ไม่งั้นตัวละครเราจะรู้สึกซึมเศร้าแล้วก็ Game over ในทันที ดังนั้นผู้เล่นหากจะเลือกเส้นทางอะไรแล้ว ควรคิดดีๆ เพราะเกมนี้ไม่มีการโหลดเซฟในจุดตามจุดต่างๆ ทุกการกระทำจะ Autosave อยู่ตลอด ซึ่งเปรียบเสมือนตัวเราในชีวิตจริงเวลาตัดสินใจอะไรไปแล้ว จะไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้อีก เกมเพลย์หลักๆ จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ 1. ส่วนของการพัฒนาการของเด็ก ช่วงพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัยจะอยู่ในรูปแบบ Puzzle เล็กๆ ให้เราได้เลือกอัพเกรดความรู้ความสามารถตามใจชอบให้เลือกโดยจะมีค่าสถานะอยู่มากมาย ผู้เล่นจำเป็นที่จะเลือกพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม โดยทักษะการอัพเกรดจะมีอยู่ 2 ส่วนได้แก่ 1.1 ส่วนของวิชาการเรียนรู้ทั่วไป เป็นการเรียนตามวิชาทั่วไปให้เราเลือกเรียนและเน้นตามหลักวิชา ในส่วนนี้ยังส่งผลกับผลการเรียนช่วงสอบปลายภาคอีกด้วย หากเราทำเกรดรวมได้น้อยกว่า B แม่เราก็จะตำหนิ ต่อว่าเรา พยายามปรับการเรียนในแต่ละวิชาให้สมดุลกันด้วย คล้ายๆ กับชีวิตจริงๆ ที่เราต้องเรียนวิชาพื้นฐานให้ครบ 1.2 ส่วนของความบันเทิง ถ้าหากเข้าใจง่านๆ นั้นคือ งานอดิเรกของเรา การเสพความบันเทิงต่างๆ หรือการทำกิจกรรมผ่อนคลาย ส่วนตรงนี้จะเหมาะสำหรับช่วงพักผ่อนในการเรียนเพื่อไม่ให้แต้มความเครียดเยอะเกินไปและหากเราฝึกจนเชี่ยวชาญแล้ว บางทักษะสามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้อีกด้วย 2. ส่วนของพ่อแม่ พ่อแม่ของเราก็คือส่วนหนึ่งของตัวละครในเกมมีหน้าที่คอยดูแลเราในด้านต่างๆ โดยฝั่งของคุณแม่จะดูแลในส่วนของการทำงาน Part time หากเราทำสำเร็จก็จะมีเงินเป็นรางวัลตอบแทนและในส่วนของคุณพ่อเป็นการการวัดดวงในการขออนุญาตทำสิ่งต่างๆ หากเราขอแล้วสำเร็จบางตัวเลือกสามารถเพิ่มตัวเลือกกิจกรรมความบันเทิงได้อีกด้วย เช่น การขอเล่นเกม การขอกระโดดบนโซฟา โดยเปอร์เซ็นความสำเร็จนั้นจะขึ้นอยู่กับค่า Face ซึ่งได้มาจากการไฟท์ทักษะอวดลูกกับป้าข้างบ้านอีกด้วย  3. ส่วนอื่นๆ นอกจากส่วนต่างๆ ที่อธิบายในเกมแล้ว ยังมีส่วนของการเลือกตอบคำถามให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ การเข้าร้านค้าเพื่อซื้อของเพื่อลดหรือเพิ่มค่าสถานะต่างๆ การเลือกตั้งหัวหน้าห้องและการไฟท์ทักษะอวดลูกกับป้าข้างบ้านของฝ่ายคุณแม่อีกด้วย หากผู้เล่นเลือกตอบถูกแล้วจะได้รับแต้มสถานะที่สูงมากเลยทีเดียว มีอีกหนึ่งส่วนที่ตัดสินช่วงท้ายของชีวิตเช่นกันนั้นคือส่วนของการหาคู่ครอง โดยเราจะได้เล่นในช่วงวัยรุ่น ม.ปลาย เกมจะมีตัวเลือกตัวละครต่างๆ ให้เราสานสัมพันธ์กันก็ได้ตามความสนใจและการเลือกคู่ครองนี้ยังมีผลต่อฉากจบและการสร้างครอบครัวในช่วง GEN 2 อีกด้วย ความสนุกของเกมนี้คือ การที่เราได้บริหารวันเวลาในช่วงวัยต่างๆ อย่างมีแบบแผนและวางแผนเส้นทางเป้าหมายต่างๆ อย่างรอบคอบพร้อมกับเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดในลักษณะสุ่มให้เราได้เลือกกันแบบไม่ได้ตั้งตัว เราจำเป็นตัองมีแบบแผนอยู่ตลอดเวลาในทุกช่วงวัย ดังนั้นแล้วหากผู้เล่นหากพลาดอยู่บ่อยๆ หรือเล่นแบบไม่มีแบบแผน เราอาจจะได้คะแนนต่ำและทำให้ตัวละครมีความเครียดเยอะขึ้นได้ เกมนี้สามารถถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆ ที่เราเคยผ่านช่วงวัยเด็กมาทั้งหมดทำให้เกิด Nostalgia ในวัยเด็กอยู่เสมอ เล่นไปมีความสุขไปมันอมยิ้มแบบบอกไม่ถูก ในช่วงท้ายของเกมเป็นอะไรที่ประทับใจมากในเรื่องของการสรุปเกมเพลย์ที่เราเล่นทั้งหมด จะขอไม่เล่ารายละเอียดในฉากจบละกัน อยากให้ผู้เล่นลองไปสัมผัสเองกับความตั้งใจที่เล่นตั้งแต่ต้นจนจบ จุดด้อยของเกม จากความคิดเห็นของผู้เขียนจะมีเรื่องที่เห็นว่าเป็นส่วนด้อยของเกมหลักๆ อยู่ 2 ข้อด้วยกันก็คือ ส่วนของการแสดงผลตัวอักษรภายในเกม บางครั้งตัวอักษรจะเลื่อนเร็วมากจนไม่สามารถอ่านให้ทันในบริบทนั้นได้ ในส่วนของการจีบสาว ไม่มีความท้าทายและแต่ละคำตอบให้เลือกมีแต่ตัวเลือกที่ซ้ำกัน หากผู้เล่นจับทางได้แล้ว สามารถทำแต้มได้ง่ายๆ ภาพรวมทั้งหมด สรุปโดยรวมเกมแล้วถือว่าเป็นเกมหนึ่งที่สามารถเล่าเรื่องสะท้อนชีวิตของสังคมจีนที่ออกมาในลักษณะเกมเพลย์ได้อย่างดีเลย ผู้รีวิวประทับใจเรื่องการนำเสนอเป็นอย่างยิ่งถึงขนาดที่ทำให้นึกถึงช่วงวัยต่าง ๆ ของผู้รีวิวเองทั้งเรื่องดีและไม่ดีภายในอดีต หากเล่นแล้วรู้สึกว่าอดีตของตนนั้นตรงกับเกม แสดงว่าเกมนี้ได้เข้าถึงตัวคุณแล้วล่ะ สุดท้ายนี้หากใครต้องการเกมสะท้อนการเลี้ยงดูเด็กในสังคมอย่าง Chinese Parents สามารถซื้อเป็นเข้าของได้ใน Steam ราคา 189 บาท (ตามลิงค์ตัวเลข) ได้เลย

Read more
Not For Broadcast review Cover playpost

รีวิวเกมอินดี้ช่วงนี้ ผมอยากจะนำเสนอเกมอินดี้เกมหนึ่งชื่อ Not For Broadcast เป็นเกมแนวดำเนินเนื้อเรื่องพร้อมกับทำหน้าที่สลับช่องโทรทัศน์ จุดสนุกของเกมนั้นอยู่ตรงการดำเนินเรื่องที่สนุกพรัอมทำหน้าที่ Switcher ไปพร้อมกัน อาจจะทำให้สมาธิของผู้เล่นไขว้เขวได้ หากลองเปิดใจเล่นเกมนี้ดู เกมนี้ถือว่าเป็นเกมอินนี้ดีๆ เกมนึงเลย เรามาดูกันว่ารายละเอียดจุดเด่นภายในเกมมีอะไรบ้าง มาดูกัน วันวางขายแบบ Early Access 31 ม.ค. 2020 และจำหน่ายจริง 26 ม.ค. 202ผู้พัฒนา: NotGamesผู้จัดจำหน่าย: tinyBuild ผู้รีวิวใช้เวลาเล่นไปทั้งหมด 10 ชั่วโมง เล่นจบครบทั้ง 3 EP ความยากในระดับโหมด Normal ความเห็นของผู้เขียนให้คะแนน 10/10 "เกมอินดี้คุณภาพสูง ที่ผมยกย่องได้ว่าทำเกมออกมาแบบนี้ได้ยังไง สุดยอด""อยากเป็นอาชีพ Switcher ของสถานีโทรทัศน์ใช่ไหมละ มาเล่นเกมนี้ซิ แล้วจะรู้ว่าอาชีพนี้เป็นยังไง""เกมเพลย์ผสมผสานกับการเล่าเรื่องผ่านการถ่ายทอดสดรายการโทรทัศน์ที่เล่นคุณแล้ว มีทั้งฮา มีทั้งเครียดและอะไรหลายๆ อย่างที่คุณต้องควบคุมสติให้ดีอย่าลืม คุณเป็น Switcher ประจำสถานีอย่าให้เรตติ้งตก" Table of contentsบทนำเนื้อเรื่องเกมเพลย์1. ส่วนของการดำเนินเนื้อเรื่อง 2. การดำเนินเนื้อเรื่องในเกมเพลย์ภาพรวมทั้งหมด https://youtu.be/j9yrE6ymHwQ บทนำ Not For Broadcast เป็นเกมอินดี้คุณภาพดีจากค่ายพัฒนาเล็กๆ ชื่อ NotGames เป็นเกมที่ดำเนินเนื้อเรื่องผสมผสานกับการจำลองอาชีพ Switcher ของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง คุณจำเป็นต้องฟังดีๆ ว่าพิธีกรต้องการอะไร ต้องนำเสนอภาพกล้องตัวไหน พร้อมกับต้องขจัดอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในการดำเนินรายการ เพื่อทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกเบื่อหน่าย  จุดเด่นของเกมนี้คือการดำเนินเนื้อเรื่องเข้มข้นสุดจะหรรษาสมจริงพร้อมกับเกมเพลย์ที่สามารถทำให้คุณเสียสมาธิได้เสมอเปรียบเสมือนผู้เล่นได้สัมผัสอาชีพนี้จริงๆ ดังนั้นแล้วหากคุณชื่นชอบอินดี้ที่เกมเพลย์แปลกแหวกแนวแล้ว เกมนี้แหละจะเหมาะกับคุณเลย พยายามตั้งสติ อย่ามัวแต่ฮากับมุกตลก มองแต่สาวๆ หรือมองอะไรเพลินๆ เพราะหน้าที่คุณคือ Switcher ประจำสถานี อย่าให้เรตติ้งตก!!! เนื้อเรื่อง คุณรับบทเป็นคนสลับเปลี่ยนช่องหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอาชีพ Switcher ประจำสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง โดยมีเพื่อนเราชื่อ Dave เป็นคนชวนมาทำงานและยังคอยช่วยเหลือเราอยู่ข้างๆ แต่หารู้ไม่ว่าสถานีแห่งนี้ยังมีเรื่องวุ่นวายอีกมากมายที่ต้องพบเจอซึ่งไม่สามารถออกอากาศได้ มีทั้งดาราอยากออกกล้องมากเกินไปและคนที่ก่อกวนในรายการและอื่นๆ อีกมากมาย มีเพียงคุณเท่านั้นที่ต้องควบคุมการออกอากาศให้เป็นไปอย่างราบรื่นเพื่อให้สถานีโทรทัศน์แห่งนี้อยู่รอด เกมเพลย์ หน้าที่หลักของคุณทั้งหมดคือการควบคุมการออกอากาศภายในสถานีโทรทัศน์ วิธีเล่นจะมีเพียงแค่กดปุ่มควบคุมตามปุ่มต่างๆ ตามคำสั่งของผู้ดำเนินรายการ การสลับมุมกล้องหรือเปลี่ยนมุมกล้องไม่ให้น่าเบื่อ การกรองคำหยาบและการขจัดอุปสรรคต่างๆ ที่มาขัดขวางการออกอากาศเป็นสาเหตุทำให้เรตติ้งตก ซึ่งมีทั้งการควบคุมสัญญาณภาพโทรทัศน์ การใช้พัดลมเป่าแผงควบคุมไฟและการสลับมุมกล้องไม่ให้ฉายฉากที่ไม่เหมาะสม ตัวเกมแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ 1. ส่วนของการดำเนินเนื้อเรื่อง  จะเป็นการดำเนินเนื้อเรื่องให้อ่านและให้เลือกคำตอบตามเหตุการณ์ ซึ่งบางตัวเลือกมีผลกับฉากจบของเกมอีกด้วย ในส่วนนี้จะเป็นเมนหลักสั้นๆ เท่านั้น  2. การดำเนินเนื้อเรื่องในเกมเพลย์ เกมนี้เราต้องรับบทเป็น Switcher ค่อยกำกับภาพออกอากาศทั้งหมดไม่ให้หลอดเรตติ้งในรายการลดลงจนหมดหลอดและตัวเลือกเส้นทางบางอย่างมีผลต่อฉากจบภายในเกมอีกด้วย เช่น การเลือกเทปพิเศษ การเปลี่ยนช่องสัญญาณ เป็นต้น เครื่องมือภายในเกมจะแบ่งเป็น 3 ส่วน มีดังนี้ 2.1 หน้าจอออกอากาศจะเป็นภาพออกอากาศจากมุมกล้องต่างๆ ในสถานี โดยจะแบ่งหน้าจอเป็น 2 ฝั่งคือ โซน Group A ที่มี 4 หน้าจอเล็ก ใช้สำหรับสลับมุมกล้องไปมา ผู้เล่นสามารถกล้องตัวไหนก็ได้โดยจะสัญลักษณ์ไฟกำกับ 3 สีได้แก่ สีแดง (ห้ามออกอากาศ) สีเขียว (ออกอากาศได้) และสีส้ม (มุมกล้องรอง ใช้สำหรับเปลี่ยนช่องรอหรือสลับไปมาไม่ให้ผู้ชมรู้สึกเบื่อมุมกล้องมุมเดิม) โซน Group B ที่มี 2 หน้าจอใหญ่แยกเป็น ฝั่งซ้ายและฝั่งขวาฝั่งซ้าย คือ หน้าจอที่เราดูก่อนออกอากาศ มุมกล้องส่วนนี้จะเป็นมุมกล้องหลักในการใช้เซนเซอร์คำหยาบ การกำกับมุมกล้องและภาพรวมทั้งหมดก่อนออกอากาศฝั่งขวา คือ หน้าจอออกอากาศแบบรายการสดเลย 2.2 ปุ่มควบคุมการออกอากาศ ปุ่มควบคุมด้านล่างนี้จะเป็นปุ่มที่เราต้องกดเพื่อให้การถ่ายทอดสดเป็นไปอย่างราบรื่น โดยเรามีหน้าที่ค่อยกดสลับมุมกล้อง (อย่าใช้มุมกล้องเดิมนานๆ หมั่นสลับไปมาบ้างตามไฟสีส้มหรือสีเขียวและอย่าสลับช่องเร็ว) กดปุ่มกรองคำหยาบตามคลื่นเสียงสีแดง ปรับระดับเสียงออกอากาศและการปรับสัญญาณโทรศัพท์ให้เข้ากับคลื่นที่กำลังผันผวนอยู่ 2.3 มุมกล้องอื่นๆ (กดปุ่ม A) หันด้านซ้าย  เป็นแผนควบคุมแหล่งจ่ายไฟไปยังเครื่องต่างๆ ภายในสถานีหรือให้เรียกสั้นๆ ง่ายๆ คือการเปิดปุ่ม Power ทั้งหมดภายในสถานีและยังมีวิวสวยๆ ให้ดูด้วยว่าวันนี้สภาพอากาศเป็นยังไง มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง (กดปุ่ม D) หันด้านขวา  เป็นหน้าต่างห้องทำงานที่จะมีปุ่มสวิตช์มีสีเหลืองค่อยเรียกเพื่อนหรือผู้ช่วยในช่วงต้นเกม ผู้ช่วยจะสอนวิธีการเล่นและเล่าสถาการณ์ต่างๆ ภายในเกมอีกด้วย สามารถปิดผู้ช่วยได้โดยการกดปุ่มสีเขียวอีกครั้ง (กดปุ่ม S) มองลงล่าง  เป็นส่วนของวิดีโอเทปใส่โฆษณาต่างๆ ช่วงหลังจบรายการ เราต้องนำเทปโฆษณาใส่ไปในเครื่องเล่น 3 เครื่องแล้วเลือกโฆษณาออกอากาศ แนะนำให้ใส่ก่อนดำเนินรายการก็ได้ สำหรับผู้เล่นที่ลืมบ่อยและพยายามอย่าออกอากาศโฆษณาที่เหมือนกันเพราะเนื้อหาโฆษณาแต่ละอย่าง คุ้มค่ากับการดูช่วงพักเบรกมากๆ หากดูเกมเพลย์คร่าวๆ โดยรวมเหมือนจะเล่นง่าย แต่หากมาลองสัมผัสจริงพร้อมกับอ่านเนื้อเรื่องไปด้วย จะรู้สึกว่าเสียสมาธิไปสมควรกับการที่ดำเนินเนื้อเรื่องได้อย่างราบรื่น ตลก ความฮาและบทเพลงอันไพเราะจนมองข้ามเกมเพลย์หลักไปเลย บางครั้งเล่นจน Game Over ด้วยก็มี   สำหรับเกมนี้จะเซฟตามจุด Checkpoint ช่วงพักเบรคโฆษณา หากใครอยากหยุดเล่นหรือออกจากเกม สามารถหยุดเล่นได้ในช่วงดังกล่าวเท่านั้น ระวังพลาดเรื่องการปิดเกมแล้วกลับมาเล่นใหม่ในส่วนนี้ด้วย หากผู้เล่นอยากได้ความเร้าใจมากกว่านี้ สามารถปรับระดับความยากเกมได้โดยเกมจะมาพร้อมกับอุปสรรคมากมาย หากเล่นพลาดนิดเดียวสามารถ Game over ได้ทันที ผู้เล่นจำเป็นต้องมือไว สลับไว กดให้ถูกต้อง สายตาต้องนิ่งจริงๆ เมื่อลองสัมผัสความยากระดับสูงสุดแล้ว อาจจะเกิดความเร้าใจขั้นสูงสุดก็เป็นได้ ภาพรวมทั้งหมด โดยภาพรวมเกมนี้ถือว่าทำได้แปลกแหวกแนวมากในการนำเสนอที่อยู่ในรูปแบบของการถ่ายทอดสดรายการโทรศัพท์ ติดตามเนื้อเรื่องได้อย่างเพลิดเพลินมากจนเรามองข้ามการควบคุมสถานีไปเลยและการนำเสนอบรรยากาศของตัวเกมที่ทำให้ผู้เล่นได้รู้สึกเหมือนกับเป็นทีมงานรายการโทรทัศน์ของจริงเลย ผมอยากชื่นชมทีมงานนี้เลยว่า ทำตัวเกมออกมาได้ดีมาก ทั้งฝ่ายนักแสดงที่มีหลากหลายวัยตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวันลุง ป้า ฝ่ายกำกับกล้องทำหน้าที่ตั้งกล้องให้เราเลือกสลับไปมาและยังใส่รายละเอียดได้ดีสมจริงที่สุด ฝ่ายออกแบบบทรวมถึงงานศิลป์ที่ถ่ายทอดงานศิลปะการนำเสนอได้ถูกต้องและมีความเป็นมืออาชีพสูง ทำให้ตัวเกมยังได้รับคะแนนรีวิวจาก Metacritic ไปที่ 82 คะแนน ซึ่งอยู่ในระดับคุ้มค่ากับการซื้อมาเล่นเลยทีเดียว หากใครสนใจอยากสัมผัสเกมอินดี้ระดับดีขนาดนี้ สามารถกดซื้อเกม Not For Broadcast ได้เลย ในราคา 319 บาท (กดคลิกที่ตัวเลข) รับรองคุณจะไม่ผิดหวังกับเกมอินดี้คุณภาพระดับสูงขนาดนี้ ผู้รีวิวชื่นชอบเพลงนี้มากจนถึงขั้นต้องฝึกร้องเพลงทุกวันที่ 14 ก.พ. ของทุกปีกับเพลง Pieces Of My Heart ชิ้นส่วนหนึ่งของหัวใจฉัน Nong sod sai https://youtu.be/kMApqjMn2YA

Read more

หลังจากที่เกม Overwatch ภาคแรกจากค่ายเกมพายุหิมะ Blizzard Entertainment ได้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในช่วงที่เกมออกจำหน่ายตั้งแต่ เมื่อ 24 พฤษภาคม 2559 รวมถึงยังได้รับรางวัลเกม Game of the year อีกมากมาย ต่อมาช่วงปลายปี 2562 ทางค่าย Blizzard Entertainment ก็ได้ประกาศเกมใหม่ขึ้นมาอีกเกมหนึ่งนั้นคือ Overwatch 2 โดยจะเป็นในรูปแบบเกมที่กำลังพัฒนาและปรับเปลี่ยนเกมเพลย์ในส่วนต่างๆ อยู่เรื่อยๆ โดยทีมงานแจ้งมาว่า “ยังไม่สามารถบอกวันวางจำหน่ายได้” ซึ่งก็น่าจะต้องปรับอะไรหลายๆ อย่างอีกเยอะพอสมควรอย่างแน่แท้ แต่หลังจากรอกันมานานก็มีการเปิดช่วง Beta ให้ผู้เล่นได้ลองเล่นกันเสียที หลังจากที่ในวันนี้ทีมงานก็ได้ทำการลองเล่นแล้วก็อยากจะมา รีวิว ตัว Overwatch 2 ช่วงทดสอบ Beta ให้เพื่อนๆ กันครับ Table of contentsรีวิว Overwatch 2 ช่วงทดสอบ (Beta)1. โหมดภายในเกมและเกมเพลย์(ฮีโร่ Rework) ORISA หุ่นเขียวนัก Tank ที่ Rework 2. ระบบปิง Ping 3. เพิ่มฮีโร่ตัวใหม่ Sojourn แม่สาวปืนกล ตำแหน่ง Damage4. Setting ต่างๆ ภายในเกมความรู้สึกหลังจากเล่น รีวิว Overwatch 2 ช่วงทดสอบ (Beta) โดยในวันนี้ ทางค่าย Blizzard Entertainment ได้ประกาศให้ผู้เล่นทุกคนสามารถเข้าร่วมทดสอบเกม Overwatch 2 ในวันที่ 27 เม.ย. ถึง 18 พ.ค. 65 หลังจากทางทีมงานได้โอกาสเข้าการร่วมทดสอบ ก็ได้เจออะไรที่เปลี่ยนแปลงกันไปพอสมควร เลยอยากจะเล่าประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงจากภาค 1 มาภาค 2 บ้างว่ามีอะไรเด่นๆ บ้าง 1. โหมดภายในเกมและเกมเพลย์ เกมเพลย์เป็นแบบ FPS PVP เหมือนต้นฉบับเหมือนเดิมแต่ละฮีโร่จะมีสกิลที่แตกต่างกันโดยภาคนี้มีให้เลือกเหมือนเดิมตามต้นฉบับ แต่จะสิ่งที่เปลี่ยนมาใหม่คือ เล่นเป็นฝ่ายละ 5vs5 แทน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น Role เป็น 1 Tank 2 Damage 2 support ในห้องธรรมดาเลือกแบบ Quick play หรือจะเลือกเล่นแบบ ไม่เน้น Role ก็ได้ (ตอนนี้เปิดให้เล่นแล้ว อัพเดทวันที่ 6 พ.ค. 65) ซึ่งในตอนนี้เปิดให้เล่นได้แค่ 3 โหมดนั้นคือ Quick play, Custom mode, Training การเข้าเล่นในตอนนี้ก็เหมือนเดิม คือมีแค่โหมด Quick play และมี Role ให้เลือก 3 อย่างและโดยหมวด Role Support รอห้องแปบเดียวเจอ แต่ส่วนของ Tank และ Damage จะรอห้องอย่างน้อย 4 – 5 นาที ในระหว่างรอเราสามารถเล่นโหมดอื่นๆ รอได้ ด้านเกมเพลย์ข้างในคือคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเกมไว้ทั้งหมดแต่ที่เปลี่ยนแปลงก็มีเพียงสกิล รูปแบบเกมเพลย์ที่ต้องเล่นแบบ 5vs5 และความสนุกที่เหมือนเดิมหมดทุกอย่างคล้ายๆ Overwatch ภาคแรกและสิ่งสุดท้ายคือ ฮีโร่บางตัวนั้นมีสกิลเพิ่มมาใหม่แทนสกิลเดิมหรือเรียกได้ว่า Rework กันยกใหญ่เลย ยกตัวอย่างเช่น (ฮีโร่ Rework) ORISA หุ่นเขียวนัก Tank ที่ Rework 1. กดคลิกขวา ที่เปลี่ยนแปลงโดยการเพิ่มสกิลปาหอก Javelin   2. กด E ควงหอก Javelin เพื่อปัดป้องกระสุน ผลักศัตรูและทำให้เดินไวขึ้นชั่วคราว 3. กด Q (Ultimate) ควงหอก Javelin บนหัวแล้วดูดศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ มาโดนดาเมจจากการควง แล้วปักหอกลงสร้างดาเมจรุงแรงอีกรอบ 4. คลิกซ้าย (ยิงธรรมดา) มีระบบปืนร้อนและถ้าหากยิงศัตรูใกล้ๆ ตัวเรา จะเพิ่มดาเมจขึ้นไปอีก และยังมีตัวอื่นๆ ซึ่งสกิลเปลี่ยนไปอย่างเช่น Bastion เปลี่ยนสกิลอันติเป็นยิงปืนขึ้นฟ้า รถถังปืนกลแล่นได้ ปืนมีลูกระเบิดCASSIDY เปลี่ยนสกิลปาระเบิดสั้นเป็นปาระเบิดแบบปกติและสามารถปักพื้นหรือตัวศัตรูได้ 2. ระบบปิง Ping สิ่งที่เพิ่มมาใหม่คือระบบ Ping คือการมาร์คตำแหน่งตามจุดบนพื้นบอกตำแหน่งหรือสื่อสารอะไรซักอย่างให้เพื่อนรู้ ระบบนี้จะคล้ายๆกับ Apex Legends วิธีใช้จะแบ่งเป็น 2 วิธีคือ กดเมาส์กลาง (Middle mouse) – 1 ครั้ง จะเป็นการบอกจุดเฉยๆ หากกดใส่ศัตรูก็จะบอกตำแหน่งของศัตรู กดเมาส์กลาง (Middle mouse) – 1 ครั้งค้างไว้แล้วเลือกเมาส์เพื่อเลือกการสื่อสารที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Going in (เราจะไปทางนี้) Need Help (ช่วยหน่อย) หรือ Countdown (นับ วิ  3 2 1 )  ซึ่งถือว่าเป็นระบบดีอย่างนึงที่นำมาปรับใช้ในเกม Overwatch 2 ได้อย่างดี โดยเราไม่ต้องพึ่งการพูดคุยหรือพูดผ่านเสียงเลย ส่วนของการเปลี่ยนแปลงทั่วไปจะมีเรื่องของหน้าตาของฮีโร่ของแต่ละตัวต้อนรับการมาของภาค 2 โดยแต่ละตัวจะมีหน้าตาที่ดูมีอายุขึ้น มีของแต่งขึ้นและสวยขึ้นนิดหน่อย ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเร็วๆ นี้ก็ได้ตามเนื้อเรื่องของภาค 2 ที่ทีมงานบอกว่าจะเน้นให้มากขึ้นเพื่อให้เหล่าเกมเมอร์ได้เข้าใจ (ทำไม 76 จากหนุ่มไปเป็นคนมีหนวดแก่ๆ หว่า) 3. เพิ่มฮีโร่ตัวใหม่ Sojourn แม่สาวปืนกล ตำแหน่ง Damage ปกติแล้ว Overwatch เวลาจะมีฮีโร่ตัวใหม่มาจะใช้เวลานานมาก แต่ครั้งนี้มีความโชคดีหน่อยคือเราฮีโร่ตัวใหม่ได้เลยจากการเล่นแบบ Beta คาดว่าน่าจะได้เล่นเฉพาะตัวเกมของ Overwatch 2 เท่านั้น รูปแบบการเล่นของ Sojourn จะคล้ายๆ กับ Soldier 76 คือถือปืนยิงอย่างเดียวแบบ Call of duty player แต่สกิลเกมเพลย์จะเป็นหน่วยทะลุทะลวงในแนวหน้าและยังมีสกิลปืนพลังงานเลเซอร์ หากสามารถสะสมเกจพลังงานครบ 100 จะสามารถยิงด้วยดาเมจสูงสุด 130 Damage ถือว่าเป็น DPS ที่ลุยแนวหน้าเพื่อสะสมเกจชาตสำหรับยิงทะลวงแนวหลังของทีม หรือจะเล่นแบบ Soldier 76 ก็ได้เช่นกันคือลุยแนวหน้าอย่างเดียวแล้วยิงรัวๆ แทน ขอเพียงแค่คุณต้องแม่นปืนซักหน่อยเพื่อดึงความสามารถของตัวละครออกมาให้สุด โดยเฉพาะจังหวะที่ชาร์จเต็ม ทางด้านสกิล Ultimate จะเป็นการเพิ่มอัตราการฟื้นฟูเพจพลังงานอย่างรวดเร็วให้กับปืนเลเซอร์ ทำให้สามารถยิงได้ต่อเนื่องขึ้น...

Read more

วางขายเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับเกม Core Keeper เกมแนว Sandbox Survival ทำสวน ขุดแร่ ทำฟาร์ม ที่เล่นเพลินแบบสุดๆ ซึ่งหากใครเคยเล่นเกม Stardew Valley หรือ Terraria แล้วชอบ รับรองเลยว่าต้องชอบเกมนี้ด้วยแน่นอน แถมเกมนี้ยังสามารถเล่นกับเพื่อนได้มากถึง 8 คนเลยด้วย บอกเลยว่าไม่ได้หลับได้นอนกันทั้งตี้แน่นอน โดยเกมนี้จะน่าสนใจยังไงเราจะพาเพื่อนๆ ไปชมกันกับ รีวิว Core Keeper! https://www.youtube.com/watch?v=BIYcsYVxzPg เกมเพลย์ของ Core Keeper ตัวเราจะได้รับบทเป็นนักสำรวจที่หลงเข้ามาในถ้ำปริศนาที่เต็มไปด้วยสิ่งลึกลับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพืช หรือสิ่งมีชีวิต โดยเราจะต้องเอาตัวรอดไปให้ได้ ซึ่งเราก็จะสามารถทำการสร้างสิ่งของต่างๆ ที่ใช้ในการสำรวจได้โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 0 ไปจนถึงสร้างฐานทัพและอุปกรณ์ระดับเทพ โดยตัวเกมนี้จะมีภาพเป็น 2D Pixel ซึ่งน่ารักน่าหยิกเอามากๆ สำหรับระบบการต่อสู้ของเกมก็ถือว่าทำได้น่าสนใจ ภายในเกมจะแบ่งอาวุธออกเป็นระยะใกล้และระยะไกล เราสามารถเลือกได้ตามใจชอบ ซึ่งตอนนี้ประเภทของอาววุธยังไม่เยอะเท่าไหร่แต่คิดว่าในการอัปเดตต่อๆ ไปของเกมจะมีอาวุธให้เลือกใช้เยอะขึ้น นอกจากการต่อสู้แล้วในเกมเรายังมีกิจกรรมที่ทำได้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการตกปลา / ทำสวน / ทำอาหาร / ขุดแร่ / คราฟของ เรียกว่าเป็นเกมแนว Sandbox ที่ค่อนข้างครบเครื่องเลย และระบบต่างๆ ของตัวเกมก็ไม่ได้ซับซ้อนเกินไป หากเคยเล่นเกมแนว survival มาบ้างเมื่อได้ลองเล่นก็จะเข้าใจได้ทันที หรือหากคนที่ไม่ค่อยได้เล่นก็สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยากเท่าไหร่ ในการเล่นเมื่อเราใช้ทักษะด้านไหนบ่อยๆ เราก็จะได้แต้มทักษะ และความสามารถในด้านนั้นเพิ่มขึ้น และทำกิจกรรมนั้นๆ ได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย เช่น ในสายการปลูกผัก เมื่อเราทำการเก็บผักก็จะมีโอกาสที่จะได้รับเมล็ดมากขึ้น อะไรแบบนี้เป็นต้น ซึ่งเมื่อเก็บเลเวลทักษะนั้นๆ ไปเรื่อยๆ ก็จะมีแยกย่อยตามความชอบของเราได้อีกต่างหาก เป้าหมายของเกม ภายในเกมแม้ว่าจะไม่ได้กำหนดวิธีการเล่นหรือการจบเอาไว้แบบชัดเจนว่าต้องทำอะไร แต่โดยหลักๆ แล้วสิ่งที่เราควรจะตั้งเป้าหมายเอาไว้คือการกำจัดบอสภายในเกมให้หมด เพราะเกมจะปลดล็อกอุปกรณ์พเศษให้เราสามารถสร้างเพิ่มได้ โดยหากเรากำจัดบอสได้จะได้รับของมาใส่ในแท่นที่ฐาน ที่เราเกิดตอนต้นเกมได้นั่นเอง จุดด้อยของเกมที่ยังพบ ตัวเกมในตอนนี้ด้วยความที่ ณ เวลาเขียน พึ่งเปิดช่วง Beta Test ทำให้เกมมีบัคจุกจิกอยู่บ้าง และแม้ว่าตัวเกมจะมีภาษาไทยแต่การแปลก็ไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ รวมไปถึงมอนสเตอร์และบอส ยังมีให้เราได้สู้ไม่ค่อยเยอะ และมีแพทเทิร์นการต่อสู้ทีค่อนข้างจะเดิมๆ คือแทบจะทั้งหมด เราสามารถหลบนิดหน่อย แล้วรอสวนได้เลย นอกจากนี้ของที่สามารถสร้างได้ในช่วง End Game ทางผู้เขียนแอบรู้สึกว่าตอนนี้ยังมีไม่เยอะเท่าไหร่ อาจจะต้องรอการอัปเดตต่อๆ ไปครับ สรุป รีวิว Core Keeper แม้ว่าเกมนี้อาจจะยังเป็นช่วง Beta Test แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีและเล่นได้สนุกมากๆ ยิ่งถ้ามีเพื่อนเล่นด้วยและคอยแบ่งงานกันรับรองเลยว่าเพลินมากๆ แม้ตัวเกมอาจจะยังมีจุดน่าหงุดหงิดอยู่บ้าง แต่ถือว่าเป็นเกมที่คุ้มค่ากับราคาสุดๆ เพราะเพียงแค่ เราก็ได้เกมดีๆ มาเล่นกับเพื่อนกันแล้วครับ

Read more

NieR Replicant ver.1.22474487139 เกมที่มีชื่อสุดยาวเหยียดที่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าจะตั้งไปทำไมฟะยาวขนาดนี้ โดยเกมนี้เป็นภาครีเมคของเกมเมื่อ 10 ปีก่อนอย่าง NieR RepliCant ซึ่งเราจะมารีวิวตัวเกมแบบคร่าวๆ ให้ได้อ่านกันครับ https://www.youtube.com/watch?v=gjjJbd-pa8g เนื้อเรื่องของเกมที่น่าสนใจมาก จุดเด่นที่สุดของเกมซีรีย์นี้คือความชวนงงงวย และความน่าติดตามไปพร้อมๆ กัน ซึ่งหากใครที่อยากได้เกม RPG เนื้อเรื่องเข้มๆ สักเกมนึง NieR Replicant ver.1.22474487139 สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอนครับ  โดยเนื้อเรื่องของเกมในภาคนี้เป็นภาคต่อของฉากจบรูปแบบนึงจากเกม Drakengard ที่โลกได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสปริศนาที่หลุดมาจากโลกอีกแห่ง เรื่องราวเริ่มจากเด็กหนุ่มนามว่าเนียร์ได้บังเอิญไปทำสัญญากับหนังสือปริศนาเข้า โดยมีจุดประสงค์คือต้องการปกป้องยูนาร์น้องสาวตัวเอง แต่บังเอิญว่าน้องสาวเองก็ได้ทำสัญญาไปกับสมุดอีกเล่มเช่นกัน แต่ตัวน้องสาวไม่อาจทนรับไหว ก่อนที่ตัวเกมจะตัดมาในอนาคตอีกเกือบพันปี บทต่อมาของเรื่องและจุดที่เราจะได้เริ่มเล่นแบบจริงๆ คือเนียร์และยูนาร์ ที่มีหน้าตาคล้ายกับเนียร์และยูนาร์คนก่อนหน้ายังกับแกะ ซึ่งตัวเค้าพยายามที่จะหาทางรักษาน้องสาวที่ป่วยเป็นโรคปริศนา เรื่องราวจะค่อยๆ เปิดเผยออกมาว่าทำไมสองพี่น้องคนนี้ถึงมีหน้าตาที่เหมือนกัน รวมถึงเหตุผลที่โลกถูกรีเซ็ตอารยธรรมใหม่ เป็นเนื้อหาที่เราจะไม่ขอเล่าเพราะมันจะเป็นการสปอยตัวเกมอย่างรุนแรงเลย แต่ขอบอกเลยว่ามันมีหลายอารมณ์มากๆ ทั้งเศร้า หดหู่ และมีความน่าตื่นเต้น ระบบแอคชั่นที่ทำออกมาได้ลื่นมากใน NieR Replicant จุดที่ต้องชมเกมนี้แบบสุดๆ เลยและน่าประทับใจคือแอคชั่นของตัเวกมที่ทำออกมาได้ดีมาก ท่วงท่าต่างๆ และการเคลื่อนไหวของตัวละครมีความลื่นไหล และฉับไว แถมการควบคุมก็ไม่ได้ยากมาก จึงเป็นอะไรที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่าเป็นหนึ่งในความประทับใจสุดๆ ของเกมนี้แล้ว แม้ว่าคอมโบของอาวุธต่างๆ จะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ แต่มีลูกเล่นอะไรให้เราได้ใช้งานค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเวทมนต์ หรือลูกเล่นในการต่อสู้ ข้อเสียของตัวเกม ในส่วนของเนื้อเรื่องกับแอคชั่นของเกม โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนให้คะแนนเกือบเต็มเลย แต่ตัวเกมก็ยังมีจุดที่น่าหงุดหงิดอยู่หลายอย่าง อาจด้วยความที่เป็นการเอาหลายๆ ส่วนในเกมเก่ามาพัฒนาใหม่ ทำให้ระบบดูล้าหลัง โดยเฉพาะในส่วนของระบบของเควส ที่ค่อนข้างจืดชืดไปหน่อย  หรือการตอบโต้ของ NPC ที่ดูแข็งๆ ระบบการเซฟที่จะออโต้เซฟแต่บางจุด โดยเฉพาะเรื่องของเควสที่ไม่ได้มีคำใบ้เยอะแยะหรือชี้จุดแบบเป๊ะๆ แบบในเกมใหม่ๆ แต่ก็ถือว่าเป็นอะไรที่คลาสสิคดีครับ แต่ที่น่าเบื่อที่สุดจริงๆ คือการที่เราตอ้งเดินวนไปวนมาในที่เดิมๆ เพื่อทำทั้งเควหลักและเควสเสริม ซึ่งฉากมันก็ไม่ได้แคบเลย กว้างมากๆ  จนบางทีพาลจะขี้เกียจเล่นเควสย่อยไปแม้ว่ารางวัลจะค่อนข้างดีก็ตาม สรุป NieR Replicant ver.1.22474487139 เป็นเกมที่ดีมากๆ ในแง่ของเนื้อเรื่องและแอคชั่น แต่เกมเพลย์หลายๆ จุดค่อนข้างที่จะไม่ค่อยอำนวยสะดวกกับเกมเมอร์ที่ชินกับเกมสมัยใหม่ ถ้าใครที่ชอบเนื้อเรื่องเข้มข้น เกมแอคชั่นเล่นเพลินๆ เกมนี้ถือว่าตอบโจทย์มากๆ แต่หากใครที่ไม่ชอบเกม RPG แบบสมัยก่อนที่ระบบการช่วยเหลือไม่ได้เยอะอะไรมากอาจไม่ค่อยถูกใจเกมนี้เท่าไหร่

Read more

เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของซีรีย์บอมเบอร์แมนเลยทีเดียวกับเกม Super Bomberman R ของ Konami ซึ่งเจ้าเกมนี้นั้นได้ลงให้กับเครื่องคอนโซลอย่าง Nintendo Switch ก่อนเป็นอันดับแรก โดยมีกำหนดการที่จะไปลงยัง Steam และ Playstation4 ต่อในเร็วๆ นี้ซึ่งทางกบเองก็เลยขอถือโอกาสรีวิวเอาไว้ล่วงหน้ารอสตรีมเปิดจากการได้ลองเล่นบนเครื่อง Switch ก่อนเลยแล้วกันครับ!! การกลับมาอีกครั้งของ Bomberman หายกัันไปค่อนข้งนานเลยทีเดียวกับเกมในซีรีย์ Bomberman ซึ่งในภาคล่าสุดอย่าง Super Bomberman R ออกมานั้นก็เรียกได้ว่าเป็นการออกเกมมาฉลองการครบรอบอายุ 33 ปีของซีรีย์เลยก็ไม่ผิดนักครับ โดยภายในภาคนี้นั้นได้มีการปรับปรุงเรื่องของกราฟิกให้ดีขึ้นอย่างเป็นได้ชัดมากๆ สำหรับรูปแบบการเล่นนั้นตัวเกมยังคงเอาไว้ซึ่งความเรียบง่าย ด้วยรูปแบบการเล่นที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตมากนัก ซึ่งถ้าเป็นในโหมด Story จุดมุ่งหมายของเราก็คือการจัดการกับเหล่าผู้ร้ายที่มาก่อกวนจักรวาลของเราโดยเล่นผ่านด่านไปเรื่อยๆ นั่นเองครับ ซึ่งถ้าเล่นกับเพื่อนด้วยล่ะก็เป็นอะไรที่สนุกมากเลยทีเดียว โดยตัวด่านแต่ละด่านก็จะมี puzzle เล็กๆ น้อยๆ ที่เราต้องแก้และไม่ได้มีแค่รูปแบบเดิมๆ เสมอไป เช่นบางด่านเราจะต้องจัดการกับศัตรูให้หมดถึงจะไปต่อได้ หรือบางด่านเราอาจจะต้องหากุญแจที่ซ่อนอยู่ถึงจะผ่านอะไรแบบนี้เป็นต้น สำหรับส่วนที่สนุกที่สุดของเกมคงหนีไม่พ้นโหมด Battle ที่เราสามารถเล่นกับเพื่อนๆ ได้สูงสุดถึง  8 คนเลยทีเดียว ครับในจุดนี้ปัญหาอย่างเดียวคือเราจะมีจอยพอที่จะเล่นกับเพื่อนๆ ครบหรือเปล่า 555 ซึ่งเวลาที่เล่น 8 คนกับคนจริงๆ แล้วนี่ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่มั่วและฮามากจริงๆ ในส่วนของรูปแบบในการเล่นของโหมด Battle นั้นก็ยังคงความคลาสสิคเอาไว้อย่างเช่นเมื่อเวลาใกล้จะหมดจะมีบล็อคลงมาลดพื้นที่เราเรื่อยๆ หรือเมื่อผู้เล่นตายสามารถก่อกวนกเพื่อนคนอื่นได้ผ่านรถลอยได้ ซึ่งถ้าหากว่าเราจัดการเพื่อนได้ก็จะกลับมามีชีวิตแทนเพื่อนนั่นเองครับ เรียกว่าในส่วนนี้ยังคงรักษาสิ่งเดิมๆ เอาไว้ได้ดีมาก ความสนุกอย่างนึงในเกมนี้คือการก่อกวนเพื่อนนี่แหล่ะจริงไหมครับ? ภายในเกมมีการใส่ลูกเล่นเพิ่มเติมเล็กๆ น้อยๆ คือเราสามารถเปลี่ยนจุกบนหัวของพวกบอมเบอร์แทนได้และเหมือนเป็นสกินนั่นเองครับ เป็นสีสันเล็กๆ น้อยๆ และเรายังสามารถเก็บเงินภายในเกมมาปลดล็อคสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจุกใหม่ๆ หรือบอมเบอร์แมนตัวใหม่ๆ รวมไปถึงด่านพิเศษด้วย เรียกได้ว่าหากจะเล่นจริงจังมานั่งปลดให้หมดก็ต้องใช้เวลานานเอาเรื่องเลยเหมือนกัน และยิ่งพวกบอมเมอร์แมนพิเศษนั้นจะมีสกิลให้ใช้งานด้วย นับว่าเป็นสีสันดีไม่เลวเลยล่ะครับ จุดนึงที่ผมไม่คิดไม่ฝันว่าจะดีเหลือเชื่อเลยคือเพลงประกอบและตัว animation ภายในเกมที่ทำออกมาได้น่ารักน่าหยิกเอามากๆ โดยเฉพาะเพลงประกอบของเกมที่เรียกว่าประทับใจมากเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็น Soundtrack ต่างๆ ที่ตื่นเต้นเร้าใจเข้ากับฉากมากๆ หรือเพลงของเกมในช่วงจบเกม ล้วนแล้วแต่น่าประทับใจสุดๆ ตัวอนิเมชั่นแทรกระหว่างเนื้อเรื่องเองก็ค่อนข้างน่าติดตาม แม้ว่าเนื้อเรื่องจะเดาง่ายไปบ้างแต่ถือว่าทำออกมาได้ดีเกินคาดมากๆ https://www.youtube.com/watch?v=6WBL9Q4EBsU เพลง ED ของเกมจากชาแนล Chi , Otto, & Xwado พูดถึงข้อดีกันเยอะแล้วขอพูดถึงข้อเสียกันบ้างครับ เนื่องมาจากว่าตัวเกมนั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นการนำเอาระบบเดิมๆ มาทำใหม่ให้ดูดีขึ้นซะมากก่วา แต่ในระบบของเกมและตัวเกมเพลย์จริงๆ นั้นแทบจะไม่มีอะไรใหม่ให้ตื่นเต้นเลย ยิ่งกับคนที่เคยเล่นเกมซีรีย์นี้มาก่อนแล้วก็คงรู้สึกได้ว่ามันค่อนข้างจืดชืดไปสักหน่อย ในส่วนของเรื่องตัวเกมที่ปรับเป็นแบบ 3 มิติตรงนี้ก็มีทั้งดีและไม่ดี เราสามารถหมุนฉากเพื่อดูมุมกล้องด้านอื่นๆ ของฉากได้ แต่ว่าด้วยความที่มันเป็น 3D นี่แหล่ะ ทำให้แมพในบางด่านดูยากมากๆ โดยตัวเกมในโหมด Story จะมีบางฉากที่เราจะต้องเดินขึ้นสลับบนและล่างของแผนที่ ซึ่งมันดูยากเอามากๆ ว่าตรงไหนบนตรงไหนล่าง และยิ่งถ้าเล่นกับเพื่อนด้วยแล้วมุมกล้องมันจะดึงยิ่งดูยาก *2 เข้าไปอีก เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างพังพินาศพอสมควรเลยทีเดียวกับมุมกล้องของโหมด Story ขณะที่เล่น  2 คน และยิ่งกับด่านที่ยาวๆ ด้วยแล้วบอกเลยว่าปวดหัวครับ... ส่วนที่น่าเสียดายคือโหมดการเล่นออนไลน์และโหมดกรังปรีย์ ที่ในปัจจุบันนั้นคนเล่นไม่มีเลย... ทำให้คนที่หวังจะซื้อมาเล่นแบบออนไลน์ถ้าหากว่าไม่นัดเพื่อนก่อนคงได้เล่นยากแน่นอน  (สำหรับเครื่อง Switch นะ) ซึ่งถ้าหากใครอยากจะเล่นจริงๆ คงต้องรอเวอร์ชั่น Steam หรือ Ps4 เลยโหมดนี้ถึงจะกลับมาคึกตัก แต่ด้วยราคาของเกมที่ค่อนข้างสูงถึง 1125 บาท (ในสตรีม) ทำให้ผมคิดว่าไม่น่าจะมีคนที่สนใจเยอะขนาดนั้นครับและก็คงจะร้างอีกในเวลาไม่นาน อีกจุดที่ผมรู้สึกเสียดายมากคือพวกสัตว์เลี้ยงต่างๆ ที่โดนเอาออกไป ซึ่งหากเราเล่นภาคก่อนๆ มาอาจจะนึกออกว่าจะมีพวกสัตว์ขี่ให้เราได้ใช้งานกันด้วย แต่ในภาคนี้จะไม่มีสัตว์เหล่านั้นเลยครับ แต่มีมาแทนด้วยบอมเบอร์แมนแปลกๆ ที่เอามาจากเกมซีรีย์อื่นๆ มาประยุกต์ใส่ในเกมนี้แทน สรุปข้อดีข้อเสีย ข้อดี ข้อเสีย คงความคลาสสิคของเกม Bomberman เอาไว้ได้ดี ไม่มีอะไรแปลกใหม่เท่าไหร่ อนิเมชั่นของเกมสนุก มุมกล้องดูยากมาก เพลงประกอบดีงาม ราคาของตัวเกมค่อนข้างแพง เล่นได้สูงสุดถึง  8 คน โหมดออนไลน์หาคนเล่นยากมาก  

Read more

สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าเกมส์ปลูกผักยอดฮิตซีรีส์ Harvest Moon ในตอนนี้ไม่ใช่ผู้พัฒนารายเดียวกับเมื่อก่อนแล้ว โดยเมื่อก่อนทาง Marvelous เป็นคนสร้างและทาง Natsume เป็นคนขายในโซน ENG ซึ่งพอหลังๆ สองค่ายนี้ก็ได้เกิดโบกมืออำลาบ๊ายบายกันไป แต่ข้อดีก็คือทาง Natsume ก็ยังมีลิขสิทธิ์ใช้ชื่อเกมส์นี้ได้อย่างเต็มๆ (Marvelous ก็ยังสร้างเกมปลูกผักเช่นเดิมแต่เปลี่ยนชื่อเป็น Story of Season) ซึ่งทาง Natsume เองก็พยายามสร้างเกม Harvest Moon ในเวอร์ชั่นของตัวเองขึ้นมา และมันก็ถูกสาปส่งโดยแฟนๆ ซีรีส์นี้มากมาย ในเรื่องกราฟิก หรือปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้หลายๆ คนต้องร้องยี๊ และแล้วในปี 2017 เกม Harvest Moon ในแบบฉบับ Natsume ก็กลับมาอีกครั้งกับ Harvest Moon: Light of hope แถมการกลับมาครั้งนี้ยังพิเศษกว่าหลายๆ ภาคก็เพราะว่านอกจากที่จะลงให้กับเครื่อง Nintendo Switch แล้ว มันทำการลงให้กับเครื่อง PC และ Ps4 อีกด้วย แต่มันก็ยังไม่วายจะถูกหลายๆ คนวิจาร์ณเรื่องกราฟิกอันบ้าบอของตัวเกมที่กล้าทำไปได้ยังไง ซึ่งตัวผมเองก็ได้ไปเป็นหนูทดลองมาให้เรียบร้อย และก็จะมารีวิวให้ทุกท่านได้อ่านกันว่าตัวเกมมีระบบอะไร ดี / ไม่ดี, ชอบ / ไม่ชอบยังไง เอาหล่ะไปลุยกันเลย Story เนื้อเรื่องเราจะได้รับบทเป็นหนุ่มหรือสาวน้อย (ตั้งชื่อตัวละครตอนเริ่ม แต่เปลี่ยนชุดหรือสีผมหน้าตาไม่ได้) ที่ถูกพายุซัดกระหน่ำให้มาติดอยู่บนเกาะๆ หนึ่งที่ชื่อว่า Beacon Town และความฮาเล็กๆ ก็คืออยู่ดีๆ เราก็อยากจะลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่ซะเลย (ไหงงั้น เจ้าไม่อยากกลับบ้านเรอะ) ซึ่งคนในหมู่บ้านที่ช่วยเราไว้ก็ได้ให้ฟาร์มและบ้านร้างๆ ของเราไว้ (ไม่มีการซื้อขายโอนโฉนดที่ดินกันเลยใช่มั้ย) และที่ฮากว่านั้นก็คือ นอกจากบ้านของเราที่ร้างแล้ว เมือง Beacon Town เกือบทั้งเมืองก็ร้างเช่นกัน เพราะว่าผู้คนในหมู่บ้านต่างพากันหนีเพราะพายุนั่นเอง Graphic ตัวกราฟิกต้องบอกเลยว่าอย่างกับเล่นเกมส์ในมือถือยังไงอย่างงั้น มีความแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจากที่เคยคิดว่าเกม Harvest Moon : Seed of Memories ภาพดูแย่แล้ว เกมภาคนี้ไม่ต่างกันเลย ตัวละครทุกตัวสูงใหญ่เท่ากับต้นไม้ ใหญ่เล็กกว่าบ้านหน่อยเดียว คือความสมส่วนในเกมแทบไม่มี แต่มันก็มีข้อดีอยู่บ้าง ก็คือเรื่องหน้าตาของตัวละครในบทสนทนา แอนิเมชั่นต่างๆ ก็ทำออกมาได้น่ารักดีเหมือนกัน Gameplay ก็อยากที่รู้กันว่าตัวเกมเป็นเกมแนวปลูกผัก เราก็จะสามารถจับปลา, ทำสวน, เลี้ยงไก่ ทำนุ่นทำนี่ได้อย่างภาคอื่นๆ ทำได้ แต่ที่พิเศษมาก็คือเกมนี้จะมีเนื้อเรื่องมาให้เราได้เล่นควบคู่กันไปด้วย (คือการตามหาแสงของประภาคาร) ซึ่งปัณหาของเกมนี้ในการเล่นเนื้อเรื่องก็คือ สิ่งเดียวที่เราสามารถรู้เนื้อเรื่องของเกมนี้ได้คือการอ่านเท่านั้น เพราะ Objective ต่อไปของเนื้อเรื่องคือการที่ NPC จะพูดให้เราฟังว่าต้องการอะไร ซึ่งถ้าหากเราเผลอกดรัวๆๆ ไม่ยอมอ่าน จบเห่แน่นอน (ผู้เขียนเคยเจอกะตัว แต่ยังดีที่อัดคลิปวิดีโอไว้เลยย้อนไปอ่านได้) (เอาศิลาไปวางไว้บนแท่นเพื่อเป็นการฟื้นฟูพลังแสงแห่งประภาคารตามคอนเซ็ปภาคนี้เลย Light of Hope) (ตั้งใจอ่านดีๆ นะ ถ้าบางครั้งเผลอกดข้าม ไม่รับประกันว่า NPC ตัวนั้นจะบอกเควสเราใหม่นะจ๊ะ) ซึ่งในเริ่มแรกฟังชั่นต่างๆ ที่เราสามารถทำได้ในเกมก็จะมีไม่เยอะ โดยเราจะต้องทำการซ่อมบ้านหรือร้านค้าต่างๆ เสียก่อน อย่างเช่นร้านดอกไม้, ร้านขายของ, ร้านอาหาร หรือจะเป็นบ้านคนซึ่งถ้าหากเราสร้าง เราก็อาจจะสามารถได้ไอเทมต่างๆ มาใช้อย่างเบ็ดตกปลาเป็นต้น ) ซึ่งการปลดล๊อกสิ่งต่างๆ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินเนื้อเรื่องต่อไปด้วย ส่วนเรื่องการทำฟาร์มหรือเกมเพลย์ต่างๆ เราสามารถเล่นโดยใช้เพียงแค่ปลายนิ้วเท่านั้น ซึ่งมันสะดวกสบายมาก จนคิดว่าสะดวกเกินไปมั้ย เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง จะเป็นการพรวนดิน, ตกปลา, เดิน, รีดนมวัว หรือปลูกผัก ทุกอย่างใช้แค่เมาส์ตัวเดียว และคลิ๊กซ้ายเท่านั้นอีกด้วย คือคลิ๊กๆๆๆๆ อย่างเดียว แทบจะไม่ต้องแตะคีบอร์ดเลย และการหาเงินภายในเกมก็ไม่ได้ยากมากจนเกินไป ถ้ารู้หลักจริงๆ ก็สบาย (เดินก็ใช้เมาส์) (พรวนดินรถน้ำใส่ปุ๋ยก็เมาส์) (ตกปลาก็เมาส์) แต่ไอ้เรื่องปุ่มเดียวทำได้ทุกอย่างนี่แหละมันเลยอาจจะมีปัณหาเรื่อง Cursor หลอนๆ และน่ารำคานหน่อย ซึ่งการที่เราสามารถเล่นเกมนี้โดยใช้เมาส์ตัวเดียวเนี่ย คิดเลยว่ามันจะลงให้กับมือถือในอนาคตหรือเปล่านะ ? ความสัมพันธ์ของ NPC ซึ่งภายในเกมนี้เราก็สามารถจีบหนุ่มๆ สาวๆ ได้เช่นกัน โดยมันก็เหมือนเกมอื่นๆ คือเราก็แค่เอาของที่เขาชอบไปให้ทุกวันๆ หรือสิ่งที่พิเศษก็คือการทำเควสเสริมที่ NPC คนนั้นขอร้องมา เราก็อาจจะได้ความสัมพันธ์มากขึ้น อุปกรณ์ต่างๆ ที่เอาไว้ใช้เป็นสิ่งหาเงินของเราอย่าง พลั่ว, ที่รดน้ำ, ขวาน, ค้อน หรืออะไรต่างๆ เราไม่จำเป็นต้องซื้อเลย แต่เราจะต้องทำการอัพเกรดอุปกรณ์พวกนี้เพิ่มเพื่อให้มันมีความสามารถมากขึ้นอย่างเช่นรดน้ำทีเดียว 3 ต้นอะไรอย่างงี้ รวมถึงอุปกรณ์ตัดขนแกะ หรือที่รีดนมวัว ก็ไม่ต้องซื้อเช่นกัน โดยเราจะได้มาก็ต่อเมื่อเราสามารถทำ Objective บางอย่างในเกม NPC ก็จะให้สิ่งของมาฟรีๆ อย่างการซ่อมบ้านให้ NPC บางคนเราก็จะได้เบ็ดตกปลา หรือการซื้อแกะมาซักตัว เราก็จะได้ที่ตัดขนฟรีไปเลย อะไรจะสะดวกปานนั้น (อัพเกรดอุปกรณ์ยิ่งเวลสูงก็ยิ่งทุ่นแรง) (อุปกรณ์เสริมอื่นๆ ไม่ต้องซื้อแยก) งานเทศกาลภายในเกมนี้ก็ยังมีเหมือนเกมอื่นๆ แต่แปลกไปก็คือ เกมนี้จะไม่มีปฏิทินให้เราได้ดู ซึ่งเราจะต้องทำการตรวจเช็คในชั้นหนังสือที่บ้านของเราว่า งานเทศกาลมันจะมีเมื่อไรฟะ หรือถ้าถึงวันงานจะมีคนมาบอกเราที่บ้านเองว่าวันนี้มีงานเทศกาลนะ มาในช่วงเวลานี้สิบลาๆ ซึ่งงานพวกนี้ก็จะมีอยู่หลายๆ แบบอย่างเช่นงานแข่งทำอาหาร, งานวิ่งแข่งหมา หรือ งานดูพระจันทร์เอาไว้ดูกับสาวๆ ที่เราชอบเป็นต้น (งานนี้เราสามารถชวนคนที่เราชอบก่อนวันงานได้) ความรู้สึกหลังเล่น ก็ต้องบอกเลยว่ามันก็เกินคาดอยู่เหมือนกันสำหรับระบบเกมเพลย์ในเกมนี้ เพราะว่ามันก็ถือว่าสนุกใช้ได้เช่นกันนะ รวมถึงแอนิเมชั่นท่าทางของตัวละครที่ผมเองก็ชอบเป็นพิเศษ คือมันดูเป็นอาหารตาดีน่ารัก >< เกมนี้เล่นได้เพลินๆ ถ้าทำลงมาเป็นมือถือผมก็คิดว่ามันไม่เลวเลยดีเดียว แต่มันก็จะมีสิ่งที่ไม่ชอบอยู่บ้างคือระบบเนื้อเรื่องที่พี่แกทำออกมาได้ดีและโอเคนะ แต่เหมือนเขาจะบังคับให้เราต้องเล่นและต้องอ่านนะเว้ย อย่าเผลอไม่งั้นไม่รู้ด้วยนะ ซึ่งมันก็จะเป็นการจำกัดคนที่ไม่เก่งภาษา ENG ทำให้เขาเล่นเกมนี้ได้ยากขึ้น เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อ (คือพี่แกบอกครั้งเดียวคือจบ) แต่ถ้าให้คิดในแง่ดีคือมันก็อาจจะเป็นการฝึกภาษาเราไปในตัวด้วย (แต่บางคนก็อยากเล่นเฉยๆ ปะ) รวมถึงสิ่งที่น่าผิดหวังที่อยากให้มีในเกมนี้คือเกมไม่มีระบบคราฟเลย ทั้งที่ไอ้ระบบนี้มันเป็นสิ่งที่ทำให้เกมนี้มีจุดมุ่งหมายและความสนุกมากขึ้น รวมถึงบ้านหรือโรงฟาร์มต่างๆ ก็ไม่สามารถตกแต่งโยกย้ายได้เลยนอกจากอัพเกรด คือมันก็เป็นสไตล์ Harvest Moon แหละแต่ผมแค่ไปติดภาพเกม Stardew Valley มากกว่า สรุปคะแนน 7.0 ข้อดี - เกมเล่นง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว - เงินหาไม่ยาก - ระบบเข้าใจง่ายโครต - แอนิเมชั่นท่าทางตัวละครน่ารักใช้ได้ - เนื้อเรื่องทำออกมาน่ารักดี (ถึงไม่สมเหตุสมผลบ้าง) - ราคาถูก ข้อเสีย - เมาส์หลอนๆ หน่อยบางที เพราะมันใส่ทุกฟังชั่นไว้เพียงแค่ปุ่มเดียว - ภาพสวยนะแต่ตัวละครพี่แกทำไมดีไซน์มาแบบนั้น...... ? - สิ่งที่ต้องการของ NPC ที่ใช้ในเนื้อเรื่อง พี่แกบอกรอบเดียว ถ้าลืมก็ไปนั่งขุดดูคลิป Walktrough หรืออ่านบทสรุปกันยาวๆ - ถ้าคุณติดภาพเกม Stardew valley มากเกินไป...

Read more
Page 2 of 3 1 2 3