เอสเทอโรซา เดอ เชอวาลีเย ตัวละครสาย Striker ระดับ SSR ของเกม Counter side แม้จะมีค่าร่ายแพงมากถึง 5 หน่วย แต่ด้วยความอึด ถึก ทน ทำดาเมจได้ดี ชนะทางสายเรนเจอร์ ทำให้พบเจอได้บ่อยมากบน PVP ช่วงนี้ ในโหมด PVE น้องก็ยังทำหน้าที่เป็นแทงค์ของทีมได้อย่างสบาย หากใครเปิดได้มาสามารถปั้นเลเวล 100 ใช้งานได้ยาวไปอีกหลายเดือน
ข้อมูลพื้นฐาน Esterosa de Chevelier
ตัวละครประเภท : เคาเตอร์
เคลื่อนที่ภาค : พื้นดิน
สาย : ปะทะ (แพ้สไนเปอร์ , ชนะเรนเจอร์)
การโจมตี : โจมตีพื้นดิน
ลำดับการอัพสกิล 2 > 3 > 4 > 1
สกิล 1 Basic Attack – เพิ่มความเสียหายให้กับการโจมตีปกติ สกิลนี้ไม่มีผลลัพธ์พิเศษเพิ่มเติม จึงควรเลือกอัพเป็นอันดับสุดท้าย ข้อดีอย่างหนึ่งของ Esterosa de Chevelier คือการโจมตีปกติทำความเสียหายได้ 2 เป้าหมายพร้อมกัน หากศัตรูเน้นตัวแถวหน้าเยอะๆ เราจะทำดาเมจได้คุ้มค่ามากขึ้น
สกิล 2 Astraia’s Blessing – Esterosa de Chevelier ได้รับพรจากดาบวิเศษ เมื่อลงมาในสนามจะกางบาเรียดูดซับดาเมจได้เท่ากับ 25% ของค่าพลังชีวิตสูงสุดให้กับตัวเอง นอกจากนั้น ทุกการโจมตีของน้องจะเปลี่ยนเป็น True Damage ตราบเท่าที่โล่ยังแสดงผลอยู่
การอัพสกิลเลเวล 2-4 จะเพิ่มพลังชีวิตสูงสุดให้กับตัวเอง หากอัพสกิลเต็มเลเวล 5 เมื่อน้องลงมาในสนามจะทำการเพิ่มค่า Damage Resistance ใหัเพื่อนร่วมทีม +30% เป็นเวลา 8 วินาที รวมทั้งสามารถใช้สกิล Astraia’s Blessing เพื่อกางโล่อีกครั้งโดยอัตโนมัติในเวลาที่ HP ลดต่ำกว่า 50%
สกิลนี้จัดว่าเป็นสุดยอดสกิลของหัวชมพู ลงมาในสนามแล้วถึกทนเป็นตู้เย็น สร้างความเสียหายแบบทรูดาเมจ อัพเต็มมีกางโล่อีกครั้งตอนเลือดเหลือต่ำกว่าครึ่ง หากอีกฝ่ายไม่สามารถเบิร์สดาเมจให้ตายได้ในชุดเดียว แล้วทีมเรามีตัวละครสายฮีล เติมเลือดให้กับ Esterosa de Chevelier บอกเลยว่า แบบนี้ทั้งวันยังไหว !
สกิล 3 Virgo the Sword of Light – มอบพลังศักดิ์สิทธิ์ให้ดาบ เปลี่ยนการโจมตีเป็น AOE เพิ่มค่า Damage Resistance +15% ให้กับตัวเองเป็นเวลา 10 วินาที อัพสกิลเลเวล 2-4 จะช่วยเพิ่มดาเมจ เมื่ออัพจนเต็มบัฟของสกิลนี้จะเพิ่ม ATK +15% ให้ด้วย หากไม่มีสกิลนี้น้องจะเป็นแค่กระสอบทรายเดินได้ที่รอวันตาย แต่เมื่อได้รับบัฟเพิ่มพลังโจมตี ดาเมจที่ทำได้จึงไม่ใช่น้อย ยิ่งถ้าโล่จากสกิล Astraia’s Blessing แสดงผลอยู่ด้วย น้องจะทำดาเมจได้พอๆ กับตัวดาเมจเลยล่ะ
สกิล 4 Spica Nova Burst – ระเบิดพลังงานของดาบออกมาในพริบตา ลบล้างบาเรียศัตรูในระยะ จากนั้นสร้างความเสียหาย AOE ใส่ศัตรูสูงสุด 3 เป้าหมาย สกิลช่วยทำดาเมจกึ่งแก้ทางตัวละครสายกางโล่ หากใช้ตามปกติดาเมจที่ทำได้จะไม่มากมายเท่าไหร่ แต่เมื่อไหร่ที่เจอทีมชอบกางโล่รับความเสียหาย นี่จะเป็นสกิลสลายโล่ที่ช่วยให้ทีมทำดาเมจได้ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก
เซตอุปกรณ์แนะนำ
โดยส่วนใหญ่ คนเล่นหัวชมพูจะนิยมเล่นสาย Hp+Hp เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับสกิล Astraia’s Blessing แต่หลังจากทีมงานลองใช้จริง พบว่าการเล่นสาย HP+เกราะ นั้นก็ไม่ได้แย่กว่ากันเท่าไหร่ หากใครหาเซท HP ดีๆ สองชุดเพื่อให้น้องเอามาใช้ไม่ได้ การเล่น HP+เกราะไปก่อนถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
ส่วนการเล่น เกราะ+เกราะ นั้นไม่แนะนำ ถึงจะโดนดาเมจในแต่ละครั้งเบาลง แต่ด้วยปริมาณเลือดที่น้อยเกินไป ทำให้น้องตายเร็ว รวมถึงไม่ได้ค่า HP ไปช่วยเพิ่มความสามารถให้กับสกิล Astraia’s Blessing ด้วย หากต้องการใช้งานน้องจริง ยังไงเสียก็ควรมีเซต HP เอาไว้อย่างน้อย 1 ชุด
คะแนนการใช้งาน PVE – S / PVP – SS
เอสเทอโรซา เดอ เชอวาลีเย มีค่าสเตตัสที่สูง เป็นตัวแทงค์พร้อมกับทำดาเมจให้ทีมได้ดี แลกกับข้อเสียที่ค่าร่ายสูงมากถึง 5 หน่วย คนเลยนิยมตั้งน้องเอาไว้เป็นหัวหน้าทีมเพื่อลดค่าร่ายลง 1 จะได้ไม่หนักทีมมากเกินไป เวลา PVE ไม่ต้องคิดอะไรมาก วางน้องลงมาแทงค์แล้วศัตรูที่ดาหน้าเข้ามาจะสลายร่างไปเอง
ในโหมด PVP การเล่นหัวชมพูเล่นกันอยู่สองรูปแบบ หนึ่งคือวางล้ำไปแถวหน้าแล้วลงสไนเปอร์ยิงหมู่อย่างซานาเอะตามหลัง สองคือเล่นแนวรับ ล่อศัตรูให้เดินเข้ามาแล้วลงหัวชมพูใต้ยานพร้อมกับตัวดาเมจ ด้วยความอึดที่มหาศาล ทำให้ยืนบังดาเมจให้ตัว 2-3 ของเราได้เป็นเวลานาน
ความอึดที่ยากต่อการจัดการนี้เองที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องรีบลงสไนเปอร์โหดๆ เพื่อปราบน้องให้ไวที่สุด ไม่งั้นก็ต้องใช้ตัวเคาเตอร์หรือตัวล้วง ทะลวงเข้ามาเก็บตัวดาเมจ หากปล่อยให้หัวชมพูยืนทน แล้วแนวหลังยิงฟรีไปเรื่อยๆ รับรองว่ายานแตก ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เอสเทอโรซา เดอ เชอวาลีเย อยู่ในเทียร์ SS ของโหมด PVP ในเกม Counter Side เมต้านี้
>>แตะที่นี่เพื่ออ่านรีวิวตัวละครในเกม Counter Side ตัวอื่น<<