CryptoMines เหรียญ เกม นี้หาจากไหน? อีกหนึ่งในเกม NFT ที่หลายคนกำลังพูดถึงในเวลานี้กับภารกิจขุดเหมืองแร่อวกาศบนดาวสุดอันตราย ในบทความนี้ก็จะมาพูดถึงการหา เหรียญ ในเกมนี้กันว่าเราจะได้เหรียญมาจากไหน รวมถึงการแปลส่วนของข้อมูล White paper ของตัวเกมที่เรียกว่าค่อนข้างมีรายละเอียดอยู่เยอะมากเลยทีเดียว
CryptoMines เหรียญ เกม นี้หาจากไหน
สำหรับตัวเกม CryptoMines นั้น เพื่อนๆ จะได้เหรียญ $eternal มาจากการขุดแร่ที่อยู่บนดาวต่างๆ ในเกม ซึ่งการจะเริ่มขุดเหมืองจะต้องมีการลงทุนซื้อตัวยานอวกาศและคนงานมาจัดตั้งกองยานขึ้นมาก่อน รวมถึงการทำสัญญารายวัน (นับเป็น7-15-30 วันตกอยู่ที่วันละ $1 ต่อคนงาน 1 คน) เสียก่อนจึงจะสามารถออกเดินทางไปขุดแร่ได้
ระบบการจ่ายแร่ของเกมนี้ก็จะมีเรื่องของการคำนวนโอกาสสำเร็จที่ขึ้นกับพลังในการขุดแร่ (Mining Power / MP) รวมกับระดับของกองยาน ที่คิดตามความหายากของตัวยานอวกาศที่เรามีอยู่ และความยากในการขุดของดาวนั้นๆ ทำให้การขุดแร่หรือเหรียญในเกมนี้ก็ค่อนข้างที่จะต้องมีการวางแผน การจัดแบ่งคนงานและยานอวกาศของเราอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ
ตัวเกมก็ยังมีส่วนของระบบ RAID ที่เปลี่ยนวิธีการขุดแร่เดิมๆ เป็นระบบใหม่ที่มีของรางวัลมากขึ้น (สามารถเลือกว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ก็ได้) รวมถึงมีระบบ Oracle มาช่วยดูแลไม่ให้ตัวค่าเงินมีความเหวี่ยงไปมาจนเกินไป และในการจ่ายเงินรางวัลก็มีส่วนของค่าบริการ 30% ที่จะลดลงเมื่อออกสำรวจในทุกวันวันละ 2% (ใช้เวลา 15 วันรับรางวัลเต็ม) ทำให้ตัวเกมค่อนข้างจะมีอะไรหลายๆ อย่างรองรับในจุดที่เรียกว่าดูน่าสนใจอยู่
ในการแปลตัว White paper นั้นก็จะขอเว้นในส่วนของ Roadmap และ Tokenomic ให้เพื่อนๆ ได้เข้าไปศึกษาเพิ่มเติมก่อนจะลงทุนเริ่มเล่นเกมนี้ดู โดยสามารถอ่านได้ที่ : https://docs.cryptomines.app/
ข้อมูล White paper ของ CryptoMines
CryptoMines เป็นเกม NFT แนว Sci-Fi แบบ Play-to-earn ที่ออกแบบมาเพื่อนให้ผู้เล่นได้รับความสนุกจากการรวบรวมเหล่าคนงานและยานอวกาศ เพื่อเดินทางไปในจักรวาล ค้นหาสิ้งที่เรียกว่า $eternal ซึ่งใช้ทำให้พวกเขามีชีวิตต่อไปได้รวมถึงสร้างรายได้ไปพร้อมๆ กัน
CryptoMines มีเป้าหมายที่จะเป็นเกม SciFi ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบน blockchain พร้อมกันนั้นก็ต้องการให้ผู้เล่นได้รับความสนุกสนานและเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลอันกว้างใหญ่ การวางแผนในการเล่นที่ลุ้นรึกทึก และแน่นอนก็ต้องได้เหรียญกลับไปด้วย
ตัวเกมนั้นถูกวางระบบอยู่บน Binance Smart Chain และสามารถใช้ร่วมกับกระเป๋า web3 อย่าง MetaMask ได้ ซึ่งจะใช้ในการจ่ายค่าบริการต่างๆ หรือค่าแก๊ส ตัว MetaMask นั้นสามารถติดตั้งได้ในส่วนเสริมของ browser หรือใน app ของมือถือของผู้เล่นได้
ทุกอย่างที่ผู้เล่นมีจะเป็น NFTs ที่ถูก minted ในระบบ ERC-721 แปลว่ามันจะสามารถเทรดในตลาดหรือแลกเปลี่ยนกันโดยตรงกับผู้เล่นคนอื่นได้
Gameplay ของ
Mining Planets
ในการจะเริ่มต้นขุดเจาะแร่บนดาวนั้น จะต้องมีการสร้างกองเรือขึ้นมาเพื่อเดินทางไปยังดาวอื่นๆ เสียก่อน ซึ่งระดับความหายากของคนงานจะเป็นตัวกำหนดว่าผู้เล่นมีพลังในการขุดเจาะแร่เท่าไหร่ และก็เป็นการกำหนดว่าจะไปขุดเจาะที่ดาวไหนได้บ้างไปในตัว
ดังนั้นถ้าเกิดว่าผู้เล่นมีคนงานสองคนที่มีระดับหายาก 2 ดาว และยานลำนึงที่มีระดับหายาก 2 ดาวเช่นกัน จะไปยังดาวเลเวล 2 ที่มี 200 MP ได้
คนงานนั้นสามารถเก็บทรัพยากรได้สูงสุดทุกๆ 24 ชั่วโมง เมื่อถึงเวลา 00:00 UTC กองยานทั้งหมดจะสามารถออกเดินทางใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง
รางวัล
รางวัลที่ผู้เล่นทุกคนจะได้จากการขุดเจาะเหมืองแร่บนดาวนั้น จะขึ้นกับเลเวลของกองยานของผู้เล่นแต่ละคน รวมถึงตัวดาวที่ผู้เล่นคนนั้นอยู่ ในเกมจะมีการติดตั้งระบบที่ช่วยดูแลสมดุลย์เรื่องนี้อยู่ (Oracle) ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เงินรางวัลถูกขุดออกไปไวจนเกินไปด้วย
ค่าใช้จ่ายจากการรับรางวัลด่วน
ตัวเกมมีการกำหนดค่าใช้จ่าย 30% ของเงินรางวัลที่ทำได้ อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายตรงนี้จะลดลง 2% ทุกครั้งที่ออกเดินทางในครั้งแรกของวัน จนกระทั่งเหลือ 0% ในที่สุด (ตีเป็นเวลา 15 วัน)
Spaceship
ตัวยานอวกาศนั้นจะช่วยทำให้คนงานสามารถเดินทางไปยังดาวใหม่ๆ ที่มีทรัพยากรและรางวัลที่ดีกว่าได้ ตามค่าพลังการขุดเจาะที่มีอยู่
ยานเหล่านี้เมื่อครอบครองจะมีการระบุค่าความหายาก ซึ่งจะบอกจำนวนคนงานที่สามารถรองรับได้บนยานสำหรับการเดินทางในแต่ละครั้งอยู่ ผู้เล่นแต่ละคนจะมียานได้สูงสุดเพียง 10 ลำได้เท่านั้นในกองยานของตัวเอง
ระดับความหายากของยานอวกาศจะส่งผลโดยตรงกับ Rank และโอกาสสำเร็จเมื่อมีการปะทะกันขึ้น
ตัวยานอวกาศจะมีค่าสเตตัสและจำนวนคนงานที่โดยสารไปได้ตามตารางดังนี้
ความหายาก | โอกาสได้ | คนงานที่ไปได้ |
5 ดาว | 1% | 5 |
4 ดาว | 5% | 4 |
3 ดาว | 15% | 3 |
2 ดาว | 35% | 2 |
1 ดาว | 44% | 1 |
Worker
คนงานเป็นตัวแปรหลักในการขุดเหมืองแร่อวกาศในเกมนี้ พวกเขาจะถูกส่งไปขุดเจาะหา $eternal ซึ่งใน Metaverse นี้ คนงานทุกคนจะถูกดูแลโดยกิลด์ผ่านกองยานนั่นเอง
เมื่อถือครองคนงานแล้วนั้น ก็จะปรากฎความสามารถออกมาซึ่งแตกต่างกันไปตามความหายากของพวกเขา พยายามหาคนงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้ได้เพื่อรายได้ที่มั่นคงที่สุดในกาแลคซี่นี้!
คนงานสามารถถูกปล่อยทิ้ง (burned) ได้ โดยจะได้รับค่าใช้จ่ายในการครอบครอง (mint) กลับมา 20% ของที่ใช้ไป
ระดับความหายากของคนงานมีดังนี้
ความหายาก | โอกาสได้ | ค่า MP ต่ำสุด | ค่า MP สูงสุด |
5 ดาว | 1% | 200 | 255 |
4 ดาว | 5% | 150 | 200 |
3 ดาว | 15% | 100 | 150 |
2 ดาว | 35% | 50 | 100 |
1 ดาว | 44% | 15 | 50 |
Fleets
กองยานเหล่านี้คือ NFTs ที่สร้างขึ้นจากการรวมตัวของคนงานและยานอวกาศเข้าด้วยกัน สิ่งเป็นส่วนสำคัญในการหา เหรียญ หรือแร่ในเกม CryptoMines นี้ ผู้เล่นสามารถเพิ่ม NFTS ให้กับกองยานหรือโละกองยานทิ้งก็ย่อมได้ ซึ่งจะทำให้คนงานกับยานอวกาศแยกกันเป็นอิสระอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นจะไม่สามารถนำคนงานหรือกองยานออกจากกันแบบชิ้นต่อชิ้นได้ ดังนั้นขอให้วางแผนให้ดีก่อนจะสร้างกองยาน
กองยานของแต่ละคนจะมีค่าต่างๆ อยู่ เช่น ชื่อ, พลังการขุดเจาะ, ระดับของกองยาน, เลเวลของกองยาน, สัญญาของกองยาน
ถ้าเกิดว่ากองยานนั้นมีการทำสัญญาหรือถูกว่าจ้างไว้อยู่ และถ้ายุบกองยานทิ้ง ก็จะเสียค่าประสบการณ์ของกองยานทั้งหมดไปด้วย
ในตอนนี้จะไม่มีกำหนดว่าจะมีกองยานได้กี่กองในแต่ละไอดี อย่างไรก็ตาม พวกเราไม่แนะนำให้มี NFT เกิน 300 ชิ้นในไอดี (รวมกันทั้งคนงาน, ยานอวกาศและตัวกองยาน)
กองยานแต่ละลำนั้นสามารถออกสำรวจได้เป็นอิสระโดยไม่ขึ้นต่อกัน (เช่นมีกองยาน 5 กองก็สามารถสำรวจดาว 5 ดวงพร้อมกันได้)
ค่าใช้จ่ายในการสร้างกองยานก็จะตกอยู่ที่ 0.5 ดอลล่าห์ต่อ NFT โดยจ่ายเป็น $eternal
► ระดับของกองเรือ
กองเรือนั้นมีระดับอยู่ 5 ขั้นด้วยกัน โดยประกอบไปด้วย S A B C D ไล่จากสูงสุดไปต่ำสุด ซึ่งตัวระดับนี้จะถูกนับจากระบบหารของจำนวนยานอวกาศที่อยู่ในกองยานนั้นๆ การมียานอวกาศระดับไหนมากที่สุดในกองยานนั้น จะทำให้ได้ระดับไปตามนั้น ซึ่งรวมไปถึงการเพิ่มยานอวกาศลำใหม่เข้ามาในกองยานด้วย เช่นถ้าเกินมีกองยานระดับ B ที่มียานระดับ 3 ดำลำเดียว และเพิ่มยานอวกาศ 2 ดาวเข้ามาสองลำ จะกลายเป็นระดับ C ไป หรือถ้ามียาน 8 ลำ มี 5 ดาว 1 ลำ 4 ดาว 2 ลำ 3 ดาว 4 ลำและ 1 ดาว 1 ลำ ก็จะอยู่ที่ระดับ B เพราะมี 3 ดาวมากที่สุด
แต่ในกรณีที่มียานแต่ละดาวเท่ากันหมด ระบบจะนับดาวที่ต่ำที่สุดเท่านั้น
► การทำสัญญา
สัญญาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากกองยานจะสามารถออกสำรวจได้นั้นต้องทำสัญญาเสียก่อน
ในแต่ละกองยานจะมีจำนวนคนงานตามแต่ที่ผู้เล่นจะพาไปด้วย ซึ่งสัญญานั้นจะต้องจ่ายให้กับคนงานทุกคนในกองยานนั้น ตัวสัญญานั้นขั้นต่ำสุดจะเซ็นไว้เป็นเวลา 7 วัน แต่ก็สามารถเซ็นเป็นเวลา 15 หรือ 30 วันได้เช่นกัน และเมื่อสัญญาสิ้นสุดลงก็ต้องเซ็นใหม่อีกครั้งถ้าอยากออกเดินทางต่อ
อนึ่ง ระหว่างที่มีสัญญาอยู่จะไม่สามารถยุบกองเรือที่ทำสัญญาไว้ได้
ถ้าเกิดว่ามีการเพิ่มคนงานในกองเรือระหว่างที่สัญญายังมีผล จะต้องจ่ายให้กับคนงานตามจำนวนวันที่ผ่านไปแล้วในสัญญานั้นด้วย (เช่นทำไปแล้ว 3 วันในสัญญา 7 วัน เพิ่มคนงาน 1 คนก็ต้องจ่ายค่าเพิ่ม 0.5+3 เหรียญ)
ค่าใช้จ่ายก็จะตกอยู่ที่คนละ $1 ต่อวัน และมีส่วนลดให้เล็กน้อยสำหรับสัญญาระยะยาวเกิน 7 วัน
ระยะเวลา | ค่าใช้จ่าย |
7 วัน | $7 (จ่ายเป็น $eternal ตามราคาของ Oracle) |
15 วัน | $14 (จ่ายเป็น $eternal ตามราคาของ Oracle) |
30 วัน | $27 (จ่ายเป็น $eternal ตามราคาของ Oracle) |
► เลเวลของกองเรือ
กองเรือนั้นจะเริ่มจากเลเวล 0 และค่อยๆ ได้รับประสบการณ์มาจากการออกเดินทาง ซึ่งจะช่วยให้เลเวลเพิ่มขึ้นและสามารถทำเงินรางวัลได้มากขึ้นเรื่อยๆ กองเรือจะได้รับค่าประสบการณ์ 5 หน่วยทุกครั้งที่ออกเดินทาง (ขึ้นกับว่าแพ้หรือชนะ แต่ก็จะได้เป็นค่าคงตัวเสมอ)
ในตอนนี้ก็จะมี 5 ระดับของตัวประสบการณ์ การขึ้นไประดับต่อไปก็จะได้รับรางวัลที่สูงขึ้นจากการที่พยายามได้มากขึ้นเช่นนี้
ในการที่จะไต่ระดับแบบที่ดีที่สุดนั้น ผู้เล่นจะต้องเดินทางไปยังดาวต่างๆ ตามระดับของค่าประสบการณ์นี้ (6, 11, 16, 21, 25) เพราะค่าประสบการณ์ที่ได้จากดาวที่มีระดับต่ำกว่าจะลดลง เช่นถ้ากองยานอยู่ที่เลเวล 21 การได้ค่าประสบการณ์จากดาวเลเวล 1 จะเหลือแค่ 0.5 เท่านั้น ซึ่งมันไม่คุ้มเท่าไหร่
ในตารางด้านล่างนี้จะระบุค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้ และจำนวนการเดินทางที่ต้องใช้เพื่อได้ค่าประสบการณ์ตามนั้น
► เชื้อเพลิง
เชื้อเพลิงเป็นวัตถุดิบที่สำคัญมากในการเดินทางไปยังดาวต่างๆ ผู้เล่นจะต้องเติมเชื้อเพลิงก่อนเดินทางแต่ละครั้งให้เรียบร้อยเสมอ
ค่าเติมเชื้อเพลิงนั้นจะขึ้นกับดาวที่ต้องการไปสำรวจ ยิ่งดาวนั้นอยู่ไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องเสียเชื้อเพลิงมากขึ้นเท่านั้น โดยทั่วไปแล้วราคาของเชื้อเพลิงจะอยู่ประมาณ 5% ของรางวัลที่จะได้จากดาวระดับ 4 (กองยานเลเวล 16)
อนึ่ง ค่าใช้จ่ายของเชื้อเพลิงจะถูกส่งไปยังกองรวมเงินรางวัล (reward pool)
Planets
คนงานนั้นเดินทางไปทั่วกาแลคซ๊่เพื่อค้นหา $eternal และต้องเจอกับความอันตรายแสนสาหัญระหว่างที่ทำการขุดเหมืองแร่เหล่านั้น ดวงดาวที่พวกเขาต้องไปเผชิญนั้นจะถูกจัดอันดับตามความยากในการขุดแร่หายากเหล่านี้ ยิ่งดาวเหล่านั้นอันตรายเท่าไหร่ก็ยิ่งมีแร่ธาตุเยอะเท่านั้น มีเพียงนักบุกเบิกที่กล้าหาญเพียงพอเท่านั้นที่จะย่างกรายเข้าไป
ในตอนนี้มีดวงดาวประมาณ 30 ดวงที่เป็นที่รู้จักกันของสมาพันธ์ ซึ่งคนงานของพวกเรานั้นสามารถเดินทางไปยังดาวเหล่านั้นได้ตามพลังการขุดแร่และตัวกองยานที่พวกเขาอยู่
เพื่อที่จะปกป้องคนงานของพวกเรา สมาพันธ์ได้กำหนดไว้ว่า กองเรือแต่ละกองจะเดินทางไปยังดาวต่างๆ ได้เท่าที่พลังในการขุดแร่ของพวกเขามีเพียงพอเท่านั้น เช่นถ้ามีกองเรือที่มีคนงานรวมแล้วพลังขุดแร่ 500 หน่วย ก็จะสามารถไปยังดาวระดับ 5 ได้
ทุกๆ พลังขุดแร่ 100 หน่วยก็จะทำให้ผู้เล่นสามารถไปยังดาวระดับสูงขึ้นได้ และก็มีรางวัลที่มากขึ้นรออยู่ ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามีพลังขุดแร่มากกว่าที่ดาวกำหนดไว้ก็จะมีรางวัลเพิ่มเติมจาก Veterans Guild ด้วยเช่นกัน
ยิ่งดาวที่อยู่ห่างไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งมีแร่ธาตุเยอะขึ้นเป็นทวีคูณ ดังนั้นผู้เล่นที่กล้าที่จะเสี่ยงไปยังดาวที่อยู่ห่างไกลและสามารถขุดแร่ออกมาได้ ก็ย่อมจะมีแร่ธาตุมากมายกลับมาแน่นอน
Section
ดวงดาวต่างๆ นั้นจะถูกแบ่งเขตออกเป็นสีเขตใหญ่ๆ ด้วยกัน (และอาจจะขยายออกไปมากขึ้นเมื่อมีดวงดาวเพิ่มขึ้น) โดยผู้เล่นที่สำรวจดาวที่ในเขตที่มีระดับสูงกว่ากองยานของตัวเอง จะมีโอกาสออกสำรวจสำเร็จที่ต่ำลง และในทางกลับกัน ถ้ามีระดับของกองยานที่สูงกว่า ก็จะมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้นตามไปด้วย
เขตต่างๆ นั้นมีการแนะนำกองยานดังนี้
- เขตที่ 1 : จากดาวที่ 1-10 แนะนำกองยานระดับ C
- เขตที่ 2 : จากดาวที่ 11-20 แนะนำกองยานระดับ B
- เขตที่ 3 : จากดาวที่ 21-25 แนะนำกองยานระดับ A
- เขตที่ 4 : จากดาวที่ 26-30 แนะนำกองยานระดับ S
Veteran Guild
กิลด์ที่มีพลังในการขุดแร่มากเพียงพอนั้นจะถูกเรียกว่า Veteran Guild และเป็นกลุ่มคนที่มีโอกาสขุดเจาะแร่ในดวงดาวที่แสนอันตรายได้มากกว่าคนอื่นๆ อย่างชัดเจน
เหล่า Veteran Guilds นั้นจะมีโอกาสขุดเจาะแร่สำเร็จมากขึ้นในดาวที่ระดับต่ำกว่า เมื่อสามารถไปถึงพลังการขุดแร่ (Mining Power / MP) ที่ 1500 หน่วย ด้วยจุดนี้ก็จะเป็นการเชิญชวนให้ผู้เล่นนั้นพยายามที่จะทำให้กิลด์ของตัวเองเติบโต มีคนงานและมียานอวกาศที่ดีขึ้น เพราะไม่ใช่แค่จะทำให้ได้รับแร่มากขึ้น แต่จะทำให้มีโอกาสขุดเจาะแร่สำเร็จเพิ่มขึ้นด้วย
กิลด์เหล่านี้จะมีโอกาสมากขึ้นในดาวที่ค่อนข้างปลอดภัย โดยโอกาสสำเร็จจะเพิ่มขึ้น 2% ต่อดาวที่ระดับต่ำกว่า 1 ขั้น ซึ่งเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
เช่นหากมีพลังขุดแร่ 2000 หน่วย ผู้เล่นคนนั้นจะเดินทางไปได้ถึงดาวดวงที่ 20 ซึ่งมีโอกาสสำเร็จ 49% สำหรับกองยานระดับ B แต่ถ้าเกิดว่าย้อนกลับไปที่ดาวดวงที่ 15 ตามปกติแล้วจะมีโอกาสสำเร็จที่ 59% ก็จะได้รับโบนัสเพิ่มอีก 10% ทำให้โอกาสสำเร็จขึ้นมาอยู่ที่ 69%
อย่างไรก็ตาม โอกาสสำเร็จจะมีขีดจำกัดสูงสุดอยู่ตามลำดับของเขตด้านล่างนี้
- Section 1: ดาวที่ 1-10: สูงสุดที่ 97%
- Section 2: ดาวที่ 11-20: สูงสุดที่ 97%
- Section 3: ดาวที่ 21-25: สูงสุดที่ 93%
- Section 4: ดาวที่ 26-30: สูงสุดที่ 91%
Raid
RAIDS นั้นเป็นกิจกรรมประจำอาทิตย์ใน Metaverse ของ CryptoMines ที่ให้ผู้เล่นได้สำรวจดาว 3 ดวงที่ถูกควบคุมโดยฝ่ายอื่น ในกิจกรรมนี้จะมีรางวัลชนิดพิเศษให้เป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ชนะใน RAID ได้ โดยจะเป็น $eternal, เชื้อเพลิง, ค่าประสบการณ์และกล่องสุ่มที่จะเปิดเผยในภายหลัง
ฝ่ายของผู้เล่นจะมีส่วนรวมในการเล่นกิจกรรมนี้ เนื่องจากผู้เล่นจะไม่สามารถขุดแร่ธาตุในดาวที่เป็นของฝ่ายตัวเองได้ เช่นถ้าอยู่ Muathen จะต้องไปที่ Threzor หรือ Avaria เท่านั้น
การเข้าร่วม RAID นั้นกองเรือจะต้องไปไม่อยู่ในสถานะ tired และยังมีสัญญาอยู่เท่านั้น แต่ว่าจะไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงในการร่วมกิจกรรมนี้
ข้อควรจำ : RAID เป็นระบบที่ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถได้รับรางวัลได้เหมือนกันหมด ซึ่งผู้เล่นแต่ละคนจะเลือกได้ว่าจะให้กองยานของตัวเองเข้าร่วม Raid หรือจะขุดเหมืองไปตามปกติเหมือนเดิมก็ได้
► ระบบหลัก
ตัวระบบของ RAID นั้นจะเป็นการแข่งพลังในการขุดแร่กัน เนื่องจากมีรางวัลมากมายรอให้กับผู้ที่สามารถขุดแร่ในดาวที่มีแร่เยอะที่สุดได้ (หรือกล่าวอีกนัยนึงคือ ยิ่งดาวนั้นมีคนขุดแร่รวมกันน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งมีรางวัลสูงขึ้น)
รางวัลนั้นจะถูกแบ่งตามสัดส่วนการส่งกองยานมาเข้าร่วม ยิ่งกองยานมีส่วนร่วมมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น
ในการ RAID นั้นผู้เล่นจะได้รับบทบาทหนึ่งในสามอย่างคือ Engineers, Veterans, Bounty Hunters ตัวบทบาทนี้จะมอบให้เมื่อผู้เล่นหลังจากที่ร่วม RAID เรียบร้อยแล้ว
Engineers ถูกมอบให้กับคนที่มีชัยชนะใน RAID นั้นและจัดว่าเป็นบทบาทที่ดีที่สุดเพราะช่วยเพิ่มค่าประสบการณ์ให้กับกองยานและช่วยเรื่องเชื้อเพลิงได้ คนที่ได้คือคนที่อยู่บนดาวที่มีการสะสมพลังขุดแร่น้อยที่สุด
Veterans อันดับที่สองของ RAID อยู่กลางๆ ได้รับเชื้อเพลิงและโบนัสค่าประสบการณ์ที่น้อยกว่า สำหรับคนที่อยู่บนดาวที่มีพลังการขุดแร่รวมกันกลางๆ
Bounter Hunter เป็นคนที่ขุดบนดาวที่มีพลังขุดแร่เยอะสุด ได้รับรางวัลแค่ $eternal เท่านั้น
Reward
รางวัลที่ได้จาก RAID จะมีการคำนวนตามขั้นตอนต่างๆ ดังนี้ เริ่มจากพลังการขุดแร่ที่ส่งไปร่วมใน RAID นั้นๆ ซึ่งรางวัลจะได้จากดาวที่ผู้เล่นคนนั้นมีพลังในการขุดแร่เยอะที่สุด คูณกับโอกาสสำเร็จ จากนั้นก็จะมาคิดจากระบบรางวัลของ RAID ที่ยิ่งมีพลังขุดแร่สะสมรวมกันบนดาวเท่าไหร่ก็ยิ่งได้รางวัลดีเท่านั้น
รางวัลแบบเสมอภาคคืออะไร?
เป็นรางวัลที่ได้จากดาวที่ผู้เล่นเข้าไปร่วมขุดเจาะอยู่ คูณด้วยโอกาสสำเร็จ เป็นรางวัลที่ค่อนข้างตรงไปตรงมาและพื้นฐานที่สุด
ซึ่งจะมีตาราง Leaderboard อยู่ดังนี้ แต่ละบทบาทก็จะได้รับรางวัลที่แตกต่างกันไป ดังนั้นอันที่จริงก็เรียกได้ว่าแต่ละบทบาทก็อจจะไม่ได้ดีที่สุดหรือแย่ที่สุดสำหรับแต่ละคนก็เป็นได้
บทบาท | วิธีได้ | รางวัล |
Engineer | อยู่บนดาวที่มีพลังขุดแร่รวมน้อยที่สุด | เชื้อเพลิง, โอกาสได้ loot box |
Veteran | อยู่บนดาวที่มีพลังขุดแร่รวมกลางๆ | ได้ค่าประสบการณ์สูงสุด |
Bounty Hunter | อยู่บนดาวที่มีพลังขุดแร่รวมมากที่สุด | $eternal เยอะที่สุด |
บทบาท | $eternal | ประสบการณ์ | เชื้อพลัง | Loot Box |
Engineer | น้อย | กลาง | มาก | มาก |
Veteran | กลาง | มาก | กลาง | กลาง |
Bounty Hunter | มาก | น้อย | น้อย | น้อย |
Marketplace
ในตลาดของตัว CryptoMines นั้นจะมี NFT Marketplace ของตัวเกมเองที่ผู้เล่นสามารถพัฒนากิลด์ของตัวเองด้วยการแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ในเกมได้โดยเสียค่าใช้จ่ายในการแลกเปลี่ยน 15% ของมูลค่านั้น (ค่าใช้จ่ายนี้จะถูกส่งไปยัง reward pool)
ในตลาดจะใช้ $eternal เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนและสามารถตั้งค่าราคาได้อย่างอิสระตามใจของผู้เล่นได้เลย
อนึ่ง กองยานที่ tired จะไม่สามารถวางขายในตลาดได้
Oracle
ราคาของ Oracle นั้นมีไว้เพื่อทำให้ตัวเหรียญ $eternal นั้นถูกจ่ายออกไปอย่างเหมาะสมและใช้เป็นตัวกลางเชื่อมต่อกับค่าเงินดอลล่าห์ นั่นทำให้ถ้าเกิดว่าค่าเงินดอลล่าห์ต่อ $eternal เพิ่มขึ้นจะส่งผลดังนี้
- การจ่าย $eternal จะลดลง
- ค่า mint ยานอวกาศด้วย $eternal จะลดลง
- ค่า mint คนงานด้วย $eternal จะลดลง
แน่นอนว่าในทางกลับกันก็จะสลับกันนั่นเอง ซึ่งตัว Oracle จะปรับเปลี่ยนค่านี้ตลอดเวลาตามเวลาจริง
เหตุผลที่ต้องมี Oracle
การที่มี Oracle อยู่นั้นเมื่อทำให้ค่าเงินในเกมนั้นถูกปรับตามค่าเงินดอลล่าห์ เนื่องจากว่าตัวเหรียญ $eternal ที่มีอยู่จำกัดนั้นได้วนเวียนอยู่ในระบบการเงินของตัวเกม ผู้เล่นจำนวนมากจะสามารถขุดเหรียญเหล่านี้ออกมาได้หมดในระยะเวลาที่สั้นมากถ้าเกิดพวกเขาจะทำจริงๆ
การมีอยู่ของ Oracle นั้นจะทำให้ CryptoMines สามารถกำหนดการไหลเวียนของค่าเงินดอลล่าห์ของตัว $eternal กับจำนวนผู้เล่นที่เล่นอยู่ในปัจจุบันได้ ซึ่งทำให้ถ้าเกิดค่าของเหรียญเพิ่มขึ้น ก็แปลว่าความต้องการเหรียญเพิ่มขึ้น จะด้วยจากการเปิดระบบใหม่ของเกมหรือการเข้ามาของผู้เล่นใหม่ก็ตาม Oracle จะช่วยทำให้อัตราการแลกเปลี่ยนนั้นคงที่มากขึ้น ไม่พุ่งขึ้นลงจนเกินกว่าที่ควรจะเป็น รวมถึงทำให้ค่าการ mint NFT นั้นคงที่ด้วย
ระบบ Oracle จึงช่วยให้การเข้ามาเล่นของผู้เล่นใหม่รวมถึงตัวเงินรางวัลนั้น จะถูกทำให้อยู่ในจุดที่มันควรจะเป็นได้นานขึ้น ไม่แกว่งสะบัดไปมาจนเกินไป รวมถึงทำให้ผู้เล่นใหม่สามารถเข้ามาเล่นได้ แม้ว่าค่าของเหรียญจะพุ่งขึ้นสูงก็ตาม
การเริ่มต้นการเดินทางใน CryptoMines
เริ่มต้น
ในการเริ่มต้นเล่น CryptoMines นั้นต้องมีของสามสิ่งดังนี้
- กระเป๋า web3 อย่าง MetaMask
- $bnb สำหรับจ่ายค่าแก๊สบนระบบของ Binance
- $eternal สำหรับการซื้อใน Pancake Swap
ในขั้นตอนแรกนั้นก็ควรจะอ่านเกี่ยวกับตัวบทความนี้เสียก่อน ซึ่งจะช่วยอธิบายเกี่ยวกับการติดตั้งกระเบาและ BSC Mainnet : https://docs.binance.org/smart-chain/wallet/metamask.html
จากนั้นก็ให้ซื้อ $eternal ใน PancakeSwap โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
ยานอวกาศ
ถ้าไม่มียานอวกาศก็จะไม่สามารถสร้างกองยานได้ ดังนั้นสิ่งแรกคือการ mint หรือซื้อยานอวกาศจากในส่วนของ ยานอวกาศ ในตลาด
เมื่อมียานอวกาศลำแรกแล้ว ก็จะสามารถ mint คนงานได้แล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นผู้เล่นใหม่ ก็อยากจะแนะนำให้มีพลังการขุดแร่ซัก 1000 จะดีกว่า เนื่องจากเราจะสามารถปลดล๊อคดาวใหม่ได้ทุกๆ ครั้งที่มีพลังขุดแร่ครบ 100 หน่วย ประกอบกับดาวที่ยิ่งห่างไปก็ยิ่งมีอันตรายมากขึ้น ทำให้ขุดแร่ได้ยากขึ้น ก็หมายถึงมันก็จะมีรางวัลตอบแทนที่ดีกว่านั่นเอง
การมีค่าพลังขุดแร่ 1000 หน่วยจะทำให้ไปถึงดาวที่ 10 ได้และมีโอกาสมากขึ้นนั่นเอง
คนงาน
ค่าสเตตัสตัวยานและคนงานจะถูกสุ่มเมื่อทำการ mint จากในตลาด ซึ่งจากที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้าว่าควรจะเล็งค่าการขุดแร่ไว้ที่ 1000 หน่วย โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด เพื่อจะได้เพิ่มค่าตอบแทนได้เยอะที่สุดในขีดจำกัดนี้
ตัวเกม CryptoMines นั้นจะให้รางวัลกับผู้เล่นที่ต้องการพัฒนากองยานของตัวเอง และมากขึ้นไปอีกตามกำลังขุดแร่ของพวกเขา
เช่นถ้ามีคนมีพลังขุดแร่ 2000 หน่วยสามารถไปถึงดาวที่ 20 ซึ่งจะมีโอกาสขุดแร่สำเร็จ 47% ด้วยกองยานระดับ C แต่ว่าด้วยระบบ Veteran Guild เขาจะย้อนกลับมาดาวก่อนหน้าโดยมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้นได้
แน่นอนว่าจะเล่นหลายไอดีก็ไม่ว่ากันแต่อย่างไร
รางวัลกับดาวต่างๆ
ในจุดสุดท้ายก็จะพูดถึงก็คือรางวัลต่อดาวนั่นเอง รางวัลในเกมนั้นจะได้รับเมื่อผู้เล่นมีกองเรือที่พร้อมจะออกไปขุดแร่บนดาวที่อันตรายเหล่านั้น และปัญหาที่ต้องเจอคือโอกาสสำเร็จในการขุดแร่เมื่อเทียบกับรางวัลที่ได้
โอกาสสำเร็จนั้นจะลดลงทุกครั้งที่ไปยังดาวที่ห่างไหลออกไป โดยเริ่มจาก 88% ที่ดาวดวงที่ 1 และเหลือ 86% ในดาวดวงที่ 2 ซึ่งจะไล่ไปตามเขตต่างๆ ต่อไปอีก ดังนั้นส่วนมากแล้วผู้เล่นจะวางแผนให้โอกาสสำเร็จกับรางวัลนั้นอยู่ใกล้เคียงกัน ไม่เสี่ยงพลาดจนเกินไป อย่างไรก็ดี มันก็ไม่มีแผนไหนที่เรียกว่าดีที่สุดหรือจะได้ผลอย่างแน่นอน ผู้เล่นแต่ละคนก็จะมีการวางแผนที่แตกต่างกันไป ก็ขอให้ทุกคนสนุกกับการเล่นเกม Play-to-earn กันนะ
ยังมีข้อมูลอีกหลายส่วนของตัว White paper ที่ยังไม่ได้ถูกแปลออกมาเช่นในส่วนของ Roadmap, Tokenomic ที่หากเพื่อนๆ ต้องการเล่นตัวเกม NFT เกมไหนก็ตาม ควรจะเข้าไปพิจารณาตัว White paper อย่างละเอียด ดูข้อมูลความน่าเชื่อถือและความเป็นไปได้ แนวโน้มการพัฒนาหรือการเติบโตก่อน เนื่องจากการเล่นเกม NFT นั้นต่างจากการเล่นเกมธรรมดาที่มีการลงทุน และทุกการลงทุนต้องมีการศึกษา วิเคราะห์ความเสี่ยงเสมอ ก็ขอให้เพื่อนๆ สนุกกับการเล่นและได้กำไรจากการลงทุนไปพร้อมๆ กัน ขอให้ขุด เหรียญ เอ้ย แร่ ให้สนุกใน CryptoMines จ้า