ถือเป็นการอัพเดทใหญ่ครั้งแรกของเกม Heathstone ที่ได้นำเอาคลาสใหม่เข้ามาในเกมเป็นครั้งแรก นั่นก็คือ Demon Hunter
แน่นอนว่าการอัพเดทครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงฮีโร่ใหม่เท่านั้น เพราะได้มีการใส่เด็คและเรื่องราวชวนติดตามของตัวละครอย่าง Illidan Stormrage ตัวละครสุดฮิตจากแฟรนไชส์ Warcraft ซึ่งบอกเลยว่าเด็คนี้มีความเก่งในระดับที่เรียกว่าติด META อันด้บต้นๆ เลยก็คงได้
คลาส
Demon Hunter จะมาพร้อมกับสกิล Demon Claw ที่ใช้ 1 มานา เพื่อเพิ่มพลังโจมตีให้กับฮีโร่ของเรา +1 ซึ่งจะเรียกว่าโกงก็คงได้ เพราะเดิมทีสกิลของฮีโร่ที่มีอยู่ในเกมจะใช้ 2 มานา ทั้งหมด ดังนั้นในเทิร์นแรกของเกม Demon Hunter เป็นคลาสเดียวที่สามารถสร้างความเสียหายได้โดยไม่ง้อการ์ดใดๆ
เอฟเฟคใหม่บนการ์ด ‘Outcast’
การมาของ Demon Hunter ไม่เพียงแต่จะนำมาซึ่งประสบการณ์อันแปลกใหม่ของฮีโร่ แต่ยังมีเรื่องของคีย์เวิร์ดบนการ์ดแบบใหม่ ‘Outcast’ ที่จะทำงานต่อเมื่อการ์ดใบดังกล่าวอยู่ริมสุดบนมือ ซึ่งถือว่าทำออกมาได้แปลกใหม่และท้าทายพอสมควร เพราะขั้นตอนในการไล่ลำดับการเล่นการ์ดของเราจะมีความหลากลายมากยิ่งขึ้น
การ์ดที่น่าสนใจและคอมโบเบสิคใน Deck นี้
ต้องบอกก่อนว่าแนวทางการเล่น Demon Hunter นั้นจะค่อนข้างจัดจ้านในด้านเกมรุก ด้วยสกิลติดตัวที่มาเพื่อปะทะโดยเฉพาะ และการ์ดส่วนใหญ่ใน Deck มักจะเป็นการ์ดที่ช่วยเสริมพลังโจมตีของฮีโร่ หรือใช้ประโยชน์จากพลังโจมตีของฮีโร่เป็นหลัก
Twin Slice
ประเภท: การ์ดเวทมนตร์
มานาที่ใช้: 0
เอฟเฟค: +1 พลังโจมตีให้กับฮีโร่, หลังจากนั้นเพิ่ม ‘Second Slice’ ขึ้นมาบนมือ // Second Slice มีเอฟเฟคเดียวกันคือ +1 พลังโจมตีให้กับฮีโร่
เท่ากับว่าเราสามารถเพิ่มพลังโจมตีได้สูงสุดถถึง 2 หน่วยในเทิร์นเดียว โดยที่ไม่ต้องเสียมานาเลยสักนิด ช่วงต้นเกมสามารถฆ่ามอนสเตอร์ได้สบายๆ หรือจะกระแทกหน้าไปตรงๆ ก็เจ็บพอตัวเหมือนกัน
Consume Magic
ประเภท: การ์ดเวทมนตร์
มานาที่ใช้: 1
เอฟเฟค: ใบ้มอนสเตอร์อีกฝ่าย 1 ตัว และ Outcast จั่วการ์ดเพิ่มอีก 1 ใบ
หากได้การ์ดนี้เป็น 1 ใน 3 ใบในช่วงต้นเกมบอกเลยว่าการ์ดเราจะไม่ขาดมืออย่างแน่นอน แต่กลาง-ท้ายเกมก็ใช่ว่ามันจะไร้ประโยชน์ เพราะการใบ้ด้วย 1 มานา ถือเป็นการตัดคอมโบอีกฝ่ายได้อย่างคุ้มค่าเลยครับ
Crimson Sigil Runner
ประเภท: มอนสเตอร์ [2/1]
มานาที่ใช้: 1
เอฟเฟค: Outcast จั่วการ์ด 1 ใบ
สรรพคุณใบนี้คงไม่ต้องอธิบายเลยว่ามันคุ้มยังไง ปกติแล้วการจ่าย 1 มานาเพื่อมอนสเตอร์พลังโจมตี 2 ในช่วงต้นเกมก็ถือว่าคุ้มค่ามากพอแล้ว แต่นี่ยังมีลุ้นได้การ์ดเพิ่มมาบนมืออีก เช่นเดียวกันกับ Consume Magic หากได้ใบนี้เป็นใบซ้ายสุดหรือขวาสุดในการจั่วครั้งแรก ควรเก็บไว้เลยล่ะครับ รับรองว่าการมีการ์ดบนมือมากกว่าอีกฝ่ายในช่วงแรก สร้างความได้เปรียบอย่างมหาศาลเลยล่ะ
Blade Dance
ประเภท: เวทมนตร์
มานาที่ใช้: 2
เอฟเฟค: สร้างความเสียหายเท่ากับพลังโจมตีของฮีโร่เรา แก่มอนสเตอร์ฝ่ายตรงข้ามแบบสุ่ม 3 ตัว
บอกเลยว่าใบนี้คือที่สุดของความโกงแล้วล่ะครับ ถือเป็น 1 ในการ์ดที่ “ต้องใส่” ลงไปในเด็คของ Demon Hunter เลยก็ว่าได้ อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าคลาสนี้เป็นคลาสที่เน้นการเสริมพลังโจมตีของฮีโร่ การ์ดนี้นับว่าเป็นการ์ดที่แก้สถานการณ์ กู้ความได้เปรียบกลับมาได้เป็นอย่างดี
ในช่วงต้นเกม Twin Slice ก็เป็นตัวเลือกคอมโบง่ายๆ ในการหยิบมาคอมโบ เพราะใช้เพียง 3 มานา ก็สามารถทำดาเมจได้ถึง 3 หน่วย แก่ยูนิต 3 ตัวของอีกฝ่าย เรียกว่าล้างกระดานเลยก็ว่าได้ เหมาะกับการเคลียมอนสเตอร์ประเภท Taunt สุดๆ เลยล่ะครับ
Chaos Strike
ประเภท: เวทมนตร์
มานาที่ใช้: 2
เอฟเฟค: +2 พลังโจมตีของฮีโร่ ในเทิร์นนี้ และจั่วการ์ดเพิ่ม 1 ใบ
การใช้การ์ดนี้จะค่อนข้างคล้ายกับ Twin Slice แต่จะต่างกันตรงนี้การ์ดใบนี้จะต้องใช้มานาถึง 2 หน่วย เหมาะสำหรับช่วงกลาง – ท้ายเกม แต่หากสถานการณ์ช่วงกลางเกมบีบบังคับจากความเสียเปรียบ การคอมโบกับ Blade Dance ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเช่นกันครับ เพราะยังสามารถเร่งจั่วหาการ์ดเพื่อตั้งเกมได้อีกด้วย
Spectral Sight
ประเภท: เวทมนตร์
มานาที่ใช้: 2
เอฟเฟค: จั่วการ์ด 1 ใบ และ Outcast จั่วเพิ่มอีก 1 ใบ
การ์ดใบนี้จะเรียกว่าจำเป็นก็ไม่เชิง ส่วนตัวคิดว่าเหมาะสำหรับการเร่งจั่วหาการ์ดกลาง-ท้ายเกมอย่างเดียวเลยครับ
Umberwing
ประเภท: อาวุธ [1/2]
มานาที่ใช้: 2
เอฟเฟค: เมื่อใช้งานจะเรียกมอนสเตอร์ Felwings [1/1] 2 ตัว
Altruis the Outcast
ประเภท: มอนสเตอร์ [3/2]
มานาที่ใช้: 3
เอฟเฟค: เมื่อใช้งานการ์ดใบขวาสุดหรือซ้ายสุดบนมือ จะสร้างความเสียหายแก่มอนสเตอร์และฮีโร่อีกฝ่ายทุกตัว 1 หน่วย
มาถึงพระเอกของเราแล้วครับ เรียกได้ว่าเอฟเฟคแบบนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเด็คนี้เลยล่ะครับ ลูกเล่นที่ใส่มาเรื่องลำดับการ์ดบนมือถือว่าเป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ทำออกมาได้น่าสนใจเลยทีเดียว
ความเก่งของการ์ดนี้ที่มักถูกมองข้ามคือ “มันไว้เพิ่มประโยชน์ให้กับการ์ดที่ไม่ใช่ Outcast” และเมื่อใช้การ์ดริมไปแล้ว ก็ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Outcast ใบอื่นด้วยเช่นกัน สมแล้วที่เป็นพระเอกของเด็คนี้เลยล่ะครับ
Eye Beam
ประเภท: เวทมนตร์
มานาที่ใช้: 3
เอฟเฟค: Life Steal ทำดาเมจ 3 หน่วยจากมอนสเตอร์อีกฝ่าย และ Outcast การ์ดใบนี้จะใช้มานาแค่ 1 หน่วย
มีอะไรที่มันจะคุ้มไปกว่าการจ่ายมานา 1 แต่ฮีลเลือดได้ถึง 3 และยังสร้างความเสียหายให้กับศัตรูได้อีก ในส่วนของคอมโบ ผมมองว่าการ์ดใบนี้คุ้มค่าที่จะใช้กับมอนสเตอร์ที่มีพลังโจมตีและเลือดสูงกว่า 3 หน่วยครับ เพราะจะได้ฮีลเลือดเต็มๆ และเลี่ยงการปะทะด้วยฮีโร่ได้ดีมากๆ
Kayn Sunfury
ประเภท: มอนสเตอร์ [3/5]
มานาที่ใช้: 4
เอฟเฟค: Charge และ มอนสเตอร์ทุกตัวในสนามและฮีโร่ของเราสามารถโจมตีทะลุ Taunt ได้
ด้วยที่ว่าเด็คนี้มักจะแพ้ทางพวก Taunt เป็นหลัก เพราะการที่เราต้องเจอกับ Taunt นั่นแปลว่าเราต้องยอมเสียเลือดตัวเองเพื่อโจมตีมอนสเตอร์อีกฝ่าย ซึ่งไม่คุ้มเลย ดังนั้นการ์ดใบนี้เป็นอีกหนึ่งการ์ดหลักที่สำคัญเลยล่ะครับ สมแล้วที่เป็น Legendary โกงมาก
Glaivebound Adept
ประเภท: มอนสเตอร์ [7/4]
มานาที่ใช้: 5
เอฟเฟค: Battle Cry หากฮีโร่ของเราโจมตีในเทิร์นนี้ สร้างความเสียหาย 4 ดาเมจเมื่อเราทำการลงมอนสเตอร์ตัวนี้
บอกเลยว่าในช่วงกลาง-ท้ายเกม การ์ดใบนี้นี่แหละคือฮีโร่ของเรา จริงๆ พลังโจมตี 7 ก็ถือว่าเยอะพอจะโค่นพวกการ์ด 8-10 มานาได้ แต่นี่ยังมีแถมดาเมจอีก 4 นี่ถ้าไม่ตายก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วล่ะครับ
ส่วนใหญ่ใบนี้มักจะถูกใช้ในเทิร์นที่เรามีมานา 6 หน่วย เพราะเราต้องโจมตีก่อน 1 ครั้ง ถึงจะสามารถใช้ประสิทธิภาพของการ์ดใบนี้ได้อย่างเต็มที่ หรือหากใครจะสวมอาวุธไว้ในเทิร์นก่อนหน้าก็ไม่เสียหายครับ
Metamorphosis
ประเภท: เวทมนตร์
มานาที่ใช้: 5
เอฟเฟค: เปลี่ยนสกิลของฮีโร่เราเป็น “สร้างความเสียหาย 5 ดาเมจ” หลังจากใช้ไป 2 เทิร์น จะสลับกลับเป็นสกิลเดิม
ในช่วงกลาง-ท้ายเกมเรามักจะต้องเจอกับมอนสเตอร์ที่มีพลังโจมตีและเลือดสูง หรือยิ่งไปกว่านั้น Taunt เจ้าปัญหา ดังนั้นการ์ดใบนี้จะช่วยเคลียมอนสเตอร์พวกนั้นโดยที่เราไม่ต้องเสียแรงไปปะทะเองครับ หรือหากอยากจะใช้เพื่อปิดเกมใส่ฮีโร่อีกฝ่ายตรงๆ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
Imprisoned Antaen
ประเภท: มอนสเตอร์ [10/6]
มานาที่ใช้: 6
เอฟเฟค: Dormant 2 เทิร์น เมื่อการ์ดใบนี้ตื่นขึ้นจะทำการยิงดาเมจ 10 ดาเมจใส่ฝ่ายตรงข้ามแบบสุ่ม
แม้เอฟเฟคและค่าสถานะจะดูโหดจนเรียกว่าโกง แต่ต้องบอกว่าการ์ดใบนี้ไม่ได้ใช้ง่ายขนาดนั้นครับ เพราะการใช้ 6 มานาจะทำให้เรามีตัวเลือกในการเล่นต่อเทิร์นนั้นน้อยมาก การ์ดใบนี้จะมีประโยชน์ต่อเมื่อเราสามารถตั้งบอร์ดได้แล้วระดับหนึ่ง หรืออย่างน้อยๆ ค่าพลังชีวิตเราไม่ควรลดลงต่ำกว่า 15 ครับ
แต่หากปลุกขึ้นมาสำเร็จแล้ว เชื่อว่าการ์ดใบนี้จะเป็นการ์ดกู้สถานการณ์ที่ดีอีกหนึ่งใบแน่นอน
Priestess of Fury
ประเภท: มอนสเตอร์ [6/7]
มานาที่ใช้: 7
เอฟเฟค: ทุกครั้งที่จบเทริ์นจะทำการยิงดาเมจ 6 ดาเมจใส่ฝ่ายตรงข้ามแบบสุ่ม
คอมโบของการ์ดใบนี้ส่วนตัวผมจะเอามายืนคู่กับ Imprisoned Antaen ครับ โดยจะเน้นลงใบนี้ให้ได้ก่อนเป็นหลัก แล้วค่อยตามด้วย Imprisoned Antaen เพราะทุกครั้งที่จบเทิร์นการ์ดใบนี้จะสามารถทำลายกระดานอีกฝ่ายได้ดีมากๆ จะเรียกว่าล้างกระดานก็ได้ ดังนั้นนอกจากจะสร้างความได้เปรียบอยากมากแล้ว ยังเป็นโอกาสในการให้มอนสเตอร์หลับยาวๆ 2 เทิร์นอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น หากยืนได้ 2 ตัวก็สามารถวางมือและไปทำอย่างอื่นได้เลย เพราะนั่นแปลว่าชัยชนะได้มาถึงแล้ว เพียงแค่กดจบเทิร์นก็ทำดาเมจ 12 ดาเมจไปแบบชิวๆ โกงกว่านี้คงไม่มีแล้วครับ
แนวทางการจัดเด็ค
เท่าที่ลองเล่นดู ผมรู้สึกว่าเด็คนี้จะสามารถจัดได้สองแบบหลักๆ คือ เน้นไปที่การ์ดของ Demon Hunter แทบจะล้วนๆ กับเน้นไปที่การใช้มอนสเตอร์แผ่า Demon ซึ่งก็จัดคอมโบแปลกๆ ได้เหมือนกัน แต่ส่วนตัวแล้วสไตล์การเล่นที่ผมรู้สึกว่า จัดเด็คง่าย สร้างความได้เปรียบได้สบายๆ น่าจะเป็นสาย Tempo Demon Hunter ที่กำลังเป็น Meta อยู่ตอนนี้ครับ
LIST
การ์ดในเด็คนี้ถือว่าหาค่อนข้างง่าย จึงทำให้ไม่เปลืองผงเกลือที่ใช้คราฟ เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกระดับเลยครับ
แนวทางการเล่น
สำหรับเด็คนี้การเล่นคงไม่พ้นการเน้นทำดาเมจตรงๆ กับฮีโร่อีกฝ่ายเพื่อเร่งปิดเกม หรือพยายามตัดตัวตั้งบอร์ดของอีกฝ่ายให้ได้ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่เพราะด้วยพลังโจมตีของเราที่สูงและเอฟเฟคใหม่อย่าง Outcast การเคลียมอนสเตอร์เหล่านี้ไม่น่าใช่ปัญหา ที่ต้องระวังมีเพียงแค่เรื่องการปะทะกับมอนสเตอร์ที่มีค่าพลังโจมตีสูง หากคิดว่าจะเป็นปัญหาก็ให้ใช้การ์ดเวทมนตร์เคลียทิ้งแทนครับ
ช่วงต้นเกม: เราจะเน้นไปที่การฟาร์มการ์ดบนมือ ส่วนตัวผมมักจะเก็บ Second Slice, Blade Dance, และ Chaos Strike ไว้ใช้ช่วงที่อีกฝ่ายกำลังตั้งบอร์ด เพื่อเลี่ยงการปะทะตรงๆ กับมอนสเตอร์ที่มีพลังโจมตีสูง การโจมตีในช่วงนี้อาจจะต้องสลับไปมาระหว่างมอนสเตอร์กับฮีโร่อยู่บ้าง
คีย์แมนของเราในช่วงนี้คงไม่พ้น Crimson Sigil Runner และ Furious Felfin ในการล่อเป้าไม่ให้ศัตรูตีตรงๆ มาที่พลังชีวิตของเราครับ
ช่วงกลางเกม: พยายามหาจังหวะให้ Altruis the Outcast ลงสนามให้ได้ ถ้าเป็นไปได้ให้เก็บการ์ดที่ต้องใช้ค่ามานาต่ำๆ ไว้ตั้งแต่ต้นเกมเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุด เพราะการ์ดใบนี้สามารถใช้เคลียมอนสเตอร์ได้ตั้งแต่ต้น-กลางเกมเลยครับ
ระหว่างนี้เราอาจจะใช้ Second Slice, Blade Dance, และ Chaos Strike ที่เก็บไว้เพื่อเปิดทางให้สุดหล่อของเรานั่นเอง แต่หากไม่ขึ้นมือจริงๆ ก็สามารถใช้ Furious Felfin และ Glaivebound Adept เพื่อยืนค้ำไว้ก็ได้เช่นกันครับ
ช่วงท้ายเกม: ลง Priestess of Fury ให้ได้เร็วที่สุดเพื่อสร้างความได้เปรียบบนบอร์ด จากนั้นพยายามปิดเกมให้เร็วที่สุดโดยเน้นไปที่การโจมตีแต่ฮีโร่ของอีกฝ่ายไปเลย ปล่อยให้หน้าที่การเคลียมอนสเตอร์เป็นของ Priestess of Fury ครับ
แน่นอนว่า Metamorphosis สามารถใช้งานได้ทั้งการ Burst ดาเมจใส่มอนสเตอร์ที่มีค่าพลังโจมตีสูงแต่เลือดน้อย หรือจะกดใช้ใส่ฮีโร่ไปตรงๆ เลยเพื่อบีบการเล่นอีกฝ่ายก็ได้ แต่อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าฮีโร่ของเราคือ Priestess of Fury และ Imprisoned Antaen ที่เอามาเพื่อปิดเกมนั่นเอง
สำหรับการใช้งาน Skull of Gul’dan นั้น ต้องใช้เฉพาะเวลาการ์ดติด Outcast เท่านั้นครับ เพราะเอฟเฟคของมันคือจั่วการ์ด 3 ใบ และ Outcast ลดมานาที่ใช้ของ 3 ใบนั้น 3 หน่วย นั่นแปลว่าในช่วงกลาง-ท้ายเกม ที่เรากำลังตั้งบอร์ดอยู่ หากเราไม่เจอมอนสเตอร์ไม้ตายของเรา เราก็สามารถค้นหามันได้ด้วยใบนี้ และยังมีโอกาสได้ค่าร่ายที่ถูกลงอีกด้วย ส่วนตัวผมเคยค้นเจอ Priestess of Fury 2 ใบติดกัน ทำให้สามารถลงได้ทั้งสองตัวในเทิร์นถัดไปทันที และแน่นอนว่า ล้างกระดานจนเกลี้ยง
สรุปโดยรวม
Demon Hunter เป็นหนุ่งในคลาสที่เรียกได้ว่าโกงที่สุดในเกม ณ เวลานี้แล้วล่ะครับ เพราะด้วยเกมรุกที่ดุดัน เกมรับที่พลิกเกมได้ตลอดทั้งเกม อีกทั้งยังมีเอฟเฟคที่ใช้เคลียบอร์ดได้เป็นอย่างดี แถมมีหลายใบอีก
แต่ทั้งนี้ด้วยเกมรุกที่ดุดัน หากไม่สามารถปิดเกมได้ หรือเผลอปล่อยให้อีกฝ่ายตั้งบอร์ดได้สำเร็จ บอกเลยว่าการกู้สถานการณ์กลับมานั้นเป็นไปได้ยากมากเช่นกันครับ