สวัสดีครับวันนี้เราจะมาเจาะลึกระบบ SubClass ของเกม Destiny 2 สายอาชีพ Titan ทั้งหมดนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ธาตุ ได้แก่ Arc (สายฟ้า) Void (มิติ) และ Solar (ไฟ) โดยทั้ง 3 ธาตุก็จะมี Subclass แยกออกเป็น ธาตุ ละ 3 สกิล รวมเป็น 9 Subclass ในหนึ่งตัวละครให้ผู้เล่นได้เลือกเล่นตามสถานการณ์ได้เลยครับ โดย Subclass ทั้งหมดของสาย Titan จะเป็นยังไงมารับชมกันได้เลยครับ
เริ่มต้นกันที่สายแรก Striker (ผู้บุกตะลุย)
Striker นั่นจะแบ่งออกเป็น 3 สายได้แก่ Code of the Earthshaker (Arc สายบน) Code of the Missile (Arc สายกลาง) และ Code of the Juggernaut (Arc สายล่าง) โดยจุดเด่นของ Titan สาย Arc นั่นสามารถเล่นได้ทั้ง PVP และ PVE โดย PVE จะเน้นไปทางด้านของการเครียร์ Mob ได้อย่างรวดเร็ว และ PVE เป็นสายที่เมื่อกดใช้แล้ว ศัตรูทั้งหมดจะหนีกระเจิง สมชื่อ Striker จริง ๆ โดยรายละเอียดสกิลของ Titan สาย Arc จะเป็นยังไงนั้นเชิญรับชมได้เลยครับ
Code of the Earthshaker (Arc สายบน)
ชื่อสกิล | รายละเอียดสกิล |
Seismic Strike | เมื่อวิ่งเต็มสปีด แล้วกดใช้การโจมตีระยะประชิดจะทำให้ตัวละครพุ่งออกไปต่อยพร้อมกับสร้างอาฟเตอร์ช็อคสายฟ้ารอบตัว |
Aftershocks | เมื่อโจมตีศัตรูด้วยการ Seismic strike วิ่งเต็มสปีดแล้วโจมตีระยะประชิดสำเร็จจะรีชาร์จเกจของระเบิดขึ้นมาเล็กน้อยตามจำนวนมอนเตอร์ที่ได้รับผล |
Magnitude | เพิ่มจำนวนระเบิดที่พกได้อีกหนึ่งลูก พร้อมทั้งเพิ่มระยะเวลาเอฟเฟคของระเบิดขึ้นอีกเล็กน้อย (จากเดิม 3 วิเป็น 4 วิ หรือจาก 6 เป็น 8 ครั้งในระเบิดประเภทPulse Grenade ) |
Terminal Velocity | เมื่อกดใช้ Super ตัวละครจะทำการทุบลงพื้นสร้างอาฟเตอร์ช็อครอบตัว รวมถึงในอากาศด้วย (สร้างความเสียหายจากพื้นสู่อากาศ) |
โดยจุดเด่นของสาย Code of the Earthshake นั่นสามารถเล่นได้ทั้ง PVP และ PVE ด้วยการใช้สกิล Seismic Strike พุ่งชนศัตรู และยังมีสกิล Magnitude ที่ทำให้สามารถพกระเบิดได้มากจขึ้นกว่าปกติ
Code of the Missile (Arc สายกลาง)
ชื่อสกิล | รายละเอียดสกิล |
Ballistic Slam | เมื่อทำการวิ่งเต็มสปีดแล้วกระโดด แล้วกดใช้การโจมตีระยะประชิด จะเป็นการทำให้ตัวละครของเราพุ่งลง Slam ไปทำดาเมจเป็นวงกว้างและสามารถทำความเสียหายเป็นสายฟ้าให้แก่ศัตรูรอบข้าง |
Impact Conversion | ได้รับ Super ได้เร็วขึ้นจากการสังหารศัตรูด้วยการใช้สกิล Ballistic Slam |
Inertia Override | เมื่อเราทำการเก็บกระสุนโดยการกด Slide จะทำการรีโหลดอาวุธที่สวมใส่แล้วเพิ่มดาเมจในการโจมตีจากอาวุธในระยะเวลาสั้นๆ |
Thundercrash | พุ่งตัวกลางอากาศเหมือน Missile แล้วทำการโจมตีศัตรูเป็นวงกว้าง |
โดยจุดเด่นของสาย Code of the Missile (Arc สายกลาง) จะมีจุดเด่นไปในทางด้านของ PVP ครับโดยจะมี Super ที่สามารถแก้ทาง Super ได้แล้วก็ยังมีกสิล Inertia Override ในการเพิ่มดาเมจของปืนเมื่อเรากด Slide เมื่อใช้คอมโบกับ Hand Cannon Perk ดีๆ ก็จะสามารถสังหารศัตรูได้ใน 2 นัด กันเลยทีเดียว
Code of the Juggernaut (Arc ล่าง)
ชื่อสกิล | รายละเอียดสกิล |
Frontal Assault | เมื่อโจมตีด้วยการโจมตีระยะประชิดจะทำการเปลี่ยนกระสุนปืนในมือทันที ใช้ได้กับปืนทุกประเภทพร้อมได้รับบัพคุมปืนง่ายขึ้น (ใช้ได้เมื่อเกจสกิลระยะประชิดเต็ม) |
Reversal | เมื่อสังหารศัตรูด้วยการโจมตีระยะประชิดจะรีเลือดและเกาะทันทีจนกว่าจะเต็ม แต่หากถูกโจมตีการรีเลือดและเกราะจะหยุดทันทีเช่นกัน |
Knockout | หากทำลายเกราะ หรือทำให้ศัตรูอยู่ในสถานะใกล้ตาย ตัวละครจะได้รับบัพเพิ่มระยะและเพิ่มดาเมจการโจมตีระยะประชิด |
Trample | สกิล Super จะอยู่นานขึ้นหากทำการวิ่งเต็มสปีด และการฆ่าหลังจากการวิ่งจะทำให้ได้รับระยะเวลาคงอยู่ของสกิลนานขึ้นเล็กน้อย |
โดยจุดเด่นของสาย Code of the Juggernaut (Arc ล่าง) จะมีจุดเด่นทั้งทางด้าน PVP และ PVE โดย PVE จะเน้นไปทางด้านการโจมตีระยะประชิดใส่ศัตรูที่รุนแรง และ ยังสามารถรีเลือดเพื่อเอาตัวรอดได้อีกด้วย PVP จะเน้นไปทางด้านการกด Super โดย Super ของ Code of the Junggernaut นั้นจะเป็นการพุ่วตัวไปโจมตีศตรูได้อย่างว่องไว และ เมื่อสังหารได้แล้ว Super ก็จะเพิ่มระยะเวลาในการใช้งานมากขึ้น จึงจัดเป็นหนึ่งใน Super ที่น่ากลัวที่สุดอีกหนึ่งสาย
ต่อกันด้วยสาย SunBreaker (ผู้ทำลายดวงอาทิตย์)
Sunbreaker นั่นจะแบ่งออกเป็น 3 สายได้แก่ Code of the Fire-Forged (Solar สายบน) Code of the Devastator (Solar สายกลาง) และ Code of the Siegebreaker(Solar สายล่าง) โดยจุดเด่นของ Titan สาย Solar จะโดดเด่นไปทางด้านของการ PVE แต่ก็ยังมีสายบางสายที่สามารถเล่นไปในด้านของ PVP ได้ครับ โดยรายละเอียดสกิลของ Titan สาย Solar จะเป็นยังไงนั้นเชิญรับชมได้เลยครับ
Code of the Fire-Forged (Solar สายบน)
ชื่อสกิล | รายละเอียดสกิล |
Hammer Strike | เมื่อวิ่งเต็มสปีดจะทำให้เมื่อกดใช้สกิลโจมตีระยะประชิดตัวละครจะพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับใช้ค้อนไฟหวดศัตรู เมื่อศัตรูติดสถานะไฟไหม้จะทำให้ศัตรูอ่อนแอและได้รับดาเมจที่เราและเพื่อนทำเพิ่ม 25 % เป็นเวลา 5 วินาที ใช้ได้กับทุกความเสียหาย รวมทั้งความเสียหายจากอันติด้วย |
Tempered Metal | เมื่อสังหารศัตรูด้วยสกิลระยะประชิด ระเบิด หรืออันติ เราและเพื่อนร่วมทีมจะได้รับบัพเพิ่มความเร็วในการวิ่งและรีโหลดไวขึ้น เป็นเวลา 15 วินาที |
Explosive Pyre | ศัตรูที่ถูกฆ่าด้วย Super จะระเบิดตัวเอง |
Vulcan’s Rage | เมื่อปาค้อนไฟออกไปกระทบเป้าหมายจะเกิดการระเบิดทันทีเมื่อกระทบ สร้างความเสียหายประเภทแรงระเบิด |
โดยจุดเด่นของ Code of the Fire-Forged (Solar สายบน) นั้นจะมีจุดเด่นไปในทางด้านของการเคลียร์ Mob ได้อย่างรวดเร็ว และ ยังมีสกิล Hammer Strike ในการทำดีบัฟให้กับบอส เพื่อทำให้เพื่อนสามารถโจมตีได้อย่างรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถนำเอาสาย Code of the Fire-Forged มาประยุกต์ใช้เพื่อลง PVP ได้อีกด้วย
Code of the Devastator (Solar สายกลาง)
ชื่อสกิล | รายละเอียดสกิล |
Throwing Hammer | เมื่อกดการโจมตีระยะประชิดจะเป็นการปาค้อนออกไปทำความเสียหายแก่ศัตรู และ ยังสามารถไปเก็บค้อนที่ตกเพื่อที่จะทำการรีชาจร์สกิลได้ทันที |
Tireless Warrior | เมื่อสังหารศัตรูด้วยการใช้สกิลที่เกี่ยวกับ Solar จะทำการ Stacks เพิ่มาดาเมจ และ สามารถ Stack ได้สูงสุด 3 ครั้ง |
Roaring Flames | เมื่อทำการโจมตีศัตรูโดนด้วย Throwing Hammer แล้วเดินไปเก็บค้อนก็จะสามารถรีเลือดได้ |
Burning Maul | เรียกค้อนออกมาเมื่อทำการโจมตีศัตรู เมื่อกดการโจมตีหนักจะเป็นการฟาดค้อนลงไปที่พื้นแล้วทำความเสียหายเป็นทางตรง และ ยังสามารถทำความเสียหายจากไฟได้เรื่อย ๆ |
โดยจุดเด่นของสาย Code of the Devastator นั้นจะเน้นไปในทางด้านของ PVE ครับโดยการกดใช้ Super เพื่อทำดาเมจใส่ศัตรูได้อย่างต่อเนื่องอีกทั้งยังสามารถเก็บ Stacks ทำให้ดาเมจนั้นคูณ 3 ได้อีกด้วย
Code of the Siegebreaker(Solar สายล่าง)
ชื่อสกิล | รายละเอียดสกิล |
Mortar Blast | การโจมตีระยะประชิดจะทำให้เกิดการระเบิด และ ยังสามารถทำให้ศัตรูรอบข้างติดสถานะ Burn |
Sol Invictus | เมื่อใช้ ability สังหารศัตรู จะทำให้ได้เลือดคืน เมื่อใช้ การโจมตีระยะประชิด และ ระเบิด ในการสังหารศัตรูมีโอกาศสร้าง Sunspot ลงบนพื้น |
Sun Warrior | เมื่อสังหารศัตรูด้วยสกิลสาย Solar จะทำการรีเลือดและเกราะทันที 20 % คูดาวน์ประมาณ 1 นาที |
Endless Siege | เมื่อกดใช้ Super จุดที่กดใช้จะเกิดวงแหวนแห่งไฟขึ้นที่ใต้เท้าตัวละคร เมื่อยืนอยู่ในวงแหวนแห่งไฟตัวละครจะปาค้อนไวขึ้น 25% |
โดยจุดเด่นของสาย Code of the Siegebreaker (Solar สายล่าง) จะเป็นสายที่จะเก่งไปทางด้าน PVE ครับโดยการฆ่าศัตรูด้วยการใช้สกิลของตัวละคร และ ยังมีสกิลที่ทำให้รีเลือดเพื่อช่วยในการเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดี
ต่อกันด้วยสาย Sentinel (ผู้ปกปักรักษา)
Sentinel นั่นจะแบ่งออกเป็น 3 สายได้แก่ Code of the Protector (Void สายบน) Code of the Commander (Void สายกลาง) และ Code of the Aggressor (Void สายล่าง) โดยจุดเด่นของ Titan สาย Void จะโดดเด่นไปทางด้านของการ PVP และ PVE โดย PVE จะมีสายที่มีประโยชน์มากโดยการกางโล่เพื่อเพิ่มเลือดและเกราะให้เพื่อนได้อย่างรวดเร็ว โดยรายละเอียดสกิลของ Titan สาย Void จะเป็นยังไงนั้นเชิญรับชมได้เลยครับ
Code of the Protector (Void สายบน)
ชื่อสกิล | รายละเอียดสกิล |
Defensive Strike | เมื่อฆ่าศัตรูด้วยการโจมตีระยะประชิด(ต่อย) จะทำการสร้างเกราะป้องกันหลอดสีฟ้าให้กับตัวเองและเพื่อนร่วมทีม (จะทำงานเมื่อหลอดสกิลระยะประชิดเต็ม) เกราะป้องกันจะรับดาเมจแทนเกราะและเลือดของเราในระยะเวลาสั้น ๆ |
Rallying Force | เมื่อฆ่าศัตรูด้วยการโจมตีระยะประชิด จะทำการรีเจนเลือดกับเกราะของเราและเพื่อน (สกิลมีระยะเวลาคูดาวน์ซ่อนไว้จะทำงานได้อีกครั้งประมาณ 30 วินาที การรีเจนสามารถถูกขัดจังหวะได้จากการถูกโจมตี) |
Turn the Tide | เมื่ออยู่ในสถานะโล่ป้องกันจากการทำงานของสกิล Defensive Strike โล่ป้องกันของสกิลจะอยู่ได้นานขึ้น พร้อมได้รับบัพเพิ่มดาเมจการโจมตีระยะประชิด อัตราการเปลี่ยนกระสุนที่ไวขึ้น ระยะเวลาคงอยู่ของบัพ 20 วินาที |
Ward of Dawn | เมื่อเกจ Super เต็มหากทำการกดปุ่ม Super ค้างไว้จะสร้างโล่แบบโดมขึ้นป้องกันรอบตัวผู้ใช้ เป็นการป้องกันเต็มรูปแบบ ไม่สามารถยิงเข้าไปหรือยิงออกมาจากด้านในได้ |
โดยจุดเด่นของสาย Code of the Protector จะเน้นไปในทางด้าน PVE โดยจะเป็นการ Support เพื่อนรวมทีมได้เป็นอย่างดีจากสกิลการโจมตีระยะใกล้ของ Titan เพื่อทำการรีเจนเลือด และ เกราะ ให้กับเพื่อนรวมทีม
Code of the Commander (Void สายกลาง)
ชื่อสกิล | รายละเอียดสกิล |
Controlled Demolition | เมื่อโจมตีศัตรูด้วยธาตุ Void จะทำการแนบระเบิดไว้กับศัตรู และ การโจมตีครั้งต่อไปจะสามารถทำให้เกิดระเบิด และ สร้างความเสียหายให้กับศัตรูโดยรอบ |
Resupply | เพื่อนจะได้รับการ รีเจนเลือด และ สกิลเมื่อเราทำการใช้สกิล Controlled Demolition ได้สำเร็จ |
Tactical Strike | โจมตีศัตรูด้วยการโจมตีระยะประชิด และ ระเบิดศัตรูด้วยธาตุ Void |
Banner Shield | กด Super เพื่อเรียกโล่ออกมาปกป้องเพื่อนรวมทีมโดยการกดคลิกขวา เพื่อ เป็นการเปิดโล่ป้องกันดาเมจจากด้านหน้า และ เมื่อเพื่อนโจมตีผ่านโล่ของเราจะเป็นการเพิ่มดาเมจให้กับเพื่อนรวมทีมไปด้วย และ ยังสามารถใช้ได้นานขึ้นหากมีเพื่อนรวมทีมอยู่ใกล้บริเวณที่เราทำการปกป้อง |
โดยจุดเด่นของ Code of the Commander (Void สายกลาง) นั่นก็จะยังเน้นไปในทางด้านของการ Support เพื่อนโดยการกด Super เพื่อนที่จะทำให้เพื่อนรวมทีมนั้นสร้างความเสียหายให้กับศัตรูได้มากยิ่งขึ้น
Code of the Aggressor (Void สายล่าง)
ชื่อสกิล | รายละเอียดสกิล |
Shield Bash | เมื่อวิ่งด้วยความเร็วเต็มสปีด ทันที่ที่กดปุ่มโจมตีระยะประชิดตัวละครจะเรียกโล่ขึ้นมาป้องกันพร้อมกับพุ่งออกไปด้านหน้าพร้อมกับโจมตีศัตรูที่อยู่ด้านหน้าทันที |
Superior Arsenal | เมื่อสังหารศัตรูด้วยระเบิดจะทำให้เกจรีชาร์จระเบิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย |
In the Trenches | เมื่อสังหารศัตรูระหว่างอยู่ในวงล้อมของศัตรูจะทำให้ได้รับค่าเกจ Super ไวขึ้นเล็กน้อย |
Second Shield | เมื่อใช้ Super จะสามารถปาโล่ได้สองครั้ง โดยปรกติจะสามารถกดปาระเบิดเพื่อขว้างโล่ได้หนึ่งครั้ง ทั้งสองสาย แต่เมื่อมีสกิลนี้สายล่างจะปาโล่ได้สองครั้ง |
โดยจุดเด่นของสาย Code of the Aggressor (Void สายล่าง) นั้นจะโดดเด่นไปในทางด้านของ PVP เนื่องจากมีสกิล Second Shield ซึ่งทำให้สามารถปาโล่ออกได้ถึงสองครั้ง โดยการปาโล่นั้นเราอาจจะสังหารศัตรูได้จากระยะไกล และ จะทำให้ทีมของเราได้เปรียบมากขึ้น
ตอนนี้ก็จบบทความของ รายระเอียดสกิล Subclass ของทั้งสาม Class เป็นที่เรียบร้อยนะครับ และ หวังว่าข้อมูลตัวละคร และ รายละเอียดทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ให้เพื่อน ๆ ผู้อ่านนะครับ โดยส่วนตัวนั่นผมมองว่า Titan เป็นอีกหนึ่งใน สาม Class ที่ค่อนข้างดุดันในเรื่องของ PVP เป็นอย่างมาก ครับ และ เนื่องจาก Shadow keep เข้ามาจึงมีการปรับเปลี่ยนสกิลหลายอย่างมากขึ้น ผมคิดว่า Titan สาย Code of the Protector น่าจะมีบทบาทในการลง Raid มากขึ้นครับ ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านแล้วติดตามผลงานของผมนะครับ