หนึ่งในไอเทมสำคัญของ Diablo Immortal ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้เราได้ดีไม่แพ้ของสวมใส่เลยก็คือ Legendary Gem นั่นเองครับ แต่ภายในเกมนี้มันก็มีให้เราเลือกใช้กว่า 30 แบบเลยเนี่ยสิแล้วถ้าอย่างนั้นเราควรใช้อัญมณีตัวไหนดีล่ะ? ในวันนี้ผมเลยจะมาแนะนำในบทความของ “รวมรายการ Lgendary Gems น่าใช้” มาดูกันดีกว่าว่า Gem ตัวไหนน่าใช้กันบ้างแล้วเพราะอะไรกัน
Diablo Immortal Legendary Gems มีกี่ขั้นและหาจากไหนได้บ้าง?
สำหรับ Legendary Gems ภายในเกมนี้จะมีการแบ่งออกเป็น 3 ระดับตามดาวด้วยกันครับ โดยจะมี 1, 2 และ 5 ดาว โดยจะเป็นอัญมณีที่นำเอาไว้ใส่กับอุปกรณ์สวมใส่ของตัวละครเพื่อเพิ่มเอฟเฟ็กต์และความสามารถ ยิ่งระดับดาวสูงขึ้นเอฟเฟ็กต์ยิ่งและสเตตัสดีขึ้นเท่านั้น ซึ่งเมื่อได้มาแล้วเราก็ต้องคอยนำไปตีบวกเฉกเช่นเดียวกับอุปกรณ์เลย
ส่วนวิธีการหา Legendary Gems นั้นปัจจุบันทำได้ด้วย 4 วิธีด้วยกันคือ:
1.ใช้ Legendary Crest เพื่อลง Elder Rift เพื่อลุ้นรับเป็นของรางวัล
2.ของรางวัลจากกิจกรรมต่างๆ เช่น Battle Pass
3.คราฟได้บางประเภทแล้วสุ่มหาได้จาก NPC
4.ซื้อได้เกือบทั้งหมดภายใน Marketplace โดยใช้ Platinum
ซึ่งวิธีสุดท้ายจากการซื้อในตลาดนั้นนับว่าเป็นวิธีที่ง่ายสุดแล้วก็ว่าได้ เพราะเราจะหา Legendary Gems ได้เกือบครบทุกประเภทเลยทีเดียว เพียงแต่ราคามันค่อนข้างขูดเลือดขูดเนื้อพอสมควร ดังนั้นถ้าคุณเป็นผู้เล่นสายฟรีหรือมีทุนไม่เยอะอาจต้องไปพึ่งในส่วนการทำอีเวนท์และคอนเทนต์อื่นๆ แทนนั่นเองครับ
เอาล่ะทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า Legendary Gems เม็ดไหนที่น่าใช้กันบ้าง โดยผมจะแยกให้ไปตามระดับดาวเลย
Legendary Gems น่าใช้ในระดับ 5 ดาว
Blood-Soaked Jade (Tier S)
หนึ่งในอัญมณีที่น่าหามาใช้ที่สุดในเกมเลยก็ว่าได้ครับ โดยความสามารถของอัญมณีชิ้นนี้คือ “เพิ่มความเสียหายที่ทำได้ทั้งหมด 8%” และ “เพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ 10%” เป็นหนึ่งในของโกงประจำเกมเลยก็ว่าได้ แต่มันก็มีข้อเสียแค่ว่าต้องคอยรักษาค่า HP ไว้ให้เต็มอยู่ตลอด เพราะถ้าเลือดเราเหลือน้อยโบนัสจะลดลงตามน่ะเอง
Seeping Bile (Tier S)
อีกหนึ่งไอเทมสายดาเมจน่าสนใจ โดยความสามารถของอัญมณีนี้คือ “มีโอกาส 4% ที่โจมตีแล้วจะทำให้ศัตรูติดพิษ (25% จากดาเมจ + 263) ทุกวินาทีจนกว่าจะครบ 6 วินาที” แถมคูลดาวน์ก็ยังไม่นานเลยด้วยเพียง 20 วิเท่านั้นเอง มันเลยทำให้เวลาอีกฝ่ายติดพิษขึ้นมาเลือดจะหายไปค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งของที่ควรมีติดไว้ใช้มากเลยล่ะ
Blessing of the Worthy (Tier A)
อัญมณีชิ้นนี้นั้นเป็นไอเทมเฉพาะทางที่เหมาะสำหรับตัวแทงค์อย่าง Barbarian หรือ Crusader ครับ โดยความสามารถก็คือ “เมื่อโดนโจมตีจะมีโอกาส 20% ที่จะระเบิดความเสียหายใส่ศัตรูโดยรอบ ทำดาเมจ 12% จากค่าพลังชีวิตสูงสุด” ความสามารถก็จัดว่าเอาเรื่องอยู่พอตัวเลยแต่เนื่องจากค่อนข้างเฉพาะทางเกินไปเลยถูกจัดให้อยู่แค่แรงค์ A เท่านั้น
Chip of Stoned Flesh (Tier A)
หนึ่งในอัญมณีสายดาเมจอีกอันที่น่ากลัวไม่แพ้กันเลย โดยความสามารถคือ “เมื่อทำให้ศัตรูหลุดการควบคุม (สตันหรือ CC บางอย่าง) จะทำให้พวกเขาติดคำสาป และทำให้ได้รับดาเมจ 45% เพิ่มเติมจากความเสียหายที่ได้รับ” หรือง่ายๆ ก็คือทำให้ศัตรูเหมือนติดระเบิดนั่นล่ะครับ พอเวลาหมดก็ทำดาเมจเพิ่มเติมอีกต่อเกือบครึ่งนึงจากที่โดนในช่วงนั้น ซึ่งมันก็ดูดีใช้ได้แต่ดาเมจค่อนข้างน้อยกว่าหากเทียบกับพิษของ Seeping Bile จึงทำให้ของชิ้นนี้เด้งมาอยู่ในเทียร์ A แทน
Phoenix Ashes (Tier B)
ถ้าให้นิยามสำหรับอัญมณีนี้ตรงๆ ก็คือ “กันตาย” ครับ “เมื่อได้รับความเสียหายถึงตายจะทำการสร้างโล่ขึ้นมา 6 วินาที ที่ดูดซับดาเมจกว่า 450% จากพลังโจมตีของตัวเรา” ซึ่งเป็นหนึ่งในของที่ไว้ช่วยชีวิตค่อนข้างเวิร์คเลยแต่ก็มีข้อเสียคือคูลดาวน์นานใช้ได้กว่า 3 นาทีเลยทีเดียว
Howler’s Call (Tier B)
หนึ่งในอัญมณีที่เหมาะกับสายที่ใช้การโจมตีปกติเพื่อทำดาเมจ โดยมีความสามารถคือ “การโจมตีปกติมีโอกาส 10% ที่จะเรียกวิญญาณหมาป่าออกมาเพื่อพุ่งชนศัตรูเป็นเส้นตรง (ทำดาเมจ 150% จากค่าพลังโจมตี + 1,458)” ซึ่งถ้าหากเรามองจากดาเมจมันก็จัดว่าแรงใช้ได้เลยล่ะ แต่ข้อเสียคือมันทำงานเฉพาะการโจมตีปกติเท่านั้น ทำให้ถ้าเป็นคลาสที่เน้นสกิลเป็นหลักไอเทมนี้จะแทบไม่มีความหมายเลยนั่นเอง
Echoing Shade (Tier C)
อัญมณีนี้มีสกิลที่ทำให้ “การโจมตีของเรามีโอกาส 15% ที่จะสร้างร่างโคลนของเราออกมาเป็นเวลา 8 วินาที พร้อมความสามารถบางอย่าง” ถ้าอ่านช่วงท่อนแรกก็นับว่าน่าสนใจใช้ได้อยู่ เพียงแต่ในท่อนหลังที่มีการระบุไว้ว่า “ความสามารถบางอย่าง” มันเลยทำให้ร่างโคลนที่ออกมาไม่เก่งเท่าที่ควรนัก แต่ก็ยังพอใช้งานได้บ้างล่ะนะ
Legendary Gems น่าใช้ในระดับ 2 ดาว
Power & Command (Tier S)
หนึ่งในอัญมณีที่ดีสุดแล้วสำหรับ 2 ดาวก็ว่าได้ โดยมีความสามารถคือ “ทำการสลับโหมดระหว่าง Power เพิ่มพลังโจมตีปกติ 8% และ Command เพิ่มพลังโจมตีสกิล 8% ในทุก 9 วินาที” เป็นอัญมณีที่เพิ่มพลังโจมตีที่ใช้ได้กับทุกคลาสเลยเพราะมีการสลับสุ่มทั้งโจมตีปกติและสกิลนั่นเอง ยิ่งถ้าเป็นสายที่เน้นทำดาเมจทั้งสองอย่างนี้ยิ่งเห็นผลชัดเจนเข้าไปอีก
Fervent Fang (Tier S)
หนึ่งในอัญมณีเพียงไม่กี่ก้อนที่เราไม่สามารถหาซื้อได้จากภายใน Marketplace ครับ แต่ถึงอย่างนั้นความสามารถของมันก็นับว่าดีมากทีเดียว “ทุกครั้งที่โจมตีโดนศัตรูจะทำให้เป้าหมายได้รับความเสียหายจากตัวเราเพิ่มขึ้น 0.75% ต่อครั้ง สูงสุดที่ 7.5% หรือซ้อนทับ 10 ครั้ง” ส่วนข้อเสียก็คืออัญมณีเม็ดนี้หายากครับ อย่างที่บอกว่าเป็นเพียงไม่กี่ก้อนที่หาซื้อจากร้านไม่ได้ทำให้กว่าจะได้มาก็ค่อนข้างยุ่งยากพอตัวเลย
Cutthroat’s Grin (Tier A)
ตามชื่อไอเทมเลยครับอัญมณีชิ้นนี้ไว้สำหรับสายแนวมือสังหารต่างๆ ที่มากับความสามารถ “เพิ่มอัตราการติดคริติคอล 8% เมื่อทำการโจมตีจากด้านหลัง” เป็นหนึ่งในของที่เหล่าสายดาเมจต่างๆ ควรมีเพราะใช้ได้ทั้งกับคอนเทนต์ PVE และ PVP เลยด้วย ส่วนข้อเสียก็คงเป็นใช้กับพวกตัวชนแนวหน้าอย่าง Barbarian หรือ Crusader ไม่ได้น่ะเองเลยทำให้ต้องมาอยู่เทียร์ A แทน
Lightning Core (Tier A)
หนึ่งในอัญมณีที่เราจะได้รับมาแบบฟรีๆ จากบทการฝึกสอนซึ่งถึงแม้จะเป็นของฟรีแต่มันก็จัดว่าเป็นของที่ดีพอตัวเลยล่ะ “เมื่อทำการโจมตีปกติจะเป็นการชาร์จไฟฟ้าขึ้นมาทีละนิด เมื่อชาร์จเต็มการโจมตีปกติในครั้งถัดไปจะปล่อยสายฟ้าเพื่อทำดาเมจใส่ศัตรูโดยรอบ (90% จากค่าพลังโจมตี + 1,134)” เป็นหนึ่งในของที่ใช้เคลียร์มอนและทำดาเมจได้ดีมากทีเดียว แต่เงื่อนไขคือต้องมาจากการโจมตีปกติเท่านั้นมันเลยไม่เหมาะกับสายสกิลเท่าไหร่นัก
The Hunger (Tier B)
ความสามารถของชิ้นนี้คือ “ฟื้นฟูค่าพลังชีวิต 40% จากค่าพลังโจมตี + 567 เมื่อทำการสังหารศัตรูลงได้” ซึ่งอ่านทีแรกมันก็ดูเป็นของที่โกงใช้ได้เลยนิ แต่ถ้าเราอ่านมาถึงช่วงหลังหรือข้อเสียก็คือ “ทำงานทุก 20 วินาที” มันเลยทำให้อัญมณีนี้ดูอ่อนลงไปทันทีเลยเพราะมันจะเห็นชัดได้ก็ต่อเมื่อเราใช้สกิลหมู่ที่จัดการมอนทีเดียวได้หลายตัว ไม่อย่างนั้นเจอคูลดาวน์นานขนาดนี้แล้วจัดการได้ทีละไม่กี่ตัวไอที่ฟื้้นฟูมาก็แทบไม่เห็นผลเลยนะ
Battleguard (Tier B)
อีกหนึ่งอัญมณีที่เหมาะสำหรับสายตัวชนแนวหน้าหรือสายแทงค์ต่างๆ กับความสามารถ “ลดความเสียหายที่ได้รับการโจมตีระยะประชิดลง 8% ในระยะรอบตัว” ตามคำอธิบายเลยครับเอาไว้เพิ่มพลังป้องกันหรือการเอาตัวรอดเสียมากกว่า มันเลยทำให้มีข้อเสียคือไม่ค่อยมีประโยชน์หากคลาสที่ใช้นั้นเป็นสายระยะไกลที่ไม่ต้องเข้าไปคลุกวงใน แต่ถ้าคุณเป็นสายคลุกวงในนี่ก็นับว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีมากทีเดียว
Bloody Reach (Tier B)
ถ้าอัญมณีก่อนหน้านี้เหมาะสำหรับสายคลุกวงใน เม็ดนี้ก็เหมาะสำหรับเหล่าสายหรอยระยะไกลนั่นล่ะครับ “เพิ่มความเสียหายที่ทำได้แก่ศัตรู 2% ทุก 2 หลา สูงสุดที่ 8% หรือ 8 หลา” ความน่าสนใจอยู่ตรงที่มันมีผลทั้งหมดไม่ว่าจะการโจมตีปกติหรือสกิลก็ตามที ส่วนข้อเสียก็คือมันใช้ได้เฉพาะบางคลาสเท่านั้นเพราะถ้าเป็นระยะประชิดมันจะไร้ผลทันทีน่ะเอง
Unity Crystal (Tier C)
หากคุณเป็นสายโซโล่เน้นลุยเดี่ยวก็ขอให้ข้ามอัญมณีเม็ดนี้ไปได้เลยครับ เพราะมันจะมีผลก็ต่อเมื่อเรามีปาร์ตี้เท่านั้นกับความสามารถ “ลดความเสียหายที่ได้รับลงทั้งปาร์ตี้ 0.5% ต่อจำนวนสมาชิกในปาร์ตี้” ตามที่ระบุไว้เลยครับจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเราไปเป็นปาร์ตี้อย่างเวลาลงดันหรือลงเรดเป็นต้น ทำให้เวลานำไปใช้ตาม Open World หรือผจญภัยมันแทบจะไม่มีความหมายเลย แต่ถ้าคุณมีเพื่อนหรือลงดันบ่อยเกมพกของชิ้นนี้ไว้ก็ไม่เสียหายแต่อย่างใด
Legendary Gems น่าใช้ในระดับ 1 ดาว
Everlasting Torment (Tier S)
อัญมณีที่ช่วยเพิ่มดาเมจให้ได้อย่างมากเลยหากคุณเป็นคลาสที่เน้นการโจมตีแบบคริติคอลเป็นหลัก โดยความสามารถก็คือ “เมื่อทำดาเมจแบบคริติคอลจะทำให้ศัตรูเลือดออก สร้างความเสียหาย 10% จากค่าพลังโจมตี + 122 ทุกวินาทีจนกว่าจะครบ 6 วินาที” ส่วนข้อเสียก็คือเรื่องคูลดาวน์กว่า 20 วินาทีเลยทีเดียว เป็นหนึ่งในของที่ใช้ดีมากช่วงต้นเกม
Berserker’s Eye (Tier S)
อัญมณีสำหรับสายดาเมจที่น่าสนใจและใช้ได้ค่อนข้างดีเลยในช่วงต้นเกมอีกหนึ่งเม็ด “เพิ่มความเสียหายที่ทำได้ทั้งหมด 5.50% แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความเสียหายที่ได้รับ 5%” ส่วนข้อเสียก็คือมันเหมือนดาบสองคมเพราะถึงแม้จะมีการเพิ่มความเสียหายที่เราทำได้แต่มันก็ทำให้เราโดนดาเมจแรงขึ้นด้วยเช่นกัน
Chained Death (Tier A)
อีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มดาเมจที่ใช้ได้ดีช่วงต้นเกมเช่นกับกับความสามารถ “เพิ่มความเสียหายที่ทำได้ 1.5% ต่อเป้าหมาย สูงสุดที่ 4.5% ต่อเป้าหมาย 3 ตัว”
การเพิ่มความเสียหายที่ระบุนี้คือส่งผลทั้งหมดเลยครับทั้งโจมตีธรรมดาและสกิลเลย ส่วนข้อเสียก็คงเป็นมันมีผลแค่เป้าหมาย 3 ตัวเท่านั้นที่จะโดนแรงขึ้นอาจต้องรอให้เป้าหมายทั้งสามตายก่อนจึงจะไปมีผลกับตัวอื่นต่อได้น่ะเอง
Ca’ Arsen’s Invigoration (Tier A)
มากับความสามารถ “เพิ่มความเร็วโจมตีปกติ 5.5%” ซึ่งก็นับว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่แย่ทีเดียวหากยังหาพวกระดับ 2 หรือ 5 ดาวมาใช้ยังไม่ได้ ส่วนข้อเสียที่พอจะเห็นชัดจากของชิ้นนี้ก็คงเป็น “ค่าโบนัสที่เพิ่มให้น้อย” ถ้าเทียบกับอัญมณีในระดับสูงกว่า แถมด้วยการที่มันเพิ่มเฉพาะการโจมตีปกติทำให้พวกสายสกิลหรือซัมม่อนจะได้ประโยชน์น้อยมากเลย
Zod Stone (Tier B)
มีเพียงของหรืออัญมณีไม่กี่ชิ้นเท่านั้นเองที่ช่วยเพิ่มความสามารถเกี่ยวกับท่าไม้ตายได้ โดย Zod Stone เองก็เป็นหนึ่งในนั้นกับความสามารถ “เพิ่มระยะเวลาของท่าไม้ตาย 16%” ด้วยว่าสกิลไม้ตายหลายท่าในเกมนี้มักมากับบัฟหรือบูสสเตตัสต่างๆ อัญมณีเม็ดนี้ก็ช่วยยืดระยะเวลาเหล่านั้นออกไปด้วย ส่วนข้อเสียก็คือ “โบนัสสเตตัส” เนื่องจากมีระดับเพียง 1 ดาวเท่านั้นทำให้ค่าสเตตัสที่พ่วงมามันน้อยมากและไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่เมื่อใช้ในระยะยาว
The Black Rose (Tier B)
อาจไม่ใช่ตัวช่วยเรื่องดาเมจหรือพลังป้องกันก็จริงแต่ Black Rose นี้ก็นับว่าเป็นของที่ใช้ได้ดีอีกชิ้นเช่นกันกับความสามารถ “ทุกครั้งที่โจมตีศัตรูมีโอกาส 10% ที่จะเรียกเถาวัลย์ออกมาตรึงศัตรูไว้กับที่เป็นเวลา 1.1 วินาที” เอาไว้ใช้สำหรับกันศัตรูไม่ให้เข้าถึงตัวเราก็ได้ หรือจะไว้ใช้กันไม่ให้ศัตรูหนีก็ได้เช่นกัน ส่วนข้อเสียก็คงเป็นเรื่องคูลดาวน์ที่กินเวลากว่า 20 วินาทีนั่นล่ะครับ
Respite Stone (Tier B)
อัญมณีสำหรับเพิ่มการเอาตัวรอดที่ใช้ได้ค่อนข้างดีสำหรับต้นเกมอีกชิ้นหนึ่ง กับความสามารถ “ลดดาเมจที่ได้รับทั้งหมดลง 0.55% ต่อค่าพลังชีวิต 10% ที่เสียไปและลดได้มากสุดที่ 5.5%” มันอาจดูไม่ได้หวือเหวาเท่าไหร่นักถ้าเทียบกับพวกของดีในระดับ 2 หรือ 5 ดาว แต่เพิ่มพลังป้องกันขนาดนี้ในระดับ 1 ดาวนี่ก็นับว่าไม่แย่แล้วนะ
Pain of Subjugation (Tier C)
หนึ่งในของที่มีเงื่อนไขการใช้ค่อนข้างยุ่งยากสักหน่อย “เพิ่มความเสียหายที่ทำได้ 5.5% ใส่ศัตรูที่หลุดสถานะการควบคุมตัวเอง” ซึ่งสถานะการควบคุมที่ว่าภายในเกมนี้มันก็ไม่ได้มีเยอะเท่าไหร่นัก ทำให้เอฟเฟ็กต์นี้จะแสดงผลได้ก็ค่อนข้างยากสักนิด แต่ถ้าเกิดทำติดได้อัญมณีอันนี้ก็บูสดาเมจให้ได้ดีระดับนึงเลยล่ะนะ
Defiant Soul (Tier C)
อีกหนึ่งอัญมณีที่มีเงื่อนไขการใช้ยากไม่แพ้กันเลย “ทุกครั้งที่บล็อคการโจมตีได้จะทำดาเมจ 64% จากค่าพลังโจมตี + 777 ใส่เป้าหมายโดยรอบ” ซึ่งดาเมจที่ทำออกมาได้ถึงแม้จะแรงก็จริง แต่การบล็อคเนี่ยมีเพียงไม่กี่คลาสกี่สกิลที่ทำได้น่ะเอง มันเลยจัดให้ไอเทมชิ้นนี้ค่อนข้างเฉพาะทางพอสมควรเลยล่ะ
Nightmare Wreath (Tier C)
หากกำลังมองหาอัญมณีที่เอาไว้ก่อกวนก็ต้องเป็นของชิ้นนี้เลยครับ Nightmare Wreath “ทุกครั้งที่กำจัดศัตรูได้มีโอกาส 10% ที่จะทำให้ศัตรูโดยรอบติดสถานะกลัวเป็นเวลา 0.8 วินาที” เป็นหนึ่งในของก่อกวนที่น่าสนใจ เพียงแต่มีข้อเสียคือมันใช้ได้เฉพาะเวลาเรากำจัดมอนได้นั่นเอง มันเลยทำให้ของชิ้นนี้ใช้ในคอนเทนต์สำคัญๆ ไม่ค่อยได้เท่าไหร่ยิ่งเวลาสู้บอสหรือ PVP ยิ่งไม่ต้องคิดเลย แต่ถ้าเกิดหวังเอาฮาเอาสนุกของชิ้นนีก็ใช้ได้เลยนะ
Mocking Laughter (Tier C)
หนึ่งในรายการอัญมณีที่เหล่าตัวแทงค์ควรพกไว้ใช้กันอย่างมากในช่วงต้นเกมเลยที่มาพร้อม “การโจมตีปกติจะทำให้มอนสเตอร์ระดับทั่วไปหันมาโจมตีคุณเป็นเวลา 2 วินาที” ง่ายๆ มันก็คือของเอาไว้สำหรับดึงมอนนั่นล่ะครับ ข้อเสียก็คือมันใช้ได้เฉพาะกับมอนทั่วไป พวกมอน Elite หรือบอสจะไม่มีผลถ้าเกิดสามารถดึงได้ก็คงต้องเลื่อนให้ไปอยู่เทียร์ S แล้วล่ะครับ แต่ไม่ได้ก็อยู่ C ไปแทนแล้วกัน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ Legendary Gem ใน Diablo Immortal ที่มีอยู่มากมาย แน่นอนมันก็มีทั้งดีทั้งยุ่งยากปะปนกันไป การเลือกให้ตรงกับสายที่เราจะเล่นจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างสำคัญมาก ก็หวังว่าตัวบทความนี้จะช่วยเหลือเพื่อนๆ ในการเล่นได้ไม่มากก็น้อยครับ