ตัวดันเจี้ยน “Crocodile’s Lair” ที่ดันเจี้ยนประเภท Lair ลำดับที่ 3 ภายในเกม Dragon Nest 2: Evolution จะเปิดให้เราเข้าไปเล่นได้ตอนเลเวลตัวละครถึง 54 โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำแนวทางผ่านบอสแต่ละห้องกันว่า บอสแต่ละนั้นมีแมคคานิคอะไรบ้าง และต้องทำยังไงถึงจะสามารถเล่นผ่านได้แบบสบาย หากพร้อมแล้วก็มาดูกันได้เลย!
Table of contents
การจัดปาร์ตี้ & ค่าพลังแนะนำ Crocodile’s Lair
ก่อนที่จะไปเริ่มลงดันเจี้ยนเรามาดูการจัดปาร์ตี้กันก่อน โดยการปาร์ตี้เพื่อลงดันเจี้ยน Lair นี้นั้นเราควรจัดปาร์ตี้แบบ 1 Sage (แทงค์), 1, Priest (พระ) และ 2 DPS (ตัวดาเมจ) อาชีพอะไรก็ได้ ซึ่งข้อดีของการจัดปาร์ตี้แบบนี้คือ ตัวดาเมจจะสามารถยืนทำดาเมจได้อย่างสบายเพราะว่ามีแทงค์คอยลากให้ และมีพระคอยฮีลเลือดเพื่อนทุกคนในปาร์ตี้
สำหรับคนที่มีของเยอะแล้วก็จะสามารถจัดปาร์ตี้แบบ 1 Sage หรือ 1 Priest พร้อมกับ 3 DPS อาชีพอะไรก็ได้ เพื่อเร่งความเร็วในการจบดันเจี้ยนให้จบเร็วยิ่งขึ้น
ต่อมาเรื่องของค่าพลังที่เหมาะสมสำหรับการลงดันเจี้ยนนี้ ทุกคนในปาร์ตี้ควรมีค่าพลังขั้นต่ำประมาณ 50,000 เพื่อที่จะสามารถจบดันเจี้ยนได้ภายในเวลา 30 นาที ซึ่งเราจะสามารถเพิ่มค่าพลังได้จากการลง Abyss เลเวล 53 ฟาร์มของสวมใส่ระดับสีฟ้า แนะนำว่าให้ใส่ของสวมใส่ระดับสีฟ้ามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
วิธีการเล่น Crocodile’s Lair
บอสห้องแรก – Robot GP-02
เริ่มมาด้วยบอสห้องแรกที่มีชื่อว่า “Robot GP-02” กันก่อนเลย โดยแมคคานิคตัวนี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ให้ตัวแทงค์ภายในปาร์ตี้ดึงบอสเพื่อทำให้ตัวดาเมจยืนสร้างดาเมจได้อย่างสบายๆ เลย
แต่ว่าตัวดาเมจก็ต้องคอยระวังท่าการโจมตีของบอสที่จะยิงมิสไซล์ลงพื้นเป็นจำนวนมาก เพราะว่าในท่าการโจมตีนั้นสามารถสร้างดาเมจใส่เราได้แบบมหาศาล ซึ่งหากโดนติดต่อกันก็มีโอกาสตายได้เลย นอกจากนี้ยังมีท่าการโจมตีอีกท่าหนึ่งที่ต้องระวังในกรณีที่ไม่มีตัวแทงค์ลากบอสให้คือ ท่าควงแขน ที่สร้างดาเมจพร้อมกับงัดตัวเราขึ้นฟ้ารัวๆ ซึ่งบอสจะใช้ท่านี้ก็ต่อเมื่อค่า Rage ของบอสเต็มหลอด
โดยบอสจะใช้ท่าการโจมตีแบบนี้วนลูปไปเรื่อยๆ จนจบเลย ก็ให้เราคอยระวังตัวไว้ระหว่างการทำดาเมจใส่บอส
บอสห้องสอง – Wraith
หลังจากที่ฆ่าบอส Robot GP-02 ตายเข้าสู่ห้องสองแล้ว เราจะได้พบกับบอส Wraith ที่จะคอยปาเคียวทำดาเมจใส่เราอย่างรุนแรง ซึ่งในช่วงเฟส 1 ของบอสยังไม่มีแมคคานิคอะไรเป็นพิเศษ ให้ใช้ตัวแทงค์ดึงบอสไว้กับใช้ตัวดาเมจสร้างความเสียหายใส่บอสได้เลย
เมื่อเราโจมตีบอสจนเลือดเหลือ 7 หลอดแล้ว บอสจะเข้าสู่ช่วงเฟส 2 ที่จะใช้ท่าการโจมตี Ray Chain ปล่อยเลเซอร์ใส่เราเป็นแนวยาว ซึ่งให้เราเดินทวนเข็มนาฬิกาเพื่อหลบท่าการโจมตีนี้
หลังจากที่บอสใช้ท่ายิงเลเซอร์จนเสร็จแล้ว บอสจะทำการเสก Crystal ออกมาทั้งหมด 5 จุด ซึ่งในระหว่างที่เสา Crystal ปรากฎอยู่บอสจะเป็นอมตะทำให้ไม่สามารถทำดาเมจได้ เราจึงต้องไปทำลายเสา Crystal ให้ครบทั้งหมด 5 จุดก่อน ถึงจะสามารถทำดาเมจใส่บอสได้
ในช่วงเฟส 2 ขึ้นไประหว่างที่เราโจมตีทำดาเมจใส่บอสอยู่นั้น จำเป็นต้องระวังท่าการโจมตีของบอสที่เสกวงแดงใส่เพื่อนในปาร์ตี้หนึ่งคน แล้วหลังจากนั้นสักพักตัววงแดงจะทำการปล่อยบอลสีแดงออกมารอบตัวของเพื่อนคนนั้น ซึ่งท่าการโจมตีสามารถสร้างดาเมจแก่เราได้แรงมากๆ เพราะฉะนั้นเพื่อนคนไหนที่โดนบอสเสกวงใส่ ให้รีบออกห่างจากเพื่อนในปาร์ตี้คนอื่นๆ โดยทันที
นอกจากต้องระวังท่าการโจมตีเสกบอลแดงรอบตัวแล้ว เรายังต้องคอยระวังท่าการโจมตีของบอสที่จะระเบิดพื้นพร้อมกับทำให้พื้นที่โดนมีเปลวไฟขึ้นมา ซึ่งเวลาเดินไปเหยียบนั้นเราจะโดนดาเมจต่อเนื่องที่รุนแรงมาก ดังนั้นเวลาเดินให้สังเกตุพื้นบริเวณโดยรอบดีๆ ด้วย
สำหรับแมคคานิคของบอส Wraith ทั้งหมดก็เพียงเท่านี้ โดยตัวบอสจะมีแมคคานิคที่ต้องทำลายเสา Crystal อีกทีตอนเข้าสู่เฟส 3 หรือเลือดเหลือ 4 หลอด ซึ่งก็ให้วนลูปวิธีการเล่นเหมือนช่วงเฟส 2 ได้เลย
บอสห้องสุดท้าย – Sharcroc Overlord Kragor
สำหรับบอสห้องสุดท้ายเจ้า Sharcroc Overlord Kragor นั้น ช่วงเฟส 1 บอสยังไม่มีแมคคานิคอะไรมาก ให้ใช้ตัวแทงค์ดึงการโจมตีของบอสไปเหมือนห้องก่อนหน้า แล้วทำดาเมจใส่บอสจนเลือดบอสเหลือ 7 หลอด เพื่อเข้าสู่เฟส 2 ได้เลย
เมื่อเข้าสู่เฟส 2 บอสจะทำการสตั้นผู้เล่นทุกคนพร้อมกับดึงตัวผู้เล่นไปตรงกลาง แล้วจากนั้นจะทำการเสกเสา Magic Crystal ออกมาทั้งหมด 5 เสา ซึ่งเราจะต้องทำลายทั้ง 5 เสาให้ทันเวลาภายใน 20 วินาที หากไม่สามารถทำลายได้ทันเวลาจะโดนบังคับตายทันที แนะนำว่าให้เก็บสกิลท่าไม้ตายไว้ให้สามารถใช้ได้ตอนเสกเสาขึ้นมา เพื่อที่สามารถทำลายเสาได้เร็วมากยิ่งขึ้น
โดยแมคคานิคนี้จะเกิดขึ้นอีกทีตอนเข้าสู่เฟส 3 หรือเลือดบอสเหลือ 4 หลอด
ในระหว่างการทำดาเมจช่วงเฟส 2 ขึ้นไป บอสจะมีท่าการโจมตีที่ต้องระวังเพิ่มเข้ามาคือ ท่ากระทืบพื้น ที่จะสามารถทำดาเมจอย่างรุนแรงเป็นวงกว้าง ซึ่งเราต้องกดหลบตอนจังหวะวงแดงใกล้ถึงขอบวง เพื่อที่จะหลบดาเมจของท่าการโจมตีนี้
นอกจากนี้ยังมีท่าการโจมตีที่ต้องระวังเพิ่มอีกหนึ่งท่าคือ ท่ากระทืบพื้นรัวๆ ที่จะสร้างดาเมจต่อเนื่องอย่างรุนแรงเป็นวงกว้าง ซึ่งจุดสังเกตุว่าบอสจะใช้ท่าการโจมตีนี้คือจะมีตัวหนังสือขึ้นกลางหน้าจอพร้อมกับนับเวลาถอยหลังเป็นเวลา 5 วินาที โดยท่านี้เราจะสามารถหลบได้แค่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้นตัวละครสายอาชีพพระคอยใช้ท่าไม้ตายลดดาเมจที่ได้รับ หรือให้ตัวละครสายแทงค์เปิดโล่อมตะ
สำหรับการโจมตีที่ต้องระวังทั้งหมดของบอสตัวนี้ก็จะมีเพียงแค่นี้ เราก็จะวนลูปหลบสกิลกับทำดาเมจใส่บอสแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนตายได้เลย
หลังจากที่เราฆ่าบอส Sharcroc Overlord Kragor ได้แล้ว เราจะได้รับของรางวัลเป็นเครื่องประดับเกรดสีฟ้า และอุปกรณ์สวมใส่ระดับสีทองเลเวล 55
จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ!
สามารถเข้าร่วมกลุ่มผู้เล่นได้ที่: Dragon Nest 2 Evolution Thailand