สวัสดีอีกเช่นเคยกับแฟนเกม Fairy Tail: Force Unite! ในวันนี้ผมก็จะมานำเสนออีกเรื่องน่าสนใจที่หลายๆ คนมองข้ามกันไป และไม่รู้ว่ามันสำคัญยิ่งยวดขนาดไหนกับระบบ “รูปแบบทีม” เอาเป็นว่าเราอย่าเสียเวลาเลย เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า มา!
รูปแบบทีม คืออะไร?
คือรูปแบบการวางตำแหน่งกลยุทธ์ของทีมเราหรือจะมองว่าเป็นตำแหน่งการยืนตัวละครก็ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นรูปแบบพื้นฐานที่พบได้มากในเกมเทิร์นเบสและเกมมือถือสมัยนี้ แต่รู้รึเปล่าว่าภายในเกมนี้จะมีรูปแบบให้ได้เลือกกันถึง 10 แบบเลยด้วย โดยสามารถปลดล็อคได้ด้วยการซื้อหนังสือเล่มละ 1,000,000 เงินจีเวล พร้อมทั้งยังสามารถอัปเกรดขั้นได้อีกต่างหาก
นอกจากนี้แต่ละรูปแบบไม่ใช่เพียงแค่ตำแหน่งการยืนที่แตกต่างกันเท่านั้นนะ ยังมีบัฟแต่ละตำแหน่งแตกต่างกัน พร้อมด้วยรูปแบบแพ้-ชนะทางกันอีกด้วย จึงทำให้ “รูปแบบทีม” นี่ล่ะเป็นอีกหนึ่งตัววัดผลแพ้-ชนะกันได้เลย ส่วนมีรูปแบบอะไรบ้างนั้นเราก็มาดูกันเลยดีกว่า
รูปแบบทีมทะลวง
- จุดเด่น : เพิ่มพลังโจมตีเท่ากันในทุกตำแหน่ง
- ชนะทาง : แยกเงา กลยุทธ์ พริบตา
- แพ้ทาง : ปิดล้อม ปีกราชา หลุมพราง
นี่คือรูปแบบแรกที่ตัวเกมจะปลดล็อคให้เราเมื่อทำเควสถึง มีจุดเด่นคือการเพิ่มดาเมจให้กับทุกตำแหน่ง โดยแลกมากับค่าความเร็วที่ลดลงไป เป็นรูปแบบการเพิ่มพลังโจมตีสูงสุดจากรูปแบบทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้าหากว่าอัปไปจนถึงเลเวลสูงสุดจะช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้ถึง 12% เลย เหมาะสำหรับทีมเน้นพลังโจมตีเข้าแลกนั่นเอง
รูปแบบทีมแยกเงา
- จุดเด่น : เพิ่มพลังโจมตีเวท M.ATK อย่างมากให้กับตัวละครผู้เล่น
- ชนะทาง : โยกย้าย ปีกราชา ปิดล้อม
- แพ้ทาง : ทะลวง หลุมพราง พริบตา
เป็นรูปแบบเด่นชัดมากเรื่องการเพิ่มค่า M.ATK ให้กับตัวละครหลักของเรา โดยจะแลกมากับการลดค่าพลังป้องกัน ในขณะเดียวกันก็ทำการเพิ่มพลังโจมตีในระดับนึงให้กับสองตำแหน่งด้านข้าง ความเร็ว และพลังป้องกันอีกอย่างละตำแหน่ง เหมาะสำหรับคนที่เลือกเล่นคลาสจำพวกเวทคลื่นเสียงหรือเวทหิมะ พวกใช้พลังโจมตีเวทนั่นเอง เมื่อเลเวลสูงสุดจะเพิ่มค่าพลังเวทให้สูงถึง 15.3% เลย
รูปแบบทีมเสมอภาค
- จุดเด่น : เพิ่มพลังโจมตีกายภาพ P.ATK อย่างมากให้กับตัวละครผู้เล่น
- ชนะทาง : หลุมพราง โยกย้าย พริบตา
- แพ้ทาง : กลยุทธ์ ปิดล้อม ผจญภัย
อาจเรียกว่า “สายสมดุล” ตามชื่อก็ว่าได้ แต่เอาจริงๆ รูปแบบนี้จะเน้นไปทางการเพิ่มค่า P.ATK อย่างมากให้กับตัวละครหลักของเรา พร้อมด้วยการเพิ่มดาเมจกายภาพ ดาเมจโดยรวม ค่าพลังฟื้นฟู และต้านทานผนึก อีกอย่างละตำแหน่ง เหมาะสำหรับคลาสจำพวกสายเวทปืนหรือเวทเสริมพลัง โจมตีดาเมจแบบกายภาพ พร้อมตัวฮีลประจำทีมอีกหนึ่ง โดยเลเวลสูงสุดจะเพิ่มค่า P.ATK สูงถึง 15.3%
รูปแบบทีมกลยุทธ์
- จุดเด่น : เพิ่มพลังป้องกันกายภาพ P.Resist ให้กับตัวละครผู้เล่น
- ชนะทาง : พริบตา โยกย้าย เสมอภาค
- แพ้ทาง : ปีกราชา ทะลวง ผจญภัย
สำหรับรูปแบบ กลยุทธ์ จะคล้ายกับสองรูปแบบก่อนหน้านี้ แต่เปลี่ยนจากการเสริมพลังโจมตีมาเป็นเพิ่มพลังป้องกันกายภาพ หรือ P.Resist แทน ไม่ได้เพิ่มเยอะขึ้นแบบโดดเด่นแต่จะเป็นการเพิ่มเฉลี่ยไล่เลี่ยกันในแต่ละตำแหน่ง ในขณะเดียวกันก็ยังคงเพิ่มดาเมจและความเร็ว ให้กับตำแหน่งโดยรอบไปในตัวด้วย รูปแบบนี้ค่อนข้างจะเหมาะกับคลาสจำพวกสายดาเมจที่พลังป้องกันน้อย ซึ่งสามารถช่วยทำให้เอาตัวรอดได้นานขึ้นนั่นเอง
รูปแบบทีมโยกย้าย
- จุดเด่น : เพิ่มความเร็ว SPD อย่างมากให้สองตำแหน่ง และเพิ่มค่าฮีลรองลงมา
- ชนะทาง : ผจญภัย หลุมพราง ปิดล้อม
- แพ้ทาง : แยกเงา เสมอภาค กลยุทธ์
ตามชื่อของรูปแบบกับ โยกย้าย คือเน้นการเพิ่มความเร็วของตัวละคร SPD อย่างมากโดยเน้นให้กับตัวละครผู้เล่น และในตำแหน่งตัวละครที่ 3 แลกมากับค่าพลังป้องกันกายภาพและเวทมนต์ที่เสียไป ซึ่งรูปแบบนี้ค่อนข้างจะเหมาะกับคลาสจำพวกเน้นการดีบัฟตัวละครอย่างเวทผนึกหรือคลาสจำพวกต้องเซ็ตอัปหลายๆ อย่างก่อนต่อสู้ ซึ่งต้องพึ่งความเร็วในการลงมือก่อนนั่นเอง
รูปแบบทีมผจญภัย
- จุดเด่น : เพิ่มความเร็ว SPD อย่างมากให้หนึ่งตำแหน่ง และระดับปานกลางรองลงมา
- ชนะทาง : หลุมพราง เสมอภาค กลยุทธ์
- แพ้ทาง : โยกย้าย ปีกราชา พริบตา
จะมาในลักษณะของรูปแบบตัว T โดยตำแหน่งที่ 3 อยู่บริเวณกึ่งกลางด้านหน้าจะได้รับความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แลกมาด้วยพลังป้องกันเวทมนต์ลดลงไป ในขณะเดียวกันอีกสองตำแหน่งก็จะได้ค่าความเร็วเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่จะไม่ได้เพิ่มเยอะเท่าด้านหน้า และมีการเพิ่มพลังโจมตีกายภาพและเวทมนต์ตามลำดับ รูปแบบนี้จะดูคล้ายกับ โยกย้าย เพียงแต่จะเป็นการโฟกัสตัวละครเพียงตัวเดียว เหมาะสำหรับคนที่มีตัวโจมตีหนักๆ ภายในทีมแล้วต้องการใช้เปิดเริ่มการโจมตี
รูปแบบทีมปิดล้อม
- จุดเด่น : เพิ่มความเร็ว SPD อย่างมากให้กับตัวละครผู้เล่น และเพิ่มค่าผนึกอย่างมากให้อีกหนึ่งตำแหน่ง
- ชนะทาง : ปีกราชา ทะลวง เสมอภาค
- แพ้ทาง : พริบตา แยกเงา โยกย้าย
แทบจะเหมือนกันกับสองแบบก่อนหน้านี้เลยก็ว่าได้ กับการเพิ่มความเร็ว SPD อย่างมากให้หนึ่งตำแหน่ง แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีการเพิ่มค่าผนึก Seal ขึ้นมาอย่างมากเลยด้วยเช่นกัน ส่วนตำแหน่งที่เหลือก็จะมีการเพิ่มค่าดาเมจ และค่าพลังป้องกันขึ้นมาเป็นลำดับ เหมาะสำหรับทีมที่มีตัวละครจอมเวทสายผนึกรวมอยู่ในทีมนั่นเอง
รูปแบบทีมปีกราชา
- จุดเด่น : เพิ่มพลังป้องกันโดยรวมให้กับในทีม
- ชนะทาง : กลยุทธ์ ทะลวง ผจญภัย
- แพ้ทาง : ปิดล้อม แยกเงา หลุมพราง
รูปแบบชัดเจนของเป้าหมายนี้คือการเพิ่มความถึกให้กับทีมของเรา โดยจะมีการเพิ่มพลังป้องกันให้ตัวละครเราสูงมาก แลกมากับค่าสปีดที่ลดลง ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มค่าฮีลไปด้วย แสดงให้เห็นว่าเป็นรูปแบบเน้นการเอาตัวรอดแท้จริง สำหรับ ปีกราชา นี้ก็เหมาะกับทีมที่มีพลังโจมตีพอแล้วแต่รู้สึกตัวเองยังเปราะอยู่ตายง่ายเกินไป หรือไว้เลือกใช้เฉพาะหน้าเวลาเจออีเวนท์หรือบอสตบหนักๆ ได้ด้วยเช่นกัน
รูปแบบทีมพริบตา
- จุดเด่น : เพิ่มค่าฮีลอย่างมากให้กับตัวละครผู้เล่น
- ชนะทาง : ปิดล้อม แยกเงา ผจญภัย
- แพ้ทาง : กลยุทธ์ เสมอภาค ทะลวง
ค่อนข้างจะขัดแย้งจากชื่อรูปแบบพอสมควรเลยกับพริบตา ซึ่งน่าจะสื่อถึงความรวดเร็วเสียมากกว่า แต่จุดเด่นของรูปแบบคือการเพิ่มค่าฮีลอย่างมากให้กับตัวละครเราแทนและแบบปานกลางให้กับอีกหนึ่ง นี่จึงเป็นรูปแบบประเภทการรักษาโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับคลาสจำพวกเวทฟื้นฟูและเวทยาที่สามารถรักษาคนอื่นภายในทีมได้นั่นเอง
รูปแบบทีมหลุมพราง
- จุดเด่น : เพิ่มค่าต้านทานผนึกให้สามตำแหน่งแรก
- ชนะทาง : ปีกราชา ทะลวง แยกเงา
- แพ้ทาง : ผจญภัย เสมอภาค โยกย้าย
เป็นอีกรูปแบบที่แตกต่างจากรูปแบบอื่นๆ ทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ด้วยรูปแบบอื่นจะมีการเพิ่มค่าโจมตี พลังป้องกัน ความเร็วไม่ก็การรักษา แตกต่างจากหลุมพรางจะเป็นการเพิ่มค่าต้านทานผนึกหรือ Seal Resis. ถึงสามตำแหน่ง ทำให้รูปแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะจะใช้ทั่วไป เหมาะสำหรับในโอกาศหรืออีเวนท์เฉพาะหน้าเท่านั้น อย่างในการต่อสู้ PVP หรือท้าชนบอสที่มีพวกสกิลผนึกเยอะๆ นั่นเอง
ก็จบไปกับทั้ง 10 รูปแบบกันแล้วนะครับ เพื่อนๆ สามารถเลือกใช้แบบไหนก็ได้ ตอนไหนก็ได้ ขึ้นอยู่กับความชอบหรือสถานการณ์เองก็ตามที แต่จำไว้เสมอว่า ตำแหน่งที่ 1 หรือตัวละครผู้เล่นนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนได้ เพราะงั้นจะวางแผนอะไรก็คิดให้รอบคอบก่อนเสมอด้วยล่ะ