การตามหาคำตอบในละเทควอนต้าของ Bronya ได้มาถึงจุดสุดท้ายของเรื่องราวทั้งหมดแล้วกับการเปิดเนื้อเรื่องช่วงสุดท้ายของบทที่ 11 พร้อมด่านโลกที่ 3 ให้เราได้เจอความท้าทายและเนื้อเรื่องในบทสุดท้าย Bronya จะสามารถช่วย Seele ออกมาจากโลกแห่งนี้ได้ไหมจะมีอะไรรอให้พบเจอที่ปลายทางของห้วงทะเลลึกแห่งนี้!
บทที่ 11 ปลายทางของห้วงทะเล
เพื่อจะนำอัญมณีแห่งความปรารถนากลับมา Bronya พาตัวเองเข้าไปยังทะเลควอนต้าอันไม่สามารถคาดเดาได้ ในดินแดนอันแปลกประหลาดนี้ เธอก็ได้พบกับคนที่ไม่คาดคิดปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ…
เงื่อนไขและเวลาเปิดด่านเนื้อเรื่องสำหรับกัปตันที่ยังเล่นไม่ถึงเนื้อเรื่องบทที่ 10 จะสามารถเข้าเล่นได้ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. ~ 15 ส.ค. 03:00 น. กัปตันต้องมีเวลา 20 ขึ้นไปจึงจะสามารถเข้าเล่นได้ (หากหมดเวลากิจกรรมแล้วจะต้องเล่นเนื้อเรื่องให้ถึงบทที่ 10 ก่อนจึงจะสามารถเล่นบทนี้ได้)
สามารถเข้าเล่นเนื้อเรื่องบทใหม่ผ่านทางหน้ายานได้โดยกดที่รูปตรานาฬิกาสีทองเนื้อเรื่องหลักบทใหม่ที่อยู่มุมขวาบนของจอข้างๆ กับปุ่มโจมตีจะเข้าไปยังหน้าฉากหลักของเนื้อเรื่องบทที่ 11 ได้ทันที
ปลดเลเวลวาลคิเรียในเนื้อเรื่องบทที่ 11 อัพได้ถึงเลเวล 80 แรงค์ SSS
ระดับปกติ [ N ]
มีให้เล่นทั้งหมด 5 ด่านเมื่อเล่นจบด่านจะสามารถอ่านเบาะแสในด่านนั้นๆ ได้แต่ละด่านจะมีเบาะแสไม่เท่ากันและจะปลดล็อควาลคิเรียกตามด่านเนื้อเรื่องเพื่อไว้ใช้ในการลงเล่นด่านอื่น (ด่านบังคับใช้ตัวละครที่มีให้เท่านั้น) ทุกด่านจะได้รับ 99 XP (จะเขียนบอกเอาไว้เป็นตัวหนังสือสีส้ม)
**ด่านเนื้อเรื่องระดับง่ายในบทความนี้จะพูดถึงสิ่งที่ต้องเจอในแต่ละด่านเท่านั้น โดยจะไม่มีการสปอยเนื้อเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น**
Act. 3 : 11 – 11
เริ่มมาจะกลับมาที่เส้นทางเดิมเพื่อคุยกับ Joachim อีกครั้งแล้วไปตามทางที่มีแสงเพื่อวาร์ปไปตามเส้นทางแล้วจะเจอศัตรูเป็นปีศาจควอนตัมดักอยู่หลายจุดเมื่อกำจัดหมดก็จะผ่านด่านเข้าสู่เส้นทางโลกที่ 3 ทันที
หลังจบด่านปลดล็อควาลคิเรียใหม่ Kiana : Valkyrie Ranger ที่มาแรงค์ SS เลเวล 50
Act. 3 : 11 – 12
ศัตรูที่เจอภายในด่านจะเป็นปีศาจฮงไกที่ปรากฏออกมาจากพลังของแฮชเชอร์เมื่อกำจัดหมด Welt ผู้เป็นแฮชเชอร์ที่ 1 จะปรากฏตัวออกมาพูดคุย แล้วเดินไปต่อจุดลานกลางที่มีมังกรตายอยู่จะพบกับบอสปีศาจฮงไก Assaka เน้นใช้วาลคิเรียที่ตีหมู่ได้กว้างๆ สามารถโจมตีได้หลายจุดพร้อมกันเพื่อทำลายแขนของมันจะทำให้เราสามารถโจมตีเข้าเลือดของบอสได้เยอะขึ้นเช่น Theresa : Valkyrie Pledge (ควรมี Oath of Judah) , Rozaliya : Molotov Cherry กดโจมตีค้างเพื่อใช้ท่าหมุนควงดาบใส่แขนบอส เป็นต้น เมื่อจบด่านจะได้เจอเนื้อเรื่องก่อนจบด่าน
Act. 3 : 11 – 13
ในด่านนี้จะต้องสู้กับพวกหุ่นของแฮชเชอร์ที่ 1 ที่เข้ามาจัดการกับพวกเราจะมาหลายตัวด้วยกันและจะเจอกับบอสไททันสีเหลือง 1 ตัวหลังจากกำจัดได้จะผ่านด่านทันที
หลังจบด่านปลดล็อควาลคิเรียใหม่ Mei : Shadow Dash ที่มาแรงค์ SS เลเวล 50
Act. 3 : 11 – 14
เราจะมาสู่พื้นที่ใหม่จากเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เกิดขึ้นจะเจอกับศัตรูเป็นพวกเดธลี่และปีศาจฮงไกเดินไปให้สุดทางหลังจากฆ่าศัตรูหมดให้เดินไปทางขวามือจะเป็นประตูเข้าไปข้างในจะพบบอสหุ่นไททันสีเหลือง Aesir 1 ตัวสู้ให้ชนะจะผ่านด่านทันที
จบด่านปลดล็อควาลคิเรีย Bronya : Black Nucleus ที่จะมาให้แรงค์ SS เลเวล 50
Act. 3 : 11 – 15
บอสในด่านนี้จะเจอกับบอสตัวใหม่ MHT-3 Pax เป็นเหมือนรถสองคันรวมกันสามารถยิงลำแสงได้ ยิงปืนกล ปล่อยระเบิดลาวาที่พื้น แถมยังแว๊นพุ่งไปมาได้อีกด้วย คอยระวังระเบิดติดตามตัวให้ดีเพราะมันจะปล่อยพื้นลสวาจุดที่ล็อคเป้าหมายเอาไว้และยังอยู่นานพอสมควรเลยทีเดียวพยายามล่อระเบิดให้อยู่ห่างๆ บอสแล้วพอมันระเบิดค่อยกลับมาตีต่อจะช่วยได้เยอะอย่าลืมหยิบ Bronya : Yamabuki Armor ไปสร้างเกราะป้องกันดาเมจกายภาพให้กับทีมด้วยจะช่วยเรื่องป้องกันดาเมจจากบอสได้เยอะขึ้น
ระดับยากและซูพรีม [ H / S ]
ด่านในช่วงที่ 2 จะมีให้เล่นด้วยกันระดับละ 2 ด่านซึ่งจะเป็นด่านเดียวกันทั้ง 2 ระดับแต่จะมีความยากขึ้น ตัวละครสำหรับเรื่องบทที่ 11 ทั้งหมดนี้จะบังคับใช้ตัวที่มีปละปลดจากในเนื้อเรื่องเท่านั้น (ไม่สามารถนำวาลคิเรียของเราลงเล่นได้) ก่อนเริ่มด่านจะมีขึ้นเตือนถึงระดับเลเวลที่เหมาะสมในการลงด่าน (สามารถใช้เลเวลต่ำกว่าลงได้)
Act. 3 : 11 – 5
ไม่ได้รับ XP จากด่านนี้
ศัตรูที่เจอในด่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเดธลี่พวกทั้งหมดและมีพวกวอร์ริเออร์ประปลาย ศัตรูจะปรากฏออกมา 4- 5 ชุดด้วยกันเน้นเก็บท่าไม้ตายไว้ช่วงท้ายๆ จะได้เก็บศัตรูได้เร็วขึ้น (ในระดับซูพรีมจะถึกขึ้นไม่มากนักแต่ในส่วนของบอสจะถึกพอสมควร)
Act. 3 : 11 – 6
ไม่ได้รับ XP จากด่านนี้
ด่านนี้จะเจอกับบอสรถ MHT-3 Pax เน้นใช้วิธีคล้ายตอนที่เล่นในด่านเนื้อเรื่องก็สามารถผ่านได้ไม่ยาก เน้นรีบเก็บท่าไม้ตายให้เร็วที่สุดแล้วรีบอัดใส่ช่วงที่บอสพุ่งไปอีกฝั่งเรียบร้อยแล้วป้องกันการใช้แล้วบอสพุ่งหนีพอดีจะไม่เสียเวลาและเสี่ยงถูกฆ่าตายอีกด้วย
โลกที่ 3
จะมีด่าน EX ให้เล่นทั้งหมด 5 ด่านด้วยกันโดยแต่ละด่านจะสามารถได้วันละ 3 ครั้งเท่านั้นทุกด่านจะดรอบไอเทมความทรงจำของนักรบและความทรงจำของอาวุธเพื่อนำไปเปิดที่หน้าประจักษ์ ทุกด่านที่ลงจะได้รับ 99 XP
สิ่งที่จะต้องเจอ
ภายในด่านโลกที่ 3 จะมีเงื่อนไขใหม่มาโดยภายในด่านเราจะต้องเจอกับกำแพงควอนตัมสีน้ำเงินที่ไม่สามารถวิ่งผ่านแบบปกติได้จะต้องกดปุ่มพิเศษเพื่อหยุดเวลาจะสามารถวิ่งผ่านกำแพงได้ (สกิลระยะสั้นอยุ่แค่แปบเดียวเท่านั้นต้องรีบกดเมื่ออยู่ใกล้กับกำแพง) จะต้องเจอตั้งแต่ด่าน EX-1 ถึง EX-3
EX – 1
ศัตรูที่เจอจะมาแค่ที่ละ 1 ตัวเท่านั้นโดนจะถูกกำแพงควอนตัมบังทางเอาไว้ เมื่อกำจัดเสร็จ 1 ตัวให้กดสกิลพิเศษเพื่อข้ามกำแพงไปยังพื้นที่ต่อไปในปลายทางที่จะเจอนั้นเป็นปีศาจควอนตัม 1 ตัว เมื่อกำจัดได้จะผ่านด่านทันที
ปลดล็อควาลคิเรียคนสุดท้าย Fu Hua : Phoenix แรงค์ SSS เลเวล 50
EX – 2
เริ่มมาจะเจอเดธลี่ฝั่งละ 1 ตัว ตีให้ตายทั้งสองฝั่ง (หากศัตรูอยู่ใกล้ๆ สามารถกดตีข้ามฝั่งได้) จากนั้นจะมีปีศาจฮงไกหมึกปรากฏออกมา 4 ตัว ด้วยกันให้กดสกิลพิเศษจะสามารถเห็นตัวที่มีลูกศรสีแดงอยู่บนหัวซึ่งเป็นตัวเป้าหมายจะมีเลือดน้อยกว่าตัวอื่นๆ หากฆ่าตายทุกตัวจะตายหมดทันทีแล้วจะจบด่าน
EX – 3
ด่านนี้จะเจอเป็นบอส 2 ตัวเป็นปีศาจฮงไกกับหุ่นแดงโดยทั้งสองตัวจะสลับกันอมตะนานพอสมควรให้เราคอยวิ่งผ่านกำแพงสลับตีไปมาเรื่อยๆ แนะนำให้จัดการกับหุ่นแดงก่อนเพราะระยะสกิลกว้างสามารถตีมาอีกฝั่งได้ง่ายดายต่างจากบอสฮงไกที่มีแต่สองท่าเท่านั้น หลังจากที่อีกตัวตายก็กลับมาฆ่าอีกฝั่งให้ตายก็จะผ่านด่านทันที
EX – 4
เป็นด่านที่ยังคงเป็นปัญหาของกัปตันหลายคนเช่นเคยกับบอสฮงไกแขนยักษ์ตัวนี้ สำหรับด่านนี้ยิ่งทำคอมโบสูงดาเมจจะยิ่งรุนแรงขึ้นวาลคิเรียที่แนะนำ Theresa : Valkyrie Pledge (ควรมี Oath of Judah) วางกางเขนล็อคบอสแล้วใช้ท่าไม้ตายโจมตีใส่แขนทั้งสองข้าง, Rozaliya : Molotov Cherry กดโจมตีค้างเพื่อใช้ท่าหมุนควงดาบใส่แขนบอส (ระวังเรื่องเกจโอเวอร์ฮีทด้วย) , Bronya : Black Nucleus ใส่ปืนใหญ่ชนิดมิซไซล์ชาร์จยิงอัดใส่แขนบอสทั้งสองข้าง, Seele ตีเลี่ยงคอมโบไปเรื่อยๆ รอเกจท่าไม้ตายพร้อมแล้วโจมตีให้แขนแตกเร็วที่สุด, Himeko : Arctic Kriegsmesser เน้นฟาดแขนใช้ท่าไม้ตายตีแขนทั้งสองข้าง, Rita : Stalker Phantom Iron เน้นกดท่าไม้ตายให้หุ่นหมาออกมาช่วยโจมตีแขนบอสให้แตกเร็วขึ้น เป็นต้น
EX – 5
ด่านสุดท้ายเราจะได้พบกับ 1 ในบอสที่ไม่ยากเจอมากที่สุด Aesir Heimdall หรือบอสกันดั้ม ซึ่งจะมีท่าโจมตีต่างๆ เหมือนกับในด่านสนามรบความทรงจำไม่มีผิด การที่จะลดเกราะได้นั้นจะต้องใช้ท่าชาร์จโจมตี, การสลับตัว หรือใช้ท่าไม้ตายของวาลคิเรียบางตัวเท่านั้นโจมตีใส่ตอนที่บอสกางโล่ป้องกันออกมาจะทำให้เกราะของบอสแตกได้ เมื่อทำให้โล่ป้องกันบอสแตกได้เกราะจะลดลงไป 1 ช่อง หากโจมตีแล้วเกราะไม่แตกบอสจะทำการโจมตีสวนกลับใส่เราทันที ทุกครั้งที่ตีบอสตัวบอสจะดูดซับค่าความเสียหายเอาไว้เป็นพลังตัวของบอสจะค่อยเปลี่ยนเป็นสีแดงหากถึง 100 % บอสจะเปลี่ยนโหมดสู้ทันทีการทำลายโล่ของบอสจะทำให้การดูดซับของบอสกลับมาเหลือ 0 % เหมือนเดิม (เมื่อบอสเหลือ 2 หลอดจะบังคับเป็นตัวสีแดง)
วาลคิเรียที่แนะนำสำหรับด่านนี้ Theresa : Valkyrie Pledge (ควรมี Oath of Judah) , Fu Hua : Phoenix ใช้ท่าหลบจังหวะบอสกางโล่แล้วกดปุ่มโจมตีต่อจะเป็นท่าสวนกลับพุ่งใส่เกราะจะทำให้เกราะแตกได้, Bronya : Valkyrie Chariot ท่าสลับตัวสามารถทำลายเกราะของบอสได้และใช้ท่าไม้ตายในการรวบให้บอสอยู่กับทีตอนที่ตัวเป็นสีแดงจะช่วยป้องกันไม่ให้ถูกโจมตีได้ง่าย, Seele เป็นตัวดาเมจเน้นเก็บเกจ SP ให้ครบแล้วใช้ท่าไม้ตาย, Bronya : Yamabuki Armor สร้างเกราะป้องกันดาเมจกายภาพให้กับเพื่อนในทีมทำให้โดนตีได้ยากขึ้น เป็นต้น
ระดับปกติ [ N ] ช่วงสุดท้าย
มีให้เล่นทั้งหมด 3 ด่านเมื่อเล่นจบด่านจะสามารถอ่านเบาะแสในด่านนั้นๆ ได้แต่ละด่านจะมีเบาะแสไม่เท่ากันและจะปลดล็อควาลคิเรียกตามด่านเนื้อเรื่องเพื่อไว้ใช้ในการลงเล่นด่านอื่น (ด่านบังคับใช้ตัวละครที่มีให้เท่านั้น) ทุกด่านจะได้รับ 99 XP (จะเขียนบอกเอาไว้เป็นตัวหนังสือสีส้ม)
Act. 4 : 11 – 16
ด่านนี้เราจะได้สู้กับ Seele อีกคนนึงเน้นหลบให้ได้บ่อยที่สุดเพราะตัวของบอสตีค่อนข้างหลายฮิตและสกิลหยุดเวลาไม่มีมีผลกับเธออีกด้วย หลังจากบอสเหลือหลอดกว่าๆ จะตัดจบทันที
Act. 4 : 11 – 17
ด่านนี้จะบังคับใช้แค่ Bronya ทั้งสามคลาสเท่านั้นให้เราตามผีเสื้อสีฟ้าไปตามทางจะมีพวกปีศาจควอนตัมตลอดทางเน้นใช้ Bronya : Snowy Sniper เคลียร์ศัตรูเพราะสติกมาที่ระบบเซ็ตมาให้มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก เมื่อมาถึงสุดท้ายจะพบผีเสื้อสีฟ้าอีกครั้งให้เข้าไปใกล้ๆ จะจบด่านทันที
Act. 4 : 11 – 18
กลับมาเจอกับบอส Seele อีกครั้งในรอบนี้ให้กำจัดให้ตายแต่ให้พยายามเก็บเกจ SP ไว้ให้มากที่สุดเพราะหลังจากชนะ Seele แล้วจะพบกับบอส Tlaloc เป็นตัวสุดท้ายของเนื้อเรื่องบทนี้ ให้เน้นตีแขนสักฝั่งแล้วรอใช้ท่าไม้ตายตอนบอสทุบมือลงมา สักพักบอสจะปล่อยบอลพลังสีม่วงออกมาใส่เราให้เราตีจนกว่าจะสะท้อนกลับไปใส่บอสจะสร้างดาเมจทันที
เมื่อผ่านไปสักระยะบอสจะจะเก็บพลังจากสามจุดให้รีบตีให้แตกก่อนที่จะกลายเป็นสีม่วงเพราะหากบอสดูดเข้าไปได้จะระเบิดพลังใส่เราทันทีแต่หากเราตีแตกทันหมดบอสจะหมดพลังแล้วอยู่นิ่งๆ ให้เราตีระยะหนึ่ง (บอลพลังมักมีการบัคทำให้เห็นแค่ลูกเดียวเท่านั้น) พอฆ่าได้จะเข้าสู่คัตซีนสุดท้ายที่จะจบเรื่องราวทั้งหมดเพื่อรอเนื้อเรื่องครั้งต่อไป!
ระดับยากและซูพรีม [ H / S ]
ด่านในช่วงที่ 2 จะมีให้เล่นด้วยกันระดับละ 2 ด่านซึ่งจะเป็นด่านเดียวกันทั้ง 2 ระดับแต่จะมีความยากขึ้น ตัวละครสำหรับเรื่องบทที่ 11 ทั้งหมดนี้จะบังคับใช้ตัวที่มีปละปลดจากในเนื้อเรื่องเท่านั้น (ไม่สามารถนำวาลคิเรียของเราลงเล่นได้) ก่อนเริ่มด่านจะมีขึ้นเตือนถึงระดับเลเวลที่เหมาะสมในการลงด่าน (สามารถใช้เลเวลต่ำกว่าลงได้)
Act. 4 : 11 – 7
ไม่ได้รับ XP จากด่านนี้
ศัตรูที่เจอจะมีทั้งหมดสองชุดด้วยกันในชุดแรกจะเป็นพวกหุ่นยนต์ทั้งหมดและในช่วงที่สองจะเป็นศัตรูที่เจอจะเป็นปีศาจควอนตัมทั้งหมดจัดการได้ไม่ยากมากนักคอยเก็บเกจท่าไม้ตายไว้ใช้ช่วงถึงบอสจะได้จัดการได้เร็วๆ
Act. 4 : 11 – 8
ไม่ได้รับ XP จากด่านนี้
เราจะเจอกับบอส Tlaloc สกิลของบอสส่วนใหญ่จะเหมือนกับในเนื้อเรื่องไม่มีผิดยกเว้นตอนที่บอสจะดูดลูกพลังจะลดจาก 3 ลูก เหลือให้ตีแค่ 2 ลูก และจะมีสกิลเสริมเป็นปล่อยลูกบอลสีม่วงแบบชุดใส่เราด้วย ส่วนการสู้ให้เน้นแบบเดียวกับตอนที่สู้ในเนื้อเรื่องก็สามารถกำจัดได้ไม่ยากให้ระวังสกิลบอลสีม่วงที่กล่าวไว้ช่วงแรกก็พอเพราะบอสจะใช้ค่อยข้างถี่พอสมควร (ในระดับซูพรีมไม่มีอะไรต่างกันมากมัก) เมื่อจัดการได้จะจบด่านลง
จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Honkai Impact 3 TH [-กลุ่มคนไทย-]