แนะนำ 5 ตัวละคร SR น่าใช้ประจำโหมดต่อสู้ขั้นสูงของสปาน่า (SR PVE Character) แห่งเกม Katekyō HITMAN REBORN! โหมดการต่อสู้เป็นทีมแบบ Realtime สามารถจัดทีมตะลุยด่านท้าทายความโหดของดันเจี้ยนได้มากกว่า 20 ชั้น ในบทความครั้งนี้เราจะมาแนะนำตัวละครระดับ SR สุดเก่งกาจเหมาะสำหรับการใช้งานในโหมดนี้ จะมีใครบ้างไปดูกันเลย!
แนะนำ 5 ตัวละคร SR น่าใช้ประจำโหมดต่อสู้ขั้นสูงของสปาน่า (SR PVE Character)
โหมดต่อสู้ขั้นสูงของสปาน่ามีรูปแบบการเล่นแบบ PVE (Player Versus Environment) โดยการให้ผู้เล่นจัดทีมกับเพื่อนอีก 2 คนรวมกันเป็นทั้งหมด 3 คนลงไปต่อสู้ในด่านระดับชั้นต่างๆ เมื่อเอาชนะได้ก็จะเพิ่มระดับความยากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ยิ่งระดับสูงความยากของด่านก็ยิ่งเพิ่มสูงตามไปด้วย
การจะเอาชนะศัตรูทั้งหมดในด่านได้นั้นจำเป็นต้องมีตัวละครที่มีความารถด้านการต่อสู้อันโดดเด่น หลายคนอาจจะนึกถึงตัวละคร SSR เป็นอันดับแรกๆ แต่รู้หรือไม่ว่ามีตัวละคร SR ที่เก่งกาจเหมาะสมกับโหมด PVE แบบสุดๆ อยู่ด้วยซึ่งความได้เปรียบของตัวละคร SR นั้นคือการหาเศษชิ้นส่วนตัวละครมาอัปเกรดเพิ่มดาวได้ง่ายดายกว่าตัวละคร SSR นั้นเอง ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีมากในการเลือกใช้ตัวละคร SR
1. เบลเฟกอล (Belphegor)
เบลเฟกอลนั้นถือเป็นตัวละคร SR ที่ได้รับความนิยมสูงเอามากๆ ด้วยความสามารถด้านการเบิร์สดาเมจที่โดดเด่นจนเกินหน้าเกินตาตัวละครอื่นในระดับเดียวกันจนถึงขั้นเก่งกว่าตัวละคร SSR บางตัวเสียอีก เบลเฟกอลจะมีบทบาทโดดเด่นสุดๆ ในเรื่องการทำดาเมจมหาศาลอย่างต่อเนื่องแถมระยะไกลอีกด้วย
วิเคราะห์จุดเด่นด้าน PVE
สกิลพรสวรรค์ : สูญเสีย
สามารถทำให้ศัตรูติดสถานะเลือดออกได้ ส่งผลให้ได้รับดาเมจเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องสูงสุดถึง 78% ทุกวินาที ทำให้เบลเฟกอลกำจัดศัตรูได้อย่างรวดเร็วแบบสุดๆ
สกิลแหวน (1) : ความตื่นเต้น
เมื่อกำจัดศัตรูได้ 1 คนภายในเวลา 2 วินาที จะได้รับโบนัสดาเมจเพิ่มเติมสูงสุดมากถึง 135% ในโหมดต่อสู้ขั้นสูงของสปาน่านั้นเราจะได้พบกับกองทัพของศัตรูเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลดีกับเบลเฟกอลแบบสุดๆ เพราะยิ่งเบลเฟกอลกำจัดศัตรูได้ก็จะยิ่งได้รับโบนัสดาเมจที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
สกิลแหวน (2) : จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
ทุกครั้งที่ศัตรูในสนามเพิ่มขึ้น 1 คนจะได้รับพลังโจมตีเพิ่มขึ้นสูงสุด 2.5% ซ้อนทับได้สูงสุด 8 ครั้ง เป็นความสามารถที่เกิดมาเพื่อโหมดที่จำเป็นต้องเจอศัตรูจำนวนมากๆ อย่างแท้จริงยิ่งศัตรูมีจำนวนเยอะเท่าไหร่ เบลเฟกอลก็จะยิ่งได้พลังโจมตีเพิ่มขึ้นสูงไปด้วยนั่นเอง
ให้คะแนนตัวละคร
ความสามารถด้านการโจมตี | ⭐⭐⭐⭐⭐ |
ความสามารถด้านการป้องกัน | ⭐⭐ |
ความยากในการควบคุม | ⭐ |
2. ยามาโมโตะ ทาเคชิ (Yamamoto Takeshi)
ยามาโมโตะ ทาเคชิ SR เป็นตัวละครที่มีความสมดุลทั้งด้านการทำดาเมจ และด้านการป้องกันถือเป็นตัวละครที่เล่นง่ายเก่งไว การโจมตีระยะกลางมีความรวดเร็วทำคอมโบได้อย่างต่อเนื่อง ผู้เล่นใหม่ก็สามารถเล่นได้อย่างง่ายดาย แถมสกิลต่างๆ ยังเสริมความสามารถรอบด้านทำให้มีความน่าใช้ในโหมด PVE เป็นอย่างมาก
วิเคราะห์จุดเด่นด้าน PVE
สกิลพรสวรรค์ : ป้องกัน
เมื่ออยู่ในสนามสร้างเกราะลดดาเมจสูงสุด 16% และขณะมีโล่จะเพิ่มค่าบล็อคให้ตัวเองได้สูงสุด 20 แต้ม แต่ถ้าถูกโจมตีโล่จะหายไป ภายใน 10 วินาทีหากไม่โดนดาเมจซ้ำจะสร้างโล่อีกครั้ง เป็นสกิลที่ช่วยเพิ่มความได้เปรียบในด้านการป้องกันเป็นอย่างมาก ทำให้ยามาโมโตะสามารถลุยศัตรูได้อย่างไม่ต้องเกรงกลัวต่อการโดนโจมตีเลย
สกิลแหวน (1) : ทะลวง
การโจมตีด้วยสกิลจะสร้างความเสียหายเพิ่มเติมสูงสุดถึง 200% เป็นสกิลที่ช่วยเพิ่มดาเมจให้กับการโจมตีของยามาโมโตะอย่างสูงเลยทีเดียว ทำให้สามารถกำจัดศัตรูได้อย่างรวดเร็วในการโจมตีเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
สกิลแหวน (2) : เงียบสงบ
เมื่อโจมตีโดนเป้าหมายจะถูกลดพลังโจมตีลงสูงสุด 100% พร้อมฟื้นฟูไฟดับเครื่องชนให้กับตัวเองอีกด้วย สกิลนี้จะทำให้ความสามารถด้านการป้องกันของยามาโมโตะได้เปรียบถึงขีดสุดสามารถลดดาเมจของศัตรูได้ รวมถึงฟื้นฟูไฟดับเครื่องชนให้กับตัวเองทำให้ใช้สกิลได้บ่อยขึ้นอีกด้วย
ให้คะแนนตัวละคร
ความสามารถด้านการโจมตี | ⭐⭐⭐⭐ |
ความสามารถด้านการป้องกัน | ⭐⭐⭐⭐ |
ความยากในการควบคุม | ⭐⭐ |
3. เบียงกี้ 10 ปีข้างหน้า (BianChi)
เบียงกี้เป็นตัวละครสายดาเมจที่อาศัยความสามารถด้าน “พิษ” ทำให้ศัตรูถูกเบิร์สดาเมจอย่างรุนแรง และต่อเนื่อง ทั้งนี้สกิลโจมตีต่างๆ ของเบียงกี้สามารถทำดาเมจแบบหมู่ได้อีกด้วย ทำให้เบียงกำจัดศัตรูได้ครั้งละจำนวนมากอย่างรวดเร็วด้วยพิษของเธอนั่นเอง
วิเคราะห์จุดเด่นด้าน PVE
สกิลพรสวรรค์ : พิษ
เมื่อโจมตีศัตรูจะถูกพิษทุกวินาทีทำดาเมจต่อเนื่องสูงสุด 60% สกิลพิษของเบียงกี้ไม่จำเป็นต้องโจมตีด้วยสกิลเท่านั้น การโจมตีปกติก็มีผลของเอฟเฟกต์พิษเช่นกัน หมายความว่าทุกการโจมตีของเบียงกี้จะทำให้ศัตรูติดพิษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และด้วยความรุนแรงในการสร้างดาเมจอย่างต่อเนื่องของพิษทำให้ศัตรูถูกกำจัดได้อย่างง่ายดาย
สกิลแหวน (1) : ปนเปื้อน
เมื่อเบียงกี้ถูกโจมตีมีโอกาสสูงสุด 10% จะทำให้ศัตรูติดเอฟเฟกต์พิษทันที นอกจากการโจมตีแล้ว การที่เบียงกี้ถูกดาเมจก็ยังทำให้ศัตรูติดพิษได้ เรียกได้ว่าเมื่อเจอกับเบียงกี้ศัตรูไม่มีทางที่จะหนีจากพิษได้เลย
สกิลแหวน (2) : กัดกร่อน
เป้าหมายที่โดนพิษจะถูกดาเมจเพิ่มขึ้นสูงสุด 5% ซ้อนทับได้สูงสุด 4 ครั้ง ต่อเนื่อง 8 วินาที เป็นสกิลที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับเอฟเฟกต์พิษของเบียงกี้ให้มีความอันตรายมากขึ้นหลายเท่า ศัตรูจะถูกกำจัดได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิมจากพิษที่รุนแรงมากขึ้น
ให้คะแนนตัวละคร
ความสามารถด้านการโจมตี | ⭐⭐⭐⭐ |
ความสามารถด้านการป้องกัน | ⭐ |
ความยากในการควบคุม | ⭐⭐ |
4. สเปลบี สคอวโล่ (Superbia Squalo)
สคอวโล่ถือเป็นตัวละครที่มีบทบาทโดดเด่นเฉพาะทางเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ BOSS หรือศัตรูระดับสูงที่มีพลังป้องกันสูงในด่านต่างๆ ของโหมด PVE นั่นเป็นเพราะว่าสคอวโล่มีความสามารถในการลดพลังป้องกันของเป้าหมายได้สูงสุดถึง 20% เลยนั่นเอง
วิเคราะห์จุดเด่นด้าน PVE
สกิลพรสวรรค์ : ทลาย
เมื่อโจมตีศัตรูครั้งที่ 4 สามารถลดพลังป้องกันของเป้าหมายได้สูงสุด 20% ต่อเนื่อง 30 วินาที ความสามารถนี้จะมีประโยชน์อย่างมากเมื่อเจอกับศัตรูพลังป้องกันสูง สคอวโล่จึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากในการใช้ต่อสู้กับ BOSS ประจำด่านต่างๆ เพราะสกิลลดพลังป้องจึงเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ในทีมสร้างดาเมจได้อย่างรุนแรงมากขึ้น
สกิลแหวน (1) : ไม่พอใจ
เมื่อโจมตีจะสร้างโบนัสดาเมจเพิ่มสูงสุดถึง 300% เป็นสกิลที่ช่วยเสริมความรุนแรงให้กับดาเมจการโจมตีของสคอวโล่อย่างมหาศาล เมื่อนำไปรวมกับเอฟเฟกต์ลดพลังป้องกันของสกิลพรสวรรค์แล้วถือว่าสคอวโล่จะสร้างดาเมจได้อย่างรุนแรงแบบสุดๆ ไปเลย
สกิลแหวน (2) : แค้น
เมื่อใช้ไฟดับเครื่องชน (ใช้สกิลโจมตี) เป้าหมายจะได้รับตราประทับ 1 ขั้น เมื่อครบ 10 ขั้นจะเปลี่ยนเป็นเอฟเฟกต์คำสาปเป็นเวลา 30 วินาที ระหว่างที่เป้าหมายถูกดาเมจในช่วงระยะเวลาที่ติดคำสาป 100% ของความเสียหายจะถูกนำไปใช้อีกครั้งเมื่อเอฟเฟกต์คำสาปสิ้นสุดลง
สกิลนี้เป็นจุดที่ทำให้สคอวโล่มีความสามารถสร้างดาเมจแบบ Double ได้นั่นเองยิ่งการโจมตีนั้นรุนแรงเท่าไหร่ ศัตรูก็จะได้รับดาเมจนั้นซ้ำอีกครั้ง ทำให้ยิ่งตอกย้ำความเก่งกาจของสคอวโล่เข้าไปอีกในบทบาทของ PVE โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ BOSS ที่มีความอึด และ HP สูงๆ สคอวโล่จะมีความได้เปรียบอย่างมาก
ให้คะแนนตัวละคร
ความสามารถด้านการโจมตี | ⭐⭐⭐⭐ |
ความสามารถด้านการป้องกัน | ⭐⭐ |
ความยากในการควบคุม | ⭐⭐ |
5. XANXUS
XANXUS ถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีความสามารถหลากหลายเช่นกันทั้งด้านความอึดเป็นพิเศษจากสกิลเสริมต่างๆ มาพร้อมดาเมจที่ความรุนแรงนั้นไม่ธรรมดาเลย บทบาทของ XANXUS ในโหมด PVE จึงเป็นได้ทั้งแทงค์ให้กับทีมพร้อมทำดาเมจได้ไปในตัวอีกด้วย
วิเคราะห์จุดเด่นด้าน PVE
สกิลพรสวรรค์ : ความโกรธ
ทุกครั้งที่เกจสกิลท่าไม้ตายเพิ่มขึ้น 80 แต้ม จะได้รับโบนัสดาเมจเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 4% แต่เมื่อใช้สกิลท่าไม้ตายเอฟเฟกต์จะถูกรีเซ็ตทันที สกิลนี้จะช่วยส่งเสริมความรุนแรงของดาเมจให้กับ XANXUS ได้ระดับนึง เพราะการเพิ่มของเกจสกิลท่าไม้ตายจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการโจมตี หมายความว่ายิ่งโจมตีเยอะ XANXUS จะยิ่งมีดาเมจแรงขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง
สกิลแหวน (1) : ความหลงใหล
ทุกครั้งที่เกจสกิลท่าไม้ตายเพิ่มขึ้น 80% จะลดความเสียหายที่ได้รับลงสูงสุด 6% พร้อมได้รับโล่ดูดซับดาเมจได้อีก 10% ของจำนวน HP สูงสุด สกิลนี้จะเป็นรูปแบบเดียวกับสกิลพรสวรรค์เลย แต่จะเพิ่มความสามารถในการป้องกันระดับสูงทำให้ XANXUS มีความอึดนำมายืนแทงค์ให้กับเพื่อนๆ ได้อย่างสบายๆ เลย
สกิลแหวน (2) : โกรธ
เพิ่มดาเมจสูงสุด 50% ของพลังป้องกัน สกิลนี้จะช่วยเสริมความสามารถด้านดาเมจให้กับ XANXUS หลายเท่าตัว นั่นคือยิ่งพลังป้องกันสูงแค่ไหนก็จะยิ่งได้รับเปอร์เซ็นต์ดาเมจสูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง นอกจากอึดแล้วยังโจมตีแรงอีก XANXUS จึงเหมาะสมมากๆ กับโหมด PVE
ให้คะแนนตัวละคร
ความสามารถด้านการโจมตี | ⭐⭐⭐⭐ |
ความสามารถด้านการป้องกัน | ⭐⭐⭐⭐⭐ |
ความยากในการควบคุม | ⭐⭐⭐ |
บทความนี้จบกันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ!
ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มอยู่ร่วมกันได้ที่
[เกมรีบอร์นมือถือ Hitman Reborn!]
สามารถอ่านบทความอื่นเกี่ยวกับเกมนี้ได้ที่