Let’s Build a Zoo รีวิว ตัวเกมแบบสั้น ๆ ได้ว่า นี่คือเกมสร้างสวนสัตว์สไตล์ 8 BIT ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นแต่งสวนสัตว์ได้ตามใจและสามารถผสมสัตว์แปลก ๆ ออกมาได้นับแสนแบบ ! หากใครเป็นเคยเล่นเกมค่าย Kairosoft เล่นแล้วดูดวิญญาณ เกมนี้มีกลิ่นอายคล้ายกัน แถมสนุกจนวางไม่ลงเลย
Let’s Build a Zoo รีวิว สุดยอดเกมสร้างสวนสัตว์ปี 2021
การบริหาร ดูแล ตกแต่งสวนสัตว์ นั้นมีอยู่ในเกมอยู่แล้ว แต่จุดเด่นที่ทำให้คนสนใจเกมนี้เป็นพิเศษคือ การผสมพันธ์สัตว์แปลก ๆ ออกมาได้นับแสนแบบ ! ยิ่งเล่นนาน สวนยิ่งกว้าง เรายิ่งมีพื้นที่ให้สัตว์สายพันธ์พิเศษได้อวดโฉมให้กับสายตาชาวโลกมากขึ้น
ในช่วงเริ่มต้น ตัวเกมจะมอบ Task (สิ่งที่ต้องทำ) มาให้ พยายามอ่านให้ดีว่า แต่ละ Task ขอให้เราทำอะไร เพราะนี่คือการสอนเล่นแบบเนียน ๆ ทั้งยังมีค่าตอบแทนให้เราเอาไปบริหารสวนสัตว์ด้วย แต่ถ้าใครภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง ให้ดูปุ่มแดงแจ้งเตือนแล้วคลิกตามนั้นได้เลย
Management Office เป็นหัวใจของการจัดการ Task เมื่อไหร่เห็นเครื่องหมายตกใจสีฟ้า ให้รีบไปเช็คดู เพราะการทำ Task นั้นให้ค่าตอบแทนสูงมาก เมื่อเทียบกับค่าตั๋วหรือขายของในช่วงแรก หากเล่นแล้วงง ไม่รู้จะทำอะไรต่อ ให้คลิกออฟฟิศเข้าไปดู เพื่อเคลียร์ Task ให้หมด
เริ่มสร้างสวนสัตว์
การสร้างโซนเลี้ยงสัตว์ของ Let’s Build a Zoo ต้นเกมมีอยู่ 3 แบบ ได้แก่ Concrete เอาไว้เลี้ยงห่าน, Grass เอาไว้เลี้ยงกระต่าย และ Desert เอาไว้เลี้ยงงู, ฮิปโป (โซนและสัตว์ที่อยู่อาศัยในแต่ละโซนจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลัง) ปัญหาแรกของผู้เล่นใหม่คือ จะล้อมรั้วทำโซนได้ยังไง ?
การสร้างโซนเลี้ยงสัตว์ ให้เราคลิกเพื่อวางตำแหน่งมุมทั้งสี่เพื่อทำการล้อมรั้ว (ตามภาพด้านล่าง) หลังจากล้อมรั้วครบปิดสนิททุกด้านแล้ว ตัวไอคอนรูปโซ่คล้องกันจะปรากฏขึ้นมา คลิกโซ่คล้องเพื่อยืนยัน จากนั้นวางตำแหน่งประตูเข้า-ออกปิดท้าย ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
วิธีหาสัตว์มาเลี้ยง
คลิกโซนที่เราล้อมรั้วเสร็จแล้ว เลือก Get Animals เพื่อไปยังแผนที่โลก คลิกจุดกลม ๆ ในแผนที่ จุดเหล่านี้คือสวนสัตว์อื่นใน Let’s Build a Zoo เราสามารถซื้อสัตว์เหล่านี้ด้วยเงินได้เลย แต่บางสวนก็มีเงื่อนไขพิเศษในการซื้อสัตว์เลี้ยงของเขา เช่น ให้เราเอาสัตว์บางชนิดไปแลก เป็นต้น
เมื่อตกลงซื้อ-ขายเสร็จ ผู้เล่นต้องเลือกว่า จะเอาสัตว์มาเลี้ยงในโซนไหน หลังจากเลือกโซนเรียบร้อย สัตว์จะถูกส่งมาทางเฮลิคอปเตอร์มาวางในโซนที่เราเลือกไว้ ภายในเวลา 1-2 วัน (ในเกม)
ข้อควรระวัง สัตว์บางชนิดแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกันได้ก็จริง แต่พวกมันมีโอกาสทำร้ายกันได้ หากยังไม่ชัวร์เรื่องของสายพันธ์ต่างๆ ควรแยกเลี้ยงเป็นโซนละสายพันธ์จะง่ายกว่า กรงไหนเลี้ยงงูก็เลี้ยงงูไปเลย โซนไหนเลี้ยงห่านก็มีแต่ห่านไปเลย
Researh Hub สถาบันวิจัย
ในช่วงเริ่มเกม Let’s Build a Zoo เราสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างได้แค่ไม่กี่อย่าง ร้านค้า, ตู้ขายของอัตโนมัติ, ของเล่นสัตว์ ก็มีจำกัด อีกทั้งเราจะสร้างสิ่งก่อสร้างจำเป็น เช่น ฟาร์มสำหรับผลิตอาหาร, เตาเผาศพสัตว์ที่ตาย, รถไฟใต้ดิน ไม่ได้เลย หากไม่ได้ปลดล็อคจาก Researh Hub แห่งนี้
เมื่อเราสร้าง Researh Hub เสร็จแล้ว ผู้เล่นจะได้รับแต้มวิจัยเมื่อเวลาในเกมผ่านไปเรื่อย ๆ เราต้องคลิกเข้าไปใน Researh Hub เพื่อเลือกวิจัย (ปลดล็อค) สิ่งที่ต้องการ ยิ่งวิจัยไกลออกไปเท่าไหร่ แต้มวิจัยก็ยิ่งต้องใช้มากขึ้น หากอยากวิจัยให้ครบ บอกเลยว่า เล่นวันเดียวไม่พอ !
จ้างพนักงาน
Janitor (ภารโรง) คือคนงานในเกม Let’s Build a Zoo ทำงานทุกอย่างตั้งแต่ให้อาหาร เก็บขยะ ทำความสะอาดกรงสามารถจ้างได้แค่คนเดียวตอนต้นเกม หากสวนสัตว์กว้างเกินไป จัดวางตำแหน่งสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ไม่เป็นระเบียบ Ranking ของสวนเราจะต่ำเพราะคะแนนน้อยลง
ผู้เล่นสามารถประกาศหาพนักงานใหม่ที่มีดาวเยอะ ค่าสเตตัสดีขึ้นได้ จากการประกาศรับสมัครพนักงานใหม่ ยิ่งประกาศหลายทางยิ่งเปลืองแต่ก็ทำให้มีโอกาสได้ผู้สมัครดาวเยอะได้ง่ายขึ้น แลกมากับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
Salary (เงินเดือน) ของพนักงาน ควรให้ในระดับไม่ต่ำกว่าตลาดแรงงานจนเกินไป เงินเดือนส่งผลต่อ Job Satisfaction ความพอใจในงานโดยตรง หากค่านี้ต่ำ ค่า Politeness (ความสุภาพ) และ Worlk Ethic (จรรยาบรรณ) จะลดลง ส่งผลให้คุณภาพการบริการลูกค้า, การดูแลสวนสัตว์ ตกต่ำลงไปด้วย
ในกรณีที่ Job Satisfaction ลดต่ำลงมากเกินไป พนักงานคนมีโอกาสลาออกได้ ในช่วงที่คนงานขาดแล้วเรากำลังประกาศรับคนใหม่นั้น บอกได้เลยว่า สวนสัตว์เราจะรกเป็นรังหนูเลยแหละ
การบริหารรายได้
เกม Let’s Build a Zoo มีจุดเด่นด้านการผสมพันธ์สัตว์แปลก ๆ ก็จริง แต่คอนเทนท์ด้านการบริหารสวนสัตว์ก็จัดเต็มเช่นกัน เพราะเงินถือเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาสวนสัตว์ให้เติบโต รายได้หลักของเรามาจากการขาย Ticket (ตั๋วเข้าชม) ยิ่งเราแต่งสวนได้สวย มีสัตว์หายากมาก เราก็ยิ่งเพิ่มราคาตั๋วได้มากขึ้น สิ่งที่ต้องระวังคือ คนจะซื้อตั๋วน้อยลง ถ้าคุณภาพของสวนสัตว์เราไม่คุ้มกับราคาของตั๋วที่ตั้งไว้
เมื่อลูกค้าซื้อตั๋วเข้ามาในสวนแล้ว เรายังมีวิธีหารายได้อย่างอื่นอีก เช่น การตั้งร้านขายของที่ระลึก (Gift Stand) , ร้านขายของกิน (Hot Dog Shop) หรือว่าจะตั้งตู้ขายเครื่องดื่ม (Cola Vender) , ขนมอัตโนมัติ (Snack Vendor) เอาไว้ เพื่อดึงเงินจากลูกค้าที่เดินชมสวนสัตว์ก็ได้เช่นกัน
หลังจากเล่นไปซักพัก เราต้องใช้เงินหลักพัน หลักหมื่น ในการซื้อรถบัส เปิดสถานีรถไฟใต้ดิน ซื้อสัตว์ใหม่ ฯลฯ ดังนั้นการมองหาช่องทางหาเงินเอาไว้เสมอ จะช่วยให้เราเล่นเกมนี้ได้ง่ายขึ้น
การผสมพันธ์สัตว์
สุดยอดความสนุกของ Let’s Build a Zoo คือการผสมพันธ์สัตว์นี่แหละ เมื่อเลี้ยงสายพันธ์เดียวกัน ตัวผู้+ตัวเมีย เอาไว้ในกรงเดียวกัน มันจะผสมพันธ์กันแล้วออกลูกมา ตัวลูกไม่จำเป็นต้องเหมือนพ่อ-แม่เสมอไป มันมีโอกาสได้ตัวหายากที่มีลักษณะต่างไปจากพ่อแม่ด้วย
หลังจากได้ตัวหายากมาแล้ว ให้เอาตัวหายากนั้นไปผสมกับตัวก่อนหน้า เพื่อผลิตลูกตัวหายากใหม่ ๆ พยายามเก็บสะสมให้ได้ครบทุกแบบ เพื่อเอาสายพันธ์ DNA 100% การปลด DNA ตรงนี้ เราปลดเพื่อใช้ผสมข้ามสายพันธ์ต่อไป
สร้างห้อง Crispr Splicer (ตามภาพ) เพื่อใช้ผสมสัตว์ข้ามสายพันธ์ การสร้างสัตว์ข้ามสายพันธ์นับแสนแบบเริ่มต้นที่นี่ ขอแค่มี DNA 100% ของสองสายพันธ์ และนี่เองคือฟีเจอร์เด่นที่สุดของเกม Let’s Build a Zoo !
ซื้อเกม Let’s Build a Zoo ! บน Steam ได้ที่นี่
The Review
Let's Build a Zoo
Let's Build a Zoo รีวิว ตัวเกมแบบสั้น ๆ ได้ว่า นี่คือเกมสร้างสวนสัตว์ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถผสมสัตว์แปลก ๆ ออกมาได้นับแสนแบบ !