Naraka : Bladepoint ตัวเกมกำลังจะเปิดให้เข้าเล่นทดสอบในช่วง Final Beta Test ภายในวันที่ 16 มิถุนายน (ตามเวลาบ้านเราจะเปิด 17 มิถุนายน) นี้แล้ว ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจว่าหลายคนอาจยังไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับเกมนี้มากนักเท่าไหร่
ในบทความนี้ผมเลยจะมารวบรวม สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเล่น Naraka : Bladepoint กันนั่นเอง เผือหลายคนจะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าเกมนี้เป็นอะไรยังไง เอาเป็นว่าเรามาเริ่มเลยดีกว่าครับ
Naraka : Bladepoint คือเกมอะไร?
Naraka เป็นเกมแนว BattleRoyale ที่มีดึงเอาธีมของ “จอมยุทธ์” เข้ามาใช้เป็นเนื้อหาหลักภายในเกม โดยเป็นผลงานการสร้างของทาง 24 Entertainment สตูดิโอสร้างเกมประจำประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันตัวเกมจะมีการลงให้กับแพลตฟอร์มของ PC อย่างเดียวเท่านั้น ผ่านทางหน้าร้านค้า Steam และ Epic Games Store นั่นเองครับ
เนื้อเรื่องภายในเกมจะว่าถึง “หมู่เกาะแห่งปัญญา (Isle of Morus)” สถานที่ซึ่งเคยเป็นสนามรบของเหล่าทวยเทพเมื่อครั้งกาลก่อน ด้วยสงครามในครั้งได้ทำให้เทพเจ้าหลายองค์ต้องตายลงก่อนจะล่วงหล่นสู่ดินแดนแห่งนี้ ส่งผลให้ดินแดนแห่งนี้เปรียบเสมือนดินแดนลับแลแห่งหนึ่งอันเต็มไปด้วยภัยอันตรายและสิ่งลี้ลับทั้งหลายแหล่
แต่กลับมีข่าวลือว่าหมู่เกาะแห่งนี้มีสมบัติลํ้าค่าอยู่ถึงสองชิ้นด้วยกันคือ ดอกไม้แห่งความอมตะ (Immotal Flower) และ หน้ากากแห่งความนิรันด์ (Mask of Immortality) เชื่อว่าหากใครครอบครองสองสิ่งนี้จะทำให้ผู้นั้นไม่มีวันตายและแข็งแกร่งเหนือผู้ใด ซึ่งข่าวลือดังกล่าวได้ดึงดูดเหล่าจอมยุทธ์ทั่วหล้าให้มายังสถานที่แห่งนี้ ส่งผลให้มันได้กลายมาเป็นสนามรบที่นองไปด้วยเลือดอีกครั้งนึงนั่นเอง
ระบบการต่อสู้
อย่างที่ผมได้เกลิ่นไปก่อนหน้านี้ว่าเกมนี้เป็นธีมของ “เหล่าจอมยุทธ์” ดังนั้นอาวุธภายในเกมคงไม่มีการควงปืนวิ่งไล่ยิงกันหรอกจริงไหม? ถายใน Naraka รูปแบบการเล่นจะเน้นเข้าต่อสู้วงในเสียมากกว่า ถึงแม้จะมีอาวุธระยะไกลแต่เนื้อหาหลักก็ยังอยู่ที่การต่อสู้ระยะประชิดเป็นหลัก
ตัวเกมค่อนข้างไวอยู่สักหน่อย แถมยังเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนอย่างอิสระ จะปีนต้นไม้ ไต่ภูเขา หรือวิ่งไปบนหลังคาบ้านต่างๆ ก็ทำได้ง่ายๆ ใครชื่นชอบเกมที่มีความรวดเร็วอิสระแล้วล่ะก็ Naraka นี่ล่ะตอบโจทย์ได้ดีเลย
ตัวละครภายในเกม
ความน่าสนใจอีกอย่างนอกเหนือจากระบบการต่อสู้ภายในเกมนั่นก็คือ “ระบบตัวละคร” ภายในเกมจะมีการให้เราเลือกตัวละครก่อนลงสนามเสมอ โดยพวกเขาแต่ละคนจะมีสกิลและท่าไม้ตายแตกต่างกันไป แถมยิ่งเราเล่นไปได้เรื่อยๆ เราสามารถเก็บแต้มมาเพื่อปลดท่าเพิ่มเติมให้กับเขาได้อีกด้วยนะ
อย่างเช่นตัวสาวสวยผู้สวมผ้าปิดตาแดง Viper Ning ที่ท่าไม้ตายของเธอสามารถสตันศัตรูรอบๆ ตัวได้หากครบเงื่อนไข หรืออย่างหลวงพี่ Tianhai ที่สามารถกลายร่างเป็นยักษ์มาไล่กระทืบผู้เล่นอื่นได้เป็นต้น
อาวุธทั้งหลาย
อาวุธภายในเกมนี้มีการแบ่งแยกออกเป็นสองประเภทด้วยกันคือ “อาวุธตีใกล้” และ “อาวุธตีไกล” ซึ่งมีการแบ่งแยกออกเป็นระดับความหายากต่างๆ จำแนกได้โดยการดูสีพื้นหลังของอาวุธเอง นอกจากนี้อาวุธทุกชนิดจะมีค่า “ความคงทน” ยิ่งใช้มากเท่าไหร่ยิ่งลดเมื่อนั้น อาวุธตีใกล้เมื่อความคงทนหมดยังใช้สู้ได้อยู่แต่ดาเมจจะเบาลงอย่างเห็นชัดเลย สำหรับอาวุธตีไกลจะไม่สามารถใช้งานได้อารมณ์เดียวกับกระสุนหมดนั่นเองครับ โดยเราสามารถไล่หากล่องซ่อมเพื่อมาเพิ่มค่าความคงทนได้ไม่จำเป็นต้องโยนทิ้งแต่อย่างใด
ไม่เพียงเท่านั้นในส่วนของอาวุธตีใกล้แต่ละชนิดจะมีท่าคอมโบแตกต่างกันไปตามประเภทของอาวุธ ทำให้อาวุธเหล่านี้จึงมีความแตกต่างกันพอสมควรไม่ได้ต่างกันเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนเกมอื่นๆ โดยในตอนนี้อาวุธตีใกล้ที่มีในเกมก็ได้แก่ ดาบใหญ่, กระบี่ และ ดาบคาตานะ ซึ่งทางตัวเกมเผยออกมาแล้วว่าเมื่อเปิดบริการเต็มรูปแบบยังจะมี “หอก” เพิ่มเข้ามาใหม่ด้วย
หยก Jade เพิ่มความสามารถ
นอกเหนือจากคอยวิ่งเก็บชุดเกราะ เก็บอาวุธ อีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้เรามีโอกาศชนะได้สูงขึ้นมากเลยก็คือ “หยก” หรือ “Jade” นั่นเอง ซึ่งไอเทมเหล่านี้มีความสำคัญมากเลยทีเดียวด้วยว่าหยกเหล่านี้จะคอยเพิ่มความสามารถต่างๆ ให้กับตัวเราไม่ว่าจะ เพิ่มพลังชีวิต กินยาไว เพิ่มพลังต้านทานอาวุธตีใกล้ ไปจนถึงจิปาถะอีกมากมายเลย
ไม่เพียงเท่านั้นหยกเหล่านี้ยังมีแบบพิเศษที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับอาวุธเราอีกด้วย เรียกว่าเป็นไพ่ตายในการต่อสู้เลยก็ได้ล่ะนะ ยกตัวอย่างเช่นทำให้ดาบใหญ่เวลาฟันในแต่ละครั้งจะมีธาตุไฟออกมาและโอกาศทำให้ศัตรูติดสถานะเผาไหม้ ทำให้ท่าชาร์จฟันของกระบี่หลังปล่อยออกไปแล้วจะมีคลื่นดาบโผล่ตามทางที่เราฟันไปและทำดาเมจเป็นช่วงเวลา หรือแม้แต่หยกที่ทำให้หน้าไม้กลสามารถยิงลูกศรออกมาเป็นพิษได้เองก็ตาม
เป็นสีสันช่วยทำให้ตัวเกมสนุกมากเลยทีเดียวล่ะสำหรับหยกพวกนี้ ดังนั้นถ้าเข้าไปเล่นแล้วอย่าสนใจแค่อาวุธกับเกราะเท่านั้นล่ะ คอยวิ่งมองหาหยกพวกนี้ไว้ด้วยก็ดีนะ
Grappling Hook สารพัดประโยชน์
Grappling Hook หรือแปลว่า “ตะขอเกี่ยว” อุปกรณ์เสริมที่เราสามารถเก็บมาใช้ภายในเกมได้ โดยตะขอเกี่ยวเหล่านี้เราสามารถใช้เพื่อเคลื่อนไปยังจุดต่างๆ อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะใช้ปีนขึ้นที่สูง พุ่งไปตำแหน่งที่เดินไม่ได้ หรือแม้แต่ใช้หลบหนีกรณีสู้ไม่ไหวเองก็ตามที
แถมตะขอเหล่านี้เรายังสามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการต่อสู้ได้ด้วยนะรู้รึเปล่า หากเราเปลี่ยนเป้าหมายเป็น “ผู้เล่น” แทน เมื่อเราใช้ตะขอใส่ศัตรูเป้าหมายจะถูกตรึงไว้อยู่กับที่ช่วงเวลาหนึ่งก่อนดึงเราเข้าไปหา ซึ่งถ้าเราเลือกใช้ถูกจังหวะเราสามารถใช้เพื่อหยุดคอมโบของอีกฝ่าย แถมยังใช้กันไม่ให้อีกฝั่งหนีไปไหนได้อีกต่างหาก นับว่าของดีเลยล่ะสำหรับ Grappling Hook นี่น่ะ
โอกาศครั้งที่สองในเกม Naraka : Bladepoint
หากเริ่มเกมปุป ลงถึงสนามปัป แล้วโดนตีแตกขึ้นมา ผมอยากแนะนำว่าอย่าพึ่งรีบกดออกเกมนะ เพราะภายใน Naraka เปิดโอกาศให้ผู้เล่นที่ตายไปแล้วสามารถฟื้นคืนกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง โดยการไปยังสัญลักษณ์ “ดอกบัว” ซึ่งกระจายอยู่ตามแมพเมื่อเปิดใช้งานเจ้าดอกบัวพวกนี้ก็จะนำเรากลับมาลงสนามอีกครั้งนึง
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราสามารถใช้งานดอกบัวพวกนี้ได้ตลอดนะ เพราะหลังจากที่วงแรกบีบเสร็จเมื่อไหร่พวกมันจะหยุดทำงานทันที ดังนั้นคอยเช็คคอยสังเกตกันไว้ด้วยล่ะ ไม่อย่านั้นเผลอคิดว่ามีชีวิตที่สองอยู่แล้ววิ่งบวกอย่างเดียวถึงเวลาเอาเข้าจริงได้ตายยาวแน่ๆ
ระบบรูน Glyph ของ Naraka : Bladepoint
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยทำให้เราปรับแต่งความสามารถของตัวละครเราได้คือการใช้งาน Glyph มีการทำงานคล้ายคลึงกับระบบรูนในเกมจำพวก MOBA ซึ่งมีการบวกค่าสถานะต่างๆ แตกต่างกันไปตามชิ้นนั้นๆ เช่นบางอันช่วยเพิ่มทำให้ท่าไม้ตายเราใช้งานได้ไวขึ้น เพิ่มระยะของ Grappling Hook เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ และอื่นๆ อีกมากมาย
เป็นระบบที่ช่วยทำให้แตกต่างจากผู้เล่นอื่นๆ และสามารถสร้างสไตล์ในแบบของตัวเองได้ ฟังดูยังงี้มันอาจดูโกงอยู่สักหน่อยแต่ค่าสถานะที่เพิ่มมานั้นไม่ได้เวอร์วังอะไรมาก มีการเพิ่มมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเองไม่เกิดผลกระทบอะไรมากขนาดนั้น ดังนั้นไม่ต้องกังวลกันไปแต่อย่างใด
ปรับแต่งหน้าตาตัวละครได้ด้วยนะ
สำหรับฟีเจอร์ของนี้ไม่ได้มีผลกับทางด้านเกมเพลย์อะไรเลย แต่ผมว่าน่าจะถูกใจสายแต่งตัวไม่ก็สายแฟร์ชั่นกันไม่น้อยล่ะนะ เพราะรู้รึเปล่าว่าต่อให้เราเล่นฮีโร่หรือตัวละครเดียวกับคนอื่น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเหล่านั้นจะมีหน้าตาเหมือนเราสักหน่อย
ภายในเกมมีฟังค์ชั่นให้เราสามารถปรับเปลี่ยนหน้าตาตัวละครได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะลักษณะลูกตา จมูก ใบหู ริมฝีปาก ไปจนถึงทรงผม สีผม และสีผิวอีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่านี่เป็นจุดเรียกเสียงฮาได้ดีทีเดียว เพราะบางครั้งเราก็จะเห็นเอเลี่ยนตัวเขียวบ้าง ตัวสีฟ้าบ้าง วิ่งมาไล่ตีเราด้วย เอาจริงๆ มันตลกไม่น้อยเลยล่ะนะ ถ้าเกิดตัวเกมเปิดเมื่อไหร่ลองแวะไปปรับกันดูบ้างล่ะ
เป็นข้อมูลคร่าวๆ ที่ผมนำมาให้เพื่อนๆ เรียนรู้ก่อนจะได้ลงสนามจริง อย่างน้อยพอเข้าไปในเกมแล้วเราพอจะได้เปรียบผู้เล่นคนอื่นบ้าง หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กันไปไม่มากก็น้อยนะครับผม
ดาวน์โหลดเกม Naraka : Bladepoint ได้ที่นี่