ถ้าพูดถึงเกมมือถือที่เป็นกระแสในตอนนี้แล้ว Ni no Kuni: Cross Worlds จากทาง NetMarble น่าจะเป็นหนึ่งในเกมที่หลายคนกำลังพูดถึงกันอย่างแน่แท้ ซึ่งตัวเกม Ni no Kuni เองนั้นก็เป็นหนึ่งในซีรี่ย์เกมที่เคยถูกเรียกว่าเกมยอดเยี่ยมมาก่อนหน้านี้แล้วไม่ว่าจะด้วยงานภาพ รูปแบบการเล่น ตัวเซ็ตติ้งของโลกและเรื่องราวก็ตาม ทำให้หลายคนคาดหวังกับตัวเกม Ni no Kuni: Cross Worlds กันอยู่ไม่น้อย ในบทความนี้ก็จะมา รีวิว เกี่ยวกับตัวเกมกันซักหน่อยว่าเป็นอย่างไร จากที่ได้เข้าไปสัมผัสโลกนี้มา บอกได้ว่า “ตระการตาน่าดูชม” เลยล่ะ
รีวิว Ni no Kuni: Cross Worlds
ตัวเกมภาค Ni no Kuni: Cross Worlds เป็นเกมภาคล่าสุดของซี่รี่ย์หลังจากที่มีการทำมาหลายต่อหลายภาค (โดยในมือถือเองก็เคยมีมาแล้วสองภาคด้วยกัน) ซึ่งทีมงานพัฒนาก็เป็นทาง NetMarble ร่วมกับทาง Level-5 โดยใช้ Unreal Engine 4 และแน่นอนที่ขาดไม่ได้คือความเป็น Ni no Kuni ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง ตัวละคร สภาพแวดล้อมที่ดูสวยงามตามสไตล์ของ Studio Ghibli รวมถึงเพลงประกอบจากนักแต่งชื่อดังรวมเป็นเกมมือถือฟอร์มใหญ่ Nino Kuni: Cross Worlds นั่นเอง
ทางด้านของตัวเกมนั้น ก็จะเป็นเกม Action RPG แบบ Free to play ที่มีเนื้อเรื่องน่าติดตาม มีจุดหักมุมทิ้งปมน่าสนใจเป็นระยะ มีอะไรให้ผู้เล่นได้สำรวจนอกเหนือไปจากการเล่นตามเนื้อเรื่องหรือดันเจี้ยนต่างๆ รวมไปถึงระบบมากมายที่จะทำให้เพื่อนๆ สามารถใช้เวลากับตัวเกมนอกเหนือไปจากการตีมอนสเตอร์ได้อย่างเต็มอิ่มจุใจแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลี้ยงเหล่าน้อนๆ อิมาเจนก็ดี หรือจะเป็นเรื่องของอาณาจักรและมินิเกมก็ตามที
เนื้อเรื่อง
ด้านเนื้อเรื่องของตัวเกมนั้นจะเล่าถึงการที่ตัวละครหลักเป็นผู้เล่น Beta tester ในเกม VR ชื่อว่า Soul Diver ตัวเกมนี้ก็จะพาผู้เล่นเข้าสู่โลกแห่ง Ni no Kuni แต่ทว่าหลังจากที่ได้เข้าไปนั้น ตัวเอกก็ได้เจอกับ AI คนหนึ่งที่ชื่อว่า Rania ที่มาติดต่อก่อนที่ระบบของเกมจะมีปัญหาและทำให้ผู้เล่นเสียการเชื่อมต่อกับตัวเกมไป
หลังจากนั้นก็พบว่าตัวเองได้ตื่นมาอยู่ท่ามกลางเมืองที่กำลังลุกไหม้ และถูกมอบหมายให้รีบไปช่วยเหลือองค์ราชีนีที่กำลังมีภัย แต่ทว่าเมื่อเราไปถึงนั้นก็พบว่าตัวองค์ราชีนีนั้นก็แทบจะเป็นเหมือนกับตัวละคร AI Rania ที่เราพึ่งเจอมาหยั่งกับเป็นฝาแฝดเลยก็ว่าได้!?
การจะช่วยองค์ราชีนีให้สำเร็จแล้วจบเกมขึ้นเครดิตเลยมันก็คงง่ายไป เราได้ถูกฝากฝังจากองค์ราชีนีก่อนถูกพาตัวหลบหนีอันตรายออกมาได้ การเดินทางเพื่อหาทางกอบกู้อาณาจักรที่กำลังมีภัยจึงได้เริ่มต้นขึ้น อย่างไรก็ตามในระหว่างทางเราก็ได้พบว่าในโลกของ Ni no Kuni นั้นค่อนข้างจะปั่นป่วนจากสิ่งที่เรียกว่า Chaos รวมถึงกลุ่ม “คนนอก” ที่เรียกตัวเองว่าเป็น “เพลย์เยอร์” ทำอะไรตามใจให้ชาวเมืองในโลกนี้วุ่นวายไปหมด แล้วเรื่องราวมันจะอีรุงตุงนังยังไงกันต่อไปนะ!?
งานภาพ ตัวละครต่างๆ
อันนี้ก็ต้องบอกเลยว่าถ้าจะสรุปสั้นๆ คืองานดี ตามสไตล์ของ Ni no Kuni สมเป็น Studio Ghibli เลยจริงๆ กราฟิกในเกมนั้นทำออกมาได้สวยงาม สภาพแวดล้อมในเกมถูกออกแบบมาให้ดูมีความลงตัว ไม่รกหรือโล่งจนเกินไป รู้สึกตื่นตาตื่นใจเวลาวิ่งผ่าน ทำให้ผู้เล่นอย่างเราๆ รู้สึกว่ามันแลดูมีความน่าสนใจ น่าออกนอกลู่นอกทางไปสำรวจเล่นเป็นอย่างมาก เพลงประกอบก็ไม่ต้องว่ากันมากความ งานดีไม่ต่างกันเลยทีเดียวล่ะ
ด้านตัวละครต่างๆ ก็ยังคงความเป็น Ni no Kuni ได้ดี ตัวละครสำคัญๆ ต่างๆ นั้นมีความหลากหลายของอุปนิสัยและเสน่ห์ของตัวเอง ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าพวกเขาเป็นแค่ NPC ที่มีบทพูดแบบงั้นๆ เหมือนกันไปหมด แม้แต่ในส่วนของระบบการเล่นอย่าง อิมาเจน (คล้ายกับสัตว์เลี้ยงผู้ช่วย) หรือสัตว์ขี่เองก็มีการออกแบบที่น่ารักน่าหยิกใช้ได้เลย ระหว่างที่เล่นเนื้อเรื่องเองก็มี Cut Scene ต่างๆ ประกอบเป็นระยะๆ ให้เราได้ดูเปลี่ยนอรรถรสด้วย (ถ้าใครไม่ชอบก็กดข้ามได้ด้วยนะเอ้อ)
เกมเพลย์
ในด้านของเกมเพลย์นั้น ตัว Ni no Kuni: Cross Worlds ก็ทำออกมาในรูปแบบของเกม action RPG ได้อย่างลงตัว ตัวละครจะค่อยๆ เล่นไปตามเนื้อเรื่องหลักของเกม แน่นอนว่าศัตรูที่เจอก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ ให้เราต้องพัฒนาตัวละครให้สามารถลุยต่อได้ไหว (ในช่วงแรกจะชิวๆ กดไปเรื่อยๆ ได้เลย) เมื่อเล่นไปตัวเกมก็จะค่อยๆ แนะนำระบบที่ช่วยในการพัฒนาตัวละคร หรือระบบที่เกี่ยวข้องกับการเล่นออกมาอย่างช้าๆ แต่ต่อเนื่องตลอดระยะเวลาหลายชั่วโมงแรกในการเล่นเลยล่ะ ทำให้นอกเหนือจากการเล่นตามเควสและฟาร์มเลเวล เราก็มีอะไรให้ทำเยอะแยะไปหมด
การต่อสู้นั้นผู้เล่นจะสามารถที่จะกดโจมตี เลือกใช้สกิล หรือขยับตัวหลบหลีกท่าโจมตีอันตรายๆ ของบอสได้ รวมถึงระบบปลีกย่อยอย่างเช่นค่าสถานะ หรือธาตุในตัวอาวุธก็ทำให้มีอะไรที่เราต้องคิดระหว่างสู้อยู่ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แม้ว่าในส่วนของการสู้กับมอนสเตอร์ทั่วไปเราจะไม่ได้จำเป็นต้องคิดมากเท่าไหร่ (ยกเว้นเปลี่ยนธาตุให้จัดการได้ไวขึ้น) แต่พอเล่นไปเลเวลสูงขึ้นซักหน่อย ยืนชนบอสแบบไม่แคร์สื่อนี่ลงไปกลิ้งเป็นลูกขนุนแน่นอนจ้า
เพื่อตอบรับกับแนวทางการเล่นเกมมือถือแบบปัจจุบัน ตัวเกมก็ได้ทำส่วนของระบบออโต้มาให้เราใช้ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยพาเราไปยังเป้าหมายของเควส หรือช่วยกำจัดมอนเควสผ่านระบบ AI ช่วยต่อสู้ ทำให้เราสามารถเล่นได้ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก และแน่นอนก็ไม่ใช่ว่าเราจะออโต้ไปได้ทุกอย่าง เพราะในส่วนของพวกเนื้อหาที่หนักขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดันเจี้ยน ลงบอสอะไรพวกนี้จะต้องเล่นด้วยตัวเองอยู่ (มันออโต้ได้แหละ แต่ผลประกอบการจะออกมายังไงก็แล้วแต่ความโหดของตัวละครล่ะเอ้อ)
การมีระบบออโต้ก็จะมาพร้อมกับส่วนของพลังต่อสู้หรือ CP – Combat Power ที่เป็นการประเมินคร่าวๆ ว่าเราสามารถลุยเนื้อหาส่วนนี้ได้ไหวไหมให้ด้วยเช่นกัน
มีอะไรมากมายให้ได้สำรวจและสะสม
นอกจากในส่วนเนื้อเรื่องและระบบดันเจี้ยนแล้ว ตัวเกมก็ยังมีส่วนแผนที่ที่แอบซ่อนของเล็กๆ น้อยๆ ให้เราได้สำรวจเล่นอีกด้วย ไม่ได้เป็นแค่พื้นที่สำหรับเดินไปตามเนื้อเรื่องเฉยๆ เพียงอย่างเดียว ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ถึงกับเป็น open world แท้ๆ ที่มีดันเจี้ยนแอบซ่อนหลังน้ำตก มี NPC ขึ้นต้นไม้กลางป่าลึกแล้วลงไม่ได้ หรือมีปริศนาที่ต้องทำสามทิศขอบโลกเพื่อเปิดกล่องสมบัติ แต่ก็ยังมีจุดชมวิวต่างๆ หรือมีพวกหีบสมบัติให้ได้ค้นหา เมื่อรวมกับทัศนีภาพในเกมที่สวยงามแล้ว บางทีแค่เข้าแผนที่ใหม่ตามเนื้อเรื่องก็อยากกดวิ่งเล่นสำรวจก่อนทำเนื้อเรื่องได้เลยล่ะ จุดชมวิวที่เกมทำมาให้น่ะ ไม่ได้เท่ากับจุดที่เราจะชอบที่สุดหรอกนะ! (ความเห็นส่วนบุคคล)
การได้สำรวจหรือสะสมของต่างๆ ในเกมนั้นไม่เพียงแต่ให้ของตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ จากการที่ไปเจอเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้ตัวละครของเพื่อนๆ มีค่าสเตตัสเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยอีกด้วย ทำให้ยิ่งเราออกค้นหาเจอสิ่งต่างๆ มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ตัวละครของเราเติบโตทางอ้อมได้มากขึ้น แม้จะไม่ถึงกับว่าเจอแล้วจะเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่ก็ช่วยได้อยู่ และอาจจะเป็นค่าตอบแทนที่เกมเมอร์หลายๆ คนชอบด้วยเช่นเดียวกัน เพราะไม่ได้มีแค่มูลค่าทางจิตใจอย่างเดียว (หรือได้ไอเทมที่ไม่ได้ใช้) แต่ก็ได้มูลค่าการเติบโตตัวละครนิดหน่อยติดตัวกันไป
การพัฒนาตัวละคร
ตัวเกมมีอาชีพ(ตัวละคร)ให้เลือกตั้งแต่เริ่มต้นเลย 5 ตัวละครด้วยกัน ประกอบไปด้วย Destroyer (สายบู๊แหลก), Engineer (สายสนับสนุน), Rogue (สายยิงไกล), Swordsman (สายสมดลุย์), Witch (สายเวทย์ถล่ม) ซึ่งหลังจากเลือกแล้วเราก็จะสวมบทบาทเล่นเป็นตัวละครนั้นกันไปยาวๆ เลยทีเดียว (เปลี่ยนเพศไม่ได้ แต่ยังปรับแต่งสีผม ทรงผม ชุดที่ใส่เป็นคอสตูมต่างๆ อะไรได้อยู่)
ด้วยความที่ตัวละครนั้นหลักจากเลือกแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (ยกเว้นเล่นตัวใหม่) ทำให้สกิลอะไรต่างๆ ก็จะค่อนข้างตายตัวอยู่ หลักๆ แล้วตัวเกมจึงเน้นให้เราพัฒนาตัวละครของเราให้เก่งขึ้นผ่านทางการอัปเกรดอุปกรณ์ต่างๆ หรือใช้สัตว์เลี้ยงที่เรียกว่า อิมาเจน ในการเพิ่มค่าสเตตัสและช่วยต่อสู้ รวมไปถึงการเก็บเลเวลเพื่ออัปเกรดแรงค์คลาสให้สูงขึ้นไป ก็บอกได้เลยว่าอุปกรณ์กับสัตว์เลี้ยงเนี่ย มีอะไรให้เราทำเพื่ออัปเกรดให้โหดขึ้นเยอะมาก จะเป็นการตีบวก การเลื่อนขั้น การใส่ของเล่นให้สัตว์เลี้ยง ฝึกฝนพวกมัน… เยอะใช้ได้เลยล่ะ
นอกเหนือจากการอัปเกรดอุปกรณ์หรือสัตว์เลี้ยงแล้ว การสะสมไอเทมหรือสำรวจสิ่งต่างๆ ที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านั้นก็ช่วยเสริมความเก่งให้กับตัวละครของเราได้เช่นเดียวกัน แถมตัวเกมเองก็ยังมีพวก guideline อะไรต่างๆ ให้อย่างเช่นจุดชมวิวก็มีภาพคร่าวๆ ให้เราเดาว่า เอ๊ มันจะอยู่ตรงไหนนะ หรือคู่มืออัศวินที่บอกใบ้ว่าเราจะต้องทำอะไรต่อไปหลังจากที่เริ่มเกมมาได้ซักพักแล้ว (ไม่บอกแต่แรกด้วยนะเอ้อ) หีบสมบัติบางจุดก็เป็นหีบที่ล็อคไว้เลยว่านี่เป็นหีบที่ถ้าไขปริศนาเล็กๆ น้อยๆ จะเจอ ก็เอารางวัลความสำเร็จไป ทำให้ต่อให้เรารู้สึกว่าไม่รู้จะอัปตัวละครยังไงแล้ว ก็ยังเดินเล่นชมนกชมไม้ สำรวจพื้นที่เพื่อเก็บค่าสเตตัสทางอ้อมได้อีกด้วย
สัตว์เลี้ยงสุดน่ารัก อิมาเจน
อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในเกมนี้ก็คงไม่พ้น อิมาเจน หรือสัตวเลี้ยงที่เราจะได้เจอในเกมนี้ ถ้าว่าในด้านเกมเมอร์แล้ว ก็เป็นอีกหนึ่งในระบบที่ช่วยเพิ่มค่าสเตตัสให้กับตัวละครหลักได้ แต่ละตัวนั้นก็มีสกิลเฉพาะตัว มีค่าสเตตัสของตัวเอง ธาตุและระดับความหายาก สามารถนำมาพัฒนาเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกมันได้ หน้ำซ้ำยังสามารถพาไปช่วยสู้ได้พร้อมกันถึงสามตัว ทำให้เรามีตัวเลือกในการใช้งานน้อนๆ ให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้มากกว่าที่คิด
แต่สำหรับเกมนี้มันมีมากกว่าแค่หน้าเด๋อ เอ้ย น่ารักช่วยสู้ได้ เพราะตัวเกมได้ใส่ระบบที่ให้เหล่าอิมาเจนได้ใช้งานกันอย่างเต็มที่อีกด้วย อย่างเช่น ป่าของอิมาเจน ที่เป็นการใช้แรงงาน(?)น้อนๆ เยี่ยงฟาร์ม สำหรับหาไอเทมชนิดต่างๆ หรืออย่างระบบ อิมาเจนผจญภัย ที่ส่งน้อนๆ ไปถล่มพื้นที่ต่างๆ หาทรัพยากรให้เราได้ใช้เพิ่มเติม เรียกว่านอกจากจะต้องพัฒนาตัวละครแล้ว เหล่าสัตว์เลี้ยงเองก็ขอด้วย แล้วจะตอบแทนเจ้านายถึงใจกันไปเลยว่างั้น
สรุปโดยรวมรีวิว Ni no Kuni: Cross Worlds
จากที่ได้ลองเล่นมาอย่างเมามันนั้น ก็ต้องบอกได้ว่าตัว Ni no Kuni: Cross Worlds นั้นเป็นอีกหนึ่งในเกมมือถือฟอร์มใหญ่ที่ตั้งใจจะเข้ามาตีตลาดโดยทาง NetMarble พร้อมกับความน่าตื่นตาตื่นใจของงานภาพที่ดี เนื้อเรื่องที่น่าสนใจ ตัวละครมีเสน่ห์ มีเกมเพลย์แบบที่คุ้นเคยกันของเกมมือถือแต่ไม่ได้เป็นออโต้จ๋าไปซะหมด ยังมีอะไรที่เราต้องฟาดฟันกันเอง และมีส่วนของ Open World และการสะสมสิ่งต่างๆ ให้สายสะสมหรือสายสำรวจได้ค้นหากันมากมายด้วย
ถ้าว่ากันถึงข้อเสียแล้วก็น่าจะอยู่ที่แม้จะมีเรื่องของการ action แต่ส่วนมากเราก็จะได้ยืนแลกกับมอนทั่วไปมากกว่า มี action จริงๆ ก็ตอนสู้บอสหรือตอนลงดันที่ต้องโฟกัสอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งแทน การตอบสนองของตัวละคร, มุมกล้องระหว่างต่อสู้นั้นไม่ค่อยรองรับกับความเร็วของการต่อสู้ได้มากพอเท่าไหร่ (ส่งผลให้เวลาตีมอนทั่วไปเราปล่อยออโต้ไปจะสบายกว่า ค่อยไปเล่นจริงตอนลงดันตีบอส)
เพื่อนๆ คนไหนที่อยากหาเกมมือถือเล่นซักเกมแบบระยะยาว มีเนื้อเรื่องสนุก ออโต้ก็ได้ เล่นเองก็ดี งานดีภาพสวยแล้ว ตัว Ni no Kuni: Cross Worlds น่าจะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าลองการันตีจากชื่อเสียงเดิมได้เลย ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจก็มีให้ดาว์นโหลดทั้งใน [ Android ] และ [ iOS ] ส่วน PC จะเป็น client จากทาง NetMarble ที่ต้องผูกไอดีกับทางมือถือก่อนถึงจะเล่นได้จ้า ขอให้สนุกกับการเดินทางค้นหาความจริงและกอบกู้อาณาจักรใน Ni no Kuni: Cross Worlds น้า
อ่านข้อมูลตัวเกมเพิ่มเติมได้ [ ที่นี่ ]