หลังจากที่ Stardew Valley ได้กรุทางให้กับเกมแนวฟาร์มทั้งหลายอย่าง Harvest Moon ให้มีที่ยืนบน PC จนกลายเป็นยุค Farming RPG บูมนั้น ก็มีผู้พัฒนาหลายต่อหลายคนเห็นช่องทางและโอกาสอันดีในการเข็นเกมของตัวเองออกมา จะด้วยความชอบหรืออยากทำเงินก็ตามแต่ อย่างที่เราได้เห็นกันเกลื่อนในตอนนี้ ซึ่งในวันนี้หมาก็จะมาขอแนะนำ Gleaner Heights อีกหนึ่งในเกมฟาร์มแนว RPG อีกตัวหนึ่งที่พึ่งคลอดได้ไม่กี่วันมานี้
Gleaner Heights นั้นถูกพัฒนาโดยคุณ Emilios Manolidis ซึ่งเป็นทีม(?)งานเพียงคนเดียว ด้วยโปรแกรม GameMaker Studio แรงบรรดาลใจของเขานั้นมาจาก Harvest Moon เช่นกัน แต่ตัวเขาอยากให้มันมีความเป็น RPG มากขึ้น และเขาไม่ชอบหรือรู้สึกว่าเกมฟาร์มที่เมืองมันดูเป็นมิตรสุตรๆ ต้อนรับทุกอย่างสดใส กุ้งกิ้งมันไม่ใช่ มันขาดอะไรอย่าง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ตัวเกม Gleaner Heights จึงแฝงไปด้วยด้านมืดของตัวเมืองและเรื่องลึกลับขึ้นมาแบบที่ไม่มีเกมฟาร์มที่ไหนทำมาก่อน
Review Gleaner Heights
ตัวเกมนั้น บรรยากาศในระหว่างการเล่นอาจจะเรียกได้ว่าให้ความรู้สึกเป็น Harvest Moon มากเลยทีเดียว ซึ่งผู้เล่นจะได้รับฟาร์มมาในตอนต้นเกมเพื่อทำการดูแล ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ สร้างความสัมพันธ์กับชาวเมือง เลือกคู่ชีวิต แต่งงาน ทุกอย่างดูแฮ๊ปปี้ประสาเกมทำฟาร์มยิ่งนัก โดยมีจุดเพิ่มเติมคือความเป็น RPG ที่ผู้เล่นสามารถตามหาหีบสมบัติตามจุดต่างๆ ใช้อุปกรณ์ชาวไร่ต่อสู้กับสัตว์ป่าหรือศัตรูในเหมือง ขุดหาแร่ สู้กับบอส
แต่ทว่าเมื่อความสัมพันธ์กับชาวเมืองเริ่มมากขึ้น ผู้เล่นจะเริ่มค้นพบว่า ในเมืองนี้นั้นไม่ได้สวยงามเหมือนดั่งเช่นเกมอื่นๆ ที่ชาวบ้านรักกันดี วิ่งเล่นเก็บดอกไม้ จัดงานเทศกาลกิ้วๆ แต่มันเป็นเหมือนกับชีวิตจริงที่ต่างคนต่างก็มีปมอยู่ในใจ รอเวลาที่มันจะประทุขึ้นมา และนั่นคือจุดขายหลักของเกมเลยทีเดียว
นี่มันเกมปลูกผัก! แบบโหดขึ้น
ถูกต้อง จุดที่เหมือนกันของเกมแนวนี้หรือจะเรียกว่า Core – ระบบหลักมันจะต้องเหมือนกัน นั่นคือผู้เล่นสามารถไปซื้อเมล็ดพืชมาจากร้านค้าด้วยเงินเริ่มต้นอันน้อยนิด ปลูก รดน้ำ รอจนมันโตไปขายได้เงินมาพัฒนาฟาร์มต่อ หรือจะไปหาสัตว์มาเลี้ยงเพิ่มผลผลิตเรื่อยๆ ตกปลา ขุดเหมือง คุยกับชาวเมืองเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ ทำกับข้าว ร่วมงานเทศกาล หาคู่ครองแต่งงานด้วยเพื่อชีวิตอันสมบูรณ์ในแบบฉบับชาวไร่ ทุกอย่างที่เป็นพื้นฐานของเกมปลูกผักนั้น Gleaner Heights สามารถมอบให้ผู้เล่นได้หมด
แต่ในระดับที่โหดขึ้นพอสมควร ราคาของแต่ละอย่าง(นอกจากเมล็ดพืชที่ถูกมาก)แล้วนั้น เรียกได้ว่าค่อนข้างแพงหูตูบ ค่า Stamina ที่สามารถดับสูญไปกับการทำฟาร์มอย่างง่ายดาย ระบบที่ถ้าเหนื่อยแล้ววันรุ่งขึ้นค่า Stamina (สูงสุด)จะหารสอง ไม่มี NPC มาจับมือสอนวิธีเล่นหรือแนะนำสถานที่ต่างๆ ให้ ไม่มีตารางแสดงหัวใจที่ชาวเมืองมีต่อเรา ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนถูกนำมาปล่อยทิ้งที่ฟาร์ม หรือไปซื้อฟาร์มร้างมาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่มากกว่า (ฮา) ซึ่งเป็นจุดที่ทางผู้พัฒนาต้องการให้เป็นคือ จะมีแค่คู่มือการเล่นให้อ่านเบื้องต้นเฉยๆ แต่นอกจากนั้นผู้เล่นต้องออกไปค้นหาด้วยตัวเองทั้งหมด เหมือนกับเกมยุคเก่าๆ กันเลยทีเดียว
…. แล้วคุณจะรู้ว่า ฝนตกเกมนี้มันไม่ได้น่าแฮ๊ปปี้นักหรอก เหอ เหอ เหอ
พร้อมกับความ RPG
เพื่อไม่ให้เป็น Harvest Moon เกินไปนั้น ตัวเกมก็ยังมีความเป็น RPG แทรกเข้ามาอยู่ครึ่งครึ่งอีกด้วย ผู้เล่นจะสามารถใช้อุปกรณ์ทำสวนของตัวเองในการใช้ต่างอาวุธ เข้าโจมตีสไลม์บ้าง สัตว์ป่าบ้าง ป้องกันตัวจากศัตรูในเหมืองบ้าง ตะลุยดันเจี้ยนบ้าง ตีบอสบ้… เฮ้ย มันไม่บ้างแล้วเฟร้ย! นั่นแหละ วิถีชาวไร่ RPG เอาค้อนเอาจอบตีหัวมอน ซึ่งก็น่าดีใจที่ทางผู้พัฒนาได้ทำให้ศัตรูและบอสนั้นต่างก็มีลูกเล่นที่น่าตบหัวทิ่มมากนัก ไม่ใช่ว่าเข้าไปเอาอาวุธตีๆ แลกกันใครของดีกว่าชนะ ไม่อ่ะ แก้ผ้าเอาค้อนต้นเกมทุบบอสตายก็ทำมาแล้ว ….. เหนื่อยเป็นบ้า
ในพื้นที่ต่างๆ ของตัวเมืองหรือดันเจี้ยนนั้น ก็จะมีหีบสมบัติซ่อนอยู่ ทั้งที่วางให้เปิดกันต่อหน้า หรือที่ซ่อนให้ผู้เล่นสังเกตุหรือหาทางเปิดให้ได้เอาเอง รวมถึงระบบเลเวลที่ได้จากการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับค่านั้นๆ และ Perk ที่สามารถ upgrade ตัวละครให้มีทักษะชีวิตทางชาวไร่หรือชาวบู๊ได้มากขึ้น ซึ่งช่วยให้เกมเล่นง่ายขึ้นและสนุกขึ้นไปเรื่อยๆ ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีปริศนาให้ผู้เล่นต้องหาทางเดาหรือลองผิดลองถูกประสา RPG ยุคเก่า บอสตัวนี้มีวิธีสู้ยังไง? ทางตรงนี้ทำยังไงถึงจะเข้าไปได้? ไอ้นี่มันอะไร? ต้องทำยังไงถึงจะเก็บได้? เรียกได้ว่าบางทีของอยู่ต่อหน้าแต่ร้อนรุ่นทำไมทำอะไรกับมันไม่ได้ ฮึ้ย~
แบบมืดๆ
มืดๆ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความมืดในเกมนะจ๊ะ แต่นั่นก็ส่วนหนึ่ง เพราะเกมนี้เวลามืด ไม่ใช่แค่ปรับโทนลงให้มืดเฉยๆ นะจ๊ะ มันมืดแบบอุเค๊!! มืดจริงจัง เดินอยู่ในป่ายังไม่ชินทางนี่ แทบจะต้องใช้ทริคเขาวงกต “เกาะกำแพงไปจนกว่าจะเจอทางออก” จริงจังมาก มัน-มืด-มาก-มาก และในเหมืองก็จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกได้เลยว่า มันไม่ปลอดภัยเพราะความมืดนี่ล่ะเฮ้ย โอเค เริ่มจะมืดนอกเรื่องละ
มืดในที่นี้นั้นหมายถึงตัวเนื้อหาของเกม ในวินาทีแรกที่ผู้เล่นเหยียบเข้ามาในฟาร์ม จะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศของตัวเกมที่อึมครึม ไม่สดใส เล่นสีฉูดฉาดเหมือนกับเกมฟาร์มอื่นๆ ที่เห็นแล้วฮ้า สดชื่น แต่มันดูเหมือนหล่นแหมะมาบนฟาร์มรกร้าง แห้งผาก (ฮา) นอกจากนี้ชาวเมืองที่คุยเล่นทักทายอย่างเป็นกันเองนั้น ต่างก็มีปมในใจของตนเอง ซึ่งเมื่อผู้เล่นเริ่มผูกมิตรกับพวกเขาได้ พวกเขาก็จะเริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวเองหรือคนอื่น รวมถึงมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นชนิดที่เรียกได้ว่า อิ๊บอ๋าย… นี่มันเกมฟาร์มแน่เหรอคุณผู้ชม! ชนิดที่ไม่ชอบก็เกลียดกันไปเลย เป็นจุดขายหลักของเกมก็ว่าได้ (ขออณุญาติไม่ spoil)
ที่ค่อยๆ เปิดเผยมากขึ้นเรื่อยๆ
ใช่… ในช่วงแรกของเกมนั้น ผู้เล่นจะถูกจำกัดแค่ในเมืองกับเหมืองเท่านั้น แต่เมื่อผู้เล่นทำการ upgrade อุปกรณ์ของตัวเองหรือพัฒนาตัวเมืองแล้ว ย่อยเข้าถึงจุดต่างๆ ได้มากขึ้น แน่นอน บางจุดก็ยังเป็นปริศนาให้ผู้เล่นหาทางปลดล๊อคทางอื่นที่ไม่ใช่การใช้กำลังอัดดื้อๆ ด้วยอาวุธชาวไร่ขั้นสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใต้น้ำ บ้านที่ปิดตาย ถ้ำที่เข้าไม่ได้
ตัวเกมนั้นก็ไม่ได้บังคับให้ผู้เล่นต้องวุ่นกับการบู๊แหลกเป็นอย่างเดียวถึงจะเข้าถึงเนื้อหาที่เหลือได้ อันที่จริงหลักๆ นั้นจะอยู่ที่ตัวชาวเมืองเสียมากกว่า เหตุการณ์ต่างๆ นั้นจะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อชาวเมืองเชื่อใจผู้เล่นมากขึ้น ซึ่งบีบบังคับให้ผู้เล่นต้องเลือกระหว่างทำสิ่งที่ถูก ทำสิ่งที่ผิด หรือช่างหัวมันไปเลยก็ดี ผลของการเลือกทางเดินของผู้เล่นกับชาวเมืองที่ผ่านมานั้น จะส่งผลต่อฉากจบที่มีอยู่หลายรูปแบบอีกด้วย
ตัวเกมก็จะมีลิมิตเวลาก่อนที่จะเข้าสู่ฉากจบแต่ละแบบอยู่ แน่นอนว่ามันไม่ได้เร็วปรู้ดปร๊าดจนต้องกังวลว่าจะไม่ทันหรอก อย่างน้อยก็หลังสองปีนั่นแล ซึ่งแม้ว่าเกมจะจบแล้ว แต่ผู้เล่นก็ยังคงทำฟาร์มเล่นต่อได้อยู่ดีน่อ เพราะงั้นจะบอกว่ามันเป็นเกมที่ให้ทำฟาร์มเรื่อยๆ ดั่งเกมแนว Sim **** ก็คงจะไม่ใช่ ….. มันก็ไม่ใช่ตั้งแต่เห็นฉากมืดๆ นั่นแล้วไม่ใช่เรอะ!!!
สรุป Review Gleaner Heights
ส่วนตัวแล้ว หลังจากที่มี Stardew Valley มา หมาคิดว่า Gleaner Heights นั้นสามารถตอบโจทย์เกมแนวฟาร์มแบบ Harvest Moon ได้รองลงมาเลยทีเดียว ผู้เล่นสามารถทำฟาร์มต่างๆ ได้ มีระบบความเป็น RPG เข้ามาช่วยให้มีอะไรทำมากขึ้น ตัวเกมให้เวลาต่อวันที่ค่อนข้างมาก (ยกเว้นเรื่อง Stamina อ่ะนะ) การหยุดเวลาในเกมให้ในดันเจี้ยนหรือบ้าน ทำให้ผู้เล่นมีอิสระในการทำอะไรมากกว่าที่คิด ในด้านเนื้อเรื่องที่นำเสนอในฉบับของตัวเองนั้นก็ทำให้เงิบและน่าติดตามได้เป็นอย่างดีทีเดียว
ในขณะเดียวกัน ตัวเกมก็ยังมีข้อเสียในด้านของความที่ยังไม่สุดซักเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตัวรายละเอียดที่ดูโล่งๆ เนื้อเรื่องที่ค่อนข้างดำเนินช้าจนผู้เล่นที่มาลองแบบไม่รู้อะไรชวนหนีได้ ราคาของต่างๆ ที่แพงหูดับ การลงโทษด้านค่า Stamina ที่ค่อนข้างจุก โดยรวมนั้นเรียกว่าช่วงต้นเกมนั้นค่อนข้างไปได้อย่างช้าจนน่ารำคาญเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี ผู้พัฒนานั้นค่อนข้างที่จะตื่นตัวและคอยดูแลในส่วนของ Forum ใน steam อยู่ ทำให้ค่อนข้างหวังพึ่งได้มากกับการพัฒนาของตัวเกมในทางที่ดีขึ้น ในส่วนของ bug ต่างๆ ก็มีการแก้ไขอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว
สำหรับคนที่สนใจ หมาก็บอกได้ว่า ถ้าชอบเกมแนวฟาร์ม เล่น Rune Factory, Stardew พวกนี้แล้วติด สอยได้เลยจ้า คุ้มค่าแน่นอน [ Steam store ] แต่อาจจะต้องทนกับช่วงแรกของเกมนิดหน่อย สนนราคาตอนนี้อยู่ที่ -10% ตก 170 บาทโดยประมาณจ้า ตัวเกมไม่มี Tag Early Access และเป็น Single Player นะจ๊ะ สามารถเล่นตั้งแต่ต้นยันจบได้เลย การันตี หยิบมาแล้วเสียผู้เสียคน เล่นมันสามวัน(จริง)ติด เกมอื่นคืออัลไล… ขออีกวัน(ในเกม)น่า
► ข้อดี – ตอบโจทย์ได้
– เกมปลูกผักแบบยุคเก่าที่ครบครัน เพิ่มความมีอะไรให้ทำหลายอย่างในเกมเดียว
– ให้ผู้เล่นได้ค้นหามากกว่าสอนให้ ได้สนุกกับการค้นพบสิ่งใหม่ๆ
– ระบบ Perk ที่ช่วยให้ผู้เล่นพัฒนาตัวละครในทางที่ต้องการได้
– เนื้อเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์ นำเสนอด้านมืดของตัวเมืองที่เราเลือกได้ว่าจะแก้ไขหรือร่วมมือ
– ฉากจบที่หลายแบบ
– เกมฟาร์มเป็นยาเสพย์ติด Just one more day…
► ข้อเสีย – แต่ไม่สุดมากพอ ยังต้องพัฒนาเพิ่มเติม
– ตัวเกมดูขาดความทุ่มเทในด้านรายละเอียดของแผนที่ มีความโล่งมากไปหน่อย
– เนื้อเรื่องดำเนินค่อนข้างช้ามาก แผนที่ในเมืองที่กว้างมากกกกกกก
– ไม่มีการแสดงรูปภาพตัวละครเวลาคุยด้วย ผ่าเหล่าเกมฟาร์มแนวนี้ และบทสนทนาที่ซ้ำซ้อน
– การ Upgrade ต่างๆ ในเกมนั้นโหดร้ายมากในแง่ของราคา
– ในปัจจุบันยังไม่ได้โฟกัสสุดที่การทำฟาร์ม ทำให้ถ้าเทียบด้านฟาร์มอย่างเดียวจะดูด้อยกว่าเกมอื่นอยู่ (เช่นสปริงเกิ้ล, ไม้ผล)