สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าเกมส์ปลูกผักยอดฮิตซีรีส์ Harvest Moon ในตอนนี้ไม่ใช่ผู้พัฒนารายเดียวกับเมื่อก่อนแล้ว โดยเมื่อก่อนทาง Marvelous เป็นคนสร้างและทาง Natsume เป็นคนขายในโซน ENG ซึ่งพอหลังๆ สองค่ายนี้ก็ได้เกิดโบกมืออำลาบ๊ายบายกันไป แต่ข้อดีก็คือทาง Natsume ก็ยังมีลิขสิทธิ์ใช้ชื่อเกมส์นี้ได้อย่างเต็มๆ (Marvelous ก็ยังสร้างเกมปลูกผักเช่นเดิมแต่เปลี่ยนชื่อเป็น Story of Season) ซึ่งทาง Natsume เองก็พยายามสร้างเกม Harvest Moon ในเวอร์ชั่นของตัวเองขึ้นมา และมันก็ถูกสาปส่งโดยแฟนๆ ซีรีส์นี้มากมาย ในเรื่องกราฟิก หรือปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้หลายๆ คนต้องร้องยี๊
และแล้วในปี 2017 เกม Harvest Moon ในแบบฉบับ Natsume ก็กลับมาอีกครั้งกับ Harvest Moon: Light of hope แถมการกลับมาครั้งนี้ยังพิเศษกว่าหลายๆ ภาคก็เพราะว่านอกจากที่จะลงให้กับเครื่อง Nintendo Switch แล้ว มันทำการลงให้กับเครื่อง PC และ Ps4 อีกด้วย แต่มันก็ยังไม่วายจะถูกหลายๆ คนวิจาร์ณเรื่องกราฟิกอันบ้าบอของตัวเกมที่กล้าทำไปได้ยังไง ซึ่งตัวผมเองก็ได้ไปเป็นหนูทดลองมาให้เรียบร้อย และก็จะมารีวิวให้ทุกท่านได้อ่านกันว่าตัวเกมมีระบบอะไร ดี / ไม่ดี, ชอบ / ไม่ชอบยังไง เอาหล่ะไปลุยกันเลย
Story
เนื้อเรื่องเราจะได้รับบทเป็นหนุ่มหรือสาวน้อย (ตั้งชื่อตัวละครตอนเริ่ม แต่เปลี่ยนชุดหรือสีผมหน้าตาไม่ได้) ที่ถูกพายุซัดกระหน่ำให้มาติดอยู่บนเกาะๆ หนึ่งที่ชื่อว่า Beacon Town และความฮาเล็กๆ ก็คืออยู่ดีๆ เราก็อยากจะลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่ซะเลย (ไหงงั้น เจ้าไม่อยากกลับบ้านเรอะ) ซึ่งคนในหมู่บ้านที่ช่วยเราไว้ก็ได้ให้ฟาร์มและบ้านร้างๆ ของเราไว้ (ไม่มีการซื้อขายโอนโฉนดที่ดินกันเลยใช่มั้ย) และที่ฮากว่านั้นก็คือ นอกจากบ้านของเราที่ร้างแล้ว เมือง Beacon Town เกือบทั้งเมืองก็ร้างเช่นกัน เพราะว่าผู้คนในหมู่บ้านต่างพากันหนีเพราะพายุนั่นเอง
Graphic
ตัวกราฟิกต้องบอกเลยว่าอย่างกับเล่นเกมส์ในมือถือยังไงอย่างงั้น มีความแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจากที่เคยคิดว่าเกม Harvest Moon : Seed of Memories ภาพดูแย่แล้ว เกมภาคนี้ไม่ต่างกันเลย ตัวละครทุกตัวสูงใหญ่เท่ากับต้นไม้ ใหญ่เล็กกว่าบ้านหน่อยเดียว คือความสมส่วนในเกมแทบไม่มี แต่มันก็มีข้อดีอยู่บ้าง ก็คือเรื่องหน้าตาของตัวละครในบทสนทนา แอนิเมชั่นต่างๆ ก็ทำออกมาได้น่ารักดีเหมือนกัน
Gameplay
ก็อยากที่รู้กันว่าตัวเกมเป็นเกมแนวปลูกผัก เราก็จะสามารถจับปลา, ทำสวน, เลี้ยงไก่ ทำนุ่นทำนี่ได้อย่างภาคอื่นๆ ทำได้ แต่ที่พิเศษมาก็คือเกมนี้จะมีเนื้อเรื่องมาให้เราได้เล่นควบคู่กันไปด้วย (คือการตามหาแสงของประภาคาร) ซึ่งปัณหาของเกมนี้ในการเล่นเนื้อเรื่องก็คือ สิ่งเดียวที่เราสามารถรู้เนื้อเรื่องของเกมนี้ได้คือการอ่านเท่านั้น เพราะ Objective ต่อไปของเนื้อเรื่องคือการที่ NPC จะพูดให้เราฟังว่าต้องการอะไร ซึ่งถ้าหากเราเผลอกดรัวๆๆ ไม่ยอมอ่าน จบเห่แน่นอน (ผู้เขียนเคยเจอกะตัว แต่ยังดีที่อัดคลิปวิดีโอไว้เลยย้อนไปอ่านได้)
(เอาศิลาไปวางไว้บนแท่นเพื่อเป็นการฟื้นฟูพลังแสงแห่งประภาคารตามคอนเซ็ปภาคนี้เลย Light of Hope)
(ตั้งใจอ่านดีๆ นะ ถ้าบางครั้งเผลอกดข้าม ไม่รับประกันว่า NPC ตัวนั้นจะบอกเควสเราใหม่นะจ๊ะ)
ซึ่งในเริ่มแรกฟังชั่นต่างๆ ที่เราสามารถทำได้ในเกมก็จะมีไม่เยอะ โดยเราจะต้องทำการซ่อมบ้านหรือร้านค้าต่างๆ เสียก่อน อย่างเช่นร้านดอกไม้, ร้านขายของ, ร้านอาหาร หรือจะเป็นบ้านคนซึ่งถ้าหากเราสร้าง เราก็อาจจะสามารถได้ไอเทมต่างๆ มาใช้อย่างเบ็ดตกปลาเป็นต้น ) ซึ่งการปลดล๊อกสิ่งต่างๆ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินเนื้อเรื่องต่อไปด้วย
ส่วนเรื่องการทำฟาร์มหรือเกมเพลย์ต่างๆ เราสามารถเล่นโดยใช้เพียงแค่ปลายนิ้วเท่านั้น ซึ่งมันสะดวกสบายมาก จนคิดว่าสะดวกเกินไปมั้ย เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง จะเป็นการพรวนดิน, ตกปลา, เดิน, รีดนมวัว หรือปลูกผัก ทุกอย่างใช้แค่เมาส์ตัวเดียว และคลิ๊กซ้ายเท่านั้นอีกด้วย คือคลิ๊กๆๆๆๆ อย่างเดียว แทบจะไม่ต้องแตะคีบอร์ดเลย และการหาเงินภายในเกมก็ไม่ได้ยากมากจนเกินไป ถ้ารู้หลักจริงๆ ก็สบาย
(เดินก็ใช้เมาส์)
(พรวนดินรถน้ำใส่ปุ๋ยก็เมาส์)
(ตกปลาก็เมาส์)
แต่ไอ้เรื่องปุ่มเดียวทำได้ทุกอย่างนี่แหละมันเลยอาจจะมีปัณหาเรื่อง Cursor หลอนๆ และน่ารำคานหน่อย ซึ่งการที่เราสามารถเล่นเกมนี้โดยใช้เมาส์ตัวเดียวเนี่ย คิดเลยว่ามันจะลงให้กับมือถือในอนาคตหรือเปล่านะ ?
ความสัมพันธ์ของ NPC ซึ่งภายในเกมนี้เราก็สามารถจีบหนุ่มๆ สาวๆ ได้เช่นกัน โดยมันก็เหมือนเกมอื่นๆ คือเราก็แค่เอาของที่เขาชอบไปให้ทุกวันๆ หรือสิ่งที่พิเศษก็คือการทำเควสเสริมที่ NPC คนนั้นขอร้องมา เราก็อาจจะได้ความสัมพันธ์มากขึ้น
อุปกรณ์ต่างๆ ที่เอาไว้ใช้เป็นสิ่งหาเงินของเราอย่าง พลั่ว, ที่รดน้ำ, ขวาน, ค้อน หรืออะไรต่างๆ เราไม่จำเป็นต้องซื้อเลย แต่เราจะต้องทำการอัพเกรดอุปกรณ์พวกนี้เพิ่มเพื่อให้มันมีความสามารถมากขึ้นอย่างเช่นรดน้ำทีเดียว 3 ต้นอะไรอย่างงี้ รวมถึงอุปกรณ์ตัดขนแกะ หรือที่รีดนมวัว ก็ไม่ต้องซื้อเช่นกัน โดยเราจะได้มาก็ต่อเมื่อเราสามารถทำ Objective บางอย่างในเกม NPC ก็จะให้สิ่งของมาฟรีๆ อย่างการซ่อมบ้านให้ NPC บางคนเราก็จะได้เบ็ดตกปลา หรือการซื้อแกะมาซักตัว เราก็จะได้ที่ตัดขนฟรีไปเลย อะไรจะสะดวกปานนั้น
(อัพเกรดอุปกรณ์ยิ่งเวลสูงก็ยิ่งทุ่นแรง)
(อุปกรณ์เสริมอื่นๆ ไม่ต้องซื้อแยก)
งานเทศกาลภายในเกมนี้ก็ยังมีเหมือนเกมอื่นๆ แต่แปลกไปก็คือ เกมนี้จะไม่มีปฏิทินให้เราได้ดู ซึ่งเราจะต้องทำการตรวจเช็คในชั้นหนังสือที่บ้านของเราว่า งานเทศกาลมันจะมีเมื่อไรฟะ หรือถ้าถึงวันงานจะมีคนมาบอกเราที่บ้านเองว่าวันนี้มีงานเทศกาลนะ มาในช่วงเวลานี้สิบลาๆ ซึ่งงานพวกนี้ก็จะมีอยู่หลายๆ แบบอย่างเช่นงานแข่งทำอาหาร, งานวิ่งแข่งหมา หรือ งานดูพระจันทร์เอาไว้ดูกับสาวๆ ที่เราชอบเป็นต้น (งานนี้เราสามารถชวนคนที่เราชอบก่อนวันงานได้)
ความรู้สึกหลังเล่น
ก็ต้องบอกเลยว่ามันก็เกินคาดอยู่เหมือนกันสำหรับระบบเกมเพลย์ในเกมนี้ เพราะว่ามันก็ถือว่าสนุกใช้ได้เช่นกันนะ รวมถึงแอนิเมชั่นท่าทางของตัวละครที่ผมเองก็ชอบเป็นพิเศษ คือมันดูเป็นอาหารตาดีน่ารัก >< เกมนี้เล่นได้เพลินๆ ถ้าทำลงมาเป็นมือถือผมก็คิดว่ามันไม่เลวเลยดีเดียว
แต่มันก็จะมีสิ่งที่ไม่ชอบอยู่บ้างคือระบบเนื้อเรื่องที่พี่แกทำออกมาได้ดีและโอเคนะ แต่เหมือนเขาจะบังคับให้เราต้องเล่นและต้องอ่านนะเว้ย อย่าเผลอไม่งั้นไม่รู้ด้วยนะ ซึ่งมันก็จะเป็นการจำกัดคนที่ไม่เก่งภาษา ENG ทำให้เขาเล่นเกมนี้ได้ยากขึ้น เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อ (คือพี่แกบอกครั้งเดียวคือจบ) แต่ถ้าให้คิดในแง่ดีคือมันก็อาจจะเป็นการฝึกภาษาเราไปในตัวด้วย (แต่บางคนก็อยากเล่นเฉยๆ ปะ)
รวมถึงสิ่งที่น่าผิดหวังที่อยากให้มีในเกมนี้คือเกมไม่มีระบบคราฟเลย ทั้งที่ไอ้ระบบนี้มันเป็นสิ่งที่ทำให้เกมนี้มีจุดมุ่งหมายและความสนุกมากขึ้น รวมถึงบ้านหรือโรงฟาร์มต่างๆ ก็ไม่สามารถตกแต่งโยกย้ายได้เลยนอกจากอัพเกรด คือมันก็เป็นสไตล์ Harvest Moon แหละแต่ผมแค่ไปติดภาพเกม Stardew Valley มากกว่า
สรุปคะแนน 7.0
ข้อดี
– เกมเล่นง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว
– เงินหาไม่ยาก
– ระบบเข้าใจง่ายโครต
– แอนิเมชั่นท่าทางตัวละครน่ารักใช้ได้
– เนื้อเรื่องทำออกมาน่ารักดี (ถึงไม่สมเหตุสมผลบ้าง)
– ราคาถูก
ข้อเสีย
– เมาส์หลอนๆ หน่อยบางที เพราะมันใส่ทุกฟังชั่นไว้เพียงแค่ปุ่มเดียว
– ภาพสวยนะแต่ตัวละครพี่แกทำไมดีไซน์มาแบบนั้น…… ?
– สิ่งที่ต้องการของ NPC ที่ใช้ในเนื้อเรื่อง พี่แกบอกรอบเดียว ถ้าลืมก็ไปนั่งขุดดูคลิป Walktrough หรืออ่านบทสรุปกันยาวๆ
– ถ้าคุณติดภาพเกม Stardew valley มากเกินไป คุณจะเล่นเกมนี้ด้วยความรำคาญเล็กๆ เหมือนผม
สรุปก็คือเกมนี้มันก็เป็นอีกเกมที่ฆ่าเวลาได้ดี ถ้าคุณเป็นคนไม่คิดอะไรมาก ไม่ติดภาพเกม Stardew Valley เกินไป เกมนี้มันก็สนุกใช้ได้ เพราะมันก็ยังมีกลิ่นอายของความเป็น Harvest Moon อยู่ ซึ่งการรีวิวทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ถ้าหากว่ามันผิดพลาดหรือไม่ถูกใจใคร ผมก็ฝากขออภัยด้วยนะครับ ถ้าใครสนใจอยากจะเล่นเกมนี้ Harvest Moon : Light of Hope ก็ขายอยู่ร้านค้า Steam เพียงแค่ 379 บาท เท่านั้น (LINK)