จากในคราวก่อนผมได้มารีวิวเกม Roller Champions กันไปแล้ว ผมก็เลยมั่นใจว่าจะต้องมีเพื่อนๆ บางคนที่สนใจแล้วเข้ามาลองเกมนี้กันอย่างแน่นอนเลย ดังนั้นในวันนี้ผมเลยจะมาแนะนำในส่วนของ “เทคนิคต้องรู้” เรามาดูดีกว่าว่ามีเทคนิคอะไรบ้างที่จะช่วยทำให้เราเก่งไวและสามารถพาทีมไปสู่ชัยชนะ เอาเป็นว่าเรามาดูกันเลยดีกว่าครับ
1.คอยเร่งความเร็วให้สูงอยู่เสมอ
หนึ่งในตัวแปรสำคัญอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อการเล่นมากเลยทีเดียวนั่นก็คือเรื่องของ “ความเร็ว” ครับ ซึ่งความเร็วนี้มันก็เป็นตัวกำหนดอะไรได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการแย่งบอลหรือการทำคะแนนก็ตามที เราจึงควรพยายามทำความเร็วของเราให้สูงไว้อยู่เสมอครับ โดยสามารถทำได้สองวิธีหลักก็คือ
การทิ้งตัวลงจากที่สูง – ภายในด่านที่เราเล่นนั้นจะมีพื้นที่ซึ่งเป็นทางลาดไว้อยู่เสมอครับ ไม่ว่าจะเป็นเนินที่ยกระดับขึ้นมาหรือแม้แต่กำแพงฉากก็ตามที เราสามารถใช้ประโยชน์จากตรงนั้นในการไต่ขึ้นไปก่อนจะทิ้งตัวลงมาเพื่อเพิ่มความเร็วได้ แถมถ้าเล่นกันจนชำนาญแล้วยังสามารถทำได้แทบทุกขอบทุกมุมกำแพงเลยด้วย
การใช้ท่า Drafting – เวลาที่เราวิ่งตามหลังเพื่อนร่วมทีมแล้วเข้าไปใกล้พอมันจะมีเมนูให้เรากดปุ่มขึ้นมาครับ ซึ่งเมื่อกดแล้วมันจะเป็นการใช้ท่า Drafting โดยเป็นการเกาะเพื่อนของเราก่อนจะดีดตัวเราเองเพื่อนพุ่งไปด้านหน้า เป็นหนึ่งในท่าที่ดีมากสำหรับการไล่ตามอีกฝ่ายหรือเวลาต้องการหนีนั่นเอง แถมยังเป็นการเพิ่มสปีดได้ไวโดยไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่สูงช่วยเลยอีกต่างหาก
นอกจากการเพิ่มความเร็วแล้วเราก็ควรรักษาความเร็วนี้ไว้เสมอครับ เพราะถ้าเกิดเราช้าลงไปเพียงเสี้ยววินาทีมันก็อาจทำให้อีกฝ่ายตามเรามาทำได้ หรือไม่พวกเขาก็อาจหนีเราไปไกลได้ในเสี้ยววินาทีนั้นด้วยเช่นกัน
2.รู้จักการหลบและส่งบอล
การจะทำแต้มภายในเกมนี้ได้เราจำเป็นต้องถือลูกบอลแล้ววิ่งผ่านจุดเช็คพอยต์ทั้ง 4 จุดให้ครบก่อนประตูจึงจะเปิดเพื่อปาบอลใส่ได้ ซึ่งมันก็สำคัญมากทีเดียวที่เราจำเป็นต้องรักษาลูกบอลนั้นไว้ให้ได้
โดยวิธีแรกนั้นก็คือการ “หลบ” เราไม่จำเป็นต้องวิ่งเป็นเส้นทางตรงเสมอไป อาจมีวิ่งโยกซ้ายบ้างขวาบ้างเพื่อทำให้อีกฝ่ายสับสนและทำให้ไม่สามารถดักทางเราได้ หรือแม้แต่อย่างการ “กระโดด” ที่นอกจากใช้สำหรับการปีนกำแพงแล้วถ้าเรากะจังหวะดีๆ เรายังใช้โดดหลบฝ่ายตรงข้ามได้อีกด้วย ตลอดไปจนถึงการวิ่งถอยหลังเองก็เช่นกัน คือทำยังไงก็ได้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายแย่งบอลของเราไป
วิธีถัดมานั่นก็คือ “การส่งบอล” ตัวเกมมีการะบุไว้ชัดเจนว่าเราต้องทำการฝ่าให้ครบเช็คพอยต์ทั้ง 4 จุดก่อนถึงจะทำคะแนนได้ แต่ตัวเกมก็ไม่ได้บังคับว่าจำเป็นต้องให้ทำคนเดียวซะหน่อยนิ เราสามารถส่งบอลไปมาระหว่างเพื่อนร่วมทีมได้ครับ ซึ่งตรงนี้มันจะใช้ได้ดีมากๆ เวลาที่เราโดนรุมหรือตามประกบจนหนีไม่พ้น เพราะมันจะช่วยทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถเอาบอลของเราไป แต่ก็ต้องระวังด้วยว่าการส่งไม่ได้สำเร็จ 100% เสมอ มีโอกาสปาติดกำแพงแล้วบอลหล่นอยู่ด้วยยังไงก็ระวังๆ กันไว้ด้วยล่ะ
ผู้เล่นมือใหม่หลายคนยํ้าเลยครับว่าหลายคน! เวลาได้มาชอบกั๊กลูกบอลไว้คนเดียวไม่ยอมส่งให้คนอื่นผลสุดท้ายก็คือโดนแย่งแล้วอีกฝ่ายเอาไปทำคะแนนแทน ถ้าไม่อยากโดนเพื่อนร่วมทีมทัวร์ลงก็พยายามหลบพยายามส่งกันด้วยล่ะ
3.คอยซัพพอร์ตเพื่อนที่ถือบอลอยู่
จากหัวข้อก่อนหน้านี้เราพูดถึงเวลาที่ถือบอลกันไปแล้ว ในหัวข้อนี้เราจะมาพูดถึงเวลาที่เราไม่ถือบอลกันบ้างว่าควรทำอะไร หลักๆ เลยนั่นก็คือพยายามซัพพอร์ตเพื่อนที่ถือบอลอยู่นั่นเองครับ คือทำทุกทางที่สามารถทำให้เพื่อนเราเลี้ยงลูกบอลรอดได้ไปจนปาเข้าประตูน่ะแล่ะ
สิ่งที่เราสามารถทำได้เวลาไม่ถือบอลนั่นก็คือการ Tackle เราสามารถวิ่งไปไล่ชนผู้เล่นอีกฝ่ายที่เข้าใกล้คนถือบอลประจำทีมเราได้ หรือถ้าเกิดอีกทีมมีใครวิ่งมาใกล้เราเราก็วิ่งชาร์จเสียบให้เขาล้มตรงนั้นไปเลยก็ทำได้ด้วยเช่นกันครับ เป็นเหมือนการตัดกำลังอย่างนึงได้ดีทีเดียว แถมหน่วยพลีชีพสายพุ่งชนเนี่ยบางครั้งเป็นตัวแบกทีมยิ่งกว่าไอคนเลี้ยงบอลด้วยซํ้าไปนะ
หรืออีกหนึ่งวิธีที่อยากแนะนำก็คือ “วิ่งตามเพื่อนที่ถือบอล” ในวิ่งตามที่นี้คือให้วิ่งไปด้วยกันครับ ไม่จำเป็นต้องไปยืนชิดประกบแนบเนื้อแต่อย่างใด อาจให้มีช่องว่างสักเล็กน้อยเผื่อเพื่อนจะส่งบอลมาทางเราได้ หรือไม่ก็ทิ้งระยะพอจะเข้าไปช่วยเพื่อนได้ทันเวลาตอนโดนรุมนั่นเอง โดยวิธีนี้ช่วงแรกหลายคนอาจยังกะระยะไม่ค่อยแม่นนักอาจต้องใช้เวลาฝึกฝนกับไปสักพักนึงเลยล่ะ
4.ฝึกการใช้ Uppercut ให้คล่อง
นอกเหนือจากการวิ่ง, กระโดด, Tackle, ส่ง-ปาบอล แล้วนั้นอีกหนึ่งท่าทีเราสามารถใช้ได้ภายในเกมนั่นก็คือ Uppercut ท่าพุ่งตัวกระโดดสูงเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่ถ้าเรารู้จังหวะใช้งานมันสามารถนำมาพลิกเกมได้ง่ายๆ เลยทีเดียว
โดยปกติแล้วท่า Uppercut นี้ส่วนใหญ่จะใช้ในการ “ขึ้นที่สูง” ครับ อย่างจังหวะที่เราวิ่งเข้ากำแพงแล้วใช้ท่าดังกล่าวตัวเราจะไหลขึ้นไปบนกำแพงค่อนข้างสูงทำให้จังหวะขาลงเราสามารถเร่งสปีดขึ้นได้อย่างมาก
ต่อมาคือการ “บล็อคบอล” ถ้าเราใช้ท่านี้ตอนอยู่หน้าแป้นทำประตูเราสามารถกระโดดขึ้นไปปัดบอลที่อีกฝ่ายปามาทิ้งได้ เป็นวิธีป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายทำคะแนนได้นั่นเอง แถมในจังหวะที่ปัดบอลทิ้งทีมเรายังมีโอกาสเก็บลูกบอลขึ้นมาแทนได้อีกต่างหาก
อย่างสุดท้ายที่เห็นใช้กันนั้นก็คือใช้สำหรับ “การรับบอล” โดยการรับบอลนี้เราสามารถใช้รับตอนลูกบอลลอยอยู่กลางอากาศได้ หรือใช้ในจังหวะเวลาเพื่อนโดนล้อมหาจังหวะส่งออกด้านข้างไม่ได้ เราก็สามารถกระโดดขึ้นบนฟ้าเพื่อให้เพื่อนโยนขึ้นมาหาก็ได้เช่นกันครับ
เป็นหนึ่งในท่าที่ค่อนข้างแนะนำให้ฝึกไว้จะดีมากครับเพราะมันเอามาใช้ได้หลายสถานการณ์เลยทีเดียว ถ้าใช้จนชินแล้วยังไงก็มั่นใจเลยว่าจะเก่งขึ้นอย่างแน่นอน แต่ต้องระวังไว้ว่าท่า Uppercut เนี่ยเวลาถือบอลเราทำไม่ได้นะ เกิดใครสงสัยทำไมถือบอลแล้วโดดไม่ขึ้น
5.ไม่จำเป็นต้องวิ่งไล่อีกฝ่ายเสมอไป
ผู้เล่นส่วนใหญ่เวลาทำการเลี้ยงลูกบอลนั้นมักวิ่งไปรอบสนามในลักษณะวนขวาอยู่เสมอหรือไม่ก็วิ่งตามลูกศรที่แสดงอยู่บนพื้นเป็นหลัก แต่เพื่อนๆ รู้รึเปล่าว่าเราไม่จำเป็นต้องไปวิ่งตามคนส่วนใหญ่เสมอไปหรอกนะ เพราะบางครั้งการวิ่งที่ต่างไปมันก็ทำให้เกิดอะไรดีๆ ขึ้นได้เหมือนกัน
ยกตัวอย่างเช่นถ้าสมมุติเรากำลังวิ่งไล่คนที่ถือบอลอยู่แต่เกิดเราไล่ไม่ทันจริงๆ เราอาจเลือกย้อนสวนทางเพื่อกลับไปดักข้างหน้าของอีกฝ่ายแทนก็ได้ เพราะสนามแข่งขันในเกมนี้มีลักษณะเป็นวงกลมยังไงเขาก็ต้องวิ่งกลับมาทางเดิมอย่างแน่นอน สู้เอาเวลาที่เราวิ่งตามไม่ทันไปขวางไว้ข้างหน้ามันจะช่วยประหยัดได้ดีกว่าเยอะเลย
หรือถ้าเราเป็นคนถือบอลบางครั้งเราก็จะเจอคนเป็นงานที่เขาไปยืนรอดักข้างหน้าเรา ในจังหวะนั้นเราก็ไม่ต้องวิ่งไปหาเราสามารถกดเบรคแล้ววิ่งสวนไปอีกทางนึงก็ได้ ไม่จำเป็นต้องวิ่งไปตามเกมของพวกเขาเสมอไป รวมถึงเวลาโดนไล่ตามอยู่บางครั้งวิ่งสวนทางกลับไปดื้อๆ เลยก็ทำให้อีกฝ่ายมึนหัวได้เหมือนกัน
ตามที่บอกไปเลยครับบางครั้งการทำอะไรที่มันฉีกไปจากปกติมันก็ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า แต่ก็ใช่ว่ามันจะใช้ได้ทุกสถานการณ์นะเราต้องดูจังหวะด้วยไม่งั้นเกิดไปทำอะไรแผลงๆ ตอนไม่ควรรับรองโดนทีมด่ายับแน่เลย
6.วนด่านหลายรอบทำให้ได้แต้มมากกว่า
เผื่อใครที่ยังไม่รู้หรืออาจไม่ได้ดูตอนเขาแนะนำในหน้าคัทซีน การที่เราเลี้ยงลูกบอลให้ครบรอบสนามหลายรอบเนี่ยมันจะทำให้แต้มที่เราได้จากการปาบอลเข้าประตูเพิ่มสูงขึ้นด้วย ชนิดที่ว่าสามารถปาครั้งเดียวแล้วจบเกมได้เลย
โดยแต้มที่ทำได้จะเป็น 1 รอบ 1 แต้ม, 2 รอบ 3 แต้ม และ 3 รอบ 5 แต้ม ซึ่งถ้าใครสามารถวนครบได้ทั้งสามรอบแล้วปาเข้าประตูปุปเกมก็จะจบทันทีเลยเพราะเกมนี้ทีมไหนที่ได้ครบ 5 แต้มก่อนจะเป็นฝ่ายชนะไป จึงไม่ค่อยหน้าแปลกใจนักทำไมเราจึงเจอผู้เล่นหลายคนเวลาวนครบสนามแล้วไม่ค่อยยอมปาบอลเข้าประตูนั่นเอง
แต่ก็ต้องระวังด้วยว่าเกมนี้ไม่ได้มีแค่ทีมเราเท่านั้นมันยังมีฝ่ายตรงข้ามอยู่ด้วย ทำให้การเลี้ยงให้ครบ 3 รอบได้นั้นเป็นอะไรที่ยากมากทีเดียวนอกจากฝีมือทีมคุณจะเหนือกว่าแบบเห็นได้ชัด บางครั้งเราจึงไม่ควรโลภจนเกินไปครับเพราะมันอาจส่งผลเสียกลับมาด้วยซํ้าไป ถ้าให้แนะนำจริงๆ ประมาณ 2 รอบให้ได้ 3 แต้มก็ถือว่าคุ้มค่ามากพอแล้ว
7.การวิ่งไวกว่าการปาบอล
สำหรับเทคนิคสุดท้ายนี่จะว่าถึงเรื่องของการทำคะแนนครับ โดยปกติแล้วเพื่อนๆ ทำคะแนนกันยังไงใช่การยืนชาร์จแล้วปาเข้าห่วงรึเปล่า? แต่สิ่งที่ผมอยากแนะนำก็คือการวิ่งไปปาใกล้ห่วงน่ะมันดีกว่าการยืนชาร์จปาอีกนะ
เหตุผลว่าทำไมการวิ่งไปปาดีกว่ายืนชาร์จนั้นเพราะ “การวิ่งไวกว่าการปาบอล” ตามที่เขียนไว้เลยครับภายในเกมนี้ถ้าเราวิ่งจริงๆ มันจะไวกว่าการปาบอลอย่างมากเลย ยิ่งในช่วงการทำประตูที่ใครมายืนชาร์จปาเนี่ยอีกฝ่ายถ้าเขาเข้าถึงตัวเขาสามารถชนเรากระเด็นได้เลยนะ หรือใครที่เล่นเป็นหน่อยเห็นเรายืนชาร์จเขาก็ไปยืนรอ Uppercut ปัดบอลตรงหน้าประตูได้อีกด้วย
ถึงแม้ฟังดูแล้วมันอาจจะง่ายแต่ทำจริงๆ ก็ยากเอาการเลยล่ะ เพราะเวลาเรายิ่งใกล้ประตูมากขึ้นเท่าไหร่พวกองศามุมยิงยิ่งต่างไปเท่านั้น ทำให้ใครที่คิดเข้าไปปาอัดแต้มแบบระยะประชิดจริงๆ อาจต้องใช้เวลาฝึกฝนเพื่อจำมุมต่างๆ ให้ได้น่ะเอง แต่การันตีเลยครับว่าถ้าใครฝึกเทคนิคนี้ไว้มันทำให้เราทำแต้มได้ง่ายขึ้นมากจริงๆ แถมไม่ต้องมากังวลว่าจะโดนบล็อคกลางอากาศอีกต่างหาก ขอแค่เลี้ยงลูกบอลหลบไปใกล้ประตูได้ก็แทบชนะแล้วล่ะ