หลายๆ คนน่าจะคงเคยได้ยินคำว่า Rush ในการเล่นเกมต่างๆ กันมาบ้างแล้ว และอาจจะรวมไปถึงในการวางแผนกลยุทธ์ต่างๆ หรือเป็นวลีในหนัง, การ์ตูนกันมาบ้าง สำหรับในวงการเกมนั้น Rush เองก็เป็นคำที่ถูกใช้บ่อยๆ และมักตามมาด้วยความฉุนเฉียวของอีกฝ่ายเสมอ ในบทความนี้ก็จะมาพูดถึงเกี่ยวกับคำนี้กันจ้า
Rush – เร่ง, รีบ
ตามความหมายนั้น Rush สามารถแปลได้ตรงตัวคือการเร่ง, รีบ โดยลักษณะของกลยุทธ์นี้นั้น จะเป็นการใช้หลักการทางจิตวิทยา อาศัยจังหวะทีเผลอตอนคู่ต่อสู้ไม่คิดว่าจะโดนรีบบุกโจมตี เร่งรุดเข้าไปโจมตีเพื่อสร้างความเสียหายให้ได้มากที่สุด จนถึงกับพ่ายแพ้ไปเลย เป็นการเล่นกับการตัดสินที่ช้ากว่าของคู่ต่อสู้ หรือการตื่นตระหนกจากการเจอเล่นงานในแบบคาดไม่ถึง
ดังนั้นการ Rush นั้นจึงเป็นกลยุทธ์ที่ผู้โดนเล่นงานมักจะเกิดอาการเอ๋อ ตามไม่ทัน บางทีอาจจะถึงรับไม่ได้ ไม่ยอมรับการเล่นแบบนี้ ว่าไม่มีน้ำใจนักกีฬาบ้างหรืออะไรบ้าง แต่… ไอ้การ Rush เนี่ยแย่ขนาดควรเรียกว่าไม่มีน้ำใจนักกีฬาจริงหรือเปล่า?
คำตอบของคำถามนี้อธิบายได้ค่อนข้างยาก เพราะในมุมมองของผู้เล่น ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนนั้น มีการยอมรับกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะรับได้ทุกเรื่อง บางคนอาจจะรับไม่ได้กับการเร่งเกม บางคนอาจจะรับไม่ได้กับการรอนานๆ แล้วค่อยบุกตี แต่สิ่งที่สำคัญคือ กติกาในการเล่นหรือการแข่งขันนั้น อนุญาติให้กระทำได้หรือเปล่าต่างหาก (แน่นอนว่าต้องไม่ใช่การใช้ Bug หรือช่องโหว่) หรือในกรณีที่เล่นกันเองในหมู่เพื่อน มีการท้วงติงตกลงกันก่อนไหมว่าไม่เอาการเล่นแบบนั้นแบบนี้
ซึ่งหากไม่มีการระบุไว้ การเล่นกลยุทธ์แบบไหนก็ควรจะยอมรับได้เสียมากกว่า หากเปิดกว้างยอมรับความพ่ายแพ้และจดจำนั้นย่อมทำให้เกิดการพัฒนากลยุทธ์, วิธีวางแผน ขัดเกลาวิธีรับมือให้เก่งกาจขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้แน่นอนว่าก็ไม่ได้หมายความว่าการพยายามจะ Rush เพื่อเอาชนะอย่างเดียวเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมเสมอไป การรักษาบรรยากาศการเล่นให้สนุกก็สำคัญเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อเล่นกันในหมู่เพื่อน หรือกลุ่มคนรู้จัก แต่ถ้าหากเป็นการแข่งขันแล้วนั้น เพื่อชัยชนะ หากไม่ใช่ด้วยวิธีเล่นโกงหรือนอกกฎกติกาแล้ว ควรเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และหากมีใครคิดแต่จะเล่นวิธีนี้เพื่อชิงชัยอันดับหนึ่ง เขาก็คงต้องคิดหนักกับคู่ต่อสู้ที่พยายามหาทางแก้ทางล่ะ
Rush คือกลยุทธ์
วิธีการเล่นเกมเร็วนั้นมีมากมายหลากหลาย และพบได้ในเกมหลากหลายประเภทที่มีอิสระให้ผู้เล่นได้กระทำการต่างๆ ไม่ถูกจำกัดด้วยขั้นตอนที่ตายตัว
- ในเกมวางแผนการรบ มักจะเจอเป็น unit ช่วงต้นเกมมากันเป็นกลุ่มเล็กๆ หรือเป็นกลุ่มขนาดกลาง-ใหญ่ ในขณะที่ควรจะเป็นเวลาที่อัพเกรดฐานในระดับต่อไป
- ในเกมชิงพื้นที่ มีการรีบเร่งไปให้ถึงที่หมายให้เร็วที่สุด โดยแบกรับความเสี่ยงโดนเล่นงานกลางทางเพื่อชิงตำแหน่งสำคัญก่อน
- ในเกม Moba อาจมีการรุมถล่มเลนใดเลนหนึ่งให้ยับเยินสร้างความได้เปรียบในช่วงแรกหรือชิงบัฟสำคัญมาก่อน
- ในเกมแข่งขันอื่นๆ อาจจะเป็นการชิงตัดเอาคะแนนน้อยๆ ให้เกมจบก่อนที่คนที่พยายามวางแผนระยะยาวจะได้คะแนนหนักๆ อย่างที่ต้องการ
อย่างไรก็ดี การ Rush นั้นมักจะเป็นหนึ่งในวิธีการช่วงต้นของเกมที่จะทำให้เกิดความแตกต่างในการเล่นให้ได้มากที่สุด ก่อนจะนำไปซึ่งชัยชนะในทีภายหลัง โดยมากหากฝีมือของแต่ละฝ่ายใกล้เคียงกันแล้ว ทั่วไปจะไม่ส่งผลถึงขั้นแพ้ชนะกันในตอนนั้น และต้องมีการหงายแผนรับมือหรือแผนรุกครั้งต่อๆ ไปตามมา
จึงตามมาด้วยกลวิธีแบบทิ้งหน้าตัก หรือ All-in Rush ที่ทุ่มทั้งหมดให้กับการโจมตีเพียงครั้งเดียว หรือบ้านเราเรียกกันว่าทุบหม้อข้าวนั่นแล คือถ้าครั้งนั้นทุบอีกฝ่ายยุบไม่ได้ ก็เตรียมโดนทุบกลับสลายไปได้เลย
การรับมือกับ Rush
ในเมื่อการ Rush นั้นเล่นกับจิตวิทยาว่า เขาจะรีบบุกไหม หรือเขาจะไม่รีบหรือเปล่า ทำให้ฝ่ายตั้งรับจะต้องเสียทรัพยากรส่วนหนึ่งในการ “เผื่อ” ใจไว้ว่าจะโดนบุกเสมอ การรับมือหลักๆ จึงเป็นการศึกษาข้อมูลของตัวเกม คอยค้นหาแนวทางใหม่ๆ แปลกๆ ในการเล่น รวมถึงการคิดนอกกรอบอยู่เสมอ ซึ่งแต่ละเกมนั้นก็มีวิธีที่แตกต่างกันไปเสมอในการ Rush คู่ต่อสู้
เช่น บางเกมอาจจะใช้การสร้างกำแพงล้อมอาคารสำคัญไว้ หรือบางเกมใช้การรวมกลุ่มอาคารเข้าด้วยกันเพื่อไม่ให้เข้าถึงจุดสำคัญได้ง่าย การเลือกที่จะปกป้องเป้าหมายมากกว่าการกระจายกำลัง รวมไปถึงการสำรวจล่วงหน้า
หลักสำคัญคือการคาดคะเนไว้ว่า เราอาจจะโดนเล่นงานทีเผลอได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงต้นเกม กลางเกม หรือการถูกล่อซื้อ การยอมเสียเวลาวางแนวรับป้องกันไว้ หรือคำนวนแผนการล่วงหน้า หากโดนเล่นทีเผลอจะทำยังไง ก็จะช่วยลดทอนความเสียหายจากการลนลานคิดไม่ทันลงได้บ้าง
ดังนั้นหลักจึงเป็นการพยายามเตรียมข้อมูลให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการพยายามศึกษาว่าฝั่งเราและศัตรูมีอะไรบ้าง ตำแหน่งของฐานข้าศึกอยู่ใกล้ไกลประมาณไหน มีอะไรที่เอื้ออำนวยต่อการบุก/ตั้งรับยังไงบ้าง รวมไปถึงข้อมูลแบบ Real-time ที่สำคัญมากอย่างการออกไปสำรวจ (scout) ว่าศัตรูมีการเคลื่อนไหวอย่างไร และปรับแผนการรับมือหรือคาดเดาล่วงหน้าในทันที ก็ส่งผลกับในทุกๆ กลยุทธ์ ไม่ได้สำคัญแค่กับการ Rush เท่านั้น
ข้อเสียของการ Rush
ในการ Rush นั้นจะเป็นการนำทรัพยากรอันมีค่า ที่สามารถนำไปด้านอื่นได้มารีบใช้ในการบุกโจมตี ทำให้นั่นคือข้อเสียที่สุดของวิธีนี้เช่นกัน หากการบุกไม่ได้ผลอย่างที่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นใช้ไม่ได้เลย หรือทำความเสียหายได้แค่เล็กน้อย สิ่งที่เกิดขึ้นคือการ”ตามหรือหายไป”ของทรัพยากรนั่นเอง
ดังคำที่ว่า High Risk – High Return (ยิ่งเสี่ยงมาก ผลตอบแทนยิ่งมาก) ยิ่งทุ่มเทกับกลวิธีนี้เพื่อหวังจะได้ผลมากขึ้นเท่าไหร่ ผลกระทบย้อนกลับเมื่อถูกแก้ทางได้หรือเดินเกมผิด ก็จะย้อนมากระแทกตัวเองแรงขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการบุกด้วยกองกำลังเล็กๆ ที่ได้ผลไม่มากแต่ก็สร้างความเสียหายได้ไม่มาก จนถึงการ All-in อีกฝ่ายไม่ยับก็รอรับความพ่ายแพ้ไปเลย
ซึ่งถ้า Rusher อ่อนประสบการณ์ อาจจะถึงขั้นวางลำดับความสำคัญไม่ถูกว่าจะต้องทำยังไงต่อ เมื่อแผนการที่วางไว้ดันไม่เป็นไปตามขั้นตอนอย่างที่คิดหรือติดๆ ขัดๆ ขึ้นมา เปิดโอกาสให้โดน Counter กลับจนเละซะเองก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งไป
การวางแผนคือการงัดข้อด้วยสมอง
สุดท้ายแล้วนั้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การวางแผนไม่ว่าจะเกมแนวไหนก็ตาม เมื่อต้องปะทะกับอีกฝ่ายนั้น ก็จะเป็นการแข่งกันด้วยวิธีมากมายแล้วแต่จะสร้างสรรกันขึ้นมา บ้างก็ด้วยการใช้พลังที่เหนือกว่าขยี้ให้ยับ บ้างก็อาศัยการค่อยๆ ตอดไป บางคนก็ล่อซื้อ บางคนก็เล่นทีเผลอ ไม่มีกฎตายตัว
หากต้องการที่จะชนะคู่ต่อสู้แล้ว การจะหยิบหรือคิดค้นวิธีที่ทำให้ตัวเองเหนือกว่าอีกฝ่ายไม่ใช่เรื่องแปลก โดยเฉพาะเมื่อไม่มีการตกลงวางกฎกติกาเฉพาะกิจ (house rule) ขึ้นมา (รวมถึงไม่มีการเล่นนอกกรอบ แหกกฎโกงกัน) การมีน้ำใจนักกีฬาจึงเหมาะกับการที่จะยอมรับผลที่เกิดขึ้นจากกลยุทธ์ของแต่ละฝ่าย มากกว่าการจะมานั่งพาลว่าทำไมเล่นแบบนั้น ทำไมเล่นแบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและทำให้กระทบกระทั่งกันเปล่าๆ
ในขณะเดียวกัน ถ้าเป็นการเล่นกันสนุกๆ กระชับมิตร หรือเล่นเอาเฮฮาในหมู่เพื่อน การลดความตั้งใจเอาชนะอย่างจริงจังและผ่อนคลายลงบ้าง หรือปรับตัวให้เข้ากับฝีมือของอีกฝ่าย ก็เป็นเรื่องที่จะช่วยให้คนที่เล่นด้วยกันสนุกไปด้วยกันง่ายขึ้นได้เช่นกัน
การเจออะไรแปลกแหวกแนว ไม่เป็นดังใจนั้นเป็นเรื่องปกติ ทางที่ดีจึงอย่าไปเครียดกับมันมากนัก ยิ่งเมื่อเป็นเกมแล้ว ถ้าเราไม่ชอบการโดน Rush การจะบอกไปตอนจบว่าขอแบบไม่ Rush ได้ไหมนั้น จะช่วยให้สามารถเล่นกันใหม่ได้อย่างสนุกสนานและเข้าใจตรงกันได้มากกว่าการมานั่งโวยวายมากจ้า