ไม่ว่าเมื่อไหร่นั้น เกมปลูกผักจีบสาวก็ดูเหมือนจะอยู่คู่เกมเมอร์มาช้านานและมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกันอยู่เป็นระยะๆ บ้างก็ดัดแปลงให้แหวกแนวกันไป บ้างก็ทำตามสูตรสำเร็จ และ Staxel ก็เป็นอีกหนึ่งในเกมจีบสาวที่แหวกออกไปหาแนวของตัวเอง ด้วยการผสมผสานเกมแนวปลูกผักเข้ากับระบบ Sandbox อยากขุดเป็นขุด อยากสร้างเป็นสร้าง อิสระกันไปเลย
Staxel นั้นพัฒนาโดยทีมงาน Plukit และจัดจำหน่ายโดยทาง Humble Bundle ตัวเกมนั้นพึ่งวางจำหน่ายในรูปแบบ Early Access กันในวันที่ 25 มกราคมสดๆ ร้อนๆ กันเลยทีเดียว จุดขายของเกมนั้นก็อยู่ที่ความเป็นเกมปลูกผักแบบ Sandbox และรองรับ Multiplayer กันเต็มๆ
Review Staxel
เนื้อเรื่องของ Staxel นั้นก็จะยังอยู่ในกรอบสำเร็จที่กล่าวถึงผู้เล่นได้ย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีฟาร์มรกร้าง ขาดคนรับช่วงต่ออยู่ ตัวผู้เล่นก็จะถูกทาบทามโดยเจ้าเมืองและมีคนช่วยนำทางไปที่ฟาร์มพร้อมกับแนะนำการเล่นเบื้องต้นให้ ไม่ว่าจะเป็นการมอบเครื่องมือบางส่วน มีให้ไปหาคนนั้นคนนี้ที่ขายของหลักๆ และจบลงด้วยการเชียร์ให้ผู้เล่นพัฒนาฟาร์มให้ดีจากนี้ต่อไป
ก่อนอื่นก็ต้องขอบอกเลยว่า ตัว Staxel นั้นเป็น Early Access ในระดับต้นๆ นั่นคือยังต้องมีการพัฒนาอีกมาก หลายอย่างจึงขาดๆ และยังไม่ได้ลงตัวเท่าไหร่นัก
ตัวเกม Staxel นั้นก็จะมีลักษณะเป็นมุมมองบุคคลที่ 1 และสามารถปรับเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 ได้ รองรับการเล่นด้วยจอย และเป็นเกมปลูกผักที่เป็นสามมิติ พร้อมกับระบบ Sandbox ที่ให้ผู้เล่นได้ขุดดิน ตัดไม้ เก็บหินมาดัดแปลงภูมิประเทศบนเกาะที่ผู้เล่นอยู่ได้อย่างอิสระ ซึ่งเรียกว่าลงตัวไหม ก็ต้องบอกว่าดีงามในระดับหนึ่งเลยทีเดียว จัดว่าเป็นความแปลกใหม่อย่างหนึ่ง
ทางด้านภาพเองก็สามารถบอกได้ว่าทำมาเป็นแนวกล่องที่น่ารักใช้ได้เลยทีเดียว จนบางทีก็รู้สึกว่ามันจะลายตาไปหน่อยกับทุ่งดอกไม้หลากสีสรร ตัวเพลงประกอบก็ทำออกมาเบาๆ ผ่อนคลายไม่เลวเลยทีเดียวล่ะจ้า ส่วนในด้านมุมกล้องนั้นแอบให้น่าตัดคะแนนจากการที่บางครั้งก็ดูค่อนข้างลำบาก โดยเฉพาะในการวางสิ่งของต่างๆ ขนาดใหญ่
จุดที่ดูจะขาดไปเป็นพิเศษเลยก็ดูเหมือนจะเป็นส่วนของหน้าจอแสดงรายละเอียดของตัวละครหรือส่วนของ NPC / Quest / หมู่บ้านที่ผู้เล่นต้องจดจำทั้งหมดเอาเอง ไม่มีอะไรช่วยเตือนความจำให้จ้า
Farm Life (ชีวิตในฟาร์ม)
การได้ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์นั้นก็มีอยู่อย่างครบถ้วนใน Staxel ชนิดที่เมื่อพูดถึงเกมแนว Harvest Moon แล้วขาดเรื่องแบบนี้ไปก็คงไม่ใช่นัก รวมถึงเวลาต่อวันของ Staxel ก็ให้มาก็โอเคเลยทีเดียว ทำให้ผู้เล่นไม่ต้องกังวลว่าตอนนี้ทำอะไรแล้วจะเหลือเวลาทำนู่นนี่ทันไหม การออกตะลุยในเขตนอกตัวหมู่บ้านเก็บหาของป่ามาขายมาทำเงินช่วงแรกก็มีให้เช่นกันนะเอ้อ
ส่วนของ NPC นั้นก็มีอยู่มากมายให้ความรู้สึกว่าเป็นหมู่บ้านเล็กๆ และ NPC หลักแต่ละคนก็ยังมีบทพูดอะไรที่แตกต่างกัน มีการร้องขอให้ผู้เล่นช่วยทำนู่นหรือสร้างนี่ให้อยู่เป็นระยะๆ แต่ก็ต้องบอกได้เลยว่าของที่แต่ละคนขอมานี่ ผู้เล่นใหม่งงเป็นไก่ตาแตกแน่นอน อะเหื้อะ
จุดที่รวมกับความเป็น Sandbox ได้น่าสนใจคือการที่สิ่งก่อสร้างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอกหรือบ้านนั้น ผู้เล่นก็สามารถต่อเติมได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องจำเจตายตัวกับรูปแบบเดิมๆ เหมือนในเกมอื่นๆ นั่นเอง ซึ่งตัวเกมจะให้มาแค่อาณาเขตที่ผู้เล่นต้องมีการสร้างของที่กำหนดในเขตนี้ ก็จะทำให้สิ่งก่อสร้างนี้ใช้ได้ตามที่เกมกำหนดแล้ว ทำเอาเงิบเล็กๆ เหมือนกันเมื่อ NPC ขอให้สร้างอะไรให้อลังๆ เนี่ย
With Sandbox (แบบสร้างได้อิสระ)
ความเป็น Sandbox ของตัวเกมนั้น ก็หมายถึงการที่ผู้เล่นมีอิสระมากกว่าเกมแนวฟาร์มอื่นๆ เป็นอย่างมาก ชนิดที่ว่าหมานิมที่เล่น Minecraft หรือ Stardew Valley แบบครั้งแรกสุดไม่มีการหาข้อมูลยังรู้ว่าต้องทำอะไร ควรทำอะไรยังเคว้ง เป๋ได้
ผู้เล่นสามารถรื้อ ทุบสิ่งก่อสร้างหรือพื้น ทางเดินต่างๆ ได้แบบไม่ต้องแคร์สื่อ บ้าน NPC ชั้นวางของนู่นนี่ จัดได้ทั้งสิ้น และต่อเติมเพิ่มเติมได้ตามชอบใจ (แต่ของที่เป็นระบบของเกมถ้ารื้ออาจจะใช้งานต่อไม่ได้ เช่นพวกชั้นวางของในร้านค้านะจ๊ะ) แบบถ้าเบื่อบ้านสองชั้นแบบเดิมๆ แม่จะล่อเป็นปราสาทสิบชั้นก็ได้เช่นเดียวกัน
เพียงแต่ว่าจุดเสียหลักก็มาอยู่ในระบบ Sandbox นี่เอง แม้ว่าผู้เล่นจะขุดนู่นวางนี่ได้อิสระ แต่ระบบการ Craft แม้กระทั่ง Block นั้นกลับใช้ขั้นตอนและยุ่งยากกว่าที่คิด ผู้เล่นจำเป็นจะต้องมีเครื่องมือและอุปกรณ์แปรรูป ใช้เวลาค่อยๆ แปรรูปมันเหมือนกับเกมแนว MMO เลยทีเดียว ซึ่งมันก็น่าจะโอเคถ้าเป็นเกมแนว MMORPG แต่สำหรับ farming sandbox แล้ว ก็เรียกได้ว่าแปลกใหม่จนตามไม่ทันกันเลย
And Multiplayer (และเล่นได้หลายคนพร้อมกัน)
อีกหนึ่งในจุดที่ทำให้ความเคว้งน้อยลงและเฮฮาปาร์ตี้ได้มากขึ้น คือการที่ผู้เล่นสามารถเล่นเกมนี้ได้ในแบบ Multiplayer / Co-op ซึ่งก็มาพร้อมกับขั้นตอนที่แลดูจะยุ่งยากเล็กน้อย
ตัวเกมนั้นใช้ระบบ dedicate server แยกต่างจากจากตัว client เกม ซึ่งก็ทำเอาหมาใช้เวลาพักนึงเหมือนกันในการงมหาแบบไม่พึ่งคู่มือ(สม) และทางผู้พัฒนาก็มีการให้ส่วนของ server wizard ที่เป็นตัวเปิด server อย่างง่ายแถมมาด้วย ทำให้การสร้าง server เล่นกับเพื่อนแลดูง่ายขึ้น แต่จะง่ายกว่านี้ถ้าตัวเกมนั้นดูแลเรื่อง port อะไรให้เสร็จสรรพโดยที่ผู้เล่นไม่ต้องลำบาก forward กันเอง
การ Join เข้า server นั้นก็จะเป็นลักษณะของการเชื่อมต่อแบบ peer to peer ผ่านระบบ IP เป็นหลัก ซึ่งถ้าใครไม่ถนัดการจัดการเรื่อง IP และ Forward Port ก็อาจจะต้องพึ่งโปรแกรมอย่าง Hamachi ในการเล่นกับเพื่อนๆ จ้า ซึ่งเท่าที่ดูนั้นการดูแลจัดการนั้นจะขึ้นกับทาง Host เป็นหลักเช่นเคย
แน่นอนว่าการเล่นกับเพื่อนหลายๆ คนนั้นก็จะช่วยในแง่ของการลดภาระการดูแลจัดหาร หาของ แปรรูปอะไรพวกนี้ได้เป็นอย่างมาก ก็ระวังถล่มกันเองเละนะจ๊ะ
Early Access (แต่ยังอยู่ในช่วงพัฒนา)
ในขณะที่หลายๆ อย่างนั้นดูจะลงตัว สมบูรณ์ แต่ทว่า Staxel นั้นมีสถานะเป็นลูกเป็ดกลางฝูง(เทพเจ้า)เป็ด อันเนื่องจากแม้จะมีระบบหลายๆ ทำให้เกมน่าสนใจ แต่ก็ยังไปไม่สุดซักทาง หรือถ้าจะไม่เกรงใจต้องบอกว่า ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของซักทางอาจจะตรงกว่า
เมื่อเทียบกับเกมแนวฟาร์มแล้ว Staxel มีความชิว ไร้จุดหมายในการทำฟาร์ม ไม่มีแรงกดดัน ค่าความเหนื่อย และเวลาที่ไม่ได้เร่งรีบอะไรมากนักต่อวัน ตัว NPC เองแม้จะดูสดใส แต่ยังไม่มีเอกลักษณ์เด่นๆ อย่างที่เกมแนวฟาร์มพึงมีกัน อีกทั้งตัวปฎิทินที่แสดงถึง Event ต่างๆ ในแต่ละช่วงของปีนั้นก็ไม่มี ทำให้ผู้เล่นค่อนข้างเคว้งเอาได้ง่ายๆ
หากเทียบกับเกมแนว Sandbox แล้ว ตัวเกมก็ยังขาดความหลากหลายในส่วนของ Block และสิ่งของต่างๆ ผู้เล่นถูกจำกัดด้วย animation อันยาวนาน เวลาในการแปรรูป และขั้นตอนกว่าจะได้วัตถุมาซักชิ้น ซึ่งเป็นจุดที่ไม่ดีเท่าไหร่นักในด้านของความเป็น Sandbox อีกทั้งผู้เล่นยังไม่สามารถเตรียมวัตถุดิบทั้งหมดได้ด้วยตัวเอง ของหลายๆ อย่างนั้นต้องใช้การซื้อเอาจากร้าน นอกจากนี้แม้จะเปิดเป็น Creative mode ที่สร้างได้อิสระแล้ว การทำลายหรือย้ายของยังคงต้องใช้เครื่องมืออยู่ดีแจ๊…
เนื้อหาจริงของตัวเกมนั้น ก็เรียกได้ว่าค่อนข้างที่จะโล่ง เมื่อพ้นช่วง Tutorial ไปแล้ว ผู้เล่นจะถูกปล่อยให้เคว้งตามแนวเกมฟาร์มทั่วไป แต่ที่ทำให้เกิดความรู้สึกโล่งยิ่งกว่าเรียนมหาวิทยาลัยนั้น คงเป็นการที่ผู้เล่นไม่มีการระบุเป้าหมายหรือกดดันด้วยอะไรซักอย่าง แม้กระทั่งความหิว… ตัวเกมปล่อยให้ผู้เล่นได้เล่นอย่างอิสระ ชิวๆ sandbox farming จริงๆ จ้า อยากทำอะไรทำเล้ย! … มันก็โอเคนะ แต่ส่วนตัวแล้วหมากลับรู้สึกว่ามันมีอะไรขาดหายไปอย่างแรง
สรุป Review Staxel
Staxel เป็นเกมแนวฟาร์มน้องใหม่ที่ขายความเป็ด ยืนตรงกลางระหว่างเกมฟาร์มและเกม sandbox ชั้นอ๋องในยุคนี้ มีการทำภาพให้น่ารัก ดึงดูดคนเล่น เสริมด้วยระบบการเล่นหลายคนที่เกมฟาร์มทั่วไปไม่มี ผู้เล่นมีอิสระในการทำฟาร์มและสร้างสิ่งต่างๆ ได้สมกับคำโฆษณา และที่น่าชื่นชมคือการที่ไม่ค่อยเจอบัคอะไรรบกวนใจอีกต่างหาก
เพียงแต่ว่าตัวเกมนั้นก็ยังอยู่ในช่วงแรกของ Early Access กันจริงๆ มีจุดที่ต้องแก้ไขและพัฒนาปรับปรุงอีกมาก เรียกได้ว่าหากต้องการเล่นเปลี่ยนบรรยากาศหรืออยากหาเกมสร้างอะไรที่มีส่วนของการทำฟาร์มมาเสริม เควสเล็กน้อยแล้ว ก็เป็นเกมที่น่าสนใจอยู่ แต่ถ้าต้องการเล่นเกมแนวนี้แบบจริงจัง มีอะไรให้ทำได้นานแล้ว หมาแนะนำให้รอการพัฒนาอีกซักพักไปก่อนจะดีกว่าจ้า เนื่องจากเนื้อหาในเกมตอนนี้ยังมีน้อยและอาจจะทำให้เบื่อได้ค่อนข้างไว ถ้าหากว่ามีเนื้อหามากกว่านี้ในแต่ละด้านแล้ว จะเป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าสอยมาครอบครองสำหรับขา Farm/Sandbox เลยทีเดียว
▲ จุดเด่น
– เป็นเกมที่ผสมแนวทำฟาร์ม สร้างของได้ลงตัว
– ภาพมีความน่ารัก สดใส Eye Candy กันสุดๆ พร้อมเพลงประกอบที่เบาสบาย
– รองรับระบบ Multiplayer
– ให้อิสระกับผู้เล่นมาก รวมถึงเวลาต่อวันที่เยอะทำให้ผู้เล่นเลือกได้ว่าจะทำอะไรได้เยอะ
– มีระบบ collection ให้ผู้เล่นได้สะสม รวมถึงสาย Achievement ที่เป็นแนวทางคร่าวๆ ให้ผู้เล่นได้ทำ
– พยายามดึงแนวของตัวเองให้ผู้เล่นได้เล่นได้นาน ไม่ว่าจะเป็นการแปรรูปที่ไม่เคยมีมาก่อนในเกมแนวนี้ การทำชั้นวางของแทนกล่องเก็บของ
▼ จุดด้อย
– มีความเป็น early access เต็มที่ ยังไม่สุดซักด้าน เนื้อหายังไม่หนาแน่นเพียงพอ
– ผู้เล่นถูกทิ้งให้เคว้งในเกมที่มีอิสระอย่างสุดๆ ทั้งๆ ที่ควรจะมีอะไรมาเป็นแรงจูงใจให้ผู้เล่นทำตามหลักของเกมฟาร์ม หรือ sandbox
– การกระทำสิ่งต่างๆ ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับเกมอื่นๆ ในสายนั้น และถ้าเทียบในการทำฟาร์มแล้ว ราคาของสิ่งของต่างๆ ยังดูไม่ลงตัวเท่าไหร่นัก
– วัตถุดิบหลายๆ อย่างผู้เล่นไม่สามารถหาได้เอง
– ความเป็น Eye Candy จนเกินไปทำให้บางทีก็แยกออกได้ยากว่าอะไรเป็นอะไร