วันนี้ผู้เขียนก็จะมาแนะนำเกี่ยวกับ Build ในเกม Tom Clancy’s The Division 2 : Warlords of New York ที่จะทำให้เราได้รับประสบการณ์เล่นเป็นทั้งตัวชนและเป็นหมอในเวลาเดียวกัน เป็นสายที่เหมาะกับการป้องกันและรักษาให้เพื่อนในทีมเป็นอย่างดี ทั้งนี้ Build นี้ก็เป็นแค่การแนะนำเท่านั้น เพื่อนๆ สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับตัวเองได้เลยครับ
อาวุธ Liberty
ความสามารถ
กระสุนทุกนัดที่ยิงโดนศัตรูจะเก็บ 1 Stack สามารถซ้อนทับกันได้สูงสุด 30 Stack เมื่อยิงโดนหัวศัตรูจะเปลี่ยนเอา Stack ทั้งหมดไปซ่อมแซมเกราะของโล่ 3% ต่อ 1 Stack (เท่ากับว่าถ้ามี 30 Stack x 3% ก็จะสามารถฟื้นฟูเกราะของโล่ได้ถึง 90%)
หาได้จาก
– สุ่มตก หรือ Targeted Loot Pistol (ปืนพก)
– ทำภารกิจเพื่อนำชิ้นส่วนมาคราฟ (ในกรณีมีปืน Liberty Lv.30 อยู่แล้วให้ทำลายก่อนชิ้นส่วนถึงจะตกให้)
วิธีการทำภารกิจเพื่อหาชิ้นส่วนมาคราฟ
1.ไปที่ Cappitol Building ระดับ Hard ขึ้นไป ฆ่าบอส Captain Kendra Nelson เราจะได้ชิ้นส่วนของ Pistol Trigger and Mechanism
2.ไปที่ American History Museum ระดับ Hard ขึ้นไป ฆ่าบอส Captain Briggs เราจะได้ชิ้นส่วนของ Pistol Receiver and Paintjob
3.ไปที่ ViewPoint Museum ระดับ Hard ขึ้นไป ฆ่าบอส Staff Sergeant Carl Wade เราจะได้ชิ้นส่วนของ Pistol Sight and Rail
4.ไปที่ Space Administration HQ ระดับ Hard ขึ้นไป ฆ่าบอส Master Sergeant Steve “Junior” Quiroz เราจะได้ชิ้นส่วนของ Pistol Grip and Tags พร้อมด้วย Kendra’s Liberty Blueprint มา สำหรับใครที่มีแล้วจะได้แค่ Pistol Grip and Tags อย่างเดียวครับ
5.ปืน D50 สุ่มตกทั่วไปหรือภารกิจ Targeted Loot Pistol (ตกยากพอสมควร)
2.เซ็ต Richter & Kaiser GmbH
ส่วนตัวผู้เขียนจะใช้เซ็ตนี้ทั้ง 3 ชิ้นได้แก่
– หน้ากาก ใส่ Mod Incoming Repairs หรือ Protection from Elites
– ซองปืนเป็น (Forge) Item Name จะเพิ่มเกราะของโล่ขึ้น 10% ตกยากพอสมควรให้เน้นทำภารกิจ Targeted Loot Richter & Kaiser GmbH [RK]
– เข่า
ความสามารถ
– โบนัส 1 ชิ้น ได้รับสกิลซ่อมแซม (Healing) แรงขึ้น 15%
– โบนัส 2 ชิ้น ต้านทานการระเบิด 10%
– โบนัส 3 ชิ้น เพิ่มความสามารถของสกิลซ่อมแซมขึ้น 15%
Attributes
ให้เน้นไปทาง Repair-Skill และ Explosive Resistance จะเพิ่มความสามารถของสกิลซ่อมแซมและต้านทานการระเบิดเพราะส่วนใหญ่เราโดนระเบิดเยอะมากในเกม
3.ชุดเกราะ Tardingrade” Armor System
ความสามารถ
Ablative Nano-Plating
เมื่อเกราะของตัวเองหรือทีมแตก จะได้รับเกราะคืน 80% ของค่าเกราะผู้ใช้ (คิดตามตัวละครนั้นๆ ) เป็นเวลา 10 วินาที
Ablative Nano-Plating มีเวลา Cooldown 45 วินาที
เมื่อกำจัดศัตรูด้วยอาวุธพิเศษ (Signature Weapon) จะรีเซ็ตเวลา Cooldown ของ Talents Ablative Nano-Plating ทันที
หาได้จาก
– สุ่มตกจากภารกิจที่พวก True Sons ยึดครอง
Mod Slot ที่ใส่
– Incoming Repairs หรือ Protection from Elites
4.กระเป๋า Gila Guard
ความสามารถ
– เพิ่มค่าเกราะป้องกัน 5%
– เพิ่มปริมาณ HP 10%
– เพิ่มอัตราการฟื้นฟูเกราะต่อวินาทีขึ้น 1%
ใช้กระเป๋าใบเดียวเอาค่าเกราะ 5%
หาได้จาก
– สุ่มตกทั่วไปหรือ Targeted Loot Gila Guard
Core Attributes
ให้ Recalibration เป็น +1 Skill Tier เพื่อทำให้ได้ Tier 6
Attributes
ให้เน้นไปทาง Repair-Skill และ Explosive Resistance
Mod Slot ที่ใส่
– Incoming Repairs หรือ Protection from Elites
Talents ที่แนะนำ
5.ถุงมือ Alps Summit Armament (Motherly Love)
ความสามารถ
– โบนัส 1 ชิ้น เพิ่มความสามารถของสกิลซ่อมแซมขึ้น 15%
– โบนัส 2 ชิ้น เพิ่มระยะเวลาของสกิล 20%
– โบนัส 3 ชิ้น ความเร่งในการใช้สกิลเพิ่มขึ้น 10%
ในตัวของ Motherly Love จะเป็น Item Name ที่เพิ่มค่า Health ของสกิลได้ถึง 20% ดังนั้นเมื่อใส่ถุงมือแล้วเราก็จะได้เกราะของโล่เพิ่มขึ้นอีก 20% นั่นเอง
หาได้จาก
Blueprint รางวัลทำภารกิจของ Specialist Stage 2
Attributes
– ใส่ Repair-Skill
Specialist
เลือก Techician เพื่อเอา Passive Talent Amped +1 Skill Tier กับ Enhanced Diagnostics +10 Skill Healing
Skill
การเล่น Tanker Support
สำหรับการเล่นสายแท้งซัพพอตจากการใส่ชุดสวมใส่เบื้องต้นก็จะให้ได้ว่าเราจะสามารถทำ Skill Tier ได้ 6 ดึงประสิทธิภาพของ Skill ของ สาย Tanker Supporter ได้สูงที่สุดแล้วเพราะสายที่ผู้เขียนใช้นี้ไม่สามารถทำ Overcharge ได้ แต่ก็ทำให้เราสามารถเล่นเป็นทั้งตัวชนที่มีค่าเกราะของโล่ถึง 1.6m ที่สามารถฟื้นฟูได้เร็วพอสมควรสำหรับ Skill Tier 6 จึงทำให้โล่ของเราไม่แตกง่ายจนเกินไปแต่จะไม่ถึกเหมือน Full Tank ที่สามารถรีโล่ได้ไวและหลายทางก็ตาม เราก็สามารถหมอคอย Healing ให้เพื่อนได้แรงด้วย ให้คิดว่าเป็นรถพยาบาลหุ้มเกราะ โดยที่ผู้เขียนจะแบ่งสายการใช้ Skill ได้ 3 แบบดังนี้
1.Bulwark Shield และ Reinforcer Chem Launcher
เซ็ตสกิลนี้ ในการยิน Tank ของเรา สามารถยิงกระสุนในการเพิ่มเกราะให้เพื่อนได้เลย ไม่ต้องรอให้เกราะค่อย ๆ ฟื้นฟูในทีเดียวและมีระยะในการฟื้นฟูที่ไกล เหมาะสำหรับยิงไปฟื้นฟูเพื่อนที่อยู่ห่างออกไปมาก
2.Bulwark Shield และ Fixer Drone
เซ็ตสกิลนี้เราสามาถเลือกเป้าหมายให้ Fixer Drone ค่อยๆ ไปฟื้นฟูเกราะให้เพื่อนในทีมของเรา โดยที่ตัว Fixer Drone ค่อนข้างควบคุมง่ายมีระยะเวลาที่นานสามารถสลับไปมาหรือให้บินตามเพื่อฟื้นฟูเราเรื่อยๆ ให้คิดสภาพรถถังที่มีการซ่อมแซมอยู่ตลอดเวลา แต่มีข้อเสียคือ Drone โดนทำลายง่าย
3.Bulwark Shield และ Restorer Hive
เซ็ตสกิลนี้เป็นเซ็ตที่ผู้เขียนใช้ประจำมากที่สุดเพราะเหมาะแก่การคุมโซนในรัสมีของ Hive ให้เพื่อนคอยทำดาเมจนั่นเองและการฟื้นฟูของ Hive เป็นแบบ Auto และฟื้นฟูทันทีทำให้สามารถกลบจุดด้อยของสายโล่ที่โดนโจมตีด้านข้างหรือด้านหลังได้พอสมควร (ยื้อชีวิตได้) นอกจากนั้นยังสามารถโยนไปให้เพื่อนในระยะไกลได้อีกด้วย
ข้อดีข้อเสีย
ข้อดี
– เป็นตัวชนและซัพพอตได้ในตัวเป็นตัวแท้งที่เดินชิวๆ ให้เพื่อนได้สบาย
– Skill Shield ไม่แตกง่ายด้วย Skill Tier 6
– Healing แรง
– มีประกันชีวิตให้เพื่อนด้วย ชุดเกราะ Tardingrade” Armor System
ข้อเสีย
– กระสุนน้อยเพราะใช้ปืนพกแค่ 9 นัดในการทำดาเมจ
– ต้องโจมตีระยะไกล้พอสมควร
– เล่นคนเดียวลำบากโดนล้อมง่าย ๆ
– ต้องใช้การฝึกฝนในการยิงปืน Liberty เพราะการฟื้นฟูเกราะโล่ของสายนี้ใช้ปืนนี้ยิงเขาหัวเป็นหลัก
– ซองปืนตกยากพอสมควรใช้เวลาการฟาร์มหา
– เล่นนานๆ ตาลาย
ผู้เขียนก็ได้ แนะนำ สาย Tanker Supporter Healing ในเกม Division 2 จากประสบการณ์ตรงที่ได้ทดสอบและปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่างให้เข้ากับสไตล์การเล่นของตัวผู้เขียนเอง ทั้งนี้ทั้งหมดเป็นแค่แนวทางเท่านั้น เพื่อนๆ สามารถนำไปปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองได้เลย และจะหา Build ใหม่ ๆ มาแนะนำในโอกาสต่อไป ถ้าชื่นชอบสามารถเข้าไปคุยหรือชวนเล่นได้ที่เพจ Thailand กุ๊กไก่ เล่นไปเรื่อย ครับ