คงจะพูดได้ว่าไม่มีความรู้สึกไหนจะดีไปกว่าการได้ออกไปผจญภัย ในขณะเดียวกันเกมแนวผจญภัยทั้งหลายนั้นก็ยังได้พาเราเข้าถึงประสบการณ์ต่างๆ ซึ่งหาไม่ได้จากเกมแนวอื่นเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะการได้ขี่ม้าวิ่งทะยานออกไปบนทุ่งหญ้าเขียวขจีอันกว้างใหญ่หรือแม้กระทั่งการได้ไล่ต่อสู้กับเหล่ากองทัพปีศาจนับร้อยนับพันที่พยายามหลุดรอดออกมาจากนรก เป็นความรู้สึกที่เหมือนกับการได้เติมเต็มบางสิ่งบางอย่างของผู้เล่น ซึ่งไม่มีเกมแนวอื่นจะสามารถเทียบเท่าเลยก็ว่าได้
และก็แน่นอนเกมแนวผจญภัยนั้นก็มีการทำออกมาในทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะทั้ง PlayStation, Xbox, PC, Nintendo Switch หรือแม้แต่พวกบอร์ดเกมต่างๆ ก็มีด้วยเช่นกัน แต่ในบทความนี้เราจะมาพูดถึง 20 อันดับเกมแนวผจญภัยที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดประจำเครื่อง PlayStation 4 นั่นเอง
20. The Messenger
ผู้พัฒนา : Sabotage Studio
ผู้จัดจำหน่าย : Devolver Digital
หนึ่งในเกมแนวผจญภัยสไตล์ของ นินจา ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการสร้างมาจากซีรี่ส์ของ Ninja Gaiden และ Shinobi เกมดังในตำนาน The Messenger นั้นจะประกอบไปด้วยฉากต่อสู้อันตื่นเต้นและบีบคั้น รูปแบบของฉากต่างๆ สุดท้าทายสำหรับผู้เล่นเอง ไปตลอดจนถึงการได้ออกผจญภัยไปในสภาพแวดล้อมทั้งหลายด้วย
ว่าด้วยถึง นินจา ผู้เหลือรอดคนสุดท้ายประจำหมู่บ้านที่ได้รับภารกิจในการส่งมอบ ม้วนคัมภีร์ลึกลับ ให้ไปถึงเป้าหมาย โดยจะมีการดำเนินเรื่องซึ่งแทบจะคาดเดาแนวทางไมได้เลย เพราะจะมีการเปลี่ยนแปลงแทบจะตลอดเวลา ไม่ว่าจะด้วยจากการพยายามเล่นตลกในบางฉากเพื่อให้ตัวเกมดูผ่อนคลายลง ไปจนถึงการที่อยู่ดีๆ ก็มีการเพิ่มระดับความยากขึ้นมาในทันทีทันใด ทำให้ตัวเกมจึงค่อนข้างจะคาดเดาไม่ได้นั่นเอง และก็ด้วยเหตุผลนี้นั่นละจึงทำให้ตัวเกม The Messenger เป็นหนึ่งในเกมผจญภัยที่มาพร้อมความท้าทายทั้งหลายชนิดที่ผู้เล่นเกมหลายๆ คนยังต้องยอมรับเลยทีเดียว
19. The Surge
ผู้พัฒนา : Deck13
ผู้จัดจำหน่าย : Focus Home Interactive
หนึ่งในเกมสุดเท่และก็น่ากลัวด้วยในขณะเดียวกัน โดยจะมีการวางแนวคิดด้านวิทยาศาสตร์ ที่พยายามจะทำให้ตัวเอกของเรื่องนั้นใกล้เคียงกับคำว่าเครื่องจักรมากกว่ามนุษย์ก็ว่าได้ The Surge จะมีการวางคอนเซ็ปของตัวเกมให้ผู้เล่นได้ออกไปผจญภัยบนดวงดาวที่ถูกทิ้งร้าง พร้อมทั้งยังจะได้เจอเหล่าเครื่องจักรอันบ้าคลั่งและเหล่าไซบอร์กทั้งหลายที่พยายามจะฆ่าตัวของผู้เล่นเองให้ได้ตลอดเวลา
จะเรียกว่าตัวเกมนี้นั้นเป็น Dark Soul ในเวอร์ชั่น ไซไฟ ก็ว่าได้ ซึ่งทางตัวเกม The Surge เองนั้นก็ได้มีการเดินทางมาค่อนข้างไกลในระดับนึงเลยทีเดียว เพื่อจะทำให้ซีรี่ส์ของตัวเองนั้นเป็นเอกลักษณ์และมีความเป็นสไตล์ของตนเอง และก็ด้วยรูปแบบต่างๆ กับแนวทางทั้งหลายนั้นจึงทำให้ตัวเกมนี้เองนั้นน่าสนใจ รวมทั้งจัดเป็นอีกหนึ่งเกมแนวผจญภัยที่พลาดไม่ได้ด้วยเช่นกัน
18. The Witness
ผู้พัฒนา : The Kla , Inc.
ผู้จัดจำหน่าย : The Kla , Inc.
ไม่ใช่ว่าเกมแนวผจญภัยทุกเกมนั้นจำเป็นจะต้องมีการดำเนินเรื่องแบบสุดโต่งหรือฉากบู๊แหลกตายกันไปข้างเสมอไป The Witness นั้นจะมาพร้อมกับการให้ทางฝั่งผู้เล่นได้ออกไปผจญภัยสำรวจบนเกาะ พร้อมการติดตามและการเรียนรู้ถึงความเป็นมาของสถานที่นั้นๆ ผ่านการแก้ไขปริศนาทั้งหลาย รวมทั้งยังเป็นการเปิดทางเพื่อไปสู่พื้นที่ถัดไปด้วยเช่นกัน
จากผลงานของ Jonathan Blow ผู้สร้างเดียวกับ Braid สำหรับตัวเกม The Witness ในครั้งแรกนั้นอาจจะดูเป็นเกมที่ไม่มีอะไรมากหรือไม่น่าสนใจสักเท่าไหร่ แต่เมื่อได้ทำการเล่นไปสักพัก พร้อมทั้งทำการไขปริศนาต่างๆ ตลอดไปจนถึงการได้ติดตามเรื่องราวความเป็นมาทั้งหลายแล้ว รับรองได้เลยว่าเพื่อนๆ จะได้เพลิดเพลินไปกับสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในเกมนี้ ซึ่งจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนและหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
17. Sayonara Wild Hearts
ผู้พัฒนา : Simogo
ผู้จัดจำหน่าย : Annapurna Interactive
ถ้าเพื่อนๆ คนไหนรู้จักเกม Sayonara Wild Hearts ก็อาจจะสงสัยว่าเกมนี้มันเป็นแนว Rhythm หรือแนวจังหวะดนตรีไม่ใช่หรอ ก็ถือว่าใช่แต่อย่ามองเพียงแค่ผิวเผินสิ เพราะเกมๆ นี้ก็นับว่าเป็นเกมแนวผจญภัยที่สุดยอดอีกเกมเลยก็ว่าได้ ถ้ายังงั้นจะเรียกเกมแนวนี้ว่าอะไรกันละ เกมที่สามารถขี่มอเตอร์ไซค์ตะลุยข้ามเปลวไฟที่ขวางทางอยู่หรือการได้ออกไปสู้กับบอสหมาป่าหุ่นยนต์ตัวใหญ่ยักษ์อีก นอกจากจะเป็นเกมแนวผจญภัยแล้วก็คงจะเรียกเป็นเกมแบบอื่นไมได้แล้วล่ะ
ซึ่งความจริงแล้ว การจับจังหวะตามดนตรีของ Sayonara Wild Hearts ในแต่ละรอบ นั่นแหละคือการผจญภัยของตัวเกมเอง เมื่อเพื่อนๆ ได้เข้าไปเล่นแล้วจะเข้าใจได้ผ่านทางตัวเกมทันที ตัวเกมจะมีการดำเนินเรื่องมากมาย ให้ชวนได้ติดตามผ่านการเล่นควบคู่แนว Rhythm ด้วยกันไป รับรองว่าที่จะเป็นอีกหนึ่งเกมซึ่งคู่ควรกับเพื่อนๆ อย่างแน่นอนเลย
16. Death Stranding
ผู้พัฒนา : Kojima Productions
ผู้จัดจำหน่าย : SIE
สมัยนี้เกม Open World แนวโลกหลังภัยพิบัตินั้นเองก็เริ่มมีออกมาอย่างเกลื่อนกลาดให้เห็นเลยก็ว่าได้ และก็ด้วยเหตุผลนี้เองการที่จะสร้างเกมแนวนี้ให้ผู้เล่นได้จดจำนั้น ตัวเกมเองก็จำเป็นจะต้องมีสิ่งที่แตกต่างและทำให้ตัวเองเป็นเอกลักษณ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อจะได้ตราตรึงรวมทั้งเป็นที่จดจำของฝั่งผู้เล่นนั่นเอง
และก็นั่นล่ะจึงทำให้ Death Stranding เป็นเกมที่มีความแปลกใหม่และสร้างความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างมากเลย มีการวางเนื้อเรื่องให้ทางฝั่งผู้เล่นได้กลายเป็น คนส่งของ อยู่ในประเทศอเมริกาที่ล่มสลายไปแล้ว พร้อมทั้งมีจุดมุ่งหมายเพื่อจะนำผู้คนที่กระจัดกระจายกันไปตามที่ต่างๆ มาเชื่อมต่อรวมกันเป็นหนึ่งอีกครั้ง และยังต้องคอยต่อสู้กับเหล่าผีร้ายต่างๆ ที่พร้อมจะฆ่าคุณทุกเมื่อด้วยเช่นกัน
นับว่าเป็นผลงานอันยิ่งใหญ่อีกหนึ่งเกมของ Hideo Kojima เลยก็ว่าได้ แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความที่ตัวเกมเองค่อนข้างจะมีแนวทางและเอกลักษณ์ชัดเจน จึงพูดได้ด้วยว่าตัวเกมเองนั้นอาจจะไม่ได้เหมาะกับผู้เล่นทุกคน แต่ถึงอย่างนั้น Death Stranding ก็นับว่าเป็นหนึ่งในเกมผจญภัยที่ยอดเยี่ยมที่สุดด้วยเช่นกัน
15. DOOM
ผู้พัฒนา : id Software
ผู้จัดจำหน่าย : Bethesda
คงจะมีเพียงไม่กี่อย่างที่จะสามารถเทียบเท่ากับความรู้สึกตอนได้ออกไปตะลุยกับกองทัพปีศาจนับร้อยนับพัน และ DOOM เองก็เข้าใจความรู้สึกนั้นดีทีเดียว ภายในเกมผู้เล่นจะได้ไล่กระทืบไล่ฆ่าเหล่าปีศาจทั้งหลายที่ต้องการจะมายึดสถานีอวกาศ ไม่ว่าจะด้วยการยิงปืนระเบิดสมองพวกมันหรือแม้กระทั่งการระเบิดพวกมันให้แตกเป็นเสี่ยงๆ มาพร้อมกับดนตรี Heavy Metal ที่จะช่วยปลุกเร้าอารมณ์ให้ตัวเกมดูฮาร์ดคอร์ขึ้นไปอีกระดับด้วยเช่นกัน ซึ่งบอกได้เลยว่ามีเพียงไม่กี่เกมเท่านั้นแหละ ที่จะสามารถเทียบเท่ากับ DOOM ได้ในด้านนี้
ซึ่งความฮาร์ดคอร์ของ DOOM เองนั้นก็ไม่ได้มีการพูดโอ้อวดหรือคุยโม้แต่อย่างใด ภายในเกมผู้เล่นจะสามารถทำการแยกชิ้นส่วนปีศาจออกเป็นชิ้นๆ ได้ ไม่ว่าจะทั้งการกระชากแขนของพวกมันออกมา ทุบไปบริเวณแสกกลางหน้าจนหัวระเบิด หรือฉีกร่างของพวกมันออกจากกันด้วยมือเปล่าก็สามารถมีให้เห็น ซึ่งก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งเกมในตำนานเลยก็ว่าได้สำหรับ DOOM แต่ก็ต้องระวังด้วยว่าตัวเกมนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรงสูงทีเดียว
14. Celeste
ผู้พัฒนา : Matt Makes Games
ผู้จัดจำหน่าย : Matt Makes Games
อย่างที่ได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้นั้น ก็คงจะรู้แล้วว่าเกมสายฮาร์ดคอร์ตะลุยไปในอวกาศนั้นก็มีมาให้เห็นอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น Celeste ก็มีดีไม่น้อยหน้าไปกว่ากันเลย ภายในเกมผู้เล่นจะได้ออกไปผจญภัยไปบนหุบเขาอันน่ากลัว ซึ่งบอกเลยว่าภายในเกมนั้นค่อนข้างจะโหดใช้ได้ทีเดียว ถึงแม้ตัวภาพจะดูมีความน่ารักไม่มีอะไรมาก แต่ในส่วนของการเล่นนั้นไม่น่ารักเหมือนตัวภาพเลยนะ
ตัวเกมจะมีการใช้ภาพในไสตล์ของ Pixel ดูเรียบๆ ง่ายๆ แต่ก็ยังจะมีการดำเนินเนื้อเรื่องสอดแทรกความโหดร้ายต่างๆ เข้ามาให้ผู้เล่นได้พบเจอผ่านทางสิ่งต่างๆ มากมาย ทำให้ตัวเกมเองนั้นก็ค่อนข้างจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบความท้าทาย และจัดว่าเป็นอีกหนึ่งเกมผจญภัยที่คู่ควรหามาเล่นให้สักครั้งด้วยเช่นกัน
13. Devil May Cry 5
ผู้พัฒนา : Capcom
ผู้จัดจำหน่าย : Capcom
หลังจากรอกันมาอย่างยาวนาน การกลับมาของตำนานเกมซีรี่ส์นักล่าปีศาจก็ไม่ทำให้ผู้เล่นต้องผิดหวังแต่อย่างใด เมื่อใน Devil May Cry 5 นั้นจะมีการให้ผู้เล่นสามารถดำเนินเรื่องผ่านมุมมองของ 3 ตัวละครได้ ซึ่งก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ด้วยการไล่กระทืบเหล่าปีศาจทั้งหลาย พร้อมการสร้างคอมโบในสไตล์ของตนเองอีกเช่นเคย พร้อมดนตรีบิ้วอารมณ์สุดมันส์ เป็นหนึ่งในที่กลับมายิ่งใหญ่สมการรอคอยจริงๆ
สำหรับในภาค 5 นี้นั้นเองก็ได้มีการขยายขอบเขตของเเฟรนไชส์ให้กว้างขึ้น ทำให้เนื้อเรื่องหลักๆ ของตัวเกมนั้นได้มีการขยายตามไปด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะด้วยการเริ่มต้นมากับความโหดร้ายจากการเสียแขนของ Nero ก็ตาม ทำให้ Devil May Cry 5 เองนั้นจัดว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดเกมแนวผจญภัย ที่มาพร้อมฉากต่อสู้สุดมันส์ ตลอดไปจนถึงเนื้อเรื่องอันชวนน่าติดตาม พร้อมทั้งการดีไซน์ของตัวละครต่างๆ ที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยมทีเดียว
12. Dark Soul III
ผู้พัฒนา : FromSoftware
ผู้จัดจำหน่าย : Bandai Namco
หนึ่งในเเฟรนไชส์ยักษ์ใหญ่ที่ทำให้แฟนเกมจดจำกันไปทั่วโลกอย่างDark Soul ผลงานม้ามืดจาก FromSoftware ซึ่งยังคงตราตรึงและตามหลอกหลอนผู้เล่นทั่วโลก ไม่ว่าจะออกมากี่ภาคต่อกี่ภาคก็ยังคงได้รอบความนิยมเสมอมาจริงๆ และก็แน่นอนด้วยว่าใน Dark Soul III นั่นก็แทบจะเรียกได้ว่าเหนือกว่าภาคก่อนๆ ในคนละระดับเลยก็ว่าได้
ตัวเกมจะว่าด้วยการออกเดินทางไปตามแผนที่ต่างๆ เจอกับเหล่ามอนสเตอร์สุดแสนน่ากลัวมากมาย มาพร้อมรูปแบบการเล่นสุดฮาร์ดคอร์ชนิดที่ว่าแฟนเกมหลายๆ คนถึงกับปาจอยทิ้งกันมาแล้ว และก็แน่นอนด้วยเช่นกันว่าภาคล่าสุดที่ผ่านมาอย่าง Dark Soul III เองนั้นก็ได้ใช้ประสบกาณ์ทำงานกว่า 7 ปี ของทางสตูดิโอเองในการนำทุกสิ่งทุกอย่างมาอัดรวมใว้ในภาคนี้ด้วย จึงทำให้ตัวเกมในภาคนี้นั้นเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกมผจญภัยที่ยิ่งใหญ่และคู่ควรกับการท้าทายจริงๆ
11. Control
ผู้พัฒนา : Remedy Entertainment
ผู้จัดจำหน่าย : 505 Games
อีกหนึ่งความรู้สึกที่สามารถพบได้จากเกมแนวผจญภัยคือการได้เข้าพบกับโลกอันแสนลึกลับต่างๆ ที่แอบซ่อนอยู่มากมาย Control เองก็นับเป็นหนึ่งในเกมที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกเหล่านั้นเช่นกัน ที่ว่าด้วยเรื่องราวของการบุกรุกของสิ่งมีชิวิตจากมิติอื่นๆ รวมไปถึงเหล่าหน่วยงานทั้งหลายที่ต้องคอยต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตเหล่านี้อย่างลับๆ นั่นเอง
Control เป็นตัวเกมที่ได้รับการพัฒนามาจากเอนจิ้นเดียวกันกับที่ใช้ในเกม Alan Wake และ Quantum Break เป็นเกมที่ทางผู้พัฒนาภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างมากทีเดียว ถ้าหากทางฝั่งเพื่อนๆ คนไหนต้องการเกมที่มีความท้าทายใหม่ๆ Control เองก็นับเป็นหนึ่งในเกมเหล่านั้นพร้อมทั้งการผจญภัยที่จะชวนให้ติดตามอีกมากมายด้วยเช่นกัน
10. Bloodstained : Ritual of The Night
ผู้พัฒนา : ArtPlay
ผู้จัดจำหน่าย : 505 Games
Bloodstained : Ritual of The Night เป็นเกมที่ได้ถูกสร้างขึ้นจากผู้สร้างเดียวกับเกมระดับตำนานชื่อดังอย่าง CastleVania ซึ้งก็คือคุณ Koji Igarashi นั่นเอง
แทนที่จะทำการเล่นตะลุยด่าน เดินตีมอนเพียงอย่างเดียว แบบเกมคลาสสิคอย่าง CastleVania นั้น ทางคุณ Igarashi ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนแนวทางของตัวเอง โดยการมีการเพิ่มรายละเอียดหลายๆ อย่างให้มากขึ้น ไม่ว่าจะการปรับแต่งตัวละคร, เสียงพากย์ที่มีการใส่ใจมากขึ้น ไปจนถึงไอเทมและอุปกรณ์ที่สามารถปรับแต่งตามความถนัดของผู้เล่นแต่ละคนได้
จึงทำให้ตัวเกม Bloodstained : Ritual of The Night นั้นนับว่าเป็นหนึ่งในผลงานเกมแนวผจญภัยที่ดีที่สุด และคู่ควรจะได้มาลองเล่นสักครั้งด้วยเช่นกัน
9. Final Fantasy XV
ผู้พัฒนา : Square Enix
ผู้จัดจำหน่าย : Square Enix
เป็นหนึ่งในเกมที่ใช้เวลาในการพัฒนายาวนานมาก จนแฟนๆ ออกมาพูดกันอยู่ช่วงนึงว่าจริงๆ แล้วเกมนี้นั้นกำลังถูกสร้างอยู่จริงๆ รึเปล่า แต่พอในช่วงการวางจำหน่ายของตัวเกม Final Fantasy XV เองนั้น ก็ได้รับการตอบรับไปในทางที่ดีระดับนึงเลย ถึงแม้จะมีการเจอบัคอยู่เป็นระยะๆ ก็ตาม แต่ตัวเกมก็ยังได้รับการยอมรับและถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเกมแนวผจญภัยที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน
พบกับ Noctis ตัวเอกของเกมออกเดินทางผจญภัยไปตามสถานที่ต่างๆ ทำการช่วยเหลือผู้คนและเหล่า NPC ที่เดือดร้อน พร้อมร่วมไปเป็นส่วนนึงกับเนื้อเรื่องอันเข้มข้นชวนให้ติดตาม
โดยเนื้อเรื่องในภาคนี้เองนั้นก็ทำออกมาค่อนข้างจะ มืดหม่นและหดหู่ ในระดับนึงเลยก็ว่าได้ทำให้ย้อนนึกถึงไปยังภาค VI และ VII เลยทีเดียว แต่ก็ด้วยเหตุผลนี้ด้วยนั่นแหละ จึงทำให้ตัวเกมชวนเชิญให้ติดตามว่าสุดท้ายแล้ว Noctis จะไปลงเอยในแบบไหน นับว่าเป็นอีกเกมแนวผจญภัยที่คู่ควรให้ได้ลองมาเล่นสักครั้งกันจริงๆ
8. Resident Evil 2
ผู้พัฒนา : Capcom
ผู้จัดจำหน่าย : Capcom
หนึ่งในเกมแห่งเเฟรนไชส์ซอมบี้ชื่อดังอย่าง Resident Evil 2 นั้นก็ได้การตอบรับอย่างดีมาโดยตลอด จนถึงขั้นที่ได้ถูกนำมาสร้างใหม่ในปีที่ผ่านมา และก็ยังคงได้รับกระแสความนิยมไม่เปลี่ยนแปลงจริงๆ กับตัวเกมในภาคนี้
ร่วมไปเป็นส่วนหนึ่งกับตัวเกม ผ่านตัวละคร Clair และ Leon เพื่อหาหนทางออกจากเมืองที่เกิดการระบาดของเหล่าผีดิบ ซอมบี้ นอกจากเหล่าผีดิบเหล่านี้แล้วยังต้องคอยระวังตัวจากสัตว์กลายพันธุ์ทั้งหลาย ไปจนถึง Mr. X ที่คอยไล่ล่าพวกเขาไปจนกว่าจะตายกันไปข้าง
ตัวเกมมีการสอดแทรกเข้ามาทุกอารมณ์เลยก็ว่าได้ ทั้งบู๊แอ็คชั่นสุดมันส์ ไปจนถึงบางฉากที่ก็ทำออกมาเรียกเสียงตกใจของทางเหล่าผู้เ่ล่น หรือเนื้อเรื่องของตัวละครบางตัวก็ทำออกมาเศร้าได้ด้วยเช่นกัน สำหรับ Resident Evil 2 Remake นั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมรีเมคที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้
7. Kingdom Hearts III
ผู้พัฒนา : Square Enix
ผู้จัดจำหน่าย : Square Enix
หนึ่งในเเฟรนไชส์ชื่อดังของทาง Square Enix อีกเช่นกัน ที่ได้มีการร่วมมือกับทาง Disney กับซีรี่ส์เกม Kingdom Hearts ซึ่งสำหรับภาคล่าสุดอย่างภาค III ก็ทำออกมาได้ดีเกินคาด และได้รับการยอมรับจากทางเหล่าแฟนเกมทั้งหลายด้วยเช่นกัน
Kingdom Hearts ว่าด้วยเรื่องราวของ Sora เด็กหนุ่มผู้ออกเดินทางไปตามโลกต่างๆ ภายในเกมทางผู้เล่นจะได้เจอตัวละครจากทางค่าย Square Enix ทั้งหลาย หรือแม้แต่เหล่าตัวการ์ตูนจาก Disney ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตา ก็มาเจอให้ได้พบกันอยู่เรื่อยๆ ตัวเกมจะมีความน่าสนใจผ่านการดำเนินเนื้อเรื่อง และระบบต่อสู้สุดมันส์ โดยตัวเกมเองนั้นก็ได้มีการทำออกมาหลายภาคมากมายเลย แต่ก็ยังคงได้การตอบรับที่ดีตลอดเสมอมา
และก็แน่นอนด้วยว่า Kingdom Hearts III ก็ยังคงทำผลงานออกมาได้ดีไม่เสียชื่อเเฟรนไชส์เลยด้วย จึงทำให้ตัวเกมในภาคนี้นั้นเป็นหนึ่งในเกมแนวผจญภัยซึ่งดีที่สุดด้วย ยิ่งถูกใจเข้าไปอีกสำหรับคนไหนที่ชื่นชอบตัวละครจาก Disney ก็ว่าได้
6. Uncharted : The Lost Legacy
ผู้พัฒนา : Naughty Dog
ผู้จัดจำหน่าย : SIE
ในครั้งแรกนั้นที่ทางสตูดิโอ Naughty Dog ได้ออกมาเปิดเผยว่าพวกเขาจะทำการสร้างเกม Uncharted ที่จะไม่มี Nathan Drake เป็นตัวเอก ทางแฟนๆ เองก็เกิดคำถามสงสัยขึ้นกันทันทีว่า ตัวเกมมันจะไปรอดรึเปล่า เพราะสเน่ห์ของตัวละคร Drake เองนั้นเป็นเหมือนกับหน้าตาของเเฟรนไชส์นี้เลยก็ว่าได้ แล้วการที่ซีรี่ส์นี้ไม่มีตัวละครดังกล่าวแล้วนั้นมันจะเวิร์คจริงๆ หรอ
แต่ทางตัวเกมก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามันเป็นไปได้ โดยการเป็นหนึ่งในเกมซึ่งดีที่สุดของเเฟรนไชส์นี้ด้วยก็ว่าได้ เนื้อเรื่องภาคแยกของ Uncharted ว่าด้วยเรื่องราวการผจญภัยผ่านตัวละครทั้งสองคือ Chloe Frazer และ Nadine Ross พร้อมด้วยเรื่องราวสุดเหลือเชื่อชวนให้ติดตาม จนได้การยอมรับจากเหล่าแฟนๆ เองว่านี่คือ Uncharted โดยถึงแม้จะไม่มี Nathan Drake อยู่ก็ตาม
5. Sekiro : Shadows Die Twice
ผู้พัฒนา : FromSoftware
ผู้จัดจำหน่าย : Activision
อีกสุดยอดเกมประจำค่าย FromSoftware เลยก็ว่าได้ สำหรับตัวเกมสุดท้าทายและฮาร์ดคอร์อย่าง Sekiro : Shadow Die Twice เกมที่ในตอนแรกถูกตราหน้าว่าเป็น Dark Souls ในเวอร์ชั่นซามูไร จนกระทั่งเมื่อถึงวันวางจำหน่าย ก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าตัวเกมนั้นมีความเป็นเอกลักษณ์และสไตล์เป็นของตน และไม่กลายเป็นเกมก็อปอีกต่อไป
ตัวเกมจะพาเหล่าผู้เล่นไปสู่โลกยุคซามูไร พร้อมด้วยการเดินทางผจญภัยไปยังสถานที่ต่างๆ ผ่านเรื่องราวชวนน่าติดตาม นอกจากนี้ยังจะได้พบเหล่าบอสต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ไซส์เล็กเท่าตัวคน ไปจนถึงขนาดยักษ์ใหญ่เกือบเท่าภูเขาเลยก็มี อีกหนึ่งเกมผจญภัยในสไตล์ RPG ซึ่งตราตรึงอยู่ในใจผู้เล่นหลายต่อหลายคนในยุคนี้ไปแล้วก็ว่าได้ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนชอบความท้าทายละก็ไม่ควรจะพลาด Sekiro : Shadow Die Twices เด็ดขาด
4. Shadow of the Colossus
ผู้พัฒนา : Bluepoint Games / Team Ico
ผู้จัดจำหน่าย : SIE
เหมือนกับ Resident Evil 2 ก็ว่าได้ เมื่อ Shadow of the Colossus เกมดังเมื่อหลายปีก่อน ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในเวอร์ชั่นรีเมค พร้อมทั้งยังมีการเก็บรายละเอียดและเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้นอย่างมาก ชนิดที่ว่าตัวเกมเวอร์ชั่นต้นตำหรับในตอนนั้นเทียบไม่ติดเลยทีเดียว
ออกผจญภัยไปในดินแดนอันรกร้างกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ออกเดินทางเพื่อจะชุบชีวิตหญิงสาวที่เขารัก โดยมีเงื่อนไขว่าต้องทำการโค่นยักษ์ลงให้ได้ทั้งหมด 16 ตัวด้วยกัน เพื่อนำวิญญาณของยักษ์เหล่านั้นมาแลกเปลี่ยนในการชุบชีวิต พบกับรูปแบบการเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ และการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องราวนี้ ซึ่งเมื่อเข้าเพื่อนๆ ได้เข้าไปเล่นแล้วนั้นจะรู้ได้ว่า มันมีอะไรซับซ้อนกว่านี้อีกเยอะ นับว่าเป็นอีกหนึ่งเกมแนวผจญภัยและเกมรีเมคยอดเยี่ยมตลอดกาลเลยก็ว่าได้
3. Horizon Zero Dawn
ผู้พัฒนา : Guerrilla Games
ผู้จัดจำหน่าย : SIE
เกมประจำเครื่อง PS4 ซึ่งก็จะไม่มีคำว่า Exclusive อีกต่อไปแล้ว เมื่อ Horizon Zero Dawn ประกาศวางจำหน่ายให้กับ PC นั่นเอง อีกหนึ่งเกมซึ่งได้การยอมรับและเสียงตอบรับไปในทางที่ดีจากแฟนเกมด้วยเช่นกัน
Horizon Zero Dawn จะว่าด้วยเรื่องราวของโลกที่ล่มสลายไปแล้ว ถูกปกครองไปด้วยเหล่าหุ่นยนต์ไดโนเสาร์หลากหลายชนิด ซึ่งภายในเกมนอกจากจะต้องคอยต่อสู้กับหุ่นยนต์เหล่านี้แล้ว ยังต้องคอยระวังจากมนุษย์กันเอง ที่มีเป้าหมายจะมาทำร้ายตัวละครของเราด้วยเช่นกัน
ด้วยภายในเกมมีเป้าหมายหลายอย่างรวมทั้งไซด์เควสมากมาย Horizon Zero Dawn จึงสามารถทำให้ผู้เล่นสามารถมีส่วนร่วมอยู่กับเนื้อหาภายในเกมได้หลายต่อหลายชั่วโมงเลย จึงทำให้ตัวเกมนั้นมีเนื้อการผจญภัยอันกว้างใหญ่ และถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในแนวเกมแนวผจญภัยที่ดีที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน
2. Uncharted 4 : A Thief’s END
ผู้พัฒนา : Naughty Dog
ผู้จัดจำหน่าย : SIE
ซีรี่ส์อันสร้างชื่อประจำค่าย Naughty Dog อย่าง Uncharted เองก็ถือว่าเป็นเกมแนวผจญภัยที่สุดยอดเช่นกัน โดยปัจจุบันก็ทำออกมาหลายต่อหลายภาคแล้ว ทั้งภาคหลักหรือแม้กระทั่งเนื้อเรื่องแยกไปก็เช่นกัน ซึ่งแต่ละภาคก็มีเนื้อเรื่องเข้มข้นให้ทางฝั่งผู้เล่นได้ติดตามกันเสมอมา
และก็ด้วยในภาค 4 : A Thief’s End นี้นั้น ไม่เพียงแค่การผจญภัยของ Nathan Drake จะยังมาพร้อมความตื่นเต้นเหมือนเช่นเคย แต่ยังจะมาพร้อมเรื่องเซอร์ไพร์สมากมายที่จะส่งผ่านไปถึงหัวใจของเหล่าผู้เล่นและพาไปเป็นส่วนหนึ่งกับการผจญภัยครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
การันตีด้วยชื่อเสียงของซีรี่ส์ Uncharted ที่ถึงแม้จะออกมากี่ภาคต่อกี่ภาคแฟนเกมก็ยังคงให้การสนับสนุนเสมอมา รวมทั้ง Unchrated 4 : A Thief’s End เอง ก็ถือว่าเป็นสุดยอดเกมแห่งยุค และเป็นความสุดยอดของเเฟรนไชส์เลยก็ว่าได้
1. God of War
ผู้พัฒนา : SIE Santa Monica
ผู้จัดจำหน่าย : SIE
อาจจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจ เมื่อเทพสงครามของเรานั้นขึ้นมาติดอยู่ในดับที่ 1 นี้ God of War จากในภาคก่อนๆ ที่จะเน้นเนื้อหาหลักไปในทางการฆ่าและบู๊ล้างผลาญ รวมถึงฉากล่อแหลมต่างๆ เป็นหลัก การกลับมาในภาคนี้ก็มีการนำเสนอในแนวทางที่ต่างกันออกไป ซึ่งจะมุ่งเน้นไปในการออกผจญภัย สิ่งลี้ลับจากตำนานทั้งหลาย ไปจนถึงการแสดงออกถึงความเป็น พ่อ ของตัว Kratos เองด้วย
จุดเด่นที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงของ ผู้สังหารพระเจ้า คนนี้ก็ยังคงเป็น ระบบการต่อสู้ ที่ทำมาได้โดดเด่นในแต่ละภาค ถึงแม้ในภาคล่าสุดที่ทำออกมา อาจจะมีการซอฟลงบ้างเพื่อลดความรุนแรงในระดับหนึ่ง แต่ถึงยังงั้นความมันส์ก็ยังคงอยู่สมชื่อเเฟรนไชส์เช่นเคย
ตัวเกมก็ยังมีความท้าทายมาให้ผู้เล่นได้ทดสอบอยู่ตลอดเสมอๆ พร้อมเนื้อเรื่องชวนให้ติตดามมากขึ้นไปเรื่อยๆ นั่นก็รวมถึงในภาคล่าสุดเช่นกัน ที่มีการทำเนื้อเรื่องออกมาให้เราเห็น Kratos ในมุมองซึ่งเราไม่เคยเห็นมาจากภาคก่อนๆ เลย และมันก็เป็นอะไรที่สุดยอดมากจริงๆ และนั่นก็ยังคงทำให้ชื่อ God of War ยังคงเป็นอีกชื่อที่แฟนเกมทั่วโลกยังคงจดจำได้ทุกยุคทุกสมัย พร้อมทั้งยังคงคาดหวังให้ตัวเกมมีภาคต่อออกมาเรื่อยๆ นั่นเอง